
จุดเริ่มต้นของยุคใหม่: Samsung เปิดตัว Exynos 2500
Samsung ประกาศเปิดตัว Exynos 2500 อย่างเป็นทางการ ชิปเซ็ตขนาด 3 นาโนเมตรที่ใช้สถาปัตยกรรม GAA (Gate-All-Around) เป็นครั้งแรกของบริษัท ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ ทั้งด้านประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ Samsung เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักจากปัญหา yield ต่ำในไลน์ 3nm แต่ครั้งนี้ Exynos 2500 กลับมาด้วยการออกแบบใหม่ที่พร้อมชนกับคู่แข่งทุกราย ไม่ว่าจะเป็น Snapdragon 8 Gen 4, Dimensity 9400 หรือแม้แต่ Apple A18 Pro
สเปกซีพียู: แรงเต็มขั้น 10 คอร์
Exynos 2500 มาพร้อมสถาปัตยกรรม CPU แบบ 10 คอร์ ประกอบด้วย:
- 1x Cortex-X925 (3.30GHz) สำหรับงานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงสุด
- 2x Cortex-A725 (2.74GHz) + 5x Cortex-A725 (2.36GHz) สำหรับงานทั่วไป
- 2x Cortex-A520 (1.80GHz) สำหรับการประหยัดพลังงาน
การแบ่งกลุ่มคอร์แบบนี้ทำให้การทำงานในสถานการณ์ที่แตกต่างกันมีความเหมาะสม ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพและการจัดการพลังงาน
GPU Xclipse 950: กราฟิกระดับคอนโซลในมือถือ
Exynos 2500 ใช้ GPU Xclipse 950 ซึ่งร่วมพัฒนากับ AMD โดยใช้พื้นฐานจาก RDNA3 สถาปัตยกรรมเดียวกับการ์ดจอพีซีระดับสูง ส่งผลให้รองรับเทคโนโลยี Ray Tracing ได้อย่างแท้จริง
คุณภาพกราฟิกในเกมบนมือถือจะสมจริงยิ่งขึ้น ทั้งเงา แสง และการเคลื่อนไหว แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเรนเดอร์งาน 3D และ AR อีกด้วย
NPU แรงขึ้น 39% รองรับ AI ขั้นสูง
NPU ของ Exynos 2500 สามารถประมวลผลได้สูงสุด 59 TOPS เพิ่มจาก Exynos 2400 ถึง 39% ทำให้เหมาะกับฟีเจอร์ AI สมัยใหม่ เช่น:
- กล้องอัจฉริยะ (Scene Optimization, AI Bokeh)
- แปลภาษาแบบเรียลไทม์
- ตรวจจับสุขภาพผ่านเซ็นเซอร์
- การประมวลผล AI บนตัวเครื่อง (On-device AI)
เทคโนโลยี FOWLP: ลดความร้อนแบบเหนือชั้น
Samsung ใช้แพ็กเกจแบบ Fan-Out Wafer-Level Packaging (FOWLP) ในการจัดวางวงจรของ Exynos 2500 ทำให้สามารถกระจายความร้อนได้ดีขึ้น ชิปบางลง และมีพื้นที่มากขึ้นสำหรับการจัดวางส่วนประกอบสำคัญ
หากใช้ร่วมกับ vapor chamber (ซึ่ง Galaxy Z Flip 7 อาจจะติดตั้งมา) จะช่วยดึงประสิทธิภาพของชิปออกมาได้เต็มที่ในทุกสถานการณ์
รองรับ LPDDR5X และ UFS 4.0
Exynos 2500 รองรับหน่วยความจำ LPDDR5X ที่เร็วและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น พร้อมรองรับที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 4.0 ที่ให้ความเร็วในการอ่าน/เขียนสูงสุดในตลาด ทำให้แอปโหลดไว เครื่องบูตเร็ว และถ่ายโอนไฟล์ใหญ่ได้ในพริบตา
ถ่ายวิดีโอ 8K รองรับกล้อง 320MP
Exynos 2500 รองรับกล้องความละเอียดสูงสุดถึง 320MP และการบันทึกวิดีโอระดับ 8K ที่ 30FPS พร้อมระบบประมวลผลภาพ (ISP) ที่แม่นยำและฉลาดขึ้น ทำให้ภาพถ่ายในที่มืดคมชัด การถ่ายวัตถุเคลื่อนไหวเร็วก็ไม่เป็นปัญหา
รองรับการเชื่อมต่อยุคใหม่: Wi-Fi 7 และ 5G สูงสุด 12.1Gbps
ด้านการเชื่อมต่อที่ Exynos 2500 รองรับ:
- Wi-Fi 7: เชื่อมต่อเร็ว เสถียร ใช้งานพร้อมกันหลายอุปกรณ์ได้ดี
- Bluetooth 5.4: เชื่อมต่อหูฟังและอุปกรณ์เสริมได้ดีขึ้น
- 5G Modem: รองรับ FR1 (sub-6GHz) ความเร็ว 9.6Gbps และ FR2 (mmWave) ความเร็วสูงสุด 12.1Gbps
เทียบกับคู่แข่ง: ยังไม่ท็อป แต่ใกล้แล้ว
จากผลทดสอบเบื้องต้นบน Geekbench 6 คะแนนของ Exynos 2500 ยังไม่สามารถแซง Snapdragon 8 Gen 4 หรือ Apple A18 ได้ในแง่ตัวเลข แต่เมื่อพิจารณาภาพรวม ประสิทธิภาพจริง, ความร้อน, การประหยัดพลังงาน, และ AI ถือว่า Samsung ทำได้ดีมาก และกำลังเข้าใกล้การเป็นเบอร์หนึ่งอีกครั้ง
สรุป: Samsung พร้อมชนในสนามเรือธง
Exynos 2500 ไม่ใช่แค่การอัปเกรดจากรุ่นก่อน แต่มันคือการกลับมาอย่างมั่นคงของ Samsung ในเวทีชิปสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ด้วยเทคโนโลยี 3nm GAA, GPU จาก AMD, NPU แรง, FOWLP และระบบการเชื่อมต่อที่ล้ำหน้า
หาก Galaxy Z Flip 7 ใช้ชิปตัวนี้จริง และมีระบบระบายความร้อนที่เหมาะสม เราอาจได้เห็นยุคใหม่ของ Exynos ที่ “ไม่ได้มีแค่ชื่อ แต่มีของจริง” เสียที
ที่มา: wccftech
