การลงทุนซื้อแกดเจ็ตสักชิ้นแล้วคุ้มจนไม่เสียใจภายหลังแน่นอน คือหูฟังบลูทูธเสียงดีตัดเสียงเยี่ยมก็เป็นของอีกชิ้นที่อยากแนะนำให้ซื้อของดีไปเลย แม้จะมีราคาเกือบหรือเกินหมื่นบาทก็น่าจ่ายให้มันช่วยเล่นเพลงโปรดใน Playlist ได้เพราะยิ่งขึ้นแล้ว ยังตัดเสียงรบกวนภายนอกออกไปให้มีสมาธิเวลาต้องทำงานเป็นเวลานานไม่ให้เสียงภายนอกมารบกวนหรือถ้าใครต้องบินต่างประเทศเป็นเวลานาน ก็ช่วยให้พักผ่อนนอนหลับเวลาเจอไฟลท์ระยะยาวได้ดีมาก เมื่อถึงปลายทางก็ตื่นมาทำธุระเดินทางต่อได้โดยไม่เหนื่อยล้ามากเกินไป เป็นเหตุผลแรกถ้าจะซื้อหูฟังไร้สายดีๆ ติดตัวสักอัน
เหตุผลหลักถัดมาเรื่องเสียงเพลง นอกจากไดรเวอร์และการปรับจูนเสียงจากผู้ผลิตหูฟังแล้ว ถ้าต่อหูฟังบลูทูธกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่าน Bluetooth ก็มีเรื่อง Codec หรือรูปแบบการส่งไฟล์เสียงไร้สายจากอุปกรณ์สู่อีกอุปกรณ์ โดยบีบอัดไฟล์จากต้นทางแล้วไปคลายยังอุปกรณ์ปลายทาง แต่ปัจจัยการส่งไฟล์แบบไร้สายก็จะทำให้รายละเอียดและคุณภาพของไฟล์เสียงลดลง ซึ่งนอกจาก Codec มาตรฐานอย่าง SBC, AAC แล้ว ตอนนี้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีแต่ละแห่งก็จะมี Codec เฉพาะของตัวเองทั้งนั้น ได้แก่
- SBC (Low Complexity Subband Coding) – Bluetooth Codec มาตรฐาน ติดมาพร้อมโปรไฟล์ A2DP (Advanced Audio Distribution Profile) ใช้แบตเตอรี่น้อย มี sample rate 16-bit/48kHz
- AAC (Advanced Audio Coding) – Codec ไฟล์เสียงที่ได้รับการพัฒนาต่อจาก MP3 ในอดีต ใช้ในอุปกรณ์ iOS จะรองรับ sample rate ถึง 24-bit/44.1kHz ถ้าเป็น Android รองรับถึง 320kbps
- SSC (Samsung Scalable Codec) – พัฒนาโดย Samsung เพื่อใช้กับหูฟังตระกูล Galaxy Buds มีค่า bitrates แปรผันได้ตามความเสถียรของการเชื่อมต่อ ตั้งแต่ 88kbps ถึง 512kbps
- aptX – พัฒนาโดย Qualcomm เพื่อใช้กับวิทยุและอุตสาหกรรมฟิล์มก่อนพัฒนามาใช้กับอุปกรณ์ Bluetooth ในภายหลังโดยเคลมว่าคุณภาพเสียง “เหมือนฟังจากแผ่น CD” เน้นคุณภาพเสียงให้ดีกว่ามาตรฐานของ Bluetooth ทั่วไป มีค่า bitrates สูงสุด 352kbps
- aptX HD – พัฒนาต่อจาก aptX และเปิดตัวในปี 2016 ได้เสียงระดับ 24-bit/48kHz ค่า bitrates เพิ่มไป 576kbps
- aptX Adaptive – ต่อยอดจาก aptX HD แล้วเปิดตัวในปี 2018 ให้คุณภาพเสียงดียิ่งขึ้นและมีค่าความหน่วงต่ำ (Low Latency) ลดการสูญเสียรายละเอียดเสียงลงเวลาโทรศัพท์หรือฟังเพลง ค่า bitrates แปรผันตั้งแต่ 279~420kbps
- aptX Lossless – Codec เวอร์ชั่นล่าสุดจาก Qualcomm มีค่า bitrate แปรผันสูงถึง 1.1~1.2Mbps เพื่อให้คุณภาพเสียงดี รองรับมาตรฐาน Bluetooth LE (Bluetooth Low Energy) ช่วยให้ประหยัดพลังงาน ปัจจุบันยังรองรับกับอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงเป็นหลัก
- LDAC (Lossless Digital Audio Codec) – พัฒนาโดย Sony เพื่อรองรับการเล่นไฟล์เพลงระดับ Hi-Res Audio รองรับ bitrates 24-bit/192kHz
- LC3 (Low Complexity Communications Codec) – เปิดตัวเมื่อปี 2020 เพื่อเป็นมาตรฐานใหม่ของการฟังเพลงผ่าน Bluetooth เน้นการประหยัดพลังงานและรองรับเสียง 32-bit/48kHz ค่า bitrate ได้ 345kbps
ดูสเปคและเลือกหูฟังบลูทูธอย่างไรดี?
- เลือกหูฟังบลูทูธแบบง่ายสุดอาจเลือกภายในเครือเดียวกัน เช่น Samsung กับ Galaxy Buds หรือ Apple กับ Airpods ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
- ถ้าจะเลือกจากแบรนด์อื่น แนะนำให้ดูจากสมาร์ทโฟนเราว่ารองรับ Codec เสียงใดบ้าง หากเป็น iOS จะรองรับ SBC, AAC เท่านั้น ยังไม่รองรับแบบอื่น
- แนะนำให้เลือกหูฟังบลูทูธรุ่นที่รองรับ aptX เพื่อให้คุณภาพเสียงดี ถ้ารองรับ aptX Adaptive ยิ่งดี
- หูฟังบลูทูธส่วนใหญ่มักมีซอฟท์แวร์ให้โหลดมาใช้ในสมาร์ทโฟน สามารถเลือก Profile และ EQ ได้
- นอกจากเทคโนโลยี aptX ทาง Qualcomm ก็พัฒนา Snapdragon Sound ให้รองรับไฟล์เสียงแบบ Lossless ได้ มีค่าความหน่วงต่ำ ดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้ดีขึ้นและเชื่อมต่อได้เสถียรมาก แต่สมาร์ทโฟนกับหูฟังต้องมีฟังก์ชั่นนี้ทั้งคู่ถึงจะใช้งานได้ สามารถเช็คหูฟังกับมือถือที่รองรับได้ที่นี่
7 หูฟังบลูทูธน่าใช้ ต่อมือถือฟังเพลงเยี่ยม ฟังเพลงเพลินชัวร์!
- Edifier HECATE G30S (1,530 บาท)
- Sony WH-CH520 (1,590 บาท)
- Edifier W820NB PLUS (2,099 บาท)
- AKG K361-BT (2,490 บาท)
- Edifier WH950NB (4,490 บาท)
- SONY WH-1000XM5 (12,490 บาท)
- Bose QuietComfort Headphones (12,900 บาท)
1. Edifier HECATE G30S (1,530 บาท)
Drivers & Frequency response | Dynamic Driver 40 mm. 20Hz~20kHz |
Connectivity & Codec | USB-C USB RF 2.4GHz Bluetooth 5.3 |
Battery life | Bluetooth เปิดไฟ RGB ได้ 13.5 ชม. ปิดไฟ RGB ได้ 30 ชม. USB RF 2.4GHz เปิดไฟ RGB ได้ 12.5 ชม. ปิดไฟ RGB ได้ 28.5 ชม. ชาร์จด้วย USB-C |
Software | Hecate Gaming Edifier Connect |
Price | 1,530 บาท (Edifier Shopee Mall) |
Edifier HECATE G30S เป็นหูฟังบลูทูธตัวแรกที่ไม่ควรมองข้ามเพราะเชื่อมต่อไร้สายเข้ากับเครื่องเกมคอนโซลหรือคอมพิวเตอร์ด้วย USB RF 2.4GHz แล้วปรับแต่งโปรไฟล์เสียงกับ EQ ด้วยซอฟท์แวร์ Hecate Gaming ได้ สลับไปเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Bluetooth 5.3 ก็ใช้แอปฯ Edifier Connect ปรับแต่งเสียงได้อีก เหมาะกับคนอยากซื้อหูฟังไร้สายตัวเดียวใช้ได้ทุกอุปกรณ์ไม่ต้องซื้อของหลายชิ้นให้เปลืองนัก ในหูฟังติดตั้งไดรเวอร์ขนาด 40 มม. ปรับจูนเสียงโดย Edifier เคลมว่าคุณภาพเสียงดี ฟังเพลงก็เพราะมีเบสหนักแน่นพร้อมเสียงเครื่องดนตรีใสฟังเพราะ เล่นเกมก็ได้รายละเอียดเสียงดีดื่มด่ำไปกับตัวเกมได้เต็มอิ่มแยกทิศทางเสียงได้ว่าศัตรูมาจากทางไหน นับเป็นหูฟังบลูทูธตัวเดียวจบใช้ได้ทุกอุปกรณ์ แต่มีข้อสังเกตว่าถ้าเปิดไฟ RGB แล้วจะใช้แบตเตอรี่มากขึ้นเป็นพิเศษ
ข้อดี
- เลือกการเชื่อมต่อได้ 2 แบบ ทั้ง USB RF 2.4GHz หรือ Bluetooth 5.3 ก็ได้
- มีซอฟท์แวร์ Hecate Gaming และ Edifier Connect ให้โหลดมาปรับแต่งเสียง
- ไมโครโฟนสามารถถอดเก็บได้เมื่อไม่ต้องการใช้งาน
- มีปุ่มควบคุมหูฟังติดตั้งมาให้ในตัว ใช้เล่นเพลงและรับสายโทรศัพท์ได้ง่าย
- ใช้เล่นเกมกับคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเกมคอนโซลก็ได้
ข้อสังเกต
- ถ้าเปิดไฟ RGB แล้วจะใช้งานได้เพียง 13.5 ชม.
- ไม่มีฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนภายนอก
2. Sony WH-CH520 (1,590 บาท)
Drivers & Frequency response | Driver 30 mm. 20Hz~20kHz |
Connectivity & Codec | Bluetooth 5.2 Google Fast Pair Microsoft Swift Pair Codec: Sony DSEE, SBC, AAC |
Battery life | สูงสุด 50 ชม. ชาร์จด้วย USB-C รองรับชาร์จไว 3 นาทีใช้ได้ 1.5 ชม. |
Software | Sony Headphones Connect |
Price | 1,590 บาท (BaNANA Online) |
ถ้าชื่นชอบสไตล์และโทนเสียงของ Sony เป็นทุนเดิมแต่ไม่อยากจ่ายแพงเกินไป Sony WH-CH520 เป็นหูฟังบลูทูธราคาประหยัดสำหรับต่อสมาร์ทโฟน Android ได้รวดเร็วผ่าน Google Fast Pair กับโน๊ตบุ๊ค Windows ด้วย Microsoft Swift Pair ได้ เหมาะจะซื้อมาใช้ฟังเพลงเวลานั่งทำงานมาก มีฟีเจอร์ Sony DSEE ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น ฟังเพลงได้อรรถรสได้นานสุดถึง 50 ชม. ใช้งานทั้งวันได้สบายมากแถมถ้าใช้โทรทัศน์ Sony Bravia แล้วต่อตัวรับสัญญาณ Sony WLA-NS7 จะรองรับ Dolby Atmos กับ 360 Spatial Sound ในตัว ทำให้ดูภาพยนตร์แล้วจะได้ดื่มด่ำไปกับเนื้อหาได้เต็มอิ่ม เสียดายว่าทางบริษัทไม่ได้ให้ฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) มา ก็จะยิ่งน่าใช้ขึ้นหลายเท่า
ข้อดี
- รองรับฟีเจอร์เชื่อมต่อเร็ว Google Fast Pair และ Microsoft Swift Pair
- ใช้งานได้นานสุด 50 ชม. รองรับการชาร์จเร็ว 3 นาที ใช้ได้ 1.5 ชม.
- มีฟีเจอร์ Sony DSEE ให้คุณภาพเสียงดียิ่งขึ้น ได้คุณภาพเสียงใกล้เคียงการต่อสายหูฟัง
- รองรับ 360 Reality Audio วิเคราะห์ใบหูผู้ใช้แล้วปรับแต่งให้เสียงเพลงดียิ่งขึ้น
- เชื่อมต่อกับตัวรับสัญญาณ Sony WLA-NS7 กับทีวี Sony Bravia แล้วรองรับเสียง Dolby Atmos, 360 Spatial Sound
ข้อสังเกต
- ไม่มีฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนภายนอกเวลาใช้งาน
- เชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Bluetooth เท่านั้น ไม่รองรับการต่อสาย USB-C
3. Edifier W820NB PLUS (2,099 บาท)
Drivers & Frequency response | Dynamic Driver 40 mm. 20Hz~40kHz |
Connectivity & Codec | USB-C Bluetooth 5.2 Codec: SBC, LDAC |
Battery life | เปิด ANC ได้ 33 ชม. ปิด ANC ได้ 49 ชม. ชาร์จด้วย USB-C |
Software | Edifier Connect |
Price | 2,099 (Edifier Shopee Mall) |
หูฟังบลูทูธราคาดี เชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.2 หรือ USB-C เข้ากับมือถือหรือคอมพิวเตอร์ได้อย่าง Edifier W820NB PLUS นับว่าน่าใช้มากไม่ว่าจะเน้นฟังเพลงอย่างเดียวหรือเล่นเกมก็เยี่ยม มี Game mode เอาไว้ลดความหน่วง (Latency) ทั้งตอนเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนหรือต่อ USB เข้าคอมก็เล่นเกมได้เป็นอย่างดี มีระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid Active Noise Cancellation (Hybrid ANC) ทั้งจากตัวหูฟังไร้สายและฟองน้ำ ทำให้กันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีทั้งตอนนั่งทำงานหรือสวมเพื่อเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็ยอดเยี่ยมทั้งคู่ ส่วนจุดสังเกตเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างไม่มีฟีเจอร์จับคู่รวดเร็วอย่าง Google Fast Pair หรือ Microsoft Swift Pair ให้ใช้ ต้องจับคู่ตามปกติเท่านั้น
ข้อดี
- รองรับ LDAC, aptX HD Codec เล่นเพลงเสียงคุณภาพสูงระดับ Hi-Res ทั้งมีและไร้สายได้
- มีระบบตัดเสียง Hybrid Active Noise Cancellation ตัดเสียงได้ถึง 43dB ใช้งานได้ 33 ชม.
- ปิดระบบตัดเสียงรบกวนใช้งานได้นาน 49 ชม. ชาร์จไว 10 นาที ใช้ได้ 7 ชม.
- ปรับแต่ง Profile เสียงและ EQ ได้ในแอปฯ Edifier Connect
- ใช้งานแบบต่อสาย USB เข้าคอมแล้วฟังเพลงและเปิด Game mode ได้
ข้อสังเกต
- ตัวหูฟังมีขนาดปานกลาง ไม่เหมาะกับผู้ใช้ศีรษะใหญ่นัก
- ไม่มีฟีเจอร์เชื่อมต่อเร็วอย่าง Google Fast Pair, Microsoft Swift Pair ให้ใช้งาน
4. AKG K361-BT (2,490 บาท)
Drivers & Frequency response | Driver 50 mm. 15Hz~28kHz |
Connectivity & Codec | Bluetooth 5.0 AUX |
Battery life | 28 ชม. ชาร์จด้วย USB-C |
Software | – |
Price | 2,490 บาท (ProPlugin Shopee Mall) |
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ไม่ว่าจะไลฟ์เกม, ทำ Podcast, ตัดต่อวิดีโอหรือทำเพลงแล้วอยากได้หูฟังบลูทูธพร้อมหัวต่อ Mini XLR แปลงเป็นหูฟังมอนิเตอร์ได้ในตัวควรซื้อ AKG K361-BT มาใช้ เพราะมีฟังก์ชั่นข้างต้นครบ ทั้งใช้เป็นหูฟังมอนิเตอร์เวลาทำงานไม่ว่าจะตัดคลิป, ทำเพลงหรืออัดเสียงใช้งานก็ได้เสียงดีสมอย่างที่ศิลปินต้องการและยังถอดสายออกใช้เป็นหูฟังไร้สายฟังเพลงเวลาเดินทางหรือนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศก็ได้เหมือนกัน ดังนั้นถ้าใครอยากให้เสียงดียิ่งขึ้นอาจหา DAC มาต่อเพิ่มเพื่อปรับเสียงให้ตรงรสนิยมของเรายิ่งขึ้นเพราะ AKG ไม่ได้ทำซอฟท์แวร์ให้โหลดไปใช้เพิ่มเติม
ข้อดี
- ไดรเวอร์มีขนาดใหญ่ 50 มม. คอยล์ Pure OFC ตอบสนองความถี่ได้กว้างและเสียงดี
- เชื่อมต่อด้วยสาย AUX หรือ Bluetooth 5.0 ก็ได้ตามสะดวก
- ใช้งานเป็นหูฟังมอนิเตอร์ ต่อสาย Mini XLR ใช้ทำงานโปรดักชั่นได้
- ดีไซน์แบบ Close-back ครอบปิดหูกันเสียงรบกวนภายนอกได้
- รองรับ Gesture control ควบคุมการโทรและเล่นเพลงได้ตรงหูฟังฝั่งขวา
ข้อสังเกต
- ไม่มีซอฟท์แวร์ตั้งค่าหูฟังให้โหลดมาใช้งานกับมือถือหรือคอมพิวเตอร์
5. Edifier WH950NB (4,490 บาท)
Drivers & Frequency response | Dynamic Driver 40 mm. 20Hz~40kHz |
Connectivity & Codec | Bluetooth 5.3 Codec: LDAC, SBC |
Battery life | เปิด ANC ได้ 34 ชม. ปิด ANC ได้ 55 ชม. ชาร์จด้วย USB-C |
Software | Edifier Connect |
Price | 4,490 บาท (Edifier Shopee Mall) |
หูฟังบลูทูธที่ดีสุดในงบครึ่งหมื่น เหมาะกับคนรักเสียงเพลงและเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกันทั้งมือถือและโน๊ตบุ๊คอย่าง Edifier WH950NB นั้นน่าใช้มาก ไม่ว่าจะตัดเสียงรบกวนภายนอกได้หมดจดไม่มีเสียงอื่นเล็ดลอดเข้ามาไม่ว่าจะเสียงพูดคุยหรือเสียงลมก็ไม่ได้ยิน เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Android ด้วย Google Fast Pair แล้วปรับแต่งโปรไฟล์เสียงและ EQ ได้ผ่านทางแอปฯ Edifier Connect ถ้าจับคู่กับโน๊ตบุ๊คแล้วเกิดเปิดเพลงหรือมีประชุมออนไลน์ก็สลับการเชื่อมต่อให้ จึงใช้งานได้สะดวกไม่ต้องพกหูฟังไร้สายหลายตัวพร้อมกัน เวลาว่างก็เปลี่ยนโหมดเสียงเป็น Game mode หรือ Theater mode ได้ตามสะดวกและรองรับการชาร์จเร็ว 10 นาทีฟังเพลงได้อีก 7 ชม. เป็นหูฟังไร้สายราคาครึ่งหมื่นเทียบรุ่นเรือธงของแบรนด์ชั้นนำแต่ละเจ้าได้สบายๆ ผู้ใดที่สนใจสามารถชมรีวิวได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้
ข้อดี
- ตัดเสียงรบกวนได้ยอดเยี่ยม ไม่มีเสียงภายนอกแทรกเข้ามาเวลาใช้งาน
- ใช้ฟังเพลงแบบปิดเสียงรบกวนได้นานถึง 55 ชม. ไม่ต้องชาร์จแบตฯ บ่อย
- รองรับ Codec เสียงระดับ Hi-Res Wireless อย่าง LDAC ฟังเพลงได้ดีมาก
- เลือกเปลี่ยนได้ 3 โหมดตามการใช้งานทั้งฟังเพลง, ดูหนังและ Game mode
- เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์และสลับใช้งานระหว่างทั้งสองเครื่องได้สะดวกรวดเร็ว
- ตั้งค่าและปรับแต่งเสียงได้ผ่านแอปฯ Edifier Connect
- เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Android ได้รวดเร็วด้วย Google Fast Pair
ข้อสังเกต
- USB-C ใช้เฉพาะชาร์จแบตเตอรี่เท่านั้น ใช้ฟังเพลงไม่ได้เหมือน W820NB Plus
- ถ้าเปิดโหมดตัดเสียงรบกวนจะใช้พลังงานมากพอควร
6. SONY WH-1000XM5 (12,490 บาท)
Drivers & Frequency response | Dynamic Driver 30 mm. 4Hz~40kHz |
Connectivity & Codec | Mini Stereo Jack Bluetooth 5.2 Codec: LDAC, AAC, SBC |
Battery life | เปิด ANC ได้ 30 ชม. ปิด ANC ได้ 40 ชม. ชาร์จด้วย USB-C |
Software | Sony Headphones Connect |
Price | 12,490 บาท (BaNANA Online) |
SONY WH-1000XM5 ขึ้นชื่อว่าเป็นหูฟังบลูทูธพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนดีที่สุดในโลกในปี 2024 นี้ ให้ฟีเจอร์มามากมายไม่ว่าจะจับคู่เร็วกับสมาร์ทโฟนและโน๊ตบุ๊คด้วย Google Fast Pair, Microsoft Swift Pair ก็ง่าย สลับระหว่างอุปกรณ์ได้โดยอัตโนมัติ มี DSEE Extreme ช่วยเสริมรายละเอียดเพลงที่เล่นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น รองรับ Gesture control ควบคุมหูฟังใช้งานได้ง่ายและแตะหูฟังเพื่อฟังเสียงพูดของผู้อื่นได้ชั่วคราวด้วย Quick Attention จึงใช้เวลาเดินทางในชีวิตประจำวันหรือบินต่างประเทศก็ดี เปิดฟังเพลงเวลาทำงานให้สะดวกมีสมาธิยิ่งขึ้นก็ได้ แต่ราคานับว่าสูงพอควรจนหลายคนตัดสินใจซื้อยากพอควร แต่ถ้าสะดวกพร้อมจ่ายก็เป็นรุ่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดรุ่นหนึ่ง
ข้อดี
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 30 ชม. รองรับการชาร์จเร็ว 3 นาที ใช้งานได้ 3 ชม.
- รองรับการเชื่อมต่อรวดเร็วทั้ง Google Fast Pair และ Microsoft Swift Pair
- มีฟีเจอร์ Quick Attention แตะหูฟังเพื่อฟังเสียงพูดของคู่สนทนาได้ชั่วคราว
- มีฟีเจอร์ Sony DSEE Extreme เพิ่มคุณภาพเสียงให้ฟังได้เพราะและคมชัดยิ่งขึ้น
- รองรับ Codec เสียง LDAC ให้เสียงคมชัดระดับ Hi-Res
- ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ยอดเยี่ยม มี NC Optimizer ติดตั้งมาทำงานโดยอัตโนมัติ
- ตั้งค่าหูฟังได้สะดวกรวดเร็วผ่านแอปฯ Sony Headphones Connect
- ติดตั้งไมโครโฟนแบบ Beamforming 2×2 มาให้คุยโทรศัพท์ได้ชัดเจน
ข้อสังเกต
- ราคาสูงถึง 12,490 บาท สมกับฟีเจอร์ในหูฟังแต่ก็ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ยาก
- พอร์ต USB ใช้เพื่อชาร์จไฟเท่านั้น ถ้าฟังเพลงต้องใช้แจ็ค Mini Stereo
7. Bose QuietComfort Headphones (12,900 บาท)
Drivers & Frequency response | Bose Driver |
Connectivity & Codec | Bluetooth 5.1 AUX 3.5 to 2.5 mm. |
Battery life | 24 ชม. ชาร์จด้วย USB-C |
Software | Bose app |
Price | 12,900 บาท (Bose Shopee Mall) |
Bose QuietComfort Headphones ขึ้นชื่อว่าเป็นหูฟังบลูทูธขวัญใจสายเดินทางและนักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่ว่าจะเล่นเพลงได้ดีปรับแต่งเสียงใน EQ ด้วยแอปฯ Bose แล้วขับผ่านทางไดรเวอร์ของหูฟังได้ยอดเยี่ยม เปิด Quiet mode เมื่อไหร่ก็จะไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากภายนอกในทันทีหรือจะเปิด Aware mode เพื่อรับเสียงภายนอกเวลาเดินภายในเมืองก็ได้ และยังดีไซน์ให้มีขนาดใหญ่พอให้ผู้ใช้ร่างใหญ่ใส่ได้สบายหัวไม่กดทับมากและยังใส่พร้อมแว่นสายตาได้สบายแถมเลือกสีหูฟังได้หลายสีมาก แต่ระยะเวลาใช้งานจะน้อยกว่าหูฟังรุ่นอื่นเพียง 24 ชม. ผิดกับรุ่นอื่นซึ่งเริ่มต้นระดับ 30 ชม. แล้ว
ข้อดี
- สวมใส่สบายได้ทั้งวัน คนหัวใหญ่และใส่แว่นก็ใช้ได้สบาย
- ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ยอดเยี่ยมด้วย Quiet mode
- ฟังเพลงได้ด้วย Bluetooth 5.1 หรือสาย AUX ต่อหูฟังก็ได้
- ปรับแต่งเสียงใน Bose app ได้ ตั้ง EQ ได้ตามรสนิยมของผู้ใช้
- เสียงระดับ Hi-Fi เชื่อมต่อกับ Bose Smart Soundbar เพื่อฟังเพลงได้ทันที
- เลือกซื้อได้หลายสีตามต้องการ ไม่จำกัดเฉพาะสีขาวหรือดำเท่านั้น
ข้อสังเกต
- แบตเตอรี่ใช้ได้นานสุด 24 ชม. เท่านั้น ซึ่งแบรนด์คู่แข่งทำได้ขั้นต่ำ 30 ชม. แล้ว
- ราคาสูงสุดในบรรดาหูฟังบลูทูธในปี 2024 นี้
สรุปสเปค 7 หูฟังบลูทูธเสียงขั้นเทพ ตัดเสียงเงียบกริบ ถูกใจคนรักเสียงเพลง!
ถึงในปัจจุบันจะมีหูฟังบลูทูธให้เลือกหลากหลายรุ่นและบางคนก็เห็นว่าซื้อแค่รุ่นราคาพันต้นๆ ก็พอฟังเพลงได้แล้วก็จริง แต่กลับกันการลงทุนซื้อของดีราคาหลักพันกลางถึงหลักหมื่นบาทก็มีเหตุผลให้ซื้อใช้เหมือนกัน ไม่ว่าจะได้คุณภาพเสียงดีคนละระดับและปรับจูนผ่านแอปฯ ได้สะดวกรวดเร็ว เชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ได้พร้อมกันและตัดเสียงรบกวนได้ยอดเยี่ยมไร้เสียงอื่นกวนใจให้มีสมาธิยิ่งขึ้นหรือจะนอนหลับเอาแรงเวลาเดินทางไกลก็ได้ เรียกว่าจ่ายครั้งเดียวเลือกของดีให้คุ้มเงินที่จ่ายจะดีกว่า
หากคิดไม่ออกว่าจะเริ่มจากรุ่นไหนดีแล้วมีงบประมาณในกระเป๋าพอควร จะลงกับ Edifier WH950NB ซึ่งคุ้มสุดในงบประมาณครึ่งหมื่นก่อนเลยก็ตอบโจทย์ ทั้งเชื่อมต่อมือถือกับโน๊ตบุ๊คได้ในคราวเดียวและตัดเสียงได้ดี หรือถ้าเดินทางบ่อยอยากนอนพักเวลาบินข้ามประเทศนานหลายชั่วโมงจะซื้อ Sony WH-1000XM5 หรือ QuietComfort ก็น่าสนใจ แต่ถ้าไม่ได้เดินทางไกลขนาดนั้นจะไปรุ่นราคาประหยัดอย่าง W820NB Plus, WH-CH520 ราคาพันบาทต้นก็พอแล้ว