TP-Link Tapo C200C กล้องวงจรปิดต่อมือถือได้ พ่วง Google Home ก็สะดวก ส่องสิ่งต่างๆ รอบบ้านได้ทุกเวลา ราคาค่างวดหนึ่งใบม่วง!
ในปัจจุบัน เวลาจะไปเที่ยวหรือไปทำงานเช้าเย็นกลับก็ตาม เป็นใครก็ต้องห่วงสมาชิกในบ้านหรือสัตว์เลี้ยงจนต้องหากล้องวงจรปิดมาติดเพิ่มแน่นอน ซึ่ง TP-Link Tapo C200C เป็นกล้องคุณภาพดีราคาเบาเพียง 499 บาท แต่ให้ฟีเจอร์มาเกินราคาพร้อมชุดติดตั้งไม่ว่าจะวางบนโต๊ะหรือแขวนกำแพงกับเพดานก็ได้และสื่อสารกับคนปลายทางได้ผ่าน Tapo App ได้ทันที แถมยังแพนกล้องไปมาเพื่อดูสถาพแวดล้อมในห้องพร้อมเก็บภาพกับวิดีโอได้ง่ายๆ มีระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Tracking) พร้อมส่งการแจ้งเตือนเข้ามือถือโดยตรง มีระบบ IR Night Vision จะกลางวันหรือกลางคืนก็ไม่คลาดสายตา
ข้อดีอีกอย่างของ Tapo C200C หากเราไม่ได้ใส่เมมโมรีการ์ดไว้ในเครื่องก็ยังสามารุดูภาพสดผ่าน App ได้ และยังสามารถกดถ่ายภาพหรือวิดีโอในขณะนั้นไว้เป็นหลักฐานบนมือถือได้อยู่ หรือจะใส่ MicroSD Card เพื่อเอาไว้ดูภาพย้อนหลังก็รองรับความจุสูงถึง 512GB แถมยังใช้บริการ Tapo Cloud Storage ก็ว่าไปตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถแชร์คลิปหรืออุปกรณ์ให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวได้ง่าย ในเวลาจำเป็นต้องนำภาพหรือคลิปมาใช้งานหรือจะอัปโหลดขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์ค ก็แค่เปิดแอปฯ เข้าคลังเก็บภาพและกดแชร์ได้ทันที
NBS Verdicts
TP-Link Tapo C200C เป็นกล้องวงจรปิดราคาสบายกระเป๋าเพียง 499 บาท นอกจากราคาเข้าถึงได้แล้วก็ติดตั้งง่าย เพียงเสียบปลั๊กและค้นหากล้องนี้ในแอปฯ Tapo ทำการตั้งค่าเพียงครู่เดียวก็สามารถเชื่อมต่อดูภาพปลายทางได้ทันที ให้คุณพ่อบ้านแม่บ้านอุ่นใจเวลาต้องฝากลูกเอาไว้กับพี่เลี้ยง หรือใช้ดูญาติผู้ใหญ่ว่าอยู่บ้านปลอดภัยดีไม่เกิดเรื่องสุดวิสัยขึ้นมาก็ได้ นอกจากนี้ยังมีไมโครโฟนกับลำโพงติดตั้งมาให้พูดคุยกับอีกฝ่ายได้ เสียงอาจดีเลย์เล็กน้อยตามความเร็วอินเทอร์เน็ต แต่ก็สื่อสารได้แน่นอนไม่ต้องกดโทรตามปกติก็ได้
นอกจากใช้ดูสมาชิกในครอบครัว คนเลี้ยงสัตว์ทุกประเภทก็เหมาะกับกล้องตัวนี้เพราะมีระบบ Motion detect ที่ทำงานได้รวดเร็วและส่งแจ้งเตือนตรงเข้ามือถือได้รวดเร็วทันเหตุการณ์ ถ้าเกิดเหตุปัจจุบันทันด่วนก็ติดต่อรถพยาบาล, ตำรวจหรือจะกดไซเรนร้องบอกเพื่อนบ้านให้รับรู้แล้วเข้ามาช่วยก็ได้ แถมกล้องตัวนี้ก็ยังหมุนได้รอบตัว มุมมองภาพครอบคลุม 360 องศา ปรับก้มเงยได้ 114 องศา ดูสิ่งต่างๆ ได้รอบ แถมใส่ MicroSD card เพิ่มได้ถึง 512GB เชื่อมกับแอปฯ Google Home ได้ เป็นอุปกรณ์ทำ Smart Home ราคาประหยัด ด้านเซนเซอร์ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มาพร้อมระบบ IR Nighr Vision ก็สามารถถ่ายภาพได้คมชัดทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน
อย่างไรก็ตามกล้องตัวนี้ต้องต่อปลั๊กไฟเสมอถึงใช้งานได้ ซึ่งถ้าตั้งกล้องไว้ใกล้ปลั๊กก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะติดบนเพดานหรือกำแพงบ้านก็ต้องเดินสายไฟมารอหรือไปแชร์ช่องเสียบปลั๊กใกล้ๆ เท่านั้น ส่วนจุดใส่ MicroSD Card และปุ่ม Reset ถูกซ่อนเอาไว้ใต้เลนส์กล้องในบอดี้สีดำ ถ้าไม่ใช้นิ้วเลื่อนตัวเลนส์ให้แพนขึ้นก็ต้องกดในแอปฯ Tapo แทน ทำให้ตอนได้มาใช้งานใหม่จะดูไม่สะดวก และตัวกล้องจะไม่มีระบบกันน้ำและฝุ่นจึงไม่ควรติดตั้งนอกบ้านหรือบริเวณที่มีความชื้นมาก
ข้อดีของ TP-Link Tapo C200C
- ราคาถูกมากเพียง 499 บาท ก็ซื้อมาใช้งานในบ้านหรือออฟฟิศได้ทันที
- รองรับ MicroSD card 512GB ใช้ถ่ายภาพและวิดีโอได้เยอะ
- เชื่อมต่อและตั้งค่าผ่านแอปฯ Tapo หรือพ่วงเข้าระบบ Google Home ได้
- มีไมโครโฟนพร้อมระบบตัดเสียงสองทิศทางและลำโพงให้คุยกับปลายทางได้ง่าย
- ระบบ IR Motion detect ทำงานได้รวดเร็ว ตรวจจับและส่งแจ้งเตือนไปมือถือแบบ Real-time
- ภาพความละเอียด 1080p ได้ภาพคมชัด มองเห็นสะดวกชัดเจน
- ระบบ Night vision เก็บภาพในที่มืดหรือแสงน้อยได้คมชัด มีระยะไกล 12 เมตร
- สั่งการด้วยเสียงร่วมกับ Google Assistant กับ Amazon Alexa ได้ ไม่ต้องใช้มือ
- มี Privacy Mode ถ้ากดแล้วกล้องจะหยุดบันทึกในเวลานั้น ๆ ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้คุณ
- เชื่อมต่อระบบ Automation ต่างๆ ภายในบ้านเมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ IoT จาก Tapo เช่น เซ็นเซอร์ประตูหน้าต่าง เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ฯลฯ
ข้อสังเกตของ TP-Link Tapo C200C
- จุดใส่ MicroSD Card ซ่อนอยู่ใต้บอลเลนส์กล้อง ต้องแพนกล้องขึ้นก่อนถึงใส่การ์ดได้
- ในกล่องมีอะแดปเตอร์มาให้ด้วย แต่สายจะมีความยาวประมาณ 1 เมตร จึงควรมีปลั๊กไฟรองรับในจุดที่ต้องการติดตั้ง
- กล้องไม่กันน้ำและฝุ่น เหมาะจะติดตั้งใช้งานในอาคารเท่านั้น
รีวิว TP-Link Tapo C200C
Specification
TP-Link Tapo C200C จาก TP-Link ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีร้อยแปด ตั้งแต่เราเตอร์คุณภาพดี, สวิตช์และตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi ไปจนถึงอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและกล้องวงจรปิดราคาประหยัดเช่น Tapo C200C นี้ นอกจากราคาจะถูกคุ้มค่าแล้วยังได้ฟีเจอร์ใช้งานติดมาให้ครบเครื่อง โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
Specification | Details |
Image Sensor & Night Vision | 2MP (1/2.8″ Progressive Scan CMOS) 850 nm IR LED ระยะ 12 เมตร |
Resolution & Zoom | 1080p HD (1920*1080 พิกเซล) ดิจิตอลซูมระยะ 9x |
Video Compression & Frame Rate | H.264 15/20/25/30 Fps (ค่าตั้งต้น 15 Fps) |
Audio input & output | ติดตั้งไมโครโฟนและลำโพงมาพร้อมใช้งาน มีระบบตัดเสียง 2 ทิศทาง |
Siren volume | 93dB |
Connectivity | Wi-Fi 2.4GHz มาตรฐาน 802.11b/g/n |
Interface & Button | ปุ่ม Reset*1 ช่อง MicroSD Card Reader*1 (รองรับ 512GB) |
Price | 499 บาท ช่องทางสั่งซื้อ Shopee : https://bit.ly/3Y4EjDH Lazada : https://bit.ly/3S9X7O7 |
Unbox, Design & Connectivity
กล่องบรรจุกล้อง TP-Link Tapo C200C ทรงสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินตัดขาว ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้ ไม่ว่าจะสกรีนภาพสินค้าจริงและจุดเด่นของสินค้าเอาไว้ด้านหน้ากล่องแบบเดียวกับผลิตภัณฑ์ชิ้นอื่นในเครือ พร้อมสกรีนอุปกรณ์ที่มาพร้อมในกล่องเอาไว้ฝั่งซ้ายและช่องทางดาวน์โหลดแอปฯ Tapo ไว้ อีกด้านของกล่องจะมีระบุสเปคของกล้องโดยสังเขป ด้านหลังเป็นภาพจำลองการใช้งานและฟีเจอร์ชูโรงสกรีนติดเอาไว้ทั้งหมดให้ผู้ใช้คิดภาพตามได้ง่าย
ภายในกล่องนอกจากกล้องจะมีอุปกรณ์เสริมอีก 3 ชิ้น คือ เทปใสสกรีนจุดเจาะลงพุก กับน็อตเกลียวอย่างละคู่ และอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบรูกลางขั้วบวกใน กำลังไฟ 9V / 0.6A มาให้ต่อจ่ายไฟเลี้ยงกล้องได้ เมื่อดึงสายจนตึงจะมีความยาวประมาณ 1 เมตร
กล้อง Tapo C200C จะใช้บอดี้ภายนอกสีขาวเหมือนกับสินค้าชิ้นอื่นในเครือ ตัดกับโมดูลหลักตรงกลางสีดำซึ่งเป็นแกนรวมฟังก์ชั่นการทำงานทั้งหมดเอาไว้ จากเลนส์กล้องตรงกลางจะมีไฟ LED สองสีติดอยู่ข้างบนไว้บอกสถานะการเชื่อมต่อ 3 สี ซึ่งจะมีรูปแบบดั้งนี้
- ไฟสีแดง – ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
- ไฟสีส้มกระพริบ – ยังไม่ได้ตั้งค่าเชื่อมต่อแอปฯ Tapo
- ไฟสีเขียวติดค้าง – พร้อมและใช้งานได้ตามปกติ
ส่วนช่องใส่ MicroSD card กับปุ่ม Reset จะซ่อนอยู่ด้านใต้กล้อง ถ้าจะเพิ่มหน่วยความจำก็ควรตั้งค่าให้เสร็จก่อนแล้วสั่งแพนกล้องขึ้นจนสุดผ่าน App จะใส่การ์ดเข้าไปได้ ไม่แนะนำให้ฝืนดันตัวกล้องขึ้นยกเว้นกล้องจะใช้งานไม่ได้กะทันหันแล้วต้องตั้งค่าใหม่ค่อยทำก็ได้ แต่ไม่ควรทำบ่อยไม่อย่างนั้นมอเตอร์หมุนภายในอาจล้าจนสั่งหมุนไม่ได้ ส่วนช่องเสียบปลั๊กจะอยู่ตรงฐานกล้อง
เวลาสื่อสารระหว่างคนใช้กล้องและคนหน้ากล้องจะมีไมโครโฟนติดอยู่ใต้เลนส์เป็นช่องรูเข็มและลำโพงด้านหลังกล้อง ถ้าปรับระดับเสียงดังสุดจะดังราว 80dB ดังคมชัดสื่อสารรู้เรื่อง แต่เนื้อเสียงอยู่ในระดับลำโพงคอมพิวเตอร์ทั่วไปไม่ถึงกับเหมือนเจ้าของเสียง
ด้านใต้กล้องจะเป็นร่องแขวนกล้องเข้ากับพุกและน็อตเวลาต้องการยึดเข้ากำแพงเป็นร่องสไลด์ให้หัวน็อตเกี่ยวแขวนเข้าร่องเล็ก เวลาติดตั้งก็ใช้สว่านเจาะกำแพงหรือเพดานยึดพุกขันน็อตตามก็แขวนกล้องได้ทันที แต่อย่าลืมเดินสายไฟมาให้อยู่ในระยะสายไฟจะได้เสียบปลั๊กใช้งานได้
Application
กล้อง Tapo C200C จะใช้แอปฯ Tapo จัดการตั้งค่า, ควบคุมและสั่งงานทั้งหมด สามารถดาวน์โหลดใน Play Store และ App Store ได้ทันที หน้า UI ดีไซน์มาเรียบง่ายไม่ต้องทำความเข้าใจมาก ยิ่งใครตั้งค่าอุปกรณ์ Smart home มาก่อนก็แทบจะทำเป็นในทันที ถ้าไม่มั่นใจก็เปิดคู่มือในกล่องทำตามก็ได้ไม่กี่ขั้นตอนก็ใช้งานได้แล้ว สามารถโหลดแอปฯ จาก Play Store และ App Store มาติดตั้งในสมาร์ทโฟนได้
ในหน้าแอปฯ Tapo ถูกดีไซน์มาเน้นความเรียบง่าย รวมเอาการควบคุมทั้งหมดมาไว้หน้าแรกให้เลือกกดได้ว่าต้องการใช้ฟังก์ชั่นอะไรบ้าง แยกเป็น 2 ส่วน คือ บรรทัดใต้กรอบภาพด้านบนซึ่งโชว์ความละเอียดต่างๆ จากกล้อง นับจากซ้ายมีคำสั่งถ่ายภาพนิ่ง, ถ่ายวิดีโอ, ปรับ Volume ลำโพงกล้อง กดแล้วจะทำงานทันที ถ่ายภาพหรืออัดวิดีโอรวมถึงปรับความดังลำโพงได้ สุดท้ายเป็นปุ่มโทรศัพท์ไว้กดเชื่อมสัญญาณเสียงของเรากับกล้องโดยตรง หน้า UI จะเข้าแท็บ Voice Call โดยอัตโนมัติ
ถัดลงมาในโซนควบคุมหลักจะรวมคำสั่งควบคุมกล้องอย่าง Talk ถ้ากดจะเชื่อมสัญญาณคุยกับคนหน้ากล้องได้ทันที, Pan & Tilt ไว้ปรับมุมมองกล้องให้หันรอบตัวและก้มหรือเงยก็ได้, ปุ่ม Alarm กดแล้วกล้องจะร้องแจ้งเตือนคนในย่านใกล้บ้านว่าเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายและ Privacy Mode กดแล้วกล้องจะหยุดแสดงผลและบันทึกภาพลง เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้คุณ
ข้อดีของกล้อง Tapo C200C แม้จะไม่ได้ใส่ MicroSD Card เอาไว้ แต่ก็ยังใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ตามปกติไม่ว่าจะถ่ายภาพนิ่งหรืออัดวิดีโอมาบันทึกลงบนมือถือก็ได้เหมือนกันแต่จะดูภาพย้อนหลังจากกล้องไม่ได้ ยกเว้นว่าเราจะสมัครบริการ Tapo Care Cloud storage เอาไว้ กล้องก็จะบันทึกวิดีโอในช่วงที่มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นไปไว้บนคลาวด์ให้ดูย้อนหลังได้ 30 วัน ระบบ Motion detect เองก็ทำงานได้รวดเร็ว ถ้าแพนไปพบสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ขยับอยู่ในกล้องจะส่งแจ้งเตือนเข้ามาในแอปฯ ให้ผู้ใช้กดเข้าไปดูหน้ากล้องได้ทันที
ในหน้าการตั้งค่าของกล้อง TP-Link Tapo C200C จะมีรายละเอียดต่างๆ รวมเอาไว้ให้ใช้งานได้ง่าย เพียงดูก็เข้าใจได้ทันที ซึ่งฟังก์ชั่นน่าสนใจในโหมดการตั้งค่าจะมี
- Motion detect – สามารถเลือกได้ว่าจะตรวจจับและแจ้งเตือนทุกความเคลื่อนไหว หรือเฉพาะเมื่อพบบุคคลกำลังเคลื่อนไหวก็ได้
- Pan & Tilt – ตั้งค่าการแพนกล้องว่าจะให้ก้มเงยเท่าไหร่ ซึ่งค่ามาตรฐานจะแพนได้ 10 องศา จะลดลงเหลือ 5 หรือเพิ่มไป 15 องศาก็ได้
- Reboot camera – กล่าวคือโหมดปิดเปิดกล้องใหม่โดยอัตโนมัติ ซึ่งตามมาตรฐานแล้วกล้องจะรีบูตเวลาตี 3 แล้วเสร็จภายใน 30 นาที เริ่มใช้งานได้อีกครั้งตอนตี 3 ครึ่ง หรือถ้ากล้องใช้งานไม่ได้ก็สั่ง Reboot Camera ทันทีก็ได้เช่นกัน
- Smart Actions – สร้างระบบการทำงานอัตโนมัติเมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ IoT จาก Tapo เช่น เมื่อเซ็นเซอร์ประตูตรวจพบว่าประตูถูกเปิดออก สามารถกำหนดให้กล้องหันไปที่ประตูเพื่อดูว่าใครเดินเข้ามาได้อัตโนมัติ เหมาะกับคนที่อยู่บ้านคนเดียวก็มีอุปกรณ์สมาร์ทโฮมเป็นหูเป็นตาได้ ช่วยให้อุ่นใจป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์ได้
ด้วยฟังก์ชั่นทั้งหมดของกล้อง TP-Link Tapo C200C นอกจากใช้เป็นกล้องวงจรปิดตรวจดูสิ่งต่างๆ ภายในและรอบบ้านได้แล้ว ก็ใช้ดูและพ่วงเข้ากับระบบอัตโนมัติต่างๆ ได้ มีฟังก์ชั่นเกินการเป็นกล้องวงจรปิดเพียงอย่างเดียวไปพอควร
Camera
กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซลของ TP-Link Tapo C200C จะตั้งค่าให้ถ่ายภาพหรืออัดคลิปวิดีโอได้ความละเอียด 720p หรือตั้งค่าให้เป็น 1080p ก็ได้เช่นกัน ซึ่งภาพจากกล้องถ้าถ่ายในอาคารมีแสงสว่างมากเพียงพอจะได้ภาพสว่างคมชัด เห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนแต่ยังตัดขอบภาพได้ไม่คมเหมือนกล้องมือถือ แต่เท่านี้ก็พอเก็บภาพเหตุการณ์ต่างๆ ได้แน่นอน ถ้าสังเกตมุมบนซ้ายจะเห็นว่ากล้องบันทึกวันเวลาถ่ายภาพเอาไว้ให้ เผื่อจำเป็นต้องใช้เป็นหลักฐานในกรณีข้อพิพาทใดๆ ได้ด้วย
ถ่ายในที่แสงน้อยในอาคาร Night Vision
นอกจากถ่ายภาพในที่แสงสว่างเพียงพอได้ดีแล้ว ถ้าเป็นที่แสงน้อยปิดไฟในอาคารเอาไว้แล้วมีเพียงแสงลอดหน้าต่างเข้ามาก็ยังได้ภาพคมชัด มองเห็นสิ่งของต่างๆ ในภาพได้ชัดเจนแต่ก็ยังมี Noise แทรกอยู่บ้างเพราะตัวกล้องต้องเร่งความสว่างมากขึ้น แต่ก็ยังคมชัดพอใช้งานได้
ในโหมด Night Vision จะเห็นว่าภาพในกล้องกลายเป็นโหมดขาวดำ ซึ่งทางบริษัทเคลมว่าตัวกล้องยังเก็บภาพและดูสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนในระยะ 12 เมตร นั่นหมายความว่ากล้องนี้สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ในห้องขนาด 13 ตารางเมตร ได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะใช้ในบ้านหรือคอนโดมิเนียมก็เหมาะ
User Experience
มั่นใจว่าใครหลายคนอาจคิดเหมือนผู้เขียนว่ากล้องวงจรปิดนอกจากราคาแพงแล้ว ยังไม่ได้จำเป็นต่อชีวิตประจำวันอะไรขนาดนั้น ซึ่งชุดความคิดนั้นยังคงอยู่จนได้ลองใช้ TP-Link Tapo C200C ร่วม 2 สัปดาห์ ก็ต้องกลับมาคิดใหม่ว่าถ้ามีเจ้ากล้องราคา 499 บาท ไว้ใช้สักตัวสองตัวก็ดี ยิ่งยุคนี้พอมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อก็ต้องระวังตัว ถ้ามีภาพหลักฐานเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นก็ยิ่งอุ่นใจ ซึ่งเซนเซอร์ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล นอกจากเก็บภาพได้คมชัดทุกสถานการณ์แล้ว ยังแพนกล้องมองดูสิ่งแวดล้อมโดยรอบได้ง่าย กดถ่ายภาพหรือวิดีโอแล้วก็เก็บภาพเข้ามือถือ, Tapo Cloud Storage หรือสมาร์ทโฟนเครื่องที่จับคู่กับกล้องนี้ได้โดยตรง
จุดน่าประทับใจของกล้องตัวนี้ คือ ระบบแจ้งเตือนส่งมามือถือเครื่องที่จับคู่เอาไว้เร็วระดับ Real-time ถ้ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นหน้ากล้องก็จะมีการแจ้งเตือนขึ้นมาบอกและกดเข้าไปดูภาพหน้ากล้องได้ในทันที ซึ่งโดยพื้นฐานตัวกล้องจะจับการขยับเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะคนหรือสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว และยังเพิ่มตัวเลือกให้ตรวจจับเด็กเล็กได้ จึงเหมาะกับบุพการีมีลูกวัยทารกต้องออกมาทำงานแล้วฝากไว้กับพี่เลี้ยงในบ้านเป็นอย่างมาก แถมยังจับเสียงเด็กร้องได้จึงอุ่นใจยิ่งขึ้นแถมยังพ่วงเข้ากับระบบอัตโนมัติเมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Tapo อื่นๆ เป็นระบบ Smart Home เช่น ให้หลอดไฟ Tapo ติดเวลากล้องตรวจพบบุคคลเดินเข้าบ้านก็ได้
ในโหมด Night Vision ตัวกล้องสามารถโฟกัสภาพได้ไกลจากจุดติดตั้งถึง 12 เมตร จึงมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนภาพไม่แตกแม้แต่น้อย หรือถ้าเป็นยามบ่ายมีแสงน้อยก็ยังใช้งานได้แม้จะมี Noise แทรกเข้ามาประปรายแต่ก็ไม่ทำให้ภาพโดยองค์รวมเบลอเสียความคมชัดไป การควบคุมหมุนและแพนกล้องก็ตอบสนองได้รวดเร็ว อาจมีช้าบ้างเวลาเชื่อมต่อกับกล้องในช่วง 1-2 วินาทีแรก แต่หลังจากนั้นก็หันไปมาได้เร็วตามสั่ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องใส่ใจเมื่อจะใช้กล้อง Tapo C200C ต้องกะระยะของสายไฟให้ดี ซึ่งถ้าวางบนโต๊ะแล้วเดินสายไฟมาได้พอดีก็ใช้งานได้แน่นอน แต่ถ้าติดบนกำแพงหรือเพดานก็ควรวางแผนเดินสายไฟให้เสียบปลั๊กได้พอดี และกล้องตัวนี้ถูกออกแบบให้ใช้งานในอาคารเป็นหลักไม่กันน้ำและฝุ่น ดังนั้นไม่ควรติดเอาไว้นอกตัวบ้านแม้แต่น้อยและไม่แนะนำในโซนชานบ้านด้วยเพราะยังมีโอกาสเสี่ยงโดนความชื้นได้เช่นกัน กลับกันถ้าเอาไปติดในบ้าน, ร้านอาหารคาเฟ่ต่างๆ หรือออฟฟิศจะเหมาะมาก
จุดสังเกตอีกอย่าง เป็นวิธีการรีเซ็ตกล้องและการใส่ MicroSD Card ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ถูกซ่อนเอาไว้ใต้โมดูลสีดำซึ่งติดตั้งเลนส์, ไมโครโฟนและลำโพงอยู่ เวลาใช้งานต้องกดแพนกล้องขึ้นถึงจะใส่เมมโมรี่การ์ดได้ซึ่งไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นปุ่ม Reset ที่ควรแยกออกมาแล้วทำเป็นช่องรูเข็มให้เอาเข็มจิ้มซิมกดได้จะดีกว่า ถ้าจะต้องย้ายกล้องไปติดตั้งอีกจุดหรือพ่วงเราเตอร์อีกตัวจะได้ทำได้สะดวก ไม่ต้องฝืนดันโมดูลกล้องให้มอเตอร์ล้าหรือเสียในภายหลัง
Conclusion
TP-Link Tapo C200C เป็นกล้องวงจรปิดราคาประหยัดเพียง 499 บาท แต่คุณภาพดีอีกรุ่น น่าซื้อเอาไว้ติดตั้งในบ้านหรือออฟฟิศเผื่อตรวจตราดูสิ่งต่างๆ ได้ ช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกอุ่นใจแม้ตัวจะอยู่ออฟฟิศ แต่ก็ยังดูสถานการณ์รอบบ้านได้เพียงเปิดแอปฯ และต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น ถ้าเกิดเหตุด่วนอะไรก็มีระบบแจ้งเตือนโชว์ขึ้นมาในมือถือของตัวเองให้จัดการสถานการณ์ต่างๆ ได้ แถมยังเก็บภาพหรือวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานในยามจำเป็นได้
นอกจากฟังก์ชันในฐานะกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งแล้ว ก็ยังใช้เป็นเซนเซอร์ร่วมทำงานกับระบบ Google Home ได้ คอยดูเวลาเราออกจากบ้านหรือออกไปทำงานให้ระบบจัดการตัดต่อไฟฟ้าต่างๆ ได้เช่นกัน เป็นลูกเล่นเสริมซึ่งเทียบชั้นกล้องราคาหลักพันบาทขึ้นไปได้เลย เป็นตัวช่วยทั้งในบ้าน, ร้านค้า, สถานที่ทำงานรวมไปถึงคาเฟ่ต่างๆ เป็นสินค้าราคาเบาแต่ลงทุนแล้วคุ้มค่าเกินตัว