ข้อดีของ iPhone ทุกรุ่น ไม่พ้นเรื่องใช้งานได้ง่ายและใช้ได้นานหลายปีจนบางคนมีเคสสำรองเผื่อไว้สัก 1-2 อัน อย่างแน่นอน อย่างเคสไอโฟน iPhone 15 ในตอนนี้ก็ยังมีเคสให้ซื้อมาสวมปกป้องเครื่องได้หลากหลายรุ่นตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนพันบาทต้นๆ ให้เลือก ซึ่งถ้าจะใส่แค่ป้องกันไม่ให้เกิดรอยขนแมวบนฝาหลังกับเลนส์กล้องก็ไม่มีปัญหาอะไร
ในทางกลับกันถ้าเริ่มใส่ใจรายละเอียดเมื่อไหร่ จะเห็นว่าเคสแต่ละตัวจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป แม้แต่ราคาหลักพันก็มีเหตุผลสนับสนุนว่าทำไมราคาต้องสูงระดับนี้ เช่น มีวงแหวนโลหะมาให้ใช้กับอุปกรณ์ MagSafe ได้, ดีไซน์และใช้วัสดุแข็งแรงลดความเสียหายตอนเครื่องตกพื้น รวมไปจนผ่านการทดสอบ MIL-STD 810H ว่าผ่านการทดสอบ Drop Test ทำเครื่องตกจากความสูงกี่เมตรเป็นต้น ดังนั้นการลงทุนซื้อเคสดีๆ สักอันมาใช้งานสักครั้งก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพื่อถนอมให้มือถือเครื่องสำคัญยังใช้งานไปได้อีกหลายปี ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนโดยเกินจำเป็นนัก
เคสไอโฟน iPhone 15 หายากไหม แล้วรุ่นนี้ยังใช้ได้อีกกี่ปี?
- ไอโฟน 15 ณ ตอนนี้ยังหาซื้อเคสได้ แต่จะมีเฉพาะบางรุ่นและบางแบรนด์จะเริ่มไม่มีสินค้าแล้ว สันนิษฐานว่าแต่ละแบรนด์กำลังเคลียร์สต็อกเพื่อรองรับสินค้ารุ่นใหม่
- แม้ iPhone 12 เป็นต้นมาจะมีแม่เหล็ก MagSafe ในตัว แต่พอสวมเคสแล้วแรงดูดแม่เหล็กจะน้อยลง เคสหลายรุ่นจึงมีเวอร์ชั่นติดวงแหวนแม่เหล็กมาให้
- วงแหวนแม่เหล็ก MagSafe ของเคสบางรุ่นสามารถกางออกมาใช้เป็นขาตั้งได้ แต่พอใช้งานมาสักระยะบานพับอาจหลวมลงบ้าง
- ตามสเปคของไอโฟน 15 พร้อม iOS 17 ยังใช้งานได้อีกหลายปี ถ้าอิงจากประวัติการอัปเกรดซึ่งได้ราว 6 เวอร์ชั่น จะใช้ iOS 26 ได้แน่นอน รวมถึงในอนาคตอีก 2-3 เวอร์ชั่น
- อ้างอิงจากหน้าเว็บไซต์ Apple Thailand ณ ตอนนี้ยังจำหน่าย iPhone 15 และ 15 Plus ความจุตั้งแต่ 128-512GB ได้ และเลือกซื้อได้ทั้ง 5 สี ได้แก่ ฟ้า, ชมพู, เหลือง, เขียวและดำ ราคาเริ่มต้น 26,900-41,900 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและความจุ
- เทียบกับ iPhone 16 แล้ว ราคาแต่ละรุ่นจะห่างกัน 3,000-5,000 บาท ในรุ่น Plus จะมีราคาสูงกว่า
- ไอโฟน 15 เปลี่ยนพอร์ตจาก Lightning เป็น USB-C รุ่นแรก แต่รุ่นธรรมดากับ Plus จะเป็นมาตรฐาน USB 2.0 ส่วน Pro, Pro Max เป็น USB 3.0
- iPhone รุ่น 15 Pro, Pro Max สามารถต่อ External SSD เข้า USB-C 3.0 ถ่ายคลิปวิดีโอแบบ ProRAW และเลือกความละเอียดได้ว่าต้องการความละเอียด 12 ล้าน, 48 ล้าน หรือ HEIF 48 ล้านพิกเซลก็ได้ ให้ผู้ใช้ถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงไว้ทำงานต่อได้
7 เคสไอโฟน iPhone 15 น่าใช้ ซื้อมาเปลี่ยนหรือสำรองก็เวิร์ค!
- เคส MOOV CS12 (215 บาท)
- Nillkin Frosted Shield Pro (279 บาท)
- เคส Hi-Shield (382 บาท)
- เคส Ringke Onyx (415-481 บาท)
- Apple Silicone Case With MagSafe (990 บาท)
- Apple iPhone 15 Pro Clear Case with MagSafe (990 บาท)
- UAG Monarch และ Monarch Pro (685-1,795 บาท)
1. เคส MOOV CS12 (215 บาท)
| Type | เคสใสซิลิโคน |
| Colors | สีบนวงแหวนแม่เหล็ก มีสีเงิน, ฟ้า, น้ำตาลและเทา |
| Features | วงแหวนเหล็กหลังเคสกางเป็นขาตั้งได้ วงแหวนเหล็กหมุนได้ 360 องศา ยกกรอบรอบกล้องป้องกันเลนส์เสียหาย |
| Price | iPhone 12 ถึง iPhone 16 ราคา 215 บาท (Moov Thailand Shopee Mall) |
สำหรับคนมีไอโฟนรุ่นเก่าตั้งแต่ iPhone 12 เป็นต้นมาแล้วเริ่มหาซื้อเคสยากแล้วไม่อยากใช้เคสคุณภาพต่ำล่ะก็ เคสใส MOOV CS12 นับว่าน่าสนใจมาก เพราะราคาเพียงสองร้อยบาทต้นๆ แล้วมีวงแหวนแม่เหล็กไว้ใช้กับอุปกรณ์เสริมได้หลากหลายแบบทั้งซองใส่บัตร, ตัวชาร์จ MagSafe หรือกรอบจับมือถือเพื่อถ่ายงานก็ได้ เวลาใช้งานทั่วไปสามารถกางออกมาตั้งมือถือในแนวตั้งหรือนอนก็สะดวก เหมาะกับคนมี iPhone รุ่นเก่าแล้วอยากเปลี่ยนเคสมาก แต่อย่างไรก็ตามเคสซิลิโคนใสเวลาใช้งานไปราวหนึ่งปีกว่าจะเก่าแล้วเหลืองเป็นเรื่องปกติ อาจจะต้องทำความสะอาดบ้างเพื่อให้มันยังดูใหม่อยู่เสมอ
ข้อดี
- มีราคาไม่แพงมากเพียง 215 บาทเท่านั้นและใช้กับไอโฟนได้หลากหลายรุ่น
- วงแหวนแม่เหล็กหลังเคสสามารถกางเพื่อตั้งเครื่องในแนวตั้งกับนอนได้
- กรอบรอบกล้องยกขอบขึ้นเพื่องป้องกันเลนส์เป็นรอยเวลาวางกับพื้นโต๊ะ
- สามารถชาร์จไร้สายได้โดยไม่ต้องถอดเคสออกก่อน
ข้อสังเกต
- เคสซิลิโคนแบบใสเมื่อใช้งานไปนานๆ จะเริ่มเก่าและกลายเป็นสีเหลืองอย่างเลี่ยงไม่ได้
2. Nillkin Frosted Shield Pro (279 บาท)
| Type | เคสยาง TPU |
| Colors | ดำและเขียว |
| Features | ขอบตัวเครื่องป้องกันการกระแทกได้ ผิวด้านหลังเป็นเนื้อสากให้จับถือง่าย มีวงแหวนแม่เหล็กไว้ติดกับอุปกรณ์ต่างๆ |
| Price | 279 บาท (Nillkin Shopee Mall) |
Nillkin Frosted Shield Pro เป็นเคสราคาประหยัดสำหรับไอโฟน 15 ทุกขนาดและมีสีเขียวกับดำให้เลือกซื้อได้ตามชอบ ตัวเคสยกกรอบตรงกล้องขึ้นเล็กน้อยเพื่อป้องกันเลนส์มีริ้วรอยเสียหายและเสริมมุมทั้งสี่ด้านเพื่อป้องกันการกระแทก ด้านหลังและข้างเคสเป็นเนื้อสากให้จับเครื่องได้ถนัดมือไม่ลื่นหลุดง่าย ใส่วงแหวนแม่เหล็กไว้ด้านในเพื่อใช้กับอุปกรณ์ MagSafe ได้ ไม่ว่าจะติดกระเป๋าเงิน, ตัวแท่นจับมือถือเพื่อถ่ายงานไปจนตัวชาร์จไร้สายก็ใช้ได้โดยไม่ต้องถอดเคส แต่ตัวเคสจะเรียบง่ายไม่มีลูกเล่นใดๆ เป็นพิเศษจึงต้องมีอุปกรณ์เสริมอย่างขาตั้งหรือตัวช่วยจับมือถือติดกระเป๋าไว้ให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
ข้อดี
- เป็นเคสยาง TPU เนื้อเหนียวแข็งแรง ใส่ป้องกันขอบเครื่องสี่มุมได้ดีพอควร
- มีวงแหวนแม่เหล็กติดมาด้านในให้ใช้กับอุปกรณ์ MagSafe ได้
- กรอบรอบกล้องยกขอบขึ้นเพื่อป้องกันเลนส์ได้รับความเสียหาย
- สามารถชาร์จไร้สายได้โดยไม่ต้องถอดเคสออก
ข้อสังเกต
- เป็นเคสป้องกันตัวเครื่องเท่านั้น เน้นพึ่งพาอุปกรณ์เสริมเป็นหลัก
3. เคส Hi-Shield (382 บาท)
| Type | เคสใสซิลิโคนเสริมขอบกันกระแทก |
| Colors | เคสใส, ดำทึบ, ใสขอบดำ, ดำขอบดำ, ใสขอบเทา, ใสกันกระแทก, หนังดำและหนังสีน้ำตาล |
| Features | ขอบกันกระแทกพิเศษ วงแหวนแม่เหล็ก MagSafe วงแหวนครอบเลนส์กล้อง เคลือบสารกันเหลืองและรอยขีดข่วน Military drop test 300 cm. |
| Price | 394 บาท (TwithTech Shopee Mall) |
เคส Hi-Shield จากผู้ผลิตฟิล์มกันรอยหน้าจอชั้นนำของประเทศไทยก็มีเคสสำหรับ iPhone 14-16 ตั้งแต่รุ่นธรรมดาไปจน Pro Max ให้ซื้อไปใส่ปกป้องเครื่องได้แล้วราคาไม่เกิน 500 บาท มีให้เลือกหลากหลายแบบไม่ว่าจะเคสใสธรรมดาหรือแบบยกขอบกันกระแทกไปจนเคสหนังก็มีเช่นกัน แทบทุกรุ่นมีวงแหวน MagSafe ไว้ดูดติดกับอุปกรณ์เสริมอย่างตัวจับกล้อง, กระเป๋าใส่บัตรหรือตัวชาร์จไร้สายก็ได้เช่นกัน จุดพิเศษของเคสนี้ถ้าเป็นแบบเสริมขอบกันกระแทกจะผ่านการทดสอบ Drop test ความสูง 300 ซม. มาแล้วว่าตัวเครื่องไม่เสียหายแน่นอน
อย่างไรก็ตามวงแหวน MagSafe ด้านหลังเคสจะเป็นแบบฝังเอาไว้ด้านใน กางออกมาเป็นขาตั้งมือถือไม่ได้จึงต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมอย่างกระเป๋าการ์ดกางเป็นขาตั้งได้แทน ถ้าจะซื้อมาใช้เป็นเคสสำรองหรือเปลี่ยนอันเก่าก็เป็นตัวเลือกที่ดี
ข้อดี
- มีให้เลือกซื้อหลายรุ่นตั้งแต่ iPhone 14 ถึง 16 Pro Max และเลือกได้หลายสี
- ติดขอบกันกระแทกมาให้ลดความเสียหายตอนทำตกพื้น
- รุ่นเสริมขอบเพิ่มความแข็งแรงผ่าน Drop test 300 ซม. ว่าไม่เสียหาย
- ยกขอบรอบกล้องขึ้นเพื่อป้องกันเลนส์เกิดรอยขีดข่วนเวลาวางกับพื้นโต๊ะ
- สามารถชาร์จไร้สายได้โดยไม่ต้องถอดเคสออกก่อน
ข้อสังเกต
- วงแหวน MagSafe เป็นแบบฝังไว้กับเคส ไม่สามารถกางเป็นขาตั้งได้ ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเท่านั้น
4. เคส Ringke Onyx (415-481 บาท)
| Type | เคส TPU เนื้อสาก |
| Colors | สีดำหรือเขียว |
| Features | Duo-QuikCatch ไว้ร้อยสายห้อยมือถือ ตัวเคสกันลื่นและรอยนิ้วมือ ยกขอบเลนส์กล้องและหน้าจอ MIL-STD 810G-516 6 |
| Price | รุ่น Pro / Pro Max ราคา 415 บาท (Vgadz Shopee Mall) รวมทุกรุ่น ราคา 481 บาท (Ringke Original Shopee Mall) |
เคสจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Ringke Onyx มีจุดเด่นเรื่องดีไซน์เรียบง่ายเป็นสีเดียวทั้งตัวและผิวเคสจะเป็นเนื้อสากทำให้จับได้กระชับมือไม่ให้ลื่นตกพื้นได้ง่าย แต่ถ้าพลาดก็มีกรอบป้องกันหน้าจอและเลนส์กล้องช่วยรับแรงกระแทกเอาไว้อีกชั้นไม่ให้ iPhone เสียหาย เรื่องความแข็งแรงทนทานนับว่าไม่มีปัญหาเพราะเคส Onyx ตัวนี้ได้รับการรับรอง MIL-STD 810G-516 6 แล้ว จึงไว้ใจได้แน่นอน ตรงขอบเคสมุมล่างขวาก็มีช่อง Duo-QuikCatch หรือช่องร้อยสายคล้องข้อมือหรือสะพายมือถือติดมาให้เจ้าของใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ถ้าใครอยากได้เคสไอโฟนคุณภาพระดับโลกราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าเงินก็แนะนำให้ซื้อรุ่นนี้ไว้ใช้ได้เลย
แต่ถึงจะปกป้องตัวเครื่องได้ดีจับถนัดมืออย่างไรก็ตาม ตัวเคสจะไม่มีวงแหวน MagSafe ติดมา จึงใช้กับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ไม่ได้ ถ้าใครมีอุปกรณ์เสริมหลายชิ้นอาจข้ามไปดูเคสรุ่นอื่นดีกว่า
ข้อดี
- ตัวเคสยกขอบเลนส์กล้องและด้านหน้าเคสเพื่อป้องกันตัวเครื่องเกิดความเสียหาย
- ผ่านการทดสอบการตก MIL-STD 810G-516 6 ลดความเสียหายเวลาทำตกได้
- ตัวเคสดีไซน์ขอบด้านข้างและหลังให้เป็นปุ่มสากกันลื่นและรอยนิ้วมือ
- เจาะช่องห้อยสายคล้องมือถือมาให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ข้อสังเกต
- ไม่มีวงแหวนแม่เหล็ก MagSafe ติดมาให้ใช้ติดกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ
5. Apple Silicone Case With MagSafe (990 บาท)
| Type | เคสซิลิโคน |
| Colors | น้ำเงิน Strom Blue ชมพู Guava สีส้ม Orage Sorbet น้ำเงิน Winter Blue |
| Features | เนื้อซิลิโคนจับติดมือไม่ลื่นง่าย มีวงแหวน MagSafe ยกขอบป้องกันตัวเครื่องและเลนส์กล้อง |
| Price | มีรุ่น 15 Plus และ 15 Pro ราคา 990 บาท (iStudio by SPVi Shopee Mall) |
Apple Silicone Case With MagSafe หรือเคสแท้แอปเปิ้ลมักโดนใครๆ มองข้ามเพราะราคาค่อนข้างสูงและเป็นเคสมาตรฐานทั่วไป มีวงแหวน MagSafe ในตัวและยกกรอบป้องกันเลนส์กล้องกับหน้าจอเท่านั้น ไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์แปลกแหวกแนวอย่างเสริมขอบหนาพิเศษเพื่อลดแรงกระแทกเวลาทำเครื่องหลุดมือตกพื้นหรือกางขาตั้งเคสออกมาตั้งเครื่องดูหนังได้ก็จริง แต่ยังใช้กับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้แถมป้องกันตัวเครื่องตอนทำตกจากความสูงราวเอวแล้วกระทบพื้นได้ระดับหนึ่ง และข้อดีของวัสดุยางซิลิโคนคือจับแล้วติดมือไม่ลื่นจึงจับเข้ามือไม่หลุดตกพื้นง่ายๆ แต่กลับกันมันก็จะเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานและการเสียดสีกับผ้ากระเป๋าอย่างแน่นอน ราว 1-2 ปี จะเริ่มเสื่อมสภาพและเกิดอาการเหนียวติดมือได้ ถ้าใครอยากใช้เคสให้เข้ากับ iPhone 15 จะซื้อมาปกป้องตัวเครื่องก็เหมาะเช่นกัน
ข้อดี
- เป็นเคสของ Apple เพื่อ iPhone โดยเฉพาะ ใส่ได้พอดีตัวเครื่องแน่นอน
- เนื้อซิลิโคนนุ่มจับถนัดและไม่ลื่นหลุดมือได้ง่าย มีให้เลือกหลากหลายสี
- ตัวเคสลดแรงกระแทกจากการทำตกพื้นได้ระดับหนึ่ง
- มีแม่เหล็ก MagSafe ในตัว ใช้ดูดติดกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้
ข้อสังเกต
- วงแหวน MagSafe เป็นแบบฝังในตัว ถ้าจะตั้งเครื่องต้องใช้อุปกรณ์เสริมอื่นๆ แทน
- หากใช้งานไปราว 1-2 ปี เนื้อซิลิโคนจะเริ่มเสื่อมสภาพ จับแล้วเป็นยางติดมือได้
6. Apple iPhone 15 Pro Clear Case with MagSafe (990 บาท)
| Type | เคสใสโพลีคาร์บอเนต |
| Colors | เคสใส |
| Features | มีวงแหวน MagSafe เคลือบสารกันรอยขีดข่วน เคลือบสารกันเคสเหลือง |
| Price | iPhone 15 Pro ราคา 990 บาท (Studio7 Shopee Mall) iPhone 15 Pro Max ราคา 990 บาท (Studio7 Shopee Mall) |
ถ้าเคสซิลิโคนในข้อก่อนไม่ถูกใจเพราะอยากโชว์สีเครื่อง ก็มีเคสใสอย่าง Apple iPhone 15 Pro Clear Case with MagSafe ให้เลือกได้ในราคาเดียวกัน ซึ่งจุดเด่นของเคสทั้งสองรุ่นก็แทบไม่ต่างอะไรกันมาก ทั้งยกกรอบรอบเคสป้องกันหน้าจอและเลนส์เพื่อลดความเสียหายเวลาทำหลุดมือตกพื้นและมีวงแหวน MagSafe ติดมาให้เหมือนกัน แต่จุดแตกต่างอยู่ตรงสารเคลือบบนตัวเคสช่วยลดรอยขีดข่วนและทำให้ใช้งานไปนานๆ จะลดอาการเคสเหลืองได้ เหมาะกับคนชอบใส่เคสแล้วโชว์สีสันของเครื่องมาก
ข้อดี
- ตัวเคสเคลือบสารกันรอยขีดข่วนและป้องกันเคสเหลืองเมื่อใช้ไปนานๆ มาให้
- ติดวงแหวน MagSafe มาให้ใช้กับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้
- เป็นเคสใสโชว์สีสันของตัวเครื่องได้อย่างสวยงามและไม่ต้องถอดเคสตอนชาร์จไร้สาย
ข้อสังเกต
- วงแหวน MagSafe เป็นแบบฝังในตัว กางเป็นขาตั้งไม่ได้ จึงต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมแทน
- มีเฉพาะ iPhone 15 Pro และ Pro Max เท่านั้น รุ่นพื้นฐานและ Plus ไม่มีแล้ว
7. UAG Monarch และ Monarch Pro (685-1,795 บาท)
| Type | เคสกันกระแทก |
| Colors | Monarch Pro เคฟล่าร์ดำ, เคฟล่าร์เขียว, เคฟล่าร์เงิน, ดำ, คาร์บอนไฟเบอร์, น้ำเงินกรมท่า, สีน้ำตาลสนิม, สีเงิน Monarch เคฟล่าร์ดำ, เคฟล่าร์เขียว, คาร์บอนไฟเบอร์, กรมท่า, แดงชาด |
| Features | เสริมวัสดุกันกระแทกในเคส 5 ชั้น ผ่านการาทดสอบ MIL-STD 810G 516.6 มีวงแหวนแม่เหล็ก MagSafe มีหูหิ้วติดสายคล้องตัวหรือข้อมือ |
| Price | UAG Monarch สำหรับ 15 Pro / Pro Max แบบ Kevlar 865 บาท ส่วนแบบธรรมดา 685 บาท (UAG Shopee Mall) UAG Monarch Pro สำหรับ 15 Pro แบบ Kevlar 1,395 บาท ลายธรรมดา 1,195 บาท รุ่น 15 Pro Max สีดำ ราคา 1,495 บาท สี Rust, Silver ราคา 1,795 บาท (UAG Shopee Mall) |
เห็นชื่อ UAG เป็นใครก็คิดถึงเคสกรอบหนาแข็งแรงอย่าง Monarch และ Monarch Pro อย่างแน่นอน ซึ่งในตอนนี้ยังหาซื้อมาใช้กับ iPhone 15 Pro, Pro Max ได้อยู่ แม้จะมีตัวเลือกน้อยลงไปบ้างก็ตาม ซึ่งจุดเด่นของเคส Monarch, Monarch Pro ก็เป็นเรื่องความแข็งแรงทนทาน ตั้งแต่การเสริมแผ่นกันกระแทกภายใน 5 ชั้น คู่กับมุมกันกระแทกทั้ง 4 ด้าน เสริมโครงสร้างด้านหลังแบบหกเหลี่ยมเพื่อลดแรงกระแทกให้เบาลง โดยการออกแบบโครงสร้างเช่นนี้ทำให้ผ่านมาตรฐานการทดสอบ MIL-STD 810G ทั้งคู่ นอกจากดีไซน์ภายนอกที่ต่างกันเคสรุ่น Monarch จะป้องกัน iPhone จากการตกจากความสูง 6 เมตรได้ ส่วน Monarch Pro จะสูงถึง 7.6 เมตร หรือสูงเกือบเท่าบ้าน 2 ชั้นทีเดียว ถ้าใครชอบพลาดทำ iPhone ตกบ่อยๆ แนะนำให้ซื้อเคส UAG ทั้งสองรุ่นไปใช้จะเหมาะมาก
กลับกันข้อสังเกตของ UAG Monarch และ Monarch Pro คือ ดีไซน์จะดูแข็งทื่อและหนาเทอะทะมาก ทำให้คนมือเล็กต้องจับใช้งานสองมือไปโดยปริยาย
ข้อดี
- ออกแบบมาเป็นเคสกันกระแทกโดยเฉพาะ รองรับการตกกระแทกจากความสูง 6-7.6 เมตรได้
- ดีไซน์มาป้องกันตัวเครื่องทั้ง 4 มุมและด้านหลังเป็นทรงหกเหลี่ยม ลดแรงกระแทกได้
- มีวงแหวนแม่เหล็ก MagSafe ในตัวไว้ให้ต่ออุปกรณ์เสริมหรือชาร์จไร้สายได้
- มีหูคล้องสายห้อยมือถือกับลำตัวหรือข้อมือติดมาให้
ข้อสังเกต
- เคสหนาและใหญ่เทะทะ อาจไม่ถูกใจคนชอบเคสบางจับถนัดมือนัก
เรื่องของเคสมือถือไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ตามจะมีตัวเลือกเยอะมากมาย โดยเฉพาะ iPhone ซึ่งเป็นตัวเลือกมาตรฐานในยุคนี้ที่มีตัวเลือกเยอะเป็นพิเศษ แต่การเลือกเคสนอกจากประสิทธิภาพแล้ว ก็เกี่ยวกับเรื่องความสวยงามและรสนิยมด้วย บางคนขอแค่สวยถูกใจหรือแปลกแหวกแนวไว้ก่อนก็พอ เครื่องเสียก็จ่ายเงินซ่อมไปหรือบางคนใช้มันเป็นอุปกรณ์ทำงานก็ไม่อยากให้เครื่องเสียเดี๋ยวงานจะล่มไปด้วยก็ยอมจ่ายเพื่อเคสรุ่นที่แข็งแรงเป็นพิเศษไปเลยก็เหมาะเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเคสเป็นอุปกรณ์เสริมที่ควรลงทุนซื้อของดีไว้ใช้มาก เพราะมันเป็นปราการด่านแรกเวลาเครื่องหลุดจากมือไปกระทบพื้น ถ้าเป็นเคสทั่วไปหรือแบบแฟชั่นอาจจะป้องกันเครื่องได้บ้างแต่ก็ไม่รู้ว่าจอจะพังหรือเลนส์กล้องจะแตกไหม แต่ถ้าเป็นเคสแท้แอปเปิ้ล, UAG หรือ Ringke ก็จะช่วยลดความเสียหายลงไปได้มาก แต่ถ้าใครระวังตัวไม่ได้ทำตกบ่อย แค่อยากใส่เพื่อความสบายใจและสวยงามด้วย เคส Hi-Shield, MOOV และ Nillkin ก็ใช้ได้ ส่วนตัวถ้าไม่ได้เปลี่ยนมือถือบ่อย ชอบใช้ไปเรื่อยๆ จนใช้ไม่ได้หรือไม่ได้อัปเดต iOS เวอร์ชั่นใหม่แล้ว นอกจากซื้อเคสดีก็ควรมีสำรองสักอันจะได้ไม่ต้องกลุ้มเวลาเคสหมดสภาพจะได้หยิบอันสำรองมาใช้ได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
