10 วิธีแก้ปัญหาอากาศร้อน คอมร้อน ให้คอเกมและคนทำงานอัพเดต 2025
ปีนี้แค่ปลายมีนาคม ก็ว่าร้อนแล้ว มาต้นเมษายนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ใครที่ใช้คอมหนักช่วงนี้ นี่คือ 10 วิธีรับมืออากาศร้อน คอมร้อน 2025 ทำให้คอมเย็น เล่นเกมได้ทั้งวัน ถ้าไม่มีเครื่องปรับอากาศ อาจจะเจอกับอาการคอมกระตุก คอมดับ หรือจอฟ้าได้ ถ้าระบายความร้อนไม่ดี ใครที่เจออาการแบบนี้ เรามาหาวิธีดับร้อนกันดีกว่าครับ
แก้ปัญหาคอมร้อน ฤดูร้อน 2025
- ทำความสะอาดภายใน ให้ฮาร์ดแวร์ทำงานได้ดีขึ้น
- เปลี่ยนซิลิโคนซีพียูบ้าง
- เพิ่มการไหลเวียนอากาศภายในเครื่อง
- เพิ่มหรือเปลี่ยนพัดลมเคส เพิ่มลมลดร้อน
- อยากเปิดฝาข้างก็ทำได้ แต่ให้ระวัง
- ปรับรอบพัดลมให้เหมาะสม
- เปลี่ยนฮีตซิงก์ หรือใช้เป็นชุดน้ำปิดดีมั้ย
- พัดลมไอเย็น vs แอร์เคลื่อนที่?
- หาจุดวางคอมที่เหมาะสม
- ปรับค่าการใช้พลังงานของซีพียู
1.ทำความสะอาดภายใน ให้ฮาร์ดแวร์ทำงานได้ดีขึ้น
ง่ายสุดๆ ชั่วโมงนี้ ทำได้ทุกวัน นั่นคือการทำความสะอาด ปัดฝุ่น เป่าสิ่งสกปรกภายในเคสบ้าง วิธีการก็แสนง่าย แค่เปิดฝาเคส แล้วใช้ลมจากเครื่องเป่าลมมือถือก็ได้ เป่าให้ฝุ่นกระจายออกไป แต่ออกไปทำนอกบ้านนะ เด๋วจะโดนแม่ตี
มี 2 ส่วนที่ต้องจัดการ ส่วนแรกก็คือ ฝุ่นและสิ่งสกปรกภายในเมนบอร์ด การ์ดจอ จุดติดตั้งฮาร์ดดิสก์ และพื้นที่โดยรอบ สิ่งที่สำคัญคือ ตรงส่วนที่เป็นพัดลม ให้ใช้นิ้วจับ หรือหาอะไรมายึดไม่ให้พัดลมหมุนไปตามแรงลม เพราะอาจเกิดความเสียหายได้ วิธีนี้คุณจะใช้การเป่าทั้งเคส แบบไม่ต้องแกะบรรดาอุปกรณ์ออกมาก็ได้ แต่ถ้าจะทำความสะอาดแบบเก็บรายละเอียด การแกะออกมาก็ช่วยให้งานง่ายขึ้น เพราะจะเช็ด ปัด ถู ก็สะดวกกว่าเยอะ
เมื่อปัดฝุ่นไปแล้ว ถ้ามีงบประมาณอีกหน่อย ให้หาซื้อสิ่งที่เรียกว่า Contact Cleaner ราคาประมาณร้อยกว่าบาท สิ่งนี้จะใช้ในการทำความสะอาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ทิ้งคราบ ฉีดพ่นลงไปที่เมนบอร์ด การ์ดจอ และส่วนอื่นๆ ได้เลย ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วประกอบกลับไปเหมือนเดิม เพื่อเปิดใช้งาน
จุดที่ต้องเน้นเป็นพิเศษก็คือ บริเวณพัดลม อาจจะต้องเช็คให้ดีว่า มีฝุ่น หยักไย่หรือใบพัดยังทำงานได้ปกติ ไม่หัก แกนหมุนไม่ฝืด หากมีอาการผิดปกติ ควรแก้ไขให้เรียบร้อย การดูแลเครื่องให้สะอาดเป็นกุญแจสำคัญในปี 2025 ฝุ่นที่สะสมในพัดลมและฮีตซิงก์ทำให้ระบายความร้อนแย่ลง ควรเป่าฝุ่นด้วยลมอัดทุก 3-6 เดือน การเปลี่ยน thermal paste ทุก 1-2 ปีก็ช่วยให้ความร้อนถ่ายเทดีขึ้น
2.เปลี่ยนซิลิโคนซีพียูบ้าง
หลังจากปัดฝุ่นแล้ว ถ้าจะให้ดี เคลียร์กันปีละครั้ง กับการเปลี่ยนซิลิโคนระบายความร้อน โดยทั่วไปที่เราจะเจอเรื่องความร้อนมี 2 ส่วนคือ ฮีตซิงก์ซีพียู และการ์ดจอ แต่ถ้าการ์ดจอยังทำงานได้ดี และยังอยู่ในประกัน ก็ไม่แนะนำให้แกะฮีตซิงก์ออกมาครับ
ดังนั้นให้โฟกัสไปที่ปลี่ยนซิลิโคนของซีพียูเป็นหลัก เริ่มต้นให้มองหาซิลิโคนหลอดคุณภาพ เลือกตามงบประมาณได้เลย มีตั้งแต่เกรดทั่วไปหลักร้อย ไปจนถึงพรีเมียมหลักพันบาท แต่ควรจะไม่นำไฟฟ้า หรือว่าไหลเยิ้ม เพื่อป้องกันการไหลลงเมนบอร์ดและซ็อกเก็ตซีพียู
เทคนิคการทาซิลิโคนให้ได้ผลดี ไม่ว่าคุณจะเลือกซิลิโคนตัวไหน การทาก็สำคัญไม่แพ้กัน ลองทำตามนี้:
- ปริมาณ: ใช้เท่าเมล็ดถั่วเขียวสำหรับซีพียู หรือทาเป็นเส้นบางๆ สำหรับการ์ดจอ อย่าใส่เยอะเกินไป
- วิธีทา: วางตรงกลางแล้วกดฮีตซิงก์ลงไปให้มันกระจายเอง หรือใช้ไม้พายทาให้ทั่วถ้าชิปใหญ่
- ทำความสะอาด: ใช้แอลกอฮอล์ 99% เช็ดของเก่าออกให้หมดก่อนทาใหม่
- เช็คผล: หลังทาแล้ว รันโปรแกรมเช็คอุณหภูมิอย่าง HWMonitor ดูว่าลดลงแค่ไหน
จากวีดีโอนี้ แกะฮีตซิงก์ออกมา เช็ดทำความสะอาดหน้าสัมผัสของซีพียู และหน้าสัมผัสของฮีตซิงก์ จากนั้นป้ายซิลิโคนลงไป จะหยดเป็นจุดๆ ตามมุม หรือจะป้ายลงกลางซีพียู แล้วหาแผ่นมาปาด หรือจะกดฮีตซิงก์ลงไปตรงๆ ให้ซิลิโคนกระจายออก ก็เลือกใช้งานได้หมดครับ เมื่อติดตั้งฮีตซิงก์กลับลงไปใหม่ อย่าลืมเช็คว่าตัวล็อคแน่นหนาดี ขยับแล้วไม่เคลื่อน หรือหลวมก็เป็นอันใช้ได้ และอย่าลืมต่อสาย CPU Fan ลงบนเมนบอร์ด
ประเภทของซิลิโคนระบายความร้อน
- ซิลิโคนแบบเซรามิก (Ceramic-Based): เป็นตัวเลือกยอดนิยม ราคาไม่แพง ไม่นำไฟฟ้า ปลอดภัยต่อชิ้นส่วน เช่น Arctic MX-6 ที่อัปเกรดมาให้ถ่ายเทความร้อนดีขึ้น 20% จากรุ่นก่อน
- ซิลิโคนแบบโลหะ (Metal-Based): เช่น Thermal Grizzly Conductonaut ที่ใช้โลหะเหลว มีค่าการนำความร้อนสูงถึง 73 W/mK เหมาะกับการโอเวอร์คล็อก แต่ต้องระวังเพราะนำไฟฟ้าได้
- ซิลิโคนแบบคาร์บอน (Carbon-Based): เช่น Noctua NT-H2 ผสมอนุภาคคาร์บอน ทนทาน ไม่นำไฟฟ้า เหมาะกับการใช้งานทั่วไปและระยะยาว
- ซิลิโคนไฮบริด (Hybrid): รุ่นใหม่ในปี 2025 ที่ผสมข้อดีของหลายแบบ เช่น Cooler Master CryoFuze 5 ที่ทั้งนำความร้อนดีและทาได้ง่าย
ตัวอย่างของซิลิโคนนำพาความร้อนที่น่าสนใจ
- Thermal Grizzly Conductonaut: โลหะเหลวที่ระบายความร้อนได้สุดยอด ลดอุณหภูมิได้ถึง 10 องศาเมื่อเทียบกับแบบธรรมดา แต่ต้องทาด้วยความระวัง
- Arctic MX-6: ใช้ได้ทั้งซีพียูและการ์ดจอ ความหนืดเหมาะสม ไม่ไหลเยิ้ม
- Corsair XTM70: รุ่นใหม่ในปี 2025 ที่ออกแบบมาสำหรับ GPU โดยเฉพาะ ทาได้บางและสม่ำเสมอ
- Prolimatech PK-3 Nano Aluminum: ไม่นำไฟฟ้า เหมาะกับซีพียูและการ์ดจอที่ต้องถอดประกอบบ่อย
3.เพิ่มการไหลเวียนอากาศภายในเครื่อง
จัดทิศทางลมให้ดี ด้วยการใช้พัดลมเคสในการระบายความร้อน วิธีการนี้ช่วยได้ค่อนข้างเยอะทีเดียว เพราะคุณจะสามารถนำลมเย็นเข้ามาได้มาก และไล่ความร้อนออกจากเคสได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งวิธีการมีหลากหลายเลยครับ แต่หลายคนมักจะใช้แนวทางลมเข้าเท่ากับลมออก
วิธีการคือ การจัดทางลมเข้า และลมออกให้สมดุลกัน เช่น มีพัดลมเข้าทางด้านหน้า ดูดลมเย็นเข้ามา ช่วยระบายความร้อนภายใน โดยอาจจะติดตั้งพัดลมด้านหน้าเคส 3 ตัว และใช้พัดลมด้านหลัง 1 ตัว ด้านบนอีก 2 ตัว เพื่อดึงลมร้อนออกไป หลักการพื้นฐานของ Positive/Negative Pressure Airflow และการจัดวางพัดลมดูดเข้า (Intake) และเป่าออก (Exhaust) ที่เหมาะสม เช่น พัดลมหน้าเคสดูดเข้า, พัดลมหลังและบนเป่าออก
วิธีนี้ขึ้นอยู่กับเคสคอมของแต่ละคน บางเคสติดพัดลมได้เฉพาะด้านหลัง ก็อาจใช้วิธีติดพัดลมด้านล่างเคส เพื่อช่วยดึงลมร้อน
หรือบางรายอาจจะใข้พัดลมด้านบนดึงลมเย็นเข้ามา แล้วใช้พัดลมด้านหน้า ช่วยในการดึงลมร้อนออกได้เช่นกัน แต่ที่ควรใส่ใจก็คือ การลดสิ่งกีดขวางภายในตัวเคส เช่น สายต่อสัญญาณ สายไฟ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ไปขวางช่องทางของลม หรือทำให้ไม่ไปไหลเวียนสู่อุปกรณ์ต่างๆ ด้วยวิธีการซ่อนสายหรือเปลี่ยนเป็นแบบที่มีขนาดเล็กลง เมื่อลมเย็นภายนอก ไหลเข้ามาในเคส และผ่านไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ได้ดีแล้ว ก็จะช่วยให้ความร้อนสะสมลดลงได้
4.เพิ่มหรือเปลี่ยนพัดลมเคส เพิ่มลมลดร้อน
เป็นไปได้เพิ่มพัดลมเคสเถอะ ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ลองนึกภาพว่า ถ้าพัดลมเคสของคุณมีอย่างละตัว หน้า-หลัง แล้วหมุนแค่หลักน้อย RPM. บางครั้งไม่ตอบโจทย์กับการเป่าลมเย็นเข้าหรือดึงความร้อนภายในเคสได้อย่างรวดเร็ว
ความร้อนสะสมภายใน ก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น เมื่อระบายได้ช้า ฮีตซิงก์พัดลมก็ทำงานหนัก การ์ดจอก็หนัก พอไม่ไหว ก็กระตุก แฮงก์หรือจอฟ้าได้ตามอาการ แบบนี้ถ้าคุณยังพอมีพื้นที่ติดตั้งพัดลม ก็ให้ซื้อมาติดตั้งเพิ่ม หรือถ้าไม่มีที่ติดแล้ว ก็เลือกพัดลมตัวใหม่ มาเปลี่ยนตัวเก่าออกไป ปัจจุบันมีตัวเลือกที่เป็นพัดลมที่สามารถดันปริมาณลมเข้ามากๆ ได้ แต่ดีไซน์ใบพัดให้มีเสียงรบกวนต่ำ ทำให้ไม่เกิดความรำคาญแม้จะทำงานที่รอบสูงก็ตาม
วิธีการสังเกตและเลือกพัดลมมาติดเคส ประกอบด้วยขนาด จะติดตั้งลงในเคสเราได้มั้ย, RPM หรือรอบการทำงาน ยิ่งรอบมากยิ่งดี แต่เสียงรบกวนจะเยอะ ให้ดูประกอบไปกับ CFM หรืออัตราของปริมาณลมควบคู่กันไป ตัวเลขเยอะยิ่งดี และอย่าลืมดูเรื่องเสียงเป็นค่า dBA หรือเดซิเบล อันนี้ตัวเลขยิ่งมาก ก็จะยิ่งเสียงดัง ในรอบสูงๆ
5.อยากเปิดฝาข้างก็ทำได้ แต่ให้ระวัง
เปิดฝาเคสอาจช่วยลดคอมร้อนได้บ้าง แต่ถ้าคุณจัดโฟลว์ของลมเข้าออกได้ดีอยู่แล้ว ก็ไม่แนะนำให้เปิดฝาเคส เพราะจะทำให้การไหลเวียนลมผิดเพี้ยนไป แทนที่จะเย็นลง อาจจะร้อนขึ้นก็ได้ แต่ถ้าให้ดี ถ้าคุณเลือกจะเปิดเคสทั้งที แนะนำว่าจัดพัดลมบ้านๆ เป่าจ่อไปด้วยเลยจะได้คุ้มกับการเปิดครับ
การเปิดฝาเคสก็มีเรื่องต้องระวังเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฝุ่น สิ่งสกปรก จะเข้าไปยังชิ้นส่วนต่างๆ ได้ง่ายมาก เช่นเดียวกับแมลง สัตว์ และอื่นๆ ซึ่งเป็นอันตราย เช่น จิ้งจก หนู แมลงสาบหรือ แมวเดินมาฉี่ อะไรแบบนี้ มีแต่พังกับพัง ดังนั้นต้องระวัง แต่ถ้าคุณไม่ซีเรียส เรียกว่าเปิดฝาแค่ช่วงที่ใช้ เมื่อเล่นเกมหรือทำงานเสร็จ ก็ปิดฝากลับไป แบบนี้ก็ช่วยได้เยอะทีเดียว แต่ส่วนใหญ่เป็นไงครับ ลืมน่ะสิ!
6.ปรับรอบพัดลมให้เหมาะสม
อย่าลืมตั้งค่ารอบพัดลมให้สุดๆ ถ้าคิดว่าจะเล่นเกมหรือทำงานหนัก ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความร้อนได้พอสมควร ไม่ต้องไปเสียดายครับ กลัวว่าพัดลมจะพังไปก่อน เพราะคุณสามารถหามาเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ราคาแค่หลักร้อยเริ่มต้น ไปจนถึงหลักพันถ้าแบบดีๆ
เพราะถ้ามองว่าไม่อยากให้ซีพียูมาเสี่ยงเวลาที่ต้องทำงานหนักๆ แล้วอุณหภูมิภายในเครื่องไปแตะหลัก 80-90 องศาเซลเซียส หรือเวลาเล่นเกมแล้วการ์ดจอทำงานหนัก การกำจัดความร้อนสะสมในเคสได้ดี แลกมากับพัดลมเคสที่ทำงานหนัก เสียงดัง ผมว่าคุ้มครับ พัดลมเสียเปลี่ยนได้ ราคาถูก แต่ซีพียู การ์ดจอแพงกว่าเยอะ แต่อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ คุณเลือกพัดลมเคสดีๆ ได้รอบที่เร็ว กินลมได้เยอะ แต่เสียงเบา จ่ายแพงหน่อย แต่ก็คุ้มค่าครับ
7.เปลี่ยนฮีตซิงก์ หรือใช้เป็นชุดน้ำปิดดีมั้ย
หลังจากที่คุณลองทำทุกอย่างที่ว่ามาแล้ว แต่ซีพียูก็ยังร้อน คอมร้อน การ์ดจอก็จะไม่ไหว แนะนำว่าลองเปลี่ยนฮีตซิงก์ใหม่ ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ดีขึ้น เพราะบางคนใช้งานฮีตซิงก์ Stock ที่มีมาในกล่องของซีพียู แต่พอใช้ไปนานๆ พัดลมเริ่มล้า ฝุ่นสิ่งสกปรกเต็มแกนมอเตอร์หมุนแทบไม่ไปแล้ว การเปลี่ยนมาใช้พัดลมที่ซื้อแยก ดูจะเป็นทางออกที่ดี ปัจจุบันก็มีพัดลมแนวทาวเวอร์ที่ให้คุณภาพที่ดี ราคาย่อมเยาให้เลือกเยอะ เบื้องต้นให้ดูจากมิติ ครีบระบายความร้อนขนาดใหญ่ มีฮีตไปป์จำนวนมาก และหน้าสัมผัสทองแดงก็ได้ ราคาเริ่มต้นหลักร้อยปลายๆ
แต่สิ่งที่อยากให้สังเกตก็คือ เช็คให้ดีว่าฮีตซิงก์รุ่นนั้นๆ รองรับการใช้ร่วมกับซีพียูระดับกี่วัตต์ โดยดูจากสเปค และค่า TDP ของซีพียูในหน้าสเปกได้เลย เลือกเผื่อเอาไว้ ควรดูที่ค่า Peak หรือช่วงที่ซีพียูโหลดหนักๆ จะได้มั่นใจว่าเมื่อใช้งานจริง จะระบายความร้อนได้เต็มที่มากขึ้น
หรือถ้าคุณพอจะมีงบประมาณมากขึ้นอีกหน่อย ทางเลือกอย่างชุดน้ำปิด Liquid Cooling 2-3 ตอน ราคาเริ่ม 2 พันกว่าบาทก็น่าสนใจ หาซื้อง่าย มีให้เลือกเยอะในท้องตลาด
ยิ่งในปัจจุบันติดตั้งง่าย มีคู่มือและชิ้นส่วนไม่มาก ประกอบไม่กี่ขั้นตอนก็เสร็จ เรื่องของการเลือกใช้ก็ไม่ซับซ้อน มีตั้งแต่เพลตและปั้มน้ำ ที่ให้หน้าสัมผัสขนาดใหญ่ ควรจะต้องครอบคลุมซีพียูที่ใช้ได้เต็มที่ มีรอบการไหลของน้ำได้รวดเร็ว เพื่อให้การนำพาความร้อนไปยัง Radiator ไวขึ้น สายหรือท่อยาง มีทั้งแบบธรรมดา สายถัก สายหุ้ม ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบแบบใด และงบประมาณมากน้อยแค่ไหน ระยะของท่อมีส่วนสำคัญ เพราะน้ำจะไหลเวียนได้เร็ว และควรจะต้องบิดงอได้พอสมควร เพื่อความยืดหยุ่นเวลาที่ติดตั้งภายในเคสได้ดี
Radiator ควรมีคุณภาพสูง ครีบระบายที่มีความละเอียด เพิ่มการกระจายความร้อนออกไปจากตัวได้ไว โดยมีพัดลมขนาดใหญ่ ช่วยดันความร้อนออกไปจากตัวเคส ส่วนแสงไฟ RGB หรือการแสดงผลหน้าจอบนปั้ม ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ แต่ก็ต้องย้ำว่าสิ่งที่เพิ่มมาเหล่านี้ก็ทำให้คุณจะต้องจ่ายเพิ่มอีกไม่น้อยเช่นกัน สุดท้ายคือการรับประกัน เลือกแบบที่มั่นใจได้ มีการประกันที่ดี Service รวดเร็ว ในบ้านเรามีหลายค่ายน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Thermaltake, Corsair, DeepCool, CoolerMaster และยังค่ายอื่นๆ อีกมากมาย
8.พัดลมไอเย็น vs แอร์เคลื่อนที่?
พัดลมไอเย็น เป่าคน แอร์เคลื่อนที่เป่าคอมร้อน หลายคนก็ไม่มีทางเลือกนักครับ เพราะจะเปลี่ยนซิงก์เองก็ไม่สะดวก จะแกะมาทาซิลิโคนใหม่ ก็ไม่ได้ง่ายสำหรับคนที่ไม่ได้มีทักษะทางนี้ อย่าว่าแต่ทำสิ่งยากๆ นี้เลย แกะฝาเคสก็ยังไม่เคย ก็สามารถใช้ของใกล้ตัวให้เป็นประโยชน์ อย่างเช่น การใช้พัดลมที่หลายคนนิยมใช้กันหน้าร้อน อย่างพัดลมไอเย็น และแอร์เคลื่อนที่ 2 สิ่งนี้ก็พอช่วยให้คุณลดความร้อนให้คอมได้ และใช้งานได้ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ดี มีข้อสังเกตและควรระวังในการใช้งาน
พัดลมไอเย็น ค่าใช้จ่ายน้อย ใช้งานไม่ยุ่งยาก แต่ก็เหมาะกับการเป่าคนมากกว่าเป่าเข้าเครื่อง เพราะจากกระบวนการที่จะมีไอน้ำเกิดขึ้น จากการทำละลายของน้ำแข็งที่ใส่ไว้ภายใน อาจทำความเสียหายให้กับคอมได้ ถ้าไม่ระวัง แนะนำว่าให้เป่าเข้าหาตัวคนใช้ ปลอดภัยกว่า
แต่แอร์เคลื่อนที่ สามารถใช้ในห้องขนาดเล็กหรือเตนท์ควบคุมการเข้าออกของลมได้ เหมือนกับการทำงานของเครื่องปรับอากาศ จึงให้ความเย็นได้ทั้งคนและคอม เหมาะกับการใช้งานมากๆ เพียงแต่ว่า ราคาค่อนข้างสูง และคุณควรจะมีการจัดเตรียมห้องในการใช้ เพราะเมื่อคอมเพรซเซอร์ทำงานหนัก ก็จะกินไฟมากด้วยเช่นกัน บางครั้งหนักกว่าการใช้แอร์ปกติ และราคาสูงกว่าพัดลมไอเย็นพอสมควร ดังนั้นควรจะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมในช่วงอากาศร้อนๆ เช่นนี้
9.หาจุดวางคอมที่เหมาะสม
หาโลเคชั่นวางเคสดีๆ หน่อย อย่าวางคอมใกล้กับแหล่งที่เกิดความร้อน เช่น ใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีพลังไฟสูง บางบ้านก็วางใกล้กระจกหน้าต่าง แต่ก็อาจจะมีแย้งมาว่า ก็มีผ้าม่านแล้วไง จริงครับ บางคนติดม่านกันแดด แต่พัดลมด้านหลังด้านดูดม่านมาติดอีกที ลมไม่มีเข้าเคสเลย หรือบางครั้งเราชอบจัดโต๊ะคอม ผมเองก็ชอบ วางต้นไม้ตรงนั้น วางนาฬิกาตรงนี้ มีโคมไฟ แท่นชาร์จ กล่องอาร์ตทอยบนเครื่อง ปรากฏว่าปิดทางลมเข้าออกเคสคอมไปเรียบร้อย แต่งได้ครับ แต่ตรวจเช็คบ้างก็ดี
10.ปรับค่าการใช้พลังงานของซีพียู
อากาศร้อนแบบนี้ บางทีลองใช้ซอฟต์แวร์ในการปรับแต่งเพื่อลดความร้อนภายในเคสคอมช่วยดูได้ ปัจจุบันเมนบอร์ดเกือบทุกรุ่นปับแต่งได้ จับปรับได้มากน้อย อยู่ที่ชิปเซ็ตและรูปแบบของเมนบอร์ด เช่น เมนบอร์ดที่รองรับการโอเวอร์คล็อก ก็จะปรับจูนรายละเอียดฮาร์ดแวร์ได้มากขึ้น แต่กลุ่มเริ่มต้น ก็อาจจะปรับได้เล็กน้อย พอให้ใช้งานได้
แต่รุ่นที่ออกมาใหม่ และเป็นชิปเซ็ตกลางๆ ขึ้นไป มักจะให้การปรับแต่งได้เยอะ ตั้งแต่ ซีพียู แรม การ์ดจอ และกราฟิก เพิ่ม Clock เพิ่มแรงดันไฟ ซึ่งส่วนนี้ก็นำมาใช้ประโยชน์ในการปรับลดความร้อนได้เช่นกัน โปรแกรมอย่าง Intel XTU หรือ MSI Afterburner ช่วยเช็คอุณหภูมิและปรับรอบพัดลมได้แบบเรียลไทม์ บางรุ่นใช้ AI วิเคราะห์ workload แล้วสั่งการระบบระบายความร้อนให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ
โดยเฉพาะการ Undervolting CPU และ GPU ซึ่งเป็นการลดแรงดันไฟฟ้าที่จ่ายให้กับชิป ทำให้ความร้อนลดลงโดยอาจกระทบกับประสิทธิภาพอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มาก ถ้าเทียบกับผลที่ได้คือ การใช้พลังงานที่ลดลง ซึ่งทำให้ความร้อนลดลงไปด้วย เช่น การตั้งค่า Power Limit (เช่น PL1/PL2 สำหรับ Intel หรือ PPT สำหรับ AMD) เพื่อจำกัดการใช้พลังงานสูงสุดของ CPU ซึ่งจะช่วยลดความร้อนสูงสุดลงได้ หรือเมนบอร์ดหลายรุ่นก็จะมีซอฟต์แวร์ รวมถึงไดรเวอร์ ที่ช่วยให้ปรับโพรไฟล์การทำงานของพัดลม (Fan Profiles) เพื่อให้พัดลมทำงานสัมพันธ์กับอุณหภูมิอย่างเหมาะสมได้เช่นกัน ข้อนี้มีอยู่ในคอมเกือบทุกรุ่นครับ ไปลองทำกันดูครับ
Conclusion
ในอนาคต เราอาจเห็นการระบายความร้อนแบบไร้พัดลม (fanless) มากขึ้น ด้วยเทคโนโลยี phase-change cooling ที่เปลี่ยนสถานะของวัสดุเพื่อดูดความร้อน การใช้ graphene pads ที่บางแต่ระบายความร้อนได้สุดยอดก็กำลังมาแรง ระบบ AI ที่ควบคุมทุกอย่างแบบอัตโนมัติจะฉลาดขึ้น แถมยังประหยัดพลังงานมากกว่าเดิมด้วย
