Lenovo L22i-40 สีสดใส ดีไซน์สวย ตอบโจทย์ทั้งงานและความบันเทิง เพื่อการสร้างไอเดียใหม่ๆ ในชีวิตประจำวัน
Lenovo L22i-40 จอดีไซน์ล้ำ ขนาดกระทัดรัด ขอบจอบางเป็นพิเศษ พื้นที่แสดงผล 22″ ความละเอียด Full-HD คมชัดและค่าความสว่างสูง เหมาะกับการใช้งานของทุกคนภายในบ้านและสำนักงาน เพิ่มความต่อเนื่องให้กับการแสดงผลบนอัตรารีเฟรชเรต 75Hz รวมถึงรองรับ AMD FreeSync อีกด้วย กับการปรับเลื่อนได้สะดวกมากขึ้น ด้านหลังรองรับ VESA Mount เพื่อต่อเข้ากับผนัง หรือขาจับจอ ให้ความสะดวกในการใช้งาน ตัวฐานทำออกมาแข็งแรง มีที่วางมือถือและอุปกรณ์อื่นๆ หยิบจับได้ง่าย พอร์ตต่อพ่วงมีทั้ง HDMI และ VGA สอดคล้องกับการใช้งานในหลายรูปแบบ กับการรับประกันถึง 3 ปีจาก Lenovo สนนราคาประมาณ 2,340 บาทเท่านั้น
Lenovo L22i-40 จอทำงาน สีสดใส ดีไซน์ล้ำ
Specification
Description | |
Display size: | 21.5 |
Panel: | VA |
Resolution: | 1920×1080 |
Ratio: | 16:9 |
Refresh Rate: | 75Hz |
Brightness: | 250cd/m2 |
Contrast Ratio: | 3,000:1 |
Color Gamut: | sRGB 99% |
Speaker: | Dual 3W |
AMD FreeSync: | Yes |
Low Blue Light: | Yes |
Dimension: | 491.6 x 182.8 x 401.6 mm |
Power: | 15W |
Connector: | HDMI 1.4, D-Sub |
VESA mount: | 100 x 100 mm |
Price: | 2,340 Baht |
ข้อมูลเพิ่มเติม: Lenovo
Install
Lenovo L22i-40 จอมอนิเตอร์รุ่นนี้สามารถติดตั้งได้รวดเร็ว เพราะอุปกรณ์ที่เป็นส่วนควบมีไม่เยอะ และยังประกอบได้แบบไม่ต้องใช้เครื่องมืออีกด้วย ขั้นแรกใส่ขาตั้งเข้ากับช่องด้านหลังจอ จากนั้นหมุนตัวล็อคให้แน่น
ขาล็อคจะเป็นเหล็กแบนเสียบลงไปในช่องด้านหลังนี้ เมื่อล็อคแล้วจะมีความแน่นหนาพอสมควร
หมุนหมุดล็อคให้พอตึงมือ เพื่อยึดขาตั้งเข้ากับตัวจอ ไม่ให้สั่นคลอน
ตัวฐานก็เช่นกัน ให้เสียบลงไปในช่องของขาตั้งที่มี จากนั้นใช้ตัวล็อคหมุนเข้าไปให้แน่นหนาอีกครั้ง
ขาตั้งจะมาพร้อมช่องสำหรับลอดสายไฟและสายสัญญาณของตัวจอ เพื่อความเป็นระเบียบ ดูแล้วสบายตามากขึ้น
เมื่อประกอบเสร็จเรียบร้อย จะออกมาเป็นรูปแบบนี้ มีความสวยงาม และดูมินิมอลดีทีเดียว เพราะขาตั้งทำออกมาให้กระชับ ดูไม่เทอะทะ แต่มีความแข็งแรงนั่นเอง
Design
บอดี้หลักของจอ Lenovo รุ่นนี้จะมาในโทนสีขาวมีเป็นสีเทาบางๆ ขอบจอทั้งด้านบน และด้านข้างทั้ง 2 ด้าน ถูกออกแบบมาให้บางเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเกือบไร้ขอบ ยิ่งเป็นจอสีขาวแบบนี้ ทำให้เห็นถึงความบางได้อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้พื้นที่แสดงผลบนหน้าจอได้อย่างเต็มที่
มีเพียงขอบบานด้านล่างของจอเท่านั้น ที่จะหนาขึ้นมาระดับหนึ่งราวๆ 2.2cm โดยประมาณ เพราะเป็นจุดที่จะใช้รับพาแนล และโครงสร้างของจอ เพื่อความแข็งแรงที่มากขึ้น แต่ก็ดูสมดุลไปกับตัวจอได้อย่างลงตัว
ขาตั้งและฐานมาในรูปแบบของโลหะ ที่ทำให้ตัวจอมีความแข็งแรง จุดเด่นคือ ไม่โยกคลอนหรือสั่นไหวได้ง่าย ขณะที่พิมพ์งาน ด้านหลังจอตัวฐานจะหนา และเพรียวบางลงไปจนถึงบริเวณด้านหน้า เพื่อให้ศูนย์ถ่วงการรับน้ำหนักของจอไปทางด้านหลังได้มากขึ้น เช่นเดียวกับขาตั้งที่เป็นโลหะ ในลักษณะของขาตั้งคู่ เชื่อมโยงไปส่วนหลังของจออย่างแน่นหนา
บริเวณฐานของจอคอม Lenovo รุ่นนี้เป็นแบบฐานแบนรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า รับขาตั้งบริเวณด้านหลัง โดยมีแถบพลาสติก ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้มากขึ้น และมีช่องเล็กๆ สำหรับจัดวางอุปกรณ์เพิ่มเติมได้
ทาง Lenovo เองก็เข้าใจกลุ่มผู้ใช้จอคอมสำหรับทำงาน หรือการใช้งานในบ้าน จะได้มีพื้นที่สำหรับจัดวางอุปกรณ์หรือของใช้ส่วนตัว ไม่ต้องเกะกะพื้นที่บนโต๊ะเพิ่ม นอกจากจะวางมือถือ ปากกา ต้นไม้เล็กๆ ไว้บนแผ่นที่ฐานได้แล้ว ยังมีช่องเล็กๆ ในการวางมือถือ ให้มีมุมเอียงรับกับการมองได้ สำหรับใช้ในการประชุม หรือดูคอนเทนต์ขณะทำงานไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย
ปุ่มเพาเวอร์อยู่บริเวณด้านใต้ตัวจอ ที่มุมทางด้านขวา เมื่อกดเปิดและจอทำงานจะมีไฟสถานะสีขาวปรากฏขึ้น แต่ถ้าไม่มีสัญญาณจอ จะเป็นไฟสีส้มปรากฏขึ้นแทน
จอภาพทางด้านซ้าย จะเป็นแถบลาเบลและโลโก้ Lenovo ซึ่งระบุรายละเอียดเบื้องต้นของตัวจอ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่แสดงผล 21.5″, ความละเอียด Full-HD 1080p, มีค่า Gamut sRGB 99% และออกแบบมาให้มีมิติที่บางพิเศษ รวมถึงมาพร้อมลำโพงแบบคู่ เช่นเดียวกับฟีเจอร์ถนอมสายตา Eyesafe และ Certified ต่างๆ รวมถึงรองรับเทคโนโลยี AMD FreeSync เพื่อการแสดงผลที่ดูต่อเนื่องสบายตา ขณะที่เล่นเกมอีกด้วย
ด้านหลังเป็นปุ่มในแบบจอยสติ๊ก ใช้สำหรับการปรับแต่งค่า OSD ของจอภาพ ด้วยการกดปุ่ม เพื่อเข้าสู่เมนู เลื่อนขึ้น-ลง และซ้าย-ขวา เพื่อไปยังคำสั่งที่ต้องการ กดปุ่มอีกครั้ง เพื่อยืนยัน ซึ่งทำได้ค่อนข้างง่ายทีเดียว
ส่วนปุ่มเล็กๆ ด้านล่างนั้น ใช้สำหรับสลับสัญญาณ Input เข้าสู่จอนี้ เช่น ต่อคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง ผ่านทางช่องสัญญาณ HDMI และ D-Sub ก็สามารถสลับการแสดงผลได้ทันที ผ่านทางฟังก์ชั่นนี้ โดยไม่ต้องเข้าไปปรับใน OSD settings แต่อย่างใด ช่วยลดเวลาในการเลือกสัญญาณขาเข้าไปได้มากทีเดียว
บอดี้ด้านหลังจอภาพมาในโทนสีขาวแกมเทาอ่อนๆ เช่นเดียวกับขอบจอด้านหน้า โดยมีโลโก้ Lenovo สีเทาเงินขนาดใหญ่ บริเวณมุมบนด้านซ้ายของตัวเครื่อง
ด้านหลังของจอ Lenovo L22i-40 รุ่นนี้ มีช่อง Wall Mount 100mm มาให้ สำหรับการติดตั้งเข้ากับ VESA Mount หรือนำเอา Mini PC มาติดเข้ากับด้านหลังจอ หรือจะใช้ร่วมกับขาจับจอ ที่เป็น Monitor Arm ได้อีกด้วย
มุมมองจากด้านบน จะเห็นความหนาของตัวจอ ที่ยื่นออกมาเล็กน้อยจากในส่วนของพาแนลด้านหน้า ซึ่งใช้สำหรับช่วยในการระบายความร้อนที่เป็นแผงชุดอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมการทำงานอยู่ด้วย
ด้านใต้ของจอคอม Lenovo L22i-40 รุ่นนี้ เป็นจุดเชื่อมต่อสัญญาณ Input และอื่นๆ ประกอบด้วย HDMI และ D-Sub ซึ่งก็หมายถึงผู้ใช้จะสามารถใช้งานได้ทั้งคอมพิวเตอร์พีซี และโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ รวมถึงการนำสัญญาณจากคอมรุ่นเก่าหรือคอมสำนักงาน มาต่อเข้ากับ D-Sub ได้อีกด้วย ให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานได้มากขึ้น ใกล้กันจะเป็นช่องสำหรับ AC Power แบบ 3 พิน ไม่ต้องใช้ตัวแปลงแต่อย่างใด
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ชุดลำโพงคู่ ที่ติดตั้งมาบริเวณด้านใต้ของจอคอม ใกล้กับพอร์ตต่อพ่วงทั้ง 2 ข้าง แทบไม่จำเป็นต้องมีลำโพงมาต่อเพิ่ม เพราะรองรับได้ทั้งเรื่องงาน การประชุม ฟังเพลง และการเล่นเกมได้ครบ
Experience
สำหรับประสบการณ์ใช้งานบนจอ Lenovo รุ่นนี้ มีหลายๆ ส่วนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในเรื่องความคล่องตัว และความสะดวกในการใช้งาน จัดว่าเป็นจอในระดับ 2 พันกว่าบาท แต่สามารถเริ่มต้นการใช้งานได้ในหลายๆ โอกาส ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน การเรียน หรือเพื่อความบันเทิงก็ตาม
ด้วยการออกแบบให้มีจุดเชื่อมต่อบริเวณขาตั้งและจอ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการปรับเลื่อนจอได้บ้าง แต่ยังเน้นที่มุมก้มและเงยเป็นหลัก กับความเอียงให้รับเข้ากับการนั่งและการยืนได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานในแต่ละวันได้
นอกจากนี้การปรับแต่ง OSD ยังเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย และมีตัวเลือกให้ใช้งานอยู่ไม่น้อยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการรองรับเมนูภาษาไทย หรือการปรับ Display Mode ที่มีตัวเลือกโพรไฟล์ให้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Game, Movie, Web หรือ Picture ก็ตาม และแต่ละแบบก็ยังปรับเพิ่มบางส่วนได้อีกด้วย เพียงแต่ไม่สามารถบันทึกเป็นโพรไฟล์ใหม่ได้เท่านั้น
นอกจากนี้ยังเลือกปรับการ Response ของตัวจอเพิ่มได้ เพื่อการตอบสนองการแสดงผลที่ดีขึ้นด้วยการ OverDrive หรือจะเป็นการปรับอุณหภูมิสี และรูปแบบของเมนู ระดับเสียง ไปจนถึงไฟสถานะ หรือถ้าเป็นเกมเมอร์ ก็สามารถเปิดใช้งาน FreeSync ในการใช้ร่วมกับเกมมิ่งพีซีกับการเชื่อมต่อผ่าน HDMI ได้เช่นกัน
การแสดงผลพื้นฐาน จัดได้ว่าเป็นจออีกรุ่นหนึ่งที่มีมุมมองที่กว้างในระดับหนึ่งทีเดียว กับความคมชัดการมองภาพทั้งด้านซ้ายและขวา เห็นรายละเอียดได้ชัดเจน ซึ่งเป็นผลดีต่อการทำงานของผู้ใช้ ไม่ทำให้ภาพผิดเพี้ยนจนเกินไป แม้ในช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่กึ่งกลางของจอ หรือในช่วงที่แบ่งปันหน้าจอให้กับผู้อื่นได้ดูข้อมูลบนจอเดียวกัน ก็ยังวางใจได้
ระบบปฏิบัติการแจ้งรายละเอียดของจอแสดงผลเอาไว้อย่างชัดเจน กับความละเอียดสูงสุดคือ 1920×1080 หรือ Full-HD เช่นเดียวกับอัตรารีเฟรชเรตที่ 75Hz ซึ่งมากกว่าจอพื้นฐานทั่วไปที่อยู่ในระดับ 60Hz
ในด้านของการทำงาน แม้จะเป็นจอที่มีพื้นที่แสดงผลระดับ 22″ ที่ถือว่าเป็นจอขนาดพื้นฐานติดบ้าน หรือใช้ในสำนักงานเป็นหลัก แต่ก็ให้พื้นที่ทำงานได้มากพอ สำหรับการทำหน้าเอกสารแบบหนึ่งหน้าเต็ม หรือจะเป็นการพรีวิว ดูข้อมูล PDF และท่องเว็บเป็นหลัก แต่ก็ยังสามารถแบ่งหรือ Split หน้าจอ เพื่อใช้เปรียบเทียบเอกสาร หรือการแต่งภาพในแบบ Before & After ได้เช่นกัน กับการแบ่งครึ่งหน้าจอซ้าย-ขวา
หรือจะใช้ทำงาน ทำเอกสาร ไปพร้อมๆ กับการดูหนัง หรือเทรดหุ้นไปพร้อมๆ กันได้ โดยที่ไม่ต้องย่อสเกลของหน้าต่างให้เล็กจนเกินไป แต่ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจน ส่วนจะแบ่งเป็น 5 หน้าต่างก็ยังพอได้ แต่อาจจะต้องดูตามความเหมาะสม ส่วนความคมชัดจัดว่าวางใจได้ ตัวอักษรมีความคมมองเห็นได้ชัดเจน แม้ว่าจะปรับสเกลจอให้ใหญ่ขึ้นก็ตาม Lenovo L22i รุ่นนี้ ตอบโจทย์ได้ดี แต่สำหรับคนที่เน้นเช็คงาน ทำเอกสารเป็นเวลานานๆ ด้วยเทคโนโลยีเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้าแบบธรรมชาติ EyeSafe 2.0 ช่วยให้คุณใช้งานได้นานขึ้น ลดอาการเมื่อยล้าของสายตาได้ดีพอสมควร
แม้ว่าจะเป็นจอที่เน้นที่การทำงาน แต่ในด้านความบันเทิงอย่างเช่นการเล่นเกม ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เรียกว่าเอาใจคนที่ต้องการจอที่ครบเครื่อง ในงบประมาณไม่สูงมาก แต่ให้กับทุกคนในบ้านได้ใช้ร่วมกัน ในแง่ของสีสันนั้น ให้ความอิ่มเอมได้ดีพอสมควร และภาพยังมีความนุ่มนวลต่อเนื่อง อย่างน้อยคือ อัตรารีเฟรชเรตที่เพิ่มไปถึง 75Hz ก็ทำให้การแสดงผล แม้กับคอมที่ไม่แรงมาก ยังแสดงภาพได้นุ่มนวล อย่างเช่นในการทดสอบของเรา ทั้งในเกม PUBG และ DOTA2 บนการเล่นกับคอมที่ใช้กราฟิกออนบอร์ด ยังได้ภาพที่มีความสดใส ได้ความต่อเนื่อง แม้ในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เอฟเฟกต์ในเกมหนักๆ ก็ยังได้ภาพที่สวยงามน่าประทับใจไม่น้อย
เช่นเดียวกับการชมภาพยนตร์ ใครที่มีงานเกี่ยวข้องกับวีดีโอ การทำวีดีโอพรีเซนเทชั่น ไปจนถึงการชมวีดีโอซีรีย์ จอภาพ Lenovo รุ่นนี้ก็ตอบสนองได้ดีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะพาแนลที่สามารถแสดงสีสันที่สดใส ทำให้ภาพที่ได้ดูน่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อปรับ Picture Mode เป็น Cinema ก็ดูสบายตายิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้า ที่มีการเกลี่ยสีได้ตัดกับฉากของภูเขาหรือการภาพยนตร์แข่งรถ ที่มีการสลับฉากอย่างรวดเร็ว ก็ไม่พบอาการของภาพแตก ภาพค้างให้เสียอารมณ์อีกด้วย แม้ว่าพื้นที่แสดงผลจะเล็กไปบ้าง แต่ในแง่ของการชมวีดีโอ ดูหนังเพลินๆ บนโต๊ะทำงานส่วนตัว จอกว้างระดับนี้ ก็มากพอให้สนุกได้เช่นกัน รวมถึงเรื่องของเสียงกับลำโพงคู่ 3W ที่ติดตั้งมาด้วย ให้อรรถรสได้ไม่เบาทีเดียว
การใช้งานที่นอกเหนือจากงานเอกสาร สิ่งที่วางใจได้คือ การให้สีสันที่มักจะเป็นประเด็นสำคัญ ของผู้ใช้จอทำงาน ที่เป็นจอภาพเริ่มต้น มักมองว่าเป็นจุดที่ไม่สามารถให้ได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้ HDR Streaming support ก็ตาม แต่ก็ดีพอในการดูหนัง เล่นเกมอย่างมีอรรถรส เช่นเดียวกับการแสดงผลสีดำ ที่ให้ความดำที่ดำเข้ม อาจจะไม่ได้ไล่เฉดแบบเดียวกับเกมมิ่งมอนิเตอร์ แต่ก็เพียงพอต่อการใช้ในโอกาสต่างๆ อีกด้วย และความสว่างยังมากพอที่จะสู้กับแสงรบกวนต่างๆ ทั้งภายในสำนักงาน หรือภายในบ้านได้ไม่ยากเลย และยังเป็นจอแบบ Anti-Glare อีกด้วย สบายใจได้กับการใช้งานที่สบายตา ไม่ต้องเจอกับแสงสะท้อนที่จะมารบกวนสายตาขณะใช้งาน
Conclusion
Lenovo L22i-40 รุ่นนี้นับว่าเป็นหนึ่งโมเดลของจอทำงานสำหรับสำนักงาน หรือผู้ใช้ในบ้าน ที่ต้องการจอสำหรับการเรียน การทำงาน ไปจนถึงความบันเทิง ที่ดูดีมีสไตล์กับการออกแบบที่มีความทันสมัย พื้นที่แสดงผลระดับ 22″ บนความละเอียด Full-HD ที่จะใช้ในงานเอกสาร แบ่งหน้าจอ เปรียบเทียบงาน เพราะตัวอักษรคมชัด และยังถนอมสายตา เมื่อต้องใช้งานต่อเนื่องยาวนาน หรือการแต่งภาพในเบื้องต้น ไปจนถึงการชมภาพยนตร์ ดูซีรีย์ ที่ให้สีสันสดใส ให้อรรถรสในการชมได้ดีพอสมควร การเล่นเกมก็ยังดูลื่นไหล ด้วยการสนับสนุน AMD FreeSync เพื่อภาพที่สมูทและต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ออกแบบมาให้อยู่บนบอดี้กระทัดรัด ขอบจอที่บางเฉียบ เปิดกว้างให้กับการทำงานและความบันเทิงได้ครบครัน เคลื่อนย้ายได้ง่าย และยังรองรับ VESA Mount จะต่อแขนจับจอ หรือจะต่อมินิพีซีก็ยังสะดวกไม่น้อยเลย กับราคาประมาณ 2,340 บาท และการรับประกันเป็น 3 ปี On-site ซึ่งเป็นแบบ Pick Up, Repair, and Return ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไป Service Center อีกด้วย