
Google เดินหน้าผสาน AI เข้าไปในแอป Google Photos มากขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่เน้นการสร้างคอนเทนต์จากภาพถ่ายเดิมที่มีอยู่ในแกลเลอรีของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนภาพนิ่งให้กลายเป็นวิดีโอ หรือเปลี่ยนสไตล์ภาพให้กลายเป็นแนวอนิเมะหรือคอมิกส์ โดยเริ่มทยอยปล่อยให้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาบนทั้ง Android และ iOS แล้ว
แปลงภาพนิ่งเป็นวิดีโอ AI แบบสั้นใน 6 วินาที
หนึ่งในฟีเจอร์เด่นของอัปเดตครั้งนี้คือ “Photo to video” หรือระบบสร้างวิดีโอจากภาพถ่าย ซึ่งใช้โมเดล AI ขั้นสูง Veo 2 ที่ Google พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ผู้ใช้งานสามารถเลือกภาพใดก็ได้จากแกลเลอรี จากนั้นเลือกพรอมต์ง่าย ๆ เช่น “Subtle movements” (เคลื่อนไหวเบา ๆ) หรือ “I’m feeling lucky” แล้ว AI จะสร้างวิดีโอความยาวสั้น ๆ เพียง 6 วินาที ออกมาให้โดยอัตโนมัติ
แม้จะดูคล้ายกับ AI Alive ของ TikTok หรือ Gemini ของ Google เอง แต่ฟีเจอร์นี้มีความเรียบง่ายกว่า และไม่ได้ให้ผู้ใช้ใส่ข้อความสั่งการโดยตรง ทำให้การควบคุมภาพเคลื่อนไหวในรายละเอียดอาจยังไม่ลึกมากนัก เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่อยากได้วิดีโอแบบเร็ว ๆ สนุก ๆ จากภาพที่มีอยู่แล้ว
“Remix” เปลี่ยนภาพให้เป็นสไตล์อนิเมะ คอมิกส์ หรือ 3D

อีกหนึ่งความสามารถที่เพิ่มเข้ามาคือ “Remix” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้แปลงภาพถ่ายธรรมดาให้กลายเป็นงานศิลปะแนวใหม่ เช่น แนวอนิเมะ, การ์ตูนคอมิกส์, หรือแม้แต่แอนิเมชันแบบ 3 มิติ โดย Google ใช้เทคนิค style-transfer หรือการย้ายสไตล์ภาพมาใช้งานแบบอัตโนมัติ เหมาะสำหรับคนที่อยากแชร์ภาพโปรไฟล์เจ๋ง ๆ หรือภาพน้องหมาน้องแมวที่ดูแปลกใหม่กว่าเดิม
Google บอกว่าจะทยอยปล่อยฟีเจอร์นี้ให้ใช้งานในสหรัฐฯ ทั้งบน Android และ iOS ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
เพิ่มแท็บ “Create” รวมทุกฟีเจอร์สร้างสรรค์ในที่เดียว
เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเครื่องมือสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น Google Photos ยังเพิ่มแท็บใหม่ชื่อว่า “Create” ซึ่งจะกลายเป็นศูนย์รวมของฟีเจอร์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการสร้างภาพและวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ใหม่อย่าง Photo to Video, Remix หรือของเดิมอย่างการทำคอลลาจและวิดีโอไฮไลต์ โดยแท็บนี้จะเริ่มปรากฏให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ เห็นภายในเดือนสิงหาคม
เน้นความโปร่งใสด้วยการฝังลายน้ำแบบมองไม่เห็น
เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเนื้อหาที่สร้างด้วย AI Google ระบุว่าทั้งวิดีโอจากฟีเจอร์ Photo to Video และภาพจาก Remix จะมีการฝังลายน้ำดิจิทัลแบบมองไม่เห็นด้วยเทคโนโลยี SynthID เช่นเดียวกับที่ใช้งานในฟีเจอร์ ReImagine ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และในกรณีของวิดีโอ จะมีการแสดงลายน้ำแบบมองเห็นได้ด้วย เพื่อให้ผู้ชมทราบว่าเป็นเนื้อหาที่สร้างขึ้นด้วยปัญญาประดิษฐ์
สรุป
การอัปเดตใหม่ของ Google Photos ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสร้างคอนเทนต์สนุก ๆ ได้ง่ายขึ้นผ่าน AI โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการตัดต่อหรือแอนิเมชัน ซึ่งก็สอดคล้องกับแนวทางของ Google ที่พยายามผลักดัน AI ให้กลายเป็นเครื่องมือใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต
หมายเหตุ: ฟีเจอร์ที่กล่าวมาทั้งหมดขณะนี้เริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับการเปิดใช้งานในประเทศไทย หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะมีการอัปเดตในภายหลัง
ที่มา: Neowin





