
ประสบการณ์ทำงานอย่างหนึ่งซึ่งโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสทำได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป อย่างแรกคือผู้ใช้เอานิ้วแตะเลือกโปรแกรมและไฟล์ต่างๆ บนหน้าจอระบบปฏิบัติการได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้เมาส์หรือทัชแพดแต่เป็นมือของเราแตะเลือกสิ่งที่ต้องการบนหน้าจอคอมไปได้เลย เวลารีบหรือไม่อยากเอาเมาส์ออกมาใช้งานให้เสียเวลา และพอเป็นหน้าจอสัมผัสแล้วก็มักมีปากกาสไตลัสติดมาให้ด้วยเผื่อจังหวะไหนจำเป็นต้องเขียนจดอะไรบางอย่างก็ทำได้ทันที ช่วยให้ชีวิตการทำงานสะดวกขึ้นหลายเท่า
อย่างไรก็ตามโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสเป็นโน๊ตบุ๊คกลุ่มคาบเกี่ยวกับโน๊ตบุ๊คพับจอได้ซึ่งได้แนะนำไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นบางรุ่นก็จะพับหน้าจอกลับเป็นแท็บเล็ตได้แต่ในครั้งนี้ก็จะมีรุ่นแบบฝาพับธรรมดาแบบ Clamshell เข้ามาเผื่อเป็นทางเลือกให้คนไม่ต้องการพับจอแต่อยากได้จอสัมผัสจะได้มีตัวเลือกมากขึ้น
เรื่องน่ารู้ก่อนซื้อโน๊ตบุ๊คจอสัมผัส
- การใช้โน๊ตบุ๊คจอสัมผัสทำให้ใช้นิ้วแตะเลือกโปรแกรมหรือไฟล์ในเครื่องได้โดยตรง ไม่ต้องใช้เมาส์
- ปัจจุบันโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสจะมีชิปเซ็ตให้เลือกหลากหลายแบบทั้ง AMD, Intel และ Snapdragon ขึ้นอยู่กับโจทย์การใช้งานว่าต้องการแบบใด
- โน๊ตบุ๊คจอสัมผัสบางรุ่นที่เป็นกลุ่มพรีเมียมอาจถูกตัดพอร์ตใช้งานออกไปบ้าง แนะนำให้หา USB-C Multiport adapter มาเผื่อไว้ใช้สักชิ้นจะดีกว่า

6 โน๊ตบุ๊คจอสัมผัสน่าใช้ แตะใช้งานง่ายไม่ง้อเมาส์ ทำงานสะดวกสุดๆ
- Microsoft Surface Laptop 7 (38,490 บาท)
- ASUS Vivobook S 16 Flip TP3607SA (46,990 บาท)
- HP OmniBook X AI 14-fe0022QU (52,490 บาท)
- HP Spectre x360 14-eu0009TU (53,990 บาท)
- Lenovo Yoga 9 2-in-1 Aura Edition 14ILL10 (62,990 บาท)
- ASUS Zenbook Duo OLED UX8406CA (74,990 บาท)
1. Microsoft Surface Laptop 7 (38,490 บาท)

CPU | Qualcomm Snapdragon X Plus แบบ 10 คอร์ ความเร็วสูงสุด 3.4 GHz |
GPU | Qualcomm Adreno GPU |
SSD | M.2 NVMe SSD 256GB |
RAM | 16GB LPDDR5X บัส 8448MHz |
Software | Windows 11 Home |
Display | 13.8 นิ้ว ความละเอียด 2304*1440 พิกเซลพาเนล IPS Refresh Rate 120Hz Dolby Vision IQ ทัชสกรีน |
Weight | 1.34 กก. |
Price | 38,490 บาท (Advice) |
ข้อดีเฉพาะของ Microsoft Surface Laptop 7 ซึ่งผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คเจ้าอื่นให้ไม่ได้ คือการอัปเดตฟีเจอร์ AI ในโปรแกรมต่างๆ มาให้ใช้ในทันทีโดยเสริมเข้ามาในซอฟท์แวร์ต่างๆ จาก Microsoft และทำงานได้รวดเร็วเพราะมีชิป Snapdragon X Plus กำลังประมวลผล 45 TOPS พอสั่งการแล้วก็ได้ผลลัพธ์แทบจะในทันที ด้านตัวเครื่องก็มีขนาดกะทัดรัดพกพาง่าย 13.8 นิ้ว ความละเอียดสูง รองรับ Dolby Vision IQ แล้ว ยังได้พอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมา 2 ช่อง ไว้ใช้ต่อหน้าจอแยก, ชาร์จแบตเตอรี่หรือโอนไฟล์อย่างรวดเร็วก็ได้เช่นกัน แม้จะมีข้อจำกัดว่าอัปเกรดได้ยากทั้ง RAM เป็นแบบออนบอร์ดจึงอัปเกรดได้เฉพาะ M.2 NVMe SSD อย่างเดียวเท่านั้น แต่ก็จำเป็นต้องเตรียมไดรฟ์ให้พร้อมเพราะชิปเซ็ตเป็นสถาปัตยกรรม ARM จึงมีรายละเอียดมากกว่าแบบ X86 อย่างที่ผู้ใช้ทั่วไปคุ้นเคยอยู่บ้าง ดังนั้นถ้าจะใช้ Surface Laptop 7 ทำงานแนะนำให้ลงทุนกับอุปกรณ์เสริมดีกว่า
ข้อดี
- ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon X Plus ใช้ทำงานได้ดีและประหยัดแบตเตอรี่มาก
- น้ำหนักเบาเพียง 1.34 กก. เท่านั้น พกพาสะดวกน้ำหนักเบากำลังดี
- หน้าจอมีความละเอียดสูง ค่า Refresh Rate 120Hz ได้ภาพลื่นไหล รองรับ Dolby Vision
- ได้รับอัปเดตฟีเจอร์ AI ใหม่ล่าสุดจาก Microsoft ตลอดเวลาเมื่อทางบริษัทเปิดให้ใช้งาน
- มีเซนเซอร์สแกนใบหน้าติดมาให้ เพิ่มความเป็นส่วนตัวรักษาความปลอดภัยได้ดี
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7
- มีพอร์ต USB-C 4.0 Full Function ติดตั้งมา 2 ช่อง เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้หลายชิ้น
ข้อสังเกต
- อัปเกรดเพิ่ม RAM ในภายหลังไม่ได้และการเปลี่ยน SSD ทำได้ยากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
- ถึงเป็นผลิตภัณณ์ของ Microsoft แต่ไม่มี Office Suite ติดตั้งมาให้ฟรี ต้องซื้อเพิ่มเอง
2. ASUS Vivobook S 16 Flip TP3607SA (46,990 บาท)

CPU | Intel Core Ultra 5 226V แบบ 8 คอร์ 8 เธรด (4P+4LPE) ความเร็วสูงสุด 4.5 GHz |
GPU | Intel Arc Graphics 130V |
SSD | M.2 NVMe SSD 1TB |
RAM | 16GB LPDDR5X บัส 8533MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home 2024 Microsoft 365 Basic |
Display | 14 นิ้ว ความละเอียด 3K (2880*1800) พาเนล OLED Refresh Rate 120Hz 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR True Black 500 ทัชสกรีน |
Weight | 1.5 กก. |
Price | 46,990 บาท (ASUS Online Store, Advice) |
ASUS Vivobook S 16 Flip TP3607SA เป็นทั้งโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสและ 2-in-1 ในตัว เพราะบานพับหน้าจอพลิกกลับเป็นแท็บเล็ตได้ทำให้ใช้งานได้หลากหลายแบบและมีสไตลัสแถมมาให้เขียนจดสิ่งต่างๆ หรือลงลายเซ็นไปในไฟล์ PDF ได้เหมือนแท็บเล็ต เรียกว่าซื้อของชิ้นเดียวใช้ได้สองหน้าที่ในเวลาเดียวกัน และยังให้ซอฟท์แวร์สำหรับทำงานมาครบทั้ง Microsoft Office Home 2024 และ Microsoft 365 ใช้บริการฟรี 12 เดือนแรกด้วย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายตอนเริ่มต้นไปได้มาก นอกจากเรื่องพับหน้าจอก็ได้พอร์ต Thunderbolt 4 กับ USB-C Full Function ติดมาให้ชาร์จแบตเวลาพกไปใช้งานนอกออฟฟิศก็ได้ ถ้านั่งโต๊ะทำงานก็ต่อ USB-C Hub เซ็ตอัพเป็นเดสก์ท็อปพีซีทำงานได้ตั้งแต่งานเอกสารทั่วไปหรือจะใช้ทำงานกราฟิคก็ได้เพราะหน้าจอมีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 แสดงสีสันได้สวยสมจริงแล้ว ซีพียู Intel Core Ultra 5 226V เองก็รันโปรแกรม Adobe Suite ได้ดีแน่นอน
อย่างไรก็ตาม Vivobook S 16 Flip จะอัปเกรดเครื่องเพิ่มในภายหลังได้จำกัดเพราะ RAM เป็นแบบออนบอร์ดแล้ว ยังได้ SSD 1TB ติดมาให้จากโรงงานด้วย อีกอย่างสังเกตว่าทาง ASUS ไม่ได้ติดตั้งเซนเซอร์สแกนใบหน้าหรือนิ้วมือมาให้ ต้องพิมพ์รหัสผ่านเพื่อปลดล็อคเท่านั้น ในระดับราคานี้ควรได้เซนเซอร์ยืนยันตัวแบบชีวมาตรติดมาให้เป็นพื้นฐานได้แล้วโดยไม่เกี่ยงว่าเป็นซีรีส์ใดก็ตาม
ข้อดี
- ซีพียูเป็น Intel Core Ultra 5 226V มีประสิทธิภาพดีและประหยัดพลังงานมาก
- ติดตั้ง Microsoft Office Home 2024 มาให้และใช้บริการ Microsoft 365 ได้ 12 เดือน
- หน้าจอมีความละเอียดสูง 3K พาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ใช้ทำงานกราฟิคได้ดี
- มีสไตลัสแถมมาให้ใช้เขียน, จดและวาดสิ่งต่างๆ บนหน้าจอทัชสกรีนได้สะดวก
- ขาบานพับหน้าจอสามารถพับกลับ 360 องศา ใช้งานในโหมดแท็บเล็ตได้
- มีพอร์ต Thunderbolt 4 และ USB-C Full Function ติดตั้งมาให้ต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้มากขึ้น
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7
ข้อสังเกต
- RAM เป็นแบบออนบอร์ด 16GB LPDDR5X ไม่สามารถอัพเกรดเพิ่มเติมในภายหลังได้
- ไม่มีเซนเซอร์สแกนใบหน้าและนิ้วมือติดตั้งมาให้ ต้องพิมพ์รหัสผ่านถึงจะปลดล็อคได้
3. HP OmniBook X AI 14-fe0022QU (52,490 บาท)

CPU | Qualcomm Snapdragon X Elite แบบ 12 คอร์ ความเร็วสูงสุด 3.4GHz |
GPU | Qualcomm Adreno GPU |
SSD | M.2 NVMe SSD 1TB |
RAM | 16GB LPDDR5X บัส 8400MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
Display | 14 นิ้ว ความละเอียด 2.2K (2240*1400) พาเนล IPS 100% sRGB ทัชสกรีน |
Weight | 1.34 กก. |
Price | 52,490 บาท (Advice) |
HP OmniBook X AI 14-fe0022QU เหมาะกับคนต้องการรับประสบการณ์ AI PC มาก และเหมาะกับการทำงานออฟฟิศและประชุมออนไลน์เป็นพิเศษ ทั้งได้ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon X Elite จาก Qualcomm มีกำลังประมวลผล AI รวมสูงสุด 75 TOPS เวลาสั่งการปัญญาประดิษฐ์แล้วจะได้ผลลัพธ์รวดเร็ว ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ใช้จัดการเอกสารต่างๆ ได้ทันที ไมโครโฟน, ลำโพงและกล้องเว็บแคมได้ Poly Studio ช่วยปรับปรุงให้ภาพและเสียงคมชัด ประชุมออนไลน์ได้ยอดเยี่ยมแล้ว ยังพกพาสะดวกเพราะน้ำหนักเบาเพียง 1.34 กก. จะพกไปทำงานที่ไหนก็สะดวกหรือจะตั้งโต๊ะเป็นเดสก์ท็อปพีซีก็ได้เช่นกัน แต่เครื่องมีเพียงพอร์ต USB-C Full Function อยู่ 2 ช่อง คู่กับ USB-A และ Audio combo ดังนั้นจำเป็นต้องซื้อ USB Hub มาเพิ่มอีกชิ้นเพื่อต่อขยายเป็นพอร์ตอื่นอย่าง HDMI, LAN, Card reader ฯลฯ ถึงจะใช้งานได้ง่ายขึ้น
ข้อดี
- ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon X Elite มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานกว่าชิปเซ็ตทั่วไป
- ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน
- หน้าจอมีความละเอียดสูง 2.2K ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ใช้ทำงานกราฟิคได้ดี
- กล้องเว็บแคมและไมค์ได้ Poly Studio ปรับแต่งเป็นพิเศษให้ประชุมออนไลน์ได้ภาพคมชัด
- เว็บแคมมีเซนเซอร์อินฟาเรดติดตั้งมาให้สแกนใบหน้าได้สะดวกปลอดภัย
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.34 กก. เท่านั้น พกพาได้สะดวกสบาย
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องมีพอร์ต USB-C กับ USB-A เท่านั้น ควรหา USB Hub มาต่อเพิ่มจะใช้งานสะดวกขึ้น
4. HP Spectre x360 14-eu0009TU (53,990 บาท)

CPU | Intel Core Ultra 5 125H แบบ 14 คอร์ 18 เธรด (4P+8E+2LPE) ความเร็วสูงสุด 4.5 GHz |
GPU | Intel Arc Graphics |
SSD | M.2 NVMe SSD 1TB |
RAM | 16GB LPDDR5X บัส 6400MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
Display | 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880*1800) พาเนล OLED Refresh Rate 120Hz 100% DCI-P3 ทัชสกรีน |
Weight | 1.44 กก. |
Price | 53,990 บาท (Advice) |
HP Spectre x360 14-eu0009TU เป็นทั้งโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสและ 2-in-1 เหมือน OmniBook X AI ในข้อก่อน โดยซีรีส์ Spectre จะเป็นระดับเรือธงออกแบบมาเพื่อนักธุรกิจ ดังนั้นนอกจากสเปกและฟีเจอร์พื้นฐานทั่วไปแล้ว จะมีฟีเจอร์พิเศษเฉพาะรุ่นพร้อมได้รับการปรับแต่งจาก Poly Studio ไม่ว่าจะได้รับการปรับแต่งไมโครโฟน, ลำโพงและกล้องเว็บแคมมาให้เป็นพิเศษเพื่อให้ภาพและเสียงเวลาประชุมออนไลน์คมชัดยิ่งขึ้น และมี Privacy features เสริมมาให้ 4 อย่าง ทั้งล็อคตัวเครื่องทันทีเวลาไม่ได้นั่งอยู่หน้าเครื่องและปลดล็อคเวลาเข้ามาใกล้และกล้องหน้าตรวจจับได้ แถมยังแจ้งเตือนเวลามีผู้อื่นแอบดูหน้าจอเพื่อความเป็นส่วนตัวและยังหรี่ความสว่างหน้าจอให้โดยอัตโนมัติตามสภาพแสงโดยอัตโนมัติเพื่อถนอมสายตาเจ้าของไปในตัว ด้านหน้าจอก็ได้พาเนล OLED ความละเอียดสูงขอบเขตสีกว้างได้ภาพสีสันสวยงามสมจริงด้วย
อย่างไรก็ตาม HP Spectre ก็ยังมีข้อสังเกตเหมือนกับ OmniBook X AI ตรงพอร์ตเชื่อมต่อมีแต่ USB-C Full Function กับ Thunderbolt 4 เสริมด้วย USB-A และ Audio combo เท่านั้น แนะนำให้ซื้อ USB Hub มาต่อเพิ่มจะได้มีพอร์ตอื่นให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
ข้อดี
- ซีพียูเป็น Intel Core Ultra 5 125H ประสิทธิภาพดีใช้ทำงานได้รอบด้านรวมถึงรัน AI
- หน้าจอมีความละเอียด 2.8K พาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้สีสันสวยงามสมจริง
- กล้องหน้ามีเซนเซอร์อินฟาเรด ใช้สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้ง่ายและปลอดภัย
- บานพับหน้าจอสามารถพลิกกลับเป็นแท็บเล็ตและใช้สไตลัสในเซ็ตเขียนจดสิ่งต่างๆ ได้
- ระบบเสียงและกล้องเว็บแคมได้ Poly Studio ช่วยปรับจูนให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
- มี Privacy features จาก Poly studio คอยตรวจจับและล็อคเครื่องอัตโนมัติ
- ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 และ USB-C Full Function มาให้ต่ออุปกรณ์ได้หลากหลายแบบ
- ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งาน
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องมีพอร์ต USB-C กับ USB-A เท่านั้น ควรหา USB Hub มาต่อเพิ่มจะใช้งานสะดวกขึ้น
5. Lenovo Yoga 9 2-in-1 Aura Edition 14ILL10 (62,990 บาท)

CPU | Intel Core Ultra 7 258V แบบ 8 คอร์ 8 เธรด (4P+4LPE) ความเร็วสูงสุด 4.8GHz |
GPU | Intel Arc Graphics 140V |
SSD | M.2 NVMe SSD 1TB |
RAM | 32GB LPDDR5X บัส 8533MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home 2024 |
Display | 14 นิ้ว ความละเอียด 4K (3840*2400) พาเนล OLED 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR True Black 500 ทัชสกรีน |
Weight | 1.32 กก. |
Price | 62,990 บาท (BaNANA) |
ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสระดับพรีเมี่ยมเพื่อคนทำงานยังไงก็ต้องมี Lenovo Yoga 9 2-in-1 Aura Edition 14ILL10 รวมอยู่ด้วย ยิ่งซีรีส์นี้เป็น Aura Edition ถูกปรับแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อให้ทำงานกับ AI ได้ดียิ่งขึ้นและเสริมฟีเจอร์อื่นๆ เข้ามามากมาย ไม่ว่าจะ Smart Share เพียงเอามือถือเคาะด้านข้างเครื่องก็ส่งภาพเข้าคอมได้โดยตรง, ติดฟังก์ชั่น Smart Care ช่วยแนะนำและปรับแต่งโน๊ตบุ๊คให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลาเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ เสริมระบบรักษาความปลอดภัยเข้ามาให้หลากหลายให้ใช้งานได้อุ่นใจขึ้น ด้านงานประกอบของตัวเครื่องได้ทั้งความสวยเรียบหรูแล้วยังแข็งแรงทนทาน บาง 15.9 มม. เบา 1.32 กก. เท่านั้น จะพกใส่กระเป๋าไปไหนก็ง่ายไม่หนักบาดไหล่แน่นอน
อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้ว่าที่เจ้าของเครื่องเตรียม USB Hub ไว้ต่อใช้งานกับ Yoga 9 2-in-1 Aura Edition ด้วย เพราะข้างเครื่องมีเพียง Thunderbolt 4, USB-C Full Function, USB-A และ Audio combo เท่านั้น เวลาต่อใช้งานกับอุปกรณ์ชิ้นอื่นอาจไม่สะดวกนัก ด้านราคาผู้เขียนเลือกแนะนำรุ่นสเปกสูงสุดแต่ตามจริงยังมีสเปกรองลงมาจนรุ่นเริ่มต้นในระดับราคา 30,000 บาทให้เลือกซื้อด้วย
ข้อดี
- ซีพียูเป็น Intel Core Ultra 7 258V ประสิทธิภาพสูงใช้ทำงานได้ลื่นไหลและประหยัดไฟดีมาก
- งานประกอบตัวเครื่องสวยงามแข็งแรงทนทาน มีความพรีเมียมสมชื่อ Aura Edition
- หน้าจอมีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ความละเอียด 4K ได้สีสันสวยงามสมจริงและคมชัด
- พับหน้าจอเป็นแท็บเล็ตและใช้สไตลัสเขียนจดสิ่งต่างๆ ลงบนหน้าจอได้สะดวก
- ได้ RAM 32GB และ SSD 1TB จากโรงงานแล้ว ไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเพิ่มก็ได้
- น้ำหนักเบาเพียง 1.32 กก. เท่านั้น พกพาง่ายและบางเพียง 15.9 มม. เท่านั้น
- มีฟีเจอร์ Smart Share ส่งภาพจากสมาร์ทโฟนเข้าคอมได้รวดเร็ว ใช้ได้ทั้ง Android, iOS
- กล้องหน้ามีเซนเซอร์อินฟาเรดตรวจจับใบหน้าติดมาให้สแกนและปลดล็อคได้รวดเร็ว
- ติดตั้ง Microsoft Office Home 2024 มาให้พร้อมใช้งาน ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7
ข้อสังเกต
- ราคาเครื่องสูงพอสมควรถึง 62,990 บาท แต่สมกับงานประกอบระดับพรีเมี่ยม
- มีพอร์ต USB-C Full Function, Thunderbolt 4 และ USB-A เท่านั้น ควรซื้อ USB Hub มาต่อเพิ่ม
6. ASUS Zenbook Duo OLED UX8406CA (74,990 บาท)

CPU | Intel Core Ultra 9 285H แบบ 16 คอร์ 16 เธรด (6P+8E+2LPE) ความเร็วสูงสุด 5 GHz |
GPU | Intel Arc Graphics 140T |
SSD | M.2 NVMe SSD 1TB |
RAM | 32GB LPDDR5X บัส 7467MHz |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home 2024 Microsoft 365 Basic |
Display | 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880*1800) พาเนล OLED ทั้ง 2 หน้าจอ Refresh Rate 120Hz 100% DCI-P3 PANTONE Validated VESA DisplayHDR True Black 500 Dolby Vision ทัชสกรีน |
Weight | 1.65 กก. |
Price | 74,990 บาท (ASUS Online Store, BaNANA) |
โน๊ตบุ๊คจอสัมผัสรุ่นอื่นจะมีเพียงจอเดียวแต่ ASUS Zenbook Duo OLED UX8406CA จะติดตั้งจอ 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K มาให้ถึง 2 จอ เสริมด้วยขาตั้งขนาดใหญ่แข็งแรงทนทานมาก จะวางตั้งใช้งานแบบสองจอแล้วถอดคีย์บอร์ดแยกออกมาหรือใช้งานเหมือนโน๊ตบุ๊คธรรมดาก็ได้เช่นกัน ในเซ็ตมีสไตลัสแถมมาให้เพื่อเขียนจดและวาดสิ่งต่างๆ ลงไปในคอมได้โดยตรง ทำให้ใช้งานได้ยืดหยุ่นกว่าเดิม หน้าจอทั้งสองมีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 และ PANTONE การันตีความแม่นยำของสีสันไว้แล้ว ดังนั้นจึงใช้ทำงานได้รอบด้านตั้งแต่งานเอกสารถึงงานกราฟิค ตัดต่อแต่งภาพ, วิดีโอไปจนปั้นโมเดล 3D ก็ยังได้ นอกจากนี้ข้อดีของหน้าจอคู่ คือตอนพกไปใช้ทำงานนอกสถานที่สามารถเปิดงานหลักคู่กับงานอื่นๆ ไว้ใช้งานร่วมกันได้เลย ไม่ต้องสลับหน้าโปรแกรมไปมา แถมได้ซีพียู Intel Core Ultra 9 285H ตั้งต้นมาให้ ร่วมกับ RAM 32GB LPDDR5X และ SSD 1TB นับว่าแรงเหลือเฟือ ถ้าตั้งใจจะซื้อโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสดีๆ ไว้ใช้จะลงทุนซื้อเครื่องนี้ไปก็ไม่ผิดหวังแน่นอน
ข้อดี
- ซีพียูเป็น Intel Core Ultra 200 H-Series มีประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษ ทำงานได้รอบด้าน
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ 2.8K คู่ เสริมขาตั้งมาให้เป็นพิเศษให้ใช้ทำงานสองจอได้สะดวกขึ้น
- ขอบเขตสีหน้าจอกว้าง 100% DCI-P3 ได้การการันตี PANTONE ได้สีสันสวยงามสมจริง
- คีย์บอร์ดสามารถถอดแยกจากเครื่องเพื่อใช้งานแบบไร้สายได้หรือใช้ในโหมดโน๊ตบุ๊คตามปกติก็ได้
- ติดตั้ง RAM 32GB และ SSD 1TB มาให้พร้อมใช้ทันที ไม่ต้องอัปเกรดเพิ่ม
- ติดตั้ง Microsoft Office Home 2024 มาให้พร้อมใช้งาน
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7
- ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 มาให้ 2 ช่อง ใช้ต่ออุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มและชาร์จไฟได้
ข้อสังเกต
- ราคาสูงถึง 74,990 บาท และเป็นหน้าจอคู่ แนะนำให้หากระเป๋าและซองใส่โน๊ตบุ๊คมาใช้ร่วมกันจะดีสุด
- ชิ้นส่วนภายในเครื่องเป็นออนบอร์ดแทบทั้งหมด อัปเกรดได้เฉพาะ SSD 1TB เท่านั้น
สรุปสเปก 6 โน๊ตบุ๊คจอสัมผัสน่าใช้ ฟีเจอร์มาเต็มสเปกแรงถึงใจ!



หากมีโอกาสได้ซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่เมื่อไหร่ ก็อยากแนะนำให้ผู้ใช้ลองเปิดประสบการณ์กับโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสสักครั้งหนึ่ง แม้ราคาจะสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอยู่บ้างแต่ก็จะได้ประสบการณ์ใช้งานดีน่าประทับใจอย่างที่โน๊ตบุ๊คแบบอื่นให้ไม่ได้ เมื่อเราสามารถใช้ปลายนิ้วของเราแตะเลือกสิ่งต่างๆ บนหน้าจอได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้เมาส์หรือทัชแพดก็ได้ เหมือนใช้สมาร์ทโฟนอยู่แต่เป็นระบบปฏิบัติการ Windows เท่านั้น เวลาควบคุมทำอะไรใดๆ ก็เสร็จเร็วยิ่งขึ้นมาก
ถ้าอยากลองเริ่มต้นใช้โน๊ตบุ๊คจอสัมผัสสักเครื่องแล้วไม่อยากจ่ายแพงมาก ณ ตอนนี้ Microsoft Surface Laptop 7 ราคาร่วมสี่หมื่นบาทถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและได้ทดลองใช้ Snapdragon X Plus ดูก่อนได้ หรือถ้ามั่นใจชิปเซ็ตสถาปัตยกรรม ARM แล้วจะขยับไปใช้ HP OmniBook X AI เลย นอกจากประสิทธิภาพแล้วก็จะได้เรื่องงานประกอบระดับพรีเมี่ยมยิ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นรุ่นขวัญใจของผู้เขียน ณ ตอนนี้อยากแนะนำให้ลองดู Lenovo Yoga 9 2-in-1 ซึ่งงานประกอบดีมากหรือจะเล่นรุ่นสองหน้าจออย่าง ASUS Zenbook Duo OLED ก็น่าสนใจเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
