
หูฟัง True Wireless เป็นแก็ดเจ็ตสำคัญติดตัวใครหลายๆ คน สำหรับฟังเพลงโปรด, เล่นเกมหรือรับสายโทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องหยิบมือถือออกจากกระเป๋าให้ยุ่งยาก ซึ่งปัจจุบันนี้มีให้เลือกหลากหลายรุ่นไม่ว่าจะจากแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเพื่อให้มันทำงานกับมือถือได้ทุกฟังก์ชั่นหรือจากผู้ผลิตเครื่องเสียงชั้นนำที่ปรับแต่งเสียงให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาให้แฟนคลับได้ซื้อไว้ฟังเพลงได้ตามชอบและยังปรับแต่งโทนเสียงของหูฟังให้ถูกใจกว่าเดิมได้ง่ายๆ ด้วยแอพฯ ของทางแบรนด์ได้อีกด้วย
ข้อดีของหูฟัง True Wireless นอกจากไม่มีสายหูฟังมาเกะกะและเสี่ยงโดนเกี่ยวหลุดได้แล้ว แทบทุกรุ่นจะมีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอกไม่ให้รบกวนเสียงเพลงหรือ Podcast ให้ฟังเนื้อหาได้ครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ร้อยแปดให้ใช้ไม่ว่าจะกันน้ำกันฝุ่นให้สวมออกกำลังกายในยิมได้, ปรับจูน EQ และเซ็ตลูกเล่นเฉพาะหูฟังตัวนั้นได้ตามชอบให้ตรงกับรสนิยมและความถนัดของผู้ใช้แต่ละคนยิ่งขึ้น ยิ่งใช้ยิ่งเข้ากับเจ้าของกว่าเดิม
หูฟัง True Wireless น่าใช้อย่างไร?
- ฟังก์ชั่นพื้นฐานของหูฟัง True Wireless แทบทุกรุ่น จะมีระบบตัดเสียงรบกวนติดมาให้เป็นพื้นฐานเพื่อให้เจ้าของฟังเพลงได้เต็มอิ่มขึ้น
- หูฟัง True Wireless บางรุ่นจะมีฟีเจอร์เชื่อมต่อรวดเร็วด้วย Google Fast Pair เพียงเปิดฝาก็จับคู่กับมือถือของเราได้ทันที และถ้ามี Multipoint connection จะเชื่อมต่อสองอุปกรณ์ได้พร้อมกัน
- หูฟัง True Wireless จากผู้ผลิตสมาร์ทโฟน เช่น Apple, Samsung มักดีไซน์ระบบให้ใช้กับสมาร์ทโฟนในเครือได้ดีกว่าและใช้ได้ครบทุกฟีเจอร์ ถ้าเชื่อมต่อกับมือถือแบรนด์อื่นจะใช้งานได้จำกัด
- หูฟัง True Wireless ราคาสูงหลายรุ่นจะรองรับ LDAC Codec ให้ฟังเพลงผ่านทาง Bluetooth คุณภาพเสียงจะดีมีรายละเอียดสูง พัฒนาโดย Sony ปัจจุบันเป็น Open-source แบบ Apache Lincese 2.0
- โหมดความหน่วงต่ำ (Low Latency) หรือ Game Mode ทำให้เวลาเล่นเกมมือถือแล้วสัญญาณเสียงจะรวดเร็วเท่ากับการต่อหูฟังสายตามปกติ แต่แบตเตอรี่จะหมดเร็วขึ้น
- เมื่อซื้อหูฟัง True Wireless มาแล้ว แนะนำให้ดาวน์โหลดแอพฯ มาติดตั้งเพิ่มเพื่อตั้งค่าหูฟังเพิ่มด้วย ยกเว้น Apple AirPods ถ้าใช้กับสมาร์ทโฟน Android จะไม่มีแอพฯ ให้ติดตั้ง เพราะถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของระบบ iOS ไปแล้ว

7 หูฟัง True Wireless น่าใช้ เล่นเกมก็ได้ฟังเพลงก็ไพเราะ!
- Black Shark T11 (999 บาท)
- Anker Soundcore Space A40 (1,590 บาท)
- Sony WF-C710N (3,257 บาท)
- Edifier Neobuds Pro 3 (4,290 บาท)
- Bose QuietComfort Earbuds (5,140 บาท)
- Nothing Ear True Wireless (5,599 บาท)
- Sennheiser Momentum True Wireless 4 (7,690 บาท)
1. Black Shark T11 (999 บาท)

| Drivers & Frequency response | Dynamic Driver 13 mm. 20Hz~20kHz |
| Connectivity & Codec & Software | USB-C Bluetooth 5.3 SBC AAC Shark Arsenal |
| Battery life | Bluetooth ใช้งานได้ 5 ชม. รวมเวลาชาร์จในเคสได้นานสุด 30 ชม. ชาร์จด้วย USB-C |
| Features | Game Mode ENC เสียงเปิดเคสและไฟ RGB IPX4 |
| Price | 999 บาท (Black Shark Shopee Mall) |
Black Shark T11 เป็นหูฟังไร้สายเพื่อคนชอบเล่นเกมมือถือโดยเฉพาะ มี Game Mode ให้ใช้ลดดีเลย์การรับส่งข้อมูลเสียงให้เหลือ 45ms เท่านั้น ทำให้เสียงกับภาพตรงกันให้ผู้เล่นตอบสนองกับเกมได้รวดเร็วจึงเหมาะกับเกม FPS มาก แถมเสริมลูกเล่นเสียงสไลด์เปิด/ปิดกล่องเคสแล้วจะมีเสียงเหมือนชักดาบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวยิ่งขึ้น กรณีใช้ฟังเพลงจะใช้ได้นานสุด 5 ชม. และวนชาร์จในเคสได้อีกรวมระยะเวลาได้ 30 ชม. พอให้ฟังจนจบได้หลายอัลบั้มทีเดียว แถมยังกันน้ำกับฝุ่นระดับ IPX4 จึงใช้ระหว่างออกกำลังกายได้โดนเหงื่อไม่เสียหายแน่นอน ถ้าใครกำลังอยากได้หูฟังใหม่ไว้ใช้งานทั่วไปก็เหมาะเช่นกัน
จุดน่าเสียดายคือ แอพฯ Shark Arsenal สำหรับตั้งค่าหูฟังต้องโหลดจากหน้าเว็บไซต์ของ Black Shark มาติดตั้งแยกเท่านั้น ไม่มีให้ดาวน์โหลดใน Android Play Store และ iOS App Store จึงยุ่งยากกว่าหูฟังไร้สายรุ่นอื่นอยู่บ้าง
ข้อดี
- เป็นหูฟังเกมมิ่งราคาไม่แพงเพียง 999 บาทเท่านั้น
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานรวมการชาร์จในเคสได้ 30 ชม.
- มี Game Mode ลดดีเลย์เสียงเวลาเล่นเกม
- มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ ENC เพื่อลดเสียงภายนอกได้
ข้อสังเกต
- แอพฯ ตั้งค่าหูฟังต้องดาวน์โหลดผ่านหน้าเว็บ Black Shark ไม่มีใน Play Store, App Store
2. Anker Soundcore Space A40 (1,590 บาท)

| Drivers & Frequency response | Dynamic Driver 20Hz~20kHz |
| Connectivity & Codec & Software | USB-C Bluetooth 5.3 SBC AAC Soundcore App |
| Battery life | Bluetooth ใช้งานได้ 10 ชม. รวมเวลาชาร์จในเคสได้นานสุด 50 ชม. ชาร์จด้วย USB-C ชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้ได้ 4 ชม. |
| Features | Adaptive ANC IPX4 Multipoint connection Hi-Res Audio Wireless LDAC Wireless charging Touch control |
| Price | 1,590 บาท (Soundcore Shopee Mall) |
ถึง Anker จะเด่นเรื่องอะแดปเตอร์และสายชาร์จ แต่หูฟัง Anker Soundcore Space A40 รุ่นนี้ก็ไม่ควรมองข้ามและทางบริษัทก็ปรับแต่งเสียงมาให้เหมาะกับคนรักการฟังเพลงยิ่งขึ้น แถมยังรองรับ LDAC Codec จึงได้การรับรอง Hi-Res Audio Wireless ทำให้รายละเอียดเสียงเวลาฟังเพลงดียิ่งขึ้น แถมยังปรับแต่งฟังก์ชั่นต่างๆ ในแอพฯ Soundcore ได้ตามชอบ รองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกัน (Multipoint connection) ทำให้ต่อหูฟังกับมือถือและโน๊ตบุ๊คแล้วสลับใช้งานได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องกดสลับอุปกรณ์ไปมาให้ยุ่งยากอีกด้วย ระยะเวลาใช้งานก็ยาวนานถึง 10 ชม. ต่อรอบ ดังนั้นถ้าใครชอบใส่หูฟังทั้งวันก็ไม่ต้องถอดออกมาชาร์จในเคสบ่อยๆ ก็ได้ หรือถ้าจำเป็นก็มีระบบชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้งานได้ 4 ชม. ทีเดียว
ข้อดี
- มีระบบตัดเสียง Adaptive ANC ช่วยตัดเสียงรบกวนให้ฟังเพลงได้ดีขึ้น
- รองรับ LDAC Codec ฟังเพลงได้คมชัด รองรับ Hi-Res Audio Wireless
- ฟังเพลงต่อเนื่องได้ 10 ชม. รวมชาร์จในเคสได้นานสุด 50 ชม.
- ตัวเคสรองรับการชาร์จไร้สาย ไม่ต้องต่อสาย USB-C ก็ได้
- ตั้งค่าการใช้งานได้ผ่านแอพฯ Soundcore ให้เข้ากับการใช้งานส่วนตัวได้
- มีโหมด Multipoint connection ให้ต่อสมาร์ทโฟนและโน๊ตบุ๊คได้พร้อมกัน
ข้อสังเกต
- เป็นหูฟังแบบ In-Ear บางคนสวมแล้วอาจรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง
3. Sony WF-C710N (3,257 บาท)

| Drivers & Frequency response | Dynamic Driver 5 mm. 20Hz~20kHz |
| Connectivity & Codec & Software | USB-C Bluetooth 5.3 NFC SBC AAC Sony Sound Connect App |
| Battery life | Bluetooth เปิดตัดเสียงรบกวน 8.5 ชม. ปิดตัดเสียงรบกวน 12 ชม. รวมเวลาชาร์จในเคสได้นานสุด 40 ชม. ชาร์จด้วย USB-C |
| Features | Sony DSEE NFC Ambient sound Noise cancelling Quick Attention Touch control IPX4 |
| Price | 3,257 บาท (Sony Shopee Mall) |
Sony WF-C710N เป็นหูฟัง True Wireless รุ่นราคาคุ้มค่าและติดฟีเจอร์ใช้งานมาไม่แพ้รุ่นเรือธงอย่างแน่นอน ทั้งระยะเวลาใช้งานยาวนานรวมชาร์จในเคสแล้วจะใช้ได้ถึง 40 ชม. ต่อครั้ง ตั้งค่าการทำงานผ่านแอพฯ Sound Connect ได้ง่าย ไม่ว่าจะปรับแต่ง EQ, ระบบตัดเสียงรบกวน หรือแม้แต่เปิดใช้อัลกอริธึ่ม Sony DSEE ไว้เติมรายละเอียดเสียงเพลงให้มีมิติยิ่งขึ้นและกันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX4 ดังนั้นจะสวมใช้งานเวลาออกกำลังกายก็ไม่มีปัญหา ลูกเล่นพิเศษสำหรับคนทำงานก็มีระบบ Multipoint Connection ให้ต่อมือถือและโน๊ตบุ๊คพร้อมกันและสลับใช้งานโดยอัตโนมัติ ให้เจ้าของไม่ต้องซื้อหูฟังแยกสองสามตัวให้เปลืองเงินเพิ่ม หากผู้อ่านท่านไหนสนใจหูฟัง Sony รุ่นนี้อยู่แล้วสามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่
ส่วนข้อสังเกตของหูฟัง Sony ตัวนี้ คือ ไม่รองรับ LDAC Codec เหมือนหูฟังรุ่นอื่น เสียงจึงไม่ได้ระดับ Hi-Res แต่ยังชดเชยได้ด้วย Sony DSEE และเวลาชาร์จต้องต่อสาย USB-C เท่านั้น ไม่รองรับการชาร์จไร้สายจึงน่าเสียดายอยู่บ้าง
ข้อดี
- ใช้งานได้นาน 8.5~12 ชม. ต่อการชาร์จ ใช้ฟังเพลงได้นานพอควร
- ตั้งค่าด้วยแอพฯ Sound Connect ให้เนื้อเสียงเป็นตามต้องการได้
- รองรับ Multipoint connection เชื่อมต่อมือถือและโน๊ตบุ๊คพร้อมกันได้
- มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC ในตัว จัดการเสียงภายนอกได้เป็นอย่างดี
- มีฟีเจอร์ Sony DSEE ช่วยเพิ่มรายละเอียดเสียงให้ดีขึ้น ฟังเพลงได้ดีกว่าเดิม
- มีรุ่นเคสใสให้เลือกซื้อเพื่อคนชอบดูดีไซน์ภายในตัวหูฟังได้ด้วย
ข้อสังเกต
- ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย ต้องต่อสาย USB-C เท่านั้น
- ไม่รองรับ LDAC Codec เหมือนหูฟังรุ่นอื่น
4. Edifier Neobuds Pro 3 (4,290 บาท)

| Drivers & Frequency response | Dynamic Driver with DSP 20Hz~40kHz |
| Connectivity & Codec & Software | USB-C Bluetooth 5.4 LHDC 5.0 LDAC EDIFIER ConneX App |
| Battery life | Bluetooth ใช้งานรวมชาร์จด้วยเคสได้นาน 36 ชม. ชาร์จด้วย USB-C ชาร์จเร็ว 15 นาที ใช้ได้ 3 ชม. |
| Features | Google Fast Pair Multipoint connection Gaming mode Wear Detection Spatial Audio Hi-Res Audio Wireless Adaptive Noise Cancelling Touch control Microphone with AI algorithm IP54 |
| Price | 4,290 บาท (Edifier Shopee Mall) |
แบรนด์ Edifier ขึ้นชื่อเรื่องลำโพงและหูฟัง True Wireless คุณภาพดีเกินค่าตัวมาตลอดจนเป็นตัวเลือกแรกๆ ของคนชอบฟังเพลง อย่างหูฟังไร้สาย Edifier Neobuds Pro 3 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ก็น่าสนใจมากและยังให้ฟีเจอร์มามากมายเช่นเดิม ไม่ว่าจะปรับปรุงตำแหน่ง Touch control ให้แตะใช้งานง่ายขึ้น มี Google Fast Pair ไว้เชื่อมต่อมือถือ Android ได้รวดเร็ว, Multipoint connection ให้เชื่อมต่อมือถือกับโน๊ตบุ๊คได้พร้อมกัน, Wear Detection จับการสวมและถอดหูฟัง, Spatial Audio ให้จำลองทิศทางเสียงได้สมจริง, Adaptive Noise cancelling ตัดเสียงรบกวนได้ดีขึ้น เสริมด้วย Game mode ไว้ลดดีเลย์เสียงเวลาเล่นเกมผ่านทางมือถือได้ แถมยังรองรับ Codec อย่าง LHDC 5.0 กับ LDAC ทำให้ได้เสียง Hi-Res ไร้สายอีกด้วย หากใครรักการฟังเพลงแนะนำให้ซื้อหูฟังนี้ไว้ใช้ได้เลย
อย่างไรก็ตาม Edifier Neobuds Pro 3 จะชาร์จด้วยสาย USB-C เท่านั้น ไม่รองรับการชาร์จไร้สายเหมือนรุ่นอื่น แถมตัวหูฟังเป็นแบบ In-Ear อาจจะไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้บางคนเพราะสวมใส่แล้วอาจจะอึดอัดไปบ้าง แต่แลกกับฟีเจอร์ครบเครื่องระดับนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ข้อดี
- ไดรเวอร์หูฟังเสริม DSP ตอบสนองความถี่เสียงกว้างตั้งแต่ 20Hz~40kHz
- รองรับเสียง Hi-Res Audio Wireless ด้วย LHDC 5.0, LDAC Codec
- เชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 ให้เสียงคมชัดเชื่อมต่อเสียงไร้สะดุด
- ใช้งานรวมกับเคสชาร์จได้นานสุด 36 ชม. ไม่ต้องชาร์จไฟบ่อยนัก
- รองรับ Multipoint connection เชื่อมต่อพีซีและสมาร์ทโฟนได้พร้อมกัน
- เชื่อมต่อมือถือ Android ได้รวดเร็วด้วยฟีเจอร์ Google Fast Pair
- มี Game Mode ไว้ลดความหน่วงเสียงเวลาเล่นเกมให้เล่นได้ดียิ่งขึ้น
- จำลองเสียงรอบทิศทางแบบ Spatial Audio ให้ฟังเพลงได้สมจริง
- ไมโครโฟนแบบ 4+4 ตัว พร้อมระบบตัดเสียงด้วย AI algorithm
- ตั้งค่าหูฟังด้วยแอพฯ EDIFIER ConneX ได้ทันที
ข้อสังเกต
- ชาร์จด้วยสาย USB-C เท่านั้น ไม่รองรับการชาร์จไร้สายเหมือนรุ่นอื่น
- หูฟังเป็นแบบ In-Ear บางคนเวลาสวมแล้วอาจอึดอัดอยู่บ้าง
5. Bose QuietComfort Earbuds (5,140 บาท)

| Drivers & Frequency response | Dynamic Driver 20Hz~20kHz |
| Connectivity & Codec & Software | USB-C Bluetooth 5.3 SBC AAC A2DP Bose QCE |
| Battery life | Bluetooth เปิดตัดเสียงรบกวน 8.5 ชม. ใช้งานรวมชาร์จด้วยเคสได้นาน 31.5 ชม. ชาร์จด้วย USB-C |
| Features | Adjustable Noise Cancelling Multipoint Connection Hi-Fi Sound IPX4 |
| Price | 5,140 บาท (Asavasopon Shopee Mall) |
คนชอบฟังเพลงและเล่นเครื่องเสียงมาก่อนย่อมรู้จักแบรนด์ Bose เป็นอย่างดีว่าผลิตลำโพงคุณภาพดี เด่นเรื่องเสียงเบสและรายละเอียดเสียงมากก็มีหูฟัง True Wireless อย่าง Bose QuietComfort Earbuds ให้เลือกและยกเอาจุดเด่นของแบรนด์อย่างเสียงเบสหนักแน่นฟังสนุก เก็บรายละเอียดเสียงได้เป็นอย่างดีมาครบถ้วนแล้ว ยังตัดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดีแถมปรับระดับได้ว่าต้องการให้ตัดเสียงมากเท่าไหร่และอยากให้ EQ เสียงเป็นแบบไหนก็เซ็ตอัพได้ง่ายๆ ในแอพฯ Bose QCE แถมได้เสียงระดับ Hi-Fi ด้วย
นอกจากฟังก์ชั่นแล้ว แง่การใช้งานในชีวิตประจำวัน Bose QuietComfort นี้ก็น่าสนใจ ทั้งกันน้ำและฝุ่นระดับ IPX4 จึงใส่ออกกำลังกายได้ไม่ว่าจะเข้ายิมหรือวิ่งออกกำลังกายตามปกติก็ไม่มีปัญหา เวลานั่งทำงานในออฟฟิศก็มีระบบเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ (Multipoint Connection) ให้ต่อมือถือและโน๊ตบุ๊คได้พร้อมกัน ไม่ต้องสลับการเชื่อมต่อไปมาให้เสียเวลาแถมฟังเพลงได้นาน 8.5 ชม. จึงสวมใช้งานได้แทบทั้งวันแน่นอน หากใครชอบโทนเสียงของ Bose อยู่แล้ว หูฟังตัวนี้ก็จัดว่าน่าสนใจมาก
ข้อดี
- คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi ฟังเพลงได้อรรถรสและรายละเอียดเสียงดียิ่งขึ้น
- ตั้งค่าและเซ็ตอัพฟังก์ชั่นของหูฟังผ่านแอพฯ Bose QCE ได้
- ระบบการตัดเสียงรบกวนเป็นแบบ Adjustable ปรับแต่งการทำงานได้ตามชอบ
- รองรับ Multipoint Connection เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ 2 ชิ้น พร้อมกัน
- กันน้ำและฝุ่นระดับ IPX4 สวมใช้งานเวลาออกกำลังกายในยิมได้
ข้อสังเกต
- ต้องชาร์จด้วยสาย USB-C เท่านั้น ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย
6. Nothing Ear True Wireless (5,599 บาท)

| Drivers & Frequency response | Dynamic Driver 11 mm. 20Hz~20kHz |
| Connectivity & Codec & Software | USB-C Bluetooth 5.3 LHDC 5.0 LDAC SBC AAC Nothing X |
| Battery life | Bluetooth เปิดตัดเสียงรบกวน 5.2 ชม. ใช้งานรวมชาร์จด้วยเคสได้นาน 24 ชม. ปิดตัดเสียงรบกวน 8.5 ชม. ใช้งานรวมชาร์จด้วยเคสได้นาน 40.5 ชม. ชาร์จด้วย USB-C ชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้ได้ 10 ชม. |
| Features | Smart ANC Algorithm Transparency mode IP54 Google Fast Pair Microsoft Swift Pair Multipoint Connection Low Lag Mode 24-bit Hi-Res Audio |
| Price | 5,599 บาท (Pro Gadgets Shopee Mall) |
หูฟัง True Wireless จากแบรนด์ Nothing ที่เน้นเรื่องดีไซน์เป็นพิเศษอย่าง Nothing Ear True Wireless นอกจากได้เรื่องดีไซน์สวยไม่เหมือนใครแล้ว คุณภาพเสียงก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน เพราะ Dynamic Driver ขนาด 11 มม. ตัวนี้ รองรับเสียง 24-bit Hi-Res Audio กับ Codec LHDC 5.0, LDAC ครบเครื่อง จึงฟังเพลงได้ดีมากแถมปรับแต่ง EQ ได้ในแอพฯ Nothing X แถมถ้าเพื่อนคนไหนใช้หูฟังแบรนด์เดียวกันก็แชร์โปรไฟล์ EQ ให้เพื่อนผ่าน QR Code ได้ด้วย เป็นลูกเล่นเล็กๆ แต่มีประโยชน์มาก
ฟีเจอร์เพิ่มคุณภาพชีวิตอย่างระบบจับคู่อุปกรณ์อย่างรวดเร็วก็รองรับทั้ง Google Fast Pair, Microsoft Swift Pair แถมมี Multipoint Connection เวลาซื้อมาใช้ก็จับคู่กับมือถือและต่อคอมใช้งานได้พร้อมกันและตัดสลับการทำงานโดยอัตโนมัติ มี Low Lag Mode ลดความหน่วงเวลาเล่นเกมเสริมมาให้ในตัวและยังตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ แต่ถ้าใช้งานระยะเวลาจะลดจาก 8.5 เหลือ 5.2 ชม. แต่ก็ยังชดเชยด้วยฟีเจอร์ชาร์จเร็วโดยเก็บเข้ากล่องเพียง 10 นาที ก็หยิบออกมาใช้ฟังเพลงต่อได้อีกหลายชั่วโมงแล้ว
ข้อดี
- มีระบบจับคู่รวดเร็วอย่าง Google Fast Pair กับ Microsoft Swift Pair ให้ใช้งาน
- รองรับ Codec เสียงรายละเอียดสูงอย่าง LHDC 5.0, LDAC เหมาะกับการฟังเพลงมาก
- เสียงมีความคมชัดสูงระดับ 24-bit Hi-Res Audio เก็บรายละเอียดเสียงได้คมชัดขึ้น
- กันน้ำและฝุ่นระดับ IP54 สวมใส่เพื่อออกกำลังกายได้
- เชื่อมต่อได้สองอุปกรณ์พร้อมกันด้วย Multipoint Connection
- มี Low Lag Mode ให้เปิดใช้เวลาต้องการเล่นเกม ช่วยลดความหน่วงลง
- รองรับการชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้ได้ 10 ชม. และระยะเวลาใช้งานนานสุดถึง 40.5 ชม.
- ตั้งค่าโหมดการทำงานและ EQ ของหูฟังและแชร์ให้เพื่อนในแอพฯ Nothing X ได้
ข้อสังเกต
- ดีไซน์เป็นแบบ In-Ear ผู้ใช้บางคนเวลาสวมแล้วอาจรู้สึกอึดอัดได้
- ถ้าเปิดระบบตัดเสียงรบกวนจะใช้ได้ราว 5.2 ชม. เท่านั้น สั้นกว่าแบรนด์อื่นพอควร
7. Sennheiser Momentum True Wireless 4 (7,690 บาท)

| Drivers & Frequency response | TrueResponse Dynamic Driver 7 mm. 5Hz~21kHz |
| Connectivity & Codec & Software | USB-C Bluetooth 5.4 SBC AAC aptX aptX Adaptive/Lossless LC3 Sennheiser Smart Control Plus App |
| Battery life | Bluetooth เปิดตัดเสียงรบกวน 7 ชม. ปิดตัดเสียงรบกวน 7.5 ชม. ใช้งานรวมชาร์จด้วยเคสได้นาน 30 ชม. ชาร์จด้วย USB-C Qi Wireless Charging |
| Features | Adapative Noise Cancellation Sound personalization Lossless Audio 24-bit Transparency Mode IP54 Auracast Qi Wireless Charging case |
| Price | 7,690 บาท (Sennheiser Shopee Mall) |
นอกจาก Bose แล้ว แบรนด์เครื่องเสียงคุณภาพสูงระดับ Audiophile อย่าง Sennheiser ก็มีหูฟัง True Wireless เพื่อการฟังเพลงโดยเฉพาะอย่าง Sennheiser Momentum True Wireless 4 ให้เลือก แม้ฟีเจอร์จะไม่ได้มีมากมายเหมือนรุ่นอื่น แต่จุดเด่นอยู่ตรงไดรเวอร์ TrueResponse ซึ่งมีค่า Frequency Response ต่ำเพียง 5Hz เท่านั้น เวลาลงเสียงต่ำจะได้ความทุ้มหนักแน่นกว่า True Wireless รุ่นอื่นและเซ็ตตั้งค่า EQ ในแอพฯ Sennheiser Smart Control Plus ได้ตามต้องการ แถมยังรองรับ Codec ทั้ง LC3, aptX และ aptX Adaptive/Lossless ทำให้รายละเอียดเสียงดีคมชัดขึ้น แถมถ้าใครเคยใช้หูฟังซีรีส์นี้มาก่อนจะรู้ว่ามันจับสัญญาณ Bluetooth กับมือถือได้ดีมากไม่ขาดหายง่าย
อย่างไรก็ตาม Momentum True Wireless 4 ไม่มีฟีเจอร์เพิ่มคุณภาพชีวิตติดมาให้อย่างที่ควร เช่น Multipoint Connection, Google Fast Pair, Microsoft Swift Pair, Attention Mode ฯลฯ มันจึงเหมาะกับการสวมเพื่อฟังเพลงเวลาเดินทางหรือออกกำลังกายเป็นหลัก หากอยากได้ฟีเจอร์ใช้งานหลากหลายจะไม่เหมาะนัก
ข้อดี
- ไดรเวอร์ TrueResponse มีค่า Freqeuncy Response ต่ำถึง 5Hz ได้เสียงเบสลึก
- รองรับเสียง Lossless Audio 24-bit ให้รายละเอียดเสียงดีเป็นพิเศษ
- รองรับ Codec กลุ่ม aptX, aptX Adaptive/Lossless และ LC3 ให้รายละเอียดเสียงดีขึ้น
- ปรับแต่งโทนเสียงและฟังก์ชั่นการใช้งานได้ด้วยแอพฯ Sennheiser Smart Control Plus
- ตัวเคสสามารถชาร์จไร้สายได้ ไม่ต้องต่อสาย USB-C เสมอเวลาจะชาร์จ
- กันน้ำและฝุ่นระดับ IP54 สามารถสวมแล้วออกกำลังกายได้ โดนเหงื่อแล้วไม่เสียหาย
- มี Auracast แชร์เสียงจากมือถือไป Momentum True Wireless 4 ได้พร้อมกันหลายตัว
ข้อสังเกต
- ราคาเทียบกับหูฟัง True Wireless รุ่นอื่นถือว่าค่อนข้างสูงถึง 7,690 บาท
- ไม่มีฟีเจอร์เพิ่มคุณภาพชีวิตและความสะดวกติดมาให้เหมือนหูฟังรุ่นอื่นๆ
สรุปสเปค 7 หูฟัง True Wireless น่าใช้ ฟังเพลงเพลินฟีเจอร์แน่น!




สำหรับคนรักการดูหนังฟังเพลงแล้ว หูฟัง True Wireless ก็เป็นอุปกรณ์สำคัญคู่สมาร์ทโฟนและโน๊ตบุ๊คอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแค่หยิบออกจากกล่องมันก็เชื่อมต่อด้วย Bluetooth ได้ทันที ถ้าเปิดระบบตัดเสียงรบกวนก็สามารถดื่มด่ำกับคอนเทนต์โปรดได้โดยไม่มีเสียงอื่นมารบกวนให้เสียอารมณ์ ไม่มีสายเชื่อมต่อให้ต้องระวังว่าจะมีอะไรมาโดนให้สายหลุดหรือดึงเครื่องให้พังเสียหายแม้แต่น้อย
วิธีการเลือกหูฟัง True Wireless ให้ตรงใจ จะซื้อให้อยู่ใน Ecosystem เดียวกันแบบนี้จะใช้งานได้สะดวกเพราะหูฟังตัวเดียวพ่วงเข้ากับแก็ดเจ็ตได้ทุกชิ้นหรือไม่ก็ซื้อตามโทนเสียงที่ชอบไปเลยแล้วตั้งค่าผ่านแอพฯ ของหูฟังแบรนด์นั้นๆ ไปเลยก็ได้ แต่วิธีหลังแนะนำให้หายืมจากคนใกล้ตัวหรือไปร้านขายหูฟังทดลองฟังเพลงโปรดสัก 2-3 เพลงก่อนจะดีกว่า เพราะรสนิยมและสไตล์การฟังเพลงของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางทีหูฟังตัวโปรดของเพื่อนอาจจะไม่ถูกใจเราก็ได้ ดังนั้นวิธีที่ดีสุดคือให้หูและรสนิยมของเราตัดสินจะได้ไม่เสียใจภายหลัง
บทความที่เกี่ยวข้อง





