ในยุคที่การทำงานแบบหลายอย่างพร้อมกัน พลังประมวลผลและการพกพาที่สะดวกเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ MSI Modern 14 F13MG-403TH หนึ่งในโน๊ตบุ๊คที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพและดีไซน์ ด้วยขุมพลัง Intel Core i5-1335U ราคาเริ่มต้นเพียง 16,490 บาท โน๊ตบุ๊ครุ่นนี้เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา และพนักงานออฟฟิศที่ต้องการเครื่องมือทำงานที่พกพาง่ายและเชื่อถือได้ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกมุมของโน๊ตบุ๊ค MSI รุ่นนี้ ตั้งแต่สเปก การออกแบบ ไปจนถึงประสบการณ์ใช้งานจริง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้เข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างไร พร้อมแล้วไปชมกันเลย

จุดเด่นที่น่าสนใจ
- ราคาคุ้มค่า: ด้วยราคา 16,490 บาท ได้สเปกที่ครอบคลุมงานทั่วไปในชีวิตประจำวัน และยังได้แรมมาแล้ว 16GB อีกด้วย
- พกพาสะดวก: น้ำหนัก 1.5 กก. เมื่อรวมอแดปเตอร์ยังไม่ถึง 1.8 กก. กับดีไซน์ที่กระทัดรัดทำให้เหมาะกับการพกพาไปทำงานนอกสถานที่
- พอร์ตครบครัน: มีทั้ง USB-A, USB-C, HDMI, RJ45 และ MicroSD ซึ่งหาได้ยากในโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาใกล้เคียงกัน โดยที่ USB-C รองรับทั้ง PD Charge และแสดงผล DP อีกด้วย
- ประสิทธิภาพดีในงานทั่วไป: โปรเซสเซอร์ Intel Core i5-1335U ที่มีแกนหลักจำนวนมาก รองรับงานมัลติทาสกิ้งได้ดี พร้อมทั้งค่า TDP ที่ไม่สูง จึงประหยัดพลังงาน
- คีย์บอร์ดสวยงาม: White Backlit Keyboard ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานในที่มืด
- ความสว่างหน้าจอ: ให้ความแม่นยำสีและขอบเขตสีที่ดีในระดับหนึ่ง เน้นไปที่การใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่งภาพพื้นฐานและมัลติมีเดีย
- ฟีเจอร์การแสดงผล: กางหน้าจอได้ระดับ 180 องศา มาพร้อม Flip & Share แบ่งปันหน้าจอให้กับคนตรงข้ามดูได้สะดวกสุดๆ
- แบตเตอรี่: ใช้งานได้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง จากการทดสอบ แต่อาจจะมากขึ้นได้ เมื่อปรับจูนเรื่องของแสงและเสียงให้ลดลง
- ลำโพงคุณภาพปานกลาง: อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจสำหรับการดูหนัง และการเล่นเกม เสียงทุ้มกลาง ไม่เน้นเสียงแหลม
- บันเดิล: มาพร้อม Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student พร้อมสำหรับการใช้งาน
MSI Modern 14
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Keyboard & Touchpad
- Connector, Thin & Weight
- Inside & Upgrade
- Performance & Software
- Battery & Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion
- Award
- Gallery
NBS Verdict
MSI Modern 14 F13MG-403TH เป็นส่วนหนึ่งของตระกูล Modern Series ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์ การทำงานเอกสาร หรือการประชุมผ่าน Zoom โน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ผสมผสานความบางเบา ดีไซน์เรียบหรู และประสิทธิภาพที่เพียงพอสำหรับงานทั่วไปในราคาที่จับต้องได้ เมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ ในท้องตลาด โดยโน๊ตบุ๊ค MSI รุ่นนี้โดดเด่นด้วยการเลือกใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core i5-1335U และพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ ในปี 2025 ที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
Specification
Description | |
โปรเซสเซอร์: | Intel Core i5-1335U (3.40 GHz, Turbo Boost (Core-E) สูงสุด 4.60 GHz (Core-P), 12 MB L3 Cache 10 Core (2P core + 8E core)/ 12 Thread |
การ์ดจอ: | Intel® Iris® Xe Graphics eligible (80EUs) |
แรม: | 16GB DDR4 3200MHz (8GB x2) |
สตอเรจ: | 512GB NVMe PCIe 4.4 x4 SSD |
หน้าจอ: | 14 นิ้ว IPS Full HD (1920×1080) |
พอร์ตเชื่อมต่อ: | 3x USB-A 3.2 Gen1 1x USB-C (รองรับชาร์จและ DisplayPort), 1x HDMI 1x MicroSD Card Reader 1x RJ45 1x ช่องหูฟัง 3.5 มม. |
ระบบปฏิบัติการ: | Windows 11 Home and Microsoft Office Home & Student 2024 |
น้ำหนัก: | 1.5 กก. |
แบตเตอรี่: | 3 cell, 45.6Whr |
การเชื่อมต่อไร้สาย: | Intel Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 |
คีย์บอร์ด: | White Backlit Keyboard |
กล้อง: | HD Webcam (720p) |
ราคา: | 16,490 บาท (ข้อมูล ณ เมษายน 2568) |
Hardware & Design



มาพร้อมดีไซน์มินิมอลที่เน้นความเรียบง่ายแต่ดูทันสมัย ตัวเครื่องมีเส้นสายที่สะอาดตา พร้อมรายละเอียดเล็กๆ เช่น โลโก้ MSI บนฝาที่เพิ่มความพรีเมียม การออกแบบเน้นการใช้งานในสภาพแวดล้อมมืออาชีพ เช่น ออฟฟิศหรือร้านกาแฟ โดยขนาดตัวเครื่องบางเพียง 19.9 มม. และหน้าจอ 14 นิ้ว ทำให้ดูกะทัดรัด ฝาหลังมีพื้นผิวที่ลดการเกิดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี

มีให้เลือกสองสีหลัก: Urban Silver และ Platinum Gray Urban Silver เป็นสีเทาเข้มที่ดูจริงจังและเหมาะกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นทางการ ส่วน Platinum Gray เป็นสีเทาอ่อนที่ดูใกล้เคียงกับสีขาว ให้ความรู้สึกสะอาดและทันสมัย



ฝาพับในส่วน Cover มาในโทนสีเดียวกับตัวเครื่อง ไม่ได้มีเส้นสายอื่นใดให้เห็น เพราะยังคงเน้นไปที่ความเรียบง่าย แต่ก็ใส่โลโก้ MSI สีเงินขนาดใหญ่ สะดุดตามาตรงกลาง ผิวสัมผัสที่ช่วยลดรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ ทำให้ดูสะอาดอยู่เสมอ MSI เลือกใช้วัสดุที่สมดุลระหว่างความทนทานและราคา ทำให้รุ่นนี้เหมาะกับผู้ใช้ที่เน้นการใช้งานจริงมากกว่าความหรูหรา

เดิมทีเราจะได้เห็นโน๊ตบุ๊ค MSI Modern 14 อยู่หลายซีรีย์ ซึ่งมีรุ่นที่ใช้วัสดุ PCR มาให้ได้สัมผัสกันด้วย แต่รุ่นนี้จะอยู่ในสไตล์ของไลฟ์สไตล์และสำนักงาน กับผิวสัมผัสที่ให้ความเรียบลื่น แต่ก็จับติดมือ อีกทั้งมีขอบข้างที่ไม่ได้หนาเกินไป มีความโค้งมนพอสมควร เพื่อให้บอดี้มีเส้นนำสายตาดูกลมกลืนไปด้วยกันทั้งตัว
วัสดุแข็งแรงให้ความทนทานระดับมาตรฐาน MIL-STD-810H น้ำหนักค่อนข้างเบา เพียง 1.5 กก. ดีไซน์เน้นไปที่โครงสร้าง เพื่อความให้ความมั่นใจในการพกพา ทนต่อการกระแทกและสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน

โดยบอดี้ที่ทำออกมาบางเพียง 1.9cm เท่านั้น แม้จะไม่ได้บางเฉียบแบบเดียวกับโน๊ตบุ๊ค Thin & Light ที่เราเคยเห็น แต่นี่เป็นโน๊ตบุ๊คทำงานที่กระทัดรัด และไซส์บางกระชับ ในราคาสบายกระเป๋า ที่หาได้ยากในตลาดเวลานี้ ซึ่งถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊คมิติของจอ 13.3″ – 14″ ด้วยกัน ต้องถือว่าน่าใช้ทีเดียว

บริเวณที่วางมือทางด้านซ้ายติดสติกเกอร์ Intel Core i5, กราฟิก Intel Iris Xe Graphic และ HDMI ส่วนทางด้านขวาปล่อยโล่ง ดูสบายตาดีทีเดียว



ส่วนตัวชอบบานพับหน้าจอที่ทำออกมาได้แน่นหนาทีเดียว เรียกว่าวางบนโต๊ะทำงานขนาดเล็กได้สบาย แม้จะลงน้ำหนักกดแป้นพิมพ์ก็ไม่ได้ทำให้แกว่งจนเสียอารมณ์


และที่สำคัญยังกางได้ถึง 180 องศา ด้วยแกนบานพับล็อคอยู่กับโครงสร้างทั้งซ้ายและขวา จึงวางใจได้ในแง่ของการเปิดใช้และพับเก็บได้แบบยาวๆ

ด้านใต้ของเครื่อง เป็นจุดที่ใช้ดูดลมเย็นเข้าสู่ภายใน แต่ก็ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย ด้วยช่องลมที่ยาวขนานไปกับบอดี้ มีฐานยางให้ยึดเข้ากับวัสดุบนพื้นโต๊ะ เท่าที่ลองใช้ได้กับหลายๆ พื้นผิว เช่นเดียวกับจุดที่ยกตัวเครื่องให้สูงจากพื้นเล็กน้อย เพื่อให้มีอากาศไหลเวียนได้ราวๆ 3-4 จุด บริเวณด้านข้าง และตรงกลาง สามารถเปิดฝาเพื่ออัพเกรดและดูแลได้ง่าย

MSI Modern 14 F13MG-403TH เป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊คที่พกพาง่ายที่สุดในระดับราคานี้ ไม่ว่าจะใส่ในกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าโน้ตบุ๊ค ตัวเครื่องก็ไม่เป็นภาระ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย เช่น นักศึกษาที่พกไปเรียน หรือพนักงานที่ทำงานนอกสถานที่ ความบางและน้ำหนักเบาทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่จำกัด เช่น ร้านกาแฟหรือบนรถไฟ นอกจากนี้ การออกแบบที่กะทัดรัดยังช่วยให้วางบนโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้สบาย
Screen & Speaker
หน้าจอแสดงผลของ MSI Modern 14 F13MG-403TH ให้พื้นที่แสดงผล 14″ ในแบบ 16:9 เหมาะกับงานในหลายๆ ด้าน และยังเข้ากับโปรแกรมทำงานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะงานเอกสาร แต่งภาพ หรือความบันเทิง ความละเอียด Full-HD 1080p



ขอบจอซ้าย-ขวากระทัดรัด ดูสบายตา ส่วนขอบด้านบนนั้น จะหนาขึ้นเล็กน้อย เพราะเป็นจุดที่ติดตั้งกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนมาด้วย

เว็บแคมติดตั้งอยู่แถบด้านบนของจอภาพ พร้อมชุดไมโครโฟนด้านข้าง และมี Webcam Shutter ปิดกล้องแบบ Manual เพื่อความเป็นส่วนตัว ด้วยการเลื่อนซ้าย-ขวาเพื่อเปิด-ปิด ความละเอียดกล้อง 720p ให้ความคมชัดในระดับหนึ่ง ยิ่งถ้ามีแสงด้านหน้ามากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ภาพดูสดใส เพียงแต่ไม่ได้รองรับการสแกนใบหน้า และฟีเจอร์ Windows Studio Effect แต่อย่างใด
เสียงจากไมโครโฟนที่ใช้ในการสนทนาค่อนข้างชัดเจน ไม่ดีเลย์ ใช้งานได้ดี เหมาะกับการเป็นโน๊ตบุ๊คไลฟ์สไตล์ ใช้งานง่าย การตัดเสียงรบกวนพอใช้งานได้ในระดับหนึ่ง



ขอบจอด้านล่างหนาขึ้นเป็นแบบปกติ เพราะเป็นทั้งจุดยึดรับแรงจากบานพับ เมื่อเปิดกางออก รวมถึงเป็นจดเชื่อมต่อของสายสัญญาณด้วย จึงต้องเพิ่มมิติให้ความทนทานได้ดี พร้อมช่องทางลมออก ซ่อนอยู่ด้านใต้ตรงส่วนของจอนี้




จอแสดงผลบน MSI Modern 14 รุ่นนี้ เป็นพาแนล IPS ให้มุมมองที่กว้างกับความละเอียด 1920x1080p 16:9 อัตรารีเฟรชเรต 60Hz ตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นรูปแบบของจอโน๊ตบุ๊คสำหรับทำงานในปัจจุบัน

จากการทดสอบด้วย DisplayCAL และเครื่องมือ Calibrate ได้ค่าขอบเขตสี Gamut Coverage 60% sRGB และ 43% สำหรับ DCI-P3 ความสว่างอยู่ที่ราวๆ 285.5 cd/m2 ถือว่าความสว่างพอจะใช้งานในพื้นที่มีแสงรบกวนได้พอสมควร แต่ไม่ใช่โซนที่สว่างเจิดจ้ากระทบจอมากเกินไป โดยหน้าจอเป็นแบบ Anti-Glare เพื่อลดแสงสะท้อนได้ในระดับหนึ่ง จอนี้อาจจะเน้นไปที่การดูหนัง เล่นเกม และการนำเสนองาน ใช้ส่วนตัวได้ดีพอสมควร




บานพับหน้าจอออกแบบมาได้แข็งแรงพอสมควร จะวางบนโต๊ะ บนตัก หรือที่จำกัดก็ยังสะดวก ที่สำคัญกางออกได้ 180 องศา เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ เช่น พรีเซนเทชั่น หรือการแบ่งปันหน้าจอให้คนอื่นๆ ดูได้อีกด้วย



แต่เอกลักษณ์หนึ่งที่ดูน่าสนใจบนโน๊ตบุ๊ค MSI รุ่นนี้ นั่นคือ Flip & Share ฟีเจอร์ ซึ่งช่วยให้คนตรงข้ามคุณสามารถมองเห็นหน้าจอได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องหมุนตัวโน๊ตบุ๊คไปให้ฝั่งตรงข้ามดู และคุณก็ยังคอนโทรลเลื่อนเมาส์เพื่อแก้ไขงานได้ แค่กดปุ่ม F12 หน้าจอก็จะสลับกลับด้านให้ทันที เป็นฟีเจอร์ที่พบได้ยากบนโน๊ตบุ๊คระดับเดียวกัน


ลำโพงมาในแบบ 2W x2 วางอยู่ด้านใต้ของเครื่องซ้าย-ขวา ขับเสียงได้ชัดเจน เมื่อนั่งอยู่ด้านหน้าของตัวเครื่องโดยตรง และถ้าวางตำแหน่งของตัวเครื่องให้ใกล้กับผู้ใช้ และอยู่ใกล้ผนังมากขึ้น ก็จะได้เสียงที่มีมิติและพลังเสียงที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเล่นเกมและการดูหนังแอ็คชั่น จากที่เราได้ลองเล่น PUBG และการชมภาพยนตร์ Jurassic, Transformer ได้ฟิลของเอฟเฟกต์หนังชัดขึ้นกว่าเดิม แต่ในเรื่องของมิติการเล่นเกม แม้ไม่ได้จัดจ้านเช่นเดียวกับรุ่นพี่อย่าง Vector หรือ Thin ที่เป็นกลุ่มเกมมิ่ง สามารถเก็บรายละเอียดได้มากกว่า



Keyboard & Touchpad
MSI Modern 14 F13MG-403TH มาพร้อมคีย์บอร์ดที่ยังคงกลิ่นอายของ MSI Modern ในหลายๆ รุ่นที่ผ่านมาได้ดี ผมว่าเป็นรูปแบบที่ทำออกมาเพื่อผู้ใช้ในทุกๆ สไตล์ ตั้งแต่มือใหม่ พิมพ์ยังไม่คล่อง มืออาชีพพิมพ์สัมผัส และเกมเมอร์ ที่อยากได้คีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คปุ่มไม่ยุบยวบเกินไป และยังได้แสงไฟสีขาวปรับระดับได้มาครบๆ



คีย์บอร์ดเป็นแบบ Island มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ระยะห่างระหว่างปุ่มกำลังดีสำหรับคนพิมพ์สัมผัส ลดการกดปุ่มผิดไปได้เยอะ

ช่วงจังหวะที่เป็น Travel key ไม่ลึกมาก อยู่ระหว่างกลางๆ สำหรับการทำงานและการเล่นเกม ระยะปุ่มชัดเจน คนที่พิมพ์สัมผัสได้ประโยชน์มาก




คนที่ต้องมองแป้นพิมพ์บ่อยๆ ได้แสงไฟ Backlit มาเสริม ทำให้มองปุ่มไปด้วย คีย์ไปด้วยก็สะดวกเช่นกัน ทำให้การใช้งานดูกันเองมากยิ่งขึ้น โดยแสงไฟ Backlit นั้น ปรับได้ถึง 3 ระดับด้วยกัน โดยกดตรงปุ่ม F8 กดซ้ำลงไปเรื่อยๆ จะเริ่มตั้งแต่แสงไฟจางๆ สีขาว ไปจนถึงสว่างสุด ปิด > เปิด > ระดับ 3 > ระดับ 2 > ระดับ 1 > ปิด กรณีที่แสงโดยรอบสว่างพอ และต้องการประหยัดพลังงาน การปิดแสงไฟก็ช่วยได้เยอะ


ปุ่มฮอตคีย์ด้านบนมีมาให้แบบครบๆ เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ผมค่อนข้างประทับใจ ในการจัดวางฟังก์ขั่นใช้งานมาอย่างครบครัน เรียกว่าตั้งแต่ F1-F12 สามารถเลือกใช้งานได้ทุกปุ่ม ซึ่งรวมถึงปุ่ม Print screen หรือจับภาพหน้าจอ, Power On และ Delete อีกด้วย
- F1 – เปิด/ปิดเสียง
- F2 – ลดเสียง
- F3 – เพิ่มเสียง
- F4 – เปิด/ปิดทัชแพด
- F5 – เปิด/ปิดไมโครโฟน
- F6 – บลูทูธ
- F7 – ใช้ซอฟต์แวร์ MSI
- F8 – ปรับระดับไฟคีย์บอร์ด
- F9 – ลดแสงไฟหน้าจอ
- F10 – เพิ่มแสงไฟหน้าจอ
- F11 – ต่อจอภายนอก
- F12 – สลับหน้าจอ Flip & Share

เช่นเดียวกับคนที่จะใช้งาน AI ก็มีปุ่ม MS Copilot มาให้เรียกใช้ได้รวดเร็ว วางอยู่บริเวณใกล้กับปุ่ม Arrow มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่อยู่บ้าง ทำให้ปุ่มบริเวณด้านล่างขวานี้ จะเล็กลงเป็นลักษณะครึ่งปุ่ม ซึ่งอาจจะมีผลต่อการกดอยู่บ้าง แต่ในภายหลังก็จะเริ่มชิน ข้อดีคือ ทำให้มีปุ่มมาให้ใช้แบบครบๆ

ทัชแพดขนาดค่อนข้างใหญ่ ถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊คระดับ 14″ เช่นนี้ เป็นส่วนดีที่ทำให้คนที่ใช้งานข้างนอก ไม่สะดวกใช้เมาส์ ใช้งานได้คล่องตัวขึ้น กับมิติกว้างxยาว 7.5cm x 12cm. รองรับการมัลติทัช พร้อมปุ่มคลิ๊กซ้าย-ขวา ที่ซ่อนอยู่ด้านใต้นี้
Connector, Thin & Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อบน MSI Modern 14 F13MG-403TH รุ่นนี้ แม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คที่เป็นกลุ่มพกพา หน้าจอเล็ก แต่เรื่องการเชื่อมต่อเรียกว่าให้มาแน่นเลยทีเดียว ครอบคลุมการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้

เริ่มจากทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบด้วย 1x HDMI, 1x USB-C (โดยพอร์ต USB-C นี้ รองรับการชาร์จ 5V/9V/12V/20V PD-in ซึ่งสามารถนำอแดปเตอร์ชาร์จไว มาใช้ร่วมกันได้ และยังสนับสนุนการแสดงผล DP 1.4 เพื่อต่อจอแสดงผลภายนอกได้อีกด้วย) และ 2x USB-A 3.2 Gen1

ส่วนพอร์ตทางด้านขวามือของตัวเครื่อง ประกอบด้วย 1x ช่องหูฟัง 3.5 มม., 1x MicroSD Card Reader, 2x USB-A 3.2 Gen1 และ 1x RJ45
การเชื่อมต่อไร้สาย ประกอบด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.3
จุดที่น่าประทับใจอยู่ที่ MSI Modern 14 รุ่นนี้เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดกระทัดรัด แต่ก็มีพอร์ตมาเยอะพอสมควร โดยเฉพาะ USB-C นั้นรองรับทั้งการชาร์จ PD และเป็น DisplayPort ในตัว อีกทั้งการชาร์จไฟนั้น ใช้ร่วมกับอแดปเตอร์แปลงไฟ ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับ USB-C เหมือนในหลายๆ รุ่น เพราะไม่อย่างนั้น พอร์ตจะถูกจำกัด เมื่อชาร์จไฟอยู่ เราก็ยังใช้งานพอร์ตนี้ได้ ไม่เสียโอกาสในการใช้งาน



โดยการชาร์จไฟเข้าโน๊ตบุ๊ค จะใช้เป็นอแดปเตอร์ AC 3.42A, 65W เป็นที่ชาร์จขนาดกระทัดรัด พกพาสะดวก กับสายต่อที่ยาวประมาณ 1.5 เมตร ช่วยยืดระยะในการชาร์จได้มากยิ่งขึ้นกับการใช้งานในต่างสถานที่ มีปลั๊กไกลจากที่นั่ง ซึ่งอแดปเตอร์นี้น้ำหนักค่อนข้างเบา ทำให้พกพาไปใช้งานได้สะดวก น้ำหนักประมาณ 250 กรัมเท่านั้น

เรื่องของมิติคงต้องบอกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ อาจจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มโน๊ตบุ๊คบางเบาพิเศษ แต่อยู่ในกลุ่มของ Comfortable หรือกลุ่มที่พกพาสะดวก เนื่องจากมิติในจุดที่บางสุดเพียง 19.9mm เท่านั้น และจุดหนาสุดก็แทบไม่ต่างกันมาก เรียกว่าให้สมดุลที่ใกล้เคียงกัน


มาถึงน้ำหนักกันบ้าง กับการชั่งเฉพาะโน๊ตบุ๊ค MSI Modern 14 รุ่นนี้เพียงอย่างเดียว จะอยู่ที่ 1.53Kg. ใกล้เคียงกับที่เคลมเอาไว้ในเว็บไซต์ ส่วนอแดปเตอร์อยู่ที่ราว 250g. รวมๆ แล้วถ้าคุณจะพกพาไปใช้งานข้างนอกทั้งโน๊ตบุ๊คและที่ชาร์จรุ่นนี้ ก็ยังน้อยกว่า 1.8Kg. ใส่กระเป๋าเป้เอาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้สะดวก
Inside & Upgrade
ส่วนใหญ่เวลาเราที่เราจะเลือกโน๊ตบุ๊คกันสักรุ่นหนึ่ง ผมเชื่อว่าการอัพเกรด ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจที่จะเลือกใช้ แต่บางครั้งก็ต้องยอมรับว่า โน๊ตบุ๊คขนาดกระทัดรัดบางรุ่นก็จะมีข้อจำกัดในการเพิ่มเติมแรม หรือ SSD ในภายหลัง แต่สำหรับ MSI รุ่นนี้ ยังคงมีสล็อตแรมสำหรับการติดตั้งเพิ่มเติมได้ เพียงแต่จะเป็นการถอดโมดูลเก่าออก แล้วใส่แรมความจุสูงกว่าลงไป

จากเดิมให้มาที่ 16GB DDR4 แบ่งออกเป็น 2 สล็อต โมดูลละ 8GB ซึ่งคาดว่าน่าจะเพิ่มเติมได้มากกว่า 24GB (16+8GB) ได้ แต่ตรงนี้ให้เช็คจากผู้ขายอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ


ส่วน Storage เดิมติดตั้ง SSD M.2 PCIe 4.0 ความจุ 512GB มาให้ ซึ่งไม่มีสล็อตอื่น รวมถึงพอร์ต SATA ดังนั้นจะเพิ่มความจุได้ จากการเปลี่ยนโมดูล SSD เดิม ให้มีความจุเพิ่มขึ้นเท่านั้น ซึ่งความจุ 1TB น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีขึ้น กรณีที่มีข้อมูลจำนวนมาก หรือใช้เก็บข้อมูลด้วยในตัว

การแกะฝาหลังของตัวเครื่องทำได้ค่อนข้างง่าย ซึ่งตรงจุดนี้ดูเหมือน MSI ตั้งใจออกแบบมาให้ดูง่ายต่อการอัพเกรดของผู้ใช้ เพราะไขน็อตสกรู 10 ตัวเท่านั้น จากนั้นใช้การ์ดบางๆ แซะตามกรอบด้านข้าง เพื่อเปิดฝาออกมาได้ง่ายดาย ดูจะสะดวกกว่าในกลุ่มของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นที่จะมีความซับซ้อนพอสมควร

ด้านบนเป็นชุดระบายความร้อน ผมว่าเค้าให้พัดลมขนาดใหญ่มาแล้ว และยังได้ฮีตไปป์ทองแดงแบบคู่มาอีกด้วย จุดนี้ค่อนข้างหาได้ยากบนโน๊ตบุ๊คระดับเดียวกัน และด้วยซีพียู Intel Core i5-1335U นี้ มีค่า TDP ไม่สูง การระบายความร้อนลักษณะนี้ จึงให้ประสิทธิภาพได้ดี ลดความร้อนรวดเร็ว
Performance & Software


ขุมพลังที่อยู่ภายในโน๊ตบุ๊ค MSI Modern 14 F13MG-403TH รุ่นนี้ เป็นซีพียู Intel Core i5-1335U มาพร้อมกับแกนหลักในการประมวลผล 10 core (2 P-core และ 8 E-core) และมี 12 Thread ความเร็วสูงสุด 4.6GHz และ L3-cache 12MB ในแบบ Intel Smart Cache ค่าการใช้พลังงานอยู่ที่ 15W นับว่าเป็นซีพียูในกลุ่มประหยัดพลังงาน แต่ก็ให้ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป ออฟฟิศ การเรียนการศึกษาและคนที่ช่องท่องเน็ต แต่งภาพ ทำงานได้ดีพอตัว

กราฟิกที่เป็นแบบ Integrate มาบนซีพียู Intel Core i5 รุ่นนี้มาเป็น Intel Iris Xe Graphic มาพร้อม Shader 1280 ชุด และแชร์หน่วยความจำหลักในการขับเคลื่อน รองรับการทำงานด้านกราฟิกและการแสดงผล ต่อจอนอกระดับ 4K ได้ ประสิทธิภาพถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว

ตัวระบบติดตั้งหน่วยความจำ RAM ในแบบ DDR4 3200 มาให้ 16GB ซึ่งจะเป็น 8GB x2 และมีสล็อตมาให้มา 2 สล็อต ติดตั้งแรมมา 8GB หากต้องการอัพเกรดเพิ่มเติม จะต้องเป็นการถอดเปลี่ยนความจุที่มากกว่าเข้าไปแทน เป็นการยกระดับที่เปลี่ยนแปลงไปจาก MSI Modern เดิมที่เคยทดสอบมา เพราะก่อนหน้านั้นจะเป็นแบบออนบอร์ด บางรุ่นจะมีให้ 1 สล็อตเท่านั้น

ระบบ Storage มี SSD M.2 NVMe PCIe 4.0 จาก Samsung ความจุ 512GB เอาไว้ให้ ติดตั้งอยู่บนสล็อตเดี่ยวๆ และไม่มีสล็อตอื่นเพิ่มเติมมาด้วย ดังนั้นหากต้องการอัพเกรดต้องถอดเปลี่ยนเท่านั้น ซึ่งแนะนำความจุ 1TB เพื่อความคล่องตัวในการติดตั้งโปรแกรมและจัดเก็บข้อมูล นอกจากนี้ยังมี Cloud storage เอาไว้บริการอีกด้วย

โดยในการทดสอบเบื้องต้นจาก CPUz ทำคะแนนได้ดีในระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับซีพียูที่เป็นพีซีเดสก์ทอปอย่าง Intel Core i7 จะเห็นได้ว่า Multi-thread เป็นรอง ด้วยเพราะแกนหลักและสัญญาณนาฬิกาที่น้อยกว่า แต่ในงาน Single-thread ก็แซงหน้าไปอย่างชัดเจน แม้จะเป็นซีพียูโมบายก็ตาม

ในด้านระบบจัดเก็บข้อมูล SSD ที่ติดตั้งมาด้วยนี้ แสดงศักยภาพออกมาได้น่าประทับใจ เพราะให้อัตราการอ่านข้อมูลได้ถึง 5,000MB/s ซึ่งสูงมาก เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คในระดับเดียวกัน และการเขียนก็ยังแตะระดับ 3,000MB/s เลยทีเดียว รองรับการใช้งานทั้งการเปิดไฟล์ขนาดใหญ่ เก็บข้อมูล ติดตั้งโปรแกรม และการทำงานกับไฟล์เล็กๆ จำนวนมหาศาลได้เป็นอย่างดี

มากันที่ PCMark10 กันบ้างกับคะแนน Overall 5,066 คะแนน ซึ่งคะแนนในด้าน Essentials ยังคงเป็นตัวหลัก กับตัวเลขที่ไปได้กว่า 9,000 คะแนน ซึ่งหากเทียบกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มทำงานแบบเดียวกัน MSI Modern 14 รุ่นนี้ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี เป็นรอง Modern 15 AI ที่ใช้ Intel Core Ultra อยู่ไม่มาก ใครที่ทำงานด้านเอกสาร ท่องเว็บ ประชุมออนไลน์ ตอบโจทย์ได้ครบถ้วน
ส่วนคะแนน Digital Content Creation อยู่ในระดับใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง แต่จะไม่ได้เน้นงานหนัก 3D ซับซ้อนหรือโมเดลขนาดใหญ่ แต่ใช้กับงานตัดต่อพื้นฐาน แต่งภาพและเปิดพรีวิวโมเดลได้ไม่อึดอัด เพราะถ้าจะเน้นทำงานหนักในกลุ่มนั้น ทางเลือกกลุ่มเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหรือพีซีดูจะตอบโจทย์ได้เร็วกว่า

Geekbench 6.4 กับการทดสอบการทำงานของซีพียู บนพื้นฐานของซอฟต์แวร์ที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะมีทั้งแบบ Single core และ Multi core ไม่ว่าจะเป็นการเปิดภาพ เช็คอีเมล์ เล่นเพลงหรือท่องเว็บ ซึ่งตัวเลขที่ได้จัดอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่อาจจะเป็นรองซีพียูในกลุ่ม H series อยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มโน๊ตบุ๊คทำงานที่วางใจได้ เช่นเดียวกับการทดสอบ OpenCL ที่เป็นการทดสอบด้ากราฟิกคะแนนอยู่ที่ 11843

เพิ่มเติมในส่วนของการทดสอบ Geekbench AI 1.3.0 เข้าไปด้วย ตัวเลขที่ได้อาจจะไม่สูงนัก ถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ใช้ซีพียู Intel AI ก่อนหน้านี้ แต่ก็ต้องถือว่ามีการสื่อสารใช้งานร่วมกับประมวลผลร่วมกับโมเดลได้ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบ ONNX CPU หรือ OpenVINO ก็ตาม

มาสู่การทดสอบที่หนักหน่วงขึ้นด้วย CINEBench จากการทดสอบที่ผ่านมา ซีพียูในกลุ่ม U series หรือประหยัดพลังงาน มักจะไปไม่ค่อยได้สวยกับการทดสอบโหดๆ อย่างการเรนเดอร์ 3D Motion แบบนี้ แต่จากผลที่ได้ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำงานกับงานด้านนี้ได้ แต่ถ้าเป็นการทำงานหนักเช่นนี้ ก็อาจจะต้องใช้เวลาในการเรนเดอร์นานพอสมควร สำหรับโมเดลใหญ่ๆ อาจจะเหมาะกับงานพรีวิวเป็นหลัก ถ้าต้องการความเร็วที่เพิ่มขึ้น อาจจะต้องขยับไปพีซีหรือโน๊ตบุ๊คกลุ่มที่เป็นซีพียูระดับ H series ขึ้นไป

เช่นเดียวกับการทดสอบด้วย Blender benchmark คะแนนอยู่ในระดับเริ่มต้น ซึ่งเป็นแบบเดียวกับ Intel Core U series ในหลายๆ รุ่น แต่ก็ถือว่าทำคะแนนออกมาได้ในเกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากเป็นส่วนงานที่ค่อนข้างหนักสำหรับโน๊ตบุ๊คพื้นฐาน แต่ก็สามารถทำงานได้
ส่วนการทดสอบอื่นๆ ก็จะประกอบด้วยการทดสอบด้านเกมสามมิติ โดยมีกราฟิก Intel Iris Xe ซึ่งจัดว่าเป็นกราฟิกในระดับกลางที่ให้ประสิทธิภาพน่าสนใจแล้วสำหรับโน๊ตบุ๊คกลุ่มซีพียู Intel เวลานี้ เพราะถ้าขยับขึ้นไป จะเป็น Intel Arc บนซีพียู Intel Core Ultra นั่นเอง

กับการทดสอบแรกด้านของเกมสามมิติด้วย 3DMark รันจบทุกการทดสอบ ไม่ว่าจะเป็น Time Spy และ Fire Strike ซึ่งรวมถึงในหัวข้อ Extreme ของทั้งคู่อีกด้วย
ในการทดสอบ บนความละเอียด Full-HD ที่เป็น Native ของจอโน๊ตบุ๊คนี้ ทำคะแนน Graphic 1255 คะแนน ส่วน Time Spy Extreme อยู่ที่ 586 คะแนน ส่วนการทดสอบ Fire Strike และ Fire Strike Extreme คะแนนกราฟิกอยู่ที่ 4152 และ 1833 คะแนนตามลำดับ คะแนนค่อนข้างสูสีกับ Intel Graphic แต่ก็จัดว่าน้อยกว่า Intel Arc บน Intel Core Ultra รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้ต่างกัน
สำหรับพลังในการเล่นเกมนั้น แม้โน๊ตบุ๊คจะออกแบบมาเพื่อการทำงาน และความบันเทิง รวมถึงการพกพาเป็นหลัก แต่ก็มีแรงมากพอสำหรับการเล่นเกมที่ใช้ประสิทธิภาพการ์ดจอหนักๆ ได้พอสมควร ตัวอย่าง 3 เกมที่เราทดสอบในครั้งนี้

เริ่มจากเกมแนว MOBA อย่าง DOTA2 เราทดสอบบนความละเอียด 1080p ถ้าเล่นบนโหมด Fastest ซึ่งกราฟิกอาจจะไม่ได้ละเอียดสวยงาม แต่ก็เล่นได้คล่องตัว เพราะเฟรมเรตมีให้เห็นเกิน 60fps.++ แม้ช่วงที่มีการโจมตีหนักหรือเอฟเฟกต์จากเวทย์ของฮีโร่ ยังไหลลื่นได้ แต่ถ้าอยากจะให้ภาพสวยขึ้น สามารถปรับเป็น Medium ได้ แต่เฟรมเรตจะตกลงมาเกือบครึ่ง เฉลี่ยจะอยู่ที่ราวๆ 29-31fps.

ขยับมาที่เกมหนักๆ ดึงสเปคเครื่องขึ้นกับ Spider-Man Remastered ซึ่งดูจะเป็นงานหนักของกราฟิก Integrate เช่นนี้ แต่ก็ยังพอจะขับเคลื่อนไปได้ กับเฟรมเรตเฉลี่ยประมาณ 25-29fps. แต่ก็ต้องย้ำก่อนว่า เราแทบจะไม่ได้ปรับแต่ง Detail อื่นใดมากนัก ใช้เป็นค่า Default ที่ระบบตั้งมาให้ ก็ยังไหลไปได้ในระดับนี้ ซึ่งหากจูนอัพดีๆ ก็มีให้เห็นกว่า 30fps. ได้เช่นกัน
สุดท้ายกับเกม PUBG ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่หนักอยู่บ้างสำหรับคนรักเกมแนว Action เช่นนี้ กับกราฟิกเริ่มต้นระดับนี้ แต่ก็มีเซอร์ไพรซ์กับเฟรมเรตที่ไปได้มากกว่า 40fps. และบางครั้งขยับไปใกล้ๆ 60fps. ได้เลยบนโหมด Very Low ด้วยการปรับจูน Render scale ให้ลดลง ภาพอาจจะไม่ได้สวยหรู แต่ก็ยังดูได้เล่นสนุก เฟรมไม่สะดุดสาวกเกมนี้ เล่นเพลินๆ ฆ่าเวลาช่วงพักได้เลย

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของซอฟต์แวร์อย่าง MSI Center มาให้ใช้งานกันอีกด้วย โดยมาพร้อมฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ผู้ใช้ดูแล ปรับปรุงและรวมเอาการปรับแต่งต่างๆ ไว้ให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ ตั้งค่าเมื่อเปิดเครื่อง ปิดฝา จะเลือกให้ระบบทำงานอย่างไร หรือจะเปิด-ปิดแสงไฟคีย์บอร์ด และที่สำคัญเลือกโหมดการทำงานของเครื่องได้อีกด้วย กรณีต้องการพลังในการทำงาน แต่งภาพ ต่อต่อวีดีโอ เปิดใช้ Extreme Performance เพื่อเร่งความเร็วของซีพียู หรือโหมด Balanced ได้ประสิทธิภาพ แต่ก็อยู่ในระดับที่ซีพียูทำงานสอดคล้องกับอุณหภูมิ และ Eco-Silent โหมดนี้จะช่วยประหยัดพลังงาน เสียงรบกวนต่ำ ใช้เมื่อต้องการยืดระยะทำงาน หรืออยู่ในห้องที่ไม่ต้องการให้เสียงรบกวนผู้อื่น

นอกจากนี้ฟีเจอร์พิเศษเฉพาะที่จะเปิดให้ระบบจัดการสิ่งต่างๆ ให้เองอัตโนมัติอย่าง AI Engine เปิดใช้งานเพื่อลดความวุ่นวายให้การปรับแต่ง ไม่ว่าคุณจะใช้งานแบบใด AI นี้ จะช่วยคำนวณและปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับแอพพลิเคชั่นในช่วงเวลานั้นๆ ให้อัตโนมัติ
Battery, Heat and Noise
MSI Modern 14 รุ่นนี้ มาพร้อมแบตเตอรี่ 46.8WHr เป็นแบตลิเธียมโพลิเมอร์ ซึ่งจัดอยู่ในระดับค่อนข้างใหญ่ สำหรับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มใช้งานทั่วไปเช่นนี้ และก็เพียงพอต่อการนำไปใช้งานข้างนอกได้ในระดับหนึ่ง ที่สำคัญยังทำให้น้ำหนักค่อนข้างเบา จึงพกพาไปใช้ยังที่ต่างๆ ได้สะดวก ไม่ทำให้ตัวเครื่องหนักจนเกินไป

โดยในการทดสอบเราใช้การสตรีมมิ่งวีดีโอ ด้วยการเปิด Youtube และดูคอนเทนต์แบบ Full screen เปิดต่อเนื่อง จำลองสถานการณ์กับการใช้งานจริง โดยเปิดความสว่างหน้าจอไว้ที่ 1/4 ของความสว่างสูงสุด เช่นเดียวกับเสียงอยู่ที่ราว 25% และใช้โปรแกรม BatteryMon ในการทดสอบ เมื่อชมวีดีโอต่อเนื่องเป็นเวลา 20 นาที ระบบแจ้งว่า Discharge Rate ช่วงเวลาทำงานจะใช้ต่อเนื่องได้แบบไม่ต่อสายชาร์จอยู่ที่ราว 5.3 ชั่วโมงเลยทีเดียว นับว่าเป็นระยะที่ค่อนข้างดีเหมาะกับสายเดินทาง


แต่ในกรณีที่ต้องเดินทางไกลหรือไม่แน่ใจว่าช่วงเวลาที่ออกไปนั้น จะต้องทำงานหนัก หรือต้องการใช้พลังประมวลผลที่สูง เช่น ตัดต่อวีดีโอ แต่งภาพ เรนเดอร์งาน จะพกอแดปเตอร์ก็เป็นแนวทางที่ทำได้สะดวก เพราะที่ชาร์จนั้นขนาดเล็กแค่ฝ่ามือเท่านั้น น้ำหนักก็ประมาณ 250 กรัมเท่านั้น จึงนำติดกระเป๋าไปได้แบบไม่เป็นภาระ

อุณหภูมิในการทำงาน แทบจะไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มโมบายพกพาหรือกลุ่มซีพียู Intel U series เนื่องจากค่า TDP ไม่สูง และเทคโนโลยีพัดลมและการระบายความร้อน ส่วนใหญ่ทำได้ดีอยู่แล้ว อย่างการทดสอบของเรากับ MSI Modern 14 รุ่นนี้ ก็ไม่ได้เบามือเช่นกัน ด้วยการใช้ FURMark CPU Burner รันซีพียูแบบ Full load 100% จำลองการทำงานในแบบโหดๆ หรือในสภาวะที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่แย่แบบในบ้านเรา
ซึ่งผลทดสอบอุณภูมิไปแตะสูงสุดในช่วงพีคสั้นๆ ประมาณ 96 องศาเซลเซียส และลดลงมาด้วยสเตปของซีพียูที่จัดการเรื่องระบบพลังงานเหลือเพียง 82 องศาเซลเซียสเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงการทำงานที่รวดเร็วของเซ็นเซอร์และซีพียูที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้

ซึ่งถ้าดูจากระบบการระบายความร้อนภายในตัวเครื่องนั้น ก็ยิ่งสบายใจได้ นั่นก็เพราะนอกจากจะมีฮีตไปป์ทองแดง 2 เส้นขนาดใหญ่พาดผ่านเพื่อนำพาความร้อนมาจากเพลตไซส์บิ๊กบนซีพียูได้เร็วแล้ว ยังมีพัดลมที่ใหญ่ไม่แพ้กันช่วยลดอุณหภูมิที่ไหลมายังครีบระบายความร้อน และไล่ลมร้อนออกจากช่องด้านหลังได้โดยตรงอีกด้วย ออกแบบมาเป็นระบบดูลงตัว




เรื่องอุณหภูมิเรียกได้ว่า ไม่ต้องอาศัยบรรดา Cooling Pad หรือชุดระบายความร้อนเสริมอื่นๆ แต่อย่างใด ยกเว้นแต่ว่าถ้าคุณต้องการให้เย็นมากขึ้น หรือจำเป็นจะต้องรับโหลดต่อเนื่องทั้งวัน การลดความร้อนได้เร็ว ก็เป็นทางที่ดี เพราะจะทำให้ซีพียูรันโหลดหนักๆ ต่อเนื่องได้ดีขึ้น
User Experience
MSI Modern 14 F13MG-403TH จากตระกูล Modern Series จัดเป็นโน๊ตบุ๊คที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel Core i5-1335U และพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในกลุ่มโน๊ตบุ๊คราคาประหยัด ดีไซน์เรียบง่ายแต่ทันสมัย ตัวเครื่องบางเพียง 19.9 มม. และน้ำหนัก 1.5 กก. เท่านั้น พกพาใส่กระเป๋าได้สบาย วัสดุแข็งแรงผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H การที่กางจอได้ 180 องศา เป็นอะไรที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้นเยอะ เหมาะสำหรับทำงานเอกสาร ดูหนัง หรือนำเสนองาน ฟีเจอร์ Flip & Share (กด F12) หมุนหน้าจอได้ทันที
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ การให้คีย์บอร์ดปุ่มขนาดกำลังพอเหมาะ พิมพ์สัมผัสก็สะดวก แสงไฟ Backlit ปรับได้ 3 ระดับ ปุ่มฟังก์ชันก็มีมาครบครัน กับทัชแพดขนาดใหญ่ รองรับมัลติทัชและการคลิกที่แม่นยำ
ขับเคลื่อนด้วย Intel Core i5-1335U (10 คอร์, 12 เธรด, สูงสุด 4.6GHz) และกราฟิก Intel Iris Xe รองรับงานทั่วไป เช่น ท่องเว็บ แต่งภาพ หรือตัดต่อวิดีโอพื้นฐาน RAM 16GB DDR4 และ SSD M.2 PCIe 4.0 ความจุ 512GB ให้ความเร็วในการอ่าน/เขียนสูงถึง 5,000/3,000 MB/s
พอร์ตครบครันทั้ง USB-C (รองรับชาร์จและ DisplayPort), USB-A 3.2 Gen1 สี่ช่อง, HDMI, MicroSD, RJ45 และช่องหูฟัง 3.5 มม. รองรับ Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3 เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว แบตเตอรี่ 46.8WHr ใช้งานสตรีมวิดีโอได้นาน 5.4 ชั่วโมง อะแดปเตอร์ 65W ขนาดเล็กน้ำหนักเบา พกพาง่าย
เหมาะกับการเป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะกับนักศึกษา พนักงานออฟฟิศ หรือฟรีแลนซ์ที่ต้องการเครื่องทำงานพกพาง่ายในงบประมาณไม่สูง ด้วยดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา และประสิทธิภาพที่ครอบคลุมงานทั่วไป เช่น งานเอกสาร การประชุมออนไลน์ หรือความบันเทิงพื้นฐาน หากคุณมองหาโน๊ตบุ๊คที่ผสมผสานความคุ้มค่าและความคล่องตัว รุ่นนี้คือตัวเลือกที่น่าสนใจในปี 2025















Conclusion
MSI Modern 14 F13MG-403TH คือโน๊ตบุ๊คที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่มองหาความคุ้มค่าในงบประมาณจำกัด ด้วยราคา 16,490 บาท เครื่องที่บางเบา พกพาสะดวก และมีขุมพลังอย่าง Intel Core i5-1335U ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับงานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์ การทำงานเอกสาร หรือการประชุมผ่านวิดีโอคอล พอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันและคีย์บอร์ด Backlit เป็นจุดเด่นที่ทำให้รุ่นนี้เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา และพนักงานออฟฟิศที่ต้องเดินทางบ่อยๆ
สำหรับผู้ที่เน้นความสมดุลระหว่างราคา ประสิทธิภาพ และความสะดวกในการพกพา MSI Modern 14 F13MG-403TH คือตัวเลือกที่คุ้มค่าและน่าสนใจ สำหรับโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ MSI ก็จัดเต็มมาให้ นอกจาก Windows 11 Home มาตรฐาน รวมถึง Microsoft Office Home and Student 2024 และกระเป๋าโน๊ตบุ๊คสวยๆ มาพร้อมใช้อีกด้วย
ให้การรับประกัน 2 ปี (1 ปี Global และ 1 ปีในไทย)
Award

MSI Modern 14 F13MG-403TH เป็นโน๊ตบุ๊คที่มาในไซส์กระทัดรัด มิติแทบไม่ต่างจากโน๊ตบุ๊ค 13.3″ แถมน้ำหนักไม่ถึง 1.8Kg. เมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จแล้ว จึงพกพาสะดวก หน้าจอกางได้ 180 องศา พร้อมฟีเจอร์ Flip & Share แบตใช้ได้นานกว่า 5 ชั่วโมง พร้อมใช้ในทุกโอกาส จึงคว้ารางวัลความสะดวกในการพกพาและใช้งานง่ายนี้ไป

คุ้มค่าน่าใช้ เพราะได้ทั้งซีพียูระดับ Intel Core i5-1335U มาพร้อมแรม 16GB ใช้งานได้ลื่นๆ เปิดเครื่องใช้งานได้ทันที เพราะมี Windows 11 Home และ Microsoft Office มาให้ใช้ด้วยแล้ว พอร์ตยังจัดมาให้ครบจบในตัว กับคีย์บอร์ดไฟ Backlit หาได้ยากบนโน๊ตบุ๊คระดับราคาเดียวกันนี้ กับราคาแค่ 16,490 บาทเท่านั้น
