
ไม่นานมานี้ทาง Lenovo ได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊คระดับพรีเมียมซีรีส์ใหม่อย่าง Lenovo Aura Edition AI PCs จากการร่วมมือเชิงลึกกับ Intel ตั้งแต่ระดับการออกแบบตัวเครื่องรวมถึงฟีเจอร์จนได้เป็นซีรีส์ใหม่นี้ซึ่งเน้นประสิทธิภาพสูงทรงพลังและยังใช้งานง่าย ในตอนนี้จะมี Yoga Aura Edition กับ ThinkPad X9 Aura Edition ติดตั้งซีพียู Intel Core Ultra 200V Series ฉบับปรับแต่งมาให้เข้ากับฮาร์ดแวร์ของทางบริษัทเป็นพิเศษรวมทั้งซอฟท์แวร์ AI ต่างๆ อีกหลายอย่าง ด้านวิธีแบ่งแยกระหว่างโน๊ตบุ๊ค Lenovo รุ่นทั่วไปกับ Lenovo Aura Edition AI PCs เพียงสังเกตตรงแท่นวางข้อมือฝั่งซ้ายจะเห็นว่าทางบริษัทยิงเลเซอร์สลักคำว่า “Aura Edition” เอาไว้ให้มองเห็นได้ชัดเจนและไม่ติดสติกเกอร์ใดๆ เพิ่มเข้ามายกเว้นโลโก้ Intel เท่านั้น
จุดเด่นร่วมของ Lenovo Aura Edition ทุกรุ่น คือ มีกำลังประมวลผล AI รวมสูงสุด 120 TOPS จึงผ่านมาตรฐานเป็น Copilot+ PC ของทาง Microsoft โดยปริยาย รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be และติดตั้งฟีเจอร์ Smart ต่างๆ มาให้เรียกใช้งานและแก้ปัญหาจิปาถะระหว่างการใช้งานได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียเวลารอคิวติดต่อ Call Center ก็ยังได้
สรุปประเด็น Lenovo Aura Edition AI PCs
- Lenovo Aura Edition AI PCs เป็นชื่อเรียกเฉพาะสำหรับโน๊ตบุ๊คตระกูล Yoga และ ThinkPad ใหม่
- ฟีเจอร์ Smart ใน Lenovo Aura Edition AI PCs มี 4 อย่าง ได้แก่ Smart Modes, Smart Share และ Smart Care ซึ่งมีบทบาทแตกต่างกันไป
- นอกจาก Samrt features ต่างๆ ก็มีซอฟท์แวร์อย่าง Lenovo AI Now พัฒนาจาก Llama AI ของ Meta มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลายแบบทั้ง Chat สั่งปรับแต่งโหมดการทำงาน, สรุปเนื้อหาจากเอกสารต่างๆ ฯลฯ โดยรวบรัด ช่วยประหยัดเวลาผู้ใช้ไปได้มาก
- ซีพียู Intel Core Ultra 200V Series ใน Lenovo Aura Edition AI PCs เป็นแบบมี RAM ฝังมาในตัวแบบ MOP (Memory On Package) อัปเกรดเพิ่มภายหลังไม่ได้

สรุปงาน Lenovo Aura Edition AI PCs มีอะไรใหม่และน่าสนใจบ้าง?
- Lenovo Aura Edition AI PCs คืออะไร?
- จุดเด่นร่วมของ Lenovo Aura Edition มีอะไรบ้าง?
- จุดเด่นของ Lenovo Yoga กับ ThinkPad Aura Edition
- โน๊ตบุ๊คที่เป็น Aura Edition มีรุ่นใดบ้าง?
Lenovo Aura Edition AI PCs คืออะไร?

คำจำกัดความฉบับเข้าใจง่ายของ Lenovo Aura Edition AI PCs คือ โน๊ตบุ๊คพรีเมียมยุคใหม่จากการร่วมมือระหว่าง Lenovo กับ Intel เพื่อตอบโจทย์ยุค AI ให้เจ้าของใช้มันทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งข้อดีของการใช้ซีพียู Intel Core Ultra 200V Series มีข้อดีหลายอย่างและถ้าเทียบกับรุ่นเก่าก็มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งข้อดีจะมีดังนี้
- ชิปเซ็ตมีประสิทธิภาพสูง เทียบกับซีพียูสถาปัตยกรรม x86 ทั่วไปแล้ว P-Core มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 14% และ E-Core ประหยัดพลังงานกว่าเดิม 50%
- ตัวชิปเซ็ตใช้ AI ช่วยจัดการพลังงานให้ใช้ได้นานสูงสุดถึง 34 ชม.
- จีพียู Intel Arc Graphics ใหม่มีพลังประมวลผลกราฟิคดีกว่าเดิม 1.5 เท่า
- มีกำลังประมวลผล AI รวมสูงถึง 120 TOPS ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 และ Thunderbolt 4 ในตัว
- ชิปเซ็ต Intel Core Ultra 200V Series มีผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ (ISV) รองรับมากกว่า 100 แห่ง ใช้งานฟีเจอร์ AI ได้มากกว่า 400 อย่าง

นอกจากประสิทธิภาพแล้ว ด้านการรักษาความปลอดภัยก็ดีไม่แพ้กันเพราะซีพียู Intel ใน Lenovo Aura Edition AI PCs ก็รองรับ Intel vPro Enterprise ช่วยรักษาความปลอดภัยระดับฮาร์ดแวร์ ใช้ AI ป้องกันการเจาะระบบด้วยเทคโนโลยี Intel TDT (Intel Threat Detection Technology) ไว้สแกนเช็คซอฟท์แวร์ภายในโน๊ตบุ๊คแบบเชิงลึกและป้องกันการโจมตีแบบไร้ไฟล์ แถมช่วยจัดการ Workload ต่างๆ ให้โน๊ตบุ๊คทำงานได้ดีกว่าเดิม
ด้านการบำรุงรักษามีระบบ Remote ช่วยส่งการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุหรือถ้าต้องการให้ฝ่ายไอทีเข้ามาช่วยจัดการคอมให้ทำงานดีขึ้นหรือใช้งานไม่ได้ด้วย Intel Active Management Technology (Intel AMT) เปิดให้เชื่อมต่อทางไกลให้ฝ่ายไอทีจัดการปรับแต่งและอัปเดตไดรเวอร์, จัดการไฟล์ภายใน, สั่งเปิดโน๊ตบุ๊คและแพทช์ระบบนอกเวลาใช้งานปกติ รวมทั้งเพิ่มลดจำนวนคอมพิวเตอร์ภายในบริษัทได้ตลอดเวลา ช่วยให้จัดการจำนวนอุปกรณ์ได้สะดวกขึ้นโดยไม่ต้องนั่งอยู่หน้าเครื่องก็ได้
จุดเด่นร่วมของ Lenovo Aura Edition มีอะไรบ้าง?
Smart Mode ตั้งโหมดตัวเครื่องให้เข้าที่ ทำงานไร้สะดุด

“โน๊ตบุ๊คในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูง แต่ถ้าผู้ใช้ไม่รู้ว่าตั้งค่าหรือเปิดใช้งานอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์” เป็นแนวคิดตั้งต้นของฟังก์ชั่นลัดอันนี้ โดยให้ผู้ใช้กดคีย์ลัดเพียงครั้งเดียวแล้วเปลี่ยนโหมดตัวเครื่องในทันที ไม่ต้องไปตามหาการตั้งค่าภายในเครื่องให้วุ่นวาย ซึ่งวิศวกรของ Lenovo นั้นได้เลือกและปรับแต่งโหมดมาให้ใช้ถึง 5 แบบ ได้แก่
- Shield Mode – ใช้ AI ผสานงานกับกล้องหน้าและเซนเซอร์อินฟาเรดตรวจจับว่ามีผู้อื่นมองหน้าจอของเราอยู่หรือไม่และจัดการเบลอภาพหน้าจอพร้อมแจ้งเตือนเจ้าของเครื่องในทันที
- Attention Mode – เปิด Focus session ของ Windows 11 ไว้ตัดการแจ้งเตือนจากแอปฯ และโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ให้โฟกัสกับงานตรงหน้าได้ดียิ่งขึ้น
- Collaboration Mode – โหมดสำหรับการประชุมงานออนไลน์ มีฟังก์ชั่นตัดและเปลี่ยนฉากหลัง, ปรับเฟรมภาพให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ในแง่การทำงานจะเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการรับภาพจาก ISP ของกล้องเข้าสู่ไดรเวอร์กล้องเว็บแคมแล้วส่งต่อไปประมวลผลใน Lenovo View DMFT ให้ภาพจากกล้องดียิ่งขึ้นก่อนส่ง Process ต่อให้ Windows Studio Effect และ NPU จัดการก่อนจะแสดงผลในโปรแกรมประชุมงานออนไลน์ในขั้นตอนสุดท้าย
- Power Mode – ฟังก์ชั่นปรับโหมดตัวเครื่องเพื่อจัดการพลังงาน ยืดระยะเวลาใช้งานด้วยแบตเตอรี่ให้นานขึ้นหรือเร่งกำลังประมวลผลเต็มที่โดยอัตโนมัติ ตัวเครื่องจะตรวจจับจากพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แล้วเปลี่ยนโหมดให้หรือกดเปลี่ยนโหมดตรงหน้าต่างของโปรแกรมได้ทันที
- Wellness Mode – เป็นระบบตรวจจับพฤติกรรมการใช้โน๊ตบุ๊คด้วย AI หากผู้ใช้ทำงานอยู่หน้าคอมเป็นเวลานานแล้ว AI จะส่งการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้หยุดใช้งานแล้วเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นสักครู่ก่อนค่อยกลับมาทำงานต่อ เพื่อป้องกันและลดโอกาสเกิด Office syndrome ลง ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นในระยะยาว
นอกจากการเลือกปรับโหมดเปลี่ยนการตั้งค่าแบบลัดในหน้าแรกของซอฟท์แวร์ Smart Modes แล้ว ถ้าจะตั้งค่าโดยละเอียดก็สามารถเปิดเข้าไปในโปรแกรม Lenovo Vantage เพื่อลงรายละเอียดเพิ่มเติมได้อีก ช่วยให้ Lenovo Aura Edition AI PCs เครื่องนั้นเหมาะกับนิสัยการใช้งานของเรามากยิ่งขึ้น
Smart Share เพียงเคาะก็เชื่อมต่อ ส่งข้อมูลง่ายกว่าเดิม!

Smart Share เป็นโปรโตคอลรับส่งข้อมูลระหว่างสมาร์ทโฟน Android หรือ iOS กับโน๊ตบุ๊ค Lenovo Aura Edition AI PCs ได้เพียงเอามือถือเคาะขอบด้านข้างขวาของหน้าจอเท่านั้น พอเซนเซอร์และ AI ตรวจจับรูปแบบการเคาะเสร็จจะเปิดหน้าต่างสำหรับโหลดภาพจากมือถือเข้าคอมได้ทันที ซึ่งระบบเบื้องหลังจะใช้ Bluetooth BLE กับ WebRTC ทำงานร่วมกับซอฟท์แวร์ Intel Unison ซึ่งเป็นโปรแกรมเบื้องหน้าให้เจ้าของใช้งานได้สะดวก
ฟังก์ชั่นนี้ในช่วงตั้งต้น ทีมวิศวกร Lenovo และ Intel ตั้งใจจะใช้วิธีตรวจจับเสียงเคาะด้วย Ultrasound ซึ่งใช้กับสมาร์ทโฟน Android ได้ แต่ iOS จะไม่รองรับจึงไม่เหมาะนักและไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ในวงกว้าง จึงเปลี่ยนมาใช้ระบบ Bluetoth BLE ซึ่งครอบคลุมกว่าแทน เมื่อเอามือถือของเราเคาะด้านข้างหน้าจอแล้ว ในช่วงเสี้ยววินาทีมือถือกับโน๊ตบุ๊คจะตรวจจับได้ว่ามีอีเว้นท์ดังกล่าวแล้วส่งการแจ้งเตือน (Notify) และยืนยัน (Verify) ระหว่างกันเพื่อยืนยันว่าเกิดอีเว้นท์การเคาะดังกล่าวจริง จากนั้นจึงเปิดหน้าต่างซอฟท์แวร์ขึ้นมาให้ดึงภาพจากมือถือมาใช้งานได้ทันที
จากการทดสอบใช้งานจริงในอีเว้นท์ Lenovo Aura Edition AI PCs ฟีเจอร์นี้ทั้งตรวจจับได้รวดเร็วมาก เพียงเคาะมือถือแล้วโน๊ตบุ๊ค Lenovo เครื่องทดสอบก็เปิดหน้าต่าง Gallery รวมภาพภายขึ้นมาในทันที ภาพมีขนาดใหญ่พอมองเห็นได้ชัดเจนและโหลดมาใช้ในคอมได้ง่ายเพียง Drag & Drop เท่านั้น แต่ข้อสังเกตคือฟีเจอร์นี้ยังส่งภาพได้ความละเอียดระดับ HD เท่านั้น ยังไม่ใช่ความละเอียดสูงเหมือนการโอนไฟล์ผ่านระบบ Bluetooth ตามปกติหรือสาย USB และยังกำหนดความละเอียดของภาพไม่ได้ เชื่อว่าทั้งสองบริษัทจะมีการปรับแต่งและพัฒนาให้ฟังก์ชั่นนี้สามารถส่งไฟล์ภาพความละเอียดสูงขึ้นได้ในอนาคต
Smart Care ดูแลคอมได้ง่ายๆ เหมือนมีผู้เชี่ยวชาญอยู่ด้วย!

ถึงจะมีประกัน Premium Care Suite หรือ Premium Care Plus ติดมากับ Lenovo Aura Edition AI PCs ก็จริง แต่ถ้าเกิดปัญหาต้องการความช่วยเหลือแล้วโทรเข้าหา Call Center ย่อมใช้เวลารอสายเพื่อสอบถามและแก้ปัญหาแทบทุกคน แม้ปัญหานั้นจะแก้ได้ด้วยตัวเองภายใน 5 นาทีก็ตาม ดังนั้นทางวิศวกรของ Lenovo จึงออกแบบให้ AI ภายใน Lenovo Vantage ช่วยแนะนำผู้ใช้ให้แก้ปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองและยังคงช่องทางการติดต่อกับ Lenovo เอาไว้ให้เผื่อกรณีปัญหานั้นใหญ่เกินความสามารถก็ยังติดต่อให้ช่างเข้ามาช่วยดูแลได้
Lenovo AI Now ซอฟท์แวร์ AI เพียงพิมพ์สั่งก็ตั้งค่าเครื่องได้ ทำอะไรก็ฉลาด เชื่อมต่อ GPT-4O ได้!

ใน Lenovo Aura Edition AI PCs จะมีโปรแกรม AI อย่าง Lenovo AI Now ติดตั้งมาให้ ใช้ Llama AI ของ Meta เป็นพื้นฐานแล้วปรับแต่งให้กลายเป็นโปรแกรมในรูปแบบของ Lenovo เอง ทำงานแบบ On-device ประมวลผลคำสั่งทั้งหมดภายในเครื่องแทบทั้งหมดเพื่อความเป็นส่วนตัวหรือจะเชื่อมใช้งานร่วมกับระบบ Cloud process เพื่อความรวดเร็วก็ได้ หน้า UI เรียบง่ายไม่ต้องเสียเวลาทำความเข้าใจมากนักและมีฟังก์ชั่นทั้งหมด 5 อย่างหลัก คือ
- Local Chat – หน้าช่องแชตสำหรับพูดคุยกับ AI Assistant ได้โดยตรง เริ่มต้นจะมี Prompt แนะนำ (Prompt recommendations) ไว้แนะนำผู้ใช้ว่าสามารถสั่งปัญญาประดิษฐ์ทำอะไรได้บ้าง ไม่ว่าจะเขียนบทความโดยอิงกับข้อมูลของเรา, ขัดเกลาเนื้อหาในบทความที่กำหนดให้ดีขึ้น หรือปรับเปลี่ยนการตั้งค่าตัวเครื่องด้วยการพิมพ์แชตบอกก็ได้เช่นกัน
- Knowledge Assistant – หน้ารวมข้อมูลเอกสารทั้งหมดภายในเครื่อง สามารถนำเอกสารเข้ามาให้ AI สรุปเนื้อหาให้รวบรัดเข้าใจง่าย สามารถสั่ง AI สรุปเนื้อหาในเอกสารหลายฉบับได้พร้อมกัน ไม่ต้องแยกและเนื้อความจะเรียบเรียงให้อ่านเข้าใจได้ง่าย
- PC Assistant – หน้าแชตสั่ง AI ให้ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าตัวเครื่อง มี Prompt recommendations อิงจากพฤติกรรมการใช้งานของเราขึ้นมาแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนโหมดการทำงานได้ในทันทีไม่ต้องพิมพ์สั่ง AI ใหม่ทุกครั้งก็ได้ รวมทั้งเช็คสเปกโน๊ตบุ๊คของเราได้ด้วย
- Cloud Chat – ทำงานเหมือนระบบ Local Chat แต่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วใช้ Cloud-based AI ช่วยหาคำตอบต่างๆ ได้ สามารถเชื่อมต่อ GPT-4O mini เพื่อประมวลผลข้อมูลทั่วไปในชีวิตประจำวันได้แต่จำกัด 30 ครั้ง/วัน หรือจะใช้ GPT-4O ก็ได้แต่จำกัด 10 ครั้ง/วัน
- Explore – รวมเคล็ดลับแนะนำการใช้งาน Lenovo AI Now ให้มีประสิทธิภาพและสะดวกขึ้นไว้
จุดเด่นของ Lenovo Yoga กับ ThinkPad Aura Edition

โน๊ตบุ๊คที่เป็น Lenovo Aura Edition AI PCs ปัจจุบันมี 2 ซีรีส์ ได้แก่ Lenovo ThinkPad เริ่มต้นตำนานมาตั้งแต่ปี 1992 จนถึงรุ่นปัจจุบันอย่าง ThinkPad X9 15 Aura Edition แม้รุ่นนี้จะไม่มีปุ่ม Trackpoint แบบในอดีตแล้วก็ตาม แต่ประสิทธิภาพ, ฟีเจอร์และความแข็งแรงทนทานก็ยังครบเครื่องเท่าเดิม ซึ่งในงานอีเว้นท์ครั้งนี้ คุณ Yasumichi Tsukamoto รองประธานฝ่ายออกแบบและพัฒนาสินค้ามาเล่าถึงแนวคิดและหลักการออกแบบ ThinkPad แต่ละรุ่นว่าเป็นอย่างไร จึงขอสรุปความน่าสนใจเอาไว้ดังนี้
- Lenovo ยึดหลักว่า ThinkPad ทุกรุ่นต้องมีความแข็งแรงทนทาน, คุณภาพสูงและปลอดภัยทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์เสมอซึ่งเป็นจุดแข็งและเจ้าของ ThinkPad คาดหวังอยู่เสมอ
- ในทีมพัฒนาจะมีวิศวกรอาวุโสสำหรับควบคุมดูองค์รวมโปรเจค 1 ท่าน และมีวิศวกรรุ่นใหม่หลากหลายคนมาร่วมมือกันพัฒนาและเสนอไอเดียใหม่
- การพัฒนา ThinkPad ทุกรุ่น จะมีการเก็บข้อมูล Insight, Trend ใหม่ๆ มาปรับใช้เสมอรวมทั้งเปิดรับความคิดเห็นจากวิศวกรรุ่นใหม่ๆ ว่าต้องการให้โมเดลถัดไปมีฟีเจอร์และฟังก์ชั่นใดเพิ่มเข้ามา
- หลังจากขั้นตอนรวบรวมข้อมูลก่อนเริ่มพัฒนาเสร็จแล้ว จะนำไอเดียดังกล่าวมาวิจัยดูความเป็นได้ว่าสามารถนำไปใช้ได้จริงหรือไม่และเหมาะสมหรือเปล่าก่อนนำมาใช้จริง
- เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาตัวเครื่อง ทางทีมวิศวกรจะคำนึงถึงทุกองค์ประกอบตั้งแต่การเลือกวัสดุทำเป็นฐานตัวเครื่อง, วัสดุหุ้มตัวเครื่องรวมถึงทิศทางการหุ้มเครื่อง ฯลฯ เพื่อความแข็งแรงและสวยงาม
- ThinkPad X9 15 Aura Edition และ Lenovo ThinkPad X1 Carbon เริ่มต้นพัฒนาร่วมกับ Intel มาตั้งแต่ต้น โดยเรียงลำดับเวลาตามแต่ละปีจะเป็นดังนี้
- ปี 2022 เริ่มจากการรวมไอเดียและเทคโนโลยีเพื่อนำมาใช้งานจริง
- ปี 2023 เริ่ม Workshop พัฒนาชิ้นส่วนต่างๆ และออกแบบระบบระบายความร้อน
- ปี 2024 ปรับแต่งระบบแบตเตอรี่แล้วเปิดตัว ThinkPad X1 Carbon Gen 13 Aura Edition ครั้งแรกในงาน IFA 2024
- เปิดตัว ThinkPad X9 14/15 Gen 1 Aura Edition ในงาน CES 2025

- เมนบอร์ดของ Lenovo ThinkPad รุ่นใหม่พัฒนาร่วมกับ Intel ใช้ดีไซน์แบบตัวแผ่นวงจรความหนาแน่นสูง จึงลดเลเยอร์แผ่นปริ้นท์ PCB จาก 10-layer เหลือ 8-layer ได้ ทำให้น้ำหนักเบาลง
- ชุดระบายความร้อน Flex Cooling Gen 2 ออกแบบให้ดันลมอุณหภูมิสูงออกด้านใต้ขอบล่างหน้าจอ ลดเสียงรบกวนจาก 22dB เหลือ 17dB ได้ 5dB ทำอุณหภูมิพื้นผิวตัวเครื่องได้เย็นลง 1.7 องศาเซลเซียส จาก 37.2 เหลือ 35.5 องศาเซลเซียสเท่านั้น
- วิธีการติดลำโพงของ ThinkPad X9 15 Aura Edition เปลี่ยนจากการขันน็อตเป็นเทปตีนตุ๊กแก (Fiber Lock) ทำให้แกะเปลี่ยนได้ง่ายและได้เสียงดังกว่าเดิม 7% เนื้อเสียงมีมิติและเบสดีขึ้นมาก

ด้าน Lenovo Yoga Slim Aura Edition นอกจากได้ฟีเจอร์ Smart Modes และโปรแกรม AI ติดตั้งมาให้ใช้งานแล้ว จุดเด่นของซีรีส์นี้คือความสวยงาม, นำเสนอฟีเจอร์น่าสนใจแบบใหม่เข้ามาและใช้วัสดุทำฝาหลังมาถึง 3 แบบ ได้แก่
- อลูมิเนียม – ใช้เศษอลูมิเนียมเหลือทิ้งในอุตสาหกรรมต่างๆ นำมารีไซเคิลแล้วประกอบเข้ากับ Yoga Series โดยมีอัตราส่วนผสมวัสดุรีไซเคิล 50%
- หนังวีแกนผสมซิลิคอน (Silicon vegan leather) – ให้สัมผัสจับถือได้ดี ป้องกันแบคทีเรียระดับเครื่องมือแพทย์และเช็ดทำความสะอาดได้ ในขั้นตอนการผลิตจะไม่ใช้น้ำ, ตัวทำละลายและไม่ก่อมลพิษในขั้นตอนการทำ ผลิตจากซิลิคอนบริสุทธิ์จากธรรมชาติผ่านความร้อน 1,800 องศาเซลเซียสจึงผ่านขั้นตอนทางเคมีจนเปลี่ยนสภาพเป็นซิลิคอนโพลีเมอร์
- กระจก – เป็นกระจกรีไซเคิลเช่นกัน เมื่อนำมาผ่านกระบวนการจนขึ้นรูปเป็นฝาหลังโน๊ตบุ๊คได้แล้ว สัมผัสเวลาจับถือจะแตกต่างจากฝาหลังโน๊ตบุ๊คทั่วไปและสะท้อนแสงสีได้สวยงามขึ้นด้วย
นอกจากฝาหลังแล้ว Yoga Slim Aura Edition ก็จะมีฟีเจอร์แยกเฉพาะของแต่ละรุ่นไป ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอทัชสกรีนพร้อมปากกาสไตลัส, ระบบการจัดการพลังงานดีใช้งานได้นาน, หน้าจอ PureSight Pro แสดงขอบเขตสีกว้างและคมชัด มีน้ำหนักเบาพกพาง่ายใส่ฟีเจอร์มามากมายแถมดีไซน์ตัวเครื่องสวยโดดเด่นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอีกด้วย
โน๊ตบุ๊คที่เป็น Aura Edition มีรุ่นใดบ้าง?
ปัจจุบันโน๊ตบุ๊ค Lenovo Aura Edition AI PCs ถูกจัดอยู่ในระดับพรีเมียมและมีทั้งหมด 2 ซีรีส์หลัก ได้แก่ Lenovo Yoga Aura Edition กับ Lenovo ThinkPad X9 Aura Edition เท่านั้น โดยแต่ละรุ่นย่อยจะมีสเปกดังนี้
Lenovo Yoga Aura Edition
Model & Specification | Yoga Slim 7i Aura Edition (15”, Gen 9) | Yoga Slim 7i Aura Edition (14″, Gen 10) | Yoga 9i 2-in-1 Aura Edition (14”, Gen 10) | Yoga Pro 7i Aura Edition (14”, Gen 10) |
CPU | Intel Core Ultra 7 256V แบบ 8 คอร์ 8 เธร็ด ความเร็ว 2.2~4.8GHz | Intel Core Ultra 5 226V แบบ 8 คอร์ 8 เธร็ด ความเร็ว 2.1~4.5GHz | Intel Core Ultra 7 256V แบบ 8 คอร์ 8 เธร็ด ความเร็ว 2.2~4.8GHz | Intel Core Ultra 7 255H แบบ 16 คอร์ 16 เธร็ด ความเร็ว P-Core 2.0~5.1GHz ความเร็ว E-Core 1.5~4.4GHz |
GPU | Intel Arc Graphics 140V | Intel Arc Graphics 130V | Intel Arc Graphics 140V | Intel Arc Graphics 140T |
Storage | M.2 NVMe SSD 512GB สูงสุด M.2 NVMe 1TB | M.2 NVMe SSD 512GB สูงสุด M.2 NVMe 1TB | M.2 NVMe SSD 512GB สูงสุด M.2 NVMe 1TB | M.2 NVMe SSD 1TB |
Memory | 16GB LPDDR5X 8533MHz สูงสุด 32GB LPDDR5X | 16GB LPDDR5X 8533MHz สูงสุด 32GB LPDDR5X | 16GB LPDDR5X 8533MHz สูงสุด 32GB LPDDR5X | 32GB LPDDR5X 8533MHz |
Display | Touchscreen 15.3″ 2.8K (2880*1800) IPS Refresh Rate 120Hz 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR 400 | 14″ WUXGA (1920*1200) OLED 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR 400 | Touchscreen 14″ 2.8K (2880*1800) OLED Refresh Rate 120Hz 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR True Black 1000 | Touchscreen 14.5″ 3K (3000*1872) OLED Refresh Rate 120Hz 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR True Black 600 |
Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home 2024 | Windows 11 Home Microsoft Office Home 2024 | Windows 11 Home Microsoft Office Home 2024 | Windows 11 Home Microsoft Office Home 2024 |
Connectivity | Thunderbolt 4*2 USB-A 3.2*1 HDMI 2.1*1 Audio combo*1 Wi-Fi 7 Bluetooth 5.4 | Thunderbolt 4*2 USB-A 3.2*1 MicroSD Card Reader*1 HDMI 2.1*1 Audio combo*1 Wi-Fi 7 Bluetooth 5.4 | Thunderbolt 4*2 USB 4.0 Type-C Full Function*1 USB-A 3.2*1 Audio combo*1 Wi-Fi 7 Bluetooth 5.4 | Thunderbolt 4*2 USB-A 3.2*2 SD Card Reader*1 HDMI 2.1*1 (10K 30Hz) Audio combo*1 Wi-Fi 7 Bluetooth 5.4 |
Security | Webcam 1080p IR Camera | Webcam 5MP IR Camera | Webcam 5MP IR Camera | Webcam 5MP IR Camera |
ราคาเริ่มต้น | 43,092 บาท | 29,694 บาท | 51,710 บาท | 42,892 บาท |
สเปกในตารางของ Lenovo Yoga Aura Edition เป็นระดับตั้งต้นเท่านั้น หากสั่งซื้อในหน้าเว็บไซต์จะปรับแต่งได้อีกพอสมควร ทั้งเปลี่ยนซีพียู Intel ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น, เพิ่มความจุ M.2 NVMe SSD และเลือกความละเอียดหน้าจอและรูปแบบได้ว่าเป็นหน้าจอธรรมดาหรือทัชสกรีนก็ได้

อย่างไรก็ตาม RAM ภายในเครื่องจะแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป เนื่องจาก Intel Core Ultra 200V Series สามารถฝังหน่วยความจำไว้ในตัวชิปเซ็ตแบบ MOP (Memory On Package) ได้ จึงไม่มีเม็ดแรมอยู่บนเมนบอร์ดแต่แปรผันตามซีพียูที่เลือก วิธีสังเกตในหน้าปรับแต่งสเปกตรงบรรทัดล่างในวงเล็บจะมีคำว่า “/ 16GB MOP” หรือ “/ 32GB MOP” นั่นคือขนาดของ RAM ในซีพียู และในบางรุ่นย่อยเวลาเลือกปรับแต่งสเปก อาจได้ Intel Core Ultra รุ่นเดิมแต่มี MOP RAM เป็น 32GB ได้ เพียงเพิ่มเงินอีกเล็กน้อย
เวลาซื้อเครื่องตามหน้าร้านค้าทั่วไป มักได้สเปก RAM 16GB LPDDR5X มาใช้งานเป็นพื้นฐาน แต่ถ้างานของใครต้องใช้ RAM เยอะเป็นพิเศษก็ขอแนะนำให้สั่งแบบปรับแต่งสเปกเป็นพิเศษผ่านทางหน้าเว็บไซต์ให้ได้ RAM 32GB LPDDR5X มาใช้ก็จะทำงานได้ดีขึ้น เปิดโปรแกรมเพิ่มได้อีกพอสมควร
Lenovo ThinkPad X9 Aura Edition

รุ่น/สเปก | ThinkPad X9 14 Aura Edition (14″ Intel) | ThinkPad X9 15 Aura Edition (15″ Intel) |
CPU | Intel Core Ultra 5 226V แบบ 8 คอร์ 8 เธร็ด ความเร็ว 2.1~4.5GHz | Intel Core Ultra 5 226V แบบ 8 คอร์ 8 เธร็ด ความเร็ว 2.1~4.5GHz |
GPU | Intel Arc Graphics 130V | Intel Arc Graphics 130V |
Storage | M.2 NVMe SSD 256GB สูงสุด 2TB TLC | M.2 NVMe SSD 256GB สูงสุด 2TB TLC |
Memory | 16GB LPDDR5X 8533MHz สูงสุด 32GB LPDDR5X | 16GB LPDDR5X 8533MHz สูงสุด 32GB LPDDR5X |
Display | 14″ WXUGA (1920*1200) OLED 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR True Black 500 | 15.3″ 2.8K (2880*1800) OLED Refresh Rate 120Hz 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR True Black 600 |
Software | Windows 11 Home | Windows 11 Home |
Connectivity | Thunderbolt 4*2 HDMI 2.1*1 Audio combo*1 Wi-Fi 7 Bluetooth 5.4 | Thunderbolt 4*2 USB-A 3.2*1 HDMI 2.1*1 Audio combo*1 Wi-Fi 7 Bluetooth 5.4 |
Security | 1080P FHD RGB+IR Fingerprint reader | 8MP IR Camera Fingerprint reader |
ราคาเริ่มต้น | 48,489 บาท | 54,594 บาท |
สังเกตว่าสเปกของ Lenovo ThinkPad จะใกล้เคียงกับ Yoga Aura Edition ทั้งซีพียู Intel Core Ultra 200V มี RAM 16~32GB LPDDR5X ฝังในตัวชิปเซ็ตแบบ MOP มาให้ แต่ต่างกันตรงพอร์ตเชื่อมต่อจะมีน้อยกว่าและเป็น Thunderbolt 4 กับ USB-A 3.2 เป็นหลัก ดังนั้นขอแนะนำให้หา USB-C Multiport adapter มาต่อเพิ่มพอร์ตสักหน่อยก็จะใช้งานได้สะดวกขึ้น ส่วนจุดสังเกตคือ M.2 NVMe SSD มีความจุน้อยเพียง 256GB จึงมีพื้นที่พอให้ติดตั้งโปรแกรมได้ระดับหนึ่ง ซึ่งบางคนเลือกจะซื้อมาแล้วเปลี่ยน SSD ด้วยตัวเองหรือจะสั่งหน้าเว็บ Lenovo เพิ่มเงินอีก 700 บาท ให้ได้ M.2 NVMe SSD 512GB หรือ 2,700 บาท เอาความจุ 1TB มาใช้เลยก็เพียงพอใช้งานแล้ว
แต่จุดแข็งของ ThinkPad X9 Aura Edition อยู่ในรุ่นจอ 15.3″ จะได้กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ควบคู่กับกล้องอินฟาเรดสำหรับสแกนใบหน้าติดตั้งมาให้ ซึ่ง Lenovo เคลมว่าเป็นเซนเซอร์คุณภาพสูงแบบเดียวกับในสมาร์ทโฟนเพื่อให้ประชุมงานออนไลน์ได้ภาพคมชัดยิ่งขึ้น ผสานกับอัลกอริธึมกล้องของทางบริษัทแล้วจะช่วยให้ใบหน้าเจ้าของชัดเจนในทุกสถานการณ์และสภาพแสง นอกจากนี้ตัวเครื่องของ Lenovo ThinkPad เองก็ขึ้นชื่อด้านความแข็งแรงทนทานไม่เสียหายง่าย เหมาะกับคนต้องพกโน๊ตบุ๊คไปทำงานอกออฟฟิศเป็นประจำแล้วไม่ต้องกังวลว่าถ้าเก็บไม่ดีเครื่องจะเสียหายเลยสักนิด

จะเห็นว่าโน๊ตบุ๊ค Lenovo Aura Edition AI PCs ทั้ง Yoga Slim และ ThinkPad X9 นอกจากสเปกของฮาร์ดแวร์ระดับพรีเมี่ยมพร้อมชิปเซ็ต Intel Core Ultra 200V ใหม่แล้ว ต้องยกให้ฟีเจอร์กับซอฟท์แวร์ AI อย่าง Lenovo AI Now และ Smart Modes ไว้ช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าของใช้โน๊ตบุ๊คได้สะดวกและดึงศักยภาพของมันออกมาได้ดีขึ้นอย่างมาก จะใช้ทำงานปกติหรือใช้โปรแกรม AI ก็ทำงานได้ดีมาก เข้ากับยุคนี้ที่ปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตมากขึ้นเป็นอย่างมาก
แต่เชื่อว่าหลายคนกำลังตัดสินใจกันอยู่ว่าจะซื้อรุ่นไหนมาใช้เป็นคอมทำงานเครื่องใหม่ดี ขอแนะนำว่าถ้าต้องการโน๊ตบุ๊คดีไซน์สวยล้ำสมัยและลูกเล่นเยอะให้ไปดู Lenovo Yoga Slim Series แต่ถ้าเน้นความแข็งแรงทนทานเป็นใจความและมีฟีเจอร์พร้อมใช้งานให้ซื้อ ThinkPad Series จะอบโจทย์อย่างแน่นอน แต่จะซื้อรุ่นไหนก็ตาม โน๊ตบุ๊ค Lenovo Aura Edition AI PCs แต่ละรุ่นก็มีข้อดีและความน่าใช้ในแบบของมันทั้งนั้น
Photo Credits: Lenovo
บทความที่เกี่ยวข้อง



