หลังจากที่ในปีก่อน AMD เปิดตัวชิปประมวลผลแบบ APU ที่ออกแบบมาเพื่อเครื่องเกมพกพา เครื่องเกม handheld นั่นคือ AMD Ryzen Z1 series และได้เสียงตอบรับที่ดี โดยเฉพาะในด้านของพลังกราฟิกที่สามารถใช้ในการเล่นเกมพีซียุคปัจจุบันบนหน้าจอของเครื่องเองได้ดี จะใช้ทำงานในแบบคอมพิวเตอร์ก็ทำได้ ส่วนเรื่องของความร้อนและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งในปีนี้ก็มีการเปิดตัวชิปซีรีส์ใหม่ นั่นคือ AMD Ryzen Z2 ที่จะออกมาต่อยอดและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ผลิต เพื่อทำให้สามารถทำราคาได้หลากหลายขึ้น
ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าชิป AMD Ryzen Z2 จะมีจุดใดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจาก Z1 บ้าง มีจุดเด่นอย่างไร และมีแบ่งออกเป็นกี่รุ่นย่อย
รุ่นย่อยของ AMD Ryzen Z2 series
สาเหตุที่ต้องยกเรื่องรุ่นย่อยขึ้นมาก่อน ก็เนื่องจากว่าแต่ละรุ่นย่อยจะมีสเปคด้านสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันไปด้วย ดังนี้
AMD Ryzen Z2 Extreme
- โค้ดเนม Strix Point (รุ่นเดียวกับชิป AMD Ryzen AI 300 series)
- มี 8 คอร์ แบ่งเป็น Zen 5 จำนวน 3 คอร์ + Zen 5c จำนวน 5 คอร์ และมี 16 เธรด
- iGPU เป็น AMD Radeon 890M สถาปัตยกรรม RDNA 3.5 มี 16 คอร์
- ความเร็ว 2 GHz บูสต์ได้สูงสุด 5 GHz
- แคชรวม 24MB (8+16MB)
- ค่า TDP อยู่ในช่วง 15-35W
สำหรับรุ่น Extreme ที่จะออกมาเป็นรุ่นท็อปสุดของซีรีส์ ก็จะมาพร้อมสถาปัตยกรรมคอร์ของ CPU และ GPU เดียวกันกับที่ใช้ใน AMD Ryzen AI 300 series โดยจะเป็นการปรับลดจำนวนคอร์ลงบ้างเพื่อควบคุมความร้อนสะสมโดยที่ยังได้ประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์การเล่นเกมอยู่ ด้วยการใช้ทั้งคอร์ Zen 5 และ Zen 5c มาทำงานร่วมกัน ส่วนจุดที่น่าสนใจก็คือ iGPU ในชิปที่ใช้เป็นรุ่นท็อปอย่าง AMD Radeon 890M ที่มีมาให้ 16 คอร์เต็ม ๆ ตรงนี้ทำให้น่าสนใจมากสำหรับการเล่นเกมบนจอเครื่อง handheld ที่มักจะให้ความละเอียดมามากสุดระดับ 2K ซึ่งถ้ามีการปรับจูนประสิทธิภาพดี ๆ ก็น่าจะสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล เฟรมเรตสูง หรือถ้าปรับมาเรนเดอร์ที่ระดับ Full HD 1080p ก็บอกเลยว่าเล่นเกมได้สบายแน่นอน
AMD Ryzen Z2
- โค้ดเนม Hawk Point (รุ่นเดียวกับชิป AMD Ryzen 8040 series)
- มี 8 คอร์ โดยเป็น Zen 4 ทั้งหมด และมี 16 เธรด
- iGPU เป็น AMD Radeon 780M สถาปัตยกรรม RDNA 3 มี 12 คอร์
- ความเร็ว 3 GHz บูสต์ได้สูงสุด 5.1 GHz
- แคชรวม 24MB (8+16MB)
- ค่า TDP อยู่ในช่วง 15-30W
ถัดมาที่รุ่นกลาง คราวนี้จะขยับมาใช้ชิปโค้ดเนม Hawk Point ที่หากเทียบสเปคแล้วก็คือจะใกล้เคียงกับ AMD Ryzen 7 8840HS มาก คือจะได้เป็นคอร์ Zen 4 สถาปัตยกรรมระดับ 4nm ล้วน ๆ จำนวน 8 คอร์ ส่วน GPU ในตัวก็จะเป็น AMD Radeon 780M จำนวน 12 คอร์ ซึ่งเทียบแล้วก็น่าจะให้ประสิทธิภาพในระดับที่ใกล้เคียงกับชิป AMD Ryzen Z1 Extreme ที่มีหลายแบรนด์นำมาใช้กับเครื่องเกมพีซีพกพาอยู่ในขณะนี้ ทำให้ถ้าดูจากแค่สเปคอย่างเดียว ก็พอจะคาดเดาได้ว่าประสิทธิภาพของ Z2 น่าจะออกมาใกล้เคียงกับ Z1 Extreme
AMD Ryzen Z2 Go
- โค้ดเนม Rembrandt (รุ่นเดียวกับชิป AMD Ryzen 6000 series)
- มี 4 คอร์ โดยเป็น Zen 3+ จำนวน 4 คอร์ และมี 8 เธรด
- iGPU เป็น AMD Radeon 680M สถาปัตยกรรม RDNA 2 มี 12 คอร์
- ความเร็ว 3 GHz บูสต์ได้สูงสุด 3 GHz
- แคชรวม 10MB (2+8MB)
- ค่า TDP อยู่ในช่วง 15-30W
ส่วนรุ่นสุดท้ายของซีรีส์อย่าง Z2 Go ก็จะให้สเปคมาในระดับเบื้องต้น คือได้คอร์ Zen 3+ จำนวน 4 คอร์ ด้านของ GPU ในตัวจะได้เป็น AMD Radeon 680M ที่สามารถเล่นเกมออนไลน์ในปัจจุบันได้ระดับหนึ่ง จึงอาจจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องเกมพกพาเพื่อใช้เล่นเกมที่ไม่เน้นด้านกราฟิกมากนัก หรืออาจจะต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กกะทัดรัด เพื่อสำหรับเผื่อใช้งานที่เน้นความคล่องตัวขีดสุด จะใช้ต่อจอนอกก็ทำงานได้ทันที เป็นต้น
ประสิทธิภาพของชิป AMD Ryzen Z2 series
ณ ขณะนี้ ยังมีเพียงแค่ Ryzen Z2 Go เท่านั้นที่มีผลทดสอบการเล่นเกมออกมา ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือในหลาย ๆ เกม พบว่าเฟรมเรตเฉลี่ยของ Lenovo Legion Go S (ชิป Z2 Go) จะลดหลั่นลงมาจาก ASUS ROG Ally X (ชิป Z1 Extreme) แค่ราว ๆ 10% เท่านั้น ดังในตารางด้านล่างนี้
จากผลการทดสอบทั้งสามเกมที่มีออกมาในขณะนี้ จะเห็นว่าหากต้องการเล่นเกมที่ความละเอียดหน้าจอ 1080p พลังของชิป AMD Ryzen Z2 Go บวกกับความสามารถของเทคโนโลยี FSR ที่จะช่วยอัปสเกลภาพเพื่อลดงานที่ GPU จะต้องประมวลผลลง จะช่วยทำให้สามารถเล่นทั้งสามเกมที่จัดว่าเป็นเกมระดับ AAA ในปัจจุบันได้ในระดับเฟรมเรตแทบไม่ต่ำกว่า 30fps แถมถ้าปรับการตั้งค่าของตัวเครื่องให้ทำงานเต็มที่ในระดับ TDP 30W ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพของทั้ง CPU และ GPU ขึ้นไปอีก ทำให้สามารถเล่นเกมที่ระดับ 60fps ได้ด้วยกราฟิกระดับกลาง อันนี้ถือว่าเป็นประสิทธิภาพที่น่าพอใจทีเดียว เมื่อมองว่าชิป Ryzen Z2 Go เป็นชิปรุ่นเล็กสุดของซีรีส์ใหม่ ก็จะเหลือแต่เรื่องราคาเครื่องว่าจะเปิดมาที่เท่าไหร่
โดยในขณะนี้ก็มีข้อมูลหลุดออกมาว่า Lenovo Legion Go S ที่จะใช้ชิป Z2 Go อาจจะมาในราคาเริ่มต้น $499 (รุ่น SteamOS) หรือประมาณ 18,000 บาท ในขณะที่รุ่น Windows 11 อาจจะอยู่ที่ $599 หรือประมาณ 21,000 บาท ซึ่งก็เป็นราคาที่น่าจะช่วยเพิ่มการแข่งขันในตลาดเครื่องเกมพีซีพกพาได้อยู่เหมือนกัน สำหรับกลุ่มผู้ที่มีงบจำกัดลงมาหน่อย แต่ต้องการเครื่องกลุ่มนี้มาเพื่อใช้เล่นเกม ใช้ทำงาน โดยที่เน้นว่าตัวเครื่องจะต้องสามารถพกพาได้สะดวก และใช้งานได้แทบทุกเวลา
ฟีเจอร์ที่ช่วยยกระดับด้านกราฟิกใน AMD Ryzen Z2
นอกเหนือจากพลังประมวลผลดิบที่สูงขึ้นจากการเพิ่มจำนวนคอร์และปรับแต่งภายในแล้ว ชิป AMD Ryzen Z2 ก็ยังมาพร้อมฟีเจอร์เสริมที่จะช่วยยกระดับกราฟิกแบบไม่แพ้กับชิปกราฟิกแยกเลย ไม่ว่าจะเป็น
- AMD Radeon Super Resolution – ช่วยอัปสเกลภาพให้มีความละเอียดสูงขึ้น ลดภาระการประมวลผลของ GPU ลง
- AMD Radeon Chill – ช่วยลดการใช้พลังงานลงด้วยการปรับระดับการทำงานให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มระยะเวลาการใช้แบตเตอรี่
- AMD Radeon Anti-Lag – ช่วยลดระยะเวลาความหน่วง (latency) เพื่อให้ตัวเกมสามารถตอบสนองกับการควบคุมของผู้เล่นได้ดี หรือที่เรียกกันว่าเป็นการลด input lag
- AMD Radeon Boost – ช่วยในการตรวจจับความเคลื่อนไหวในเกม และปรับระดับความละเอียดภาพโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้เฟรมเรตที่ลื่นไหล เช่น ในฉากที่ผู้เล่นเกม FPS ต้องหมุนตัวละครไปมา ระบบก็จะลดความละเอียดภาพลง เพื่อเฟรมเรตที่สูง และมี response time ต่ำ
- AMD HYPR-RX – เป็นชุดโปรไฟล์ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถปรับระดับประสิทธิภาพกราฟิกได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น เฟรมเรตดีขึ้น ความหน่วงต่ำลง สามารถเรียกใช้งานได้ในคลิกเดียว
- AMD FidelityFX – มีฟังก์ชันที่ช่วยยกระดับด้านภาพในหลาย ๆ ด้าน อาทิ การอัปสเกลภาพและเฟรมเจ็น (FSR), เพิ่มคอนทราสต์ ความคมชัดให้ภาพและการช่วยลด noise ในภาพ เป็นต้น
ซึ่งฟีเจอร์ต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะมีให้ใช้งานในชิป Ryzen Z2 สำหรับเครื่องพกพาเหมือนกับชิปรุ่นแรกด้วย ที่จะทำให้เครื่องเกมพกพาก็สามารถเล่นเกมได้เฟรมภาพที่ลื่นไหล ตอบโจทย์การเล่นเกมได้ในทุกเวลาที่ต้องการ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิป AMD Ryzen Z series ได้ที่นี่