
โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาซึ่งรวมเอาข้อดีของแท็บเล็ตมาอยู่ในตัว โดยขาบานพับหน้าจอถูกออกแบบเป็นพิเศษให้พับหน้าจอกลับได้ 360 องศา จนฝาหลังจอไปทาบติดกับฝาด้านใต้เครื่องกลายเป็นแท็บเล็ตแทน พาเนลหน้าจอเป็นทัชสกรีนใช้สไตลัสในกล่องวาดสิ่งต่างๆ หรือเขียนจดข้อมูลกับไอเดียได้สะดวกแถมหลายๆ รุ่นก็ติดตั้งพอร์ต USB-C มาให้ อาจจะเป็น 3.2 / 4.0 หรือเป็น Thunderbolt 4 ไว้ให้เจ้าของใช้ชาร์จแบตเตอรี่, ต่อหน้าจอแยกและโอนถ่ายไฟล์ได้ด้วย ซึ่งปกติจะมีให้ 1~2 พอร์ต ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น รวมถึงติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้ามาให้ผู้ใช้ปลดล็อคเครื่องได้ง่ายและทำงานกับระบบ Microsoft Passkey ด้วย
ชิปเซ็ตของโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ปกติแล้วจะยืนพื้นด้วย Intel Core Series เป็นหลัก มี AMD Ryzen แทรกอยู่บ้าง แต่ในตอนนี้จะมีชิปเซ็ต Snapdragon X Series เพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งข้อดีของชิปสถาปัตยกรรม ARM นั้น ทั้งประหยัดพลังงานแล้ว Microsoft ก็สร้าง Prism Emulator มาให้ใช้ทำงานกับโปรแกรม x86 ได้ แม้จะมีบั๊กอยู่ประปรายแต่ยังทำงานได้ตามปกติแน่นอน ด้านราคาก็เริ่มต้นตั้งแต่รุ่นราคาประหยัดช่วง 20,000 บาท ไปจนรุ่นพรีเมี่ยมราคาเกิน 50,000 บาท พร้อมฟีเจอร์ใช้งานร้อยแปดในตัว
ข้อดีและจุดเด่นของโน๊ตบุ๊ค 2-in-1
- โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 เป็นการรวมข้อดีของโน๊ตบุ๊คน้ำหนักเบาและแท็บเล็ตเอาไว้ด้วยกัน จะใช้งานตามปกติหรือพับหน้าจอกลับแล้วใช้สไตลัสเขียนหรือวาดสิ่งต่างๆ ลงไปบนหน้าจอก็ได้
- โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ส่วนใหญ่จะแถมปากกาสไตลัสมาให้ใช้เขียนจดสิ่งต่างๆ ลงบนหน้าจอทัชสกรีนได้ เส้นและการตอบสนองทำงานรวดเร็วใกล้เคียงปากกาจริง โดยใช้เทคโนโลยี MPP 2.0 เพื่อลดความหน่วง
- Microsoft มีโปรแกรม Microsoft Whiteboard ไว้เป็นจุดรวมระดมไอเดียกับเพื่อนร่วมทีมได้ มีระบบหลากหลายแบบทั้งเขียนไอเดีย, กระดานแปะ Post it หรือจะใช้สไตลัสของโน๊ตบุ๊คจดเลคเชอร์ก็ได้
- โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 มักมีน้ำหนักช่วง 1.3~1.5 กก. จึงพกพาได้ง่ายและซีพียูมักเป็นรุ่นประหยัดพลังงาน จึงใช้งานได้นานร่วม 10 ชม. หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสไตล์การใช้งานของแต่ละคน ยิ่งถ้ามีพาวเวอร์แบงค์ติดกระเป๋าไว้สักอันยิ่งดี

7 โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 น่าใช้ เขียนก็ได้พิมพ์งานก็ดี สเปคแรงน่าใช้!
- Lenovo IdeaPad 5 2-in1 14Q8X9 (24,990 บาท)
- ASUS Vivobook S 14 Flip TP3402VA (26,990 บาท)
- Lenovo Yoga 7 2-in-1 14IML9 (30,490 บาท)
- Microsoft Surface Pro 12-EP2-27673 (34,590 บาท)
- HP Spectre x360 14-eu0009TU (35,990 บาท)
- MSI Summit 13 AI+ Evo A2VMTG (45,990 บาท)
- HP OmniBook Ultra Flip 14-fh0055TU (59,990 บาท)
1. Lenovo IdeaPad 5 2-in1 14Q8X9 (24,990 บาท)

| CPU | Qualcomm Snapdragon X Plus แบบ 8 คอร์ ความเร็วสูงสุด 3.4 GHz |
| GPU | Qualcomm Adreno GPU |
| SSD | M.2 NVMe SSD 512 GB |
| RAM | 16GB LPDDR5X บัส 8448MHz |
| Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
| Display | Touch screen 14″ Full HD+ (1920*1200) OLED 100% DCI-P3 |
| Price | 24,990 บาท (BaNANA) |
Lenovo IdeaPad 5 2-in1 14Q8X9 เป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ชิปเซ็ต Snapdragon X Plus ราคาเข้าถึงได้ มีสมรรถนะการประมวลผล AI ถึง 45 TOPS หากใครใช้ซอฟท์แวร์ประเภทนี้เป็นประจำจะเหมาะมาก หรือถ้าใช้โปรแกรมทั่วไปก็มี Prism Emulator ไว้ช่วยให้ทำงานได้ตามปกติ เรื่องการจัดการพลังงานสามารถใช้ได้นานเกิน 10 ชม. อย่างแน่นอน เมื่อซื้อมาแล้วจะมีสไตลัสไว้ใช้เขียนวาดสิ่งต่างๆ ลงบนหน้าจอทัชสกรีนได้โดยตรง เผื่อใครต้องการจดไอเดียเก็บไว้ก็ทำได้ทันทีไม่ต้องพกแท็บเล็ตเพิ่มให้ของเยอะเกินจำเป็น ถ้าตั้งโต๊ะนั่งทำงานในออฟฟิศแนะนำให้ซื้อ USB-C Hub หรือมีหน้าจอคอม USB-C ไว้ใช้สักตัวจะแปลงเป็นพอร์ตอื่นๆ ได้อีก ถ้าใครมีงบประมาณไม่มากแล้วอยากได้โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 เครื่องใหม่ IdeaPad 5 2-in-1 นี้ก็น่าสนใจมาก
ข้อดี
- ได้ชิปเซ็ต Snapdragon X Plus ประสิทธิภาพดีทำงานรวดเร็วและประหยัดแบตเตอรี่
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7 (802.11be)
- น้ำหนักเพียง 1.49 กก. เท่านั้น พกพาง่ายไม่หนักเกินไป
- ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ยืนยันตัวปลดล็อคเครื่องได้สะดวก
- ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน
- ขอบเขตสีหน้าจอ 100% DCI-P3 แสดงสีสันได้สวยงามสมจริง
- มีพอร์ต USB-C 4.0 Full Function เป็นพอร์ตอื่นๆ ได้ 2 ช่อง
- พับหน้าจอกลับเป็นแท็บเล็ตและใช้ปากกาสไตลัสเขียนจดสิ่งต่างๆ ได้
ข้อสังเกต
- หากหน้าจอมีความละเอียดมากขึ้นเป็น 2.8K จะดีมาก ได้ภาพสวยคมชัด
- อัปเกรดได้ค่อนข้างจำกัดเพราะ RAM เป็นออนบอร์ดและ SSD มีเพียงช่องหลักเท่านั้น
2. ASUS Vivobook S 14 Flip TP3402VA (26,990 บาท)

| CPU | Intel Core i5-13420H แบบ 8 คอร์ 12 เธรด (4P+4E) ความเร็วสูงสุด 4.6 GHz |
| GPU | Intel Iris Xe Graphics |
| SSD | M.2 NVMe SSD 512 GB |
| RAM | On-board 16GB DDR4 บัส 3200MHz |
| Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home 2024 Microsoft 365 Basic |
| Display | Touch screen 14″ WUXGA (1920*1200) IPS |
| Price | 26,990 บาท (ASUS Online Store) |
ASUS Vivobook S 14 Flip TP3402VA เป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ราคาประหยัดอีกรุ่น แม้จะใช้ซีพียู Intel 13th Generation ก็ตาม แต่สมรรถนะก็ยังดีทำงานหนักกินทรัพยากรเครื่องได้ดีพอควร เหมาะกับพนักงานออฟฟิศเน้นทำงานกับโปรแกรม Microsoft Office Suite และใช้ Adobe Photoshop อย่างแน่นอน ถ้าต้องจดการประชุมเขียนงานวาดแผนไอเดียใดๆ ก็ใช้ ASUS Pen 2.0 ในกล่องเขียนลงบนจอทัชสกรีนได้ทันที จะใช้ในโหมดโน๊ตบุ๊คหรือพับจอกลับเป็นแท็บเล็ตก็สะดวกทั้งนั้น เวลาตั้งโต๊ะก็ต่อ USB-C Full Function เข้ากับ Hub หรือจอคอม USB-C ให้ได้พอร์ตอื่นๆ เพิ่มก็ได้ แต่จุดสังเกตคือเรื่องการอัปเกรดจะมีช่อง RAM, SSD อย่างละช่อง จึงเพิ่มความจุได้ไม่มากนัก แต่สเปคกับราคาระดับนี้ก็นับเป็นอีกรุ่นที่ซื้อไปใช้ไม่ผิดหวังนัก
ข้อดี
- ซีพียูเป็น Intel Core i5-13420H เป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงใช้ทำงานได้ดี
- ติตดั้ง Microsoft Office Home 2024 มาให้ และใช้บริการ Microsoft 365 Basic ได้ 12 เดือน
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 6E (802.11ax)
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ยืนยันตัวปลดล็อคเครื่องได้สะดวกรวดเร็ว
- แถมปากกาสไตลัส ASUS Pen 2.0 ไว้ให้เขียนจดข้อมูลและวาดภาพได้มาในกล่อง
- มีพอร์ต USB-C 3.2 Full Function ไว้ต่อหน้าจอแยก, โอนไฟล์และชาร์จไฟได้
- น้ำหนักเครื่อง 1.5 กก. และบอดี้ไม่หนามาก พกพาได้สะดวกพอควร
ข้อสังเกต
- ซีพียูเป็น Intel 13th Generation แบบ H-Series ใช้พลังงานแบตเตอรี่พอสมควร
- มีช่อง SO-DIMM 1 ช่อง จับคู่กับ RAM ออนบอร์ด มีความจุรวม 16GB อัปเกรดได้ไม่มาก
3. Lenovo Yoga 7 2-in-1 14IML9 (30,490 บาท)

| CPU | Intel Core Ultra 5 125H แบบ 14 คอร์ 18 เธรด (4P+8E+2LPE) ความเร็วสูงสุด 4.5 GHz |
| GPU | Intel Arc Graphics |
| SSD | M.2 NVMe SSD 512 GB |
| RAM | 16GB LPDDR5X บัส 7467MHz |
| Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
| Display | Touch screen 14″ WUXGA (1920*1200) OLED 100% DCI-P3 Dolby Vision VESA DisplayHDR True Black 500 |
| Price | 30,490 บาท (Advice) |
Lenovo Yoga 7 2-in-1 14IML9 เทียบกับ IdeaPad 5 2-in-1 แล้ว จะขยับจากโน๊ตบุ๊คคุ้มค่ามาเป็นกลุ่มพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นแล้ว ซึ่งจุดร่วมของทั้งสองรุ่นนี้จะได้บานพับแบบพับกลับเป็นแท็บเล็ตแล้วใช้สไตลัสเขียนจดไอเดียและเซ็นเอกสารได้สะดวกไม่แพ้กับแท็บเล็ต ด้านซีพียู Intel Core Ultra 5 125H ก็มีสมรรถนะดีพอให้ใช้ทำงานออฟฟิศได้ทุกแบบด้วย Microsoft Office Suite ในเครื่องตั้งแต่จัดการเอกสาร, ทำบัญชีไปจนตัดต่อภาพกับวิดีโอก็ได้สบายมาก ถ้าจะเซ็ตใช้งานเป็นคอมตั้งโต๊ะก็ต่อ USB-C Hub กับพอร์ต Thunderbolt 4 แล้วพร้อมทำงานทันที รักษาความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยด้วยเซนเซอร์อินฟาเรดสแกนใบหน้าสำหรับปลดล็อคเครื่องและยืนยันตัวเจ้าของเครื่องเวลาทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านระบบ Passkey ได้ด้วย เรียกว่าครบเครื่องทั้งสมรรถนะและความปลอดภัยเรื่องข้อมูลส่วนตัว
ถึงจะดีน่าใช้อย่างไรก็มีข้อจำกัดเรื่องหนึ่ง คือ Yoga 7 2-in-1 ไม่สามารถอัพเกรดเครื่องได้มากนัก อย่างมากก็ได้เพียงเปลี่ยน M.2 NVMe SSD ให้มีความจุมากขึ้นเท่านั้น กรณีนี้แนะนำให้ลงทุนซื้อ External SSD มาเก็บข้อมูลเพิ่มแทนจะสะดวกและง่ายกว่ามาก
ข้อดี
- ซีพียูเป็น Intel Core Ultra 5 125H มีประสิทธิภาพสูง ใช้ทำงานได้ดีรอบด้าน
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 6E (802.11ax)
- ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน
- หน้าจอทัชสกรีนขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 รองรับ Dolby Vision
- กล้องเว็บแคมมีเซนเซอร์สแกนใบหน้า เพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
- น้ำหนักตัวเครื่องเบาเพียง 1.49 กก. เท่านั้น พกพาง่ายไม่หนักมาก
- แถมสไตลัสมาให้ใช้เขียนจดไอเดียหรือวาดภาพกับโปรแกรมต่างๆ ได้ง่าย
ข้อสังเกต
- ชิ้นส่วนแทบทั้งหมดเป็นแบบออนบอร์ด อัปเกรดได้เพียง SSD เท่านั้น
4. Microsoft Surface Pro 12-EP2-27673 (34,590 บาท)

| CPU | Qualcomm Snapdragon X Plus แบบ 8 คอร์ ความเร็วสูงสุด 3.4 GHz |
| GPU | Qualcomm Adreno GPU |
| SSD | UFS 512 GB |
| RAM | 16GB LPDDR5X บัส 8448MHz |
| Software | Windows 11 Home |
| Display | PixelSense Touch screen 12″ (2196*1464 พิกเซล) IPS Refresh Rate 90Hz |
| Price | 34,590 บาท (BaNANA) |
คำจำกัดความที่เหมาะกับ Microsoft Surface Pro 12-EP2-27673 คือ โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ในร่างแท็บเล็ต แม้จะต้องซื้ออุปกรณ์เสริมอย่างคีย์บอร์ดและสไตลัสเพิ่มและอัปเกรดอะไรเพิ่มไม่ได้ก็จริง แต่เจ้าแท็บเล็ต Windows ตัวนี้เหมาะกับเซลส์หรืองานไปพบลูกค้าเป็นประจำมาก เพราะขนาดพกพาง่ายน้ำหนักเบาไม่เกิน 1 กก. รูปทรงเหมือนแท็บเล็ตแต่ฟังก์ชั่นการทำงานเหมือนโน๊ตบุ๊คทุกอย่างและใช้สไตลัสของ Microsoft Surface มาเขียนจดไอเดียหรือเซ็นเอกสารสำคัญก็ได้ แถมติดกล้องหลังความละเอียด 10 ล้านพิกเซลมา ถ้าต้องถ่ายภาพประกอบการจดบันทึกก็เก็บภาพส่งเข้าบันทึกได้ทันที ไม่ต้องพึ่งมือถือให้เสียเวลา
อย่างไรก็ตาม Microsoft Surface Pro 12 มีพอร์ตจำกัดมากเพียง USB-C Full Function สองช่อง ดังนั้นถ้าหยิบไปใช้งานนอกบ้านหรือนั่งโต๊ะทำงานก็ควรมี USB-C Hub ไว้ต่อแปลงเป็นพอร์ตอื่นๆ ได้จะใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น และแนะนำให้มี External SSD ความจุ 1TB ไว้บันทึกไฟล์งานจะดีมาก เพราะหน่วยความจำแบบ UFS 512 GB ไม่สามารถอัปเกรดเพิ่มได้ และถ้ามีงานมากก็จะได้ถ่ายโอนออกมาไม่ต้องเก็บไว้ในเครื่องอย่างเดียว
ข้อดี
- ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon X Plus แบบ 8 คอร์ ใช้ทำงานได้ดีและประหยัดแบตเตอรี่
- หน้าจอทัชสกรีน PixelSene อัตราส่วนจอ 3:2 เหมาะกับการทำงานเอกสารมาก
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7 (802.11be)
- ติดตั้งพอร์ต USB-C 4.0 Full Function มา 2 ช่อง ต่อแยกเป็นพอร์ตอื่นๆ ได้มาก
- ขาตั้ง Kickstand ตั้งเครื่องได้แข็งแรงทนทาน ปรับเอนได้ 165 องศา
- ติดตั้งกล้องอินฟาเรดสแกนใบหน้ามาให้เพื่อยืนยันตัวเจ้าของ
- มีกล้องหลังความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ให้ใช้ถ่ายภาพประกอบการจดบันทึกได้
- น้ำหนักเครื่องเบามาก เพียง 686 กรัม เท่ากับแท็บเล็ตแต่ใช้งานได้เหมือนโน๊ตบุ๊ค
ข้อสังเกต
- มีเฉพาะตัวเครื่องเท่านั้น ต้องซื้อ Surface Pro 12-inch Keyboard เพิ่มอีก 5,500 บาท
- อัปเกรดตัวเครื่องเพิ่มไม่ได้เพราะชิ้นส่วนต่างๆ ถูกติดตั้งมาแบบออนบอร์ด
- มีเพียงพอร์ต USB-C 4.0 Full Function สองช่องเท่านั้น ควรมี USB-C Hub ไว้ใช้
5. HP Spectre x360 14-eu0009TU (35,990 บาท)

| CPU | Intel Core Ultra 5 125H แบบ 14 คอร์ 18 เธรด (4P+8E+2LPE) ความเร็วสูงสุด 4.5 GHz |
| GPU | Intel Arc Graphics |
| SSD | M.2 NVMe SSD 1TB |
| RAM | 16GB LPDDR5X บัส 6400MHz |
| Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
| Display | Touch screen 14″ 2.8K (2880*1800) OLED Refresh Rate 120Hz 100% DCI-P3 |
| Price | 35,990 บาท (Advice) |
HP Spectre x360 14-eu0009TU เป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ระดับพรีเมียมเพื่อนักธุรกิจโดยเฉพาะ จุดเด่นนอกจากพับหน้าจอกลับเป็นแท็บเล็ตแล้วใช้สไตลัสเขียนจดเซ็นสิ่งต่างๆ ลงในเอกสารดิจิทัลได้แล้ว หน้าจอ OLED นี้ยังมีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 กับค่า Refresh Rate 120Hz จึงแสดงภาพได้ไหลลื่น แต่ควรเปิดฟีเจอร์ถนอมพาเนลเอาไว้ก็ช่วยยืดอายุการใช้งานได้มาก ด้านสมรรถนะได้ซีพียู Intel Core Ultra 5 125H ติดตั้งมาให้พร้อม RAM LPDDR5X ติดมาให้ 16GB กับ Microsoft Office Suite ครบเครื่องเพียง Sign in ก็ทำงานได้ทันที แถมมีเซนเซอร์สแกนใบหน้าติดมาให้เพื่อยืนยันตัวเจ้าของด้วย ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมายุ่งหรือแอบดึงข้อมูลสำคัญขององค์กรจากคอมโดยพลการ จึงใช้งานได้อุ่นใจแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตของ Spectre x360 คือเรื่องพอร์ตของเครื่องซึ่งมีแค่ Thunderbolt 4 กับ USB-A เท่านั้น จึงควรมีจอคอม USB-C หรือ Hub ไว้ต่อพ่วงเป็นพอร์ตอื่นเพิ่มเติม จะได้ต่ออุปกรณ์ทำงานได้สะดวกขึ้น
ข้อดี
- ซีพียูเป็น Intel Core Ultra 5 125H ประสิทธิภาพดีใช้ทำงานได้รอบด้าน
- หน้าจอพาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 แสดงภาพได้สวยงาม
- ใช้สไตลัสเขียนจดสิ่งต่างๆ ลงบนหน้าจอได้ทันที ช่วยให้ทำงานสะดวกขึ้น
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรด้วย Wi-Fi 6E (802.11ax)
- มีพอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมา 2 ช่อง ไว้ต่อกับ USB-C Hub เป็นพอร์ตอื่นได้
- กล้องหน้ามีเซนเซอร์อินฟาเรดสำหรับสแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้สะดวกรวดเร็ว
- ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน
- น้ำหนักเครื่องเพียง 1.44 กก. เท่านั้น พกพาง่ายไม่หนักเกินไป
ข้อสังเกต
- พาเนลหน้าจอเป็น OLED แนะนำให้เปิดฟีเจอร์ถนอมพาเนลเอาไว้เสมอ
- ตัวเครื่องมีเฉพาะพอร์ต Thunderbolt 4 สองช่องกับ USB-A ควรซื้อ USB-C Hub ไว้ใช้
6. MSI Summit 13 AI+ Evo A2VMTG (45,990 บาท)

| CPU | Intel Core Ultra 7 258V แบบ 8 คอร์ 8 เธรด (4P+4E) ความเร็วสูงสุด 4.8 GHz |
| GPU | Intel Arc Graphics 140V |
| SSD | M.2 NVMe SSD 1 TB |
| RAM | 32GB LPDDR5X บัส 8533MHz |
| Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home 2024 |
| Display | Touch screen 13.3″ Full HD+ (1920*1200) IPS 100% sRGB |
| Price | 45,990 บาท (BaNANA) |
นอกจากทำเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คได้ดีแล้ว MSI ก็มีโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ระดับพรีเมียมอย่าง MSI Summit 13 AI+ Evo A2VMTG ให้เลือกซื้อไปใช้ แม้ราคาสูงก็ได้บอดี้อลูมิเนียมสุดแข็งแรงคุณภาพดีสีดำตัดทองเพิ่มความหรูหราให้มากขึ้น ใช้ปากกาสไตลัส MSI Pen 2.0 เอาไว้เขียนจดงานหรือเซ็นเอกสารสำคัญได้ทันที เสริมด้วยเซนเซอร์สแกนใบหน้าและลายนิ้วมือเพื่อป้องกันข้อมูลในเครื่องได้และไม่ให้ใครแอบใช้คอมของเราโดยพลการและทำงานกับระบบ Windows Passkey สำหรับยืนยันตัวเวลาล็อคอินอีเมล์หรือทำธุรกรรมออนไลน์ได้
ด้านสมรรถนะของ Summit 13 AI+ Evo ก็จัดจ้านเพราะได้ Intel Core Ultra 7 258V จะทำงานเอกสาร, แต่งภาพทำกราฟิคไปจนรัน AI ก็ลื่นไหล จัดการพลังงานได้เยี่ยม พอบริหารให้แบตเตอรี่ความจุ 70Whr อยู่ได้ทั้งวันอย่างแน่นอน ถ้าใครอยากลงทุนกับโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ดีๆ เอาไว้ใช้งานได้หลายปีรับรองว่าไม่ผิดหวัง
ข้อดี
- งานประกอบตัวเครื่องแข็งแรงมากและสวยงาม ใช้สีดำตัดทองเพิ่มความหรูหรา
- ซีพียู Intel Core Ultra 7 258V มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงานเยี่ยม
- จีพียู Intel Arc Graphics 140V ใช้ทำงานได้ดี เล่นเกมได้พอสมควร
- ติดตั้ง RAM 32GB และ SSD 1TB มาให้พร้อมใช้งาน ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
- ใช้ MSI Pen 2 เขียนจดเซ็นเอกสารต่างๆ บนหน้าจอได้ทันที
- หน้าจอมีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB แสดงสีสันได้สวยงาม
- ติดตั้ง Microsoft Office Home 2024 มาให้พร้อมใช้งาน
- มีเซนเซอร์สแกนใบหน้าและลายนิ้วมือติดตั้งมาให้เพื่อรักษาความปลอดภัย
- ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 มาให้ 2 ช่อง ต่อเป็นพอร์ตอื่นๆ ได้สะดวก
- น้ำหนักเพียง 1.35 กก. เท่านั้น พกพาสะดวกไม่หนักมาก
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรด้วย Wi-Fi 7 (802.11be)
ข้อสังเกต
- หากหน้าจอมีความละเอียดระดับ QHD จะดีมาก ภาพบนหน้าจอจะได้สวยคมชัดขึ้น
- เป็นโน๊ตบุ๊คพรีเมียม ราคาจึงค่อนข้างสูงระดับ 45,990 บาท
7. HP OmniBook Ultra Flip 14-fh0055TU (59,990 บาท)

| CPU | Intel Core Ultra 5 226V แบบ 8 คอร์ 8 เธรด (4P+4E) ความเร็วสูงสุด 4.5 GHz |
| GPU | Intel Arc Graphics 130V |
| SSD | M.2 NVMe SSD 1TB |
| RAM | 16GB LPDDR5X บัส 8533MHz |
| Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
| Display | Touch screen 14″ 2.8K (2880*1800) OLED Refresh Rate 120Hz 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR True Black 400 |
| Price | 59,990 บาท (BaNANA) |
โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ระดับพรีเมียมเครื่องสุดท้ายอย่าง HP OmniBook Ultra Flip 14-fh0055TU ถึงราคาจะสูงกว่ารุ่นอื่นและได้ซีพียูแค่ Intel Core Ultra 5 226V ก็จริง แต่สมรรถนะของมันก็มากพอจะใช้ทำงานออฟฟิศได้ทุกแบบ ไม่ว่าจะงานเอกสาร, แต่งภาพหรือใช้ AI ก็ดี แต่จุดเด่นของ OmniBook Ultra อย่างแรกคือ ไมโครโฟนและกล้องเว็บแคมได้ Poly Studio บริษัทในเครือมาปรับจูนให้ภาพคมชัดและรับเสียงพูดเจ้าของได้ชัดเจน ให้สื่อสารเวลาประชุมออนไลน์ได้ดีขึ้น เสริมด้วยเซนเซอร์สแกนใบหน้าเพื่อความปลอดภัยทั้งตอนใช้งานตามปกติและยืนยันตัวออนไลน์ก็ได้ มีสไตลัสเอาไว้เขียนจดไอเดียและเซ็นเอกสารดิจิทัลได้โดยตรง เสริมด้วยน้ำหนักเบาเพียง 1.34 กก. จึงพกเข้าห้องประชุมหรือไปพบบริษัทคู่ค้าได้สะดวกสบายขึ้น หากดูในแง่สเปคอาจจะไม่ได้หวือหวาก็จริง แต่องค์ประกอบโดยรวมจัดว่าดีไม่แพ้เครื่องอื่นแน่นอน
ถ้าใครเป็นเจ้า OmniBook Ultra Flip 14 จะเห็นว่าตัวเครื่องมีเพียง USB-C Full Function กับ Thunderbolt 4 เท่านั้น จึงควรซื้อ USB-C Hub ติดกระเป๋าไว้สักตัวเพื่อแปลงเป็นพอร์ตอื่นๆ ยิ่งถ้ามีติดโต๊ะอีกสักตัวก็จะดีมาก
ข้อดี
- ซีพียู Intel Core Ultra 5 226V สมรรถนะดีและจัดการพลังงานได้เยี่ยม
- ติดตั้งหน้าจอทัชสกรีนความละเอียด 2.8K ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 มาให้ใช้งาน
- มีสไตลัสไว้ให้ใช้เขียนสิ่งต่างๆ ลงบนเอกสารดิจิทัลได้โดยตรง
- ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7 (802.11be)
- น้ำหนักเบาเพียง 1.34 กก. พกไปใช้งานนอกสถานที่ได้ง่ายมาก
- ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 มาสองช่องคู่กับ USB-C Full Function อีกช่อง
- กล้องหน้าติดเซนเซอร์สแกนใบหน้ามาให้ยืนยันตัวก่อนปลดล็อคเครื่อง
- กล้องหน้าและไมโครโฟนปรับจูนด้วย Poly Studio ให้ภาพและเสียงคมชัด
ข้อสังเกต
- พาเนลหน้าจอเป็น OLED ควรเปิดฟีเจอร์ถนอมพาเนลเอาไว้เสมอ
- ราคาค่อนข้างสูงถึง 59,990 บาท แต่ก็ได้โน๊ตบุ๊คคุณภาพสูงไว้ใช้งาน
- มีเฉพาะ Thunderbolt 4 กับ USB-C เท่านั้น ควรซื้อ USB-C Hub ไว้ใช้ร่วมกัน
สรุปสเปค 7 โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 คุณภาพดี จดอะไรก็ง่าย ใช้ได้เหมือนแท็บเล็ต!



อาจพูดได้ว่าโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 เกิดมาเพื่อตอบโจทย์คนไม่อยากแบกอุปกรณ์ทำงานติดกระเป๋าไปหลายๆ ชิ้น โดยเฉพาะแท็บเล็ตซึ่งบางคนมีเอาไว้เป็นอุปกรณ์เซ็นเอกสารดิจิทัลหรือไว้พกเข้าห้องประชุมนิดหน่อยเท่านั้น เวลาทำงานเต็มรูปแบบก็มาเปิดโน๊ตบุ๊คเหมือนปกติ การใช้โน๊ตบุ๊คแบบนี้จะช่วยลดปริมาณอุปกรณ์ไปได้หนึ่งชิ้น นอกจากเบาไหล่แล้วยังประหยัดเงินในกระเป๋าไปอีกเป็นหลักหมื่นทีเดียว
ส่วนวิธีการเลือกเครื่องให้ตรงใจตอบโจทย์การใช้งาน ถ้าเน้นแค่ใช้ทำงานเอกสารตามปกติจะซื้อรุ่นไหนก็ได้ตามงบประมาณในกระเป๋า ยกเว้นว่ามีโจทย์เฉพาะตัวเพิ่มเข้ามาก็ค่อยเจาะจงรายละเอียดเพิ่มเข้าไป เช่น ต้องการพอร์ตใดเป็นพิเศษ, ต้องการให้รูปลักษณ์ของเครื่องเหมือนแท็บเล็ต, อยากให้กล้องและไมโครโฟนมีเสียงและภาพคมชัด ฯลฯ ก็ค่อยลงรายละเอียดให้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ รับรองว่าจะได้โน๊ตบุ๊คที่ถูกใจอย่างแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง





