
Intel ปลดพนักงานกว่า 2,392 คนในโอเรกอนกลางเดือนกรกฎาคม สะเทือนวงการเซมิคอนดักเตอร์
อินเทล กำลังดำเนินการปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ในรัฐโอเรกอนของสหรัฐอเมริกา โดยเตรียมปลดพนักงานถึง 2,392 ตำแหน่ง ภายในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2025 ซึ่งนับเป็นจำนวนที่มากกว่ารายงานก่อนหน้าซึ่งระบุไว้ว่าจะปลดราว 500 ตำแหน่ง การปลดครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายลดต้นทุนอย่างจริงจังภายใต้การบริหารของซีอีโอคนใหม่ Lip-Bu Tan หลังบริษัทเผชิญกับยอดขายที่ลดลงและปัญหาการผลิตที่ล่าช้าอย่างต่อเนื่อง

โอเรกอน: ศูนย์กลางการผลิตระดับโลกของ Intel
รัฐโอเรกอนถือเป็นฐานปฏิบัติการที่ใหญ่ที่สุดของอินเทล โดยมีพนักงานมากถึง 20,000 คน ทำให้การปลดพนักงานครั้งนี้สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วภูมิภาค ทั้งในแง่เศรษฐกิจและสังคม
โดยเฉลี่ยแล้วพนักงานในภาคเซมิคอนดักเตอร์ของรัฐนี้มีรายได้ราว $180,000 ต่อปี หรือประมาณ 6.5 ล้านบาท ต่อคน ซึ่งการสูญเสียรายได้ระดับนี้จะกระทบต่อภาษีรายได้ของรัฐ และธุรกิจท้องถิ่นอีกจำนวนมาก
นักเศรษฐศาสตร์ประจำรัฐอย่าง Carl Riccadonna ได้ออกมาเตือนว่าตลาดแรงงานในโอเรกอนกำลังชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดจากตัวเลขเหล่านี้
การแข่งขันที่ตามไม่ทัน และการเปลี่ยนผ่านที่ยากลำบาก
ปัญหาไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่สะสมมาเกือบทศวรรษ โดยเฉพาะการล่าช้าในการพัฒนาเทคโนโลยีกระบวนการผลิต (Process Node) จนทำให้ต้องเสียตำแหน่งผู้นำให้กับ TSMC ซึ่งกลายเป็นเบื้องหลังของแบรนด์คู่แข่งอย่าง AMD, Nvidia และ Apple ที่ต่างใช้บริการโรงงานของ TSMC ในการผลิตชิปขั้นสูง
ขณะเดียวกันอินเทลกลับยังไม่สามารถก้าวเข้าสู่ตลาดที่กำลังเติบโตอย่าง ชิปฝึก AI (AI Training Chips) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยซีอีโอ Lip-Bu Tan เองก็ยอมรับกับพนักงานว่า
“สำหรับชิปฝึก AI เรามาช้าเกินไปแล้ว”
พร้อมเสริมว่า “Nvidia แข็งแกร่งเกินกว่าจะไล่ตามทัน”
หน่วย Foundry โดนหนักสุด ปิดกลุ่มรถยนต์-ย้ายการตลาดให้นอกบริษัท
จากรายงาน พบว่าการปลดพนักงานในรอบนี้เกิดขึ้นทุกระดับในองค์กร แต่จะเน้นหนักเป็นพิเศษใน Intel Foundry ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยและผลิตชิปของบริษัท โดยคาดว่า 1 ใน 5 ตำแหน่ง จะถูกยกเลิก โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ช่างเทคนิคและวิศวกรกระบวนการผลิต (Process Engineer) ขณะเดียวกันตำแหน่งบริหารก็ถูกลดลงเช่นกันถึง 8% ของจำนวนที่ถูกปลดทั้งหมด
นอกจากนี้อินเทลยังได้ยุบ กลุ่มธุรกิจยานยนต์ (Automotive Group) ไปแล้ว และได้เริ่ม จ้างบริษัท Accenture มารับช่วงการทำงานด้านการตลาดแทนทีมภายในเกือบทั้งหมด เป็นสัญญาณชัดเจนว่าบริษัทกำลังรีเซ็ตโครงสร้างภายในครั้งใหญ่
สวัสดิการสำหรับผู้ถูกปลด และอนาคตที่ไม่แน่นอนในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ
แม้อินเทลจะพยายามดูแลพนักงานที่ถูกปลดโดยเสนอค่าชดเชยเป็น
- เงินเดือนพื้นฐาน 13 สัปดาห์
- เพิ่มให้อีก 1.5 สัปดาห์ต่ออายุงาน 1 ปี
- และ ประกันสุขภาพอีก 1 ปีเต็ม
แต่ก็ไม่สามารถลบความกังวลของชุมชนได้ว่าอนาคตของ อินเทลในภูมิภาค Pacific Northwest อาจไม่มั่นคงอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อรายได้ของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง และทิศทางธุรกิจเปลี่ยนไปอย่างมาก
แม้ว่าในปัจจุบันอินเทลยังได้รับ สิทธิประโยชน์ทางภาษีกว่า 300 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากรัฐโอเรกอน (ประมาณ 10,800 ล้านบาท ต่อปี) แต่ก็ไม่แน่ว่าบริษัทจะยังคงรักษาขนาดกิจการในพื้นที่นี้ไว้ได้หรือไม่ในระยะยาว
สรุป:
การปลดพนักงานกว่า 2,392 คน ในโอเรกอน ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณอันตรายของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังปรับตัวอย่างหนักในยุค AI และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อบริษัทเท่านั้น แต่ยังส่งต่อไปถึงเศรษฐกิจท้องถิ่นและแรงงานระดับสูงทั่วทั้งภูมิภาคอีกด้วย
ที่มา: notebookcheck





