หากคุณกำลังต้องการซื้อโน้ตบุ๊กใหม่ซักเครื่อง แล้วอยากได้ CPU ที่รองรับ AI แบบเต็มตัว เพื่อไว้ใช้งานบางประเภทที่ต้องการ NPU ประสิทธิภาพสูงนิดนึง โดยที่มีงบตั้งแต่ประมาณ 30,000 – 40,000 บาท ถ้าเป็นฝั่ง AMD ต้องบอกว่ามีรุ่นที่น่าสนใจจากหลายแบรนด์ทีเดียว โดยเฉพาะกับเครื่องที่ใช้ชิป AMD Ryzen AI 7 350 ที่มีราคาย่อมเยาลงมากว่ากลุ่มของ AMD Ryzen AI 9 แต่ได้สมรรถนะที่ดีมากพอสำหรับการใช้งานในหลาย ๆ ด้าน แม้กระทั่งการเล่นเกมด้วยพลังของ AMD Radeon 860M ซึ่งเป็น iGPU แบบออนชิประดับกลางรุ่นใหม่ล่าสุดในปัจจุบัน
ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า AMD Radeon 860M จะมีประสิทธิภาพในระดับไหน เพียงพอสำหรับการใช้เล่นเกมได้หรือเปล่า โดยจะเป็นการรวบรวมผลทดสอบจากแหล่งต่าง ๆ มาให้ได้ชมและใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อเป็นหลัก
AMD Radeon 860M
เป็น iGPU ที่อยู่ใน APU รุ่นสเปคระดับกลางของ AMD นั่นคือ AMD Ryzen AI 7 350 และ Ryzen AI 7 PRO 350 ซึ่งเน้นทำตลาดในกลุ่มโน้ตบุ๊กสเปคกลางค่อนสูง รองรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ในราคายังไม่สูงไปชนกลุ่ม Ryzen AI 9 โดยที่ตัว Radeon 860M ก็คือชิปรุ่นต่อยอดมาจาก Radeon 760M ที่เริ่มใส่มาตั้งแต่ใน AMD Ryzen 7040 series สำหรับคุณสมบัติที่น่าสนใจของ Radeon 860M มีดังนี้
- เปิดตัวในช่วงต้นปี 2025
- สถาปัตยกรรม RDNA 3.5
- มี 8 CU, 512 shading units, 32 TMU, 8 ROP และ 8 RT core
- ความเร็วพื้นฐาน 400 MHz บูสต์สูงสุด 3000 MHz
- รองรับ DirectX Ultimate 12_2
สำหรับโน้ตบุ๊กที่ใช้ AMD Ryzen AI 7 350 พร้อมกับ AMD Radeon 860M ในขณะนี้ก็จะมีด้วยกัน 8 รุ่น เริ่มต้นแต่ราคา 26,990 บาทคือ ASUS Vivobook 16 ที่จะได้จอ 16” FHD+ แรม 16GB ขยับขึ้นมาก็จะเป็น Lenovo IdeaPad 5 2-in-1 ที่สามารถพับจอกลับเพื่อใช้เป็นแท็บเล็ตได้ รวมถึงยังได้แรม 24GB SSD 1TB มาเลย จัดว่าเป็นรุ่นที่ให้สเปคมาคุ้มมากรุ่นหนึ่ง ส่วนถ้ามีงบ 40,000 บาทก็จะมี MSI Venture A14 AI+ ให้เลือก โดยจะได้จอ 14” ความละเอียด 2.8K
ส่วนถ้ามีงบ 40,000 บาทแบบบวกได้นิด ๆ ก็จะมีอีก 4 รุ่น ไล่จาก ASUS Vivobook S 14 OLED จอสวย แรม 24GB SSD 1TB พร้อมใช้งาน โดยได้ตัวเครื่องสี rose gold หรือถ้าอยากได้หน้าจอ 16” ก็จะมีอีกรุ่นให้เลือกเช่นกัน ในขณะที่ถ้าเป็นของ MSI ก็จะมีซีรีส์ Venture A16 AI+ จอ 16” OLED ให้เลือก ซึ่งจุดเด่นคือสามารถเปลี่ยนแรมเพื่อเพิ่มความจุได้ ทำให้น่าจะตอบโจทย์ของผู้ใช้งานที่ต้องการแรมเยอะ ๆ เพื่อนำไปใช้งานบางประเภท เช่น การเปิด VM หลาย ๆ ตัว การทำงานด้าน AI เฉพาะทาง เป็นต้น
อีกรุ่นสำหรับงบ 40,000 นิด ๆ ถึง 45,000 บาทก็จะขยับมาเป็น ASUS ZenBook 14 OLED ที่เน้นความบางเบา และหน้าจอที่สวยขึ้นมาอีกระดับ พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน โดยที่ได้งานประกอบและวันสุดระดับพรีเมียม และทัชแพดที่มี NumberPad สำหรับการกดตัวเลขได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นการแก้ pain point ของโน้ตบุ๊กขนาด 14” ได้เป็นอย่างดี ส่วนรุ่นราคาสูงสุดในขณะนี้ก็จะเป็น ZenBook S 16 หน้าจอ 16” OLED 120Hz ในราคา 54,990 บาท ซึ่งจะไปชนกับกลุ่มเครื่องที่ใช้ชิป AMD Ryzen AI 9 365 และ Ryzen AI 9 HX 370 แล้ว เลยอาจทำให้รุ่นนี้ถูกมองข้ามไปพอสมควร ทั้ง 8 รุ่นนี้ก็จะเป็นโน้ตบุ๊กที่มาพร้อมชิป AMD Ryzen AI 7 350 และใช้กราฟิกออนชิป AMD Radeon 860M ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ณ ขณะนี้ โดยสามารถเข้าไปดูรุ่นทั้งหมดได้ที่หน้าสเปคของเราได้เลย
ผลการทดสอบ AMD Radeon 860M
ทีนี้เรามาดูผลการทดสอบพลังของ AMD Radeon 860M กันบ้าง เริ่มจากชาร์ตอันดับคะแนนทดสอบด้วยโปรแกรมต่าง ๆ ของเว็บไซต์ Notebookcheck ที่ภาพแรกทางซ้ายจะเป็นการทดสอบ 3DMark ชุด Time Spy ที่เป็นคะแนนด้านกราฟิกเพียงอย่างเดียว พบว่าสามารถทำไปได้เฉลี่ย 2,626 คะแนน เทียบแล้วได้คะแนนน้อยกว่า AMD Radeon 780M ที่เป็นรุ่นท็อปของซีรีส์ก่อนหน้าเพียง 3% เท่านั้น ส่วนถ้าเทียบกับรุ่นที่ต่อยอดมาโดยตรงอย่าง Radeon 760M ก็จัดว่าน่าสนใจทีเดียว เพราะ 860M ทำคะแนนได้สูงกว่าถึง 14% เลย
ต่อมาเป็นผลทดสอบจาก GFXBench 5.0 ชุด Aztec Ruins แบบ High Tier Offscreen ที่ไม่นำปัจจัยเรื่องความละเอียดหน้าจอมาคำนวณ เพื่อวัดพลังการประมวลผลของชิปล้วน ๆ ผลคือสามารถทำได้เฉลี่ย 51.3 fps สูงกว่า Radeon 760M อยู่ 5% ส่วนถ้าทดสอบการประมวลผลที่ระดับ 4K จะทำได้ที่ 24.15 fps ซึ่งใกล้เคียงกันกับ Radeon 680M, Radeon 760M และ Intel Arc Graphics 130V ที่เป็น iGPU ในชิป Intel Core Ultra 200V series
โปรแกรมถัดมาก็คือ Geekbench 6.4 ที่มีการทดสอบพลังของ iGPU ทั้งการใช้ API อย่าง OpenCL ซึ่งได้รับความนิยมในสายโปรแกรมด้านกราฟิก งาน 3D งานมัลติมีเดีย ไปจนถึงงานเชิงวิทยาศาสตร์ และ Vulkan ที่ถูกนำไปใช้ในเกมจำนวนมาก อาทิ Baldur’s Gate 3, Counter-Strike 2, Doom: The Dark Ages, Dota 2 และ RDR2 เป็นต้น ทำให้การทดสอบนี้น่าจะสามารถสื่อถึงระดับประสิทธิภาพในการใช้งานได้เป็นวงกว้างพอสมควร
ด้านของทาง OpenCL จะได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 24,794 คะแนน สูงกว่า AMD Radeon 760M อยู่ 28% สูงกว่าชิป Apple M1 (7-core GPU) 26% รวมถึงยังสูงกว่า Snapdragon X Elite และ Plus อีกด้วย ส่วนฝั่งของ Vulkan ก็จะได้คะแนนเฉลี่ยไป 35,242 คะแนน ซึ่งสูงกว่า RTX 3050 ซะด้วยซ้ำ แต่ถ้าไปดูจากคะแนนเฉลี่ยบนหน้าเว็บไซต์ Geekbench เอง จะได้อยู่ที่ 31,936 คะแนน ใกล้เคียงกับ Intel Arc 140V และ AMD Radeon 780M
จากทั้งสองการทดสอบด้วยโปรแกรมต่าง ๆ ข้างต้นนี้ ก็น่าจะทำให้พอประมาณการได้ว่าประสิทธิภาพของ AMD Radeon 860M น่าจะอยู่ในระดับที่หย่อนลงมาจาก Radeon 780M รุ่นยอดฮิตเล็กน้อย แต่ที่แน่ ๆ คือแรงกว่า Radeon 760M ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้าโดยตรงแน่นอน อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนสถาปัตยกรรมจาก RDNA 3 มาเป็น RDNA 3.5
ด้านของผลทดสอบการเล่นเกม หากยกมาเฉพาะเกมที่น่าสนใจก็จะเริ่มต้นด้วย Cyberpunk 2077 แพตช์ 2.2 Phantom Liberty ซึ่งจาก 5 เครื่องที่ทางเว็บไซต์ Notebookcheck ทดสอบ การตั้งค่าที่แนะนำจะอยู่ที่ความละเอียดระดับ Full HD 1080p กราฟิกระดับ Low แบบไม่เปิด FSR และเทคโนโลยีอื่น ๆ ช่วย จะได้เฟรมเรตเฉลี่ยประมาณ 37 fps ซึ่งถ้ามีการใช้เทคโนโลยีเฟรมเจ็นพวก FSR ช่วยก็น่าจะได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่กำลังเล่นสนุกได้อยู่ ส่วนถ้าเทียบกับ GPU รุ่นอื่นก็จัดว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ Intel Arc Graphics 130V และ GTX 1060 Mobile และทำได้เหนือกว่าชิป Apple M3/M4 ที่มี GPU 10 คอร์อยู่เล็กน้อย
ในขณะที่เกม Baldur’s Gate 3 ก็จะแนะนำที่ 1080p Low เช่นกัน โดยได้เฟรมเรตเฉลี่ย 34 fps แบบไม่เปิด FSR เทียบแล้วใกล้เคียงกับ AMD Radeon 680M และ Radeon 780M แบบต่างกันไม่ถึง 3 fps ดังนั้นถ้าสำหรับเกมใหม่ ๆ หน่อย ถ้าอยากจะให้ได้เฟรมเรตอยู่ในระดับที่เล่นได้ เฟรมไทม์ค่อนข้างนิ่ง ก็อาจจะต้องเปิดเฟรมเจ็นช่วย ซึ่งทาง AMD ก็จะมีตัวของ FSR (FidelityFX Super Resolution) มาช่วยจัดการให้อยู่ โดยปัจจุบันก็มีการพัฒนามาถึงเวอร์ชัน FSR 4 แล้ว หากต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AMD FSR สามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่นี่ รวมถึงถ้าหากต้องการตรวจสอบว่าเกมไหนรองรับ FSR เวอร์ชันใดบ้าง ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้จากรายชื่อเกมบนเว็บไซต์ AMD ได้เลย ซึ่งสำหรับ AMD Radeon 860M ในขณะนี้จะรองรับการทำงานได้ถึงสูงสุด FSR 3.1 เท่านั้น เนื่องจากจะมีเพียงการ์ดจอ AMD Radeon RX 9000 series สำหรับเครื่องเดสก์ท็อปเท่านั้นที่รองรับ FSR 4
ส่วนถ้าเกมมหาชนที่มีการลงผลทดสอบไว้ เกมที่น่าสนใจก็เช่น Dota 2 Reborn ที่ก็ยังมีผู้เล่นทั่วโลกใน Steam เป็นอันดับ 2 อยู่ แน่นอนว่าเกมนี้สามารถเล่นบน Radeon 860M ได้แบบสบาย ๆ สามารถปรับกราฟิก 1080p ระดับ Ultra โดยได้เฟรมเรตเฉลี่ยถึง 70 fps ส่วนถ้าไม่ต้องการเน้นรายละเอียดภาพมาก ก็สามารถดันขึ้นไปเกือบถึง 100 fps ได้สบาย แต่ถ้าหากต้องการเพิ่มความละเอียดภาพให้สูงขึ้นกว่า 1080p ไปเป็นระดับ native ของจอ ก็คาดว่าน่าจะสามารถการันตีเฟรมเรตไม่ต่ำกว่า 60 fps ได้อยู่ โดยถ้าเทียบประสิทธิภาพก็จะใกล้เคียงกันกับ AMD Radeon 780M ที่เป็น iGPU รุ่นท็อปของเจ็นก่อนหน้า
ด้านของอีกเกมมหาชนอย่าง GTA V ที่ก็น่าจะใช้อ้างอิงเป็นสเปคพื้นฐานของ FiveM ได้ในระดับหนึ่ง พบว่าสามารถเล่นที่การตั้งค่าระดับ 1080p กราฟิกระดับ High ได้ลื่น ๆ กับเฟรมเรตเฉลี่ยมากกว่า 60 fps ส่วนถ้าเป็น FiveM ก็อาจจะต้องพิจารณาเรื่องส่วนเสริมที่ติดตั้งเพิ่มนิดนึงว่าจะมีผลกับประสิทธิภาพหรือไม่ แต่โดยพื้นฐานแล้วน่าจะสามารถเล่นได้สบาย ๆ แบบอาจต้องปรับลดระดับกราฟิกลงนิดนึง
ต่อมาจะเป็นคลิปที่มีช่อง Fps Vn ทดสอบไว้ (ชมคลิปเต็ม คลิก) โดยเป็นการเทียบประสิทธิภาพกับ AMD Radeon 880M ใน Ryzen AI 9 365 และ Radeon 890M ใน Ryzen AI 9 HX 370 ซึ่งจะขอยกมา 3 เกม เริ่มด้วย Cyberpunk 2077 สำหรับการปรับภาพระดับ 1080p กราฟิก medium เปิด FSR และเฟรมเจ็น พบว่าสามารถทำได้ใกล้เคียงกับ Radeon 880M ทั้งส่วนของเฟรมเรตเฉลี่ยที่ได้ 55 fps เฟรมที่ Low 1% ซึ่งลงไปต่ำสุด 44 fps รวมถึงเฟรมไทม์ที่ไม่ต่างกันมากนัก และยังกราฟยังค่อนข้างนิ่งด้วย
ส่วนด้านของอุณหภูมิ GPU เอง จากตัวเลขต้องบอกว่า Radeon 860M จะเย็นกว่าอีกทั้งสองรุ่นอย่างเห็นได้ชัด แต่กรณีนี้อาจจะเทียบกันตรง ๆ ยาก เนื่องจากอาจจะมีประเด็นเรื่องของการออกแบบและระบบระบายความร้อนจากผู้ผลิตเครื่องด้วย
เกมที่สองก็คือ Black Myth: Wukong ที่ปรับกราฟิกในระดับเดียวกัน และผลก็ออกมาใกล้เคียงกันกับก่อนหน้านี้เลย คือได้เฉลี่ยราว 55 fps ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่เล่นได้อยู่เหมือนกัน หรืออาจจะยังพอปรับรายละเอียดกราฟิกบางจุดลงได้อีกเล็กน้อยเพื่อทำให้เฟรมเรตขึ้นไปแตะหลัก 60 fps
และเกมสุดท้ายที่ยกมาก็คือ Forza Horizon 5 ที่สามารถทำเฟรมเรตได้เฉลี่ย 95 fps ที่ก็ใกล้เคียงกับ AMD Radeon 880M มาก ๆ เช่นเดิม ดังนั้นถ้าหากคุณเป็นสายขับรถ แข่งรถสนุก ๆ ในเกมแข่งรถยอดฮิตอย่าง Forza Horizon 5 ก็สามารถเลือกโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป AMD Ryzen 7 350 + Radeon 860M ได้เลย
ตัดเกรด AMD Radeon 860M ในด้านการเล่นเกม
จากผลการทดสอบต่าง ๆ ที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่ากราฟิกแบบ iGPU อย่าง Radeon 860M นั้นเป็นชิปรุ่นที่เข้ามาแทนรุ่นก่อนหน้าอย่าง Radeon 760M ได้อย่างเต็มตัว ด้วยประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หรือแม้กระทั่งจะเป็นด้านการประมวลผลของโปรแกรมต่าง ๆ ที่อาศัย GPU ในการทำงานก็ทำได้ดีขึ้นเช่นกัน โดยในบางการทดสอบพบว่าสามารถทำคะแนนกับเฟรมเรตได้เทียบเท่าหรือสูงกว่า Radeon 780M ที่เป็น iGPU รุ่นท็อปของเจ็นก่อนด้วยซ้ำ
ส่วนถ้าหากเทียบกับ iGPU รุ่นสูงกว่าแต่อยู่ในเจ็นเดียวกันอย่าง AMD Radeon 880M และ 890M ก็พบว่าประสิทธิภาพนั้นไม่ได้แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดมากนัก โดยเฉพาะกับ 880M ใน AMD Ryzen AI 9 365 ที่ได้ผลทดสอบออกเกมมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกันมาก ๆ ดังนั้นก็น่าจะทำให้ผู้ที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊ก AMD รุ่นใหม่ในงบ 40,000 บาทสบายใจขึ้น หากต้องการโน้ตบุ๊กมาใช้ทำงานเป็นหลัก และมีเล่นเกมบ้างในเวลาพักผ่อน ด้วยพลังของ iGPU ที่สามารถชนกับการ์ดจอแยกระดับกลางรุ่นเก่าได้สบาย
