โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series ใหม่ล่าสุด ส่งมอบประสิทธิภาพการเล่นเกมและการประมวลผลอันเหนือชั้นสำหรับเดสก์ท็อปพีซี พร้อมประหยัดพลังงานมากกว่าที่เคย
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 11 ตุลาคม 2567 – ประเด็นสำคัญ: อินเทล ประกาศเปิดตัวตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200S series ใหม่ ซึ่งจะขยายขีดความสามารถของ AI บนแพลตฟอร์มเดสก์ท็อป และนำเสนอตัวเลือก AI PC สำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาประสิทธิภาพการประมวลผลระดับสูง นำโดยโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 9 processor 285K เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์เจเนอเรชั่นล่าสุดนี้ประกอบด้วย 5 เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ใหม่ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Performance-core (P-core) ล้ำสมัยสูงสุดถึง 8 คอร์ ซึ่งมีความเร็วสูงสุดเท่าที่เคยมีในเดสก์ท็อปพีซี1 รวมถึงสถาปัตยกรรม Efficient-core (E-core) สูงสุดถึง 16 คอร์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงกว่าเจเนอเรชั่นก่อนหน้าถึง 14 เปอร์เซ็นต์ในเวิร์กโหลดแบบมัลติเธรด2 โปรเซสเซอร์ตระกูลใหม่นี้ถือเป็นโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปรุ่นแรกที่รองรับหน่วยประมวลผลข่ายประสาท (Neural Processing Unit: NPU) ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Xe GPU ภายใน และเทคโนโลยีด้านมีเดียล้ำสมัย
“โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200S series ใหม่ ถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายของเราในการลดการใช้พลังงานลงอย่างมีนัยสำคัญโดยที่ยังคงรักษาประสิทธิภาพการเล่นเกมได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมส่งมอบการประมวลผลที่ทรงพลัง ผลลัพธ์ที่ได้คือประสบการณ์การใช้งานที่ตัวเครื่องส่งความร้อนน้อยลงและมีความเงียบมากขึ้น ซึ่งถูกยกระดับด้วยศักยภาพ AI gaming และการออกแบบสร้างสรรค์ด้วยพลังของ NPU ผสานกับความสามารถด้านเทคโนโลยีมีเดียที่เหนือชั้นซึ่งช่วยเสริมพอร์ตโฟลิโอเครื่องมือด้านกราฟิกของเราที่กำลังเติบโตให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น” นายโรเบิร์ต ฮัลล็อค (Robert Hallock) รองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำแผนก AI และการตลาดทางเทคนิค ฝ่าย Client Computing Group อินเทล กล่าว
ทำไมถึงสำคัญ
ด้วยประสิทธิภาพของนวัตกรรม Intel core ล่าสุด โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200S series ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงสูงสุดถึง 58 เปอร์เซ็นต์ในการใช้งานในชีวิตประจำวัน4 ลดการใช้พลังงานในระบบลงสูงสุดถึง 165 วัตต์5 ขณะเล่นเกม โปรเซสเซอร์ตระกูลใหม่ได้ผสานศักยภาพและประสิทธิภาพที่เหนือชั้นขึ้นเข้าด้วยกัน พร้อมส่งมอบประสิทธิภาพเวิร์กโหลดแบบซิงเกิ้ลเธรดเร็วขึ้นสูงสุดถึง 6 เปอร์เซ็นต์6 และแบบมัลติเธรดเร็วขึ้นสูงสุดถึง 14 เปอร์เซ็นต์2 เมื่อเทียบกับเจเนอเรชั่นก่อนหน้า
ด้วยความสามารถด้าน AI แบบครบวงจรที่ขับเคลื่อนด้วย CPU, GPU และ NPU ผู้ใช้งานจะได้สัมผัสความอัจฉริยะและขุมพลังประสิทธิภาพที่พวกเขาต้องการสำหรับการสร้างสรรค์คอนเทนต์และเล่นเกมที่ช่วยลดปริมาณคาร์บอนฟุตพรินต์
ด้วยการนำ AI PC มาสู่ผู้ใช้งานเป็นครั้งแรก โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200S series ส่งมอบประสิทธิภาพการใช้งานด้านการสร้างสรรค์ด้วย AI ที่รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมสูงสุดถึง 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์รุ่นเรือธงของคู่แข่ง7 ขณะที่ NPU ใหม่ช่วยเอื้อต่อการออฟโหลดฟังก์ชั่นต่างๆ ของ AI อาทิ การเพิ่มความจุของ GPU เพื่อเพิ่มเฟรมเรตเกมมิ่ง อัตราเฟรมเรตในการเล่นเกม ลดการใช้พลังงานของเวิร์กโหลด AI ส่งเสริมการเข้าถึงกรณีการใช้งาน (Use case) ได้แก่ การวิเคราะห์ติดตามใบหน้าและท่าทางในเกมพร้อมลดผลกระทบที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพ
เกี่ยวกับ AI PC แรกของอินเทล
ด้วยค่า TOPS (tera operations per second หรือหน่วยวัดประสิทธิภาพขีดความสามารถของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ในการประมวลผล AI) ของทั้งแพลตฟอร์มสูงสุดถึง 36 โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200S series ถือเป็นเดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์แรกและดีที่สุดของอินเทลสำหรับ AI PC
- โซลูชันสำหรับผู้ใช้งานแบบครบวงจร: โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series มอบประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมด้าน AI ไปจนถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์ อีกทั้งขับเคลื่อนประสบการณ์ในการเล่นเกมอย่างแท้จริง ด้วยการยกระดับประสิทธิภาพด้านเกมมิ่งสูงสุดถึง 28 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์รุ่นเรือธงของคู่แข่งในตลาด8
- ชิปเซ็ต Intel® 800 Series ใหม่: ชิปเซ็ตล่าสุดในโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series นี้ ได้ขยายการสอดประสานเข้ากันของแพลตฟอร์มสูงสุดถึง 24 PCIe 4.0 lanes พอร์ต SATA 3.0 สูงสุดถึง 8 พอร์ต และพอร์ต USB 3.2 สูงสุดถึง 10 พอร์ต เสริมประสบการณ์การใช้งานของการเชื่อมต่อ การจัดเก็บ และเทคโนโลยีอื่นๆ ได้อย่างครอบคลุม
- โอเวอร์คล็อกปรับปรุงใหม่: โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series นำเสนอฟังก์ชั่นการโอเวอร์คล็อกแบบใหม่ด้วยระบบควบคุมที่มีประสิทธิภาพสูง มาพร้อมความถี่ในระดับเทอร์โบขนาด 16.6 MHz สำหรับ P-cores และ E-cores ส่วนควบคุมความจำใหม่รองรับหน่วยความจำ XMP และ CUDIMM DDR5 ที่ใหม่และทำงานรวดเร็วกับความจุสูงสุดถึง 48GB ต่อ DIMM สำหรับความจุรวม 192GB นอกจากนี้ Intel Extreme Tuning Utility ยังรวมส่วนเสริมของการโอเวอร์คล็อกไว้ภายในคลิกเดียว
- การเชื่อมต่อที่เหนือชั้น: โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series มาพร้อม 20 CPU PCIe 5.0 lanes, 4 CPU PCIe 4.0 lanes, รองรับพอร์ต integrated Thunderbolt™ 4 ports จำนวน 2 พอร์ต, Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3. ขณะที่ Intel® Killer™ Wi-Fi มอบประสิทธิภาพการเชื่อมต่อแบบไร้สายแบบซูเปอร์ชาร์จ ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์เป็นไปอย่างราบรื่นไร้รอยต่อผ่านการใช้งาน priority auto-detection การวิเคราะห์และจัดการแบนด์วิธ รวมถึงการเลือกและสวิตช์ AP แบบอัจฉริยะ
- ความปลอดภัยแบบมัลติเอ็นจิ้น: Intel® Silicon Security Engine ช่วยเก็บรักษาความลับของข้อมูลและการใช้โค้ดโดยรักษาประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดสำหรับเวิร์กโหลด AI ที่จำเป็น
การจัดจำหน่าย: โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200S series มีกำหนดวางจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์ ร้านค้า และพันธมิตรผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของอินเทลตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
หมายเหตุ
1ในบรรดาโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป x86 ที่กำหนดเป้าหมายที่ประมาณ 125W TDP โดยอิงจากการทดสอบประสิทธิภาพแบบ single thread/core เมื่อเปรียบเทียบกับโปรเซสเซอร์รุ่นก่อนหน้าและคู่แข่ง ณ เดือนตุลาคม 2024 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ intel.com/PerformanceIndex ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันออกไป
2วัดผลโดย SPECrate®2017_int_base (n-copies) ประเมินประสิทธิภาพระหว่าง Intel® Core™ Ultra 9 285K กับ Intel® Core™ i9 14900K SPEC®, SPECrate® และ SPEC CPU® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Standard Performance Evaluation Corporation ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.spec.org/spec/trademarks.html
3ในบรรดาโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปที่กำหนดเป้าหมายที่ประมาณ 125W TDP ณ เดือนตุลาคม 2024 ฟีเจอร์ AI ต่าง ๆ อาจต้องซื้อเพิ่มเติมหรือมีข้อกำหนดด้านความเข้ากันได้เฉพาะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ intel.com/performanceindex
4วัดการใช้พลังงานของโปรเซสเซอร์ระหว่างการโทร Zoom แบบ 1×1 โดยเปิดพื้นหลังเบลอบน NPU ระหว่าง Intel® Core™ Ultra 9 285K กับ Intel® Core™ i9 14900K ผลลัพธ์ของแต่ละระบบอาจแตกต่างกันไปเนื่องจากการใช้งาน การกำหนดค่า และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อพลังงานและประสิทธิภาพ
5วัดการใช้พลังงานของระบบเฉลี่ยระหว่างเล่น Warhammer: Space Marines 2 โดยระหว่าง Intel® Core™ Ultra 9 285K กับ Intel® Core™ i9 14900K ผลลัพธ์ของแต่ละระบบอาจแตกต่างกันไปเนื่องจากการใช้งาน การกำหนดค่า และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อพลังงานและประสิทธิภาพ
6วัดผลโดย SPECrate®2017_int_base (1-copy) ประเมินประสิทธิภาพระหว่าง Intel® Core™ Ultra 9 285K กับ Intel® Core™ i9 14900K SPEC®, SPECrate® และ SPEC CPU® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Standard Performance Evaluation Corporation ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.spec.org/spec/trademarks.html
7วัดผลโดยฟีเจอร์ AI Scene Edit Detection ใน Adobe After Effects ระหว่าง Intel® Core™ Ultra 9 285K กับ AMD Ryzen™ 9 9950X
8วัดผลโดย Total War: Warhammer III – Mirrors of Madness Benchmark ระหว่าง Intel® Core™ Ultra 9 285K กับ AMD Ryzen™ 9 9950X
สำหรับฟีเจอร์ AI อาจมีการซื้อซอฟต์แวร์ การสมัครสมาชิก หรือการเปิดใช้งานโดยผู้ให้บริการซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์ม หรืออาจมีข้อกำหนดเฉพาะด้านการกำหนดค่าหรือความเข้ากันได้ รายละเอียดเพิ่มเติมที่ intel.com/AIPC ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันออกไป
การปรับเปลี่ยนความถี่สัญญาณนาฬิกาหรือแรงดันไฟฟ้าอาจทำให้การรับประกันผลิตภัณฑ์เป็นโมฆะ และอาจลดความเสถียร ความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานของโปรเซสเซอร์และชิ้นส่วนอื่นๆ โปรดตรวจสอบรายละเอียดกับผู้ผลิตระบบและส่วนประกอบ
ประสิทธิภาพที่ได้จะแตกต่างไปตามการใช้งาน การกำหนดค่า และปัจจัยอื่นๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ intel.com/PerformanceIndex
ผลลัพธ์ประสิทธิภาพอ้างอิงจากการทดสอบ ณ วันที่แสดงในรายละเอียดการกำหนดค่า และอาจไม่สะท้อนการอัปเดตที่มีอยู่ทั้งหมด โปรดดูข้อมูลสำรองสำหรับรายละเอียดการกำหนดค่าเพิ่มเติม ทั้งนี้ไม่มีผลิตภัณฑ์หรือส่วนประกอบใดที่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์
ค่าใช้จ่ายและผลลัพธ์ของคุณอาจแตกต่างกันไป
เทคโนโลยีของอินเทลอาจต้องมีการเปิดใช้งานฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือบริการ