
JEDEC หรือ Joint Electron Device Engineering Council หน่วยงานมาตรฐานระดับโลกด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ได้ประกาศเปิดตัว มาตรฐาน LPDDR6 อย่างเป็นทางการภายใต้เอกสาร JESD209-6 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการกล่าวถึงมาตรฐาน DDR6 อย่างเป็นรูปธรรม
โดยมาตรฐานใหม่นี้จะกลายเป็นหน่วยความจำยุคใหม่ที่เน้น ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมเท่าตัว พร้อมลดการใช้พลังงาน รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์ AI ที่อยู่ตามขอบระบบ (Edge AI)
ยุคใหม่ของแรมประหยัดพลังงาน เริ่มต้นที่นี่
แรมมาตรฐานใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของอุปกรณ์ยุคใหม่ที่ต้องการแรมที่ทั้ง เร็ว ประหยัดพลังงาน และรองรับการทำงานแบบหลายงานพร้อมกัน (Concurrency)
โดยในรุ่นใหม่นี้ JEDEC ได้พัฒนาจากแนวคิดเดิมของ DDR5 ที่แบ่งแชนแนล 64 บิตออกเป็นสองแชนแนลย่อยแบบ 32 บิต มาเป็น 4 แชนแนลย่อย ขนาด 24 บิต ทำให้ลดค่า latency และเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่าน/เขียนข้อมูลแบบขนานมากขึ้น
ความเร็วระดับใหม่ พร้อมโหมดประหยัดไฟขั้นสูง
LPDDR6 มีอัตราการส่งข้อมูล (Data Rate) อยู่ที่ 10,667 ถึง 14,400 MT/s หรือคิดเป็น แบนด์วิดธ์ราว 28.5–38.4 GB/s ซึ่งถือว่าเร็วกว่า DDR5-12000 ที่มีการโอเวอร์คล็อกได้สูงสุดในปัจจุบันอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีการลดแรงดันไฟให้ต่ำลง และใส่ฟีเจอร์ DVFSL (Dynamic Voltage Frequency Scaling for Low Power) ที่ช่วยลดการใช้พลังงานในช่วงการทำงานที่ไม่ต้องใช้ความเร็วสูง — ซึ่งถือเป็นจุดแข็ง เพราะเหมาะสำหรับการใช้งานในอุปกรณ์พกพา ที่ต้องการทั้ง “แรง” และ “ประหยัดไฟ”
ผู้ผลิตใหญ่ทั่วโลกเตรียมพร้อมรองรับ LPDDR6
หลังจากการเปิดตัว JEDEC ก็ได้รายงานว่ามีบริษัทชั้นนำจำนวนมากแสดงความพร้อมที่จะรองรับมาตรฐานใหม่นี้ ทั้งในด้านการออกแบบชิป ทดสอบระบบ และผลิตจริง ไม่ว่าจะเป็น:
- ผู้ผลิตชิปเซ็ต: MediaTek, Qualcomm, Samsung
- บริษัททดสอบและดีไซน์ชิป: Cadence, Synopsys, Advantest, Keysight Technologies
- ผู้ผลิตแรม: Micron, SK hynix
ด้วยความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำเหล่านี้ คาดว่าตัวแรมรุ่นใหม่นี้จะเข้าสู่สายการผลิตและเริ่มใช้งานจริง ภายในปีหน้า (2026) เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับ DDR5 ที่ใช้เวลาประมาณ 1 ปีหลังจากประกาศมาตรฐาน
แล้ว DDR6 ล่ะ?
แม้ตอนนี้ JEDEC จะยังไม่เปิดตัว DDR6 อย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการยืนยันว่าอยู่ในแผนการพัฒนาและคาดว่าจะประกาศภายในปีนี้เช่นกัน โดย DDR6 จะมุ่งเน้นไปที่ พีซีและเดสก์ท็อประดับสูง ซึ่งต้องการแรมความเร็วสูงกว่าแบบ LPDDR สำหรับงานหนักอย่างเกม การตัดต่อ หรือ AI Training
DDR4 กำลังจะเลิกผลิต แต่ยังไม่หายไปจากตลาดทันที
ผู้ผลิตแรมรายใหญ่ได้ประกาศหยุดการผลิต DDR4 ภายในปี 2025 แล้ว อย่างไรก็ตาม แรม DDR4 จะยังคงมีอยู่ในตลาดต่อไปจากผู้ผลิตรายย่อย เพราะยังมีความต้องการจากอุปกรณ์รุ่นเก่า หรือตลาดคอมพิวเตอร์ราคาประหยัด
สรุป
มาตรฐานที่เพิ่งเปิดตัวครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการแรม โดยเฉพาะสำหรับอุปกรณ์พกพาและเทคโนโลยี AI ที่ต้องการประสิทธิภาพและความประหยัดพลังงานควบคู่กัน คาดว่าภายในปี 2026 เราจะได้เห็นโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมแรม LPDDR6 ให้ได้ใช้งานจริง
ส่วนใครที่กำลังจับตามอง DDR6 สำหรับพีซี ก็อาจจะต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกไม่ช้า
ข้อมูลน่าสนใจเพิ่มเติม:
- เร็วกว่ามาตรฐานเดิมอย่าง DDR5 มากกว่า 2 เท่า
- อัตราการส่งข้อมูลสูงสุด 14,400 MT/s = เร็วกว่า SSD SATA ถึงหลายสิบเท่า
- ใช้พลังงานน้อยลง เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่
- คาดเริ่มใช้จริงในอุปกรณ์ปลายปี 2025 – ต้นปี 2026
ที่มา: tomshardware





