WD_BLACK SN8100 SSD สุดยอด SSD เร็วแรงถึงใจ เปิดโปรแกรมหรือเกมก็เร็วเหลือเชื่อจนใครก็ต้องซูฮก!!

เมื่อคิดว่าจะซื้อ SSD ใหม่มาติดตั้งในพีซีหรือโน๊ตบุ๊คเมื่อไหร่ Western Digital “WD” มักเป็นชื่อแรกๆ ในใจใครหลายคน อย่าง WD_BLACK SN8100 รุ่นใหม่สำหรับผู้ใฝ่หาความเร็วแรงของ PCIe 5.0 ก็สามารถหาซื้อไปใช้งานได้และมีตัวเลือกทั้งแบบติดตั้งฮีตซิ้งค์มาจากโรงงานสำหรับติดตั้งในพีซีหรือเครื่องเกมคอนโซลได้ทันที หรือใครมีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คก็มีแบบไม่ติดซิ้งค์ให้เลือก แถมประสิทธิภาพก็สมชื่อแบรนด์ผู้นำด้านหน่วยความจำด้วยชิป 3D CBA NAND แบบ TLC ใหม่ มีความเร็วสูงสุด 14,900 MB/s ทำให้เปิดโปรแกรมและงานต่างๆ ได้ไวในชั่วพริบตา ช่วยให้ครีเอเตอร์ทำงานได้สะดวกรวดเร็วกว่าเดิมอย่างชัดเจน

NBS Verdicts

หลังจากลงทุนกับซีพียูกับการ์ดจอตัวแรงแล้ว ไปก็เป็น M.2 NVMe SSD สมรรถนะสูงให้ตอบสนองได้เร็วทันใจ โดยเฉพาะตอนนี้โปรแกรมต่างๆ ก็มีฟังก์ชั่นต้องโหลดใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ หรือถ้าใครต้องการรัน AI ในพีซีส่วนตัว SSD อย่าง WD_BLACK SN8100 ยิ่งจำเป็นมากเพื่อย่นระยะเวลาการดึงข้อมูลและประมวลผลให้สั้นลงและลดความหน่วงเวลาใช้งาน ช่วยให้คนทำงานจบโปรเจคต่างๆ ได้เร็วยิ่งขึ้นไม่ต้องเสียเวลารอเหมือน SSD รุ่นก่อน ถ้าเทียบกันจะเห็นว่าความเร็วของอินเทอร์เฟส PCIe 5.0 ดีกว่า PCIe 4.0 เป็นเท่าตัวทีเดียว
เหตุผลของความเร็วและสมรรถนะของ SSD ตัวนี้ เกิดจากองค์ประกอบหลายอย่าง ได้แก่ 3D CBA NAND ใหม่ซึ่งทำงานได้เสถียรและระบบ nCache 4.0 สำหรับจัดเรียงข้อมูลภายในไดรฟ์ให้เป็นระเบียบเรียกใช้งานได้ไวขึ้นแถมรองรับการเขียนอ่านไฟล์ได้มากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ถ้าเป็นรุ่นความจุ 2TB ในรีวิวนี้ จะรองรับการเขียนอ่านไฟล์เข้าออกไดรฟ์มากถึง 1,200 TBW เสียหายยากและถ้าดูแลตามเหมาะสมก็อาจอยู่ได้นานร่วมสิบปีก็เป็นไปได้ อาจได้เปลี่ยนฮาร์ดแวร์ชิ้นอื่นไป 2-3 ครั้ง แล้ว ถึงจะเป็นคิวของ WD_BLACK ตัวนี้ ถือเป็นการลงทุนระยะยาวก็ไม่ผิด

ถึงจะดีเพียงใดแต่ซอฟท์แวร์ส่วนใหญ่ก็ยังดึงศักยภาพของ SSD PCIe 5.0 ออกมาได้ไม่เต็มกำลังและยังมีเงื่อนไขอยู่ คือ อินเทอร์เฟสบนเมนบอร์ดต้องรองรับไม่อย่างนั้นจะทำงานเท่ากับเวอร์ชั่นที่เชื่อมต่อเท่านั้น ยิ่งถ้าเอามาเล่นเกมก็ไม่คุ้มเพราะถ้าเทียบกับ M.2 NVMe PCIe 4.0 แล้ว การโหลดฉากเร็วขึ้นเสี้ยววินาทีไม่ได้ส่งผลต่อความได้หรือเสียเปรียบนักหรือถ้าอยากให้ Compile shaders เวลาอัปเดตแพทช์ใหม่ได้เร็วขึ้นก็ไม่ได้เป็นสาระสำคัญ เพราะตัวเกมไม่ได้เรียกใช้ระบบนี้บ่อยๆ อยู่แล้ว หรือบางเกมก็จัดการงานส่วนนี้ได้ดีจนไม่เสียอรรถรสแน่นอน
อย่างนั้น WD_BLACK SN8100 จะเหมาะกับงานและกลุ่มผู้ใช้แบบไหน? ยกตัวอย่างง่ายๆ ใกล้ตัว คือ ครีเอเตอร์ที่ตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูง 4K เป็นประจำเพื่อให้เรนเดอร์งานได้ไวทันใจขึ้น, สถาปนิกและวิศวกรที่ต้องเปิดไฟล์ขนาดใหญ่กับโปรแกรมกินทรัพยากรเครื่องหนักหน่วงอย่าง AutoCAD เป็นประจำแล้วไม่อยากเสียเวลารอโหลดไฟล์หรือไดรฟ์เกิดทำงานช้าจนโปรแกรม Not Responding ให้เสียอารมณ์ รวมไปถึงโปรแกรมเมอร์สายเทรน AI ไว้ใช้งานก็เหมาะเช่นกัน ด้านเกมเมอร์ยังไม่ต้องรีบตื่นตัวนักแล้วรอให้ผู้ผลิตอัปเกรดเมนบอร์ดกับโน๊ตบุ๊คให้อินเทอร์เฟส PCIe 5.0 เป็นมาตรฐานเหมือน PCIe 4.0 / 3.0 ในปัจจุบันแล้วค่อยนำมาใช้ก็ยังได้ หรือจะยอมลงทุนจ่ายของใหม่ล่าสุดแล้วลากใช้ไป 5-10 ปี ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน
ข้อดีของ WD_BLACK SN8100
- มีความเร็วเขียนอ่านไฟล์สูงถึง 14,900 / 14,000 MB/s ทำงานได้เร็วทันใจ
- รองรับการเขียนอ่านไฟล์เข้าออกไดรฟ์ได้ถึง 1,200 TBW ก่อนเสื่อมสภาพ
- มีค่า IOPS สูงถึง 2.3M / 2.4M จึงตอบสนองได้รวดเร็วต่อเนื่อง
- ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง TCG Opal 2.02
- SSD เป็นมาตรฐาน NVMe 2.0 มีระบบการจัดการข้อมูลให้ทำงานได้รวดเร็ว
- มีฟีเจอร์ nCache 4.0 ใหม่ไว้จัดการข้อมูลในไดรฟ์ให้เป็นระเบียบ เรียกใช้งานได้เร็ว
- รับประกันอายุการใช้งานนาน 5 ปีเต็ม หากมีปัญหาสามารถส่งเคลมได้ทันที
- คอนโทรเลอร์กับชิป NAND รักษาอุณหภูมิได้ดีไม่ร้อนเกินไปแม้ทำงานเต็มสมรรถนะ
ข้อสังเกตของ WD_BLACK SN8100
- เมนบอร์ดต้องมีช่องอินเทอร์เฟส PCIe 5.0 ถึงจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- ไดรฟ์มีความเร็วสูงเหมาะกับการทำงานและรัน AI ถ้าเล่นเกมใช้ WD Black SN7100 ก็พอ
รีวิว WD_BLACK SN8100
Specification

WD_BLACK SN8100 เป็น M.2 NVMe SSD อินเทอร์เฟส PCIe 5.0 x4 ใหม่ล่าสุดจาก Western Digital ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์และ Solid-state drive (SSD) ชั้นนำระดับโลก ความเร็วสูงเขียนอ่านได้เร็ว รับคำสั่งต่อวินาทีได้สูงมากและยังทนทานรองรับการเขียนอ่านได้มาก ซึ่งสเปคของมันจะมีรายละเอียดดังนี้
| Form Factor | M.2 2280 |
| NAND Flash | 3D TLC NAND Flash with DRAM |
| Interface & Form Factor | M.2 2280 PCIe 5.0×4 |
| Sequential Speed | Sequential Read 14,900 MB/s Sequential Write 14,000 MB/s |
| IOPS | Read up to 2.3M IOPS Write up to 2.4M IOPS |
| Terrabyte Written | 1,200 TBW |
| MTTF up to (hours) | 1.75M Hours |
| Security | TCG Opal 2.02 |
| Limited Warranty | 5 ปี |
| Price | 12,490 บาท (MSRP) |
Unbox & Installation




กล่องบรรจุ SSD จาก Western Digital มีความโดดเด่นทั้งสีและฟ้อนท์ตัวอักษรเฉพาะ ถึงจะวางไว้บนชั้นวางสินค้าก็ยังมองออกว่ามาจาก WD แน่นอน แถมยังใช้สีเพื่อแบ่งแยกให้เห็นชัดขึ้น อย่าง WD_BLACK SN8100 จะเป็นกล่องสีดำสนิท ส่วน WD_Blue SN5000 เป็นสีน้ำเงินตัดขาว ผสมกับอักษรสีขาวเพื่ออธิบายรายละเอียดทั่วไปแล้วใช้สีส้มเพื่อเน้นชื่อรุ่นและจุดเด่นของสินค้าตามด้านต่างๆ ซึ่งด้านหน้าจะมีรูปของสินค้าติดอยู่แล้วถ้าพลิกไปด้านหลังจะมีช่องเจาะให้เห็นสินค้าจริงในกรอบพลาสติกด้วย





ภายในกล่องจะมีเพียงตัว SSD ในกรอบพลาสติกแข็งใสและคู่มืออีกฉบับเท่านั้น ไม่มีอุปกรณ์เสริมอย่างไขควง, น็อต M.2 หรือแม้แต่ฮีตซิ้งค์แบบบางแถมมาให้แม้แต่ชิ้นเดียว พลิกดูแล้วจะเห็นว่า SN8100 เป็น “SSD หน้าเดียว” มีชิป NAND Flash ใต้สติกเกอร์บาร์โค้ดเท่านั้น
พลิกมาด้านหลังจะสกรีนโลโก้มาตรฐานต่างๆ ติดไว้ ถ้าสังเกตจะเห็นโลโก้ SanDisk ติดอยู่ด้วย ซึ่งบางคนอาจสงสัยว่าทำไม SSD ของ WD ถึงมีโลโก้ต่างบริษัทอยู่? นั่นเพราะ WD ได้ควบรวมกิจการกับ SanDisk มาตั้งแต่ปี 2016 (9 ปีก่อน) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์กับธุรกิจกลุ่ม non-volatile memory (NVM) ได้ดีขึ้น กล่าวคือเป็นบริษัทเดียวกันแค่ต่างแบรนด์เท่านั้น และในตอนนี้สินค้าของ SanDisk ก็ยังมีจำหน่ายอยู่เช่นเดิม
อินเทอร์เฟสของ WD_BLACK SN8100 เป็น PCIe 5.0 ขั้วเชื่อมต่อริม (Edge connector) เป็น 4-lane M.2 2280 ความเร็ว 4 GB/s (32 GT/s) ต่อเลน ใช้มาตรฐาน NVMe 2.0 แบบใหม่ มีระบบ ZNS (Zoned Namespaces) ช่วยจัดระเบียบการเขียนไฟล์เข้าออกไดรฟ์จึงทำงานได้เร็วและมีความจุเพิ่มขึ้นและรองรับมาตรฐานก่อนหน้า (Backward compatibility) ด้วย



สาเหตุว่าทำไมถึงเรียก SSD ทรงแท่งแผ่นบางนี้ว่า M.2 2280 เพราะตอนวัดด้วยไม้เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์จะมีความกว้าง 22 มม. ยาว 80 มม. ความหนารวมชิป NAND Flash ได้ 2 มม. จึงเรียกตามลักษณะทางกายภาพของมัน นอกจาก M.2 2280 ก็มีขนาดความยาวอีกหลากหลายไซซ์ ขึ้นอยู่ว่าเอาไปใช้กับอุปกรณ์ชิ้นไหน เช่น เครื่อง Gaming Handheld จะมี WD_Black SN770M ไว้ให้เลือก หรือถ้าเป็นรุ่นใหม่ใส่ M.2 2280 ก็มี WD Black SN7100 ให้เลือก

ขนาดของ WD_BLACK SN8100 เป็นไซซ์มาตรฐาน M.2 2280 จึงติดตั้งลงบนเมนบอร์ดของพีซีได้ทันที แต่ถ้าต้องการให้ SSD PCIe 5.0 ทำงานได้ดีเต็มสมรรถนะจะมีเงื่อนไข 2 ข้อ คือ
- เมนบอร์ดต้องรองรับ PCIe 5.0 เพื่อให้ทำงานได้เต็มสมรรถนะ
- ติดตั้งในพีซีควรมีฮีตซิ้งค์ ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คต้องมีฮีตไปป์เฉพาะอุณหภูมิค่อนข้างสูง
กรณีของคนที่มีโน๊ตบุ๊คหรือพีซีที่เมนบอร์ดรองรับแค่ SSD PCIe 4.0 อาจคิดว่า WD_BLACK SN8100 ยังไม่คุ้มลงทุน แต่ส่วนตัวมองว่าเกมเมอร์และคนทำงานหลายคนมักอัปเกรดคอมหรือซื้อเครื่องใหม่เป็นระยะๆ อยู่แล้ว จะซื้อ SSD PCIe 5.0 มาใช้ไปก่อนก็ได้ พอฮาร์ดแวร์รองรับเมื่อไหร่ก็ติดฮีตซิ้งค์เพิ่มแล้วใช้งานให้เต็มศักยภาพก็ไม่สาย หรือถ้าใครเพิ่งประกอบคอมเอาไว้ทำงานหรือเล่นเกมจะซื้อ SSD PCIe 5.0 ไปใช้ ก็ได้สัมผัสประสบการณ์ความเร็วสูงเป็นเท่าตัวได้ทันที
เรื่องการเลือกช่องช่องติดตั้งมั่นใจว่าหลายคนจะเปิดคู่มือเพื่อเลือกช่องติดตั้งให้ถูกต้อง ซึ่งถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คก็ควรทำเช่นนั้นเพราะผู้ผลิตมักมีฮีตซิ้งค์เฉพาะช่องติดมาให้ แต่เมนบอร์ดพีซีจะมีระบบจัดการอินเทอร์เฟสให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว เช่น ถ้าเมนบอร์ดมี 2 ช่องบนกับล่าง อันบนเป็น PCIe 5.0 แต่ใส่ SSD PCIe 4.0 ไปแล้ว ระบบจะจัดการสลับเวอร์ชั่นอินเทอร์เฟสให้โดยอัตโนมัติให้ทำงานได้เต็มที่เอง
Performance

ความจุของ WD_BLACK SN8100 เมื่อติดตั้งและฟอร์แมตใน Disk Management แล้ว จะมีความจุ 1,863 GB (1.86 TB) ให้ใช้ นั่นเพราะผู้ผลิตสินค้าระบุตามหลักเลขฐาน 10 (Decimal) แต่ระบบปฏิบัติการทำงานบนเลขฐาน 2 (Binary) และเป็นไดรฟ์ประเภท NTFS จึงมีไฟล์ระบบฝังอยู่ในไดรฟ์ด้วยจึงมีพื้นที่เหลือตามในภาพนี้

การทดสอบกับโปรแกรม CrystalDiskMark 9.0.1 ด้วยเมนบอร์ดอินเทอร์เฟส PCIe 5.0 จะเห็นว่า WD_BLACK SN8100 มีความเร็วสูงมาก โดยแต่ละการทดสอบได้ผลดังนี้
| สเปค / ความเร็ว | Read (MB/s) | Write (MB/s) |
| สเปคโรงงาน | 14,900 | 14,000 |
| SEQ1M Q8T1 | 14,751.11 | 13,966.19 |
| SEQ1M Q1T1 | 14,692.58 | 13,057.59 |
| RND4K Q32T1 | 4,702.75 | 2,983.17 |
| RND4K Q1T1 | 101.01 | 241.51 |
เชื่อว่าหลายคนจะสงสัยว่าตัวเลขการทดสอบในแต่ละบรรทัดของ CrystalDiskMark กำลังบอกอะไรอยู่? กำลังทดสอบ SSD เราอย่างไรและดูอย่างไร ก็ขอให้เข้าใจ 3 สิ่งนี้ก่อน คือ
- 1M – ตัวโปรแกรมจะส่งไฟล์ขนาด 1 MiB (Mebibyte) เข้ามาในไดรฟ์ปริมาณมหาศาล มีขนาดใหญ่และสั่งทำงานอย่างต่อเนื่อง มีผลเวลา SSD ต้องเขียนอ่านไฟล์ขนาดใหญ่ต่อเนื่อง
- Q8 – คิวการสั่งงาน ถ้าเป็น Q8 แสดงว่า CrystalDiskMark ส่ง requests ให้ SSD ทำ 8 งาน พร้อมกันในคราวเดียวโดยไม่ต้องรอให้ประมวลผลงานใดเสร็จก่อน ถ้าเป็น Q1 จะสั่งทีละ request แทน
- T1 – เรียกใช้งานเพียง 1 Thread เท่านั้น เช่นถ้าเป็น Q8T1 ในการทดสอบบรรทัดแรกสุดหมายความว่าสั่ง 8 requests ไปใน pipeline งาน แต่ให้ใช้ 1 Thread ทำทีละงานไปเรื่อยๆ จนเสร็จ
จากนั้นจะจำกัดความได้ว่าแต่ละบรรทัดในกรอบการทดสอบของ CrystalDiskMark ได้ว่าแต่ละการทดสอบกำลังทดสอบอะไรอยู่ ก็จะเป็นดังนี้
- SEQ1M Q8T1 – ทดสอบความเร็ว Sequential Read/Write สามารถเขียนและอ่านไฟล์ขนาดใหญ่ต่อเนื่องได้รวดเร็วไหม ยิ่งทำงานเร็วจะมีประโยชน์เวลาโอนไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น คลิป 4K เข้ามาในไดรฟ์, ติดตั้งเกมขนาดใหญ่จากแพลตฟอร์มขายเกมต่างๆ และตัดต่อฟุตเทจคลิปความละเอียดสูง มีผลต่อการทำงานวิดีโอ, ไฟล์เสียงและเล่นเกม
- SEQ1M Q1T1 – คล้ายกับกรณีข้างบน แต่เปลี่ยนจากการสั่งประมวลผล 8 requests เป็น 1 request แทน เพื่อดูว่าถ้าโอนไฟล์ข้อมูลไปมาระหว่างไดรฟ์, เปิดดูคลิปหรือบันทึกข้อมูลลงไปในไดรฟ์จะทำงานได้เร็วเพียงใด มีผลต่อการใช้งานทั่วไปโดยเฉพาะการเปิดเรียกใช้ไฟล์ขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง
- RND4K Q32T1 – เป็นการทดสอบว่าถ้าโอนไฟล์ขนาดเล็ก 4KB อย่างต่อเนื่อง โดยทำ 32 requests จะทำงานได้เร็วหรือเปล่า ส่งผลต่อการทำงาน Multitask มาก เช่น การเปิด Virtual Machine, คอมไพล์งานต่างๆ ได้เร็วหรือเปล่า มีผลต่อคนทำงานหลายโปรแกรมพร้อมกัน (Multitasker), การใช้ Virtual machine และการพัฒนาโปรแกรม
- RND4K Q1T1 – ทดสอบการอ่านไฟล์ขนาดเล็ก 4KB ทีละไฟล์ว่าสามารถอ่านเขียนไฟล์ขนาดเล็กได้เร็วหรือเปล่า ซึ่งมีผลเวลากดเปิดคอมแล้วโหลด Windows 11 ขึ้นมาใช้, เปิด Web browser รวมไปถึงเปิดเกมด้วย ถ้า M.2 NVMe SSD ตัวนั้นมีความเร็วเกิน 60 MB/s แสดงว่ามีประสิทธิภาพดี มีผลต่อการบูตระบบปฏิบัติการและเปิดโปรแกรม
ความเร็วจากการทดสอบสรุปได้ว่า WD_BLACK รุ่นนี้มีสมรรถนะสูงมาก ถ้าเล่นเกมก็สามารถโหลดฉากในเกมได้รวดเร็วทันใจ แต่ถ้าทำงานโดยเฉพาะตัดต่อกราฟิค, ปั้นโมเดล 3D หรือใช้ AutoCAD จะลดเวลาโหลด Resource ลงไปได้มหาศาลแถมเรนเดอร์งานออกมาได้รวดเร็วมาก เหมาะกับพีซีของโปรดักชั่นเฮ้าส์ที่ต้องทำงานแข่งกับเวลามาก แม้แต่ใช้รันโมเดล AI ก็ยิ่งเห็นผลชัด




ความเร็วการเขียนอ่านไฟล์ด้วยโปรแกรม ATTO Disk Benchmark จะเห็นว่า WD_BLACK SN8100 ทำงานได้เสถียรมาก ตั้งแต่โหลดไฟล์ขนาดเล็กพื้นฐานของโปรแกรมขนาด 256 MB ก็เขียนอ่านได้เสถียรมาก มีอัตราการรับส่งข้อมูลต่อเนื่องและเสถียรต่อเนื่องมาก สังเกตว่าเส้นกราฟสีแดงกับเทา (Write / Read) จะเสมอกันตลอดและมีความเร็วสูงสุดได้ถึง 13.12 / 13.9 GB/s ตั้งแต่ไฟล์ขนาดเล็กจนกระทั่งไฟล์ขนาดใหญ่ 8 GB ก็ตาม



อุณหภูมิของ WD_BLACK SN8100 เวลาทำงานบนอินเทอร์เฟส PCIe 5.0 แล้วทดสอบด้วย CPUID HWMonitor จะเห็นว่า Western Digital ดีไซน์ SSD นี้มาดี รักษาอุณหภูมิได้ดีมาก โดยแต่ละชิ้นส่วนหลังทดสอบเสร็จจะมีอุณหภูมิดังนี้
| อุณหภูมิ / ชิ้นส่วน | อุณหภูมิต่ำสุด (เซลเซียส) | อุณหภูมิต่ำสุด (เซลเซียส) |
| Assembly (ชิ้นส่วนโดยรวม) | 35 | 52 |
| Sensor 1 (Controller) | 48 | 76 |
| Sensor 2 (NAND Flash) | 29 | 52 |
ถึงอุณหภูมิโดยรวมจะไม่สูงมากก็จริง แต่พอสังเกตตามเซนเซอร์จะเห็นว่าคอนโทรลเลอร์ของ SSD ตัวนี้มีอุณหภูมิสูงถึง 76~79 องศาเซลเซียส แต่ชิป NAND Flash ยังไม่เกิน 60 องศาเซลเซียส แม้จะไม่ทะลุขึ้นไปถึง 80~90 องศาเซลเซียสก็จริง แต่ยังน่าเป็นห่วงอยู่บ้างหากใช้งานในระยะยาว ยิ่งถ้าใช้เรนเดอร์งานหรือเทรนโมเดล AI ต่อเนื่องอาจเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้ติดฮีตซิ้งค์ให้ไดรฟ์นี้จะได้ยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น
User Experience

เรื่องไดรฟ์เก็บข้อมูลโดยเฉพาะ SSD กลายเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญซึ่งมีอยู่ในคอมแทบทุกเครื่อง ยิ่งเกมชั้นนำหลายเกมแนะนำให้ติดตั้งเกมในไดรฟ์ประเภทนี้ ทำให้มันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปโดยปริยาย ใครๆ เลยพยายามอัปเกรดคอมแล้วเลือกใช้ SSD สมรรถนะสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น WD_BLACK SN8100 ตัวนี้ ซึ่งผลจากการทดสอบกับเมนบอร์ดอินเทอร์เฟส PCIe 5.0 แล้ว จะเห็นว่าความเร็วสูงสมกับการเคลมหน้าสเปคไม่มีผิด แม้จะรันการทดสอบไป 5~10 ครั้ง ยังได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการเคลมไม่มีผิด แถมยังรักษาอุณหภูมิได้ดีแม้จะไม่ได้ใส่ฮีตซิ้งค์อุณหภูมิก็ยังไม่น่าเป็นห่วงนัก จะเห็นว่า WD_BLACK ในการทดสอบนี้ไม่ได้ใส่ฮีตซิ้งค์ของเมนบอร์ดแต่คอนโทรลเลอร์ก็ยังรักษาอุณหภูมิได้ดีพอควร แต่เวลาใช้งานขอให้ปิดเอาไว้จะดีกว่า
ในแง่การใช้งานจริง SSD ตัวนี้ตอบสนองผู้ใช้ได้ดีมาก ไม่ว่าจะเลือกเปิดไฟล์กับโปรแกรมไหนก็ไวทันใจไม่เจอปัญหาเรื่องช้าหรือค้างสักครั้ง เรื่องเล่นเกมถือว่ายอดเยี่ยมแต่ยังไม่ได้ให้ผลแตกต่างจาก WD Black SN7100 ซึ่งเป็น PCIe 4.0 อย่างเห็นได้ชัด แม้ Compile shader ก่อนเข้าเกมและโหลดฉากเปลี่ยนบทได้ไวขึ้นนิดหน่อยก็ยังไม่คุ้มจะลงทุน ยกเว้นว่าเป็นสตรีมเมอร์ที่เอาไลฟ์มาอัปโหลดย้อนหลังขึ้นช่อง YouTube ก็ยังพอจะคุ้มค่า อีกกลุ่มขอยกเว้นคนชอบอัปเกรดคอมยอมจ่ายซื้ออนาคตล่วงหน้าก่อนซอฟท์แวร์จะดึงสมรรถนะของมันออกมาได้เต็มกำลังก็ไม่มีปัญหา มองว่าการอัปเกรดคอมเป็นระยะๆ โดยไม่อิงกับเรื่องความคุ้มค่าเริ่มเข้าสู่ขอบเขตของงานอดิเรกไปแล้วนั่นเอง

ถ้ายังไม่คุ้มจะใช้เป็นไดรฟ์เล่นเกมแล้ว SSD PCIe 5.0 ไม่เฉพาะแต่ WD_BLACK SN8100 ควรใช้ทำอะไรดี? คำตอบคือ ใช้ทำงาน โดยเฉพาะการรันและเทรนโมเดล AI, ทำงานระดับโปรดักชั่นเฮ้าส์ไม่ว่าจะเก็บฟุตเทจและติดตั้งโปรแกรมใหญ่อย่าง Davinci Resolve กับ Adobe Premier Pro, ใช้ AutoCAD กับ SketchUp, ทำโมเดล 3D กับ CGI และทำ Database ขนาดใหญ่ซึ่งต้องเรียกใช้อย่างรวดเร็วต่อเนื่องจะดึงศักยภาพของ SSD ยุคใหม่ออกมาได้เต็มกำลัง ขอแค่ติดตั้งฮีตซิ้งค์เสริมก็ช่วยได้มาก อย่างรุ่นความจุ 2 TB ในรีวิวรองรับการเขียนอ่านไฟล์มากถึง 1,200 TBW ยิ่งถ้ามีความจุสูงถึง 4 TB จะรองรับมากถึง 2,400 TBW มั่นใจว่าถ้าใช้งานและดูแลตามเหมาะสมจะใช้ได้นานร่วม 10 ปีก็เป็นไปได้เช่นกัน
กรณีจะเลือกซื้อเมนบอร์ดของ AMD หรือ Intel ให้มีอินเทอร์เฟส PCIe 5.0 ไว้ใช้งาน ให้สังเกตตามรุ่นชิปเซ็ตตามข้อมูลข้างล่างนี้
- AMD – เมนบอร์ดสำหรับ Ryzen 7000 Series (ซ็อคเก็ต AM5) เป็นต้นมา ได้แก่ B650, B650E, B850, X670, X670E, X870 X870E สามารถเช็คข้อมูลโดยละเอียดได้ที่นี่
- Intel – เมนบอร์ดสำหรับ Intel 12th Generation เป็นต้นมา มักติดตั้งมากับชิปเซ็ตรุ่นสูง เช่น B769, Z790 เป็นต้นไป
กรณีจะเอา WD_BLACK SN8100 ไปติดตั้งในโน๊ตบุ๊คก็ยังไม่จำเป็นต้องรีบมาก อาจรอให้ผู้ผลิตติดตั้งอินเทอร์เฟส PCIe 5.0 เป็นมาตรฐานเหมือน PCIe 4.0 / 3.0 ก่อนก็ยังได้ ยกเว้นว่าโน๊ตบุ๊คส่วนตัวเป็นรุ่นเรือธงแล้วมีอินเทอร์เฟสเวอร์ชั่นนี้ติดตั้งอยู่จะนำไปใช้ก็ไม่มีปัญหา เพราะภายในโน๊ตบุ๊คเหล่านี้จะมีฮีตไปป์เฉพาะเพื่อ SSD เหล่านี้อยู่ จึงระบายความร้อนได้ดีแน่นอน
Conclusion

การซื้อ WD_BLACK SN8100 มาใช้ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลเรื่องทำงานหรือเล่นเกมก็เหมาะ แม้ราคาแนะนำขาย (MSRP) จะสูงถึง 12,490 บาท ก็ถือว่าซื้อความเร็วระดับอนาคตเอาไว้ก่อน เพราะเดี๋ยวโปรแกรมต่างๆ ก็ต้องการไดรฟ์ความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเกมเมอร์หรือมืออาชีพที่มีโปรเจคงานสำคัญอยู่ในมือก็จะได้ประโยชน์จากมันแน่นอน ขึ้นชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตพื้นที่จัดเก็บข้อมูลชั้นนำอย่าง Western Digital แล้ว ก็ไว้ใจได้สบายมาก





