
Windows 11 อัปเดตใหญ่ส่งท้ายปี — เมนู Start ใหม่หมดจด
Microsoft เริ่มปล่อยอัปเดตใหญ่ประจำเดือนตุลาคม 2025 ในชื่อ KB5067036 ให้กับ Windows 11 เวอร์ชัน 25H2 และ 24H2 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนโฉมครั้งสำคัญของระบบ โดยมีจุดเด่นคือ Start Menu ดีไซน์ใหม่ ที่ออกแบบให้เรียบง่าย ค้นหาแอปได้เร็ว และปรับแต่งได้ตามใจผู้ใช้
อัปเดตนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่หลายส่วน เช่น ระบบแสดงแบตเตอรี่สีสันสดใส การปรับปรุง File Explorer และ Taskbar ให้ตอบสนองดีขึ้น รวมถึงการอัปเกรดฟีเจอร์สำหรับ Copilot+ PC ซึ่งใช้ประโยชน์จาก NPU หรือชิป AI ภายในเครื่องได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ KB5067036 เป็นอัปเดตแบบ Optional (ไม่บังคับติดตั้ง) แต่สามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Windows Update ทันที และจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วโลกในช่วงปลายเดือนตุลาคม
จุดเด่นหลัก: Start Menu ดีไซน์ใหม่ ใช้งานง่าย และปรับแต่งได้มากกว่าเดิม
1. All Apps แบบ Scrollable
หน้าหลักของ Start Menu มีส่วน “All” ที่เลื่อนขึ้นลงได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องเปลี่ยนหน้า ช่วยให้ค้นหาแอปได้สะดวกกว่าเดิม โดยเฉพาะคนที่ติดตั้งแอปจำนวนมาก
2. เลือกมุมมองได้ 2 แบบ
- Category View: จัดกลุ่มแอปตามประเภท เช่น งานเอกสาร บันเทิง หรือเครื่องมือระบบ พร้อมเน้นแอปที่ใช้งานบ่อย
- Grid View: เรียงตามตัวอักษรในตาราง ใช้พื้นที่แนวนอนมากขึ้น และเมนูจะจำมุมมองล่าสุดของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ
3. Responsive Layout อัจฉริยะ
Start Menu จะปรับการแสดงผลตามขนาดหน้าจอ จอใหญ่จะเห็นพินแอปและหมวดหมู่เพิ่มขึ้น ส่วนจอเล็กจะย่อให้ดูเรียบ และเว้นพื้นที่ส่วนที่ไม่จำเป็นให้อัตโนมัติ
4. ปิด Recommended ได้แล้ว
หนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้เรียกร้องมากที่สุดคือ การสามารถ “ปิดส่วน Recommended” ได้อย่างสมบูรณ์ เพียงเข้าไปที่ Settings > Personalization > Start ช่วยให้หน้า Start ดูสะอาด แสดงเฉพาะแอปที่ต้องการจริง ๆ
5. ปุ่ม Phone Link เชื่อมมือถือ
เพิ่มปุ่มใหม่ข้างช่องค้นหา สำหรับย่อหรือขยายเนื้อหาจากสมาร์ตโฟนที่เชื่อมต่อ ทั้ง Android และ iPhone โดยจะทยอยเปิดใช้งานในบางภูมิภาค รวมถึง EEA ในปี 2025

File Explorer และ Taskbar ปรับปรุงการใช้งานให้ลื่นขึ้น
- หน้า Home ของ File Explorer เพิ่มส่วน Recommended Files ที่แสดงเอกสารหรือภาพที่เปิดล่าสุด สามารถปิดได้หากไม่ต้องการ
- เปิด StorageProvider API สำหรับผู้ให้บริการ Cloud อย่าง OneDrive หรือ Dropbox ให้เชื่อมต่อกับ File Explorer ได้โดยตรง
- แก้บั๊กเก่าหลายจุด เช่น เมนู คลิกขวาที่สลับไปมาระหว่าง Show More Options, โฟลเดอร์ที่รีเซ็ตมุมมองเอง, การแตกไฟล์ขนาดใหญ่ล้มเหลว และอาการค้างของ File Explorer เมื่อเปิดหน้า Home
Taskbar และ Lock Screen ก็ได้รับดีไซน์ใหม่ในส่วนของ ไอคอนแบตเตอรี่ โดยใช้สีเพื่อสื่อสถานะ:
- เขียว = กำลังชาร์จและอยู่ในสภาพดี
- เหลือง = เปิดโหมด Battery Saver (ต่ำกว่า 20%)
- แดง = แบตเตอรี่ใกล้หมด
ผู้ใช้ยังสามารถเปิดแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ข้างไอคอนได้ที่ Settings > System > Power & Battery
ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Copilot+ PC รุ่นรองรับ AI
Microsoft ยังเพิ่มความสามารถเฉพาะให้กับเครื่อง Copilot+ PC ซึ่งใช้ชิป AI ภายในเครื่อง เช่น Qualcomm Snapdragon X หรือ AMD Ryzen AI 300 เพื่อรองรับการทำงานแบบเรียลไทม์
Click to Do
- พิมพ์พรอมป์ส่งคำสั่งได้โดยตรงในกล่อง Copilot พร้อมคำแนะนำอัตโนมัติจากโมเดล Phi-Silica ในเครื่อง
- แปลข้อความบนหน้าจออัตโนมัติเมื่อพบภาษาที่ต่างจากภาษาระบบ
- แปลงหน่วยวัดได้ทันที เช่น ความยาว อุณหภูมิ ความเร็ว เพียงวางเมาส์เหนือค่า
- รองรับโหมดเลือกอิสระ Freeform, Rectangle และ Ctrl + Click เพื่อเลือกข้อความหรือรูปหลายรายการ
Fluid Dictation (Voice Access)
- ระบบพิมพ์ด้วยเสียงรุ่นใหม่ แก้ไวยากรณ์และวรรคตอนอัตโนมัติ ตอบสนองเร็ว และประมวลผลในเครื่อง (SLMs)
- ตั้งเวลาหน่วงก่อนสั่งงานด้วยเสียงได้ใน Voice Access Settings
- เพิ่มการรองรับภาษา ญี่ปุ่น สำหรับการสั่งงานด้วยเสียง
การตั้งค่าและความปลอดภัย
- เปลี่ยนชื่อเมนู Email & accounts เป็น Your accounts รวมการจัดการบัญชีทั้งหมดไว้ในที่เดียว
- เพิ่มฟีเจอร์ Administrator Protection (Preview) เพื่อป้องกันสิทธิ์ Admin ลอยตัว อนุญาตให้ใช้สิทธิ์แบบ Just-in-Time เมื่อจำเป็นเท่านั้น เปิดใช้ได้ผ่าน Group Policy หรือ Microsoft Intune
การแก้บั๊กและปรับปรุงเสถียรภาพให้กับ Windows 11
อัปเดตนี้ยังแก้ไขปัญหาหลายรายการที่ผู้ใช้พบในรุ่นก่อนหน้า เช่น
- แก้ข้อผิดพลาด ACCESS_DENIED เมื่อพยายามเปลี่ยนรหัสผ่านจากระยะไกล
- ปรับปรุง Kerberos และ AD FS ให้ทำงานร่วมกับ Windows Server ได้ราบรื่นขึ้น
- แก้ปัญหาข้อความในบางแอปไม่แสดงครบ หรือกล่องข้อความหลายบรรทัดแสดงผลผิดพลาด
- ปรับให้ Windows Update ทำงานแม่นยำขึ้น เช่น กรณี “Update and Shutdown” ไม่ปิดเครื่องจริงหลังอัปเดต
- เพิ่มความเร็วในการโหลด Taskbar หลังปลุกเครื่องจาก Sleep
ควรอัปเดตตอนนี้หรือรอไปก่อน
อัปเดต KB5067036 เป็นแบบ Optional จึงไม่บังคับติดตั้ง แต่แนะนำสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทดลอง Start Menu โฉมใหม่ และฟีเจอร์ Copilot+ ล่าสุด เพราะเปลี่ยนประสบการณ์ใช้งานให้ทันสมัยและลื่นไหลกว่าที่เคย
ผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรสูงสุดสามารถรอรวมกับอัปเดตประจำเดือน (Patch Tuesday) รอบถัดไปได้ แต่โดยรวม อัปเดตนี้ถือว่าปลอดภัยและมีการแก้บั๊กจำนวนมาก
วิธีติดตั้ง
- ไปที่ Settings > Windows Update
- คลิก Check for updates
- หากพบรายการ KB5067036 ให้เลือก Download and Install
- หลังติดตั้ง ฟีเจอร์ใหม่อาจทยอยเปิดให้ใช้งานในช่วง 1–2 สัปดาห์ถัดไป
สรุป
อัปเดต Windows 11 KB5067036 คือการปรับครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของระบบอย่างชัดเจน โดยเฉพาะ Start Menu ดีไซน์ใหม่ ที่ทั้งเรียบ เร็ว และปรับแต่งได้ พร้อมด้วยการพัฒนา Copilot+ PC ให้ฉลาดขึ้นและตอบสนองต่อผู้ใช้ได้มากกว่าเดิม ใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์ Windows ยุคใหม่ นี่คืออัปเดตที่ไม่ควรพลาด
ที่มา: Neowin





