Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebookspec

IT NEWS

Microsoft Store บังคับอัปเดตแอป หยุดได้แค่ชั่วคราวสูงสุด 5 สัปดาห์

Microsoft Store

ไมโครซอฟท์เพิ่งปล่อยอัปเดตใหม่ให้กับ Microsoft Store บน Windows 10 และ Windows 11 ที่สร้างเสียงวิจารณ์ไม่น้อย เพราะผู้ใช้ไม่สามารถปิดการอัปเดตแอปแบบถาวรได้อีกแล้ว โดยฟีเจอร์ใหม่จะอนุญาตให้ หยุดการอัปเดตอัตโนมัติได้เพียง 1–5 สัปดาห์ เท่านั้น หลังจากนั้นระบบจะกลับมาเช็กและติดตั้งอัปเดตให้อัตโนมัติ

Advertisement

นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำงานคล้ายกับ Windows Update ซึ่งผู้ใช้สามารถกดหยุดได้ชั่วคราว แต่เมื่อครบกำหนด ระบบก็จะกลับมาอัปเดตเอง เว้นแต่ผู้ใช้จะกดหยุดซ้ำอีกรอบ


ทำไม Microsoft ถึงบังคับให้อัปเดตแอป?

สาเหตุหลักมาจาก ความปลอดภัยทางไซเบอร์ เนื่องจากแอปที่ไม่ได้อัปเดตมักมีช่องโหว่ที่แฮ็กเกอร์สามารถเจาะเข้ามาได้ ไมโครซอฟท์จึงเลือกที่จะลดสิทธิ์ของผู้ใช้ เพื่อบังคับให้อัปเดตอัตโนมัติ ช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

แต่แน่นอนว่าการบังคับเช่นนี้อาจไม่ถูกใจใครหลายคน เพราะมองว่าเป็นการจำกัด เสรีภาพในการเลือก และทำให้รู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ที่ตัวเองซื้อมาใช้งานได้อย่างเต็มที่


ปัญหาที่ผู้ใช้กังวล

  1. อัปเดตที่มีบั๊ก – แม้ทีมพัฒนาแอปจะทดสอบก่อนปล่อยอัปเดต แต่ก็อาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ เช่น กรณีดังที่เคยเกิดใน กรกฎาคม 2024 ที่แพตช์ของ CrowdStrike มีบั๊กจนทำให้ระบบ IT ทั่วโลกล่ม สร้างความเสียหายมหาศาลนับ หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 3.6 แสนล้านบาท)
  2. ควบคุมไม่ได้ – ผู้ใช้บางคนชอบใช้แอปเวอร์ชันเก่า เพราะทำงานเข้ากับซอฟต์แวร์อื่น ๆ ได้ดีกว่า หรือเพราะไม่อยากเจอบั๊กจากอัปเดตใหม่ แต่จากนี้ไปทางเลือกนั้นแทบจะถูกตัดออกไป

วิธีตรวจสอบว่าคุณโดนบังคับอัปเดตแล้วหรือยัง

  • เปิด Microsoft Store
  • คลิกที่รูปโปรไฟล์ของคุณ
  • เลือก Settings
  • ที่หัวข้อ App updates หากระบบบังคับแล้ว เมื่อกดปิด จะมีป๊อปอัปขึ้นมาถามว่าต้องการหยุดกี่สัปดาห์ (สูงสุด 5 สัปดาห์)

ไมโครซอฟท์กำลังทยอยปล่อยการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นระยะในแต่ละภูมิภาค หากคุณยังไม่เจอ ก็มีโอกาสว่าจะถูกบังคับในเร็ว ๆ นี้


ทางเลือกของผู้ใช้

ถ้าไม่อยากเจอการอัปเดตอัตโนมัติ วิธีเดียวคือ เข้าไปโหลดแอปตรงๆ จากเว็บไซต์ผู้พัฒนาแทน แต่ทว่าช่วงหลังไมโครซอฟท์เองก็พยายามผลักดันให้ทุกคนใช้ Store มากขึ้น เพื่อควบคุมระบบจัดการแอปเหมือนที่ iOS มี App Store และ Android มี Google Play

ดังนั้น ในอนาคตอาจมีวันที่ผู้ใช้อย่างเรา ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องโหลดแอปผ่าน Store เท่านั้น


บทสรุป

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนว่าไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัย มากกว่าความอิสระของผู้ใช้ แม้จะช่วยลดความเสี่ยงด้านไซเบอร์ แต่ก็ทำให้หลายคนรู้สึกถูกจำกัดเสรีภาพ

อย่างไรก็ตาม หากคุณกังวลเรื่องบั๊กจากการอัปเดต วิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงได้คือเลี่ยงการใช้ Microsoft Store ไปเลย

ที่มา: tomshardware

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

IT NEWS

ตลอดช่วงหลัง Windows 11 เริ่มถูกวิจารณ์มากขึ้น ไม่ใช่เพราะฟีเจอร์ใหม่หรือหน้าตาที่เปลี่ยนไป แต่เป็นแนวทางการพัฒนาที่ Microsoft เลือกใช้ โดยเฉพาะการนำเว็บเทคโนโลยีมาใช้แทนระบบแบบ native ในหลายส่วนของตัวระบบเอง ตั้งแต่แอปยอดนิยม ไปจนถึงฟีเจอร์พื้นฐานที่ผู้ใช้ต้องใช้งานทุกวัน ประเด็นนี้ได้รับความสนใจมากขึ้น เมื่อ Brendan Eich ผู้สร้างภาษา JavaScript และ CEO ของ Brave Browser...

IT NEWS

แนวคิดของระบบ Aim Assist ในเกมมักถูกพูดถึงในบริบทของคอนโซลหรือซอฟต์แวร์ช่วยเล็ง แต่โปรเจกต์ล่าสุดจาก Nick ยูทูบเบอร์เจ้าของช่อง Basically Homeless ได้พาแนวคิดนี้ไปไกลกว่านั้น ด้วยการสร้างระบบช่วยเล็งแบบ “กลไกจริง” ที่ไม่ได้แตะต้องตัวเกมหรือเมาส์เลยแม้แต่น้อย แทนที่จะขยับเมาส์ ระบบนี้กลับเลือกขยับ แผ่นรองเมาส์ทั้งแผ่น ใต้เมาส์แทน และผลลัพธ์ที่ได้คือความแม่นระดับยิงหัวแบบเลเซอร์ จนคนเล่นด้วยเริ่มคิดว่าตัวเองมีสกิลระดับ eSports โดยไม่รู้ตัว Advertisement แนวคิดเริ่มต้น: เมื่อเล่นเกมเก่งเกินไปจนเริ่มเบื่อ...

IT NEWS

Microsoft เริ่มทยอยอัปเดต Copilot บนเว็บ, Windows และอุปกรณ์พกพา ด้วยโมเดล AI รุ่นใหม่ GPT 5.2 ภายใต้ชื่อโหมด Smart Plus โดยเปิดให้ใช้งานเป็นการอัปเกรดฟรี และยังคงใช้งานควบคู่ไปกับ GPT 5.1 ที่อยู่ในโหมด Smart ตามเดิม การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนทิศทางชัดเจนว่า Microsoft ต้องการยกระดับ...

IT NEWS

ในช่วงปลายปี 2025 ตำรวจเกาหลีใต้เปิดเผยความคืบหน้าคดีอาชญากรรมไซเบอร์รายใหญ่ หลังสามารถจับกุมแฮกเกอร์ชาวลิทัวเนียวัย 29 ปี ซึ่งอยู่เบื้องหลังการแพร่ KMSAuto ปลอมไปทั่วโลก ส่งผลให้มีคอมพิวเตอร์ติดมัลแวร์มากกว่า 2.8 ล้านเครื่อง และเกิดความเสียหายจากการโจรกรรมคริปโทเคอร์เรนซีคิดเป็นมูลค่ากว่า 46 ล้านบาท คดีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างชัดเจนของความเสี่ยงจากการใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน โดยเฉพาะเครื่องมือ Activate Windows หรือ Office อย่าง KMSAuto ที่มักถูกใช้เป็นช่องทางฝังมัลแวร์มานานแล้ว...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก