ถ้าคิดถึงเราเตอร์ใส่ซิม 5G หลายคนมักคิดถึง Pocket Wi-Fi ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมวดหมู่นี้เท่านั้น ตามจริงแล้วนอกจากตัวกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตขนาดเล็กพกใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้ ก็มีแบบกล่องขนาดเท่าเราเตอร์ทั่วไปเสริมช่องใส่ SIM 5G เข้ามา มันจึงเหมาะกับคนอยู่หอพักหรือคอนโดมิเนียมที่เจ้าของอาคารไม่อนุญาตให้เจาะหรือเดินสายสัญญาณอินเทอร์เน็ตมาก เพียงต่อปลั๊กใส่ซิมแล้วตั้งค่าผ่านแอปฯ มือถือก็ใช้งานได้ทันที กระจายสัญญาณคลื่น Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax ให้อุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันที ไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลงไปจนเล่นเกมออนไลน์ก็ไม่มีปัญหา
เราเตอร์ใส่ซิม 5G ดีอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
- เราเตอร์ใส่ซิม 5G รุ่นใหม่จะเน้นตั้งค่าผ่านแอปฯ ในมือถือแล้วใช้งานได้ทันทีแถมตั้งค่าได้ง่ายมาก
- นอกจากกระจายสัญญาณผ่าน Wi-Fi 6 ได้แล้ว ก็มีพอร์ต LAN เอาไว้ต่อคอมพิวเตอร์หรือทีวีได้ด้วย
- ตัวกล่องเราเตอร์รุ่นใหม่สามารถกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้ตั้งแต่ 32~128 ชิ้น
- เราเตอร์บางรุ่นนอกจากใช้กระจายสัญญาณก็เปลี่ยนเป็นตัวทวนสัญญาณแบบ Mesh ได้ด้วย
4 เราเตอร์ใส่ซิม 5G น่าใช้ ตั้งที่ไหนก็ได้ พกไปไหนก็เวิร์ค!
- D-Link DWR-X2000 (4,374 บาท)
- Tenda 5G03 5G NR Router AX1800 (5,516 บาท)
- TP-LINK ARCHER NX200 5G (5,873 บาท)
- TP-Link Deco X50-5G (7,833 บาท)
1. D-Link DWR-X2000 (4,374 บาท)
Wireless Standard & SIM | Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax SIM 5G ความเร็วสูงสุด 2.6 Gbps |
Frequency | 2.4GHz มีความเร็วสูงสุด 600 Mbps 5GHz มีความเร็วสูงสุด 1,200 Mbps รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกัน 32 อุปกรณ์ |
Wireless Security | WPA2-PSK, WPA-PSK, WPA3, Firewall, Wi-Fi Black/White List |
Application & Management | Web UI หรือ SNMP |
Price | 4,374 บาท (Hardware Corner Shopee) |
D-Link DWR-X2000 เป็นเราเตอร์ใส่ซิม 5G ขนาดกะทัดรัด เหมาะจะตั้งใช้งานในบ้าน, หอพักหรือร้านค้าก็ดี เวลาใช้งานสามารถใส่ SIM 5G และตั้งค่าผ่านหน้า Web UI ก็พร้อมใช้งานได้ในทันที ตัวเราเตอร์มีขนาดเล็กกะทัดรัดให้พอวางเอาไว้ในซอกมุมต่างๆ ได้และมีพอร์ต Gigabit LAN ไว้ต่ออุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์หรือทีวีแล้วปล่อยสัญญาณ Wi-Fi 6 ได้พร้อมกัน หากบ้านหรือร้านค้าไหนไม่พร้อมจะเดินสายอินเทอร์เน็ตหรือเป็นหน้าร้านสาขาก็แนะนำให้เอากล่องเราเตอร์ตัวนี้ไปติดตั้งก็ใช้งานได้เลย
ข้อดี
- กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax
- รองรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์ได้มากสุด 32 ชิ้น เหมาะกับบ้านและร้านค้า
- มีช่อง Gigabit LAN ให้ใช้ 1 ช่อง ใช้เชื่อมต่อทีวีหรือคอมพิวเตอร์ได้สะดวก
- รองรับ 5G SA/NSA ในตัว มีค่า Latency ต่ำ จึงใช้งาน VR ได้ด้วย
ข้อสังเกต
- ต้องตั้งค่าผ่าน Web UI หรือ SNMP เท่านั้น ไม่มีแอปฯ ให้ใช้เหมือนรุ่นอื่น
2. Tenda 5G03 5G NR Router AX1800 (5,516 บาท)
Wireless Standard & SIM | Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax SIM 5G NR Peak Download 4.67 Gbps SIM 5G NR Peak Upload 1.25 Gbps |
Frequency | 2.4GHz มีความเร็วสูงสุด 574 Mbps 5GHz มีความเร็วสูงสุด 1,201 Mbps รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกัน 128 อุปกรณ์ |
Wireless Security | WPA2/WPA3,WPA/WPA2,WPA2-PSK,WPA-PSK,WEP |
Application & Management | Web UI |
Price | 5,516 บาท (Tenda Shopee Mall) |
Tenda 5G03 5G NR Router AX1800 เป็นเราเตอร์ใส่ซิม 5G ประสิทธิภาพสูง ถึงความเร็ว Download กับ Upload จะไล่เลี่ยกับแบรนด์อื่นก็จริง แต่ในตัวกล่องติดตั้งเสาสัญญาณมา 8 ต้น จึงกระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านหรือสำนักงานได้มากสุดถึง 128 ชิ้นพร้อมกัน จะติดตั้งไว้ในร้านอาหารหรือคาเฟ่ไว้ให้ลูกค้าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเวลาใช้บริการก็ดีหรือเอาไว้เป็นตัวพ่วงกับอุปกรณ์ IoT ก็ดี แต่ประสิทธิภาพของมันสูงระดับใช้เล่นเกม, ประชุมงานออนไลน์หรือดูภาพยนตร์ความละเอียด 4K ได้สบาย แถมทาง Tenda เคลมว่าเราเตอร์ตัวนี้สามารถกระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ทุกชิ้นได้เร็วเสมอกันทั้งหมดและติดพอร์ต LAN มาให้อีก 2 ช่อง เอาไว้ต่ออุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างทีวีหรือ NAS เป็นต้น หากใครอยู่คอนโดมิเนียมหรือหอพักแล้วไม่สะดวกเดินสายไฟเบอร์เข้าห้องก็แนะนำให้ซื้อเราเตอร์ตัวนี้ไปและหาโปรโมชั่น SIM 5G ดีๆ สักอันก็เพียงพอแล้ว
ลูกเล่นเสริมของเราเตอร์ Tenda 5G03 ตัวนี้ต้องยกให้ระบบ Easy Mesh ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับเราเตอร์แบรนด์เดียวกันเพิ่มได้มากสุด 8 ตัว เอาไว้กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้กว้างครอบคลุมพื้นที่ 960 ตร.ม. เหมาะกับบ้านหลังใหญ่ 2-3 ชั้นแน่นอน
ข้อดี
- กระจายสัญญาณ Wi-Fi 6 ให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้มากถึง 128 ชิ้นพร้อมกัน
- สามารถพ่วงเป็น Mesh Router ร่วมกับเราเตอร์ตัวอื่นของ Tenda ได้ทันที
- มีอัลกอริธึ่มเปลี่ยนโหมดให้เหมาะกับการใช้งานแบบต่างๆ ได้
- มีช่องเชื่อมต่อ LAN ติดตั้งมา 2 ช่อง เอาไว้ต่ออุปกรณ์ต่างๆ ใช้งานได้ง่าย
ข้อสังเกต
- ต้องตั้งค่าผ่านทาง Web UI เท่านั้น ไม่มีแอปฯ ในมือถือให้ใช้งานเหมือนรุ่นอื่น
3. TP-LINK ARCHER NX200 5G (5,873 บาท)
Wireless Standard & SIM | Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax SIM 5G ความเร็วสูงสุด 4.67 Gbps |
Frequency | 2.4GHz มีความเร็วสูงสุด 574 Mbps 5GHz มีความเร็วสูงสุด 1,201 Mbps |
Wireless Security | 64/128-bit WEP, WPA/WPA2, WPA-PSK/WPA2-PSK encryptions |
Application & Management | TP-Link Tether |
Price | 5,873 บาท (NAVA IT Shopee Mall) |
เราเตอร์แบรนด์ TP-Link อย่าง TP-LINK ARCHER NX200 5G นอกจากดีไซน์จะสวยเรียบหรูแล้ว ยังตั้งค่าใช้งานได้ง่ายผ่านทางแอปฯ TP-Link Tether ในสมาร์ทโฟนได้ทั้ง Android และ iPhone ไม่ว่าจะตั้งชื่อเครือข่าย, มอนิเตอร์การใช้อินเทอร์เน็ตไปจนเซ็ตอัพ EasyMesh พ่วงเราเตอร์ใส่ซิม 5G ตัวนี้เข้ากับโมเด็ม TP-Link ตัวอื่นก็ได้ แถมติดพอร์ต LAN มาให้ใช้ 3 ช่อง นอกจากเอาไว้ต่อกับทีวีหรือ Personal Cloud Drive ก็ได้ ถ้าพ่วงกับโมเด็มตัวหลักเอาไว้สามารถตั้งค่าเป็น WAN Connection Backup ถ้าเกิดอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการล่มก็ใช้อินเทอร์เน็ตจาก SIM 5G ต่อได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลากระจายสัญญาณจากสมาร์ทโฟนก็ได้และยังปรับตั้งค่าเราเตอร์ได้แบบ Remote management จึงใช้งานได้สะดวกตั้งค่าได้ง่ายมาก หากใครหาเราเตอร์ใส่ซิม 5G ดีๆ สักตัวเอาไว้พ่วงในระบบ Mesh หรือตั้งแยกเป็นเราเตอร์ก็ใช้ดี เหมาะกับการใช้งานในบ้าน, ร้านค้าหรือตั้งไว้ในสวนเผื่อต่อกล้องวงจรปิดก็ดีมาก
ข้อดี
- ตั้งค่าใช้งานได้ง่ายด้วยสมาร์ทโฟนผ่านแอปฯ TP-Link Tether
- เซ็ตอัพใช้งานง่าย แค่ใส่ซิม 5G และเสียบปลั๊กแล้วใช้งานทันที
- มีพอร์ต Gigabit LAN ติดตั้งมา 3 ช่อง เอาไว้ต่อกับทีวีหรือคอมพิวเตอร์ได้
- รองรับการทำ WAN Connection Backup เป็นระบบอินเทอร์เน็ตสำรองได้
- มีฟีเจอร์ EasyMesh พ่วงระบบกับโมเด็ม TP-Link ตัวหลักทำ Mesh Wi-Fi ได้
- มีปุ่ม Reset, WPS ติดมาให้กดใช้งานในยามจำเป็นได้ง่าย
- สามารถปรับตั้งค่าเราเตอร์ได้แบบไร้สายด้วย Remote Management
ข้อสังเกต
- ถ้าต้องการใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพต้องตั้งค่าพอสมควรและควรศึกษาการใช้งานเพิ่ม
4. TP-Link Deco X50-5G (7,833 บาท)
Wireless Standard & SIM | Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ SIM 5G ความเร็วสูงสุด 3.4 Gbps |
Frequency | 2.4GHz มีความเร็วสูงสุด 574 Mbps 5GHz มีความเร็วสูงสุด 2,402 Mbps รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกัน 150 อุปกรณ์ |
Wireless Security | WPA2-Personal, WPA2-Personal, WPA3-Personal, SPI Firewall, Access Control, HomeShield Security |
Application & Management | TP-Link Deco |
Price | 7,833 บาท (McWinner Shopee) |
TP-Link Deco X50-5G ตัวนี้เป็นเราเตอร์ใส่ซิมประสิทธิภาพสูงพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม ทั้งพ่วงเราเตอร์ตัวอื่นในเครือทำ Mesh Wi-Fi ก็ได้ ตั้งค่า HomeShield รักษาความปลอดภัยจาก Malware และเว็บไซต์ไม่เหมาะสมได้ สามารถกระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่างๆ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้พร้อมกันมากสุดถึง 150 เครื่อง แถมพ่วงเข้ากับระบบ Google Home ใช้ Google Assistant สั่งการด้วยเสียงได้สะดวกสบาย เวลาตั้งค่าและมอนิเตอร์การใช้อินเทอร์เน็ตก็ทำผ่านแอปฯ TP-Link Deco ในมือถือได้ทันทีและในแอปฯ ก็จะสอนการตั้งค่าให้ผู้ใช้ทำตามแบบง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอนก็เสร็จพร้อมใช้ในทันที แต่อย่างไรก็ตาม Deco X50-5G ตัวนี้จะมีข้อสังเกตอยู่บ้าง คือ ไม่มีระบบ WAN Connection Backup ที่ทำงานเมื่ออินเทอร์เน็ตจากเครือข่ายผู้ให้บริการเกิดปัญหาใช้งานไม่ได้แล้วจะตัดเข้ามาใช้เน็ต 5G ในทันทีเหมือนรุ่นในข้อก่อน ถ้าไม่ได้เน้นฟีเจอร์นี้แต่ต้องการจุดกระจายสัญญาณที่รองรับอุปกรณ์ได้หลายชิ้นพร้อมกันจะเหมาะกับ TP-Link Deco ตัวนี้มากกว่า
ข้อดี
- เริ่มต้นใช้งานได้ง่าย เพียงใส่ซิม 5G และต่อปลั๊กก็เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันที
- รองรับการเชื่อมต่อ 150 อุปกรณ์พร้อมกัน ครอบคลุมพื้นที่ 230 ตร.ม.
- เพิ่มระบบ HomeShield เข้ามาช่วยรักษาความปลอดภัยและ Malware ได้
- รองรับฟีเจอร์ EasyMesh พ่วงกับโมเด็ม TP-Link ตัวอื่นเพื่อทำระบบ Mesh Wi-Fi ได้
- ตั้งค่าและมอนิเตอร์การทำงานได้ง่ายด้วยแอปฯ Deco ในสมาร์ทโฟน
- สั่งการด้วยเสียงผ่านทาง Google Assistant และตั้งค่ากับระบบ Google Home ได้
- แยกระบบเป็น Guest network เอาไว้ให้ผู้อื่นใช้งานได้โดยไม่กระทบเครือข่ายหลัก
ข้อสังเกต
- ราคาค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับเราเตอร์ใส่ซิม 5G รุ่นอื่น
- ไม่มีระบบ WAN Connection Backup สลับมาใช้อินเทอร์เน็ต 5G โดยอัตโนมัติเมื่อใช้เน็ตไม่ได้
สรุปสเปค 4 เราเตอร์ใส่ซิม 5G น่าใช้ ต่อเน็ตสะดวกทุกเมื่อ!
หลายคนอาจคิดว่าเราเตอร์ใส่ซิม 5G เป็นอุปกรณ์ไม่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันเท่าไหร่ เพราะปกติก็สมัครใช้อินเทอร์เน็ตแบบไฟเบอร์ออปติกจากเครือข่ายผู้ให้บริการอยู่แล้ว แต่กลับกันเจ้าเราเตอร์ประเภทนี้จะมีประโยชน์กับร้านแฟรนไชส์ที่ต้องเอาเครื่อง PoS ต่อเน็ตไว้ตลอดเวลาหรือคาเฟ่เล็กๆ ที่จะแชร์เน็ตให้ลูกค้าใช้งานได้บ้างก็มีประโยชน์ ยิ่งกว่านั้นถ้าใครต้องออกไปทำงานนอกสถานที่หรือตั้งแคมป์แล้วอยากแชร์เน็ตให้สมาชิกครอบครัวหรือผู้ร่วมทริปเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ จะลงทุนซื้อไว้สักตัวก็คุ้มค่ามาก
กลับกันนอกจาเรื่องเราเตอร์ใส่ซิมก็ต้องมาโฟกัสเรื่องแพ็คเกจ SIM 5G ว่าแพ็คเกจไหนตอบโจทย์การใช้งานของเรามากกว่า ถ้าใช้เป็นประเภทซิมเทพก็ได้เน็ตเร็วแต่นับปริมาณว่าว่าใช้จนครบ GB แล้วหรือยังค่อยลดความเร็วลงหรือเลือกเป็นแบบไม่จำกัดปริมาณแต่จำกัดความเร็วแทน ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีแตกต่างกันไป ถ้ารู้ตัวว่าต้องรับส่งไฟล์ปริมาณมากๆ ก็เลือกเน็ตไม่จำกัดปริมาณไว้ก่อนแต่ถ้าใช้ไม่บ่อยแต่ขอเน็ตเร็วก็หันไปหาซิมเทพได้เลย