Lenovo Legion Go 2 อัพเกรดความแรงมาท้าชนเกมใหญ่ ใส่จอ OLED มาให้สีสวยถึงใจกับค่าตัว 39,990 บาท!

นอกจากเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแล้ว Gaming Handheld อย่าง Lenovo Legion Go 2 ก็มีแฟนคลับรอเป็นเจ้าของอยู่มากมาย จะได้ซื้อไว้เล่นเกมโปรดเวลาต้องไปทำงานทำธุระหลายวันแล้วไม่ได้เปิดคอมเล่นเกมโปรดก็ยังมีเจ้าเครื่องนี้เป็นเพื่อนแก้เหงาได้ แม้จะเปิดตัวช้ากว่าแบรนด์อื่นแต่ก็คุ้มค่าการรอคอยเพราะเจ้าเครื่องนี้ถูกปรับแต่งดีไซน์ให้จับถนัดมือขึ้นกว่าเดิมแล้วเพิ่มอุปกรณ์ควรมีอย่างเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้ามาให้ รวมถึงรักษาเอกลักษณ์ประจำตัวอย่างการถอดคอนโทรลเลอร์ Legion TrueStrike ทั้งสองฝั่งแยกออกจากเครื่องแล้วเล่นเกมได้ ไม่ว่าจะลุยด่านเกม RPG หรือประกอบเข้ากับฐานเปลี่ยนเป็นจอยปืนเล่นเกม FPS ได้ตามต้องการ
สเปครุ่นนี้ชูโรงด้วยชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง AMD Ryzen Z2 Extreme กับจีพียู Radeon 890M ที่ได้ฟีเจอร์จาก AMD มาช่วยให้ประสบการณ์ตอนเล่นเกมดีขึ้น ทั้งช่วยให้เฟรมเรทเพิ่มขึ้นทำให้ภาพไหลลื่นคมชัดและจัดการอาการหน่วงไปในตัว ฯลฯ มี RAM 32GB LPDDR5X และ M.2 NVMe SSD 1TB ไว้ติดตั้งและรันเกมโปรดเล่นบนหน้าจอ OLED 8.8″ ได้อย่างไหลลื่น จะถือเล่นเป็นเครื่องเกมหรือต่อ USB-C Hub พ่วงอุปกรณ์เสริมเป็น Mini PC ใช้งานก็ได้ตามชอบ

นอกจากสเปค ฟีเจอร์เพิ่มคุณภาพชีวิตซึ่ง Gaming Handheld อื่นไม่มี คือ ปุ่มพิเศษจำลองคำสั่งพับหน้าจอกลับไปยัง Desktop และ Alt+Tab ก็มีให้ใช้รวมถึงแป้นทัชแพดขนาดกะทัดรัดให้เจ้าของเลื่อนเลือกสิ่งต่างๆ บนหน้าจอได้โดยไม่ต้องเอานิ้วแตะหน้าจอทัชสกรีนให้มีรอยนิ้วมือ รวมถึงจุดติดตั้งพอร์ตก็เข้าใจผู้ใช้เป็นอย่างดี เวลาต่อสายชาร์จหรือหูฟังเพื่อเล่นเกมแล้วสายก็ไม่พาดหน้าจอและไม่ต้องพับไปกลับให้เสี่ยงสายหักใน เป็นรายละเอียดเล็กน้อยที่น่าประทับใจ
NBS Verdicts

Lenovo Legion Go 2 ยังสืบทอดเอกลักษณ์ประจำตัวอย่างการถอดคอนโทรลเลอร์ทั้งสองฝั่งแยกจากเครื่องให้เล่นแบบไร้สายได้ทั้งใช้งานตามปกติหรือประกอบเป็นจอยปืนไว้เล่นเกม FPS ก็ได้ เวลาจับถือก็ง่ายขึ้นเพราะขอบเครื่องรุ่นใหม่นี้ถูกเกลาให้โค้งมนไม่เป็นเหลี่ยมสันแบบรุ่นก่อน เมื่อเมื่อยก็กางขาตั้งด้านหลังเครื่องออกมาแล้วถอดจอยออกมาแล้วเล่นเกมไปชาร์จไฟไปได้ด้วย นอกจากนี้ Lenovo ยังเพิ่มเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องกดแต่รหัสผ่านเหมือนเครื่องรุ่นแรกอีกต่อไปแล้ว
สเปคใหม่ของ Legion Go 2 ได้ซีพียู Ryzen Z2 Extreme จีพียู Radeon 890M ติดตั้ง SSD 1TB กับ RAM 32GB LPDDR5X มาให้ ด้วยกำลังตั้งต้นมันก็ใช้เล่นเกมชั้นนำในปัจจุบันโดยตั้งค่ากราฟิคระดับ 1080p Medium ได้แล้ว ถ้าใช้ฟีเจอร์ของ AMD อย่าง FidelityFX Super Resolution (FSR) พ่วงกับ Radeon Super Resolution (RSR) เสริมเข้าไปอีกชั้นยิ่งเล่นได้ลื่นไหลขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นเกม Open world หรือ Action RPG แล้วฉากในเกมมีวัตถุต้องเรนเดอร์หลากหลายอย่างก็ยังเล่นได้ไหลลื่น ถ้าเป็นผู้เล่นสาย FPS ก็มี AMD Radeon Anti-Lag ไว้แก้ปัญหา Input Lag ให้เมาส์คีย์บอร์ดตอบสนองทันกับภาพในเกมเสมอเพียงเปิดใช้งานใน AMD Software: Adrenalin Edition ก็เล่นได้ดีแล้ว ด้านเฟิร์มแวร์ระบบของ Lenovo ก็ปรับแต่งมาได้ดีโดยเฉพาะการจัดการพลังงาน ถ้าเปิดในโหมด Balance ก็เล่นเกมชั้นนำได้ร่วม 2 ชม. นานพอให้จัดการภารกิจใหญ่ในเกมได้อย่างน้อย 1-2 อย่างแน่นอน

จุดที่ทำให้ Lenovo Legion Go 2 แตกต่างจาก Gaming Handheld อื่นก็เป็นปุ่มฟังก์ชั่นเสริมอย่างปุ่มจำลองการกดพับหน้าโปรแกรมกลับไป Desktop, ปุ่ม Alt+Tab, Scroll Wheel ของคอนโทรลเลอร์ฝั่งขวาและแป้นทัชแพดเสริม ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องแตะบนหน้าจอทัชแพดมากแล้วยังควบคุมเครื่องได้ไม่แพ้กับการใช้เมาส์คีย์บอร์ดเลย แถมยังได้ปุ่มมาโครเสริมมาให้ถึง 6 ปุ่ม ไว้ใช้ตั้งคีย์ลัดเฉพาะแต่ละเกมได้ตามถนัดแล้วเติมลูกเล่นเฉพาะตัวเข้ามาได้อีกพอควร
แต่ถึงจะมีจุดน่าประทับใจหลายอย่าง แต่ราคาของ Lenovo Legion Go 2 กลับสูงถึง 39,990 บาท แพงกว่า Gaming Handheld ชิปเซ็ตเดียวกันถึงหนึ่งหมื่นบาทจนตัดสินใจได้ยากแถมยังมีจำนวนจำกัดทำให้หาซื้อได้ยากพอควร อีกประเด็นคือน้ำหนักเครื่อง 920 กรัม ก็ทำให้ถือเล่นได้ไม่นานจนต้องตั้งโต๊ะถอดจอยเล่นบ่อยๆ ตามจริงเครื่องเกมพกพาควรมีน้ำหนักกำลังดีพอให้ถือเล่นได้นานโดยไม่เมื่อยล้าและถ่วงสมดุลให้เหมาะสมจะดีกว่า นอกจากนี้คือเสียงของพัดลมระบายความร้อน Legion ColdFront เวลาเปิดใช้งานคู่กับ Performance mode จะวัดเสียงลมได้ถึง 65dB จึงไม่แนะนำให้ใช้ในพื้นที่สาธารณะเพราะอาจรบกวนผู้อื่นได้ แนะนำให้เปิดโหมด Auto หรือ Balance จะดีกว่า
ข้อดีของ Lenovo Legion Go 2
- ซีพียู AMD Ryzen Z2 Extreme กับจีพียู Radeon 890M ใช้เล่นเกมชั้นนำในปัจจุบันได้ดี
- มีหน่วยความจำ RAM 32GB LPDDR5X กับ SSD 1TB ไว้ให้ใช้ติดตั้งเกมได้อีกพอควร
- เรียกใช้ฟีเจอร์เสริมของ AMD เพื่อเร่งเฟรมเรทให้เล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น
- ชุดระบายความร้อน Legion ColdFront คุมอุณหภูมิระบายความร้อนได้ดี เย็นตลอดการใช้งาน
- หน้าจอทัชสกรีน Legion PureSight OLED แสดงสีสันได้สวยงามและได้ภาพไหลลื่น
- คอนโทรลเลอร์ Legion TrueStrike สามารถถอดแยกจากเครื่องเพื่อเล่นเกมได้
- คอนโทรลเลอร์ฝั่งขวาสามารถประกอบกับฐานวงกลมให้เล่นเกมใน FPS Mode ได้
- ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้รวมกับปุ่ม Power ให้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกรวดเร็ว
- แบตเตอรี่ 74Whr ใช้เล่นเกมได้ราว 2 ชม. และแสตนด์บายได้ร่วม 7 ชม.
- พอร์ต USB-C 4.0 รองรับ Power Delivery 3.0 และ DisplayPort 2.1
- ดีไซน์แยกพอร์ต USB-C เป็นช่องบนกับล่าง ทำให้ต่อใช้งานได้สะดวก
- ขาตั้งเครื่องหนาและแข็งแรง กางได้กว้างเกือบราบไปกับพื้นโต๊ะจึงประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย
- ตั้งค่าโหมดการทำงานและปุ่มมาโคร 6 ปุ่ม ได้ในโปรแกรม Legion Space
- มีปุ่มฟังก์ชั่นพับหน้าโปรแกรมและกดเลือกโปรแกรมติดมาให้ใช้งาน
- ก้านคอนโทรลเลอร์ฝั่งขวามีแป้นทัชแพดติดมาให้ใช้งานได้สะดวก
ข้อสังเกตของ Lenovo Legion Go 2
- ราคา 39,990 บาท สูงสุดในบรรดา Gaming Handheld ในปัจจุบันและสินค้ามีจำนวนจำกัด
- น้ำหนักเครื่อง 920 กรัม สูงสุดในบรรดา Gaming Handheld เล่นไปสักพักอาจเมื่อยล้า
- พัดลม Legion ColdFront เวลาทำงานเต็มกำลังเสียงจะดังพอควรถึง 65dB
รีวิว Lenovo Legion Go 2
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Gamepad & Control
- Connector, Thin & Weight
- Inside & Upgrade
- Performance & Software
- Battery, Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion & Award
- Gallery
Specification

เครื่อง Gaming Handheld ใหม่ของ Lenovo อย่าง Lenovo Legion Go 2 ถูกอัพเกรดสเปคให้ดีขึ้นและปรับแต่งดีไซน์ให้จับถือเล่นเกมได้ดีกว่าเดิม เสริมด้วยซอฟท์แวร์ Legion Space ไว้ปรับแต่งตัวเครื่องดึงศักยภาพของชิปเซ็ต AMD Ryzen Z2 Extreme ออกมาได้ดีกว่าเดิม สเปคโดยละเอียดจะเป็นดังนี้
| CPU | AMD Ryzen Z2 Extreme แบบ 8 คอร์ 16 เธรด (Zen 5*3 / Zen 5c*5) ความเร็วสูงสุด 5 GHz TDP 28W สถาปัตยกรรม Zen 5 |
| GPU | AMD Radeon 890M จีพียู 16 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.9 GHz สถาปัตยกรรม AMD RDNA 3.5 Radeon Super Resolution Radeon Boost Radeon Anti-Lag FreeSync Radeon Chill HYPR-RX FidelityFX Super Resolution |
| Storage | M.2 NVMe SSD 1TB อินเทอร์เฟส PCIe 4.0 x4 รองรับ M.2 2280 |
| Memory | 32GB LPDDR5X บัส 8000 MHz |
| Software | Windows 11 Home Legion Space |
| Display | Lenovo PureSight OLED Touchscreen 8.8″ WUXGA (1920*1200) OLED อัตราส่วนหน้าจอ 16:10 Refresh Rate 144Hz VRR 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR True Black 1000 |
| Connectivity & Security | USB-C 4.0 Full Function (40 Gb/s, DisplayPort 2.1, PD 3.0)*2 MicroSD Card Reader*1 Audio combo*1 Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax Bluetooth 5.3 Fingerprint sensor |
| Control | A B X Y buttons D-pad Touchpad FPS mode switch Mouse wheel (on right controller) Left & right Joysticks Left & right release buttons LB & LT buttons RB & RT buttons Y1 & Y2 buttons M3 & Y3 buttons M1 & M2 buttons 6x function buttons |
| Battery | 4-cell 74Whr |
| Weight & Colors | 920 กรัม |
| Price | 39,990 บาท |
Hardware & Design



Lenovo Legion Go 2 แม้จะปรับปรุงดีไซน์จนเรียกว่ารุ่นใหม่ได้ก็จริง แต่ยังคงเอกลักษณ์และฟีเจอร์เฉพาะไว้เช่นเดิม ได้แก่ ก้านคอนโทรลเลอร์จากขอบตัดเหลี่ยมก็เหลาให้โค้งมนไม่บาดมือเกินไปและถอดแยกจากตัวเครื่องได้เหมือนเดิม เสริมปุ่มใช้งานมาให้หลายคำสั่ง ไม่ว่าจะปุ่มตั้งค่าของ Legion Space เหนือปุ่ม View, Menu แถมปุ่มจำลองคำสั่งพับหน้าโปรแกรมทั้งหมดและ Alt+Tab ติดมาให้คู่กับแป้นทัชแพด ช่วยให้เจ้าของไม่ต้องเอานิ้วแตะให้หน้าจอมีลายนิ้วมือแล้วต้องคอยเช็ดบ่อยๆ
อุปกรณ์เสริมแถมมาพร้อม Legion Go 2 ก็มีกระเป๋าผ้าพร้อมโลโก้ Legion บุฟองน้ำภายในเอาไว้ป้องกันรอยขีดข่วนและด้านใต้จะมีฐานคอนโทรลเลอร์สำหรับต่อเล่นเกมในโหมด FPS ใส่มาในช่องเก็บเฉพาะเอาไว้ให้เจ้าของหยิบมาประกอบเล่นเกมได้ด้วย




บานพับตั้งเครื่องด้านหลังตัว Lenovo Legion Go 2 เป็นแผ่นโลหะหนา 2 มม. ยึดไว้ด้วยขาบานพับโลหะแล้วขันน็อตล็อคทำมุมสามเหลี่ยมไว้ 3 ดอก รับกับฐานบานพับโลหะภายในฝาหลังทั้งสองฝั่ง จึงแข็งแรงทนทานและกางบานขาตั้งได้กว้างราว 160 องศา แทบราบไปกับพื้นโต๊ะได้ ดังนั้นจะวางบนโต๊ะแล้วถอดจอยมาเล่นเกมหรือตั้งเพื่อต่อสายชาร์จก็ทำได้สะดวก


ฝาหลังดีไซน์ค่อนข้างเรียบง่าย เหนือจากสันบานพับตั้งเครื่องขึ้นมามีช่องนำอากาศเย็นเข้าไปยังระบบระบายความร้อน Legion ColdFront เพื่อลดอุณหภูมิของชิปเซ็ต Ryzen Z2 Extreme ให้ทำงานได้เต็มกำลัง ขอบบนสุดเป็นโลโก้ Legion ยิงเลเซอร์ฝังไว้ สังเกตว่าด้านข้างจะมีรูร้อยน็อตหัวแฉก Philips Head รวม 6 ดอก กับด้านใต้บานพับขาตั้งอีก 2 เป็น 8 ดอก เพื่อยึดฝาหลังและตัวเครื่องทั้งหมดให้เป็นชิ้นเดียวกัน
Screen & Speaker




หน้าจอขนาด 8.8″ ของ Lenovo Legion Go 2 ถูกลดความละเอียดจาก QHD+ (2560*1600 พิกเซล) ให้เหลือเพียง WUXGA (1920*1200 พิกเซล) เปลี่ยนพาเนลจาก IPS เป็น OLED มีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 และความลึกของสี 10-bit ได้รับรอง VESA DisplayHDR True Black 1000 และได้ Refresh Rate 144Hz แทน ถึงดูเหมือนว่าทางบริษัทตั้งใจลดสเปคจอลงแล้วให้พาเนลดีขึ้น แต่ผลคือภาพก็ยังคมชัดสวยงามแล้วเวลาเล่นเกมหน้าจอก็ไม่ใช้กำลังซีพียูเกินจำเป็นด้วย
ผลการทดสอบกับโปรแกรม DisplayCal 3 จะเห็นว่าพาเนล OLED เวลาเร่งความสว่างสูงสุดแล้ววัดได้ 453.41 cd/m2 และขอบเขตสีหน้าจอจากการทดสอบด้วยเครื่อง Calibrite Display Pro HL วัดขอบเขตสีจริง (Gamut coverage) ได้ 100% sRGB, 95.2% Adobe RGB, 100% DCI-P3 ขอบเขตสีองค์รวม (Gamut volume) ได้ 170% sRGB, 117.1% Adobe RGB, 120.4% DCI-P3 ค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E 0.06~2.42 ตรงกับการเคลมบนหน้าสเปค ภาพบนหน้าจอจะสดสวยขึ้นและเร่งความสว่างหน้าจอสู้แดดตอนส่องกระทบหน้าจอในสถานการณ์ต่างๆ ได้สบายมาก





ลำโพงของ Lenovo Legion Go 2 จะติดตั้งไว้ต่างจาก Gaming Handheld รุ่นอื่น แทนที่จะหันหน้าเข้าหาผู้ใช้ก็เปลี่ยนมาติดอยู่ขอบบนแนวเดียวกับปุ่ม Power, ปุ่มเพิ่มลดเสียงและ USB-C แทน ทำให้เสียงจากเกมดังก้องกว่าแต่ยังแยกทิศทางของศัตรูได้ โทนเสียงลำโพงเป็นแบบ Flat เน้นเสียงเบสสเตจกว้าง วัดความดังได้ 85.4~88dB ให้ได้ยินชัดทั่วห้องขนาด 13 ตารางเมตรได้สบายมาก แต่ถ้าต้องการต่อลำโพงแยกผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. แนะนำให้กางขาบานพับด้านหลังให้เกือบสุดแล้วพลิกตัวเครื่องกลับถึงจะต่อได้
Gamepad & Control







ก้านอนาล็อค TrueStrike ทั้งสองฝั่งของ Lenovo Legion Go 2 ยังคงถอดแยกออกจากชุดระบบหลักได้เช่นเดิมโดยกดสลักด้านหลังส่วนล่างของจอยค้างเอาไว้ ค่อยสไลด์ลงแล้วโยกออกด้านข้างจะแยกออกมาใช้เล่นแบบไร้สายได้เลย แล้วหน้าโปรแกรม Legion Space จะโชว์ปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือให้เห็นทันที




ปุ่มคำสั่งของจอยแต่ละฝั่งจะมีฟังก์ชั่นเพิ่มเข้ามามากกว่า Gaming Handheld รุ่นอื่นอยู่พอควร จึงควบคุมและใส่ลูกเล่นเพิ่มได้มากขึ้น ฝั่งซ้ายจากด้านบนมีปุ่มเรียกโปรแกรม Legion Space และ View ของ Xbox อยู่เฉียงขึ้นไปจากก้านอนาล็อค Hall Effect มีไฟ RGB ล้อมกรอบอยู่เล็กน้อย คั่นกลางด้วยแป้น Pivot D-Pad ไว้ให้ใช้ควบคุมตัวละครและเลือกเมนูต่างๆ ในเกมได้ เสริมด้วยปุ่มพิเศษอีก 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนเป็นคีย์ลัด Win+D กดแล้วพับหน้าต่างโปรแกรมทั้งหมดกลับไปยังหน้า Desktop ปุ่มล่างจำลองคำสั่ง Alt+Tab ไว้สลับไปยังโปรแกรมอื่นๆ ได้
ขอบบนจอยฝั่งซ้ายมีปุ่ม LB+LT ติดมาให้ใช้งานและสังเกตว่า Lenovo ปรับแต่งขนาดของปุ่มนี้ให้ใหญ่ขึ้น ทำขอบเรียบและโค้งให้วางนิ้วแล้วรู้ทันทีว่าเป็นปุ่มใด ด้านหลังมีมาโคร Y1+Y2 ให้ตั้งค่าเพิ่มได้อยู่เหนือสลักปลดจอยแยกจากเครื่อง สังเกตตรงขอบสลักเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องมีพอร์ต USB-C ติดเพิ่มเข้ามาให้ต่อสายชาร์จจอยได้ไม่ต้องประกอบกับเครื่องเสมอไป







ไฮไลต์ของจอย TrueStrike อยู่ตรงฝั่งขวาซึ่งใส่ฟังก์ชั่นและปุ่มมาโครมาให้หลายอย่าง ด้านหน้านอกจากปุ่ม ABXY และก้านอนาล็อคแล้ว ปุ่มด้านบนจะเรียกคำสั่ง Quick settings ของ Legion Space มาปรับแต่งการทำงานแบบเร่งด่วนได้และปุ่ม Menu ของจอย Xbox เช่นเดิม ถัดลงมาจะมีแป้นทัชแพดแบบย่อขนาดติดมาให้คุมเคอร์เซอร์ของเมาส์ได้สะดวกขึ้น
พลิกมาด้านหลังจะเห็นปุ่มมาโครติดมาให้ทั้ง M1+M2 ตรงสันข้าง, M3+Y3 ในแนวนอนถัดลงมาจาก Scroll wheel เอาไว้ให้ตั้งค่าคีย์ลัดได้มากขึ้น ส่วนด้านล่างมีสลักปลดล็อคจอยแยกจากเครื่องรวมถึงพอร์ต USB-C เหมือนกัน
ถ้าพลิกคอนโทรลเลอร์ขึ้นมาจะเห็นสวิตช์เปลี่ยนจากโหมดจากจอยปกติเป็น FPS Mode เวลาใช้งานให้ต่อมันเข้ากับฐานคอนโทรลเลอร์ที่แถมมาให้กระเป๋า Lenovo Legion Go 2 จะจับเป็นแนวตั้งเหมือนด้ามปืนแล้วคำสั่งของปุ่มมาโครจะเปลี่ยนไปให้เข้ากับเกม FPS โดยอัตโนมัติ






ฐานคอนโทรลเลอร์เมื่อพลิกขึ้นมาจะเห็นว่าด้านใต้มีสลักล็อคจอยอยู่ เวลาใช้งานให้ดันสลักไปยังฝั่งแม่กุญแจปลดล็อคก่อนแล้วสวมจอยเข้ากับฐานค่อยดันสลักให้มาอยู่ฝั่งล็อคแม่กุญแจ บนหน้าจอจะขึ้นว่าคอนโทรลเลอร์เปลี่ยนเข้าสู่ FPS Mode พร้อมคำอธิบายว่า “โหมดนี้ออกแบบมาเพื่อให้เล่นเกม First-Person Shooter ได้สะดวกขึ้น ใช้คอนโทรลเลอร์ขวาเล็ง (และยิง) ส่วนฝั่งซ้ายใช้เพื่อควบคุมตัวละคร” พร้อมกรอบแดงแจ้งเตือนว่าโหมดนี้ไม่เหมาะกับเกมที่เน้นใช้คอนโทรลเลอร์หรือจอยเกมควบคุมเป็นหลัก
ท่าทางเวลาจับจอยจะเห็นว่าก้านคอนโทรลเลอร์จะโน้มไปด้านหน้าเล็กน้อยและตำแหน่งปุ่มแต่ละจุดจะพอดีกับตำแหน่งนิ้วชี้, กลางและแม่โป้งพอดี สามารถกดใช้งานได้ทุกปุ่มโดยไม่ต้องเอื้อมแม้แต่น้อย ยกเว้นถ้าจะใช้ Scroll Wheel เหนือแม่โป้งจุดเดียวเท่านั้น ข้อดีของจอยแนวตั้งแบบนี้นอกจากใช้กับเกม FPS ได้ดี ถ้าใครเล่นเกมจำลองการบินก็จะคล้ายกับก้านควบคุมเครื่องบินเช่นกัน





ท่าทางเวลาจับเครื่อง Lenovo Legion Go 2 สังเกตว่าหลังจากเหลี่ยมของตัวเครื่องให้ทรงโค้งมนขึ้น พอจับแล้วนิ้วชี้ทั้งสองฝั่งจะเข้ากับบ่าคอนโทรลเลอร์พอดีไม่ว่าจะตอนประกอบอยู่กับตัวเครื่องหรือถอดแยกมาใช้แบบไร้สาย นิ้วมือซ้ายและขวาจะทาบเข้ากับปุ่มมาโครและ Scroll Wheel ด้วยจึงใช้งานได้ง่าย จุดน่าสนใจคือ Lenovo ขยายขนาดปุ่ม LB/LT/RB/RT ให้ใหญ่ขึ้นเป็นพิเศษจนเต็มนิ้วชี้และมีรูปทรงต่างกันจึงกดใช้ได้ง่ายแยกความแตกต่างได้ชัดเจน







วิธีตั้งค่าคอนโทรลเลอร์ TrueStrike ให้เปิดโปรแกรม Legion Space เลือกหมวด Controllers จะมีฟังก์ชั่นตั้งค่าได้ทั้งหมดรวมอยู่ไม่ว่าจะไฟ RGB ของก้านอนาล็อค, ตั้งระยะการปุ่มทริกเกอร์ LT/RT, Gyroscope, joystick dead zone, Calibrate จอย ฯลฯ จึงเซ็ตอัพจอยทั้งสองฝั่งให้เข้ามือเจ้าของได้ตามชอบ
Connector, Thin & Weight




พอร์ตกับเชื่อมต่อและปุ่มของ Lenovo Legion Go 2 จะมีเพียงขอบบนและล่างเท่านั้นและจัดกลุ่มมาได้ดีจนพูดว่ารู้ใจเกมเมอร์คงได้ ด้านข้างสองฝั่งมีแต่จุดเชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์เท่านั้น โดยพอร์ตการเชื่อมต่อทั้งหมดจะมีดังนี้
- พอร์ตและปุ่มขอบบนจากซ้ายมือ – ปุ่มเพิ่มลดเสียง, USB-C 4.0 Full Function, ปุ่ม Power พร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- พอร์ตขอบล่างจากซ้ายมือ – Audio combo, MicroSD card reader, USB-C 4.0 Full Function
- การเชื่อมต่อไร้สาย – W-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.3
วิธีการจัดเรียงพอร์ตของ Legion Go 2 ถึงจะดูแปลกตาอยู่บ้างที่เอาพอร์ตเชื่อมต่อแทบทั้งหมดมาเรียงไว้ด้านใต้เครื่องแทนที่จะเป็นขอบด้านบนเหมือน Gaming Handheld ตัวอื่น แต่ตอนถือเล่นเกมแล้วการต่อสายหูฟังกับปลั๊ก USB-C ไว้ด้านใต้เครื่องทำให้ตัวสายทิ้งตัวไปตามแรงโน้มถ่วงแล้วไม่พาดตัวเครื่องให้เกะกะ มีพอร์ต USB-C ด้านบนเอาไว้ต่อกับแท่นวางเครื่องเพื่อพ่วงอุปกรณ์เสริมเพื่อใช้เป็น Mini PC ทำงานหรือเล่นเกมได้สะดวกลงตัว







อย่างไรก็ตามน้ำหนักเครื่อง 917 กรัม ของ Lenovo Legion Go 2 รวมกับอะแดปเตอร์ 65W แล้วได้ 1.19 กก. แม้จะพกไปไหนมาไหนง่ายแต่ถือเล่นได้ไม่นานเหมือนรุ่นอื่น ยกเว้นจะถอดจอยแยกออกมาแล้วตั้งโต๊ะเล่นก็ไม่สมเหตุผลนัก เพราะเจ้าของเครื่องก็อยากถือมันอยู่ในมือให้นานเท่าที่เป็นไปได้ จึงเป็นจุดสังเกตที่ไม่ควรมองข้าม แนะนำว่าเวลาพกไปใช้งานนอกบ้านให้ใส่กระเป๋าของเครื่องนี้แล้วเก็บใส่กระเป๋าเป้จะพกอะแดปเตอร์กับของใช้ชิ้นอื่นไปได้อีกพอควร
Inside & Upgrade

วิธีเปิดฝาอัพเกรด Lenovo Legion Go 2 นับว่าง่ายแต่ก็มีจุดต้องใส่ใจอยู่เช่นกัน เริ่มต้นให้ดับเครื่องและถอดคอนโทรลเลอร์ทั้งสองฝั่งออกก่อน แล้วไปขันน็อตใต้บานพับขาตั้งเครื่อง 2 ดอก ในท่อน็อตลึกราว 3 ซม. โดยใช้ไขควงคอยาวขันออกมา ให้เริ่มจากคู่นี้ก่อนแล้วค่อยจัดการอีก 6 ดอกที่เหลือก็ได้ แต่ข้อดีคือน็อตทุกดอกเป็น Philips Head ยาวเท่ากันหมดเวลาประกอบกลับจึงไม่ต้องห่วงว่าจะใส่สลับตำแหน่งกัน
วิธีการงัดเปิดฝาให้ใช้ก้านพลาสติกงัดขอบบนบริเวณช่องระบายความร้อนให้มีระยะห่างพอให้สอดปิ๊กกีตาร์เข้าไปได้แล้วค่อยไล่จนรอบตัวเครื่องจนฝาหลังแยกจากเครื่องออกมา ค่อยใช้มือหนึ่งจับเครื่องตรงช่องระบายความร้อนแล้วใช้อีกมือดึงแผ่นบานพับขาตั้งขึ้นตรงๆ จะถอดฝาหลังออกได้แล้วท่อน็อตไม่เกิดความเสียหาย




บนเมนบอร์ด Legion Go 2 จะเปลี่ยนได้แค่ M.2 NVMe SSD ใต้พัดลมโบลวเวอร์เท่านั้นและก่อนจะเริ่มอัพเกรดก็ต้องถอดสายแบตเตอรี่ออกเพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัย พอขันออกมาจะเป็น M.2 2242 แต่ก็มีฐานน็อตไว้รองรับ SSD ไซซ์มาตรฐานอย่าง M.2 2280 เช่นกัน ด้าน RAM ถูกฝังอยู่บนเมนบอร์ดจึงเพิ่มความจุไม่ได้ แต่ก็มีถึง 32GB LPDDR5X จึงพอให้ใช้เล่นเกมไปได้อีกนาน
กรณีของ Lenovo Legion Go 2 ไม่จำเป็นต้องอัพเกรดให้เสียเวลาเพราะมี SSD 1TB ไว้ให้ติดตั้งเกมได้มากพอควร แถมถ้าหมั่นลบเกมไม่ได้เล่นออกไปเป็นระยะๆ ก็แก้ปัญหาได้มาก หรือถ้าใช้มาสักระยะแล้วไม่พอใช้จะเปลี่ยนเป็น SSD 2TB หรือใส่ MicroSD Card 1TB เพิ่มก็ว่าไปตามสะดวกใจของแต่ละคนก็ได้
Performance & Software






ชิปเซ็ตของ Lenovo Legion Go 2 อย่าง AMD Ryzen Z2 Extreme แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วตั้งแต่ 3.3~5 GHz ใช้รหัสพัฒนา Strix Point สถาปัตยกรรม Zen 5 จึงแยกคอร์เป็น 2 ชุด คือ Zen 5 ชุดหลัก 3 คอร์ ประกอบกับชุดรองอย่าง Zen 5c อีก 5 คอร์ แม้ความเร็วสูงสุดจะต่างกันเล็กน้อย แต่ก็มี SMT (Simultaneous multithreading) กล่าวคือทำ Hyperthreading ได้หมด จึงทำงานได้รวดเร็วและรองรับชุดคำสั่งพื้นฐานครบถ้วน มีค่า TDP พื้นฐาน 28W
บนเมนบอร์ดมี RAM 32GB LPDDR5X บัส 8000MHz จาก SK Hynix ติดตั้งมาให้ใช้ได้อย่างเหลือเฟือไม่ว่าจะเล่นเกมหรือทำงานก็ได้ สังเกตใน CPU-Z ส่วนของ SPD จะขึ้นว่า Module size มีขนาด 8GB นั่นหมายความว่าเป็น RAM 8GB*4 ได้เป็น 32GB ตามสเปค
สมรรถนะของ Ryzen Z2 Extreme ได้คะแนน Single และ Multi-Thread ดีกว่า AMD Ryzen 7 1700X แถมใช้พลังงานน้อยกว่าจาก 95W เหลือ 28W กล่าวคือสมรรถนะของ Mobile chipset อย่าง Strix Point ดีกว่า Desktop chipset อย่าง Summit Ridge อย่างชัดเจน

จีพียู AMD Radeon 890M ใน Z2 Extreme นอกจากรองรับชุดคำสั่งอย่าง DirectCompute, DirectML, OpenGL 4.6, Vulkan และ Ray Tracing แล้ว ยังเรียกใช้ DirectX 12 API เพื่อเล่นเกมได้เป็นอย่างดี มี Shaders 1,024 Unified และจอง RAM ระบบเอาไว้ 16GB สำหรับประมวลผลกราฟิคให้เกมเมอร์ตั้งรายละเอียด Texture ได้มากขึ้น

ชิ้นส่วนสำคัญภายในเครื่องจากการเช็คใน Device Manager จะเห็นว่า Lenovo Legion Go 2 มีชิปเซ็ตรักษาความปลอดภัย TPM 2.0, Microsoft Pluton และ AMD PSP 11.0 ติดตั้งมาเพื่อทำงานร่วมกับ Windows Hello และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือตรงปุ่ม Power ครบถ้วน แค่สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ก็ช่วยให้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกแถมยังรักษาความปลอดภัยข้อมูลในเครื่องได้แล้ว

Wi-Fi PCIe card รุ่น RZ616 จาก MediaTek พัฒนากับ AMD ไว้ใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างลื่นไหล มีแบนด์วิดท์ 160MHz เชื่อมต่อคลื่น 2.4 / 5 / 6 GHz ได้ รองรับ Bluetooth 5.3 มีความเร็วสูงสุด 2.4Gbps เมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 GHz ตั้งเครื่องห่างจากจุดกระจายสัญญาณ 10 เมตร และมีประตูไม้อัดกั้น 1 บาน ก็ยังทำงานได้ดี มีความเร็ว Download 824.38 Mbps และ Upload 820.77 Mbps แม้จะไม่ได้เป็น Wi-Fi 7 ก็ยังใช้งานได้ดีทำงานรวดเร็วพอควร

OEM SSD ในเครื่องเป็น Samsung MZAL81T0HFLB เป็นรุ่นผลิตจำนวนมากสำหรับติดตั้งในโน๊ตบุ๊คและเครื่องเกมพกพาหลายรุ่นในปัจจุบัน อินเทอร์เฟสเป็น PCIe 4.0×4 และความเร็วสูงพอให้ใช้งานได้ดี เคลมความเร็ว Sequential Read 5,000 MB/s และ Write 4,000 MB/s จากการทดสอบกับโปรแกรม CrystalDiskMark จะเห็นว่าความเร็วการอ่านทำได้ดีมาก แต่การเขียนไฟล์กลับเข้าไดรฟ์ค่อนข้างต่ำ สันนิษฐานว่าเฟิร์มแวร์ของ SSD อาจมีปัญหา อาจจะต้องรอการอัพเดทในอนาคตก็จะได้ความเร็วเพิ่มขึ้น
กรณีต้องการอัพเกรดเพิ่มความจุจะมี 2 วิธี อย่างการเปลี่ยน M.2 NVMe เป็นรุ่นอื่นให้มีความเร็วดีขึ้นแต่อาจจะยุ่งยากอยู่บ้างหรือหา MicroSD Card 1TB มาใส่เพิ่มก็ได้ ซึ่งปัจจุบันนี้มีตัวเลือกหลากรุ่นหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อมาใส่เพิ่มได้







คะแนนจากการทดสอบกับโปรแกรมจำลองการเล่นเกมตระกูล 3DMark แต่ละเวอร์ชั่นจะเห็นว่า Lenovo Legion Go 2 ใช้เล่นเกมได้ดีโดยเฉพาะถ้าเล่นบนหน้าจอความละเอียด 1080~1440p จะเหมาะมาก แต่ไม่เหมาะกับหน้าจอ 4K นัก โดยคะแนนจากการทดสอบจะเป็นดังนี้
- Fire Strike (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด Full HD ใช้ DirectX 11 API) – คะแนนเฉลี่ย 8,335 คะแนน แยกเป็น Graphics score 8,955 คะแนน, Physics score 22,761 คะแนน, Combined score 3,375 คะแนน
- Fire Strike Extreme (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด QHD ใช้ DirectX 11 API) – คะแนนเฉลี่ย 4,804 คะแนน แยกเป็น Graphics score 4,847 คะแนน, Physics score 22,692 คะแนน, Combined score 2,137 คะแนน
- Fire Strike Ultra (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด UHD ใช้ DirectX 11 API) – คะแนนเฉลี่ย 2,711 คะแนน แยกเป็น Graphics score 2,630 คะแนน, Physics score 21,932 คะแนน, Combined score 1,302 คะแนน
- Time Spy (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด QHD ใช้ DirectX 12 API) – คะแนนเฉลี่ย 3,873 คะแนน แยกเป็น CPU score 9,098 คะแนน Graphics score 3,517 คะแนน
- Time Spy Extreme (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด UHD ใช้ DirectX 12 API) – คะแนนเฉลี่ย 1,868 คะแนน แยกเป็น CPU score 4,705 คะแนน Graphics score 1,689 คะแนน
- Solar Bay (ทดสอบการเรนเดอร์ Ray Tracing ว่ารันได้ดีต่อเนื่องหรือไม่ แต่ละ section การทดสอบจะเพิ่มรายละเอียดให้ใช้กำลังจีพียูมากขึ้น) – คะแนนเฉลี่ย 17,858 คะแนน, Graphics test 67.9 FPS / Section 1 ได้ 71.54 FPS / Section 2 ได้ 68.32 FPS / Section 3 ได้ 63.39 FPS
- Steel Nomad (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด UHD ใช้ DirectX 12 API) – คะแนนเฉลี่ย 612 คะแนน ได้ Graphics test 6.13 FPS




เฟรมเรทจากการเล่นเกมชั้นนำหลายเกมในปัจจุบันโดยตั้งค่ากราฟิค Medium ใช้ความละเอียดหน้าจอ 1080p เป็นหลัก จะเห็นว่าซีพียู Ryzen Z2 Extreme สามารถเล่นได้ทุกเกมและเฟรมเรทลื่นไหลต่อเนื่อง ยืนพื้น 30 FPS ขึ้นไปทั้งหมด หากเกมไหน Optimize มาดีก็เล่นได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิด AMD FSR หรือ Frame Generation เสริมก็ได้ โดยประสบการณ์เล่นแต่ละเกมจะเป็นดังนี้
- Cyberpunk 2077 – หลังจาก Optimize และอัพเดทแพทช์อย่างต่อเนื่อง ก็ได้เฟรมเรทเฉลี่ยจะยืนพื้นอยู่เกิน 30 FPS ขึ้นไปแล้วโดยไม่ใช้ Upscaling ใดๆ ยิ่งถ้าเปิด AMD FSR เสริมเข้าไปภาพจะยิ่งไหลลื่นจนตั้งค่ากราฟิคไว้ระดับ High แล้วเล่นได้สบาย ถ้าใช้ Frame Generation ก็ยิ่งดี แต่จากกราฟพิเศษเทียบระหว่าง Medium preset กับ High Preset และใช้ FSR 2.1 กับ 3.0 เทียบกันจะไม่ได้ส่งผลอะไรมากนัก กลับกันถ้าเน้นเฟรมเรทลื่นไหลไม่ให้เฟรมเรทตอนยิงปืนลดมากเกินไป แนะนำให้ใช้ Steam Deck preset จะดีสุด
- Black Myth: Wukong – ตัวเกมยัง Optimize มาไม่ดีนักและถ้าเล่นโดยตั้งค่ากราฟิค Medium โดยไม่ใช้ Upscaling ช่วย จะได้เฟรมเรทราว 30-40 FPS เท่านั้น ถ้าจะเล่นให้ดีควรเปิด AMD FSR Balance และเสริมด้วย Frame Generation (FG) ถึงจะได้เฟรมเรทสูงเกิน 60 FPS แต่ถ้าใช้ FSR Quality ถึงจะใช้ Frame Generation ช่วย เฟรมเรทก็จะอยู่ในช่วงไม่เกิน 50 FPS เท่านั้น และไม่แนะนำให้ตั้งค่ากราฟิคระดับ Cinematic เพราะภาพสวยแต่เล่นไม่ไหลลื่น
- Hogwarts Legacy – สามารถเล่นโดยตั้งค่ากราฟิค 1080p Medium ได้ทันที แต่ถ้าเปิด FSR Quality เพิ่ม ภาพจะลื่นไหลขึ้นและลดอาการเฟรมเรทลดกะทันหันเวลาร่ายเวทย์หรือเจอฉาก Open world ให้เดินสำรวจพื้นที่ได้ระดับหนึ่ง
- Forza Horizon 5 – ตัวเกม Optimize มาดีมากและไม่ต้องเปิด Upscaling เสริมก็ได้ สามารถวิ่งผ่านฉากมีต้นไม้, น้ำ และฝุ่นมากได้โดยไม่มีปัญหา ถ้าเปิด FSR Quality เสริมจะช่วยให้เฟรมเรทเสถียรขึ้น
- Monster Hunter Wilds – ปัจจุบัน TU3 (Title Update 3) ก็จำเป็นต้องใช้ Upscaling และ Frame Generation เสริมเช่นเดิม แต่ข้อดีคือกราฟิคในเกมมีความต่อเนื่องลื่นไหลขึ้น ภาพฉาก Open world เรนเดอร์ได้เร็วลดอาการภาพโพลีก้อนได้บ้าง สามารถเล่นบนความละเอียด 1080p Medium ได้ ถ้าอยากให้ภาพสวยงามแนะนำให้เลือก FSR Quality กับ Frame Generation แต่ถ้าเอาเฟรมเรทสูงขึ้นให้ลดมาใช้ FSR Balance แทน
- God of War – สามารถเล่นบนความละเอียด 108p Medium ได้ลื่นไหลโดยไม่ต้องใช้ Upscaling ก็ได้ เวลาเข้าปะทะกับมอนสเตอร์ในฉากก็ยังเล่นได้ดีภาพต่อเนื่องไม่เกิดหน่วงหรือกระตุกให้รู้สึกเลย ถ้าอยากให้ภาพลื่นไหลสวยงามขึ้นแนะนำให้เปิด FSR Quality เพิ่มก็พอแล้ว
- Call of Duty: Modern Warfare – จากการตั้งค่ากราฟิคสามารถเล่นได้ดีมาก แต่เฟรมเรทจะลดไปบ้างตอนเจอฝุ่นหรือระเบิดในฉาก ถ้าเปิด FSR Quality ช่วยจะลดอาการเหล่านี้ได้มาก หากจะใช้ FPS Mode ก็ถอดจอยต่อฐานเล่นได้ด้วย

กรณีจะใช้ Lenovo Legion Go 2 เป็น Mini PC ทำงานด้วยก็ได้เพราะติดตั้ง Windows 11 มาในตัวและชิปเซ็ต Ryzen Z2 Extreme ก็มีพื้นฐานเหมือนกับซีพียู AMD รุ่นอื่น แถมทำคะแนนจาก PCMark 10 ได้ถึง 7,195 คะแนน จะเปิดโปรแกรมทำงาน, เบราเซอร์, Office Suite ทำงานก็ไม่มีปัญหา และสังเกตคะแนนส่วน Digital Content Creation จะเด่นเรื่องแต่งภาพนิ่งและทำโมเดล 3D ได้ดีทีเดียว ถ้าเน้นตัดต่อวิดีโอก็ทำได้แต่จะใช้เวลาเรนเดอร์คลิปสักหน่อยถึงจะพร้อมใช้งาน



การเรนเดอร์กราฟิคด้วยโปรแกรมตระกูล CINEBENCH จะเห็นว่าคะแนนซีพียูสูงระดับหนึ่ง ในการทดสอบแต่ละเวอร์ชั่นจะได้คะแนนดังนี้
- 2024 – ใช้ทดสอบประสิทธิภาพของซีพียูกับจีพียูอย่างหนักพร้อมกันโดยใช้เอนจิ้น Redshift สำหรับอุตสาหกรรมภาพยนต์ ได้ CPU (Multi-Core) 764 pts และ CPU (Single Core) 111 pts
- R23 – ใช้ทดสอบพลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก มีความละเอียดและแม่นยำสูง ได้คะแนน Multi Core 13,579 pts และ Single Core อีก 1,962 pts
- R20 – ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก ได้คะแนน CPU 5,390 pts


อย่างไรก็ตามการปั้นโมเดล 3D ด้วย Blender ถึงจะทำได้แต่ก็ใช้เวลาเรนเดอร์สักพัก สังเกตว่าใน 1 นาที จะทำตัวอย่างโมเดล (Sample) ได้ไม่โดดเด่นเท่ากับโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยก นับเป็นงานไม่ถนัดของ Lenovo Legion Go 2 โดยแต่ละการทดสอบจะได้คะแนนดังนี้
| Test / Sample (ยิ่งมากยิ่งดี) | AMD Ryzen Z2 Extreme | AMD Radeon Graphics 890M |
| monster | 86 | 175 |
| junkshop | 59 | 89 |
| classroom | 45 | 77 |




การทดสอบกับโปรแกรมตระกูล Geekbench จะเห็นว่าซีพียู AMD Ryzen Z2 Extreme มีสมรรถนะดีพอควรและใช้งานทั่วไปได้ดีมาก แต่ไม่เหมาะกับงาน Machine Learning กับ AI เท่าไหร่ โดยแต่ละการทดสอบจะได้คะแนนดังนี้
- Geekbench 6 – ใช้ทดสอบว่าซีพียูสามารถประสานงานกับหน่วยความจำในเครื่องได้ดีหรือไม่ โดยจำลอง workloads งานประเภทการบีบอัดข้อมูล (data compression), การประมวลผลภาพ (image processing), Machine Learning และ Compile code มาทดสอบ
- Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบคำนวน vector integer ได้รวดเร็วหรือไม่ ถ้าเป็น Single-Core ทำได้ 2,782 คะแนน และ Multi-Core ได้ 12,065 คะแนน
- Geekbench ML ทดสอบด้วย ONNX CPU – ใช้ทดสอบว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นนั้นสามารถใช้งานโปรแกรม Machine Learning ได้ดีหรือไม่ ในส่วนนี้ทำได้ 3,138 คะแนน
- Geekbench AI – คำนวณว่าซีพียูสามารถรันการทำงานกับโปรแกรม AI ต่างๆ ได้แม่นยำหรือรวดเร็วหรือไม่ แบ่งเป็น Single Precision เน้นความเที่ยงตรง, Half precision เน้นความเร็วมากขึ้นและลดความแม่นยำลง และ Quantized Score เน้นความเร็วแต่ไม่แม่นยำนัก
- ONNX ได้คะแนน Single Precision 2,606 คะแนน, Half precision 1,420 คะแนน และ Quantized Score 6,425 คะแนน
- OpenVINO ได้ Single Precision 4,185 คะแนน, Half precision 4,243 คะแนน และ Quantized Score 11,335 คะแนน




ด้านคะแนนของจีพียู AMD Radeon Graphics 890M จะเป็นดังนี้
- Geekbench 6 – ใช้ทดสอบว่าจีพียูสามารถประสานงานกับหน่วยความจำในเครื่องได้ดีหรือไม่ โดยจำลอง workloads งานประเภทการบีบอัดข้อมูล (data compression), การประมวลผลภาพ (image processing), Machine Learning และ Compile code มาทดสอบ
- OpenCL, Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบ vector integer ด้วย OpenCL framework ทำได้ 38,326 คะแนน
- Vulkan, Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบคำนวน vector integer ด้วย Vulkan framework ทำได้ 44,269 คะแนน
- Geekbench ML ทดสอบด้วย ONNX DirectML – ใช้ทดสอบว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นนั้นสามารถใช้งานโปรแกรม Machine Learning ได้ดีหรือไม่ ในส่วนนี้ทำได้ 7,101 คะแนน
- Geekbench AI ทดสอบว่าสามารัน AI ได้ดีหรือไม่
- ONNX DirectML – Single Precision 8,773 คะแนน, Half precision 13,609 คะแนน และ Quantized Score 6,660 คะแนน
















โปรแกรมสำคัญประจำ Lenovo Legion Go 2 สำหรับตั้งค่าเครื่อง, อัพเดทเฟิร์มแวร์และเป็นจุดรวมเกมทั้งหมดในเครื่องอย่าง Legion Space จะถูกเรียกขึ้นมาใช้งานทันทีเมื่อเปิดเครื่องเพื่อให้เจ้าของเปิดเล่นเกมได้อย่างรวดเร็ว และถ้ากดปุ่ม Quick Settings เหนือปุ่ม Menu ของคอนโทรลเลอร์ฝั่งขวาก็จะเรียกคำสั่งตั้งค่าเร่งด่วนขึ้นมาได้ด้วย หากใครต้องการเซ็ตอัพเครื่องโดยรวมหรือตั้งค่าเฉพาะให้เกมใดเกมหนึ่งเป็นพิเศษก็ตั้งค่าในนี้ได้
Battery, Heat & Noise




แบตเตอรี่ของ Legion Go 2 มีความจุ 74Whr วัดเป็น Typical capacity ได้ 4,745mAh และ Rated capacity 4,650mAh ไล่เลี่ยกับ Gaming Handheld รุ่นอื่น แต่ต่างจากแบตเตอรี่ทรงแท่งยาววางตัวตามขอบล่างเครื่องทั่วไปเป็นแบตเตอรี่แยกสองก้อนเชื่อมเข้าหากันด้วยชุดสายไฟใต้ M.2 NVMe SSD แทน คาดว่าเพื่อถ่วงสมดุลน้ำหนักให้พอดีไม่ตกไปฝั่งไหนมากเกินไปและเมื่อชุดก้านอนาล็อคถูกแยกเป็นอุปกรณ์อีกสองชิ้นแล้วก็ใช้พื้นที่ได้มากขึ้น

ระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ถ้าทดสอบตามมาตรฐานปกติของทางเว็บไซต์โดยลดความสว่างหน้าจอเหลือ 50% เปิดเสียงลำโพง 10% และใช้โหมดประหยัดพลังงาน ดูคลิป YouTube ผ่านทาง Microsoft Edge นาน 30 นาที แบตเตอรี่ 74Whr จะใช้งานได้ 6 ชม. 40 นาที
ถ้าใช้เล่นเกมโดยใช้การตั้งค่าแบบเดิมแต่เปลี่ยนไปใช้โหมด Auto ตั้งค่ากราฟิคในเกมระดับ Medium ความละเอียดหน้าจอ WUXGA จะเล่นได้นานราว 2 ชม. กับ 15 นาที ก่อน Windows 11 จะแจ้งว่าแบตเตอรี่เหลือน้อยแล้วควรต่อชาร์จไฟ ถือว่าระบบจัดการพลังงานของ Lenovo ทำได้ดีพอให้เล่นเนื้อเรื่องไปได้พอสมควร ถ้ายังติดพันอยู่ก็ยังต่อพาวเวอร์แบงค์ 65W ยืดเวลาเล่นเกมไปได้อีกระยะหนึ่ง










ชุดระบายความร้อน Legion ColdFront ใช้ดีไซน์แบบพัดลม Low Profile ดึงอากาศเย็นเข้ามาจากช่องด้านหลังเครื่องโดยตรงแล้วเป่าอากาศร้อนออกไปช่องเหนือหน้าจอ ทำให้อุณหภูมิไม่กระจายไปยังส่วนอื่นมาก เวลารันโปรแกรมเบิร์นเครื่องจะมีอุณหภูมิสูงสุดบริเวณหน้าจอเพียง 37-39 องศาเซลเซียสเท่านั้น แม้จะดูด้วยกล้องอินฟาเรดก็ไม่ต่างกัน ด้านชิ้นส่วนภายในเมื่อวัดด้วย CPUID HWMonitor จะมีอุณหภูมิดังนี้
| ชิ้นส่วน / อุณหภูมิ | ต่ำสุด (เซลเซียส) | สูงสุด (เซลเซียส) |
| Mainboard | 25 | 49 |
| CPU Cores (Max) | 36 | 84 |
| CPU Package | 38.1 | 85.6 |
| SSD Assembly | 35 | 68 |
| SSD Sensor 1 | 37 | 82 |
| SSD Sensor 2 | 35 | 68 |
ถึงจะใช้โปรแกรมเบิร์นเครื่องเร่งอุณหภูมิไปสูงสุดก็ตาม แต่ชุดระบายความร้อนนี้ก็ทำงานได้ดีช่วยลดความร้อนให้ชิปเซ็ตทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา สังเกตว่าถึงจะเบิร์นเครื่องหรือเล่นเกมอยู่อุณหภูมิไม่เกิน 90 องศาเซลเซียส แถมอุณหภูมิก็ไม่แผ่มาถึงมืออย่างแน่นอน ถ้าใครชอบเล่นเกมเนื้อเรื่องต่อเนื่องหลายชั่วโมงก็ไม่มีปัญหาแน่นอน


อย่างไรก็ตามเสียงชุดระบายความร้อน Legion ColdFront เวลาทำงานเต็มกำลังเสียงค่อนข้างดังพอให้ได้ยินชัดเจน แม้จะวัดจากด้านหน้าเครื่องได้ราว 52dB ไล่เลี่ยกับเสียงฝนตกก็จริง แต่เสียงจากช่องระบายความร้อนจะดังราว 65.5dB ไล่เลี่ยกับเสียงพูดคุยตามปกติ ถ้าจะเปิดเล่นเกมในที่สาธารณะแนะนำให้เปิดโหมด Balance หรือใช้โหมด Auto แทนจะช่วยลดเสียงให้เบาลงไม่รบกวนผู้อื่นเกินไป
User Experience

แม้จะปล่อยให้รอสักระยะกว่า Lenovo Legion Go 2 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ Lenovo ก็ทำการบ้านได้ดี ทั้งแก้จุดสังเกตของเครื่องรุ่นก่อนให้เรียบร้อยและยังเอาข้อดีของเครื่องรุ่นก่อนมาใช้อย่างครบถ้วนทั้งการถอดคอนโทรลเลอร์ TrueStrike มาต่อฐานเพื่อเล่นในโหมด FPS ได้ มีปุ่มควบคุมตั้งค่าเครื่องติดมาให้ครบถ้วนพร้อมใช้งานและจัดตำแหน่งของพอร์ตมาได้ดีเข้าใจเกมเมอร์ ถ้าเทียบกับ Gaming Handheld ตัวอื่นซึ่งเอาพอร์ตทั้งหมดติดไว้ขอบรวมกันหมด แต่เวลาใช้งานจริงสายจะพาดเครื่องตามแรงโน้มถ่วงจนพับหักไปมาหรือรั้งตัวเครื่องจนเล่นเกมไม่สะดวกนัก ผิดกับ Legion Go 2 ที่ติดพอร์ตไว้ด้านใต้เครื่องเป็นหลักและมี USB-C ไว้ขอบบนเพียงอันเดียวเผื่อไว้ให้ต่อชาร์จไฟเวลาตั้งโต๊ะได้ แม้จะแปลกแต่ใช้งานจริงกลับสะดวกทีเดียว พอต่อสายแล้วปล่อยให้มันทิ้งตัวลงพื้นไปก็ช่วยลดความเกะกะไปได้มาก จึงหยิบเอาหูฟังสายมาต่อใช้งานได้ง่ายขึ้น
ปริมาณแบตเตอรี่ 74Whr แม้จะน้อยกว่าแบรนด์อื่นอยู่นิดหน่อยก็ตาม แต่พอใช้โหมด Balance และลดความสว่างเหลือครึ่งเดียว ก็เล่นเกมได้นานร่วม 2 ชม. แต่ถ้าเปิดเสียงลำโพงราว 40% ก็อาจใช้งานได้สั้นลงบ้าง แต่ก็ได้อรรถรสขึ้นเพราะเสียงลำโพงมีแรงปะทะพอสร้างบรรยากาศได้สนุกขึ้นระดับหนึ่งหรือจะสวมหูฟังเพื่อเล่นเกมก็เหมาะ จะได้ดำเนินเนื้อเรื่องในเกมไปได้ระดับหนึ่งแล้วค่อยไปต่อในพีซีที่บ้านในภายหลังได้
สเปคของ Lenovo Legion Go 2 จัดว่าแรงพอให้เล่นเกมบนความละเอียด 1080p Medium ได้แล้ว แต่ก็ยังแนะนำให้เปิด AMD FSR เสริมเข้าไปและเลือกแบบ Quality จะได้เฟรมเรทเพิ่มระดับหนึ่งแต่ภาพก็ยังสวยไม่ต่างจากการเล่นตามปกติ แต่ถ้าเป็นเกมกึ่ง Open world เช่น Monster Hunter Wilds แนะนำให้ใช้ Frame Generation แล้วเปิด AMD RSR ใน Quick Settings เพื่อทำ Upscaling ระดับ Driver ก็จะเล่นได้ไหลลื่นขึ้นอย่างชัดเจนเล่นเกมได้สนุกขึ้นหลายเท่าตัว เล่นได้ลื่นไหลสนุกจนแทบไม่ต่างจากเครื่องเกมคอนโซลพกพาเลยแค่เปลี่ยนมาเปิดคลังเกมส่วนตัวใน Steam, Ubisoft Connect, Epic Games ฯลฯ แทน

ถ้าใครจะซื้อ Lenovo Legion Go 2 เอาไว้ใช้ทำงานออฟฟิศด้วยก็ได้สบายมาก เพราะสเปคก็ไม่ต่างจากโน๊ตบุ๊คทำงานหลายรุ่นในปัจจุบัน แต่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์เสริมโดยเฉพาะ USB-C Hub ไม่ว่าจะเป็นทรงแท่นไว้วางเครื่องหรือเป็นทรงแท่งมาต่อ USB-C บนเครื่องก็ได้แล้วเพิ่มเมาส์, คีย์บอร์ด, หน้าจอคอมเข้าไปตามชอบ แล้วมันจะเหมาะกับการทำงานธุรการทุกแบบตั้งแต่ทำงานทั่วไป, เปิดเบราเซอร์, ประชุมออนไลน์ ฯลฯ ได้หมด
งานไม่ถนัดของ Lenovo Legion Go 2 คือสายครีเอเตอร์ถึงทำได้ก็ไม่เท่าโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเพราะจีพียูออนบอร์ดพอใช้ตัดต่อภาพกับวิดีโอสั้นได้ ถ้าทำคลิปยาวจะต้องใช้เวลาเรนเดอร์นานขึ้นพอควร แถมถ้าใครต้องไปทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ จะไม่แนะนำให้เอา Legion Go 2 ไปใช้เลย เพราะกว่าจะต่ออุปกรณ์เสริมให้พร้อมทำงานก็กินเวลาระดับหนึ่งแล้วยังต้องมีโต๊ะเพื่อตั้งเครื่องและอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย ผิดกับโน๊ตบุ๊คซึ่งกางหน้าจอแล้วทำงานได้ทันที
ข้อสังเกตของ Lenovo Legion Go 2 ก็มีพอควร ไม่ว่าจะราคาขาย 39,990 บาท ซึ่งสูงพอกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายรุ่นในปัจจุบันจนบางคนเริ่มตั้งคำถามว่าจะซื้อมันหรือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คดี? ยอมแบกน้ำหนักเครื่องเพิ่มนิดหน่อยแต่ใช้งานได้ดีขึ้นและเวลาเล่นเกมจะใช้เมาส์หรือต่อจอยเกมก็ได้ทั้งคู่ดีกว่า แถมตัวเครื่องก็หนักสุดในบรรดา Gaming Handheld ทุกเครื่อง ทำให้ถือเล่นได้ระยะหนึ่งก็ต้องวางเครื่องกับโต๊ะแล้วถอดจอยเล่นอยู่ดี ดังนั้นถ้าใครอยากเป็นเจ้าของเครื่องนี้ก็ต้องเตรียมตัวยอมรับข้อสังเกตเหล่านี้ด้วย
Conclusion & Award

เกมเมอร์ที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนเป็นประจำก็คงอยากได้ Gaming Handheld ไว้เล่นเกมเวลาว่างแต่ไม่ได้อยู่หน้าพีซีเครื่องโปรดสักเครื่อง ซึ่งถ้าพร้อมลงทุนสักหน่อย Lenovo Legion Go 2 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้ใคร ได้สเปคดีพอให้เล่นเกมชั้นนำได้ทุกเกมและเรียกใช้ฟีเจอร์เพิ่มประสบการณ์เล่นเกมให้ดีขึ้นจาก AMD ได้พร้อมลูกเล่นร้อยแปดให้ใช้ได้ตามชอบ แถมได้จอ OLED สีสันสวยงามให้เล่นเกมได้อรรถรสและมีความสุขขึ้นมาก ถ้าใครเป็นเกมเมอร์จะเข้าใจดีว่าการได้เล่นเกมที่อยากเล่นเมื่อไหร่ก็ได้แถมยังเล่นได้ดีก็เป็นความสุขแบบหนึ่งเช่นกัน
Award


- Best Features – Legion Go 2 ติดลูกเล่นมาให้มากมายใช้งานได้แพรวพราว ทั้งถอดคอนโทรลเลอร์แยกออกจากเครื่อง, ต่อเล่นเป็นโหมด FPS ได้, มีปุ่มมาโครติดมาให้ตั้งค่าใช้งานได้ตามชอบ ถ้าพร้อมลงทุนสักนิด ก็นับเป็นเครื่องเกมพกพาที่ดีเครื่องหนึ่งเลย
- Best Gaming – สารตั้งต้นของ Lenovo Legion Go 2 อย่าง Ryzen Z2 Extreme และหน่วยความจำในเครื่องก็ดีระดับพอให้เล่นเกมต่างๆ ได้ลื่นไหลแล้ว ก็ได้เฟิร์มแวร์, ไดรเวอร์และโปรแกรมตั้งค่าที่ปรับแต่งได้ละเอียดเสริมด้วยจึงเล่นเกมชั้นนำในปัจจุบันได้ทุกที่ทุกเวลา
Gallery

















