
Intel เดินหน้าล้างหนี้ด้วยเงินทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2025 David Zinsner CFO ของ Intel ได้ขึ้นเวทีงาน Citi Global Technology, Media And Telecommunications Conference เพื่อยืนยันความชัดเจนว่าบริษัทกำลังดำเนินการปิดดีลการขายกิจการ Altera ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มเติมราว 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 128,000 ล้านบาท)
นอกจากนี้ Intel ยังได้รับเงินลงทุนโดยตรงจากรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้โครงการ CHIPS Act โดยรัฐบาลถือหุ้น 10% ในบริษัท ซึ่ง Zinsner ระบุว่าเป็น “ข้อตกลงที่ดีต่อทั้งผู้เสียภาษีและประชาชนอเมริกัน”
Intel มีหนี้ที่จะครบกำหนดในปีนี้กว่า 3.8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 139,000 ล้านบาท) ซึ่งบริษัทตั้งใจจะนำเงินทุนดังกล่าวไปชำระคืนทั้งหมดโดยไม่ทำการรีไฟแนนซ์เพิ่มเติม
เงินทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ลดความไม่แน่นอน
ก่อนหน้าการลงทุนโดยตรง Intel เคยได้รับเงินสนับสนุนแล้ว 2.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 80,000 ล้านบาท) และยังมีอีก 5.7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 208,000 ล้านบาท) ที่รอการอนุมัติ ซึ่ง Zinsner ยอมรับว่าเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
การที่รัฐบาลเข้ามาถือหุ้นครั้งนี้จึงทำให้ Intel ได้เงินล่วงหน้ามาเกือบทั้งหมด เหลือเพียง 3 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 110,000 ล้านบาท) ที่จะทยอยจ่ายในช่วงปีถัดไป ขณะเดียวกัน SoftBank เองก็เตรียมลงทุนเพิ่มภายในสิ้นไตรมาสหลังผ่านการอนุมัติตามกฎหมาย
Zinsner ยืนยันด้วยว่าการที่รัฐบาลถือหุ้นจะไม่ทำให้การบริหารงานถูกแทรกแซง เพราะรัฐบาลจะใช้สิทธิ์โหวตไปตามข้อเสนอของคณะกรรมการบริหาร
Intel ยอมรับ “ลงทุนเกินดีมานด์” แต่มั่นใจ 14A
CFO ของ Intel ยังยอมรับว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัท “ลงทุนก่อนดีมานด์จริง” ทำให้ไม่สอดคล้องกับสภาพตลาด แต่ตอนนี้ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan มีความมั่นใจกับกระบวนการผลิตรุ่นถัดไป Intel 14A มากขึ้น
เขาอธิบายว่า 14A จะมีต้นทุนต่อเวเฟอร์สูงกว่า 18A เพราะต้องใช้เครื่อง High-NA EUV รุ่นใหม่และขั้นตอนการทำ lithography ที่ซับซ้อนกว่า อย่างไรก็ตาม Intel ยังประเมินว่าความเสี่ยงที่จะไม่มีลูกค้ารองรับนั้น “ค่อนข้างต่ำ”
ยืนยันพึ่งพา TSMC “ต่อไป”
แม้ Intel จะเร่งพัฒนากระบวนการผลิตของตนเอง แต่ Zinsner ย้ำชัดว่า Intel จะยังคงพึ่งพา TSMC สำหรับผลิตชิ้นส่วนบางประเภท
เขากล่าวว่า
“Intel จะนำผลิตภัณฑ์ไปผลิตกับ TSMC ต่อไปจริง ๆ พวกเขาเป็นพาร์ทเนอร์ที่ยอดเยี่ยม”
ปัจจุบันราว 30% ของผลิตภัณฑ์ Intel ผลิตโดย TSMC แม้ในอนาคตสัดส่วนอาจลดลง แต่ก็ยังสูงกว่าระดับเมื่อสิบปีก่อน และยังครอบคลุมไปถึงไลน์สินค้าสำคัญอย่าง Lunar Lake และ Arrow Lake ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
มุมมองต่ออนาคตของธุรกิจ Foundry
สำหรับคำถามว่าบริษัทจะสปินออฟธุรกิจ Foundry แยกออกมาเป็นบริษัทย่อยเพื่อดึงเงินลงทุนจากภายนอกหรือไม่ Zinsner ตอบว่ายังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เพราะธุรกิจยัง “ไม่พร้อมให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน” แต่ก็ไม่ปิดโอกาสในอนาคต
ทั้งนี้ หากมีการขายหุ้นบางส่วนจริง Intel ก็จะขายไม่เกิน 49% เนื่องจากเงื่อนไขของรัฐบาลสหรัฐฯ
สรุป
การยืนยันของ Intel CFO ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงสองประเด็นหลักที่ชัดเจน:
- บริษัทจะยังพึ่งพา TSMC ในระยะยาว แม้จะพัฒนากระบวนการผลิตของตนเองอย่างต่อเนื่อง
- เงินทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ จะถูกนำมาใช้ในการลดหนี้และเสริมสภาพคล่อง ทำให้ Intel มีความมั่นใจในการเดินหน้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น 14A
Intel กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ทั้งในด้านการเงินและเทคโนโลยี แต่จากการประกาศล่าสุด นักลงทุนดูจะตอบรับในแง่บวก เพราะหุ้นของบริษัทปรับขึ้นทันที กว่า 2% หลังการแถลงข่าว
ที่มา: wccftech





