
กระแสต่อต้าน Copilot ยังคงแรง หลัง Microsoft อ้างว่า “ได้ยินเสียงผู้ใช้” ว่าต้องการฟีเจอร์นี้
Microsoft โพสต์โปรโมตฟีเจอร์ Copilot Mode บน Edge และ Windows 11 โดยย้ำว่า “ได้ยินผู้ใช้ต้องการฟีเจอร์ Copilot สำหรับการทำงาน” แต่ผลตอบรับกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
ผู้ใช้จำนวนมากรุมคอมเมนต์แสดงความไม่พอใจ บางรายถึงขั้นบอกว่า Microsoft “แยกแยะความจริงไม่ออก” และ “ไม่มีใครอยากได้ฟีเจอร์นี้เลย แถมพยายามทุกทางเพื่อหาวิธีปิดมัน”
บทสนทนาในโพสต์บน X (Twitter เดิม) กลายเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้ Windows รุ่นเก่าและชุมชนไอทีจำนวนมากร่วมกันวิจารณ์อย่างหนักว่าการยัด Copilot ใส่ทุกส่วนของ Windows และ Edge เป็นสิ่งที่ “ไม่ได้ขอ” และ “ไม่ได้ต้องการให้มาขัดจังหวะการใช้งานปกติ”
Copilot Mode ใน Edge: ฟีเจอร์ที่ Microsoft ผลักดันหนัก แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่อิน
Microsoft ระบุว่า Copilot Mode เป็นเหมือน “ผู้ช่วยงานอัตโนมัติ” ที่ทำงานคล้าย Perplexity Comet หรือ ChatGPT Atlas สามารถจัดการงานหลายขั้นตอน เช่น จองตั๋ว เดินเรื่องต่าง ๆ หรือสรุปข้อมูลหลายแท็บ (multi-tab reasoning) ได้

โดยค่าเริ่มต้น Edge จะเปิด Copilot Mode อยู่เสมอ แต่ผู้ใช้สามารถปิดได้จาก Settings

อย่างไรก็ตาม เสียงวิจารณ์ส่วนใหญ่สะท้อนชัดเจนว่าผู้ใช้มองว่า Copilot ไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเท่าที่ Microsoft กล่าวอ้าง และยังสร้างความรำคาญมากกว่าประโยชน์ เพราะการทำงานอัตโนมัติยังไม่แม่นยำพอ และยังมีความเสี่ยงเรื่อง “AI hallucination” หรือการตอบข้อมูลผิด ๆ อย่างมั่นใจ
ผู้ใช้วิจารณ์ยับ: ไม่มีใครในสายไอที “อยากได้ Copilot ใน Windows”
คอมเมนต์ส่วนใหญ่บอกไปในทิศทางเดียวกันคือ “Microsoft เข้าใจผิดอย่างหนักว่าผู้ใช้ต้องการอะไร”
คอมเมนต์เด่นจากผู้ดูแลระบบ Windows Server รายหนึ่งบอกว่า:
“ทำงานกับ Windows Server มาหลายสิบปี ไม่มีไอทีคนไหนอยากให้ Copilot มาอยู่ใน Windows เลยสักคน”
ขณะที่ผู้ใช้อีกจำนวนมากย้ำว่า Microsoft ควรหยุด “ยัดเยียด” AI ให้ผู้ใช้โดยไม่ได้ถามก่อน และควรโฟกัสที่การแก้บั๊ก ความเสถียร และการออกแบบ UI ให้เรียบร้อยมากกว่า
ที่น่าสังเกตคือ Microsoft เลือกตอบเฉพาะคอมเมนต์ที่ชื่นชม Copilot แต่หลีกเลี่ยงการตอบเสียงวิจารณ์ทั้งหมด ทำให้ชุมชนผู้ใช้ไม่พอใจยิ่งขึ้น
Microsoft ลุยเส้นทาง AI เต็มตัว แม้ผู้ใช้จะไม่ปลื้ม
แม้กระแสต่อต้านจะชัดเจน แต่ Microsoft ยังเดินหน้าประกาศวิสัยทัศน์ของ Windows 11 ในฐานะ “แพลตฟอร์ม AI รุ่นใหม่” โดยล่าสุดผู้บริหารสาย AI อย่าง Mustafa Suleyman ออกมาโพสต์ว่าเขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้คนถึง “มองว่า AI ไม่น่าประทับใจ” พร้อมยกตัวอย่างว่าตนเองโตมากับเกม Snake ในมือถือ Nokia การที่ AI สมัยนี้สนทนาได้คล่องและสร้างภาพหรือวิดีโอได้ “เป็นเรื่องที่น่าทึ่ง”
อย่างไรก็ตาม คอมเมนต์ดังกล่าวกลับยิ่งกระตุ้นให้เกิดกระแสโต้กลับ เพราะผู้ใช้จำนวนมากมองว่าการเปรียบเทียบดังกล่าว “ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้งานจริงของ Windows” และ “สะท้อนว่าผู้บริหาร Microsoft ไม่ฟังเสียงผู้ใช้เลย”
ผู้ใช้ตั้งคำถาม: Windows 11 กำลังเดินผิดทางหรือไม่?
ตลอดปี 2025 ชุมชน Windows มีเสียงวิจารณ์เรื่องการเปลี่ยน Windows ไปสู่ยุค “agentic computing” หรือระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI อัตโนมัติแทนการควบคุมแบบเดิม ผู้ใช้จำนวนมากกังวลว่า Windows จะเสียจุดเด่นดั้งเดิมไป เช่น ความเรียบง่าย ความเสถียร และการควบคุมที่ไว้ใจได้
ผู้ใช้บางรายถึงขั้นคอมเมนต์ว่า:
“ถ้า Microsoft ได้ยินว่าเราต้องการ Copilot นั่นแปลว่าพวกเขาอยู่ในห้อง echo chamber ของตัวเอง”
ถึงแม้ Microsoft จะเคยประกาศว่าจะยกระดับประสบการณ์พื้นฐานของ Windows ให้ดีขึ้น เช่น ความเร็ว ความเสถียร และความสม่ำเสมอของดีไซน์ แต่การเดินหน้าผลักดัน Copilot แบบเต็มแรงทำให้หลายคนมองว่าบริษัท “หลงทาง” จากสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการจริง
สรุป
กระแสที่เกิดขึ้นทำให้ชี้ชัดว่า ผู้ใช้จำนวนมากไม่ได้ต้องการให้ AI อย่าง Copilot กลายเป็นส่วนสำคัญของ Windows 11 หรือ Edge แบบที่ Microsoft กำลังผลักดันอยู่ เสียงส่วนใหญ่เรียกร้องให้บริษัทกลับไปให้ความสำคัญกับประสบการณ์ใช้งานพื้นฐาน ความเสถียร ความน่าเชื่อถือของระบบ และเปิดให้ผู้ใช้เลือกมากขึ้นว่าต้องการ AI หรือไม่
ที่มา: Windows Latest





