Lexar ARES RGB 2nd Gen DDR5 7600 48GB เพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานและการเล่นเกม พร้อมไฟ RGB ปรับแต่งได้ตามต้องการ
Lexar ARES DDR5 RGB ที่นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของซีรีย์นี้ โดยเป็นแรม DDR5 7600MT/s บนความจุ 48GB ในแบบชุดคิท 24GB x2 โมดูล สนับสนุน Intel XMP 3.0 ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์และผู้ที่ชื่นชอบการแต่งเคสคอมไปในตัว จัดเป็นแรมที่มีความเร็วสูงที่มาพร้อม Certified จาก SK Hynix ซึ่งเป็นชิปแรมที่ได้รับความนิยมทั้งในแง่ของความเร็วและเสถียรภาพที่สูงขึ้น รองรับการปรับแต่ง ด้วยการออกแบบให้มีฮีตซิงก์ช่วยระบายความร้อน ที่มีความสวยงาม กับความบางพิเศษแค่ 1.88mm. เท่านั้น ลดความร้อนให้กับแรมและ PMIC ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพ อีกทั้งไม่ต้องเปลืองพื้นที่จนเกินไป เพิ่มความเร้าใจให้กับการเล่น ด้วยแสงไฟ RGB ด้านบนแรม ปรับแต่งได้ด้วยซอฟต์แวร์จาก Lexar กับราคา 9,900 บาท
Lexar ARES DDR5 7600 48GB แรม RGB
Specification
Description | |
Capacity | 48GB Kit (2 x 24GB) |
CL | 38-38-49-121 |
Part Number | LD5U24G80C40BR |
Interface | DDR5 288-pin |
Standard | Intel XMP 3.0 |
Performance | 7600MT/s |
Operating Temperature | 0°C to 85°C |
Storage Temperature | -55°C to 100°C |
Module Size (L x W x H) | 138.7 x 47.45 x 8mm |
RGB | Yes |
Price | 9,990 |
ข้อมูลเพิ่มเติม: Lexar
Unbox
Lexar ARES DDR5 RGB Gen2 มาพร้อมกล่องที่มีดีไซน์ในสไตล์เกมมิ่งเส้นสายสีแดงตัดพื้นดำ พร้อมโลโก้และกราฟิกตัวแรมให้เห็นอย่างชัดเจน
ด้านหลังกล่องบอกถึงรายละเอียดของแรม ไม่ว่าจะเป็น Certified การรับประกัน, S/N ไปจนถึงข้อมูลโมดูลแรมครบถ้วน
ด้านบนของหน้ากล่องมีรายละเอียดของการเชื่อมต่อแสงไฟ RGB ไว้อย่างชัดเจน ด้วยการสนับสนุนฟีเจอร์บนเมนบอร์ดชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น ASUS, GIGABYTE, MSI หรือ ASRock เป็นต้น รวมถึงระบุตัวแรมจาก SK hynix ที่เรียกว่าเป็นค่ายผลิตโมดูลหน่วยความจำที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
โดยแรม Lexar DDR5 รุ่นนี้มาพร้อมความจุ 48GB ในรูปแบบของชุดคิท หรือแบบแรมคู่ ความจุแถวละ 24GB จำนวน 2 โมดูลด้วยกัน มีความเร็วในการทำงาน 7600MT/s
แรมที่ใส่มาภายในกล่อง อยู่ภายในพลาสติกใสแบบแข็งกันกระแทก ป้องกันความเสียหายจากการเคลื่อนย้ายได้ดีทีเดียว มองเห็นโมดูลภายในได้อย่างชัดเจน
Design
โมดูลแรม Lexar ARES DDR5 RGB Gen2 ที่แกะออกมาจากกล่อง ก็เรียกว่าตามภาพกราฟิกหน้ากล่องแบบไม่ผิดเพี้ยน จัดว่าออกแบบได้แบบล้ำสมัย ในโทนสีดำตัดกับเส้นสาย ทำออกแบบได้แปลกตากว่า ARES ในเจนเนอเรชั่นแรกๆ อยู่พอสมควร
มาในแบบโมดูลคู่หรือชุดคิท ในส่วนของฮีตซิงก์หรือ Heat spreader ที่ใช้ในการระบายความร้อน เป็นแบบอลูมิเนียมสีดำ แถบด้านบนเป็นแสงไฟ RGB ตลอดความยาวของโมดูล
แรมมาพร้อมหน้าสัมผัส 288-pins ตามรูปแบบของแรม DDR5 ซึ่งโครงสร้างจะค่อนข้างสูง กับแถบแสงไฟ RGB ด้านบนที่เพิ่มขึ้นมา กับเส้นสายที่ขาวที่คาดกลางเป็นเส้นนำสายตา และมีโลโก้ Lexar อยู่ตรงกลาง
รูปแบบของด้านหน้าและหลังโมดูลแรม เป็นแบบเดียวกัน เพียงแต่ด้านหลังจะมีลาเบล ที่บอกรุ่น รหัส ความเร็วและค่า CL เอาไว้ครบครัน
ARES DDR5 RGB 2nd Gen ระบุข้อมูลแรมไว้ชัดเจน ความจุ 24GB x2 โมดูล ที่ความเร็ว 7600MT/s และมีค่า CL38 กับแรงดันไฟที่ 1.35v สนับสนุน Intel XMP 3.0
หากมองจากด้านข้าง จะเห็น PCB ภายในที่ทาง Lexar ผลิตมาเป็นพิเศษ และฮีตซิงก์ความหนาเพียง 1.88mm เท่านั้น มีความแข็งแรง และยังช่วยในการนำพาความร้อนจากแรมได้ดีพอสมควร จะเห็นได้ว่าแถบ RGB ด้านบน มีพื้นที่ลากยาวลงมาค่อนข้างมาก ทำให้แสงไฟที่ได้จะมีความสว่าง มองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น
แถบแสงไฟ RGB ด้านบนที่คาดยาวไปตลอดทั้งตัวแรม และมีโลโก้ Lexar ซึ่งดูแล้วน่าจะตัดกับแสงไฟตรงกลางได้อย่างสะดุดตาทีเดียว
Install
ARES DDR5 2nd Generation RGB ให้การติดตั้งที่เรียบง่าย เช่นเดียวกับการติดตั้งแรมบนเมนบอร์ดพื้นฐานทั่วไป แต่ก็ให้ระวังพินและ notch ตรงกลางของสล็อตแรม จัดวางให้ถูกต้อง แล้วจึงกดลงไปบนสล็อต และเช็คสลักล็อคให้แน่นหนา เพียงเท่านี้ก็พร้อมใช้งานได้แล้ว และเพื่อให้ตรงกับรูปแบบที่เมนบอร์ดกำหนดไว้ กับการใช้งาน XMP Profile บนเมนบอร์ดนี้ จะติดตั้งบน DIMM A1 และ DIMM B1
เรื่องพื้นที่และระยะในการติดตั้ง แม้จะเป็นแรมที่มีแถบไฟ RGB รวมถึงฮีตซิงก์มาในตัว แต่ด้วยการที่ทำออกมาได้กระชับและไม่หนาเกินไป จึงทำให้ไม่ต้องใช้พื้นที่มากนัก ไม่ไปเบียดกับอุปกรณ์รอบข้างอย่างฮีตซิงก์ซีพียู หรือจะวางบล็อคน้ำก็ทำได้ สามารถติดตั้งแรม 4 โมดูลได้ไม่ยากนัก กับตัวอย่างแรกติดตั้งกับฮีตซิงก์ Intel stock sink (Laminar RM1 Cooler) ก็จัดว่าสบายๆ
จากนั้นลองติดตั้งใกล้กับฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ไซส์ L อย่างเช่น DeepCool AK500 ซึ่งเป็นแบบทาวเวอร์คู่กันบ้าง ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการติดตั้งแต่อย่างใด ความสูงของแรมแม้จะเข้าไปใกล้กับด้านล่างของพัดลม แต่ระยะห่างของสล็อตยังถือว่าติดตั้งได้ ระยะการวางสล็อตของเมนบอร์ด ก็ทำให้คุณติดตั้งแรม Lexar นี้ได้ เหลือช่องเล็กๆ ให้มีอากาศไหวเวียนได้อีกด้วย
เมื่อเช้าสู่ BIOS ของเมนบอร์ด ระบบสามารถตรวจเช็คได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความจุหรือความเร็วก็ตาม จากเดิมที่เราเคยใช้แรม DDR5 และเปิดใช้ XMP Profile เอาไว้ เมนบอร์ดก็สามารถรายงานได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
โดยเมื่อเข้าไปปรับในส่วนของ XMP 3.0 Profile 1 บนไบออส ระบบสามารถแจ้งรายละเอียด และรีบูตเข้าสู่ระบบได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นแรม DDR5 ความเร็วสูงอีกรุ่นหนึ่งที่ใช้งานง่าย และเข้ากันได้กับเมนบอร์ดทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าได้ลงตัวทีเดียว เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้งาน
โดยระบบบนเมนบอร์ดแจ้งรายละเอียดเอาไว้เป็นแรม DDR5 7600, XMP Profile 1 มีค่า CL 38-48-48-121 แรงดันไฟ 1.35V ก่อนบูตระบบเข้าสู่วินโดว์ 11 สำหรับการทดสอบและใช้งาน
Performance
ระบบที่ใช้ในการทดสอบ
- ซีพียู Intel Core i7-14700 LGA1700
- เมนบอร์ด ASRock B760M PG Sonic WiFi
- แรม Lexar ARES RGB 2nd Gen DDR5 7600 48GB
- Storage WD SN550 1TB
- PSU GIGABYTE G1000 1000W 80 Plus
- Windows 11 Home 24H2
เริ่มต้นการทดสอบด้วยการเช็คข้อมูลพื้นฐานของแรมรุ่นนี้บน CPUz แจ้งว่าเป็นแรม DDR5 7600 ถูกต้องเป็นแรมจากผู้ผลิต SK hynix กับค่า CL38-48-48-121 บนแรงดันไฟ 1.35V ทำงานบน XMP 3.0 แจ้งสัปดาห์ที่ผลิต 39 ปี 2024
กับการทดสอบบน OCCT Memory Benchmark ได้อัตราการอ่านและเขียนข้อมูลอยู่ที่ 2,596MB/s และ 1,842MB/s ตามลำดับ จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี หากเทียบกับแรม DDR5 ที่เราเคยได้ทดสอบก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น DDR5 8000MT/s หรือ 8400MT/s ก็ตาม
เช่นเดียวกับการทดสอบ RAM Latency ในส่วนของ Memory อยู่ที่ประมาณ 89.49ms เท่านั้น ตัวเลขที่ออกมาค่อนข้างน่าประทับใจ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะค่า Latency บนแรม Lexar รุ่นนี้ไม่สูงมาก ทำให้การตอบสนองนั้นทำออกมาได้ดี
ตัวเลขบนการทดสอบ VOVSOFT ดูจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ OCCT โดยตัวเลขของ Average speed หรือค่าเฉลี่ยยังอยู่ที่ 2,800MB/s – 3,000MB/s บนการทดสอบ Block ข้อมูล 1GB และ 5GB ตามลำดับ กับเวลาในการรันข้อมูลจนจบอยู่ที่ 0.72 วินาทีเท่านั้นสำหรับ 1GB
มาที่การทดสอบ Memory benchmark บนโปรแกรม Passmark PerformanceTest ตัวเลขโดยรวมทำได้ที่ 3555 คะแนน ส่วนงาน Memory Read ที่มีทั้ง Cached และ Uncached จัดว่าทำได้ใกล้เคียงกับแรมความเร็วสูงระดับ 8000MT/s ที่เราได้เคยทดสอบไปก่อนหน้านี้อีกด้วย
การทดสอบ NOVAbench ให้ประสิทธิภาพในการโอนถ่ายข้อมูลอยู่ที่ 16.57GB/s และ Memory Latency อยู่ที่ 81ns เท่านั้น
ส่วนในเรื่องของอุณหภูมิในการทำงาน จากการทดสอบเล่นเกม 3 มิติกับการรันตัวเกมต่อเนื่อง HWMonitor แจ้งเอาไว้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียสเท่านั้น หรือจะเป็นช่วงที่รันโหลดไฟล์ข้อมูลขณะเรนเดอร์วีดีโอก็ยังไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นจึงใช้งานต่อเนื่องยาวๆ ได้แบบไร้กังวล
ทดสอบในการเล่นเกม COD: Modern Warfare II บนความละเอียด Full-HD ตั้งค่า General และไม่ได้เปิดใช้งานตัวช่วยด้านภาพ รวมถึงปิดการ Upscale ระบบมีการใช้งานแรมไปประมาณ 14GB-15GB เท่านั้น แม้ภาระส่วนใหญ่จะอยู่ที่ VRAM แต่ในงานของการประมวลผลหนักๆ แรมระบบก็มีบทบาทอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งนี้ก็พอแสดงให้เห็นว่า ด้วยความจุระดับ 48GB นี้ก็เพียงพอต่อการเปิดการทำงานอื่นๆ ควบคู่ไปกับการเล่นเกมได้ เช่นการแคสสตรีม หรือเรนเดอร์งานอื่นๆ คู่กันไปก็ตาม
และด้วยความจุ 48GB นี้ ส่งผลดีต่อผู้ใช้ที่มีงานหนักๆ และมีข้อมูลงานที่ต้องจัดการจำนวนมาก โดยเฉพาะกับโปรแกรมที่มีการเรียกใช้ไฟล์ขนาดใหญ่ และไม่ซ้ำกันอยู่บ่อยครั้ง เช่น การตัดต่อวีดีโอ แต่งภาพ ปรับไฟล์ขนาดใหญ่ หรือโอนถ่ายข้อมูลจากแหล่งต่างๆ บ่อยครั้ง แรมความจุระดับนี้ จะช่วยให้การทำงานไหลลื่นขึ้น
RGB Lighting
ในด้านความสวยงาม ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อแสงไฟ RGB ร่วมกับซอฟต์แวร์ของเมนบอร์ดชั้นนำรายต่างๆ ได้มากมาย อย่างเช่น Asus AURA Sync, ASRock POLYCHROME Sync, GIGABYTE RGB FUSION และ MSI MYSTIC Light เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น เมนบอร์ด ASRock ที่ใช้ประกอบในการทดสอบครั้งนี้ สามารถตรวจพบแรม และใช้งานซิงก์ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้เช่นกัน พร้อมกับการปรับแต่งโพรไฟล์สีได้ด้วยตัวเอง ซึ่งซอฟต์แวร์เองสามารถปรับเปลี่ยนสีได้แบบเรียลไทม์ แต่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นแอปของทาง Lexar ที่ใช้ในการปรับแต่งเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น
แสงไฟ RGB บนโมดูลแรมจาก Lexar นี้ ต้องถือว่ามีความสว่างสดใสอยู่พอสมควร แม้ว่าจะอยู่ในเคสที่มีแสงตามปกติ แต่ก็ยังเห็นความสวยงามได้อย่างชัดเจน โดยแสงที่ปรากฏนั้นจะยาวไปทั่วทั้งแถบด้านบนของแรม รวมถึงด้านข้างด้วยเรียกว่าถ้าเป็นเคสที่ด้านหน้าใส ก็จะเห็นความสวยสดใสได้อย่างชัดเจน
Conclusion
ถือว่า Lexar ARES RGB 2nd Gen DDR5 7600 เป็นแรมความเร็วสูงอีกรุ่นหนึ่งกับความจุระดับ 48GB ที่ดูครบเครื่องทั้งในด้านการทำงาน การเล่นเกมและความสวยงาม ด้วยความเร็วระดับ 7600MT/s ที่สอดคล้องกับแพลตฟอร์มใหม่ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็น Intel Core 14th หรือจะเป็น Intel Core Ultra ไปจนถึง AMD Ryzen 7000 และ 9000 series รุ่นใหม่ที่มาพร้อมแบนด์วิทธิ์กว้าง ทำให้รองรับการรับส่งข้อมูลในการประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับแสงไฟ RGB ที่ปรับแต่งง่ายผ่านซอฟต์แวร์ของเมนบอร์ด ปรับเปลี่ยนรูปแบบของแสงสีได้ตามต้องการ และที่น่าสังเกตคือ การปรับใช้งาน XMP Profile ก็ทำได้รวดเร็วอีกด้วย น่าจะทำให้ผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและใช้งานไม่ซับซ้อน รวมถึงรองรับการปรับแต่งโอเวอร์คล็อกเพิ่มเติมได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับทักษะและความชำนาญของแต่ละบุคคล ซึ่งจากที่เราได้ลอง ก็พอจะดันไปต่อได้อีก แต่อาจจะไม่มากนัก กรณีที่ไม่ได้ดันไฟเลี้ยง เรียกว่าเดิมๆ ก็แรงพอตัวอยู่แล้ว สามารถรันงานและเกมต่อเนื่องได้อย่างมีเสถียรภาพ มีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน สนนราคาของแรม Lexar รุ่นนี้อยู่ที่ 9,900 บาท
สามารถหาซื้อกันได้แล้วที่ Lexar official store/ JIB รวมถึงติดตามข้อมูลกันได้ที่ Facebook Fan Page Lexar Thailand
ข้อมูลเพิ่มเติม: Lexar