
หลังจากได้แนะนำเราเตอร์ใส่ซิม 5G ประสิทธิภาพสูงเพื่อให้ผู้ใช้สายเดินทางใช้งานอินเทอร์เน็ตได้สะดวกทุกโอกาส ไม่ว่าจะไปต่างจังหวัดแล้วโรงแรมที่พักสัญญาณ Wi-Fi ช้าทำงานไม่สะดวกหรือไปต่างประเทศก็ใช้เป็นอุปกรณ์กระจายสัญญาณให้โน๊ตบุ๊คและสมาร์ทโฟนใช้งานได้ดีขึ้น และข้อดีของการใช้เราเตอร์พกพาแทนมือถือ คือ ตัวอุปกรณ์ออกแบบมาให้ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะจึงทำงานได้เสถียรต่อเนื่องกว่ามาก ไม่เหมือนมือถือเวลากระจายสัญญาณเน็ตไปนานๆ แล้วเครื่องจะร้อนและอาจทำให้แบตเสื่อมได้
ปัจจุบันนี้เราเตอร์ใส่ซิมจะมีทั้งแบบ 5G ซึ่งเคยนำเสนอไปแล้วจะมีราคาสูงพอควร ผิดกับเราเตอร์แบบ 4G ที่ราคาประหยัดกว่า เริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยบาทเน้นใส่ซิมแล้วใช้งานเลยหรือหลักพันแบบมีฟีเจอร์เสริมเข้ามาให้อีกหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเปิดระบบ VPN เพื่อความเป็นส่วนตัวได้หรือต่อ USB-A เพิ่มเพื่อตั้งค่าและใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆ เพิ่มได้จึงมีประโยชน์มาก
วิธีอ่านสเปกและเลือกเราเตอร์ใส่ซิมด้วยตัวเองแบบง่ายๆ
- ถึงจะเรียกว่าเราเตอร์แต่พอดีไซน์มาให้ใส่ SIM 4G~5G ได้ ก็มีหลายรูปทรงทั้งเป็นกล่องตามปกติหรือไซซ์เล็กเป็นแฟลชไดรฟ์ก็มี
- ปกติเราเตอร์ซิม 4G จะมีความเร็วประมาณ 150~300 Mbps พอให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและอัปโหลดไฟล์ได้
- เราเตอร์ใส่ SIM 4G บางรุ่นอาจมีฟีเจอร์พ่วงสาย LAN/WAN เข้ากับเราเตอร์หลักเป็นตัวแบ็คอัพเวลาเน็ตจากผู้ให้บริการล่มใช้งานไม่ได้ก็จะสลับมาใช้เน็ตจาก SIM แทน
- เราเตอร์พกพามักรองรับการกระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้มากสุดราว 32 ชิ้น บางรุ่นอาจได้เกิน 70 ชิ้น ขึ้นอยู่กับสเปกและการปรับแต่งของแต่ละบริษัท
- ถ้านำเราเตอร์ใส่ซิมไปใช้ต่างประเทศแนะนำให้เช็คย่านความถี่ของแต่ละรุ่นว่ารองรับ 4G FDD-LTE ย่านใดและเป็นย่านเดียวกับ SIM ของประเทศนั้นหรือไม่ ถ้ารองรับก็ใช้งานได้
- แนะนำให้เตรียมเข็มจิ้มซิมเอาไว้สัก 1 อัน เผื่อกรณีถอดซิมจากมือถือมาใช้งานจะได้ใส่กลับได้ง่าย
- เมื่อต้องการพกเราเตอร์ไปใช้งานต่างประเทศ สามารถเช็ค 4G LTE-FDD Band ได้ที่นี่

5 เราเตอร์ใส่ซิมน่าใช้ ฟีเจอร์มาเพียบใช้งานสะดวกสุด!
- D-LINK DWR-910M (699 บาท)
- MERCUSYS MB110-4G V.2 (865 บาท)
- TP-Link TL-MR105 (1,090 บาท)
- TENDA 4G180 V4.0 4G LTE (1,169 บาท)
- Tenda 5G03 (5,855 บาท)
1. D-LINK DWR-910M (699 บาท)

Wireless Standard & SIM | Wi-Fi N มาตรฐาน 802.11n |
Wireless band | LTE-FDD B1/B3/B5/B7/B8/B28 LTE-TDD B38/B40/B41 UMTS / HSDPA / HSUPA / HSPA+ B1 / B8, (900 / 2100 MHz) |
Frequency & Devices | ความเร็วสูงสุด 150 Mbps เชื่อมต่อพร้อมกัน 8 อุปกรณ์ |
Application & Management | Web GUI |
Price | 699 บาท (Speed Gaming Shopee Mall) |
ถ้าปกติไม่ได้แชร์เน็ตกับใครหรือเดินทางไปไหนมาไหนเป็นคนเดียวเป็นประจำจะมีเราเตอร์ใส่ซิมรุ่นเล็กราคาประหยัดอย่าง D-LINK DWR-910M ให้เลือก ทั้งราคาไม่เกินพันบาทและใช้งานง่ายแบบ Plug & Play ใส่ซิมเน็ตแล้วต่อแหล่งพลังงานอย่างพาวเวอร์แบงค์หรืออะแดปเตอร์แล้วใช้ได้เลย ตั้งค่าได้ผ่าน Web GUI กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ 8 อุปกรณ์พร้อมกันโดยมีความเร็วสูงสุด 150 Mbps จึงเหมาะกับผู้ใช้คนเดียวหรือแบ่งเพื่อนร่วมเดินทางได้นิดหน่อยเป็นคอมพิวเตอร์กับมือถือคนละเครื่องก็พอใช้งานและข้อดีคือขนาดเล็กกะทัดรัดเก็บใส่กระเป๋าโน๊ตบุ๊คได้ด้วย เป็นเราเตอร์ใส่ซิมแบบซื้อติดกระเป๋าแก็ดเจ็ตไว้ไม่ผิดหวัง
ข้อดี
- เป็นเราเตอร์ทรง Flashdrive พกพาสะดวกใส่ SIM 4G ต่อ Powerbank หรือปลั๊ก USB ใช้ได้ทันที
- มีความเร็วรับส่งข้อมูลสูงสุด 150 Mbps ใช้ทำงานรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วพอควร
- กระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่างๆ เชื่อมต่อพร้อมกันได้ 8 ชิ้น
- ขนาดเล็กกะทัดรัดพกใส่ซองโน๊ตบุ๊คไปได้ไม่เปลืองพื้นที่แน่นอน
ข้อสังเกต
- ตั้งค่าผ่านทาง Web GUI เพื่อตั้งค่าใช้งาน ไม่มีแอปฯ ให้ใช้งาน
2. MERCUSYS MB110-4G V.2 (865 บาท)

Wireless Standard | Wi-Fi N มาตรฐาน 802.11b/g/n |
Wireless band | FDD-LTE: B1/B3/B5/B7/B8/B20/B28 (2100/1800/850/2600/900/800/700 MHz) TDD-LTE: B38/B40 (2600/2300 MHz) HSPA+/UMTS: B1/B5/B8 (2100/850/900 MHz) |
Frequency & Devices | 2.4GHz มีความเร็วสูงสุด 300 Mbps เชื่อมต่อพร้อมกัน 32 อุปกรณ์ |
Application & Management | MERCUSYS application (iOS / Android) เว็บไซต์ http:mwlogin.net |
Price | 865 บาท (Nava IT Mall Shopee Mall) |
MERCUSYS MB110-4G V.2 นอกจากเป็นเราเตอร์ใส่ซิมเอาไว้กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตตอนเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศแล้วกระจายสัญญาณเน็ตให้อุปกรณ์ 32 ชิ้นได้พร้อมกันด้วยความเร็วรวม 300 Mbps แล้ว ก็ยังให้ฟีเจอร์เสริมมาอีกพอควรทั้งพอร์ต WAN/LAN ไว้ต่อโน๊ตบุ๊คเพื่อทำงานได้หรือพ่วงกับเราเตอร์อินเทอร์เน็ตบ้านเป็นตัวแบ็คอัพเวลาเครือข่ายของผู้ให้บริการเกิดเสียหายก็สลับมาใช้เน็ตจาก SIM 4G ทำงานต่อได้ทันทีไม่ขาดการเชื่อมต่อแน่นอน ส่วนการตั้งค่าก็ทำได้ง่ายทั้งผ่านเบราเซอร์หรือใช้แอปฯ ของ MERCUSYS ก็ได้ นับว่าสะดวกมาก
ข้อดี
- สามารถกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้ 32 ชิ้นพร้อมกัน
- มีความเร็วสูงสุด 300 Mbps ทำให้รับส่งข้อมูลได้สะดวกรวดเร็ว
- ตั้งค่าใช้งานได้ง่ายผ่านทางแอปฯ MERCUSYS ในสมาร์ทโฟนได้
- ติดพอร์ต WAN/LAN มาให้ใช้งาน 2 ช่อง ให้เชื่อมต่อได้สะดวก
- ใช้เป็นเราเตอร์แบ็คอัพได้กรณีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตใช้งานไม่ได้ก็ใช้เน็ต SIM 4G แทน
ข้อสังเกต
- สามารถต่อใช้งานได้ทันทีแต่ควรเปิดเว็บเข้าระบบของเราเตอร์เพื่อตั้งค่าก่อนใช้งานครั้งแรก
3. TP-Link TL-MR105 (1,090 บาท)

Wireless Standard | Wi-Fi N มาตรฐาน 802.11b/g/n |
Wireless band | 4G: FDD-LTE: B1/B3/B5/B7/B8/B20/B28 (2100/1800/850/2600/900/800/700 MHz) TDD-LTE: B38/B40/B41 (2600/2300/2500 MHz) 3G: DC-HSPA+/HSPA/UMTS: B1/B5/B8 (2100/850/900 MHz) |
Frequency & Devices | 2.4GHz มีความเร็วสูงสุด 300 Mbps เชื่อมต่อพร้อมกัน 32 อุปกรณ์ |
Application & Management | TP-Link Tether (iOS / Android) |
Price | 1,090 บาท (TP-Link Shopee Mall) |
เราเตอร์ใส่ซิมจากแบรนด์ชั้นนำด้านเน็ตเวิร์คอย่าง TP-Link TL-MR105 ได้เปรียบทั้งราคาไม่แพง มีความเร็วสูงสุด 300 Mbps และกระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้พร้อมกันมากสุด 32 ชิ้น จึงเป็นเราเตอร์คู่ใจสายเดินทางและต่อสาย LAN เข้ากับ Access Point ไว้แบ็คอัพเวลาเน็ตบ้านใช้งานไม่ได้ก็สลับมาใช้เน็ต 4G ทำงานไปก่อนได้อีก ซึ่งฟังก์ชั่นร้อยแปดข้างต้นสามารถตั้งค่าได้ด้วยแอปฯ Tether ในสมาร์ทโฟนได้โดยตรง หากใครสนใจสามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่
ข้อดี
- ดีไซน์แบบ Plug & Play เพียงใส่ซิมเน็ตและต่อปลั๊กก็ใช้งานได้ทันที ใช้ SIM 5G ได้
- มีพอร์ต LAN ให้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นได้อีก 2 ช่อง
- ต่อสาย LAN เข้ากับเราเตอร์ในบ้านเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต 4G ในยามจำเป็นได้
- ตั้งค่าเราเตอร์ผ่านแอปฯ TP-Link Tether มาตั้งค่าเพิ่มเติมได้
ข้อสังเกต
- กระจายสัญญาณเป็นคลื่น 2.4GHz มาตรฐาน 802.11b/g/n เท่านั้น
4. TENDA 4G180 V4.0 4G LTE (1,169 บาท)

Wireless Standard | Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax |
Wireless band | 4G FDD_LTE:B1/B3/B5/B7/B8/B20 4G TDD-LTE:Band38/Band40 3G WCDMA:B1/B5/B8 |
Frequency & Devices | 2.4GHz มีความเร็วสูงสุด 286 Mbps เชื่อมต่อพร้อมกัน 32 อุปกรณ์ |
Application & Management | เว็บไซต์ tendawifi.com |
Price | 1,169 บาท (JIB Shopee Mall) |
ถ้าใครเดินทางต่างประเทศแล้วมีอุปกรณ์ต่างๆ ติดไปด้วยล่ะก็ เราเตอร์อย่าง TENDA 4G180 V4.0 4G LTE ตัวนี้จะเหมาะมาก ทั้งมีแบตในตัวให้ใช้งานได้นานถึง 8.5 ชม. แถมถอดเปลี่ยนได้จึงเอาแบตสำรองใส่ได้ทันทีหรือถ้าใช้มานานแล้วแบตเสื่อมก็ซื้อก้อนใหม่ใส่ได้ พอร์ตชาร์จเป็น USB-C จึงใช้สายชาร์จร่วมกับอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ ได้ ไม่ต้องพกสายเพิ่ม แถมตัว TENDA 4G180 ขนาดก็เล็กจนสอดเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงได้ด้วยจึงพกพาได้สะดวกมากและมีฟังก์ชั่นซ่อนชื่อ Wi-Fi เวลาไม่อยากให้ผู้อื่นแอบเชื่อมต่อใช้เน็ตของเราก็ได้ แต่จุดสังเกตของเราเตอร์ตัวนี้จะไม่มีแอปฯ ให้ใช้ ต้องทำผ่านเว็บไซต์ tendawifi.com เหมือน Access Point ในบ้านแทน
ข้อดี
- เป็นเราเตอร์พร้อมแบตเตอรี่ในตัว ใช้งานได้นาน 8.5 ชั่วโมง ชาร์จด้วย USB-C ได้
- แบตเตอรี่เป็นแบบถอดเปลี่ยนได้ ถ้าเสื่อมสภาพก็ซื้อก้อนใหม่มาใช้แทนได้ทันที
- มีขนาดเล็กพอสอดเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงได้ จึงเบาและพกพาไปต่างประเทศได้สะดวก
- มีฟังก์ชั่น Broadcast และซ่อน Wi-Fi ไม่ให้คนอื่นแอบเชื่อมต่อใช้โดยพลการได้
ข้อสังเกต
- ต้องตั้งค่าเราเตอร์ผ่านทางเว็บไซต์ tendawifi.com เท่านั้น ไม่มีแอปฯ ให้ใช้
5. Tenda 5G03 (5,855 บาท)

Wireless Standard | Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax |
Wireless band | 5G NR (Bands n1, n3, n5, n7, n8, n20, n28, n38, n40, n41, n77, n78) FDD-LTE (Bands 1, 3, 5, 7, 8, 20, 28, 32) TD-LTE (Bands 38, 40, 41, 42, 43) WCDMA (850, 900, 2100 MHz) |
Frequency & Devices | 2.4GHz มีความเร็วสูงสุด 574 Mbps 5GHz มีความเร็วสูงสุด 1,201 Mbps เชื่อมต่อพร้อมกัน 128 อุปกรณ์ |
Application & Management | เว็บไซต์ tendawifi.com |
Price | 5,855 บาท (Tenda Thailand Shopee Mall) |
Tenda 5G03 เป็นเราเตอร์อเนกประสงค์ใช้งานแบบใส่ซิม 4G / 5G ก็ได้ รองรับคลื่นหลากหลาย Band จึงเหมาะจะพกติดกระเป๋าไปใช้เวลาเดินทางไป Business trip ต่างจังหวัดต่างประเทศก็ดี โดยตัวมันสามารถกระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้พร้อมกันถึง 128 ชิ้น หรือพ่วงเราเตอร์ Tenda ตัวอื่นสร้างเป็นเครือข่าย Mesh WiFi ในบ้านได้พร้อมกัน 8 ตัว ครอบคลุมพื้นที่กว้าง 960 ตารางเมตร ดังนั้นถ้าใครใช้เราเตอร์ในเครือแบรนด์นี้อยู่แล้วก็เอา 5G03 ตัวนี้ไปพ่วงเพิ่มได้และเวลาต้องไปต่างที่ก็ถอดไปใช้งานในห้องพักก็ดีเช่นกัน อย่างไรก็ตามเราเตอร์แบรนด์นี้ต้องตั้งค่าผ่านหน้าเว็บไซต์ tendawifi.com เท่านั้น ไม่มีแอปฯ ให้ใช้งานเหมือนแบรนด์อื่น
ข้อดี
- เราเตอร์เป็นมาตรฐาน Wi-Fi 6 กระจายคลื่น 5GHz ได้ความเร็ว 1,201 Mbps ได้
- รองรับ SIM 5G ในตัว ใช้งานคลื่นได้หลาย Band จึงใช้งานซิมต่างประเทศได้แน่นอน
- กระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่างเชื่อมต่อพร้อมกันได้มากถึง 128 ชิ้นพร้อมกัน
- ติดตั้งพอร์ต LAN/WAN, LAN2 และ USB-C มาให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้มากขึ้น
- พ่วงใช้งานเป็นเครือข่าย Mesh WiFi พร้อมกันได้ 8 เครื่อง
- มีระบบจัดสรรคลื่น Wi-Fi ให้อุปกรณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสมโดยอัตโนมัติ
ข้อสังเกต
- ต้องตั้งค่าเราเตอร์ผ่านทางเว็บไซต์ tendawifi.com เท่านั้น ไม่มีแอปฯ ให้ใช้
- ราคาสูงถึง 5,855 บาท แต่ใช้งานเป็นเราเตอร์ใส่ซิมหรือตั้งเป็น Mesh WiFi ก็ได้
- ไม่มีฟีเจอร์เชื่อมต่อ LAN กับเราเตอร์เน็ตบ้านไว้แบ็คอัพตอนเน็ตใช้งานไม่ได้เสริมเข้ามา
สรุปสเปก 5 เราเตอร์ใส่ซิมน่าใช้ พกพาก็ง่ายตั้งใช้งานในบ้านก็เยี่ยม!


เราเตอร์ใส่ซิมเป็นแก็ดเจ็ตที่ถูกมองข้ามเพราะหลายคนสำคัญว่ามีสมาร์ทโฟนเอาไว้ส่งสัญญาณ Wi-Fi อยู่แล้ว จะซื้อของชิ้นนี้มาใช้เพิ่มทำไมให้เปลืองเงิน แต่ข้อดีของเราเตอร์พกพาใส่ SIM 4G อย่างแรก คือ มันแยกเป็นอุปกรณ์อีกชิ้นไปเลยจึงใช้งานได้เสถียรต่อเนื่องและตัดปัญหาเรื่องความร้อนแล้วทำให้สมาร์ทโฟนเสื่อมสภาพเร็วขึ้นไปได้เลย
ถ้าอยากลองเริ่มทดลองใช้เราเตอร์ใส่ซิมดูก่อนว่ามันจะเหมาะกับเราไหมหรือซื้อเผื่อไว้จะใช้ก็มีให้ใส่กระเป๋าจะเริ่มจากตัว D-Link ทรงแฟลชไดรฟ์ก่อนก็ได้ถ้าเน้นใช้งานคนเดียว แต่ถ้าไปเป็นกลุ่มค่อยขยับมาใช้ MERCUSYS ก็ได้ ด้าน TP-Link เองก็ดีเช่นกัน เพราะขนาดของมันไม่ใหญ่มากและตั้งค่าใช้งานผ่านแอปฯ ได้จะเหมาะกับผู้ใช้ส่วนใหญ่มากกว่า ถ้าเป็น Tenda 5G03 ตัวนี้แนะนำให้ซื้อกรณีใช้ผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทอยู่แล้วถึงจะคุ้มค่า
Photo credits: TP-Link
บทความที่เกี่ยวข้อง



