
เหล่าเกมเมอร์และนักอ่านผู้หลงใหลในโลกแห่งเกมทุกท่าน! แพลตฟอร์มเกม Steam เปรียบเสมือนมหาสมุทรที่เต็มไปด้วยเกมหลากหลายแนวให้เราได้ออกสำรวจ และในทุกๆ ปี เทรนด์ความนิยมของเกมก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ วันนี้ เราจะพาทุกท่านไปชมแนวเกมที่น่าจะยังคงครองใจเกมเมอร์ หรือกำลังมาแรงบน Steam ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมาพร้อมตัวอย่างเกมเด่นๆ ที่ยังคงฮิตติดลมบน หรือเป็นกระแส เผื่อใครที่จะยังนึกไม่ออกว่าจะเล่นเกมอะไรดี เรามีตัวอย่างของเกมแต่ละแนวมาแนะนำกันด้วย
5 แนวเกม Steam ยอดนิยมคนติด เล่นเยอะ 2025
- Open-World RPG / Action RPG
- Survival Crafting / Base Building
- Souls-like / Action RPG สุดหิน
- Indie Games / Roguelike / Roguelite
- Co-op / Multiplayer Shooters (PvE/PvP)
1. แนว Open-World RPG / Action RPG: อิสระไร้ขีดจำกัดที่ยังคงเย้ายวน

เสน่ห์ของเกม Open-World RPG/Action RPG อยู่ที่มอบให้ผู้เล่นได้เต็มอิ่มไปในโลกกว้างสุดจินตนาการ และไม่ได้ถูกผูกมัดด้วยเส้นเรื่องเดียว แต่ยังสามารถเลือกเส้นทาง, สร้างเรื่องราว, และเป็น “ใครก็ได้” ในแบบของตัวเอง การได้ “สำรวจ” ดินแดนลึกลับ, ค้นพบความลับ, และเผชิญหน้ากับความท้าทายที่หลากหลาย คือสิ่งที่ดึงดูดให้เราดำดิ่งไปกับเกมได้นานหลายชั่วโมง บวกกับระบบ “การพัฒนาตัวละคร” ที่ลึกซึ้ง ทำให้เรารู้สึกผูกพันและอยากเห็นตัวละครของเราเติบโตไปพร้อมๆ กับเรื่องราวที่เข้มข้น นี่แหละครับคือมนต์สะกดที่ทำให้เกมแนวนี้ฮิตติดลมบนไม่เคยเปลี่ยน!
ทำไมถึงยังฮิต? มอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ, เนื้อเรื่องที่น่าติดตาม, การปรับแต่งตัวละครที่หลากหลาย, และโลกกว้างใหญ่ให้สำรวจไม่รู้จบ
เทรนด์ที่น่าจับตา: การผสานองค์ประกอบของเกม Steam แนว Survival และ Crafting เข้ามามากขึ้น, โลกที่มีชีวิตชีวาและตอบสนองต่อการกระทำของผู้เล่นได้สมจริงยิ่งขึ้น, และการใช้ AI เข้ามาช่วยสร้างเควสหรือเหตุการณ์ที่หลากหลาย
ตัวอย่างเกมที่ยังคงได้รับความนิยม:
1.The Elder Scrolls : ถ้าคุณเป็นแฟนเกม RPG เปิดโลกกว้าง ซีรีส์ The Elder Scrolls จาก Bethesda Game Studios คือหนึ่งในตำนานที่ไม่ควรพลาด! เริ่มจาก The Elder Scrolls V: Skyrim ที่เปิดตัวเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2011 และยังคงเป็นที่รักด้วยการผจญภัยต่อสู้มังกรในดินแดน Skyrim, การมีอิสระในการสร้างตัวละครและโลกที่สมจริง ตามด้วย The Elder Scrolls IV: Oblivion Remastered ที่ปล่อยเมื่อ 22 เมษายน 2025 ก็ได้รับคำชมจากความโฉบเฉี่ยวของกราฟิกใหม่และเรื่องราวเข้มข้นใน Cyrodiil แม้การต่อสู้จะยังดิบ ๆ อยู่บ้าง ส่วน The Elder Scrolls Online เปิดตัว 4 เมษายน 2014 และพัฒนามาเรื่อย ๆ จนถึง 2025 ด้วยการอัปเดตเนื้อหาใหม่ ๆ ให้สมดุลระหว่างการผจญภัยเดี่ยวและกลุ่ม

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-2300 หรือ AMD FX4350, RAM 8GB และการ์ดจออย่าง NVIDIA GTX 970 หรือ AMD RX 570 ราคาเริ่มต้น Skyrim อยู่ที่ 899 บาท ส่วน Oblivion Remastered ราว 1,200 บาท และ ESO เริ่ม 1,200 บาทพร้อมแพ็กเกจเสริม เกมเหล่านี้เหมาะทั้งมือใหม่และแฟนตัวยง
2.Grand Theft Auto : ถ้าคุณเป็นคอเกมแอ็กชัน-ผจญภัยแบบโลกเปิด ซีรีส์ Grand Theft Auto (GTA) จาก Rockstar Games คือหนึ่งในตำนานที่คุณต้องลอง! เริ่มต้นที่ GTA V ที่เปิดตัวเมื่อ 17 กันยายน 2013 และยังคงครองใจด้วยโลก Los Santos ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสุดมันของ Michael, Franklin และ Trevor โดดเด่นในเรื่องกราฟิกที่สวยงามและโหมด GTA Online ที่ให้อิสระในการสร้างเรื่องราวของตัวเอง ส่วน GTA IV ที่ออกเมื่อ 29 เมษายน 2008 หลายๆ คนชอบที่มีสมจริงแต่ซับซ้อน เกมนี้เหมาะกับคนที่ชอบเนื้อเรื่องเข้มข้น

โดยสเปคแนะนำสำหรับ GTA V คือ CPU Intel Core i5-3470, RAM 8GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 660 หรือ AMD HD 7870 ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 899 บาท (GTA V Enhanced Edition) โดยที่น่าจับตาก็คือ GTA VI คาดว่าจะเลื่อนมาเปิดตัว 26 พฤษภาคม 2026 ก็น่าเป็นอีกหนึ่งตำนาน ที่สร้างความตื่นเต้นกันอีกครั้ง!
3.Cyberpunk 2077 (พร้อมส่วนเสริมใหม่ๆ หรือการอัปเดตใหญ่): ถ้าคุณหลงใหลในเกม RPG เปิดโลกกว้างที่มีกลิ่นอายไซไฟดาร์กๆ เกม Steam อย่าง Cyberpunk 2077 จาก CD Projekt Red คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด! เกมนี้เปิดตัวเมื่อ 10 ธันวาคม 2020 และพัฒนาต่อเนื่องจนถึง Ultimate Edition ที่วางจำหน่ายบน Nintendo Switch 2 เมื่อ 5 มิถุนายน 2025 เป็นเกมที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและภารกิจที่น่าตื่นเต้น แม้จะมีจุดเริ่มต้นที่พบปัญหาบั๊ก อยู่บ้างแต่ก็ได้รับการปรับปรุงเสร็จสิ้น เกมเมอร์ส่วนใหญ่ชอบเรื่องการเล่าเรื่องที่ดึงดูดและตัวละครอย่าง Johnny Silverhand ที่มีชีวิตชีวา จนเกมนี้กลายเป็นหนึ่งในโลกไซเบอร์พังก์ที่ต้องลอง!

ส่วนสเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-3570, RAM 8GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 970 หรือ AMD RX 470 สำหรับประสบการณ์ลื่นไหล ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,200 บาท (Ultimate Edition)
4.Starfield : เกมแนว RPG Open world จาก Bethesda Game Studios ต้องลอง Starfield ที่พาคุณสำรวจอวกาศครั้งแรกในรอบ 25 ปี เปิดตัวเมื่อ 6 กันยายน 2023 และพัฒนาต่อเนื่องถึง 2025 เกมนี้ได้จุดเด่นจากการเปิดพื้นที่กว้างใหญ่และให้ภารกิจที่น่าตื่นเต้น แม้จะมีข้อติเรื่องการสำรวจที่อาจรู้สึกว่างเปล่าอยู่บ้างในบางจุดก็ตาม แต่หลายส่วนชื่นชอบเรื่องการเล่าเรื่องและการต่อสู้ที่พัฒนาขึ้นจากเกมก่อนหน้า การที่เพิ่มเติมยาน REV-8 และ DLC Shattered Space (กันยายน 2024) เข้าไป ก็ช่วยเพิ่มความสนุกในการสำรวจดาวเคราะห์ แม้จะมีคำวิจารณ์เรื่องบั๊กและการโหลดหน้าจอ แต่การอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้เกมนี้ยังคงเป็นประสบการณ์ที่ควรค่าแก่การลอง

กับสเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-10600K, RAM 16GB และการ์ดจอ NVIDIA RTX 3060 หรือ AMD RX 6700 XT ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,990 บาท !
5.Witcher : แฟรนไชส์ The Witcher ถ้าคุณหลงใหลในเกม RPG เปิดโลกกว้างที่มีเรื่องราวเข้มข้น The Witcher ซีรีส์จาก CD Projekt Red คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ต้องลอง! เริ่มต้นที่ The Witcher 3: Wild Hunt เปิดตัวเมื่อ 19 พฤษภาคม 2015 และยังครองใจด้วยโลก Tamriel ที่สวยงาม ส่วนใหญ่มักจะชอบการเล่าเรื่องและตัวละครอย่าง Geralt ที่มีมิติ ทำให้กลายเป็นเกมระดับตำนานที่สมบูรณ์แบบ ส่วน The Witcher: Enhanced Edition ที่วางจำหน่ายเมื่อ 16 กันยายน 2008 แม้ระบบการต่อสู้จะดิบๆ อยู่บ้าง แต่ก็ดำเนินเรื่องราวได้ไม่น่าเบื่อ โดยที่ The Witcher 2: Assassins of Kings (17 พฤษภาคม 2011) ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ได้รับคำชมไม่น้อยเลย

สเปคแนะนำสำหรับ Witcher 3 คือ CPU Intel Core i5-2500K, RAM 8GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 970 หรือ AMD RX 470 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 899 บาท (Witcher 3) หรือ 599 บาท (Enhanced Edition)
2. แนว Survival Crafting / Base Building: สร้างสรรค์และเอาชีวิตรอดในโลกสุดท้าทาย

เกมแนว Survival Crafting และ Base Building ได้รับความนิยมจากเกมเมอร์ ฮิตติดลมบนเพราะอยู่ที่การให้ การสร้างสรรค์และความท้าทายในการเอาชีวิตรอด” อย่างลงตัว ผู้เล่นเริ่มต้นจากศูนย์, ต้องรวบรวมทรัพยากร, ประดิษฐ์เครื่องมือ, และค่อยๆสร้างที่พักอาศัยจากกระท่อมเล็กๆ สู่ฐานทัพสุดอลังการ ความรู้สึกของการได้ “พัฒนา” และเห็นผลงานของตัวเองเติบโตขึ้นเรื่อยๆ คือรางวัลที่ยิ่งใหญ่ การได้ออกแบบ และปรับแต่งทุกอย่างด้วยตัวเอง ทำให้ฐานทัพนั้นเป็นเสมือน บ้าน ที่สะท้อนตัวตน และเมื่อรวมกับความตื่นเต้นในการเผชิญหน้ากับภัยอันตรายและการร่วมมือกับเพื่อนๆ ก็ยิ่งทำให้เกมแนวนี้ ดูดวิญญาณจนวางไม่ลง!
ทำไมถึงยังฮิต? ให้ความรู้สึกถึงความสำเร็จในการสร้างและพัฒนา, ความท้าทายในการเอาชีวิตรอด, และการเล่นร่วมกับเพื่อน (Co-op) ที่สนุกสนาน
เทรนด์ที่น่าจับตา: การผสมผสานกับแนว RPG หรือเนื้อเรื่องที่เข้มข้นขึ้น, กราฟิกที่สวยงามสมจริง, และระบบการสร้างที่ซับซ้อนแต่เข้าถึงง่าย
ตัวอย่างเกมที่คาดว่าจะยังคงได้รับความนิยม (หรือเป็นกระแสใหม่):
Valheim (พร้อมอัปเดตใหญ่หรือส่วนเสริมใหม่): ถ้าคุณหลงใหลในเกมเอาชีวิตรอดแบบโลกเปิดที่มีกลิ่นอายไวกิ้ง Valheim จาก Iron Gate Studio คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด! เกมนี้เปิดตัวใน Early Access เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2021 และยังคงพัฒนาเรื่อยมาถึง 2025 ด้วยการอัปเดตอย่าง Deep North ที่คาดว่าจะครบถ้วนในปลายปีนี้ หลายคนชอบโลกในเกมที่สร้างแบบสุ่มและระบบสร้างฐาน รวมถึงมีการอัปเดตช่วยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งการผจญภัยร่วมเพื่อนและการต่อสู้บอสที่ท้าทาย แม้กราฟิกอาจดูเรียบง่ายแต่บรรยากาศไวกิ้งที่แท้จริงทำให้เกมนี้พิเศษและคุ้มค่าในทุกนาที!

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-4430, RAM 8GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 970 หรือ AMD RX 460 ราคาเริ่มต้นเพียง 299 บาท
Sons of the Forest : ถ้าคุณชื่นชอบเกมเอาชีวิตรอดสยองขวัญแบบโลกเปิด Sons of the Forest จาก Endnight Games คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ต้องลอง! เกมนี้เปิดตัวใน Early Access เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2023 และถึงเวอร์ชัน 1.0 เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2024 โดยเนื้อเรื่องจะพาคุณไปสำรวจเกาะลึกลับที่เต็มไปด้วยมนุษย์กินคนและปริศนา เป็นเกมที่มีกราฟิกสวยงามและระบบสร้างฐานที่อิสระ แม้จะมีข้อติเรื่องเนื้อเรื่องที่ยังไม่ลงตัวในช่วงแรก แต่การอัปเดตล่าสุดก็ช่วยเพิ่มความลื่นไหลได้ดี และเพิ่มความหลอนจากมอนสเตอร์ที่ฉลาดขึ้น

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-8400, RAM 16GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 1060 หรือ AMD RX 580 ราคาเริ่มต้น 990 บาทบน Steam เป็นเกม Steam ที่โดนใจหลายคนเหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทายทั้งเดี่ยวและเล่นกับเพื่อนในโหมดมัลติเพลเยอร์!
ARK : ถ้าคุณชื่นชอบเกมเอาชีวิตรอดที่ผสมผสานโลกดึกดำบรรพ์และการผจญภัย ARK: Survival Evolved จาก Studio Wildcard คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด! เกมนี้เปิดตัวใน Early Access เมื่อ 2 มิถุนายน 2015 และออกเวอร์ชันเต็มเมื่อ 29 สิงหาคม 2017 พาคุณตื่นขึ้นบนเกาะลึกลับเต็มไปด้วยไดโนเสาร์หลากชนิด เกมเมอร์มักชอบอิสระในการสำรวจและการเลี้ยงไดโนเสาร์ แม้ช่วงแรกจะมีบั๊กที่หนักหน่วงก็ตาม แต่การอัปเดตและ DLC อย่าง Genesis Part 2 ช่วยยกระดับการเล่นให้สมดุลยิ่งขึ้น

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-2400, RAM 8GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 670 หรือ AMD RX 580 ราคาเริ่มต้น 599 บาท เหมาะสำหรับคนที่พร้อมทุ่มเวลาและสนุกกับการสร้างฐาน
Palworld : ถ้ามองหาเกม Steam แนวเอาชีวิตรอดแบบโลกเปิดที่ผสมผสานความสนุกแปลกใหม่ Palworld จาก Pocketpair คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด! เกมนี้เปิดตัวใน Early Access เมื่อ 19 มกราคม 2024 และพัฒนาต่อเนื่องถึงเวอร์ชัน 1.0 ในปี 2025 ด้วยการอัปเดตอย่าง Feybreak เกมเป็นการผสมผสานระหว่างการจับสัตว์ประหลาดแบบ Pokémon กับระบบเอาชีวิตรอดและการสร้างฐาน ความสนุกของการสำรวจโลกกว้างและการต่อสู้กับบอสคือไฮไลต์ของเกมนี้ นับเป็นเกมที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม!

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-4430, RAM 8GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 970 หรือ AMD RX 460 ราคาเริ่มต้น 749 บาท (ลด 25% บน Steam ถึงมิถุนายน 2025)
Enshrouded (พร้อมอัปเดตใหม่): เกมเอาชีวิตรอดผสม RPG เปิดโลกกว้าง Enshrouded จาก Keen Games คือหนึ่งในประสบการณ์ที่คุณต้องลอง! เกมนี้เปิดตัวใน Early Access เมื่อ 24 มกราคม 2024 และพัฒนาต่อเนื่องถึง 2025 ด้วยการอัปเดตอย่าง Deep North โลกที่สวยงามผสมผสานความสมจริงและแฟนตาซี พร้อมระบบสร้างฐานที่ยืดหยุ่นจนน่าทึ่ง แม้ช่วงแรกเรื่องราวอาจยังไม่โดดเด่น แต่ข้อดีคือการเล่นกับเพื่อนช่วยลดความยากลงได้เยอะ

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-8400, RAM 16GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 1060 หรือ AMD RX 580 ราคาเริ่มต้น 990 บาทบน Steam ผู้เล่นต้องสำรวจพื้นที่ ซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทายและวิวที่ตระการตา แม้หมอก Shroud จะสร้างความกดดัน แต่ก็เพิ่มเสน่ห์ให้เกมนี้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามองในปี 2025
3. แนว Souls-like / Action RPG สุดหิน: ท้าทายขีดจำกัดของฝีมือ

เสน่ห์ของเกม Steam ในแบบ Action RPG อยู่ที่การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง “แอ็กชันสุดมันส์” กับ “การพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้ง” ผู้เล่นจะได้สัมผัสความตื่นเต้นจากการต่อสู้แบบเรียลไทม์ที่ต้องใช้ทั้งทักษะและไหวพริบ ควบคู่ไปกับการ “สวมบทบาท” เป็นตัวละครเอก, ออกผจญภัยในโลกแฟนตาซี, และตัดสินใจในเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อเนื้อเรื่อง การได้เห็นตัวละครของเรา “เติบโต” แข็งแกร่งขึ้น, ปลดล็อกสกิลใหม่ๆ, และสวมใส่อุปกรณ์สุดเท่ คือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกผูกพันและอยากร่วมเดินทางไปจนถึงบทสรุป นี่แหละครับคือ “สูตรสำเร็จ” ที่ทำให้ Action RPG ครองใจเกมเมอร์ได้อย่างยาวนาน!
ทำไมถึงยังฮิต? ความรู้สึกภาคภูมิใจเมื่อเอาชนะอุปสรรคที่ยากลำบาก, ระบบการต่อสู้ที่มีเอกลักษณ์, และการออกแบบโลกที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด
เทรนด์ที่น่าจับตา: การนำเสนอโลกที่เปิดกว้างมากขึ้น (แบบ Elden Ring), การผสมผสานกับแนวอื่นๆ, และการออกแบบบอสที่สร้างสรรค์และน่าจดจำยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเกมที่คาดว่าจะยังคงได้รับความนิยม (หรือเป็นกระแสใหม่):
Elden Ring: ถ้าคุณเป็นคอเกม Souls-like ที่อยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่ Elden Ring คือหนึ่งในเกมที่ต้องลอง! เปิดตัวเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2022 และยังคงครองใจถึงกลางปี 2025 ด้วยโลก The Lands Between ที่กว้างใหญ่ กับการผสมผสานการสำรวจแบบเปิดกับความยากระดับตำนานของ Dark Souls แม้จะมีบอสสุดโหดท้าทายจนบางคนถอดใจอยู่บ้าง แต่ระบบการต่อสู้และกราฟิกสวยงามกลับได้รับคำชมล้นหลาม เกมนี้เหมาะสำหรับคนที่พร้อมรับความท้าทายและหลงใหลในโลกแฟนตาซี

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-8400, RAM 12GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 970 หรือ AMD RX 470 ราคาเริ่มต้น 1,590 บาท (หรือลดเหลือ 999 บาทในบางโปรโมชัน Steam) พร้อม DLC Shadow of the Erdtree ที่วางจำหน่าย 21 มิถุนายน 2024 เพิ่มเนื้อหาใหม่สุดเข้มข้น ผู้เล่นยกย่องอิสระในการสำรวจและเรื่องราวที่ลึกซึ้ง
Lies of P : Souls-like เป็นเกมที่ท้าทายและมีเรื่องราวลึกซึ้ง คือหนึ่งในเกมที่ต้องลอง! เปิดตัวเมื่อ 18 กันยายน 2023 และอัปเดตถึง DLC Overture ในมิถุนายน 2025 เกมนี้หยิบเอาตำนานปิน็อกคิโอมาสร้างใหม่ในโลกมืดมิดของ Krat ที่เต็มไปด้วยหุ่นเชิดน่ากลัว ให้การต่อสู้ที่ลื่นไหลและการออกแบบบอสที่ท้าทาย แม้จะมีข้อติเรื่องความลื่นไหลของเลเวลดีไซน์และความคล้ายคลึงกับ Bloodborne แต่เรื่องราวที่ผสมผสานก็สร้างจุดเด่น กราฟิกสวยงามและการปรับโหมดความยากใหม่ใน DLC ที่ช่วยดึงดูดทั้งมือใหม่และแฟนพันธุ์แท้!

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-8500, RAM 16GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 1060 หรือ AMD RX 580 ราคาเริ่มต้น 990 บาท (ลดเหลือ 495 บาทในบางโปรโมชัน Steam)
Black Myth: Wukong (ถ้าเปิดตัวและกระแสยังดี): กับเกม Steam ในแบบแอ็กชัน RPG ที่ผสมผสานตำนานจีนสุดตระการตา Black Myth: Wukong เปิดตัวเมื่อ 20 สิงหาคม 2024 บน PS5 และ PC โดยพาคุณสวมบทเป็น Destined One ลิงนักสู้ที่ตามหา relic ของ Sun Wukong ในโลก Journey to the West มาพร้อมกราฟิกสวยงามและการต่อสู้บอสที่เร้าใจ ความสนุกของการสำรวจและระบบคอมโบที่ลื่นไหล แม้โลกอาจไม่เปิดกว้างมากแต่การผจญภัยนี้ยังคงน่าประทับใจในปี 2025!

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-8400, RAM 16GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 1060 หรือ AMD RX 580 ราคาเริ่มต้น 1,290 บาท (Digital Standard Edition)
Hollow Knight: เกม Steam ยอดนิยมที่เต็มไปด้วยความท้าทายเป็นอีกหนึ่งในเกมที่แฟน ๆ รอคอยมากที่สุด! เกมนี้วางแผนเปิดตัวในช่วงก่อนปลายปี 2025 บนแพลตฟอร์มหลากหลายอย่าง PC, Nintendo Switch, Switch 2, PlayStation, และ Xbox พร้อมให้บริการผ่าน Xbox Game Pass ตั้งแต่วันแรก รีวิวจากแหล่งต่างๆ กับการผจญภัยในฐานะ Hornet ที่รวดเร็วกว่าเดิมในดินแดน Pharloom ที่เต็มไปด้วยศัตรูและปริศนา แม้จะยังไม่มีการรีวิวเต็มรูปแบบ แต่ตัวอย่างและการอัปเดต Steam บ่งบอกถึงกราฟิกสวยงามและดนตรีที่น่าตื่นเต้น

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-6400, RAM 8GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 970 หรือ AMD RX 460 ราคายังไม่ชัดเจนแต่คาดว่าราว 1,000-1,500 บาท เกมนี้เหมาะสำหรับคนที่รักการสำรวจและพร้อมเผชิญความท้าทายในโลกใหม่นี้!
4. แนว Indie Games / Roguelike / Roguelite: ความสร้างสรรค์ที่ไม่สิ้นสุด

หัวใจของเกมอินดี้คือ “ความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด” เหล่านักพัฒนาอิสระมักจะกล้าทดลองนำเสนอไอเดียที่แปลกใหม่, รูปแบบการเล่นที่ไม่ซ้ำใคร, และงานศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ “สดใหม่” และแตกต่างจากเกมกระแสหลัก การได้ดำดิ่งไปในโลกที่เต็มไปด้วย “แพสชัน” ของผู้สร้าง, การเล่าเรื่องที่น่าสนใจ, และกลไกเกมที่ท้าทายความคิด คือสิ่งที่ทำให้เกมอินดี้โดดเด่น แม้จะมีงบประมาณจำกัด แต่ “ความใส่ใจในรายละเอียด” และ “ความรักในการทำเกม” ก็สามารถสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำได้ไม่แพ้ใคร!
ทำไมถึงยังฮิต? ความหลากหลายของเกมเพลย์, ความท้าทายในการเล่นแต่ละรอบที่ไม่ซ้ำกัน, และราคาที่เข้าถึงง่าย
เทรนด์ที่น่าจับตา: การผสมผสานแนวเกมที่หลากหลาย (เช่น Roguelite + Deck-building, Roguelite + Bullet Hell), กราฟิกที่มีเอกลักษณ์, และการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ
ตัวอย่างเกมที่คาดว่าจะยังคงได้รับความนิยม (หรือเป็นกระแสใหม่):
Hades: เป็นเกมแนว Rogue-like ที่ผสมผสานแอ็กชันและเรื่องราวสุดเข้มข้น Hades จาก Supergiant Games คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ต้องลอง! เปิดตัวใน Early Access เดือนธันวาคม 2018 และเวอร์ชันเต็มเมื่อ 17 กันยายน 2020 เกมนี้พาคุณสวมบทบาท Zagreus ลูกชายของ Hades ในการหนีจากยมโลกสู่ Mount Olympus ให้การต่อสู้ที่ลื่นไหลและกราฟิกสไตล์วาดมือที่สวยงาม การเล่าเรื่องที่มีความลึกซึ้งและดนตรีประกอบที่ประทับใจ ทำให้ติดอันดับเกมยอดเยี่ยมแห่งปี 2020 เป็นอีกเกมที่ให้ความสนุกเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ตายและกลับมาใหม่ เหมาะกับคนที่ชอบความท้าทายและเรื่องราวครอบครัวกรีกที่แสนดราม่า!

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-4430, RAM 8GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 970 หรือ AMD RX 460 ราคาเริ่มต้นราว 599 บาท (ลดบ่อยบน Steam)
Vampire Survivors : ถ้าคุณกำลังอยากจะเล่นเกม Steam ที่เล่นง่ายแต่ติดหนึบจนวางไม่ลง Vampire Survivors จาก Poncle คือคำตอบที่ใช่! เปิดตัวใน Early Access เดือนธันวาคม 2021 และเวอร์ชันเต็มเมื่อตุลาคม 2022 เกมนี้พาคุณสู้กับฝูงมอนสเตอร์ในสไตล์กอธิคด้วยการโจมตีอัตโนมัติที่ไม่ต้องกดเยอะ มีการออกแบบที่เรียบง่ายแต่แฝงความลึกซึ้งในการเลือกอาวุธและการอัปเกรดที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นราชาแห่งสนามรบเป็นเกมที่ผู้เล่นบอกว่าความคุ้มค่าและเสียงดนตรีที่ติดหู เกมนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากผ่อนคลายแต่พร้อมลุยแบบไม่รู้จบ!

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i3-530, RAM 4GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 970 หรือ AMD RX 460 ราคาเริ่มต้นแค่ 199 บาท (ลดบ่อยบน Steam)
Slay the Spire: เกมการ์ดผสมผสานกับความท้าทายแบบ Rogue-like Slay the Spire จาก Mega Crit Games เปิดตัวใน Early Access เดือนพฤศจิกายน 2017 และเวอร์ชันเต็มเมื่อ 23 มกราคม 2019 เกมนี้พาคุณสร้างเด็คการ์ดที่ไม่เหมือนใครเพื่อพิชิตยอด Spire ที่เต็มไปด้วยศัตรูแปลกประหลาด การออกแบบที่สมดุลและการผสมผสานกลยุทธ์ที่ทำให้ติดหนึบ แม้จะมีกราฟิกที่เรียบง่ายแต่ระบบการต่อสู้และการอัปเกรดเด็คได้รับคำชมอย่างล้นหลาม เกมนี้เหมาะสำหรับคนที่รักการวางแผนและพร้อมเผชิญความท้าทาย!

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i3-6100, RAM 4GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 950 หรือ AMD RX 460 ราคาเริ่มต้น 299 บาท (ลดบ่อยบน Steam)
Cult of the Lamb: หากชอบเกม Steam ผสมผสานที่แปลกใหม่ Cult of the Lamb จะพาคุณเข้าสู่โลกผสมระหว่างการผจญภัย Rogue-like กับการบริหารลัทธิสุดแปลก! เปิดตัวเมื่อ 11 สิงหาคม 2022 เกมนี้ให้คุณสวมบทเป็นลูกแกะที่ฟื้นคืนชีพเพื่อสร้างลัทธิและต่อสู้กับบิชอปแห่ง Old Faith มีกราฟิกน่ารักสไตล์การ์ตูนที่ตัดกับเนื้อเรื่องมืด ๆ และการจัดการลัทธิที่เต็มไปด้วยความสนุก เกมนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากลองอะไรแปลก ๆ และสนุกกับการสร้างลัทธิในแบบของตัวเอง!

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i3-530, RAM 4GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 970 หรือ AMD RX 460 ราคาเริ่มต้น 599 บาท
5. แนว Co-op / Multiplayer Shooters (PvE/PvP): เล่นสนุกกับเพื่อนคือที่สุด

หัวใจสำคัญของเกมยอดนิยม Co-op และ Multiplayer Shooters คือ การเล่นร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการผนึกกำลัง กับเพื่อนฝูงเพื่อพิชิตภารกิจสุดท้าทาย (Co-op/PvE) หรือการ “วัดฝีมือ” กับผู้เล่นจากทั่วโลกในสนามรบสุดเดือด (PvP) การ “สื่อสาร” วางแผน และ ทำงานเป็นทีม คือกุญแจสู่ชัยชนะ ความรู้สึกของการได้ ร่วมทุกข์ร่วมสุข และสร้าง ช่วงเวลาที่น่าจดจำร่วมกันนั้นหาไม่ได้จากเกมเล่นคนเดียว ความตื่นเต้นและ ความไม่แน่นอน ในทุกๆ แมตช์ ทำให้เกมแนวนี้มีเสน่ห์ดึงดูด ที่ทำให้เรากลับมาเล่นซ้ำได้ไม่รู้เบื่อ!
ทำไมถึงยังฮิต? ความสนุกในการเล่นร่วมกับผู้อื่น, การสื่อสารและวางแผนเป็นทีม, และความท้าทายในการแข่งขัน
เทรนด์ที่น่าจับตา: เกมที่มีการสนับสนุนเนื้อหาระยะยาว (Live Service), การผสมผสานองค์ประกอบ RPG เข้ามา, และ Cross-play ระหว่างแพลตฟอร์ม
ตัวอย่างเกมที่คาดว่าจะยังคงได้รับความนิยม (หรือเป็นกระแสใหม่):
Helldivers 2 : ถ้าคุณชอบเกมยิงมุมบุคลสามที่เต็มไปด้วยความสนุกและการร่วมมือกัน Helldivers 2 คือหนึ่งในเกมที่ไม่ควรพลาด! เปิดตัวเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2024 เกมนี้พาคุณสวมบทเป็นทหารชั้นยอดของ Super Earth ต่อสู้กับเอเลี่ยนและหุ่นยนต์ การเปลี่ยนจากมุมมองบนลงล่างมาเป็นมุมสามดูลื่นไหล ระบบ Stratagem ที่หลากหลาย ผู้เล่นส่วนใหญ่ชอบในความสนุกที่เพิ่มขึ้นเมื่อเล่นกับเพื่อนและเนื้อหาที่อัปเดตอย่างต่อเนื่อง เกมนี้เหมาะสำหรับคนที่พร้อมลุยเพื่ออิสรภาพในจักรวาลสุดโหด!

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-9600K, RAM 16GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 1660 หรือ AMD RX 580 ราคาเริ่มต้น 990 บาท
Call of Duty : หากคุณเป็นแฟนเกมยิงมุมมองบุคคลที่สามที่เต็มไปด้วยแอ็กชัน Call of Duty ซีรีส์จาก Activision คือหนึ่งในตำนานที่ต้องลอง! เริ่มจาก Call of Duty: Modern Warfare II เปิดตัว 28 ตุลาคม 2022 พาคุณร่วมภารกิจสุดเข้มข้น ให้กราฟิกสวยงามและมัลติเพลเยอร์ที่สนุกติดลม ส่วน Call of Duty: Black Ops 6 ที่ออกเมื่อ 25 ตุลาคม 2024 แม้แคมเปญอาจไม่โดดเด่นเท่าแต่โหมดมัลติและ Zombies ก็ตาม แต่ก็ได้รับคำชมไม่น้อยเลย โดยที่ Call of Duty: Warzone ที่เริ่มเมื่อมีนาคม 2020 ก็ถือเป็นไฮไลต์กับโหมด Battle Royale ที่ดึงดูดผู้เล่นทั่วโลก เกมนี้เหมาะสำหรับคนที่รักการต่อสู้แบบทีมและอยากสัมผัสประสบการณ์สงครามที่หลากหลาย!

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i5-9600K, RAM 16GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 1660 หรือ AMD RX 580 ราคาเริ่มต้นราว 1,590 บาท
Valorant: เกมที่ผสมผสานทั้งกลยุทธ์และความสามารถพิเศษอย่าง Valorant จาก Riot Games เปิดตัวเมื่อ 2 มิถุนายน 2020 เกมนี้พาคุณสู่การต่อสู้ 5v5 แบบทีมในรูปแบบ tactical shooter ที่ผสมผสานความแม่นยำของปืนกับพลังของตัวละคร Agent ส่วนใหญ่ชอบที่การเล่นที่ลื่นไหลและการออกแบบที่เน้นความเท่าเทียม แม้จะมีข้อติเรื่องการจับคู่ที่อาจไม่เหมาะกับมือใหม่และความซับซ้อนในช่วงแรกก็ตาม
สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i3-4150, RAM 4GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 1050Ti หรือ AMD RX 460 ราคาเล่นฟรีพร้อมตัวเลือกซื้อสกินเริ่มต้น 199 บาท โหมด Competitive และ Esports ที่ตื่นเต้นได้รับความนิยม กับการอัปเดตในปี 2025 ที่เพิ่มความหลากหลายให้เกมนี้เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และแฟนตัวยงอีกด้วย
Lethal Company: เกม Steam ยอดนิยม สไตล์สยองขวัญ ผสมความฮา Lethal Company เปิดตัวใน Early Access ตั้งแต่ตุลาคม 2023 และยังคงพัฒนาต่อเนื่องถึงกลางปี 2025 เกมนี้พาคุณไปเก็บของเก่าบนดวงจันทร์ร้างกับเพื่อนสูงสุด 4 คน ให้บรรยากาศที่ดูสยองอย่างแท้จริง พร้อมปะทะกับมอนสเตอร์หลากหลาย ทำให้ลุ้นระทึกตลอดเวลา กับความสนุกจากเสียงหัวเราะและสถานการณ์คาดเดาไม่ได้ถือเป็นจุดเด่นของเกมนี้ เหมาะสำหรับคนที่อยากผจญภัยกับเพื่อนและรับมือกับความท้าทายที่ทั้งน่ากลัวและความฮาไปในตัว!

สเปคแนะนำคือ CPU Intel Core i3-6100, RAM 4GB และการ์ดจอ NVIDIA GTX 970 หรือ AMD RX 460 ราคาเริ่มต้นแค่ 250 บาท
แนวเกมอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- Strategy / 4X / Grand Strategy: เกมวางแผนที่ซับซ้อนและใช้เวลานานในการเล่น ยังคงมีฐานแฟนคลับเฉพาะกลุ่มที่แข็งแกร่ง (เช่น เกมจาก Paradox Interactive หรือซีรีส์ Civilization)
- Simulation (จำลองสถานการณ์): ตั้งแต่เกมจำลองการทำฟาร์ม, สร้างเมือง, ไปจนถึงจำลองการขับรถบรรทุก ยังคงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ที่ผ่อนคลายหรือสมจริง (เช่น Stardew Valley, Cities: Skylines II (ถ้าแก้ไขปัญหาได้), Euro Truck Simulator 2)
- Story-Driven / Narrative Adventure: เกมที่เน้นการเล่าเรื่องและตัวละครที่น่าจดจำ ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้เล่นที่ชื่นชอบประสบการณ์แบบภาพยนตร์ (เช่น เกมจาก Telltale Games (ถ้ามีผลงานใหม่) หรือ Life is Strange)
ปัจจัยที่มีผลต่อความนิยมของเกมบน Steam:
- การตลาดและการโปรโมต: เกมที่ได้รับการโปรโมตอย่างดี มีโอกาสเข้าถึงผู้เล่นได้มากกว่า
- สตรีมเมอร์และอินฟลูเอนเซอร์: การที่สตรีมเมอร์ชื่อดังหยิบเกมไหนมาเล่น ย่อมส่งผลต่อกระแสความสนใจ
- การลดราคาและเทศกาลลดราคา: ช่วง Steam Sales มักจะเป็นช่วงที่เกมต่างๆ กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง
- การอัปเดตเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง: เกม Live Service ที่มีการอัปเดตสม่ำเสมอจะช่วยรักษาฐานผู้เล่นไว้ได้นาน
- กระแสไวรัลและ Word-of-Mouth: บางครั้งเกมที่ไม่เป็นที่รู้จักก็สามารถกลายเป็นกระแสได้จากคุณภาพของเกมเองและการบอกต่อของผู้เล่น
สรุปส่งท้าย:
การคาดการณ์แนวโน้มความนิยมของเกมในอนาคตเป็นเรื่องที่ท้าทายและน่าตื่นเต้นเสมอ อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มปัจจุบันและพฤติกรรมของผู้เล่น แนวเกมอย่าง Open-World RPG, Survival Crafting, Souls-like, Indie Games (โดยเฉพาะ Roguelike/Roguelite), และ Co-op/Multiplayer Shooters น่าจะยังคงเป็นแนวเกมหลักที่ครองใจเกมเมอร์บน Steam ในช่วงพฤษภาคม 2568 ได้
ในฐานะนักเขียนบทความเกม การทำความเข้าใจแนวโน้มเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกหยิบยกเกมที่กำลังเป็นที่สนใจมานำเสนอได้อย่างทันท่วงที และสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมติดตามข่าวสารในวงการเกมอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญที่สุดคือ สนุกกับการเล่นเกมและแบ่งปันประสบการณ์ของคุณให้กับผู้อื่น!
