6 eGPU 2025 การ์ดจอต่อภายนอก เพิ่มเฟรมเรต ให้เล่นเกมบนโน๊ตบุ๊คได้แบบลื่นๆ พร้อมใช้เล่นเกมได้ทันที
วันนี้ผมรวมเอา eGPU หรือกราฟิกต่อภายนอกมาแนะนำกัน 6 รุ่น แบบพร้อมใช้ ต่อสายใช้งานได้ทันที เอาใจคอเกมที่ใช้โน๊ตบุ๊ค และ Gaming Handheld แบบพกพา ราคาเริ่มที่หมื่นต้นๆ โดยที่ eGPU นี้เป็นกราฟิกต่อภายนอก ที่เป็น Box หรือกล่องใส่การ์ดจอ แล้วนำมาต่อเข้ากับพีซี โน๊ตบุ๊ค หรือ Gaming Handheld เพื่อช่วยให้คอมเหล่านี้เล่นเกมได้ดีขึ้นนั่นเอง
6 eGPU การ์ดจอต่อภายนอกพร้อมใช้ 2025
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือก eGPU:
- Thunderbolt:
- Thunderbolt 4: เป็นมาตรฐานปัจจุบันที่ External Graphic ส่วนใหญ่ออกแบบมาให้รองรับ มีแบนด์วิดท์เพียงพอสำหรับการ์ดจอระดับกลางถึงสูง (แบนด์วิดท์ 40 Gbps)
- Thunderbolt 5: คาดว่าจะเริ่มมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในปี 2025 (เปิดตัวปลายปี 2024) มีแบนด์วิดท์เพิ่มขึ้นเป็น 80 Gbps (120 Gbps ในบางกรณี) ทำให้สามารถรองรับการ์ดจอระดับ high-end ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ลดคอขวด และรองรับการแสดงผลความละเอียดสูง/เฟรมเรตสูงได้ดีกว่าเดิม
- GPU Compatibility:
- NVIDIA GeForce RTX Series: การ์ดจอ NVIDIA เป็นที่นิยมสำหรับ External Graphic เนื่องจากมีไดรเวอร์ที่เสถียรและรองรับเทคโนโลยีต่างๆ เช่น Ray Tracing และ DLSS
- AMD Radeon RX Series: การ์ดจอ AMD ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน มีประสิทธิภาพที่น่าสนใจในบางเกม และมีเทคโนโลยี FSR ที่เป็นคู่แข่งกับ DLSS
- GPU Generation: ควรเลือกรุ่น GPU ที่เป็นรุ่นล่าสุดหรือรุ่นถัดไป (ณ ปี 2025) เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ
- Enclosure Features:
- Power Supply (PSU): เลือก enclosure ที่มี PSU ที่มีกำลังไฟเพียงพอสำหรับการ์ดจอที่คุณต้องการใช้
- Cooling: ระบบระบายความร้อนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การ์ดจอทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เกิดความร้อนสูงเกินไป
- Connectivity: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า enclosure มีพอร์ตที่จำเป็น เช่น USB, Ethernet, และ DisplayPort
- Size and Portability: พิจารณาขนาดและน้ำหนักของ enclosure หากคุณต้องการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่
eGPU มีกี่รูปแบบ อย่างไรบ้าง?
1. Enclosure เปล่า (DIY eGPU):
- ข้อดี: อิสระในการเลือกส่วนประกอบทุกอย่างเอง ตั้งแต่ PSU, ระบบระบายความร้อน, การ์ดจอ, และแม้กระทั่งปรับแต่งเคสได้ตามใจชอบ
- ข้อเสีย: ต้องมีความรู้และทักษะในการประกอบและติดตั้งพอสมควร อาจต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเอง
- ตัวอย่างยี่ห้อ:
- ADT-Link: เน้น enclosure ขนาดเล็กและราคาประหยัด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- EXP GDC: มี enclosure หลากหลายรูปแบบให้เลือก รวมถึงรุ่นที่รองรับ M.2 NVMe
- Custom Builds: สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์ อาจเลือกซื้อเคสเปล่าจากร้านทั่วไปและปรับแต่งเอง
- ปี 2025: จะมี Enclosure เปล่าที่รองรับ Thunderbolt 5 ออกมามากขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้การ์ดจอรุ่นใหม่ล่าสุดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
2. eGPU ที่เน้นการพกพา:
- ข้อดี: ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งาน eGPU นอกสถานที่บ่อยๆ
- ข้อเสีย: มักมีข้อจำกัดด้านขนาดของ PSU และระบบระบายความร้อน ทำให้ไม่สามารถใช้กับการ์ดจอรุ่น high-end ได้
- ตัวอย่างยี่ห้อ/แนวคิด:
- GPD G1: เป็น eGPU ขนาดเล็กที่มี PSU ในตัว และมาพร้อมกับ AMD Radeon RX 7600M XT
- รอการพัฒนา: คาดว่าจะมีผู้ผลิตรายอื่นๆ พัฒนา eGPU ที่มีขนาดเล็กและประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบใหม่ เช่น Vapor Chamber หรือ Liquid Cooling
- ปี 2025: External Graphic ขนาดเล็กจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และรองรับ Thunderbolt 5 ทำให้สามารถเล่นเกมหรือทำงานกราฟิกหนักๆ ได้ในขณะเดินทาง
3. eGPU ที่มาพร้อมกับ Docking Station:
- ข้อดี: นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกแล้ว ยังช่วยเพิ่มพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ เช่น USB, Ethernet, HDMI, DisplayPort ทำให้แล็ปท็อปกลายเป็นเวิร์กสเตชันได้
- ข้อเสีย: มักมีราคาแพงกว่า eGPU ทั่วไป
- ตัวอย่างยี่ห้อ/แนวคิด:
- รอการพัฒนา: คาดว่าจะมีผู้ผลิตรายใหญ่ๆ เช่น Dell, HP, หรือ Lenovo พัฒนา eGPU ที่มาพร้อมกับ docking station โดยเฉพาะสำหรับแล็ปท็อปรุ่น high-end ของตนเอง
- ปี 2025: คาดว่า External Graphic ที่มาพร้อมกับ docking station ที่รองรับ Thunderbolt 5 และมีฟีเจอร์ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การชาร์จไฟแบบ PD (Power Delivery) ที่รวดเร็วขึ้น, การรองรับจอภาพความละเอียดสูงหลายจอ, และการเชื่อมต่อเครือข่ายที่เสถียรยิ่งขึ้น
4. eGPU ที่เน้นการใช้งานเฉพาะทาง:
- ข้อดี: ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะทาง เช่น การตัดต่อวิดีโอ, การสร้างโมเดล 3D, หรือการประมวลผล AI
- ข้อเสีย: อาจมีราคาแพง และไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
- ตัวอย่างยี่ห้อ/แนวคิด:
- Blackmagic eGPU: ออกแบบมาสำหรับการตัดต่อวิดีโอด้วยโปรแกรม DaVinci Resolve
- NVIDIA RTX A Series: ใช้การ์ดจอ NVIDIA RTX A Series ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพ เช่น CAD/CAM และการเรนเดอร์
- ปี 2025: คาดว่าจะมี External Graphic ที่เน้นการใช้งานเฉพาะทางมากขึ้น โดยใช้การ์ดจอและซอฟต์แวร์ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานนั้นๆ
1.AOOSTAR XG76XT
Specification
- GPU: Radeon RX 7600XT
- OCuLink: Yes
- Port: USB4, 1x HDMI, 2x DP, 1x USB-C
- Power: 330W
- Dimension: 20.5cm x 12xcm x 4cm
- Price: 619USD
สำหรับค่าย AOOSTAR นี้ ทำออกมาได้น่าสนใจ โดยเฉพาะดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย ในสไตล์ที่ทำมาสำเร็จรูป คือกล่องพร้อมกราฟิกที่ติดต้ังมาภายใน บอดี้ที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอย น้ำหนักราวๆ 1.12Kg เหมาะกับการพกพาใส่ในกระเป๋า รุ่นใหม่นี้ได้กราฟิก AMD Radeon RX 7600 XT ใส่มาในตัวด้วยเลย กับสเปคที่ไม่ธรรมดา GDDR6 8GB พร้อมพลังจาก Stream processor 2048 ชุดและมี CU 32 ชุดด้วยกัน พร้อมเทคโนโลยีที่มากับการ์ดค่ายนี้ ไม่ว่าจะเป็น AMD FSR 3.0 หรือ AMD SmartShift Max ก็ตาม เหมาะอย่างยิ่งกับคอเกมที่ต้องการพลังในการเร่งประสิทธิภาพเพื่อรีดเฟรมเรตจากโน๊ตบุ๊คพื้นฐาน หรือจะเป็นสายเกมที่เป็นแบบ Handheld ในปัจจุบัน อย่างเช่น ASUS Ally หรือ MSI Claw เป็นต้น
จุดเด่นสำคัญ คือ รองรับการเชื่อมต่อ OCuLink มาด้วย เพื่อเพิ่มแบนด์วิทธ์ในการส่งผ่านข้อมูล หรือเลือกเชื่อมเข้ากับ USB4 ได้ตามปกติ รองรับการจ่ายไฟขาเข้า 100W โดยมีชุดระบายความร้อน Ultra VC Cooling ซึ่งเป็นแผงฮีตซิงก์มีหน้าสัมผัสขนาดใหญ่ ประกบเข้ากับตัวชิปโดยตรง และพัดลมขนาดใหญ่ รองรับการ์ดจอในระดับ 150W ได้สบาย
รองรับการจ่ายไฟขาเข้า 100W โดยมีชุดระบายความร้อน Ultra VC Cooling ซึ่งเป็นแผงฮีตซิงก์มีหน้าสัมผัสขนาดใหญ่ ประกบเข้ากับตัวชิปโดยตรง กับเพลตที่ทำออกมาเป็นพิเศษ และพัดลมขนาดใหญ่ที่เป็นแบบ Turbofan มีใบพัดลมถึง 59 ใบด้วยกัน ในเว็บไซต์เคลมไว้ว่า ชุดระบายความร้อนนี้ รองรับได้ถึง 150W และยังมีเสียงรบกวนน้อยอีกด้วย การเชื่อมต่อทำได้ง่าย เพราะต่อเพาเวอร์ซัพพลาย 350W ที่ให้มา เข้ากับตัวเครื่องและต่อ USB4 เข้ากับโน๊ตบุ๊คหรือ Handheld จากนั้นก็สนุกกับการเล่นเกมได้แล้ว สนนราคาในต่างประเทศ 619USD
ข้อมูลเพิ่มเติม: AOOSTAR
2.ROG XG Mobile (2025)
Specification
- GPU: GeForce RTX 5090
- OCuLink: N/A
- Port: 2x TB5, 2x USB3.2 Gen2, 1x HDMI, 1x DP, 1x RJ-45
- Power: 330W
- Dimension: 20.8 x 15.5 x 2.96cm
- Price: N/A
เรียกว่าเป็การ์ดจอต่อภายนอก ที่มีกระแสมาตั้งแต่ CES2025 ที่ผ่านมา กับการแสดงศักยภาพให้เห็นกันในงาน โดยจัดว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ eGPU ในยุคนี้ ที่ได้รับการปรับปรุงตั้งแต่ การออกแบบบอดี้ การเชื่อมต่อ ไปจนถึงกราฟิกรุ่นใหม่อย่าง GeForce RTX 5090 ที่ถูกจัดใส่มาภายในอีกด้วย ทำให้ ROG XG นี้ ตอบโจทย์กลุ่มเกมเมอร์ที่ต้องการเพิ่มพลังในการรีดเฟรมเรตบนโน๊ตบุ๊ค เพื่อความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น การออกแบบที่เรียกว่าล้ำสมัย โครงสร้างที่เล็กลงจากรุ่นเดิม น้ำหนักน้อยกว่า 1Kg. กับตัวเครื่องที่มีขนาดประมาณฝ่ามือเท่านั้น ออกแบบมาให้มีขาตั้งด้านหลัง เพื่อการจัดวางได้ง่ายขึ้น ฝาหน้าแบบใส ให้พอมองเห็นภายใน การระบายความร้อน มาพร้อมเพลตทองแดง Vapor Chamber ที่เชื่อมต่อเข้ากับฮีตซิงก์และหน้าสัมผัส มีพัดลมดูดลมเย็นจากทางด้านหลัง เพื่อช่วยกระจายลมภายใน
มาพร้อมการเชื่อมต่อ Thunderbolt 5 ที่ให้แบนด์วิทธิ์ในการเชื่อมต่อข้อมูลได้แบบขั้นสุดระดับ 120Gbps ดังนั้นจึงให้การแสดงผล 8K หรือต่อจอ 4K 144Hz พร้อมกัน 3 จอได้ รองรับ PD 3.1 ในการชาร์จสูงสุด 140W ตัวเครื่องให้พอร์ตมาค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น TB5, USB 3.2, HDMO, DisplayPort ไปจนถึง RJ-45 และ SD Card Reader โดยเพิ่มไฟ RGB กับการซิงก์เข้ากับ ASUS AURA Sync มาอีกด้วย โดยที่ ROG XG มีระดับการใช้พลังงานอยู่ที่ 140W และใช้อแดปเตอร์ขนาด 330W ชาร์จเข้าสู่ตัวเครื่อง มีให้เลือก 2 โมเดลคือ NVIDIA® GeForce RTX™ 5090 Laptop และ
NVIDIA® GeForce RTX™ 5070 Ti Laptop GPU ซึ่งเป็นกราฟิกในกลุ่มโมบายโน๊ตบุ๊คด้วยกันทั้งคู่
ข้อมูลเพิ่มเติม: ROG XG
3.GDP G1
Specification
- GPU: Radeon RX 7600M XT
- OCuLink: Yes
- Port: 1x TB4, 3x USB3.2 Gen2, 1x HDMI, 2x DP
- Power: 330W
- Dimension: 22.5cm × 11.1cm × 3.0cm
- Price: 25,000 Baht
GDP G1 เปิดตัว External GPU รุ่นนี้ออกมาตั้งแต่ในช่วงปี 2024 แต่ก็ถือว่า ยังเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดี กับดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย และการเชื่อมต่อ Thunderbolt 4 และสนับสนุน OCuLink อีกด้วย โดยตัวเครื่องมาในไซส์ที่ค่อนข้างกระทัดรัด แม้ไม่เล็กเท่า RPG XG แต่ในแง่ของมิติก็มีความบาง พกพาได้สะดวก น้ำหนักเพียง 920 กรัมเท่านั้น กับเส้นสายลวดลายที่ออกแบบมาให้สอดคล้องกับการใช้งาน กับบอดี้แบบสี่้เหลี่ยมผืนผ้า มีช่องระบายอากาศด้านหน้า สามารถจัดวางได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง พร้อมลูกเล่นอีกมากมาย
กับฟีเจอร์อย่าง TGP Toggle Key ที่ช่วยให้สลับโหมดการเล่นได้ทั้งแบบ โหมด Silent ที่ช่วยลดเสียงรบกวน และใช้พลังงานน้อยลง 60W หรือจะเลือกโหมดประสิทธิภาพ กับค่าพลังงาน 100W เมื่อต้องการเล่นเกมที่หนักมากขึ้น ให้การเชื่อมต่อ OCuLink ในกรณีที่ใช้ร่วมกับพีซี ผู้ใช้สามารถต่อตัวแปลงที่เป็น M.2 NVMe เข้ากับเมนบอร์ดและใช้งานกับการ์ดแปลงอินเทอร์เฟสแบบ PCIe 3.0 x4 ในการต่อในโหมด OCuLink ที่ใช้ร่วมกับ USB4, Thunderbolt 4 และ DP ได้ทันที
โดยที่ GDP G1 มาพร้อมกราฟิก Radeon RX7600XT เรียกว่าเป็นกราฟิกระดับกลางๆ ซึ่งใช้อยู่ใน หลายๆ รุ่น ตอบโจทย์การเล่นเกมระดับ AAA ได้ดีในระดับหนึ่ง สามารถเข้ากันได้กับ ASUS AllyX และ MSI Claw ได้ ถ้ามองกันในแง่ของรูปลักษณ์และความสะดวกในการพกพาเพื่อใช้งานในที่ต่างๆ และเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ในหลายแพลตฟอร์ม GDP G1 ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย เคาะราคาในแอพบ้านเราประมาณ 21,000 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: GDP
4.AORUS Gaming Box
Specification
- GPU: GeForce RTX 4090
- OCuLink: Yes
- Port: 1x TB3, 2x USB3.2 Gen1 Type-A, 1x USB3.2 Gen1 Type-C, 2x HDMI, 2x DP
- Power: 850W
- Dimension: 18.9cm x 30.2cm x 17.2cm
- Price: 3,500USD
เป็นอีกหนึ่งค่ายที่นำ eGPU มาลุยตลาดเกมมิ่งทั่วโลกตั้งแต่ต้นปี 2024 ที่ผ่านมา ในชื่อของ Gaming Box จากทาง AORUS โดยก่อนหน้าก็มีโมเดลที่เป็น GeForce RTX 20 series และ RTX 30 series ในตัวท็อปๆ มาลงตลาด มาในเวอร์ชั่นล่าสุด ก็นำโมเดล GeForce RTX 4090 มาให้ได้ใช้งานกัน กับความพิเศษนั่นคือ มาพร้อมชุดระบายความร้อนแบบ All-in-One Cooling หรือชุดน้ำปิด มาเพิ่มความเสถียร เพื่อรีดพลังในการทำงานได้มากขึ้น พร้อมการเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 และแสงไฟ RGB มาในตัว เอาใจเกมเมอร์กันแบบสุดๆ
แต่บอดี้จะค่อนข้างต่างจาก External Graphic รุ่นที่เราทำคุยกันไป เพราะมาในแบบเคสขนาดกระทัดรัด ในลักษณะของ Mini-ITX ซึ่งเป็นเคสอลูมิเนียม โทนสีดำ มีโลโก้ AORUS ด้านหน้าเครื่้อง พร้อมช่องระบายอากาศด้านบน และด้านข้าง ภายในมาพร้อมเทคโนโลยี WaterForce ที่เป็นชุดน้ำปิดกับพัดลม 120mm. 2 ตัว เป่าอากาศให้กับ Radiator โดยมี Vapor Chamber แนบมากับหน้าสัมผัสของ GPU ก่อนจะส่งต่อให้กับปั้มน้ำ เพื่อส่งความร้อนไปกำจัด ข้อดีของเคสใหญ่ ก็ทำให้มีพื้นที่ระบายความร้อนได้มากขึ้น โดยตัวเคสยังมีช่องเล็กๆ สำหรับให้อากาศภายในไหลเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วย
แม้จะมาพร้อมกับขุมพลัง nVIDIA GeForce RTX4090 ที่ยังเป็นโมเดลของปี 2024 แต่ในแง่ของพลังในการเล่นเกม เรียกว่าเรี่ยวแรงยังเหลือเฟือ ไม่ว่าจะเป็นเกมแนว Action FPS ที่มีเอนจิ้นโหดๆ หรือจะเป็นเกมระดับ AAA ก็ตาม แต่จุดเด่นยังอยู่ที่การเชื่อมต่อ เพราะให้พอร์ตมาแบบแน่นๆ เพราะไม่ถูกจำกัดเหมือน eGPU ขนาดเล็ก ได้ทั้ง HDMI, DisplayPort และยังมี USB 3.2 Type-A รวมถึง Thunderbolt 3 อีกด้วย ซึ่งก็ทำให้ไม่ได้จำกัดแค่การเล่นเกม แต่ยังรวมถึงการทำงาน การแคสสตรีม ไปจนถึงงานตัดต่อและกราฟิก ต่อหลายจอได้อีกด้วย เรื่องสนนราคาอยู่ที่ราวๆ 3,500USD
ข้อมูลเพิ่มเติม: AORUS
5.ONEXGPU2
Specification
- GPU: Radeon RX 7800M XT
- OCuLink: Yes
- Port: 1x USB4, 2x USB3.2 Gen1 Type-A, 1x HDMI, 2x DP
- Power: 330W
- Dimension: 22.9cm x 17.5cm x 4.3cm
- Price: 38,900 Baht
จัดเป็น External Graphic อีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งสามารถหาใช้งานได้ในบ้านเรา และยังมีคอมมูนิตี้ที่แชร์การใช้งานกันพอสมควร และยังเป็นรุ่นที่ติดตั้งกราฟิกมาในตัวพร้อมใช้ในรุ่น Radeon RX7800M ซึ่งจัดว่าเป็นกลุ่มของ Mobile GPU ระดับเกมเมอร์ที่จริงจังการเล่นมากขึ้น แต่ก็ตอบโจทย์การเล่นได้ดีพอสมควร เพราะถ้าดูจากสเปคก็ถือว่าไม่ธรรมดา โดยให้การเชื่อมต่อมาในแบบ USB 4 และสนับสนุน OCuLink อีกด้วย
กับบอดี้ที่ออกแบบมาให้สามารถพกพาได้ ไม่ได้ใหญ่เกินไป ไซส์ประมาณกระเป๋าถือคุณผู้หญิงใบย่อมๆ โครงสร้างอลูมิเนียม ในโทนสีเทาเข็ม มีความโค้งมน พร้อมเส้นสาย RGB บริเวณด้านข้าง วางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน กับพัดลมระบายความร้อนอยู่ตรงกลาง น้ำหนักตัวเครื่องประมาณ 1.6Kg เท่านั้น ยังพอใส่กระเป๋าหิ้วไปเล่นสนุกนอกบ้านได้ไม่ยาก และเช่นเดียวกับใน eGPU บางรุ่น ที่ ONEXGPU2 จัดพอร์ตมาใช้แบบเกินตัว เพื่อให้ใช้งานอื่นเพิ่มเติมได้ นอกเหนือจากการใช้เล่นเกมเพียงอย่างเดียว เพราะรองรับการต่อ Gigabit LAN ได้อีกด้วย
จุดเด่นนั่นคือ เพิ่มปุ่ม Turbo key มาให้ สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการรีดพลังการ์ดจอให้แรงยิ่งกว่า ด้วยการเปิดโหมด Performance ให้การ์ดจอทำงานบน TGP 180W สูงสุด ดังนั้นคุณจึงสามารถเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีข้อจำกัดในเรื่องการใช้พลังงาน โดย eGPU รุ่นนี้มาพร้อมอแดปเตอร์แปลงไฟ 330W ขนาดย่อมๆ และยังมีพอร์ตสำหรับชาร์จไว 65W มาอีกด้วย ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คทั่วไปก็สามารถใช้งานร่วมกันได้ทันที และสนนราคาที่เช็คได้ตอนนี้ประมาณ 38,900 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: ONEXGPU
6.GMKTech AD-GP1
Specification
- GPU: Radeon 7600M XT
- OCuLink: Yes
- Port: 1x USB4, 4x USB3.2 Gen2 Type-A, 1x HDMI, 2x DP, 1 RJ-45
- Power: 330W
- Dimension: 22.9cm x 17.5cm x 4.3cm
- Price: 599USD
ก็เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ทำการ์ดจอต่อภายนอกที่ใช้ต่อกับโน๊ตบุ๊คเพื่อเล่นเกม กับมิติที่กระทัดรัด พกพาสะดวก โดยมีขุมพลัง Radeon RX7600M-XT เชื่อมต่อรวดเร็วด้วย USB-4 อีกด้วย มาในมิติที่ใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย กว้างxยาว ประมาณ 16.3cm x 11.0cm เท่านั้น และหน้าไม่ถึง 4cm เรียกว่าสามารถใส่กระเป๋าเป้พกพาไปใช้นอกสถานที่ได้เลย ภายในเป็นขุมพลัง Radeon RX7600M-XT กราฟิกโมบายตัวแรง ที่ไม่ต้องใช้พลังมากนักในการทำงาน ซึ่งให้การเชื่อมต่อผ่าน OCuLink (PCIe 4.0 x4) ที่ให้แบนด์วิทธิ์กว้าง ในการส่งผ่านข้อมูลเพื่อการประมวลผล รวมถึงเพิ่มพอร์ต USB4 ที่เป็นแบบ Type-C ซึ่งใช้ทั้งการเชื่อมต่อข้อมูลและการชาร์จ USB-PD 100W ได้อีกด้วย มาพร้อมเพาเวอร์แปลงไฟระดับ 240W
เพาเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้ จะเป็นแบบ Integrate หรือรวมมาในตัวเครื่องด้วยเลย เรียกว่าเป็นรุ่นที่มีความคอมแพคแบบสุดๆ แต่ให้พลังในการทำงานที่สูงทีเดียวสำหรับคอเกม นอกจากนี้ยังมีพอร์ตสำหรับต่อพ่วงจอมอนิเตอร์ภายนอกเพิ่มเติมมาให้ สำหรับคนที่ต้องการต่อจอเพื่อการแสดงผลที่ใหญ่กว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น DisplayPort 2.0 รองรับสูงสุด 8K 60Hz มีให้ 2 ช่องและ HDMI 2.1 ที่รองรับ 4K 120Hz ด้วยเช่นกัน สนนราคายังไม่มีออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าดูจากราคาเฉลี่ยในกลุ่มของ eGPU ที่ใช้ Radeon RX7600M-XT ด้วยกันแล้ว จะฟาดฟันกันอยู่ที่ราวๆ 450-600USD ก็น่าจะเกาะอยู่ในกลุ่มประมาณนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม: GMKTech
Conclusion
และทั้งหมดนี้เป็น eGPU ทั้ง 6 รุ่นกับแนวทางสำหรับคนที่อยากจะลองอะไรใหม่ๆ และต้องการประสิทธิภาพในการเล่นเกมสะดวกขึ้น ส่วนตัวผมเองมองว่า การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการใช้งานของแต่ละบุคคลครับ เพราะปัจจุบันมีทั้งแบบ สำเร็จรูป คือ มีการ์ดจอมาในตัวด้วยเลย ซึ่งจะเป็นแบบที่เราเอามานำเสนอครับ ข้อดีคือ สะดวกพร้อมใช้ แต่ก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่ถ้างบประมาณไม่มาก แล้วอยากจะลองเล่นดู ราคาไม่แพง เลือกการ์ดจอเองได้ ก็มีแบบ Docking station ที่ให้คุณ Customize ปรับแต่งได้เองมาให้เลือกครับ ข้อดีคือ ราคาย่อมเยาลงมา แต่อาจจะไม่ค่อยความสะดวกในการใช้งานและการพกพานั่นเองครับ ส่วนเรื่องของกราฟิกจะขึ้นอยู่กับโมเดล รุ่นและซีรีย์ของแต่ละค่าย ซึ่งก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ตามประสิทธิภาพของการ์ดในแต่ละรุ่นนั่นเอง
