Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว MSI

รีวิว MSI Claw 8 AI+ แรงถึงใจด้วย Intel Core Ultra 200V ยกเครื่องใหม่จากภายนอกสู่ภายใน เล่นเกมไหนก็สบาย!!

MSI Claw 8 AI+ เครื่อง Gaming Handheld พลัง Intel Core Ultra 200V ใหม่ แรงกว่าเดิม ฟาร์มเกมสบายๆ กลายเป็น Mini PC ได้ด้วย!

MSI Claw 8 AI+

นับจากเดือนมีนาคม 2024 ที่ MSI ส่ง Claw A1M รุ่นแรกมาให้เกมเมอร์ได้จับจองเป็นเจ้าของแล้ว ในเดือนเดียวกันปี 2025 ก็เป็นคิวของ MSI Claw 8 AI+ เครื่องเกมพกพาระบบปฏิบัติการ Windows 11 ภาคต่อซึ่งยกเครื่องใหม่หมดตั้งแต่ดีไซน์ตัวเครื่องสีเทา Sandstrom ตัดขอบดำดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร แถมทางบริษัทยังปรับแต่งเหลี่ยมสันและกระจายน้ำหนักตัวเครื่องได้สมดุลขึ้น จึงถือเล่นเกมได้นานกว่าเดิมมาก รวมทั้งดีไซน์ซอฟท์แวร์ MSI Center M ใหม่ใช้งานง่ายและรวมฟังก์ชั่นของ Xbox Game Bar เข้ามาให้ใช้ได้สะดวกขึ้นและยังจัด UI ของซอฟท์แวร์ไม่ให้บังภาพในเกมด้วย

หัวใจของ MSI Claw 8 AI+ ก็ยังเป็นชิปของยักษ์ฟ้าจากแซนตาแคลราเช่นเดิม แต่เป็น Intel Core Ultra 200V ที่ถูกยกเครื่องสถาปัตยกรรมใหม่หมด ตัดระบบ SMT หรือ Hyperthreading ออกไป แต่ก็ไม่เสียชื่อผู้นำด้านชิปซีพียูเพราะมันยังทำงานได้ดีมากเช่นเดิมและได้ผลพวงเป็นระบบการจัดการพลังงานจึงใช้งานด้วยแบตเตอรี่ได้นานขึ้นมาก ด้านจีพียู Intel Arc Graphics 140V ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ มีการจองพื้นที่ RAM ในเครื่องไว้เผื่อเรียกใช้ตอนเล่นเกมถึง 16GB จาก 32GB LPDDR5X แก้ปัญหาหน่วยความจำไม่พอใช้ได้อยู่หมัดและติด M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB มาให้ติดตั้งเกมโปรดได้ตามชอบด้วย

Advertisement
MSI Claw 8 AI+

จุดปรับปรุงจาก MSI Claw A1M คือหน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้นจาก 7 เป็น 8 นิ้ว ความละเอียดยังเป็น Full HD+ พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB จึงเล่นเกมได้อรรถรสสีสันสวยงามเช่นเดิมและลื่นไหลด้วยค่า Refresh Rate 120Hz เสริมพอร์ต Thunderbolt 4 มาให้อีกช่อง เผื่อให้เจ้าของต่ออุปกรณ์เสริมพร้อมชาร์จแบตเตอรี่ไปได้ในตัว เพิ่มความจุแบตเตอรี่จาก 53Whr เป็น 80Whr ให้เล่นเกมได้นานขึ้นและยังใส่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาเช่นเดิม ทำให้ปลดล็อคเครื่องได้ง่าย


NBS Verdicts

MSI Claw 8 AI+

MSI Claw 8 AI+ คือผลลัพธ์ของการเก็บข้อมูลข้อเสนอแนะจากเจ้าของ MSI Claw A1M มาปรับแต่งต่อให้สมบูรณ์ขึ้น ไม่ว่าจะหน้าจอก็เพิ่มขนาดให้ใหญ่เต็มตาขึ้น ด้านพอร์ต Thunderbolt 4 มีให้และใช้ดีแต่ยังน้อยไปจึงใช้งานไม่สะดวกก็เพิ่มมาให้อีกช่องไม่ให้อึดอัดเกินไปและยังเก็บงานรอบตัวอย่างย้ายช่อง MicroSD Card Reader หลบฮีตซิ้งค์ไปอยู่อีกฝั่งของเมนบอร์ดแทน ช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น ไม่โดนความร้อนจากฮีตซิ้งค์มารบกวนให้อายุสั้นและย้ายเอาอินเทอร์เฟส PCIe 4.0 x4 สำหรับต่อ M.2 NVMe SSD จากด้านใต้พัดลมระบายความร้อนออกมาอยู่ด้านข้างแทน ให้เจ้าของถอดเปลี่ยนเพิ่มความจุได้สะดวกขึ้นแถมได้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น เล่นเกมได้นานกว่าเดิมมาก

หลายคนอาจกังวลว่า MSI Claw 8 AI+ ตัวใหญ่กว่าเดิมแล้วต้องหนักขึ้น ถือเล่นเกมนานๆ น่าจะเมื่อยแน่นอน แต่เวลาใช้จริงกลับไม่เป็นอย่างนั้นเพราะทีมวิศวกรตั้งใจออกแบบเป็นอย่างดี โดยทีมออกแบบได้ใช้กล้องตรวจจับรูปแบบมือเวลาถือเครื่องแล้วปรับแต่งตัวเครื่องให้น้ำหนักสมดุลไล่เลี่ยกันไม่หนักฝั่งใดมากเกินไป แม้จะมีน้ำหนักถึง 795 กรัม แต่ก็ไม่ลำบาก เป็นเพื่อนแก้เหงาระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะไปกลับออฟฟิศ, เดินทางข้ามจังหวัดหรืออยู่บนเครื่องบินเป็นเวลานานๆ อย่างแน่นอน ซึ่งระยะเวลาเล่นเกมนั้นนานระดับ 2 ชม. เกือบ 3 ชม. จึงเล่นฆ่าเวลาได้สบายมาก

อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตไม่ได้มาจากฝั่งฮาร์ดแวร์แต่เป็นราคา 32,990 บาท ซึ่งค่อนข้างสูงเนื่องจากราคาชิปเซ็ต Intel Core Ultra 200V Series เป็นใจความจนบางคนอาจหันไปหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในระดับราคานี้ก็เป็นได้ แต่ในแง่ความสะดวกสบาย MSI Claw 8 AI+ ก็ยังกินขาด เพียงหยิบขึ้นมาเปิดเครื่องก็เล่นเกมได้ทันที ไม่ต้องหาโต๊ะหรือปลั๊กให้วุ่นวายหรือจะใช้เป็น Mini PC ก็ต่อ MSI Nest แท่นวางเครื่องเพิ่มพอร์ตเชื่อมต่อใช้ทำงานได้ทันทีแถมในเซ็ตใหม่นี้ทางบริษัทก็ให้อะแดปเตอร์ 100W มาให้จ่ายไฟได้พอใช้งาน ไม่ต้องเจอปัญหาไฟเลี้ยงไม่พอหน้าจอดับเป็นระยะๆ แบบเครื่องรุ่นแรกแม้แต่น้อย

ข้อดีของ MSI Claw 8 AI+

  1. ชิปเซ็ต Intel Core Ultra 7 258V มีประสิทธิภาพสูง ใช้เป็น Mini PC ก็ดีเล่นเกมก็ได้
  2. จีพียู Intel Arc Graphics 140V จอง RAM ไว้ใช้ 16GB จึงปรับกราฟิคในเกมได้ดีขึ้น
  3. ชุดระบายความร้อน Cooler Boost HyperFlow ใหม่ระบายความร้อนดีเสียงไม่ดังมาก
  4. แบตเตอรี่ 80Whr ใช้เล่นเกมแบบเต็มกำลังได้อย่างน้อย 2 ชม. ขึ้นไป
  5. ตัวเครื่องดีไซน์กระจายน้ำหนักได้ดี จับถือเล่นเกมได้นานไม่เมื่อยง่าย
  6. ก้านอนาล็อคและปุ่มทริกเกอร์เป็นแบบ Hall Effect ใช้งานได้ทนทาน
  7. ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 มาถึง 2 ช่อง ใช้ต่ออุปกรณ์เพิ่มได้ง่าย
  8. ลำโพงคู่หน้ามีกำลังขับดี เนื้อเสียงมีมิติและเบสมีแรงปะทะน่าประทับใจ
  9. เปิดฝาได้ง่ายและติดตั้ง M.2 NVMe SSD ไว้ในตำแหน่งที่ถอดอัปเกรดได้ทันที
  10. เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 7 Tri-band
  11. โปรแกรม MSI Center M 2.0 ปรับแต่งมาใช้งานได้สวยงามและใช้งานง่ายขึ้น
  12. หน้าต่าง Quick Settings รวมระบบ Xbox Game Bar เข้ามา ใช้งานได้ง่าย
  13. ปุ่ม Power มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกรวดเร็ว
  14. ติดชิปเซ็ต Microsoft Pluton มาช่วยรักษาความปลอดภัยของฮาร์ดแวร์คู่กับ TPM 2.0

ข้อสังเกตของ MSI Claw 8 AI+

  1. ราคาสูงถึง 32,990 บาท แต่ประสิทธิภาพโดยรวมสูง ใช้เล่นเกมและเป็น Mini PC ได้
  2. ถ้าจะใช้เป็น Mini PC ให้ใช้อะแดปเตอร์ 100W ต่อ Nest Dock ให้จ่ายไฟได้พอใช้

รีวิว MSI Claw 8 AI+


Specification

MSI Claw 8 AI+

MSI Claw 8 AI+ เครื่องเกมพกพารุ่นสานต่อจากโมเดลก่อนโดยรับข้อเสนอแนะจากผู้ใช้มาปรับปรุงใหม่ให้ดียิ่งขึ้น ตัวเครื่องดีไซน์สวยเรียบร้อยแต่ก็ยังโดดเด่นไมเ่หมือนใครโดยใช้สีน้ำตาล Sandstrom ตัดกับสีดำให้ดูสวยงามลงตัวจับถือได้ง่ายและเล่นเกมได้สนุกลื่นไหลแน่นอน ซึ่งสเปกจะเป็นดังนี้

CPUIntel Core Ultra 7 258V แบบ 8 คอร์ 8 เธรด
ความเร็ว P-Core 2.2~4.8 GHz
ความเร็ว LPE-Core 2.2~3.7 GHz
TDP 17W
รหัสพัฒนา Intel Lunar Lake
สถาปัตยกรรม TSMC N3B
TOPS สูงสุด (Int8) 115 TOPS
NPUIntel AI Boost
TOPS สูงสุด (Int8) 47 TOPS
รองรับชุดคำสั่ง OpenVIN, WindowsML, DirectML, ONNX RT, WebNN
GPUIntel Arc Graphics 140V (16GB)
Xe-Core 8 คอร์
ความเร็วสูงสุด 1.95 GHz
รองรับชุดคำสั่ง DirectX 12.2, OpenGL 4.6, OpenCL, AV1, VP9
TOPS สูงสุด (Int8) 64 TOPS
StorageM.2 NVMe SSD 1TB
อินเทอร์เฟส PCIe 4.0 x4
ขนาด M.2 2230
Memoryออนบอร์ด 32GB LPDDR5X บัส 8533 MHz
SoftwareWindows 11 Home
Display8″ Full HD+ (1920*1200) พาเนล IPS
Refresh Rate 120Hz
100% sRGB
ทัชสกรีน
Connectivity
&
Security
Thunderbolt 4*2
MicroSD Card Reader*1
Audio combo*1
Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be
Bluetooth 5.4
Fingerprint sensor
ControlRGB ABXY buttons
RGB L & R Hall Effect analog sticks
D-pad
L & R Hall Effect analog triggers
L & R bumpers
View button
Menu button
MSI Center M button
Quick Settings button
Macro button (M1/M2)
HD haptics
6-Axis IMU
Battery6-Cell ความจุ 80Whr
Weight795 กรัม
Price32,990 บาท (MSRP)

Hardware & Design

MSI Claw 8 AI+

ไม่ว่าจะโน๊ตบุ๊คหรือเครื่องเกมพกพาเมื่อเปลี่ยนรุ่นใหม่แล้วดีไซน์มักไม่เปลี่ยนเยอะ แต่ MSI Claw 8 AI+ กลับต่างจาก MSI Claw รุ่นแรก อย่างชัดเจน ตั้งแต่ขนาดไปจนสีสันตัวเครื่องจากดำล้วนกลายเป็นทูโทน ทำสีประกับตัวเครื่องเป็นสีน้ำตาล Sandstrom ตัดกับตัวเครื่องสีดำและแยกชุดปุ่มจอยคอนโทรลเลอร์ได้อย่างลงตัวและมีไฟ RGB “Mystic Light” ติดมากับปุ่ม ABXY และฐานวงกลมล้อมก้านอนาล็อคเช่นเดิม

ในแง่สีสันถือว่า MSI กล้าฉีกกรอบของสินค้ากลุ่มเกมมิ่งที่มีเพียงสีดำตามมาตรฐานหรือใช้สีขาวเพื่อบอกว่าเป็นรุ่นพิเศษเท่านั้น ส่วนสีน้ำตาลยังไม่มีแบรนด์ใดนำมาใช้กับเครื่อง Gaming Handheld เลย ยกเว้นแต่โน๊ตบุ๊คทำงานระดับพรีเมี่ยมเท่านั้น ผลลัพธ์ก็ดูสวยลงไม่แพ้กัน

MSI Claw 8 AI+

ด้านหลังเครื่องจะเป็นกรอบสีดำเนื้อมันพร้อมโลโก้ MSI ติดอยู่ตรงกลาง มีช่องนำลมเข้าไปยังชุดระบายความร้อน Cooler Boost HyperFlow ทั้งสองช่อง ติดปุ่ม M1, M2 ไว้ริมเครื่องสองฝั่งและเปลี่ยนจากปุ่มนูนทรงสามเหลี่ยมเป็นปุ่มแบนแทนและเลื่อนเข้ามาใกล้สันด้านข้างเครื่องมากยิ่งขึ้น เวลาถือเครื่องนิ้วกลางจะพาดอยู่บนปุ่มพอดี ทำให้กดมาโครลัดได้ง่ายขึ้นแถมปุ่มก็มีขนาดใหญ่ลดโอกาสกดพลาดไปได้ แถมสันด้านข้างเครื่องก็โค้งน้อยลงกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อยไม่โด่งชัดเหมือนรุ่นก่อน

MSI Claw 8 AI+

อุปกรณ์เสริมของ MSI Claw 8 AI+ จะมี 2 อย่าง ได้แก่ MSI Nest Docking station สำหรับต่อตั้งเครื่องเป็น Mini PC และในแพ็คเกจใหม่นี้จะแถมอะแดปเตอร์ 100W มาให้อีก 1 ชิ้น ให้จ่ายไฟใช้งานได้อย่างราบลื่น เชื่อมต่อด้วยสาย USB-C เส้นสั้นข้อต่อตัว L แล้วเพิ่มพอร์ตดังนี้

  • ด้านหลังจากซ้าย – USB-C สำหรับ Claw 8 AI+, HDMI, USB-A 3.2*2, LAN RJ45
  • ฝั่งซ้ายของแท่น – USB-C 3.2 Data transfer, USB-C DC-in
MSI Claw 8 AI+

นอกจากแท่นวางเครื่องก็มีกระเป๋ารุ่นใหม่ เปลี่ยนเนื้อวัสดุจากกระเป๋าอ่อนเสริมฟองน้ำกันกระแทกเป็นกระเป๋าแข็งเสริมโฟมตัดพอดีเครื่องและมีซองใส่ MicroSD Card กับผ้ายางกับเทปตีนตุ๊กแกเอาไว้จับเครื่องไม่ให้หลุดจากบล็อค ช่วยให้พกพาได้สะดวกและไม่โคลงไปมาในกระเป๋าป้องกันอุบัติเหตุได้ดีขึ้น


Screen & Speaker

MSI Claw 8 AI+

หน้าจอทัชสกรีนของ Claw 8 AI+ ถูกขยายขนาดใหญ่ขึ้นจาก 7 เป็น 8 นิ้ว แต่ความละเอียดยังเป็น Full HD+ พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB เช่นเดิม กรอบหน้าจอด้านบน, ซ้ายและขวามีความบางเพียงครึ่งเดียวของขอบล่างกับโลโก้ MSI สังเกตส่วนขอบดำข้างจอเหนือลำโพงเล็กน้อยจะมีช่องไมโครโฟนอยู่สองฝั่งเพื่อใช้รับเสียงเวลาคุยกับเพื่อนในเกมได้

MSI Claw 8 AI+

อัตรา Refresh Rate ของหน้าจอจากหัวข้อ Advanced display ของ Windows 11 จะมีเพียง 2 แบบ คือ 60 หรือ 120Hz เท่านั้น ไม่มีโหมด Dynamic เปลี่ยนอัตราการแสดงผลอัตโนมัติให้ใช้ จึงต้องเลือกเพียงค่าใดค่าหนึ่งเท่านั้น กลับกันหน้าจอนี้เร่งความสว่างไปได้มากถึง 512.6 cd/m2 เอาไว้สู้แสงแดดส่องกระทบหน้าจอในโอกาสต่างๆ ได้ เวลาใช้งานในอาคารแนะนำว่าปรับลดมาเหลือ 50% ก็สว่างมองเห็นได้ชัดเจนแล้ว

ขอบเขตสีหน้าจอจากการทดสอบกับ DisplayCal 3 กับเครื่อง Calibrite Display Pro HL ได้ค่าขอบเขตสีจริงของหน้าจอ (Gamut coverage) 99.4% sRGB, 71.9% Adobe RGB, 74.4% DCI-P3 ส่วนขอบเขตสีองค์รวม (Gamut volume) ได้ 105.4% sRGB, 72.6% Adobe RGB, 74.7% DCI-P3 ค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E 0.06~0.87 ตรงตามสเปกบนหน้าเว็บไซต์ของ MSI ว่าหน้าจอนี้มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB เวลาเล่นเกมก็ได้สีสันสวยสมจริงหรือจะต้องเปิดดูภาพกราฟิคเช็คสีก็ใช้ได้เช่นกัน

MSI Claw 8 AI+

ลำโพงคู่กำลังขับดอกละ 2W ด้านหน้าเครื่องเวลาเร่งเสียง 100% แล้วจะดังมาก วัดจากเครื่องวัดเสียงได้ถึง 90dB กล่าวคือดังพอกับเสียงของไดร์เป่าผมเปิดลมแรงทีเดียว เวลาเล่นเกมแนะนำให้ลดลงมาเหลือ 60~70% ก็ดังได้ยินชัดเจน เนื้อเสียงถูกปรับจูนให้เหมาะกับการเล่นเกมเป็นพิเศษและแยกฝั่งของเสียงได้ชัดเจนว่าศัตรูมาจากทางไหน ได้ยินเสียงปะทะทุกแบบไม่ว่าจะกระสุนปืนและระเบิดจะได้ยินชัดเจน เวลาตัวละครพูดคุยก็คมชัดแบ่งทิศทางเสียงตัวละครได้ง่าย

เนื้อเสียงเวลาฟังเพลงจะเหมาะกับเพลงยุคใหม่ เช่น เพลงฮิปฮอป, ป็อปและร็อคมาก เพราะเนื้อเสียงเบสจะเด่นและมีแรงปะทะดังชัดเจน เสริมเสียงเครื่องดนตรีและนักร้องได้เหมาะสมฟังเพลงได้สนุกมาก ได้ยินทั่วห้องนอนขนาด 13 ตารางเมตรแน่นอน


Gamepad & Control

MSI Claw 8 AI+

แป้น Gamepad ของ MSI Claw 8 AI+ ยังยกดีไซน์กับปุ่มจาก MSI Claw รุ่นก่อนมาใช้ แต่ปรับแต่งรายละเอียดให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ใช้เลย์เอ้าท์แบบ Xbox controller ติดไฟ RGB “Mystic Light” มากับปุ่ม ABXY และล้อมรอบก้านอนาล็อคเช่นเดิม ปรับแต่งใน MSI Center M ได้ตามต้องการว่าจะให้เป็นสีอะไรหรือเล่นเอฟเฟคแสงแบบไหนก็ได้ มีปุ่ม Menu, View ติดมาตามปกติ เสริมด้วยปุ่มเรียก MSI Center ฝั่งซ้ายกับ Options ฝั่งขวาให้กดใช้งานได้เหมือนเดิม

จุดแตกต่างจากชุดคอนโทรลเลอร์รุ่นก่อน คือปุ่ม D-Pad หรือบางคนอาจเรียก “ปุ่มขึ้นลงซ้ายขวา” จากแบบปุ่มแบนกลายเป็นทรงถ้วยขอบยกสูงขึ้น ทำให้ควบคุมทิศได้ง่ายกว่าเดิมแถมนิ้วไม่หลุดจากกรอบปุ่มได้ง่ายแบบปุ่มแบนอีกด้วย

MSI Claw 8 AI+

จุดต่างส่วนถัดมาเป็นปุ่ม Shoulder button หรือปุ่ม LB/RB ถูกเปลี่ยนตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกแบบสันโค้งเรียวลายเส้นชัดเจนเหมือนเล็บมังกรให้ล้อกับชื่อ Claw ให้เรียบและทำสปริงให้อ่อนลงเล็กน้อยกดได้ง่ายขึ้น ส่วนก้านทริกเกอร์ LT/RT ยังเป็นปุ่มแม่เหล็ก Hall effect เหมือนเดิม กดได้นุ่มและตอบสนองเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนพอสมควร

MSI Claw 8 AI+

ปุ่มมาโคร M1, M2 ก็ถูกแก้ดีไซน์จากปุ่มแบบเหลี่ยมให้แบนเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีขนาดใหญ่ขึ้น กดได้ง่าย ถ้าเปิดฝามาจะเห็นว่าด้านในปุ่มจะเป็นจุกยางสีส้มสำหรับกดสวิตช์ SMD (Surface Mounted Device) บนเมนบอร์ดได้โดยตรง ทั้งสองปุ่มนี้จะใช้เป็นคำสั่งมาโครเวลาเล่นเกมหรือจะตั้งเป็นปุ่ม L3, R3 แทนการกดก้านอนาล็อคลงไปก็ได้


Connector, Thin & Weight

MSI Claw 8 AI+

ปุ่ม, พอร์ตและการเชื่อมต่อทั้งหมดของ MSI Claw 8 AI+ ยังเรียงพอร์ตกับปุ่มต่างๆ ไว้ขอบบนตัวเครื่องเหมือนเดิม แต่เพิ่ม Thunderbolt 4 มาอีกช่องและเก็บรายละเอียดภายในเพิ่มเติมให้ใช้งานได้ดีขึ้น โดยปุ่มกับพอร์ตทั้งหมดจะมีดังนี้

  • ขอบบนตัวเครื่องจากซ้ายมือ – ปุ่มเพิ่มลดเสียง, Audio combo, Thunderbolt 4*2, MicroSD Card reader, Power button พร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be รองรับ Bluetooth 5.4

ในฐานะเจ้าของ MSI Claw รุ่นก่อน การเพิ่มพอร์ต Thunderbolt 4 มาเป็น 2 ช่องทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นมาก จะต่อชาร์จไฟคู่กับหูฟัง USB-C แล้วเล่นเกมเวลาพกไปเล่นเกมฆ่าเวลาก็ได้ หรือถ้านั่งโต๊ะก็ประยุกต์ใช้งานได้หลายแบบ ไม่ว่าจะต่อ MSI Nest กับจอคอมที่ 2 ด้วยสาย USB-C to HDMI ก็ได้หน้าจอทำงาน 2 จอ หรือไม่มี Docking station ก็หาขาตั้งวางเครื่องแล้วต่อสาย Thunderbolt กับจอคอม USB-C 2 จอ ก็ใช้เป็น Mini PC ทำงานได้ทันที ยิ่งถ้าหน้าจอนั้นเป็น Port hub ได้ USB-A, LAN หรือ SD Card Reader ด้วยก็ยิ่งใช้งานได้สะดวก

MSI Claw 8 AI+

จุดน่าสนใจภายในเครื่อง ถ้าสังเกตบริเวณช่อง MicroSD Card Reader จะเห็นว่าช่องใส่การ์ดถูกย้ายไปซ่อนไว้อีกฝั่งของแผงเมนบอร์ดแล้วใช้แผ่นวงจรเป็นกำแพงกันลมร้อนจากพัดลมและฮีตซิ้งค์ไม่ให้รบกวนเมมโมรี่การ์ดจนเสื่อมสภาพเร็ว เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่อยากเปลี่ยน SSD จะเอาการ์ดมาใส่เพิ่มแล้วติดตั้งเกมในนี้แทนก็ได้ความสะดวกรวดเร็วและง่าย ถ้าจะใช้วิธีนี้ขอแนะนำให้หารุ่นความเร็ว 200 MB/s มาใช้จะโหลดเกมขึ้นมาเล่นได้เร็วและไม่หน่วง

MSI Claw 8 AI+

มิติความหนาของตัวเครื่องเวลาวัดด้วยไม้เวอร์เนียคาลิปเปอร์ จะเห็นว่าส่วนบางสุดตรงกลางเครื่องหนาแค่ 24.7 มม. สันโค้งสำหรับจับเครื่องจะบางสุด 30.4 มม. และหนาสุด 35.7 มม. นับว่าหนากว่ากันเพียง 1/2 ซม. เท่านั้น เวลาถือเครื่องแล้วส่วนโค้งจะไม่โก่งมากทำให้นิ้วพาดทับปุ่ม M1, M2 ได้พอดี

MSI Claw 8 AI+

MSI เคลมน้ำหนักของ MSI Claw 8 AI+ เอาไว้ในหน้าสเปก 795 กรัม ส่วนบนตาชั่งวัดได้ 790 กรัม นับว่าเบากว่าสเปกตรงตามเคลมพกพาได้ง่าย ถ้ารวมอะแดปเตอร์ USB-C กำลังไฟ 65W เข้าไปอีก 182 กรัม จะหนักเพียง 972 กรัมเท่านั้น แต่เป็นเพียงน้ำหนักเครื่องอย่างเดียว หากรวมกระเป๋าเข้าไปอาจหนักถึง 1.2 กก. ด้านอะแดปเตอร์ 100W สำหรับต่อ MSI Net Docking Station มีน้ำหนัก 436 กรัม

กรณีมีอะแดปเตอร์ทั้งสองตัวอยู่ แนะนำให้พกอะแดปเตอร์ 65W ติดกระเป๋าไว้ชาร์จเครื่องและสมาร์ทโฟนได้ ส่วนอะแดปเตอร์ 100W เหมาะจะต่อ Docking station ติดโต๊ะทำงานมากกว่า ในวันทำงานก็ใช้เป็น Mini PC ทำงานออฟฟิศได้ทันที


Inside & Upgrade

MSI Claw 8 AI+

วิธีเปิดฝาเปลี่ยน M.2 NVMe SSD ใน MSI Claw 8 AI+ ทำได้ง่ายเช่นเดิม เริ่มต้นให้ขันน็อต Philips Head 6 ตัวตามมุมต่างๆ ออก ใช้นิ้วกดปุ่ม LT หรือ RT ไว้แล้วสอดก้านพลาสติกเข้าช่องว่างแล้วออกแรงงัดเล็กน้อย ฝาหลังกับตัวเครื่องจะแยกออกจากกันให้เอาการ์ดแข็งรูดไล่ตามกรอบรอบตัวได้ทันที

จุดอัปเกรดบนเมนบอร์ดมีเพียง M.2 NVMe SSD ขนาด M.2 2230 ด้านข้างขวาของฮีตไปป์เท่านั้น มีความจุ 1TB ให้ติดตั้งเกมและโปรแกรมทำงานได้พอสมควรและถอดเปลี่ยนได้ง่ายกว่ารุ่นก่อนที่อยู่ใต้พัดลมโบลวเวอร์ฝั่งขวามาก ไม่ต้องปลดน็อตฮีตซิ้งค์ถอดสายไฟพัดลมให้ยุ่งยาก หากใครซื้อเครื่องนี้มาแล้วอยากเพิ่มความจุเป็น 2TB เผื่อจะติดตั้งเกมเพิ่มก็อัปเกรดเองได้เลย หรือไม่สะดวกก็หา MicroSD Card ความเร็วสูงมาติดตั้งเกมแทนก็ได้


Performance & Software

MSI Claw 8 AI+

ซีพียู Intel Core Ultra 7 258V แบบ 8 คอร์ 8 เธร็ด แยกเป็น 4 P-Core กำลังประมวลผลสูง ความเร็ว 2.2~4.8 GHz กับ 4 LPE-Core แบบประหยัดพลังงานพิเศษ ความเร็ว 2.2~3.7 GHz มีกำลังประมวลผล AI รวม 115 TOPS ผ่านมาตรฐานเป็น Copilot+ PC สั่งการปัญญาประดิษฐ์ได้รวดเร็ว นับเป็นซีพียูกลุ่มประสิทธิภาพสูงของ Intel Core Ultra 200V Series

แม้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่จะถูกตัดฟีเจอร์ Hyperthreading ไปแล้ว มีคอร์เธร็ดน้อยลงแต่กลับได้ข้อดีกลับมาหลายอย่าง ได้แก่

  1. การจัดการพลังงานแบตเตอรี่และกำลังประมวลผลต่อวัตต์ (Performance per Watt) ดีขึ้น
  2. แต่ละคอร์จัดการครั้งละงานได้เต็มที่ ไม่ต้องประมวลผลไปกลับจนเกิดความหน่วงระหว่างประมวลผล
  3. ตัดปัญหาการโจมตีผ่านระบบ Hyperthreading ทิ้ง ตัวอย่างในอดีตเช่น TLBleed, PortSmash, L1TF หรือ Foreshadow เป็นต้น
  4. เพิ่มหน่วยความจำฝังในชิปเซ็ต (MOP – Memory On Package) ได้มากถึง 32GB LPDDR5X

หน่วยความจำในเครื่องติดตั้งมา 32GB LPDDR5X แบบออนบอร์ด อัปเกรดเพิ่มภายหลังไม่ได้แต่ก็มากพอให้ใช้ทำงานทั่วไป, แต่งภาพทำงานกราฟิคและเล่นเกมแน่นอน

MSI Claw 8 AI+

จีพียู Intel Arc Graphics 140V ความเร็ว 1.95 GHz ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ประมวลผลกราฟิคได้ดีขึ้นมากโดยเฉพาะการเล่นเกม มี Xe-Core 8 คอร์ พร้อมกำลังประมวลผล AI สูงสุด 64 TOPS รองรับชุดคำสั่งครบถ้วนตั้งแต่ DirectX 12, OpenCL, OpenGL 4.6, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing ก็ได้ แถมเข้ากับถอดรหัสวิดีโอแบบ AV1, VP9, H.264, H.265 ต่อหน้าจอแยกความละเอียด 4K (4096*2304) ได้ 3 หน้าจอพร้อมกันหรือ 8K (7680*4320) จอเดี่ยวก็ได้

MSI Claw 8 AI+

ไดรเวอร์ชิ้นส่วนต่างๆ ภายใน Device Manager จะเห็นว่า MSI Claw 8 AI+ ยังได้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือจาก Goodix มาเช่นเดิม ทำงานคู่กับชิป TPM 2.0 และในรุ่นใหม่นี้ก็ได้ชิป Microsoft Pluton ติดตั้งมาเพิ่ม ป้องกันการเจาะระบบผ่านฮาร์ดแวร์ได้ดีขึ้น

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้การ์ด Intel Wi-Fi 7 BE201 เป็น Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be รองรับ Bluetooth 5.4 มีแบนด์วิดท์กว้าง 320MHz รองรับ 4K-QAM, MU-MIMO, OFDMA และ Intel vPro มีความเร็วรับส่งข้อมูลสูงสุด 5.8 Gbps เชื่อมต่อกับคลื่น 2.4 / 5 / 6 GHz ได้ทั้งหมด ถึงจะไม่ได้เป็นชิปรุ่นยอดนิยมในเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คอย่าง Intel Killer แต่ในแง่การใช้งาน Wi-Fi PCIe card ตัวนี้ทำงานได้ดีมาก

MSI Claw 8 AI+

M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ภายในเครื่อง เมื่อตรวจสอบผ่าน CrystalDiskInfo แล้วเป็นผลิตภัณฑ์ของ KIOXIA หรือบางคนอาจคุ้นหูกับชื่อเก่าอย่าง “Toshiba Memory Holding Corporation” สำหรับชื่อนี้เป็นการผสานคำว่า Kioku (ภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ความทรงจำ) กับ Axia (ภาษากรีก แปลว่า คุณค่า) เข้าด้วยกัน

รหัส KBG60ZNS1T02 เป็นชื่อโมเดลหนึ่งของซีรีส์ KIOXIA BG6 อิงจากหน้าสเปกแล้วตัวไดรฟ์เป็น M.2 2230 SSD ความจุ 1TB อินเทอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ใช้ Flash Memory BiCS Flash TLC มีความเร็วอินเทอร์เฟส 64 GT/s ใช้อ่านเขียนไฟล์ได้ถึง 600 TBW โดยข้อมูลไม่ผิดเพี้ยน ทดสอบกับ CrystalDiskMark 8.0.5 จะมีความเร็วดังนี้

สเปก / ความเร็วRead (MB/s)Write (MB/s)
สเปกจากโรงงาน6,000 5,000
Sequential5,984.795,306.69
RND4K428.47389.61

ผลการทดสอบความเร็วอ่านเขียนข้อมูลของ KIOXIA BG6 ใน MSI Claw 8 AI+ น่าประทับใจและเร็วกว่า M.2 NVMe จากแบรนด์อื่นในท้องตลาดร่วม 1,000 MB/s จึงไม่จำเป็นต้องถอดเปลี่ยนแม้แต่น้อย ยกเว้นว่าจะเพิ่มความจุไป 2TB ก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง สามารถซื้อมาเปิดเครื่องแล้วติดตั้งเกมเล่นได้ทันที

ส่วนตัวเห็นว่าแทนที่จะเปลี่ยน M.2 NVMe ให้ยุ่งยากต้องมาติดตั้งหรือโคลนไดรฟ์ให้เสียเวลา กลับกันอยากแนะนำให้ซื้อ MicroSD Card ความเร็วสูงสำหรับเครื่องเกมคอนโซลโดยเฉพาะอย่าง SanDisk GamePlay, Lexar Professional GOLD หรือ Samsung PRO Plus microSDXC มาใส่ช่อง MicroSD Card Reader แล้วติดตั้งเกมลงในนั้นแทนจะสะดวกกว่ามาก

อิงกับชิปเซ็ต Intel Core Ultra 200V ซึ่ง Intel เคลมเอาไว้ว่ามันจะเหมาะกับการเล่นเกมบนหน้าจอความละเอียด 1080p Medium และควรเปิด Intel XeSS upscalling เสริมจะเล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น จากการทดสอบกับโปรแกรม Benchmark ตระกูล 3DMark แต่ละเวอร์ชั่นจะเป็นดังนี้

  • 3DMark Time Spy จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด 2K QHD
    • คะแนนเฉลี่ย คำนวณผสานระหว่างคะแนนซีพียูกับจีพียูได้ 3,618 คะแนน
    • CPU score ได้ 5,852 คะแนน / Graphics score ได้ 3,390 คะแนน
  • 3DMark Steel Nomad จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด 4K UHD
    • ทดสอบด้วย DirectX 12 API ได้ 813 คะแนน / Graphics test ได้ 8.14 FPS

จากผลคะแนนสรุปได้ทันทีว่า MSI Claw 8 AI+ เหมาะกับการเล่นเกมบนหน้าจอความละเอียด 1080p Medium เป็นหลัก สังเกตว่าถึงจะเล่นบนหน้าจอ 2K QHD ได้ก็จริง แต่ภาพจะไม่ลื่นไหลและต้องเลือก XeSS upscalling เป็น Performance ขึ้นไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

เวลาเล่นเกมและใช้ Benchmark tool ทดสอบเฟรมเรทเวลาใช้ MSI Claw 8 AI+ เล่นเกมจริงๆ ถือว่าน่าประทับใจกว่าเครื่องรุ่นก่อนอย่างมาก เฟรมเรทเระหว่างเล่นไม่ตกวูบหรือเกิดอาการค้างให้เสียจังหวะ จีพียูยังเรนเดอร์ภาพได้สวยงาม Object ภายในเกมไม่หาย เวลาตั้งค่ากราฟิคไว้ 1080p Medium เปิด Intel XeSS Quality จะทำเฟรมเรทเฉลี่ยได้ระดับ 35~45 FPS ตลอดเวลา สำหรับประสบการณ์ระหว่างเล่นแต่ละเกมเป็นดังนี้

  • Path of Exile II (เอนจิ้นเฉพาะของ GGG) – จีพียูสามารถเรนเดอร์ฉากต่างๆ ได้รวดเร็วต่อเนื่อง ไม่เกิดปัญหาภาพค้าง 1~2 วินาทีเหมือน Intel Core Ultra 100 Series ไม่มีปัญหาเรื่อง Input lag ระหว่างเล่นแม้แต่ครั้งเดียว แต่ถ้ามีเอฟเฟคแสงเงาและ Tessellation จากเอฟเฟคน้ำแข็งระเบิดอาจเกิดเฟรมเรทตกกะทันหันเล็กน้อยแล้วกลับมาเล่นได้ตามปกติ
  • Black Myth: Wukong (Unreal Engine 5) – สามารถเล่นได้ต่อเนื่อง เดินฉากและต่อสู้กับบอสได้ตามปกติ เฟรมเรทระหว่างเล่นจะอยู่ช่วง 30~40 FPS ต่อเนื่องและยังเจอปัญหาเรื่องเอฟเฟคเยอะแล้วทำให้เฟรมเรทลดลงบ้าง แต่ไม่เจอปัญหาในฉากแบบเปิดกว้างนัก แนะนำให้ปิด Motion Blur, เลือก Intel XeSS Balanced จะดีสุด
  • Red Dead Redemption II (RAGE Engine) – เลือกตั้งค่ากราฟิคเอาไว้ระดับ Balanced ได้เกือบสูงสุด เวลาเล่นในฉากพื้นที่มีหิมะเฟรมเรทจะลดลงเล็กน้อยเหลือราว 35 FPS แต่ไม่มีอาการภาพค้างหรือเรนเดอร์ผิดพลาดแล้วเกิดขอบแดงตัดกรอบตัวละครและฉากสักนิด เวลาเล่นถ้าอยากได้เฟรมเรทเยอะแนะนำให้ตั้งกราฟิคเอาไว้ Balanced ระดับ 1~2 จะดีสุด
  • Forza Horizon 5 (Forza Tech) – ตัวเกมได้รับการ Optimized มาเป็นอย่างดี ตั้งค่ากราฟิคเอาไว้ระดับ Medium แล้วลงสนามแข่งได้เลย ไม่เจออาการเฟรมเรทตกวูบหรือหยุดระหว่างเล่นแม้แต่น้อย จุดน่าสนใจเวลาทดสอบไม่ว่าจะปิดหรือเปิด Intel XeSS upscalling เฟรมเรทก็ยังได้เท่ากัน แต่ถ้าเปิดจะได้เฟรมเรทสูงสุดเพิ่มพอสมควร
  • Call of Duty: Modern Warfare II (IW 9.0 Engine) – ใช้เล่นได้เป็นอย่างดี เดินฉากยิงปะทะไม่ค่อยเจอปัญหากวนใจแต่เฟรมอาจลดบ้างเวลาใช้ระเบิดและมีเอฟเฟคฝุ่นควัน เกมนี้แนะนำให้เปิด Intel XeSS Quality ขึ้นไปเสมอจะเล่นได้ดี

สรุปได้ว่างานหลักอย่างการเล่นเกม MSI Claw 8 AI+ ทำได้ดีมากไม่ว่าจะเล่นเกมอินดี้หรือเกมชั้นนำก็เล่นได้สบายมาก เพราะการปรับแต่งจีพียู Intel Arc Graphics 140V ให้จองพื้นที่ 16GB เอาไว้เผื่อตั้งค่ากราฟิคภายในเกมได้มากขึ้นทำให้เล่นเกมได้ดีมาก มีเงื่อนไขว่าต้องตั้งค่าหน้าจอเอาไว้ 1080p Medium จะดีสุด

MSI Claw 8 AI+

นอกจากพกไปเล่นเกม MSI Claw 8 AI+ ก็ต่อหน้าจอแยก, เมาส์และคีย์บอร์ดใช้เป็น Mini PC ทำงานออฟฟิศได้สบายมาก ได้คะแนนเฉลี่ยจากโปรแกรมทดสอบ PCMark 10 สูงถึง 7,283 คะแนน ไล่เลี่ยกับโน๊ตบุ๊คทำงานระดับพรีเมี่ยมในปัจจุบัน ใช้ทำงานได้ทุกแบบไม่ว่าจะประชุมงานออนไลน์, ทำงานเอกสารไปจนแต่งภาพนิ่งก็ทำได้ดีเหมือนกัน แต่สังเกตจากคะแนนย่อยในหมวด Digital Content Creation จะทำคะแนนด้านการทำงาน 3D หรือตัดต่อวิดีโอได้บ้าง แต่จะใช้เป็นงานหลักจะไม่เหมาะเท่าไหร่

การทดสอบเรนเดอร์กราฟิคกับงาน 3D ด้วยโปรแกรมตระกูล CINEBENCH จะเห็นว่า MSI Claw 8 AI+ จะพอใช้งานได้ แต่งภาพประกอบสไลด์นำเสนองานหรือตัดคลิปสั้นได้บ้าง แต่ถ้าตัดต่อคลิปยาวหรือวิดีโอใส่เอฟเฟคหลายต่อจะทำงานได้ช้าลง ใช้เวลาเรนเดอร์นานขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ของแต่ละการทดสอบจะเป็นดังนี้

  • 2024 – ใช้ทดสอบประสิทธิภาพของซีพียูกับจีพียูอย่างหนักพร้อมกันโดยใช้เอนจิ้น Redshift สำหรับอุตสาหกรรมภาพยนต์ ได้ CPU (Multi-Core) 547 pts และ CPU (Single Core) 118 pts
  • R23 – ใช้ทดสอบพลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก มีความละเอียดและแม่นยำสูง ได้คะแนน Multi Core 9,818 pts และ Single Core อีก 1,875 pts
  • R20 – ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก ได้คะแนน CPU 2,906 pts

ด้านการเรนเดอร์โมเดล 3D ด้วยโปรแกรม Blender benchmark จำลองการทดสอบเรนเดอร์โมเดลสามมิติ 3 แบบแล้วนับจำนวน Sample ว่ายิ่งได้มากยิ่งดี จากการทดสอบกับซีพียูและจีพียู จะได้ผลลัพธ์ดังนี้

การทดสอบCPUGPU
monster34161
junkshop2369
classroom1693

กล่าวโดยสรุปได้ว่า MSI Claw 8 AI+ เป็นการต่อยอดเครื่อง Gaming Handheld ของทางค่ายให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเก็บงานในส่วนต่างๆ ให้เรียบร้อยและให้ชิ้นส่วน OEM ภายในเครื่องมาเป็นอย่างดี ไม่ต้องไปปรับแต่งเพิ่มก็เล่นเกมชั้นนำได้แน่นอนบนหน้าจอ 1080p Medium หรือจะใช้เป็น Mini PC ตั้งโต๊ะทำงานก็เหมาะกับงานออฟฟิศร้อยแปดไม่ว่าจะทำเอกสาร, ประชุมออนไลน์หรือตัดต่อแต่งภาพกับวิดีโอก็ได้เช่นกัน เป็นเครื่องเกมพกพาและทำงานได้สบายแต่ก็ต้องมีอุปกรณ์เสริมด้วยจะได้ใช้งานสะดวกขึ้น

MSI Claw 8 AI+

จุดน่าสนใจของ MSI Claw 8 AI+ ต้องยกให้โปรแกรม MSI Center M เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมหลายส่วน ไม่ว่าจะ UI ดูสวยงามน่าใช้ยิ่งขึ้น เริ่มต้นจากหน้าแรกเวลาเปิดเครื่องนอกจากรวมเกมทั้งหมดเอาไว้แล้วยังเอาภาพโปสเตอร์ของเกมมาแสดงเป็นพื้นหลังได้สวยงาม และรวมเกมต่างๆ เอาไว้หน้าแรกให้เลือกเปิดเล่นได้ง่ายและกดขึ้นบนเลือก Gaming Platform เพื่อเล่นเกมได้

ในหน้าการตั้งค่ายังคงฟังก์ชั่นเอาไว้ครบถ้วนไม่ว่าจะตั้งค่าทั่วไป, ไฟ RGB “Mystic Light”, การตั้งค่าคอนโทรลเลอร์และมาโคร M1, M2 รวมไปถึงคาลิเบรตก้านอนาล็อกได้ในตัว รวมไปถึงการอัปเดตเฟิร์มแวร์อีกด้วย

MSI Claw 8 AI+

หน้าต่าง Quick Settings ถูกย้ายฝั่งจากขวามาอยู่ซ้ายมือและปรับสีตัวอักษรจากแดงเป็นเหลืองแทน ยังคงหมวดการปรับตั้งค่าเร่งด่วนเอาไว้ครบถ้วนเช่นเดิม แต่จุดน่าสนใจของหน้าตั้งค่าเร่งด่วนนี้ คือ MSI นำระบบ Xbox Game Bar ใส่เข้ามาให้กดเปิดใช้งานได้ง่ายขึ้น ถ้าใครจะเปิดระบบถ่ายภาพหรืออัดวิดีโอหน้าจอหรือจะดูหน้าต่าง Performance ก็ปักหมุดดูเอาไว้ได้

MSI Claw 8 AI+

กลับกัน Real-time Monitor ถูกย้ายจากมุมบนซ้ายไปอยู่มุมบนขวาแทน เพราะถ้าเป็นเวอร์ชั่นก่อนจะบังหลอดเลือดในเกมพอดี ทำให้เล่นเกมไม่สะดวกนัก การย้ายมาอยู่ฝั่งขวามือแม้จะทับ Mini-map อยู่บ้างแต่ก็ทำให้ฉากหลังโปร่งใสขึ้นจึงพอมองเห็นได้ ถือว่าทางบริษัทปรับแต่งเครื่องตามข้อเสนอแนะไปทั้งหมดและได้ผลลัพธ์ออกมาน่าประทับใจขึ้นมาก


Battery, Heat & Noise

MSI Claw 8 AI+

แหล่งพลังงานใน MSI Claw 8 AI+ เป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลีเมอร์เช่นเดียวกับรุ่นก่อน แต่เพิ่มความจุจาก 53Whr ขึ้นมาเป็น 80Whr มากกว่าเดิมร่วม 50% วัดเป็น Typical Capacity 6,900mAh และ Rated Capacity 6,560mAh พอจับคู่กับ Intel Core Ultra 7 258V ก็สามารถเล่นเกมได้นานขึ้นมาก

MSI Claw 8 AI+

กรณีวัดระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์โดยลดความสว่างเหลือ 50% และลดเสียงลำโพงเหลือ 10% ใช้ Microsoft Edge ดูคลิป YouTube เต็มหน้าจอนาน 30 นาที จะใช้งานได้นาน 10 ชม. 50 นาที หรือร่วม 11 ชม. นานพอจะเปิดเช็คข้อมูลต่างๆ ได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าเร่งเสียงดังขึ้นราว 50% อาจใช้งานได้สั้นลงเล็กน้อย

กรณีเล่นเกมด้วย Manual Mode ตั้งค่าโหลดไฟ (PL – Power Limits) ไว้ 30W ให้ทำงานได้เต็มกำลัง เทียบกับรุ่นก่อนแล้วจะใช้งานได้ราว 1 ชม. 20 นาที ก่อนเครื่องดับ แต่พอแบตเตอรี่มีความจุมากขึ้นเป็นเท่าตัวก็สามารถเล่นเกมได้ราว 2 ชม. 30 นาที นานพอจะฆ่าเวลาระหว่างรอทำธุระต่างๆ ได้แน่นอน แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นโหมด AI Engine หรือ Super battery จะใช้งานได้นานเกือบ 3 ชม. เวลาชาร์จไฟคืนนอกจากอะแดปเตอร์ 65W ในกล่อง ขอแนะนำให้ซื้อพาวเวอร์แบงค์กำลังชาร์จ 65W ขึ้นไปมาเตรียมไว้อีกชิ้น เผื่อเวลาดับเครื่องก็ยังต่อสาย USB-C ชาร์จไปพลางๆ ได้ แต่ไม่แนะนำให้ต่อค้างไว้และเล่นเกมเพราะอาจทำให้แบตสำรองเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

MSI Claw 8 AI+

นอกจากแบตเตอรี่ ชุดระบายความร้อน Cooler Boost HyperFlow ก็ถูกปรับแต่งให้ระบายความร้อนจากชิปเซ็ต Intel Core Ultra 7 258V ได้ดีขึ้นมาก ออกแบบทิศทางลมให้นำลมเข้าจากช่องด้านหลังแล้วดันลมร้อนออกทางฮีตไปป์และซิ้งค์ส่วนขอบบนได้อย่างรวดเร็วและเสียงเวลาพัดลมทำงานเต็มกำลังก็เบากว่ารุ่นก่อนมากและยังระบายความร้อนได้รวดเร็ว

ข้อดีของการระบายความร้อนได้ดี เวลาเช็คอุณหภูมิจากกล้องอินฟาเรดและเลเซอร์วัดอุณหภูมิจะเห็นว่าโซนที่ร้อนสุดจะอยู่ตรงกลางหน้าจอและกระจายไปเกือบสุดหน้าจอทั้งสองฝั่ง แต่ด้ามจับเครื่องทั้งสองฝั่งจะมีอุณหภูมิราว 30~34 องศาเซลเซียส เทียบกับอุณหภูมิผิวมนุษย์ซึ่งอยู่ราว 33.5~36.9 องศา ก็ยังถือเครื่องเล่นได้สบายมาก ด้านอุณหภูมิของชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องเวลาเปิดเล่นเกมแล้ววัดด้วย CPUID HWMonitor จะเป็นดังนี้

อุณหภูมิ / ชิ้นส่วนอุณหภูมิต่ำสุด (เซลเซียส)อุณหภูมสูงสุด (เซลเซียส)
CPU4495
GPU4375
Motherboard4168
SSD4356
MSI Claw 8 AI+
ระดับเสียงระหว่างทดสอบด้วย Red Dead Redemption II Benchmark tool

พอระบายความร้อนได้ดีแล้ว หลายคนอาจคิดว่าต้องแลกกับเสียงพัดลมระบายความร้อนดังจนรบกวนผู้อื่นแน่ แต่พอวัดด้วยเครื่องวัดระดับเสียงแล้วกลับไม่เป็นอย่างนั้นและยังเบากว่าเสียงพูดคุยตามปกติของมนุษย์อีกด้วย จากภาพจะเห็นว่าตอนเปิดเกม Red Dead Redemption II ใช้ Benchmark tool แล้ว เสียงด้านหน้าเครื่องจะดังราว 47dB ไล่เลี่ยกับเสียงพัดลมเวลาปล่อยเครื่องไว้เฉยๆ ซึ่งดังเพียง 49dB เท่านั้น ถึงจะวัดจากช่องระบายความร้อนก็ยังดังเพียง 52dB จึงไม่ต้องกังวลว่าเสียงพัดลมจะไปรบกวนผู้อื่นหรือเพื่อนร่วมงานเลย

สรุปได้ว่าชุดระบายความร้อน Cooler Boost HyperFlow ฉบับปรับปรุงใหม่เพื่อ Claw 8 AI+ ทั้งระบายความร้อนได้เร็ว เย็น แถมเสียงเวลาเล่นเกมก็เบาพอกับเสียงพูดคุยของมนุษย์จึงไม่รบกวนผู้อื่น เวลาใช้งานจริงก็ระบายความร้อนให้ชิปเซ็ต Intel ได้เป็นอย่างดีแม้จะเล่นเกมชั้นนำอยู่ไม่เจอปัญหาว่าเครื่องร้อนจนเฟรมเรทตกแม้แต่น้อย จึงใช้เล่นเกมได้อย่างสบายใจไม่มีปัญหาแน่นอน


User Experience

MSI Claw 8 AI+

ระยะเวลา 2 สัปดาห์กับ MSI Claw 8 AI+ ผู้เขียนสัมผัสได้ว่าทาง MSI ใส่ใจและจริงจังกับผลิตภัณฑ์นี้เป็นอย่างมาก ทั้งรับข้อเสนอแนะไปปรับปรุงและตั้งใจทำการบ้านในทุกองค์ประกอบจนได้เป็นเครื่องเกมรุ่นสองซึ่งสมบูรณ์แบบน่าใช้มาก ไม่ว่าจะพกไปเล่นเกมก็ใช้ได้นาน 2~3 ชม. หรือต่อ MSI Nest Docking Station ก็ใช้เป็น Mini PC ได้ดีมากด้วยพลังของ Intel Core Ultra 200V ซึ่งดีกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน

เทียบกับรุ่นแรก ต้องแยกประเด็นเป็นฝั่งฮาร์ดแวร์ของ MSI ซึ่งทางบริษัทออกแบบฮาร์ดแวร์มาได้ค่อนข้างดี อาจมีจุดสังเกตอยู่บ้างเช่นเรื่องของ M.2 NVMe SSD ใต้พัดลมระบายความร้อน กับเสียงพัดลมใน BIOS เวอร์ชั่นแรกๆ จะมีเสียงดังได้ยินชัดเจน แต่ก็ปรับแก้รวดเร็วในเวลาไม่นานจนดีขึ้นมาก ยิ่งเวอร์ชั่นปัจจุบันจะได้ยินเสียงพัดลมเบามากและตัวเครื่องไม่ร้อนเกินไปและใช้งานได้เสถียรไม่ติดขัดนัก

กลับกันจุดสังเกตตกอยู่กับ Intel Core Ultra 100 Series ในเรื่องกำลังประมวลผลซีพียูนั้นทำงานได้ดี ทว่าการทำงานของจีพียู Intel Arc Graphics กลับน่ากังขา ทั้งจองพื้นที่ RAM ในเครื่องเอาไว้เพียงไม่กี่ร้อย MB แล้วค่อยปรับภายในเกมด้วยตัวไดรเวอร์เอง ไม่เปิดให้ผู้ใช้ปรับตั้งค่าเองและไดรเวอร์จีพียูแค่พอใช้งานและเล่นเกมได้บ้างแต่ยังไม่เสถียรนัก ต้องรอจนถึงไตรมาส 3 ของปี 2024 ถึงจะเล่นเกมได้เสถียรและยังต้องเจอบั๊กประปรายอยู่บ้าง ยังดีว่าปัจจุบันไม่เกิดอาการภาพค้างเป็นช่วงๆ แล้ว เชื่อว่าบางคนจะให้ท้ายว่าค่ายยักษ์ฟ้าก็เพิ่งจะเน้นชิปเซ็ตใช้งานได้รอบด้านและเล่นเกมได้ดีเมื่อไม่กี่ปีนี้ก็ยังพอให้อภัยได้ แต่กว่าจะมาถึงจุดที่รับได้ก็ใช้เวลานานจนกระแสความนิยมเบาบางไปบ้างแล้ว

MSI Claw 8 AI+

อย่างไรก็ตาม Intel ก็ใช้เวลาปรับปรุงไม่นานจนได้ Intel Core Ultra 7 258V ซึ่งประสิทธิภาพองค์รวมดีขึ้นมาก โดยเฉพาะการเล่นเกมสามารถเปิดเกมชั้นนำบนหน้าจอ 1080p Medium เสริมด้วย Intel XeSS upscalling ก็เล่นเกมชั้นนำได้สบายมากและ Intel Arc Graphics 140V ก็แก้ปัญหาได้ตรงจุด นั่นคือไดรเวอร์เขียนไว้ให้จองพื้นที่ RAM 16GB ไว้ใช้ตอนเล่นเกม จึงมีพื้นที่ประมวลผลกราฟิคในเกมได้เยอะ ประกอบกับการออกแบบคอร์ประมวลผลใหม่ทำให้เล่นเกมได้ดีและนานขึ้นมาก ตอนพก MSI Claw 8 AI+ ไปเล่นเกมระหว่างรอทำธุระแล้วใช้โหมด AI Engine ก็เล่นได้นานกว่าเดิมมากพอจะผ่านเนื้อเรื่องในเกมได้ราว 1 Chapter ใหญ่อย่างแน่นอน ยิ่งถ้าเล่นแล้วปิดเปิดเครื่องเป็นระยะๆ ก็เล่นได้แทบทั้งวัน ส่วนตัวอยากแนะนำให้พกอะแดปเตอร์ 65W ในกล่องเอาไว้กับ Power bank กำลังชาร์จ 65W สักตัวก็จะดี

กรณีอยากใช้ MSI Claw 8 AI+ เป็นคอมทำงานพกไปออฟฟิศก็ทำได้สบายมาก ให้คิดว่ามันเป็น Mini PC ติดหน้าจอ 8″ Full HD+ พาเนล IPS มาเผื่อจะเปิดโปรแกรมแชตฯ ได้ ดังนั้นอุปกรณ์สำคัญสำหรับเซ็ตอัพให้มันเป็นคอมทำงานในออฟฟิศ แนะนำให้ซื้อพร้อมโปรโมชั่นแถม MSI Nest Docking Station ใหม่จะมีประโยชน์มาก จะได้ต่อหน้าจอแยก, เมาส์และคีย์บอร์ดเพิ่มแล้วใช้งานได้เลย หรือถ้าไม่ได้จะมีตัวเลือก 2 แบบ คือใช้ USB-C Multiport Adapter หรือหาหน้าจอ USB-C แบบมีพอร์ตเสริมมาใช้ควบคู่กันก็ใช้งานได้ดี ดังนั้นมันจะเหมาะกับพนักงานธุรการและนักบัญชีมาก ในทางกลับกันถ้าต้องเดินทางไปพบลูกค้าหรือออกไปทำงานนอกสถานที่เป็นประจำก็ต้องหาจอพกพามาใช้เพิ่มอีกชิ้นแต่ก็จะพะรุงพะรังลำบากเสียเปล่า

ถึงจะมีข้อดีและน่าใช้หลายส่วน แต่ข้อสังเกตคือราคาสูงพอควรถึง 32,990 บาท จึงมีทางเลือกเป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งหรือ Gaming Handheld จากแบรนด์คู่แข่งอย่างเลี่ยงไม่ได้แถมมีราคาถูกกว่า ทำให้คนอยากได้จะรอซื้อเวลามีโปรโมชั่นลดราคาเป็นหลัก และอีกกลุ่มก็จะได้ใจกลุ่มที่อยากได้เครื่องเกมพกพาเช่นนี้อยู่แล้ว แต่อยากให้มันทำงานได้ดีก็น่าจะหันมาซื้อรุ่นนี้กันแน่นอน


Conclusion & Award

MSI Claw 8 AI+

ถึงจะใช้เวลาสักนิด แต่ MSI Claw 8 AI+ เครื่อง Gaming Handheld เวอร์ชั่นใหม่ก็กลับมาได้อย่างสวยงาม ได้ซีพียู Intel Core Ultra 200V Series ใหม่ที่ใช้งานได้ดีรอบด้านตั้งแต่โดยสารรถประจำทางแล้วเปิดเล่นเกม Steam ฆ่าเวลาไปได้เรื่อยๆ แล้วกลายร่างเป็น Mini PC ทำงานเล็กใหญ่ได้เป็นอย่างดีจนกระทั่งเดินทางกลับบ้าน เป็นอุปกรณ์เพื่อความสุขและใช้ทำมหากินได้สบายมาก

แม้ราคาจะสูงถึง 32,990 บาท จนบางคนอาจคิดถึงโน๊ตบุ๊คพรีเมี่ยมหรือเกมมิ่งเพราะอยากให้มันคุ้มกับเงินที่จ่ายไป แต่กลับกัน Gaming Handheld เหล่านี้จะได้เปรียบเรื่องความยืดหยุ่นและหยิบออกมาใช้ได้ง่ายกว่าแน่นอน ดังนั้นการจะตัดสินว่าจะมันดีหรือไม่ก็ต้องให้คุณผู้อ่านเป็นคนฟันธงว่าเจ้า Mini PC ติดจอยเกม Xbox เล่นเกม Steam ได้ทุกเวลามันเป็นคำตอบที่ใช่หรือเปล่า หากไตร่ตรองแล้วลงเอยกับคำว่า “ใช่” ก็ขอต้อนรับสู่โลกของเกมพีซีในมือของคุณ

Award

NBS award 4 Mobility

Best Mobility

ในแง่การหยิบจับพกพาง่ายและใช้งานได้ยืดหยุ่นนั้น MSI Claw 8 AI+ นับว่ากินขาด ทั้งแง่ขนาดตัวเครื่องใหญ่กำลังดี 8 นิ้ว หนัก 795 กรัม แต่ใช้งานได้เท่ากับเดสก์ท็อปพีซีสเปกแรงเครื่องหนึ่งก็คู่ควรกับรางวัลการพกพาง่ายแต่ทรงพลังเช่นนี้

award new performance

Best Performance

หลังจากใช้เวลาปรับแต่งชิปรุ่นใหม่มาหนึ่งปี Intel Core Ultra 7 258V ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พอจับคู่กับ RAM 32GB LPDDR5X และ SSD 1TB ในเครื่องก็สามารถเล่นเกมพีซีชั้นนำหรือเกมออนไลน์ได้สบาย หรือจะแปลงร่างเป็นคอมทำงานก็มีประสิทธิภาพสูงใช้ได้หายห่วงแน่นอน


Gallery

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Special Story

ไม่นานมานี้ทาง Lenovo ได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊คระดับพรีเมียมซีรีส์ใหม่อย่าง Lenovo Aura Edition AI PCs จากการร่วมมือเชิงลึกกับ Intel ตั้งแต่ระดับการออกแบบตัวเครื่องรวมถึงฟีเจอร์จนได้เป็นซีรีส์ใหม่นี้ซึ่งเน้นประสิทธิภาพสูงทรงพลังและยังใช้งานง่าย ในตอนนี้จะมี Yoga Aura Edition กับ ThinkPad X9 Aura Edition ติดตั้งซีพียู Intel Core Ultra...

รีวิว MSI

MSI Modern 15 F1M เรียบง่ายแต่ครบเครื่อง ดูดีมี Office แท้ติดมาให้พร้อมใช้งาน!! หลายคนมักจำชื่อและติดภาพว่า MSI คือแบรนด์เกมมิ่งชั้นนำขวัญใจเกมเมอร์ แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น นั่นเพราะโน๊ตบุ๊คทำงานอย่าง MSI Modern 15 F1M เองก็ไม่น้อยหน้ากัน ยิ่งโมเดลใหม่ของปี 2025 นี้ ทางบริษัทก็ปรับแต่งฮาร์ดแวร์หลายส่วนให้ดีขึ้นและคงฟีเจอร์น่าใช้เอาไว้ให้หลายส่วน เริ่มจากซีพียู Intel...

COMMART

ชี้เป้าโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Commart Unlock น่าโดน รวมมิตรทั้งเกมมิ่งและโน๊ตบุ๊คทำงานน่าสนใจ! นอกจากการรอโปรโมชั่นรายเดือนบนหน้าเว็บซื้อสินค้าออนไลน์แล้ว การมาซื้อในงานอีเว้นท์ต่างๆ ก็น่าสนใจ ซึ่งโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง Commart Unlock ครั้งนี้ก็เรียกว่าไม่น้อยหน้าการซื้อออนไลน์แน่นอน เพราะนอกจากของสมนาคุณจากแบรนด์ชั้นนำแล้ว ยังมีส่วนลดเพิ่มเติมอีกมากมายรวมทั้งของสมนาคุณเพิ่มเติมอีกเพียบ เรียกว่าซื้อโน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่องแต่ได้ของแถมอีกจนต้องพึ่งพาบริษัทขนส่งหรือต้องหารถแท็กซี่ขนของกลับบ้านกันบ้างแน่นอน นอกจากการช็อปโปรโมชั่น ภายในงาน Commart แต่ละครั้งก็จะมีโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่เปิดตัวให้จับจองลองเล่นภายในงาน, มีโน๊ตบุ๊คเรือธงให้จองสินค้าก่อนใครรวมไปถึงได้ดูสินค้าตัวจริงก่อนรับกลับบ้านได้ ไม่ต้องมาลุ้นเวลารับสินค้าว่าทางขนส่งจะทำคอมเครื่องใหม่ของเราเสียหรือมีตำหนิตั้งแต่เปิดใช้งานครั้งแรกไหม ยิ่งไปกว่านั้นพอได้โน๊ตบุ๊คแล้วก็ยังหาซื้อ RAM, SSD...

รีวิว Lenovo

เกมไหนว่ากินสเปก Lenovo Legion Tab Gen 3 รับจบให้ เอาอยู่ 60 FPS ทุกเกมด้วย Snapdragon 8 Gen 3 ตัวโหด!! การรอคอยแม้จะใช้เวลาสักระยะจนแฟนคลับ Lenovo Legion บางคนเริ่มจะถอดใจ แต่ตอนนี้ Lenovo Legion Tab...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก