Microsoft Excel เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการจัดการข้อมูล และการใช้คีย์ลัด Excel ก็จะช่วยให้คุณทำงานได้เร็วขึ้น ลดการใช้เมาส์ และเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือผู้ใช้ขั้นสูง คีย์ลัดเหล่านี้จะช่วยประหยัดเวลาและทำให้การทำงานร่วมกับ Excel บน Windows 11 สะดวกยิ่งขึ้น บทความนี้เป็นการรวบรวม 50 คีย์ลัดที่ใช้งานได้จริง แบ่งตามหมวดหมู่เพื่อให้เข้าใจง่าย พร้อมคำอธิบายปุ่มที่กดและผลลัพธ์ที่ได้ และสามารถค้นหาบทความคีย์ลัดใน Notebookspec เพิ่มเติมได้อีกด้วย
50 คีย์ลัด Excel ที่ใช้งานได้จริงใน Windows 11
- คีย์ลัด Excel สำหรับการเลื่อนไปจุดต่างๆ
- คีย์ลัด Excel สำหรับการเลือกข้อมูล
- คีย์ลัด Excel สำหรับการแก้ไขและป้อนข้อมูล
- คีย์ลัด Excel สำหรับการจัดการสูตร
- คีย์ลัด Excel สำหรับการจัดการ Worksheet และ Workbook
- FAQ คำถามที่พบบ่อย
1. คีย์ลัด Excel สำหรับการเลื่อนไปจุดต่างๆ
- Ctrl + Arrow Keys – เลื่อนไปยังขอบของข้อมูลในทิศทางลูกศร (เช่น ขอบบน ซ้าย ขวา ล่าง)
- Home – กลับไปที่คอลัมน์แรกของแถวปัจจุบัน
- Ctrl + Home – เลื่อนไปที่เซลล์ A1
- Ctrl + End – เลื่อนไปที่เซลล์สุดท้ายที่มีข้อมูล
- Page Up – เลื่อนหน้าจอขึ้นหนึ่งหน้า
- Page Down – เลื่อนหน้าจอลงหนึ่งหน้า
- Ctrl + Page Up – สลับไปที่แท็บ Sheet ทางซ้าย
- Ctrl + Page Down – สลับไปที่แท็บ Sheet ทางขวา
- Alt + Page Up – เลื่อนหน้าจอไปทางซ้ายหนึ่งหน้า
- Alt + Page Down – เลื่อนหน้าจอไปทางขวาหนึ่งหน้า
2. คีย์ลัด Excel สำหรับการเลือกข้อมูล
- Shift + Arrow Keys – เลือกเซลล์เพิ่มในทิศทางลูกศร
- Ctrl + Shift + Arrow Keys – เลือกข้อมูลทั้งหมดในทิศทางลูกศรจนถึงขอบ
- Ctrl + A – เลือกข้อมูลทั้งหมดในตารางหรือทั้ง Sheet
- Shift + Space – เลือกทั้งแถวของเซลล์ที่เลือก
- Ctrl + Space – เลือกทั้งคอลัมน์ของเซลล์ที่เลือก
- Ctrl + Shift + * (ดอกจัน) – เลือกบริเวณข้อมูลรอบเซลล์ปัจจุบัน
- F8 – เปิดโหมดการเลือกแบบขยาย (กดซ้ำเพื่อปิด)
- Shift + F8 – เพิ่มการเลือกเซลล์แบบไม่ต่อเนื่อง
- Ctrl + Shift + Home – เลือกจากเซลล์ปัจจุบันไปถึง A1
- Ctrl + Shift + End – เลือกจากเซลล์ปัจจุบันไปถึงเซลล์สุดท้ายที่มีข้อมูล
3. คีย์ลัด Excel สำหรับการแก้ไขและป้อนข้อมูล
- F2 – แก้ไขเนื้อหาในเซลล์ที่เลือก
- Ctrl + Enter – ป้อนข้อมูลในเซลล์ที่เลือกและยังคงเลือกเซลล์นั้น
- Alt + Enter – ขึ้นบรรทัดใหม่ในเซลล์เดียวกัน
- Ctrl + D – คัดลอกข้อมูลจากเซลล์ด้านบนลงมา (Fill Down)
- Ctrl + R – คัดลอกข้อมูลจากเซลล์ด้านซ้ายไปขวา (Fill Right)
- Ctrl + ; – ใส่วันที่ปัจจุบัน
- Ctrl + Shift + : – ใส่เวลาปัจจุบัน
- Ctrl + Shift + # – เปลี่ยนรูปแบบวันที่ (เช่น 31/12/2025)
- Ctrl + Shift + $ – เปลี่ยนรูปแบบสกุลเงิน
- Ctrl + Shift + % – เปลี่ยนรูปแบบเปอร์เซ็นต์
4. คีย์ลัด Excel สำหรับการจัดการสูตร
- F4 – สลับการล็อกเซลล์ในสูตร ($A$1, A$1, $A1, A1)
- Ctrl + ` (Backtick) – แสดง/ซ่อนสูตรทั้งหมดใน Sheet
- Ctrl + Shift + Enter – ป้อนสูตรแบบ Array
- Alt + = – ใส่สูตร AutoSum (ผลรวมอัตโนมัติ)
- Ctrl + Shift + U – ขยาย/ย่อแถบสูตร
- F9 – คำนวณส่วนของสูตรที่เลือกในแถบสูตร
- Ctrl + Shift + A – แสดงคำแนะนำพารามิเตอร์ของฟังก์ชัน
- Ctrl + [ (Bracket) – เลือกเซลล์ที่สูตรอ้างอิงโดยตรง
- Ctrl + Shift + } – เลือกเซลล์ที่อ้างอิงสูตรปัจจุบัน
- Alt + M – เปิดหน้าต่าง Function Arguments
5. คีย์ลัด Excel สำหรับการจัดการ Worksheet และ Workbook
- Ctrl + F4 หรือ Ctrl + W – ปิด Workbook ปัจจุบัน
- Ctrl + N – สร้าง Workbook ใหม่
- Ctrl + O – เปิด Workbook
- Ctrl + S – บันทึก Workbook
- Ctrl + Shift + S – บันทึกเป็น Workbook ใหม่
- Alt + H, O, R – เปลี่ยนชื่อ Sheet ปัจจุบัน
- Alt + H, D, S – ลบ Sheet ปัจจุบัน
- Alt + H, I, R – แทรกแถวใหม่
- Alt + H, I, C – แทรกคอลัมน์ใหม่
- Ctrl + Shift + & – เพิ่มเส้นขอบให้เซลล์ที่เลือก
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้คีย์ลัด Excel
Microsoft Excel เป็นโปรแกรมที่ช่วยจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้คีย์ลัดจะช่วยให้คุณทำงานเร็วขึ้น โดยเฉพาะใน Windows 11 หรือเวอร์ชันล่าสุดปี 2025 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคีย์ลัดเหล่านี้มักมาจากผู้ใช้ที่ต้องการเพิ่มทักษะด้านไอทีและซอฟต์แวร์
1. คีย์ลัดสำหรับ Excel สำหรับ Windows และ Mac ต่างกันอย่างไร?
คีย์ลัดใน Microsoft Excel สำหรับ Windows และ Mac มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่บางคีย์อาจแตกต่างเนื่องจากระบบปฏิบัติการที่ต่างกัน เช่น ใน Windows คุณใช้ Ctrl + C เพื่อคัดลอก แต่ใน Mac จะใช้ Command + C แทน ซึ่งช่วยให้เข้ากับแป้นพิมพ์ Mac ได้ดีกว่า และบางคีย์ลัดใน Windows อาจขัดกับ shortcuts เริ่มต้นของ macOS เช่น การใช้ F2 เพื่อแก้ไขเซลล์ ใน Mac คุณอาจต้องปรับการตั้งค่า keyboard ใน System Settings เพื่อให้ใช้งานได้ปกติ ข้อมูลอัพเดตปี 2025 จาก Microsoft Support ระบุว่าคีย์ลัดส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม แต่แนะนำให้ตรวจสอบการตั้งค่า Scroll Lock สำหรับ MacBook โดยกด Shift + F14 เพื่อเปิดใช้งาน arrow keys ในการนำทางเลื่อนไปยังเซลล์อื่นๆ
2. ทำไมบางคีย์ลัดบางตัว ถึงไม่ทำงานตามที่กำหนด?
บางครั้งคีย์ลัดใน Excel ไม่ทำงานเพราะเวอร์ชันโปรแกรมหรือระบบปฏิบัติการที่อัพเดต เช่น ในปี 2025 ผู้ใช้บางคนรายงานว่าคีย์ลัดอย่าง Ctrl + Alt + V สำหรับ Paste Special เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเนื่องจากการอัพเดตฟีเจอร์ อีกสาเหตุคือการตั้งค่า keyboard ที่ขัดแย้ง เช่น ใน Windows ถ้า Num Lock เปิดอยู่ คีย์ลัดที่ใช้ตัวเลขอาจไม่ตอบสนอง หรือใน Mac ถ้า shortcuts ระบบซ้อนทับ ต้องเข้าไปแก้ไขใน Keyboard Shortcuts ข้อมูลจากฟอรัม Microsoft หรือการรีเซ็ตการตั้งค่า shortcuts ผ่านเมนู Options > Customize Ribbon เพื่อคืนค่ามาตรฐาน
3. คีย์ลัดที่พบบ่อยสำหรับการนำทางใน Excel คืออะไร?
คีย์ลัดสำหรับการนำทางใน Excel ช่วยให้เลื่อนดูข้อมูลได้รวดเร็ว เช่น Ctrl + Arrow Keys เพื่อกระโดดไปยังขอบข้อมูลในทิศทางนั้นๆ ซึ่งเหมาะสำหรับตารางใหญ่ในปี 2025 อีกตัวยอดฮิตคือ Ctrl + Home เพื่อกลับไปเซลล์ A1 ทันที หรือ Ctrl + End เพื่อไปยังเซลล์สุดท้ายที่มีข้อมูล ช่วยประหยัดเวลาในการสกอล์เมาส์ สำหรับการสลับ Sheet ให้ใช้ Ctrl + Page Up/Down เพื่อเลื่อนไปแท็บซ้ายหรือขวา ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อทำงานกับ Workbook ที่มีหลายแผ่น
นอกจากนี้ Shift + Arrow Keys ใช้เลือกเซลล์เพิ่มทีละตัว หรือ Ctrl + Shift + Arrow Keys เพื่อเลือกข้อมูลทั้งกลุ่มจนถึงขอบ ตามข้อมูลจาก cheat sheet ปี 2025 ถ้าต้องการเลื่อนหน้าจอใหญ่ๆ Page Up/Down จะช่วยเลื่อนขึ้นลงหนึ่งหน้าเต็มๆ โดยไม่เสียตำแหน่งปัจจุบัน สุดท้าย คีย์ลัดเหล่านี้ทำงานได้ดีใน Windows 11 และ Mac เวอร์ชันล่าสุด ช่วยให้ผู้ใช้จัดการข้อมูลได้แบบมืออาชีพ
4. วิธีใช้คีย์ลัด Excel เพื่อจัดการสูตรใน Excel อย่างไร?
การจัดการสูตรใน Excel ด้วยคีย์ลัดเริ่มจาก F2 เพื่อแก้ไขสูตรในเซลล์ที่เลือก ซึ่งช่วยให้ปรับแต่งได้โดยไม่ต้องคลิกสองครั้ง F4 เป็นคีย์ลัดสำคัญสำหรับล็อกเซลล์ในสูตร เช่น $A$1 เพื่อให้ค่าคงที่เมื่อคัดลอกสูตรไปเซลล์อื่นๆ ตามอัพเดตปี 2025 Ctrl + ` (Backtick) ใช้แสดงหรือซ่อนสูตรทั้งหมดใน Sheet ช่วยตรวจสอบข้อผิดพลาดได้ง่าย สำหรับสูตร Array ให้ใช้ Ctrl + Shift + Enter เพื่อป้อนสูตรพิเศษที่คำนวณหลายค่า ซึ่งยังคงใช้งานได้ใน Excel เวอร์ชันใหม่ Alt + = จะใส่สูตร AutoSum อัตโนมัติเพื่อรวมค่าด้านบนหรือซ้ายทันที
