Mercusys Halo H80X Mesh Wi-Fi ตัวเล็กสเปกดี กระจายสัญญาณ Wi-Fi 6 ให้ลื่นทั้งบ้านได้สบาย!

หลายคนรู้ว่าวิธีทำให้ Wi-Fi ส่งสัญญาณได้ดีสุด คือ ทำให้มันมีสิ่งกีดขวางสัญญาณน้อยที่สุดหรือใช้ Mesh Wi-Fi อย่าง Mercusys Halo H80X มาเป็นตัวช่วยเพิ่มจุดกระจายสัญญาณให้ครอบคลุมทั่วบ้านและสำนักงานยิ่งขึ้น ซึ่ง Mesh Router เซ็ตนี้จะมีตัวกระจายสัญญาณทั้งหมด 3 ตัว จึงใช้ในสำนักงานหรือบ้าน 2-3 ชั้นได้สบาย สามารถกระจายสัญญาณ Wi-Fi 6 ได้ทั่วถึงหรือจะเดินสาย LAN เชื่อมต่อไปก็สะดวก แถมตั้งค่าใช้งานได้ง่ายผ่านแอปฯ Mercusys โดยตรง ควบคุมทุกอย่างผ่านสมาร์ทโฟนในมือได้ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือออกไปข้างนอกก็สะดวกไม่แพ้กัน
ข้อดีของเราเตอร์ Halo H80X นอกจากราคาเป็นมิตรต่อกระเป๋าเงิน เพียง 4,290 บาท ก็ได้ตัวกระจายสัญญาณ 3 จุดมาใช้งานแล้ว เป็น AX3000 แยกคลื่นเป็น 2.4 GHz / 5 GHz แล้วระบบจะจัดสรรคลื่นให้แต่ละอุปกรณ์ได้ตามเหมาะสม มี MU-MIMO และ OFDMA รองรับการเชื่อมต่อ 150 อุปกรณ์ ครอบคลุมพื้นที่ 460 ตารางเมตร กว้างพอจะครอบคลุมบ้านเดี่ยว 2 ชั้นหรือคฤหาสน์ได้สบาย ๆ จะเดินไปจุดไหนก็ยังเปิดเว็บได้เร็ว ดูหนังได้ลื่นตามเดิมแถมดีไซน์ก็เล็กกะทัดรัดวางตรงไหนก็ได้สะดวกแน่นอน

NBS Verdicts

ถ้าบ้านหรือสำนักงานไหนมีปัญหาเรื่องอินเทอร์เน็ตไม่ทั่วถึงหรือเน็ตช้าไม่ทันใจ การซื้อ Mesh Router อย่าง Mercusys Halo H80X สักเซ็ตมาติดตั้งเพิ่มนับเป็นทางออกที่ดีและลงทุนไม่มากนัก จ่ายเพียง 4,290 บาท จะได้เซ็ตเราเตอร์ 3 ตัวมาใช้ แถมติดตั้งได้ง่ายเพียงต่อสาย LAN แล้วตั้งค่าในแอปฯ Mercusys เพียงไม่นานก็ใช้ในโหมด Access Point ได้เลย หรือจะเปลี่ยนไปใช้ Router mode ให้เราเตอร์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเป็นตัวเชื่อมต่อกับสายไฟเบอร์ออปติกแล้วให้ Halo H80X ทำงานเป็นเราเตอร์ตัวหลักก็ได้แล้วแต่ผู้ใช้ได้เลย
จุดน่าประทับใจของเราเตอร์ตัวนี้คือการติดตั้งและเชื่อมจุดกระจายสัญญาณในเครือข่าย Mesh ได้ง่ายมาก ถ้าตั้งค่าตัวหลักเสร็จแล้ว ตัวที่ 2-3 แค่ต่อปลั๊กแล้วปล่อยเอาไว้ 2-3 นาที มันก็จะเชื่อมสัญญาณเข้าหากันโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าในแอปฯ ให้วุ่นวายเหมือนแต่ก่อนเลย ต่อให้ใครไม่ถนัดเรื่องไอทีก็สามารถสร้างเครือข่าย Mesh ภายในบ้านและสำนักงานได้ด้วยตัวเอง ส่วนอุปกรณ์ไหนมีความสำคัญและต้องออนไลน์อยู่ตลอดเวลา เช่น NAS Storage, Server หรือพีซีเครื่องสำคัญก็เชื่อมต่อสาย LAN เข้ากับเราเตอร์ได้เลย จึงเชื่อมต่อใช้งานได้ง่ายมาก
นอกจากนี้ ในแอปฯ ก็สามารถควบคุมตั้งค่าได้หลากหลายอย่างและง่ายมาก ไม่ว่าจะตั้งค่าความสำคัญ (Priority) ของอุปกรณ์แต่ละชิ้นว่ามีความสำคัญมาก (High Priority) หรือเป็นอุปกรณ์ทั่วไปก็ได้, เปิด Guest network แล้วตั้งค่าจำกัดความเร็วให้ผู้อื่นใช้งานอินเทอร์เน็ต, ตั้งค่าระดับความปลอดภัย, บล็อคอุปกรณ์บางชิ้นออกจากเครือข่ายได้อีก เรียกว่าจัดการได้หมดทุกจุดด้วยมือถือเครื่องเดียวเท่านั้น
ข้อสังเกตเล็กน้อยของ Mercusys Halo H80X คือ ตัวเราเตอร์ไม่มีปุ่ม WPS ติดตั้งมาให้ แต่ถูกย้ายไปเป็นฟังก์ชันหนึ่งในแอปฯ Mercusys แทน เวลาจับคู่ระหว่างอุปกรณ์ด้วยวิธีนี้ก็ต้องเปลี่ยนวิธีไปหน่อยหนึ่ง อีกอย่างคือสาย LAN ที่แถมมาให้ในกล่องเป็น CAT5E ถ้าอิงตามสเปคแล้วก็ยังรับส่งข้อมูลได้เร็วถึง 1 Gbps แล้ว สามารถต่อกับเราเตอร์จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตใช้ในโหมด Access Point ก็ยังทำงานได้ดี แต่ถ้าใครอยากเปลี่ยนเป็นสาย CAT6 ให้รองรับความเร็วสูงสุดถึง 10 Gbps แล้วเอาสายเส้นนี้ไว้ต่อกับ NAS Storage ก็ไม่มีปัญหา
ข้อดีของ Mercusys Halo H80X
- ตัวเราเตอร์กระจายสัญญาณ Wi-Fi 6 มีระบบรักษาความปลอดภัยระดับ WPA3
- กระจายสัญญาณคลื่น 5 GHz เร็วถึง 2402 Mbps และ 2.4 GHz ได้ 574 Mbps
- สามารถตั้งค่าทำงานในโหมด Router หรือ Access Point ก็ได้ตามสะดวก
- ตั้งค่าการทำงานทั้งหมดภายในมือถือด้วยแอปฯ Mercusys ได้ง่ายมาก
- สามารถเปิด Guest mode และแชร์อินเทอร์เน็ตให้ผู้อื่นผ่าน QR code ได้
- สามารถกระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ถึง 150 ชิ้นพร้อมกัน
- เชื่อมต่อจุดกระจายสัญญาณในเครือข่าย Mesh ได้ง่าย เพียงต่อปลั๊กเท่านั้น
- มีพอร์ต LAN ติดมาให้ใช้ตัวละ 3 ช่อง ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์และคอมพิวเตอร์ได้
- ราคาเราเตอร์เซ็ต 3 ชิ้น ราคาไม่แพงมาก เพียง 4,290 บาท ก็ซื้อมาใช้งานได้แล้ว
- เซ็ตเราเตอร์ 3 ตัว สามารถกระจายสัญญาณได้กว้างถึง 460 ตารางเมตร
ข้อสังเกตของ Mercusys Halo H80X
- ไม่มีปุ่ม WPS ติดอยู่บนตัวเราเตอร์ ต้องกดภายในแอปฯ Mercusys เท่านั้น
- สายแถมภายในกล่องเป็น CAT5E ถ้าแถมเป็นสาย CAT6 จะดีมาก
รีวิว Mercusys Halo H80X
Specification

ถ้ากำลังคิดอยากอัพเกรดเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในบ้านหรือสำนักงานให้สัญญาณทั่วถึงทุกซอกมุมล่ะก็ Mercusys Halo H80X เป็นตัวเลือกที่ดีทั้งในแง่ประสิทธิภาพและราคาก็เข้าถึงง่าย เป็นมิตรต่อกระเป๋าเงิน เวลาตั้งค่าใช้งานก็ง่ายเพียงทำตามขั้นตอนในแอปฯ ของสมาร์ทโฟนไม่นานก็ใช้งานได้แล้ว ด้านสเปคจะมีรายละเอียดดังนี้
Specification | Mercusys Halo H80X |
Wireless Standards | Wi-Fi 6 IEEE 802.11ax @ 5 GHz IEEE 802.11ax @ 2.4GHz |
Singal rate | 5 GHz ความเร็วสูงสุด 2402 Mbps 2.4 GHz ความเร็วสูงสุด 574 Mbps |
Mesh protocol | 802.11k/v/r |
Wireless Security | WPA-PSK/WPA2-PSK/WPA3 SPI Firewall |
Operating Modes | Router, Access Point |
Management | Local Management Remote Management Multi-Managers |
Interface & Button | Gigabit LAN*3 Reset button |
Supported devices | 150 devices |
Software & Application | MERCUSYS Application ใน Play Store MERCUSYS Application ใน App Store |
Price | 4,290 บาท (3-Pack) |
Unboxing & Design

กล่องสีแดงของ Mercusys Halo H80X เซ็ต 3 ชิ้นจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ภายนอกเขียนรายละเอียดชูจุดเด่นสินค้าเอาไว้ด้านหน้ากล่อง ไม่ว่าจะมีความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุด 3000 Mbps กระจายสัญญาณแบบ Dual Band แยกเป็นคลื่น 2.4 GHz กับ 5 GHz, รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันถึง 150 ชิ้น รวมถึงเคลมระยะกระจายสัญญาณกว้างสุด 650 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังเขียนฟีเจอร์เด่นเอาไว้ด้านซ้าย, ขวาและหลังเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ใช้ได้อ่านก่อนตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น

ภายในกล่องของ Halo H80X จะมีเราเตอร์กับอะแดปเตอร์รวม 3 ชุด กับสาย LAN CAT5E ความยาวราว 1 เมตรอีกเส้นไว้ให้ใช้งาน ตัวเราเตอร์มีขนาดเล็กพอดีมือจึงหาจุดวางได้ง่ายไม่กินพื้นที่มากแถมหน้าตาก็เป็นกล่องสีขาวธรรมดาดูเรียบง่าย จะวางเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านก็ดูสวยไม่ขัดสายตา เข้ากับบ้านและสำนักงานได้แทบทุกแบบ
ด้านสาย LAN CAT5E ในกล่องแม้จะเป็นสายเวอร์ชันเก่าแล้วและปัจจุบันก็มีสาย CAT8 (Catagory 8) ออกมาวางจำหน่ายแล้วก็จริง แต่ก็ยังรับส่งข้อมูลได้เร็วสูงสุดถึง 1 Gbps ถ้าอิงกับแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตบ้านในปัจจุบันนี้ก็ถือว่า CAT5E ก็ยังทำงานได้ดีอยู่ หรือถ้าใครจะใช้สายนี้เอาไว้ต่อกับ NAS Storage แล้วเอาสายเวอร์ชั่นใหม่กว่านี้ต่อกับเราเตอร์เปิดเป็น Access Point ก็ดี

ขนาดและน้ำหนักของเราเตอร์ Halo H80X ถือว่าเล็กกะทัดรัดและเบามาก เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วเฉพาะกล่องเราเตอร์มีน้ำหนักเพียง 271 กรัมเท่านั้น ถ้ารวมอะแดปเตอร์จาก VASATA 12V / 1.5A เข้าไปยังหนักแค่ 366 กรัมเท่านั้น เทียบกับเราเตอร์ Wi-Fi 6 ตัวอื่นนับว่ามีขนาดเล็กและเบามาก จะสอดเอาไว้มุมหนึ่งในห้องหรือชั้นวางของก็ดี

รูปลักษณ์ของเราเตอร์ Mercusys Halo H80X เป็นกล่องสีขาวปลอดทั้งตัว ด้านหน้ามีเพียงไฟแสดงสถานะติดอยู่ตรงมุมซ้ายล่างตรงข้ามกับโลโก้แบรนด์ตรงมุมขวาล่าง ด้านบนและใต้ตัวเราเตอร์จะเจาะช่องระบายความร้อนเอาไว้ช่วยให้ตัวกล่องไม่ร้อนเกินไปจนกระทบกับการทำงาน ด้านหลังมีช่องต่ออะแดปเตอร์, ช่องปุ่ม Reset และ Gigabit LAN อีก 3 ช่องไว้ให้ต่อ LAN ใช้เป็น Access Point หรือ Router mode ก็ได้ ถ้ามีอุปกรณ์ชิ้นไหนต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เช่น เกมมิ่งพีซีหรือ NAS Storage ก็พ่วงเข้าช่องนี้ได้ ถ้ารวมกับกล่องเราเตอร์ในเซ็ต นั่นหมายความว่าผู้ใช้จะมี LAN ทั้งหมด 9 ช่องให้ใช้
ไฟแสดงสถานะของ Halo H80X จะมีอยู่หลายสถานะด้วยกัน ถ้าทำงานตามปกติจะเป็นไฟสีขาวติดสว่างอยู่ไม่กระพริบ ส่วนสีอื่น ๆ จะบอกสถานะกับผู้ใช้ดังนี้
- ไฟสีเหลืองติดค้าง – เราเตอร์กำลังเริ่มต้นทำงาน
- ไฟสีเหลืองกระพริบ – Halo H80X กำลังถูกรีเซ็ตการตั้งค่า
- ไฟสีฟ้าติดค้าง – เราเตอร์กำลังเตรียมพร้อมรอตั้งค่า (Setting Up)
- ไฟสีฟ้ากระพริบ – พร้อมตั้งค่าเตรียมใช้งาน
- ไฟสีขาวติดค้าง – ตั้งค่าเสร็จพร้อมทำงาน ใช้งานได้ปกติ
- ไฟสีขาวกระพริบ – กำลังอัพเดตเฟิร์มแวร์ ให้รอสักครู่
- ไฟสีแดงติดค้าง – เราเตอร์เกิดปัญหาไม่พร้อมทำงาน
- ไฟสีแดงกระพริบ – Halo H80X ขาดการเชื่อมต่อจากเราเตอร์ตัวหลัก
Performance
ทดสอบด้วยสาย LAN ทดสอบด้วย Wi-Fi
นอกจากเรื่องโครงข่ายสัญญาณของ Mesh Wi-Fi จะกว้าง ครอบคลุมพื้นที่สำนักงานหรือบ้าน 2-3 ชั้นได้สบายแล้วยังทำความเร็วรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วแถมตั้งค่าเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายมาก ในการทดสอบครั้งนี้จะตั้งค่า Mercusys Halo H80X ใช้งานแบบ Access Point ต่อสาย LAN จากเราเตอร์ของผู้ให้บริการเข้ากับ Halo H80X แล้วตั้งค่าใช้งานทันที
เครื่องทดสอบเป็นเดสก์ท็อปพีซีติดตั้งการ์ด Wi-Fi 6E PCIe ไว้ ตัวเครื่องตั้งไว้ห่างจากตัว Halo H80X ราว 10 เมตร มีประตูไม้อัดกั้นไว้ 1 ชั้น แพ็คเกจที่ใช้ทดสอบมีความเร็ว 500 / 500 Mbps ของ AIS Wi-Fi ทดสอบกับเว็บไซต์ Speedtest by Ookla แล้วจะได้ผลดังนี้
- เชื่อมต่อสาย LAN – Download 840.71 Mbps / Upload 827.17 Mbps ค่า Ping 7ms
- เชื่อมต่อ Wi-Fi – Download 846.36 Mbps / Upload 834.79 Mbps ค่า Ping 4ms
สังเกตว่าความเร็ว Download / Upload ไม่ว่าจะเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi หรือ LAN จะมีความเร็วแทบไม่ต่างกัน สามารถเปิดเว็บไซต์ทำงาน, ดูหนังฟังเพลงและเล่นเกมได้ดีมาก นอจากนี้ค่า Ping ของการเชื่อมต่อทั้งสองแบบจะต่างกันเพียง 3ms นับว่าแทบไม่ส่งผลต่อการใช้งานเลย นับว่าสัญญาณ Wi-Fi จากตัวเราเตอร์คลื่นแรงต่อเนื่องอีกด้วย

ส่วนจุดกระจายสัญญาณเสริมในเซ็ตของ Halo H80X นั้นเชื่อมต่อได้ง่ายมาก เพียงนำมาต่อปลั๊กแล้วปล่อยให้ระบบจัดการเชื่อมสัญญาณกันราว 2-3 นาที ให้ไฟหน้าเราเตอร์กลายเป็นสีขาวก็ใช้งานได้แล้ว จะเชื่อมสัญญาณ Mesh แต่ละจุดผ่าน Wi-Fi ก็ได้ แต่ถ้าเป็นสาย LAN ก็ยิ่งดี ดังนั้นผู้ใช้คนไหนไม่ถนัดเรื่องเราเตอร์ก็สามารถสร้างเครือข่าย Mesh Wi-Fi ได้ด้วยตัวเอง
ในการทดสอบจุดกระจายสัญญาณ Mesh ของ Mercusys Halo H80X จะให้เราเตอร์ตัวหลักและรองเชื่อมสัญญาณเข้าหากันแบบไร้สายและใช้แอปฯ Speedtest by Ookla ใน Samsung Galaxy S24 Ultra ซึ่งตัวสมาร์ทโฟนรองรับ Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be อยู่แล้ว มีความเร็ว Download 218 Mbps / Upload 209 Mbps ค่า Latency 13ms นับว่าสามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วไม่ว่าจะเปิดดูหนังหรือเล่นเกมออนไลน์ก็ไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ถ้าเดินสาย LAN เชื่อมเครือข่าย Mesh แล้วเชื่อว่าจะทำความเร็วได้สูงกว่านี้อย่างแน่นอน
YouTube video 1080p YouTube video 2160p YouTube Live 1080p Twitch Live 1080p (source)
ด้านการใช้งานจริงทดสอบโดยต่อสาย LAN เข้ากับเราเตอร์ Halo H80X แล้วทดสอบดูคลิปและ Livestream ผ่านทางช่องทาง YouTube ทั้งความละเอียด Full HD 1080p และ 4K 2160p ก็สามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว สังเกตว่า Connection Speed, Buffer Health มีระดับการรับส่งข้อมูลต่อเนื่อง ไม่มีช่วงขาดหายและไม่มีอาการคลิปหมุนระหว่างดูแม้แต่น้อย
ถ้าชอบดู Livestream เราเตอร์ชุดนี้ก็สามารถรับส่งข้อมูลได้ดีไม่แพ้กัน ถ้าดู Network Activity จะเห็นว่าเส้นคลื่นสัญญาณเดินได้ต่อเนื่องและมีค่า Live Latency เพียง 1.7 วินาที แทบจะเท่ากับความเร็วของสตรีมเมอร์เลย ด้านของ Twitch ปรับความละเอียดสูงสุด 1080p (Source) ก็สามารถดูได้ต่อเนื่องและเฟรมเรทสูงเกิน 60 Fps มี Buffer Size 1 วินาที และ Latency to Broadcaster เพียง 1.3 วินาทีเท่านั้น ถ้าใครชอบดูสตรีมเมอร์ไลฟ์เล่นเกมหรือทำกิจกรรมใด ๆ เราเตอร์ตัวนี้ก็ทำหน้าที่ได้ดีแน่นอน

หน้าแอปฯ Mercusys ซึ่งเป็นศูนย์กลางการตั้งค่าทั้งหมดของเราเตอร์เซ็ตนี้ นอกจากดูเข้าใจง่ายแล้วยังจัดหมวดหมู่การใช้งานไว้ได้ละเอียด สามารถแตะเลือกดูสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย ในหน้าแรกหลังตั้งค่าและเชื่อม Mesh Wi-Fi เพิ่มเสร็จ จะเห็นรายละเอียดโดยคร่าว ๆ ทั้งหมด ไม่ว่าจะมี Node กี่จุด, เชื่อมต่ออุปกรณ์อยู่กี่เครื่อง มีการไหลของข้อมูลความเร็วเท่าไหร่ รวมทั้งอุปกรณ์ชิ้นไหนเชื่อมอยู่กับจุดกระจายสัญญาณตัวไหน คลื่นใดก็สามารถกดดูได้ทั้งหมดและเลือกตั้งค่าเป็นอุปกรณ์ให้ความสำคัญสูง (High Priority) หรือปล่อยเอาไว้ให้ Halo H80X จัดการโดยอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน
สลับมาหน้า More จะรวมส่วนของการตั้งค่าเอาไว้ ไม่ว่าจะเลือกระดับความปลอดภัยได้สูงสุดระดับ WPA3, ตั้งค่า IPv4 และ IPv6 รวมทั้งแก้ Port Forwarding ใด ๆ เพิ่มได้ตามต้องการ หรือไม่ต้องการให้อุปกรณ์ไหนใช้งานอินเทอร์เน็ตของเราก็เพิ่มเข้า Device Deny List ได้ทันที นอกจากนี้ถ้ามีแขกหรือลูกค้ามาหาก็สามารถเปิด QR code ให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ไม่ต้องบอกรหัสผ่านเหมือนแต่ก่อนอีกด้วย จัดว่าเป็นมิตรต่อผู้ใช้มากไม่ต้องทำความเข้าใจมากก็ปรับตั้งค่าได้ทันที
User Experience

Mesh Wi-Fi เป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ผู้เขียนอยากซื้อมาติดตั้งเพิ่มในบ้านนานแล้ว แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้เสียทีเพราะบางรุ่นราคาก็แพงเกินไปหรือซื้อมาแล้วมี Node เพียง 2 ตัว ไม่เหมือน Mercusys Halo H80X ซึ่งมีถึง 3 ตัว และราคาเพียง 4,290 บาท หารเฉลี่ยแล้วตกตัวละ 1,430 บาทเท่านั้น แถมตั้งค่าผ่านแอปฯ Mercusys ในสมาร์ทโฟน Android และ iOS ได้ง่ายและเชื่อมต่อเข้ามาตรวจเช็คตั้งค่าเราเตอร์ได้ทุกเมื่อ เวลาตั้ง Node เสริมทำได้ง่าย เพียงเสียบปลั๊กปล่อยไว้ 2-3 นาที พอไฟสถานะกลายเป็นสีขาวก็พร้อมใช้งานแล้ว ต่อให้ไม่เก่งเรื่องอุปกรณ์เครือข่ายก็ยังซื้อมาใช้ได้ง่าย
เวลาใช้งานถือว่าน่าประทับใจเพราะสัญญาณจาก Halo H80X แรงและครอบคลุมพื้นที่กว้างมาก ถ้าใช้ในบ้าน 2 ชั้น ขนาด 100 ตารางวา (400 ตารางเมตร) สัญญาณก็เร็วต่อเนื่องทุกมุมและเอา Node ไปติดตั้งเสริมอีกชั้น อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ดีแล้ว จากตอนทดสอบเล่นเกมชั้นนำในคอมโดยเชื่อมต่อสาย LAN ไปก็เล่นได้ดี จากการดูข้อมูลอินเทอร์เน็ตในหน้า Network monitoring ของเกมพบว่าค่า Latency ต่ำ สามารถเล่นได้สบายมาก แม้จะมีสมาชิกในบ้านเปิดดูสตรีมมิ่งหรือเกมไปพร้อมกันก็ยังเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์แล้วเล่นได้ตามปกติดี เพราะตามสเปคแล้วมันสามารถกระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากถึง 150 ชิ้นพร้อมกัน ดังนั้นจะเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ทำบ้านให้เป็น Smart Home ก็ได้สบายมาก

ด้าน Node กระจายสัญญาณแม้จะเชื่อมต่อแบบไร้สายกับเราเตอร์ตัวหลัก แต่สัญญาณก็ยังส่งถึงและมีความเร็วสูงพอจะเปิดดูสตรีมมิ่งความละเอียด 4K บน Android TV ได้สบายมาก ดูได้ต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ไม่มีภาพค้างหรือหยุดเล่นกะทันหันแม้แต่ครั้งเดียว ช่วยแก้ปัญหาสัญญาณจากกล่อง Wi-Fi ส่งไม่ถึงหรืออ่อนเกินไปได้อยู่หมัด ยิ่งถ้าเชื่อม Access Point กับ Satellite (ตัวกระจายสัญญาณเสริม) ด้วยสาย LAN ยิ่งทำให้สัญญาณเสถียรและเร็วยิ่งขึ้นอีกมากหากพื้นที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตมีขนาดกว้างหรือมีสิ่งกีดขวางสัญญาณจำนวนมาก ทำให้สัญาณไม่ครอบคลุม ก็สามารถนำอุปกรณ์ Halo H80X มาติดตั้งเพิ่มเติมตามจุดต่าง ๆ ได้สูงสุด 9 ยูนิต
ข้อสังเกตเล็กน้อยอย่างปุ่ม WPS ต้องกดผ่านแอปฯ Mercusys โดยตรงแม้จะไม่ถูกใจผู้ใช้บางกลุ่มที่อยากให้มีปุ่มจริง ๆ ติดอยู่กับตัวเราเตอร์ก็จริงจะได้เชื่อมต่ออุปกรณ์ชิ้นอื่นได้ง่าย ๆ แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปก็แทบไม่ได้ใช้เลย ดังนั้นจะย้ายไปอยู่ในแอปฯ แทนก็ไม่ได้ส่งผลต่อการใช้งานมากนัก ส่วนสาย CAT5E ถึงจะเก่าไปบ้าง แต่ก็ยังรับส่งข้อมูลได้เร็วระดับ 1 Gbps มากพอสำหรับต่อใช้งานโหมด Access Point แล้ว จะต่อใช้งานไปเลยหรือหาสายใหม่เวอร์ชั่นใหม่กว่านี้มาต่อก็ดีหรือสำรองเอาไว้ก็ไม่เสียหาย
Conclusion

Mercusys Halo H80X เป็น Mesh router แบบ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax ที่นอกจากประสิทธิภาพดี ส่งสัญญาณครอบคลุมพื้นที่กว้างพอจะใช้ในสำนักงานหรือบ้าน 2-3 ชั้นได้สบาย แถมตั้งค่าและควบคุมง่ายด้วยแอปฯ เพียงตัวเดียวเท่านั้น ด้านดีไซน์ก็เรียบง่ายเล็กกะทัดรัดจึงวางไว้ตามมุมหรือบนชั้นวางของได้สบาย ช่วยให้อุปกรณ์ในบ้านทุกชิ้นเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ตได้สะดวก ยิ่งถ้ามีอุปกรณ์ IoT ใช้งานอยู่ยิ่งควรหาซื้อมาติดบ้านสักชุดจะทำให้ผู้ใช้สะดวกขึ้นกว่าเดิมมาก ดังนั้นถ้าใครกำลังเจอปัญหาเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตมาไม่ถึง ขอแค่หาเราเตอร์ตัวนี้มาใช้ก็แก้ปัญหาได้แล้ว
