
ในยุคนี้ AI ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมทั้งในกลุ่มของผู้ใช้งานทั่วไป ที่มีการนำมาใช้อย่างหลากหลาย อาทิ เจ็นภาพขึ้นมาจากข้อความ จากภาพที่มีอยู่ ใช้ช่วยแต่งข้อความ คิดโครงเนื้อหาคอนเทนต์ เป็นต้น ไปจนถึงกลุ่มผู้ที่ต้องการนำ AI มาช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ใช้กับงานที่มีความซับซ้อน เช่น ใช้ช่วยในการเขียนโค้ดโปรแกรม ใช้การสร้างโมเดล AI เพื่อตอบสนองการใช้งานเฉพาะทาง ใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบ ทำให้การเลือกซื้อโน้ตบุ๊ก หลายท่านก็อาจจะต้องมองหาเครื่องที่ใช้งาน AI ได้ดี ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำโน้ตบุ๊ก AMD ที่รองรับการใช้งาน AI โดยคัดมาตามกลุ่มของรูปแบบ ลักษณะการเลือกซื้อที่เทคโนโลยี AI จะช่วยตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันได้
โดยปัจจัยที่จะทำให้โน้ตบุ๊กรุ่นนั้น ๆ สามารถใช้งาน AI ได้ดีก็ต้องพิจารณาที่ CPU/APU เป็นหลัก เพราะภายในจะมีชิปย่อยที่มีชื่อเรียกว่า NPU ไว้ทำหน้าที่ในการประมวลผลงานเชิง AI โดยเฉพาะ นอกจากนี้ฝั่งของ CPU และ iGPU รวมถึง GPU เองก็จะมีความสามารถในการประมวลผล AI ด้วยเช่นกัน แต่ก็ต้องอาศัยการตั้งค่าในโปรแกรมเพื่อเลือกส่วนที่จะนำมาใช้ประมวลผลก่อน โดยถ้าเลือกใช้ CPU แน่นอนว่าก็จะไปส่งผลกับประสิทธิภาพในการประมวลผลหลักของเครื่อง ส่วนถ้าใช้ชิปกราฟิกในการทำงาน ก็จะทำให้มีอัตราการกินไฟของเครื่องที่สูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการมี NPU ที่มีสมรรถนะสูง (ค่า TOPS) สูง ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ได้อย่างตรงจุด เนื่องจาก NPU ได้รับการออกแบบมาเพื่อการทำงานเฉพาะทาง ทำให้สามารถคำนวณงานในลักษณะนี้ได้ดีกว่า เร็วกว่าการใช้ CPU และใช้พลังงานน้อยกว่าการใช้ GPU ในการทำงาน
แต่อย่างไรก็ตาม ฝั่งของซอฟต์แวร์ AI เองก็ต้องมีการออกแบบมาให้สามารถส่งงานไปให้ NPU ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันก็มีการพัฒนากันอยู่อย่างต่อเนื่อง ที่เห็นได้ชัดคือ Microsoft ที่เปิดตัวแพลตฟอร์ม Copilot+ PC ออกมา ซึ่งหนึ่งในข้อกำหนดขั้นต่ำของเครื่องที่จะเข้าเกณฑ์ก็คือต้องมี NPU แยกที่มีประสิทธิภาพขั้นต่ำ 40 TOPS พร้อมกับมีแรมขั้นต่ำ 16GB และ SSD ขั้นต่ำ 256GB ด้วย ที่ก็เป็นสเปคแนะนำขั้นพื้นฐานสุด ๆ ของการเลือกซื้อโน้ตบุ๊กในปี 2025 อยู่แล้ว ทีนี้เรามาดูในแต่ละหัวข้อกันเลย
โน้ตบุ๊ก AMD มี AI รุ่นเริ่มต้นที่น่าใช้งาน
สำหรับเครื่องในกลุ่มนี้ หากคัดมาเป็นรุ่นที่น่าใช้ ซื้อมาแล้วจบ ทำงานได้อีกหลายปี โดยไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเพิ่มก็จะเป็น Lenovo IdeaPad 5 2-in-1 รหัสรุ่นย่อย 83KT000DTA

โดยชิปประมวลผลที่ได้จะเป็น AMD Ryzen AI 7 350 ซึ่งถือเป็นชิปรุ่นระดับกลางค่อยสูงของซีรีส์ AMD Ryzen AI 300 มีคอร์ประมวลผลทั้งหมด 8 คอร์ 16 เธรด ใช้เป็นคอร์สถาปัตยกรรม Zen 5 และ Zen 5c ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานต่อวัตต์ที่สูง มีค่า TDP ปกติที่ 28W ทำให้สามารถใช้งานได้สบาย ๆ โดยแทบไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อน ด้านของ NPU ก็จะมีประสิทธิภาพในการประมวลผล AI สูงสุดถึง 50 TOPS ซึ่งผ่านเกณฑ์ Copilot+ PC และน่าจะช่วยในการทำงานของโปรแกรมอื่น ๆ ที่รองรับการทำงานของ NPU ได้เป็นอย่างดี ส่วนพลังกราฟิกก็จะเป็นแบบออนชิป AMD Radeon 860M ที่ใช้เล่นเกมได้ระดับหนึ่ง ความแรงกำลังพอเหมาะกับการใช้เล่นเกมคลายเครียดบนจอระดับ Full HD 1080p เลย
นอกจากนี้ยังมีจุดอื่นที่ทำให้ IdeaPad เครื่องนี้น่าสนใจก็คือจะได้แรม 24GB แบบออนบอร์ดมาเลย แม้ว่าจะไม่สามารถเพิ่มแรมได้แล้ว แต่แรม 24GB ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่รองรับการทำงานขั้นพื้นฐานได้สบาย จะแชร์ไปให้ iGPU ซัก 8GB ก็ยังไหว ส่วน SSD ก็จะได้มาเลย 1TB เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปได้เลย หน้าจอขนาด 14” อยู่ในระดับที่พกพาได้ง่าย ที่สำคัญคือเป็นจอ OLED รองรับการสัมผัส และยังสามารถพลิกจอไปด้านหลังเพื่อใช้เป็นแบบแท็บเล็ตได้ด้วย ค่าสีระดับ 100% DCI-P3 น้ำหนักเครื่อง 1.5 กิโลกรัม อีกทั้งยังมี Windows 11 Home และ MS Office Home 2024 ตัวเต็มมาให้ด้วย จัดว่าเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นที่ครบเครื่องมาก ๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป การใช้งาน AI ในงบ 32,990 บาท หรือถ้าในช่วงจัดโปรก็อาจเห็นในราคาต่ำกว่า 30,000 ได้เหมือนกัน
โน้ตบุ๊ก AMD งบ 50,000 เน้นเล่นเกม
50,000 บาท น่าจะเป็นหนึ่งในช่วงงบประมาณยอดนิยมสำหรับการซื้อโน้ตบุ๊กเกมมิ่งซักเครื่อง เพราะในปัจจุบันจะได้สเปคที่ค่อนข้างดี CPU หลายคอร์ มีการ์ดจอแยกระดับกลาง จอรีเฟรชเรตสูง มีระบบระบายความร้อนที่เหมาะสม ทำให้สามารถใช้ทั้งในการเล่นเกมและการทำงานที่ต้องการสมรรถนะเครื่องสูงระดับหนึ่ง เช่น ใช้ในการตัดต่อวิดีโอ แต่งภาพ ใช้สำหรับงานพัฒนาโปรแกรม รวมไปถึงผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กอเนกประสงค์ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานทุกประเภทได้ในเครื่องเดียว สำหรับรุ่นที่น่าสนใจของกลุ่มนี้ก็จะเป็น HP Omen 16-ap0119AX เกมมิ่งโน้ตบุ๊กขนาด 16” ที่เปิดราคามา 49,990 บาท

สเปคที่ได้ก็จะเป็น AMD Ryzen AI 7 350 เช่นเดียวกันกับรุ่นแรกในข้างต้น เนื่องจากเป็นชิปรุ่นที่มีประสิทธิภาพตอบโจทย์การทำงานได้หลากหลาย จะต้องการความแรงสำหรับการใช้งานทั่วไปก็ทำได้ดี จะให้ประหยัดพลังงานเมื่อเปิดเครื่องทิ้งไว้โดยมีโปรแกรมทำงานเบื้องหลังก็ทำได้เช่นกัน ด้วยคุณสมบัติของตัว APU ที่ใช้คอร์สองแบบทำงานร่วมกัน คือคอร์ Zen 5 ความเร็วสูงและคอร์ Zen 5c ที่มีชุดคำสั่งเหมือนกัน แต่ลดความเร็วลงมา โดยใส่มาให้อย่างละ 4 คอร์ รวมเป็นมีทั้งหมด 8 คอร์ ส่วน NPU ก็จะได้ประสิทธิภาพสูงสุดระดับ 50 TOPS ซึ่งจะทำให้ HP Omen 16 เครื่องนี้เป็น AI ที่สามารถใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ของแพลตฟอร์ม Copilot+ PC ได้เป็นอย่างดี
ด้วยความเป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊ก แน่นอนว่าก็ต้องมาพร้อมชิปกราฟิกแยก โดยจะได้เป็น RTX 5060 VRAM 8GB GDDR6 ซึ่งเมื่อดูสเปคของจอแล้วก็ต้องบอกว่าเหมาะสมกันดีทีเดียว เพราะได้เห็นจอขนาด 16” IPS ความละเอียดระดับ Full HD+ 1920×1200 165Hz ที่แม้ว่าอาจจะดูความละเอียดน้อยไปหน่อยเมื่อมองว่าเป็นจอขนาดใหญ่ แต่ก็น่าจะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเล่นเกมเฟรมเรตสูง เพราะกำลังพอดี ๆ กับพลังของ GPU แถมยังมีเทคโนโลยีเฟรมเจ็นเข้ามาช่วยอีก น่าจะถูกใจสายเกมแข่งขัน สายอีสปอร์ตทีเดียว
ส่วนสเปคหลักในจุดอื่น ๆ ก็จะได้เป็นแรม DDR5 24GB เป็นแบบ 12GB สองช่อง ทำให้สามารถถอดเปลี่ยนเพื่อเพิ่มแรมในภายหลังได้ ด้านของ SSD ก็จะได้เป็นความจุ 1TB มีพอร์ตแลน GbE มาให้ ส่วนของซอฟต์แวร์ก็จะมี Windows 11 Home ตัวเต็ม แต่ถ้าต้องการใช้งาน MS Office ก็อาจจะต้องซื้อเพิ่มนิดนึง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับกลุ่มของเกมมิ่งโน้ตบุ๊กอยู่แล้ว
โน้ตบุ๊ก AMD งบ 50,000 เน้นทำงาน เน้นกราฟิก
ส่วนถ้าในงบ 50,000 บาทเท่ากัน แต่อยากได้โน้ตบุ๊กทำงาน โน้ตบุ๊กครีเอเตอร์ ต้องการเครื่องที่จอสวย สีตรงเพื่อใช้งานด้านกราฟิก จะมีรุ่นที่น่าสนใจก็คือ Lenovo Yoga Pro 7 รหัสรุ่นย่อย 83HN000STA

ซึ่งในด้านของพลังประมวลผลจะขยับขึ้นมาใช้ชิป AMD Ryzen AI 9 365 ที่เป็นรุ่นสูงขึ้นมาอีกหนึ่งระดับเมื่อเทียบกับ Ryzen AI 7 350 สิ่งที่ได้เพิ่มมาก็คือจำนวนคอร์ Zen 5c ที่เพิ่มจาก 4 เป็น 6 คอร์ ทำให้มีทั้งหมด 10 คอร์ 20 เธรด โดยที่ยังมีค่า TDP พื้นฐาน 28W เท่ากัน ซึ่งการที่มีคอร์เล็กเพิ่มขึ้นมา ก็จะช่วยทำให้สามารถใช้งานหลายโปรแกรมพร้อมกันได้ดีขึ้น เหมาะมากกับผู้ที่จำเป็นต้องเปิดโปรแกรมกราฟิกไปพร้อมกับเปิดเว็บเบราเซอร์ เปิดโปรแกรมแชท ไปจนถึงเปิดเพลงฟังระหว่างทำงานได้แบบสบาย ๆ พลังกราฟิกจะเป็นแบบออนชิป AMD Radeon 880M ที่มีความแรงเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนด้านของ NPU ก็จะยังคงมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ 50 TOPS เท่าเดิม แต่ด้วยจำนวนคอร์ CPU และ iGPU ที่เยอะกว่า ทำให้ค่าประสิทธิภาพรวมของทั้งชิปจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 73 TOPS
ไฮไลท์เด่นของรุ่นนี้จะอยู่ที่หน้าจอขนาด 14.5” OLED ความละเอียดระดับ 2.8K (2880×1800) 120Hz ค่าสีระดับ 100% DCI-P3 และ 100% sRGB มีการคาลิเบรตสีมาจากโรงงาน รองรับ Dolby Vision ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานกราฟิก งานที่ต้องการความแม่นยำของสี ไปจนถึงการใช้เพื่อความบันเทิงได้ดี แรมแบบออนบอร์ด 32GB และได้ SSD 1TB มีพอร์ต USB4 มาให้ ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่มีความเร็วสูงและรองรับ USB4 ได้อย่างเต็มที่ ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 40 Gbps มีลำโพง 4 จุดพร้อมแอมป์ในตัว เพื่อให้ได้เสียงที่มีพลัง ทั้งยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ด้วย ตัวเครื่องมาพร้อม Windows 11 Home และ MS Office ตัวเต็มมาให้ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการใช้ทำงาน
โน้ตบุ๊ก AMD เน้นแรง บาง เบา
ทีนี้หากต้องการโน้ตบุ๊ก AMD ใช้งาน AI แบบเน้นความแรง เน้นเครื่องบางเบา พกสะดวก รวมถึงยังสามารถใช้เล่นเกมได้เกินตัวด้วย ก็จะมีรุ่นที่โดดออกมานั่นคือ ASUS ROG Flow Z13 รุ่นย่อย GZ3022EA-RU087WA ที่โดยการออกแบบแล้วจะเรียกว่าเป็นแท็บเล็ตเกมมิ่ง ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นแบบถอดแยกจากตัวเครื่องได้ ลักษณะแบบเดียวกับ Microsoft Surface นั่นเอง

ต้นกำเนิดของความแรงก็คือชิป AMD Ryzen AI MAX+ 395 ซึ่งในไทยขณะนี้จะมีเพียง ASUS ROG Flow Z13 รุ่นเดียวที่ใช้ชิปซีรีส์ Ryzen AI Max ทั้งยังเป็นรุ่นท็อปสุดของซีรีส์ด้วย จุดเด่นคือใช้คอร์ Zen 5 ทั้งหมด 16 คอร์ ไม่มี Zen 5c มาผสมเลย ทำให้ได้ความแรงแบบจัดเต็มที่สุดของสายชิป AMD Ryzen AI รวมถึงยังได้แคช L3 ถึง 64MB ด้านของ NPU ก็จะเป็นรุ่นเดียวกันคือใช้สถาปัตยกรรม XDNA 2 ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดระดับ 50 TOPS ส่วนถ้ารวมทั้งชิปจะสูงสุดถึง 126 TOPS เลย
สำหรับพลังกราฟิกจะยังคงเป็นแบบออนชิปเช่นกัน แต่จะเป็น AMD Radeon RX 8060S ที่มีการทดสอบแล้ว ได้ความแรงในระดับใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกระดับกลาง ไปจนถึงอดีตรุ่นท็อปหลายรุ่นอยู่เหมือนกัน (ดูผลการทดสอบเพิ่มเติม) โดยความแรงก็จะได้จากกราฟิกคอร์ที่ให้มาสูงถึง 40 คอร์ ทำให้สามารถใช้ในการเล่นเกมใหม่ ๆ ได้เกินตัวของการเป็นกราฟิกแบบออนชิปแน่นอน ทำงานร่วมกับแรมออนบอร์ด 32GB ไม่สามารถเพิ่มได้ ส่วน SSD จะเป็น NVMe PCIe 4.0 ความจุ 1TB ตามมาตรฐาน
หน้าจอเองก็จะเป็นจอ ROG Nebula คุณภาพสูง ขนาด 13.4” พาเนล IPS รองรับการสัมผัสและการใช้ปากกาสไตลัส ความละเอียดระดับ 2.5K (2560×1600) อัตราส่วนภาพ 16:10 รีเฟรชเรต 180Hz ค่าสีระดับ 100% DCI-P3 ตัวเครื่องมีความบางเพียง 12 มม. และน้ำหนัก 1.1 กิโลกรัม จึงน่าจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง สามารถเขียนจอได้ เน้นการพกพา แต่ก็อยากได้เครื่องที่แรงพอสำหรับการเล่นเกม การใช้งานกราฟิกขั้นสูง ด้านของซอฟต์แวร์ก็จะมี Windows 11 Home และ MS Office Home 2024 ตัวเต็มมาให้ด้วย ส่วนราคาก็จะอยู่ที่ 79,990 บาท
- ข้อมูลเพิ่มเติม
- สั่งซื้อ ASUS ROG Flow Z13 (BaNANA, ASUS)
โน้ตบุ๊ก AMD เน้นแรงขั้นสุด จัดเต็ม
สุดท้าย ถ้าหากคุณต้องการโน้ตบุ๊ก AMD Ryzen AI ที่แรงขั้นสุด การ์ดจอแยกระดับท็อป มาพร้อมสเปคระดับสูงเพื่อการทำงานสายครีเอทีฟ ที่หลายท่านอาจจะสามารถคืนทุนได้จากการทำงานเพียงไม่กี่งาน ก็จะมี ASUS ProArt P16 H7606WX-SE910WA ที่เปิดราคามา 155,990 บาท

ชิปประมวลผลจะใช้เป็น AMD Ryzen AI 9 HX 370 รุ่นยอดนิยมและเป็นรุ่นเปิดของซีรีส์นี้เลย ด้วยความแรงของทั้ง CPU, iGPU และ NPU เพราะจะได้เป็นชิป 12 คอร์ 24 เธรด (Zen 5 จำนวน 4 คอร์และ Zen 5c อีก 8 คอร์) กราฟิกออนชิปจะเป็น AMD Radeon 890M และได้ NPU ความแรงสูงสุด 50 TOPS เช่นกัน ทำงานร่วมกับแรม 64GB (ไม่สามารถเพิ่มอีกได้) และ SSD 2TB ภายในเครื่องจะมีช่องใส่ SSD แบบ M.2 2280 PCIe ด้วยกันสองช่อง
แต่ที่โดดเด่นเลยก็คือ ASUS ProArt P16 รุ่นนี้จะมาพร้อมกราฟิกชิปแยก RTX 5090 ใช้ VRAM เป็น GDDR7 24GB ที่ถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุดในขณะนี้เลย ทำให้สามารถใช้เล่นเกมได้แบบหายห่วง หรือจะใช้งานร่วมกับโปรแกรมที่สามารถตั้งค่าให้ใช้การ์ดจอในการประมวลผลก็ทำได้เป็นอย่างดี ภายในเครื่องจะมีพัดลมระบายความร้อนมาให้ถึง 3 ตัว รวมถึงยังใช้โลหะเหลว (liquid metal) เป็นตัวกลางในการนำพาความร้อนจากชิปออกมายังฮีตไปป์ด้วย ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดี แม้ตัวเครื่องจะมีความบางสุดเพียง 14.9 มม. และน้ำหนัก 1.95 กก. เท่านั้น
หนึ่งในสิ่งที่ ASUS เลือกให้เป็นจุดเด่นของโน้ตบุ๊กซีรีส์ ProArt ก็คือหน้าจอ เนื่องจากเป็นซีรีส์ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นโน้ตบุ๊กครีเอเตอร์ โน้ตบุ๊กสายทำงานที่ต้องการเน้นคุณภาพของจอแบบขั้นสุด โดยจะได้เป็นจอสัมผัสขนาด 16” OLED ความละเอียดระดับ 4K (3840×2400) 120Hz มีค่า response time ต่ำสุด 0.2 ms ความสว่างสูงสุด 1600nits ค่าสี 100% DCI-P3 ผ่านการตรวจสอบด้านสีโดย PANTONE ทำให้น่าจะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการจอสีตรงสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพมาก ๆ นอกจากนี้ตรงบริเวณมุมซ้ายบนของทัชแพดจะมีแถบวง DialPad เพื่อใช้ในการควบคุม ปรับแต่งค่าในโปรแกรมสายกราฟิกต่าง ๆ ได้ด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงาน อาทิ การปรับย้อมสีวิดีโอ การซูมภาพ เป็นต้น เรียกว่าถ้าหากต้องการโน้ตบุ๊กออกกอง โน้ตบุ๊กสำหรับงานสายมัลติมีเดีย ในขณะเดียวกันก็ต้องการการ์ดจอรุ่นท็อปด้วย ASUS ProArt P16 รุ่นนี้น่าจะลงตัวมากทีเดียว
ส่วนถ้าต้องการเลือกดูโน้ตบุ๊ก AMD รุ่นอื่น ๆ ที่ใช้งาน AI ได้ ก็สามารถเข้าไปดูได้จากในหน้าค้นหาโน้ตบุ๊กของเราได้เลย และถ้าหากต้องการดูข้อมูลเกี่ยวกับชิปประมวลผลของ AMD ที่รองรับการใช้งาน AI หากเป็นชิปรุ่นใหม่ ๆ หน่อยก็จะเป็น AMD Ryzen 200, Ryzen AI 300 และ Ryzen AI Max ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ AMD ครับ





