
ล่าสุดมีกระแสมาว่า nVIDIA อาจกำลังวางแผนอัปเกรดการ์ดจอในรุ่น GeForce RTX 5070 SUPER รุ่นเรือธงใน GeForce RTX 50 ด้วยรุ่น SUPER ซึ่งมีข่าวลือว่าการ์ด พร้อมการปรับจำนวน CUDA Core เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและหน่วยความจำใหม่ แต่ที่กำลังถูกกล่าวถึงอย่างมาก นั่นคือการเพาเวอร์อัพ RTX 5070 Ti ให้กลายเป็น SUPER ด้วยการเพิ่มหน่วยความจำ (VRAM) GDDR7 ความจุถึง 24GB แต่ยังคงจำนวนของ CUDA Core ไว้เท่าเดิมที่ 8,960 ชุด
Source: Techpowerup
โดยจากข้อมูลที่หลุดออกมานี้ เป็นข้อมูลการ์ดรุ่นที่จะใช้ชิป GB203-350-A1 บน PCB รหัส PG147-SKU55 โดยจุดเด่นอยู่ที่การเพิ่มหน่วยความจำอีก 8GB จากรุ่นปกติที่ให้มาแค่ 16GB ทำให้มันกลายเป็นการ์ดที่ทรงพลังขึ้นสำหรับงานที่หนักมากขึ้น การเพิ่มหน่วยความจำ 24GB มีส่วนช่วยลดข้อจำกัดของ VRAM ที่พบในรุ่นก่อน ๆ เช่น RTX 5070 Ti ที่มีแค่ 16GB ซึ่งบางเกมสมัยใหม่เริ่มต้องการมากกว่านี้

การอัปเกรดครั้งนี้ไม่เพียงแค่เพิ่มหน่วยความจำเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการใช้พลังงานด้วย โดย RTX 5070 Ti SUPER คาดว่าจะมี Total Board Power (TBP) สูงถึง 350W เพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติที่ 300W อาจเป็นเพราะหน่วยความจำที่มากขึ้นต้องการพลังงานมากขึ้น หรือ NVIDIA อาจใช้พลังงานส่วนนี้เพื่อเพิ่มความเร็วของนาฬิกาด้วย การที่มันยังคงจำนวน CUDA Core ไว้เท่าเดิมอาจทำให้บางคนสงสัยว่ามันคุ้มค่ากับคำว่า “SUPER” หรือไม่ แต่คาดว่า NVIDIA น่าจะเลือกใช้ชิปคุณภาพสูง (die bins) เพื่อให้ได้ความเร็วสูงขึ้นในขณะที่เพิ่มพลังงานแค่ 50W เท่านั้น ซึ่งนี่อาจเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้การ์ดรุ่นนี้โดดเด่นขึ้นมา
การ์ดจอรุ่นนี้ยังคงออกแบบมาเพื่อเน้นประสิทธิภาพสูงและการประมวลผลด้วย AI หน่วยความจำ GDDR7 ที่ความเร็ว 28Gbps บนบัส 256-bit ให้แบนด์วิดท์สูงถึง 896GB/s ซึ่งเท่ากับรุ่นก่อน ๆ แต่ความจุที่เพิ่มขึ้นเป็น 24GB จะช่วยรองรับเกมและโปรแกรมยุคใหม่ที่ต้องการ VRAM เยอะขึ้น การใช้พลังงาน 350W อาจบอกใบ้ถึงพัดลมระบายความร้อนที่ทรงพลังและระบบจ่ายไฟที่ต้องแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ PSU ที่ควรมีกำลังอย่างน้อย 700-750W เพื่อรองรับการทำงานเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การออกแบบอาจเน้นความทนทานและประสิทธิภาพการระบายความร้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระดับกลางถึงสูงมักให้ความสำคัญ

สำหรับคนที่สนใจคอมพิวเตอร์ การอัปเกรดหน่วยความจำ 24GB จะช่วยให้การ์ดนี้รองรับการเล่นเกมระดับ 4K หรืองานตัดต่อวิดีโอและ AI ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเกมหรือโปรแกรมที่ต้องการ VRAM สูง เช่น Cyberpunk 2077 หรือการเรนเดอร์โมเดล 3D ขนาดใหญ่ ส่วนการเพิ่มพลังงานอาจหมายถึงประสิทธิภาพที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องระวังเรื่องความร้อนและการเลือก PSU ที่เหมาะสม ซึ่งน่าจะต้องมีกำลังอย่างน้อย 700-750W เพื่อให้รองรับการทำงานเต็มที่
นอกเหนือจากเกมแล้ว GeForce RTX 5070 Ti SUPER ยังถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับงาน AI และการสร้างคอนเทนต์ เช่น การตัดต่อวิดีโอ 3D Rendering หรือการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) หน่วยความจำ 24GB จะช่วยให้โปรแกรมอย่าง Blender หรือ Adobe Premiere Pro ทำงานได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการไฟล์ขนาดใหญ่หรือโมเดล 3D ที่ซับซ้อน ผู้เชี่ยวชาญบางรายชื่นชมการเพิ่ม VRAM เพราะจะแก้ปัญหาหน่วยความจำไม่พอ ที่เป็นจุดอ่อนของการ์ดรุ่นก่อนๆ อีกด้วย

ตอนนี้ข้อมูลยังเป็นเพียงข่าวที่ยังไม่เป็นทางการเท่านั้น แต่จากหลายกระแสที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียล โดยเฉพาะในกลุ่มเกมเมอร์ น่าจะพอบอกได้ว่าโอกาสที่จะเปิดตัวก็น่าจะใกล้เข้ามาแล้ว และคาดว่าภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมจาก nVIDIA อย่างเป็นทางการ ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่รอการ์ดจอรุ่นใหม่เพื่ออัปเกรดเครื่อง การ์ดรุ่นนี้ก็น่าจับตามอง โดยเฉพาะถ้าราคาและประสิทธิภาพออกมาเมื่อเทียบกับคู่แข่งได้อย่างสมน้ำสมเนื้องานนี้ก็เตรียมควักกระเป๋ากันได้เลย
