Lenovo Yoga 9i โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ไลฟ์สไตล์Intel® Core™ Ultra 7 แบตอึด จอสัมผัสพับได้ 360 องศา
Lenovo Yoga 9i โน๊ตบุ๊คทำงานในสไตล์ 2-in-1 แบบพกพาได้ หน้าจอสัมผัส 14″ ความละเอียดสูง OLED PureSight 4K (3840×2400) สีสันสดใสคมชัด โน๊ตบุ๊คพับจอได้ ใช้ได้หลายโอกาส กางได้ 360 องศา เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊ค และแท็ปเล็ต ขุมพลัง Intel® Core™ Ultra 7 และให้แรมมาแล้วถึง 16GB พร้อมใช้งานกับกราฟิกใหม่ ที่มีมาให้ในซีพียูนี้กับ Intel Arc รองรับได้ทั้งงาน กราฟิกและการเล่นเกมสามมิติ เปิดโลกสู่การทำงานยุคใหม่ด้วย Intel AI Boost เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับ AI Generative ในปัจจุบันได้อย่างลื่นไหล รองรับการชาร์จไฟแบบ PD 65W ซึ่งใช้อแดปเตอร์แยกที่สนับสนุนชาร์จได้ทันที และยังชาร์จได้ไว ให้พร้อมสำหรับการทำงานได้เร็วขึ้น เช่นเดียวกับพอร์ตที่จัดเต็ม Thunderbolt 4 ที่มีให้ถึง 2 พอร์ตด้วยกันในแบบ USB-C สะดวกทั้งชาร์จไฟ โอนถ่ายข้อมูลและการแสดงผล สนุกไปกับการใช้งานในยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี น้ำหนักแค่ราว 1.32Kg. เท่านั้น อุปกรณ์เสริมที่มีจัดมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เมาส์ คีย์บอร์ดแบบไร้สาย รวมถึง Lenovo Pen Slim เพื่อการวาด เขียน จดในแบบเร่งด่วนได้ทันท่วงที การรับประกัน 3 ปี Premium Care ในแบบ Onsite รวมการรับประกันอุบัติเหตุเพื่อให้ใช้งานได้อย่างอุ่นใจ กับสนนราคา 59,990 บาท เท่านั้น
จุดเด่น
- มาพร้อมขุมพลังIntel® Core™ Ultra 7 และกราฟิก Intel Arc graphic
- ได้แพลตฟอร์ม Intel evo การันตีเรื่องประสิทธิภาพ การใช้พลังงานและแบตเตอรี่
- จอแสดงผล OLED ความละเอียด 4K สีสันสดในคมชัด
- ใช้งานได้นานกว่า 8 ชั่วโมงในการทดสอบ
- น้ำหนักเบาแค่ 1.32Kg เท่านั้น พกพาสะดวก
- กางหน้าจอได้ 360 องศา ใช้งานได้หลายโหมด
- ใช้เป็นแท็ปเล็ตได้ และมีสไตลัส Lenovo Pen มาให้
- เป็นจอสัมผัสรองรับได้ 10 จุดพร้อมกัน
- กล้องเว็บแคมความละเอียดสูง
- ให้แรมมาเป็น LPDDR5x 32GB พร้อมใช้
- มีพอร์ต Thunderbolt 4 มาให้ และ USB-C รองรับชาร์จ โอนถ่ายและแสดงผล
- มีอุปกรณ์เสริมบันเดิลมาเยอะ ตัวแปลง USB-C, Lenovo Pen slim, Wireless mouse
- รองรับการสแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าสู่ระบบ
- เล่นเกมได้หลากหลาย แบบที่ไม่ได้เรียกใช้สเปกการ์ดจอแยก
- บานพับแข็งแรง ทนทานต่อการปรับพับ ไม่โยกคลอน
ข้อสังเกต
- การปรับใช้บางโหมดอาจต้องหาที่รองกันเป็นรอย
- ตัวยกด้านใต้เครื่องเล็กไปบ้าง หากใช้งานหนัก ควรหาที่วางเพื่อระบายอากาศ
- เมื่อพับเป็นแท็ปเล็ต ความหนาจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- โทนสีอาจเห็นรอยนิ้วมือชัดไปบ้าง
- อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัว เพื่อตั้งค่าต่างๆ บนโน๊ตบุ๊ค
Lenovo Yoga 9i 2-in-1 จอสัมผัส Intel® Core™ Ultra 7
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Keyboard & Touchpad
- Connector, Thin & Weight
- Performance & Software
- Battery & Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion & Award
Specification
Lenovo Yoga 9 2-in-1 14IMH9 83AC0022TA | |
Display: | 14″ 4K (3840×2400) OLED 400nits Glossy / Anti-fingerprint 100% DCI-P3, 60Hz, Eyesafe®, Dolby® Vision™ DisplayHDR™ 500, Glass, Touch screen |
Touchscreen: | 10-point Multi-touch |
Color: | Luna Grey |
Material: | Aluminium (Top), Aluminium (Bottom) |
Processor: | Intel® Core™ Ultra 7 155H, 16C (6P + 8E + 2LPE) / 22T |
RAM: | LPDDR5x-7467 32GB |
Graphic: | Intel Arc Graphic |
Storage: | 1TB SSD M.2 2242 PCIe 4.0×4 NVMe, One M.2 2242 PCIe® 4.0 x4 slot |
Pen: | Lenovo Slim Pen |
WiFi+BT: | Wi-Fi 6E, 11ax 2×2 + BT5.3 |
Webcam: | 5.0MP + IR with Privacy Shutter |
Microphone: | 2x, Array |
Port | 2x Intel® Thunderbolt™ 4.0 1x USB-C 3.2 Gen 1 1x USB-A 3.2 Gen 1 |
Keyboard: | Backlit, Thai |
Bundle: | Lenovo 600 Bluetooth Silent Mouse Lenovo Yoga 14-inch Sleeve |
Fingerprint: | Yes |
Security: | Camera privacy shutter, IR camera for Windows® Hello |
Sound: | Bowers & Wilkins, Dolby Atmos®, 2x2W |
Battery: | Integrated 75Wh |
Adaptor: | 65W USB-C (3-pin) |
OS: | Windows 11 Home Single Language, English |
Software: | Office Home & Student 2021 (Word, Excel, PowerPoint) Life Time |
Warranty: | 1-year, Courier or Carry-in, 3Y ADP – IPPREM (ESS), 3Y Premium Care -IPPREM (ESS) |
Weight: | 1.32 kg |
Dimension: | 12.44 x 8.66 x 0.63 cm |
Price: | 59,990 บาท |
ที่มา: Lenovo
Hardware & Design
มากันอีกครั้งสำหรับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มพับจอได้จาก Lenovo Yoga 9i ที่ให้ความยืดหยุ่นในสไตล์ของโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 กับดีไซน์ที่ล้ำสมัย ก่อนหน้านี้ที่เราได้เคยรีวิว Yoga Book 9i ที่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งานมากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในแบบ 2 หน้าจอ พร้อมคีย์บอร์ดทัชสกรีน แต่ใน Yoga 9i นี้จะเอาใจสายพกพามากขึ้น เน้นความสะดวกในการหยิบจับมาใช้ได้ง่ายกว่า โดยมาในแบบที่พับจอได้ 360 องศา หน้าจอทัชสกรีน เลือกอินพุตข้อมูลได้ทั้งการพิมพ์บนคีย์บอร์ด แตะหน้าจอ รวมถึงการใช้ Lenovo pen ซึ่งเป็นปากกาสไตลัส เอาใจทั้งนักเรียน นักศึกษา กลุ่มคนทำงาน และคนที่ชอบไลฟ์สไตล์ที่ไม่ยึดติด มีอิสระในการวาด เขียน จดได้สะดวกรวดเร็ว กับวัสดุอะลูมิเนียมที่ดูพรีเมียมทั้งด้านบนและล่าง แข็งแรง น้ำหนักเบาแค่ 1.32 กิโลกรัมเท่านั้น
เช่นเดียวกับ Lenovo Yoga 7i ที่เราได้ทดสอบไปก่อนหน้านี้กับบานพับที่แสนจะหนักแน่น ทำให้สะดวกต่อการใช้งานในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะใช้งานโหมดปกติ ที่จอไม่โยกคลอนหรือสั่น เมื่อต้องพิมพ์งานต่อเนื่อง หรือการพับเป็น Stand mode ก็แสนจะง่าย จะวางบนตัก บนที่นอนก็ดูได้สบาย หรือจะเป็นโหมด Tent ก็ง่ายต่อการพรีเซนเทชั่น หรือนั่งดูภาพยนตร์ในช่วงเวลาที่พักผ่อน ไปจนถึงพับจอ 360 องศา เพื่อใช้เป็นแท็ปเล็ต แม้มิติจะหนาขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็เป็นธรรมดาของโน๊ตบุ๊คในกลุ่มนี้ แลกมากับการจับถือที่มั่นใจมากขึ้น
โลโก้ดีไซน์เป็นสีเงินเงา ตัดกับพื้นสี ที่เรียกว่า Luna Grey ซึ่งเป็นโทนสีออกไปทางเทาเข้ม แต่มีความสว่างเล็กน้อย ซึ่งเป็นรูปแบบที่ทำให้ดูหรูหรา และแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน
บานพับจะต่างจากในส่วนของ Yoga 7i อยู่พอสมควร กับการเป็นแกนยาวไปเกือบทั้งบอดี้ และยังมีดีไซน์เป็นพื้นผิวเล็กๆ เมื่อพับเป็นโหมด Tablet แล้ว ก็จะจับถือได้ถนัดมือมากขึ้น
เมื่อกางออก 180 องศา บอดี้สามารถแบนราบไปกับพื้นโต๊ะ ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพรีเซนเทชั่นให้กับคนรอบข้าง หรือการคุยงานกับคนที่อยู่ตรงข้ามได้ง่ายกว่าเดิม แต่ถ้าเพิ่มในส่วนของการ Flip ภาพได้ ก็จะทำให้ฟังก์ชั่นนี้ดูสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ในส่วนของมิติตัวเครื่องก็ยังจัดอยู่ในกลุ่มโน๊ตบุ๊คบางเบาได้เช่นกัน เพราะจุดที่บางสุดอยู่ที่ 63mm เท่านั้น โดยเฉพาะขอบบานของจอภาพ ทำได้บางเฉียบ เมื่อจับถือหรือเก็บเข้ากระเป๋า ก็แทบจะไม่รบกวนพื้นที่ภายใน ยังสามารถใส่อุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพิ่มเติมเข้าไปได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เมาส์ หูฟัง ปากกาสไตลัสหรือจะเป็นที่ชาร์จก็ตาม
นอกจากนี้ยังสามารถใช้โหมด Tent กับการวางในแนวตั้งแบบนี้ได้อีกด้วย ยิ่งเป็นคนที่ชอบท่องเน็ต หรือมีเอกสารที่ต้องจัดการจำนวนมาก ก็ไม่ต้องสกอล์เมาส์กันบ่อย การดูภาพในแนวตั้งก็ทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเป็นจอสัมผัสก็ยิ่งเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
มิติที่หนาขึ้นเล็กน้อย เมื่ออยู่ในโหมดแท็ปเล็ต เมื่อพับแบบ 360 องศา แต่ก็ทำให้การจับถือมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะส่วนของบานพับ ซึ่งทำให้เดินถือได้สะดวกมากกว่า
ลำโพงด้านข้าง ที่ทำออกมาได้กลมกลืนกับบอดี้ พร้อมจุดที่เป็นขอบจะมีความโค้งมน ตามสไตล์ของ 2-in-1 โน๊ตบุ๊ตบุ๊ค เมื่อถือแล้วสบายมือ แต่ทำพื้นผิวออกมาแบบเรียบลื่น ต่างกับ Yoga 7i ภาพทางขวามือที่ออกไปทาง Matt ไม่เงาและมีขอบสันที่เป็นแบบเหลี่ยมมากกว่า
แต่ที่น่าสนใจก็คือ พอร์ตที่ให้มา ไม่เยอะมากแต่ก็ทรงพลัง โดยเฉพาะ USB-C ที่เป็น Thunderbolt 4 ทำหน้าที่ในด้านต่างๆ ได้ดี โดยเฉพาะการต่อพ่วงจอเพื่อแสดงผลแบบ DP ทำให้ผู้ใช้สามารถต่อจอเพิ่ม เพื่อใช้งานมัลติมอนิเตอร์และแยกการแสดงผลได้อย่างอิสระ
ฝาด้านใต้ของโน๊ตบุ๊คใช้วัสดุอลูมิเนียม พร้อมช่องสำหรับดูดอากาศเย็นเข้าไป เพื่อให้ไปไหลเวียนด้านในตัวเครื่อง และระบายลมร้อนออกทางด้านหลังใต้จอแสดงผล พร้อมฐานยางขนาดเล็กในการยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น กับช่องลำโพงทางด้านล่างขวาและซ้าย มีลาเบลของ Windows 11 และ TUVRheinland certified ผ่านการรับรองด้านผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเป็น Product Carbon Footprint ที่ใช้วัตถุดิบช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และใส่ใจในสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
อแดปเตอร์ขนาดกระทัดรัดขนาด 65W พร้อมหัวต่อแบบ USB-C ซึ่งผู้ใช้สามารถหาอุปกรณ์ PD Charge มาเป็นอุปกรณ์เสริมในการชาร์จได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ทาง Lenovo ยังให้อุปกรณ์เสริมที่เป็น Accessories มาใช้งานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเมาส์ไร้สาย Lenovo 600 ที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ และปากกา Lenovo Pen slim รวมถึงหัวแปลงจาก USB-C เพื่อใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อจอภาพได้ทั้ง D-Sub, HDMI และมีพอร์ต USB-A เพื่อใช้ต่อกับอุปกรณ์เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด แฟลชไดรฟ์เป็นต้น
คีย์บอร์ดปุ่มใหญ่ในแบบ Chiclet ฟอนต์ขนาดใหญ่ มีทั้ง TH และ EN พร้อมแสงไฟ Backlit สีขาวสว่างสดใส มองเห็นได้อย่างชัดเจนในที่มืด ปรับระดับความสว่างและมีปุ่มพิเศษเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อเรียกใช้งานฟังก์ชั่นเสริมได้อย่างรวดเร็ว
Screen & Speaker
สิ่งที่ทำให้ Lenovo Yoga 9i รุ่นนี้ ตอบสนองกับการทำงานได้ดีก็คือ หน้าจอสัมผัส ที่เหมาะกับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย และที่สำคัญยังใช้พาแนล OLED ให้สีสันที่สดใส เหมาะกับการทำงาน และความบันเทิง โดยโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้จะมีให้เลือก 2 แบบให้เลือกคือ OLED 4K และ OLED 2.8K รุ่นที่เราได้รับมาเป็นแบบ 4K ความละเอียด 3840×2400 รองรับการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร หรือการดูหนัง ท่องเว็บ หรือทำกราฟิกก็ตาม โดยมีอัตรารีเฟรชเรตที่ 60Hz แต่ทีเด็ดอยู่ที่ระบุเอาไว้ว่า ให้ค่า DPI-P3 100% เลยทีเดียว
หน้าจอเป็นแบบ Glossy มีความเงาอยู่ในระดับหนึ่ง เพื่อให้การใช้งานร่วมกับระบบมัชสกรีน ไหลลื่น และภาพที่ได้จะมีความสดใส เช่นเดียวกับบรรดาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค แต่ก็มีการลดแสงสะท้อน จึงทำให้ไม่รบกวนสายตาจนเกินไป แบบเดียวกับใน Yoga 7i โดยรองรับการทัชสกรีน 10 จุดพร้อมกัน สำหรับการแตะ เลื่อน ย่อ-ขยายหน้าต่าง และการสลับโปรแกรม และวาดภาพได้ง่ายขึ้น
จอภาพมีความสว่างสดใส เนื่องจากเป็นพาแนล OLED จึงได้ความสว่างมาสูงสุด 400 nits เพื่อให้สู้กับแสงภายนอกที่เข้ามารบกวนได้ดีขึ้น และเมื่อมองจากมุมด้านข้าง ก็ยังเห็นภาพได้อย่างชัดเจน บานพับแข็งแรง ไม่ว่าจะปรับมุมพับในระดับใด จอก็ยังนิ่ง ไม่สั่นไหว เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานในแต่ละโอกาสนั่นเอง และด้วยเหตุนี้ การเปิดด้วยมือเดียว อาจจะไม่ได้ง่ายนักกับโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ ควรจับสองมือและกางออกครับ
มาชมกันใกล้ๆ ให้ชัดขึ้นกับบานพับของโน๊ตบุ๊ค Yoga 9i รุ่นนี้ จะไม่ได้เป็นแบบ Lift หรือยกเพื่อให้ตัวเครื่องสูงขึ้น แต่ทำให้แบนราบไปกับพื้นโต๊ะได้แบบแนบสนิท เป็นข้อสังเกตสำหรับโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 เช่นนี้ ข้อดีคือ เมื่อพับ 360 องศาเป็นแท็ปเล็ต จะไม่ทำให้มิติหนาเกินไป แต่เมื่อใช้โหมดโน๊ตบุ๊คปกติ ก็จะทำให้พื้นที่ด้านใต้บริเวณที่ดูดลมเข้าไปแคบลงด้วยเช่นกัน แต่เท่าที่ทดสอบก็แทบจะไม่มีผลต่อเรื่องการจัดการอุณหภูมิมากนัก
ขอบจอที่บางเฉียบ แต่ก็แข็งแรง ทนต่อการบิดงอได้ดีพอสมควร จากการลองใช้งานในโหมด Tablet กระจกด้านหน้า สามารถลดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี เอาใจผู้ใช้ที่เน้นการทัชสกรีนเป็นหลัก
กรอบบานของหน้าจอไม่ว่าจะด้านบนหรือด้านล่าง มีความบางเป็นพิเศษ ตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่ต้องตอบโจทย์การใช้งานในโอกาสต่างๆ แม้จะเน้นที่พื้นที่แสดงผลให้มากที่สุด แต่ก็ไม่ลืมเรื่องความแข็งแรง ซึ่งทาง Lenovo ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีในกลุ่มของ Yoga series ในหลายโมเดลที่ผ่านมา
กรอบบานด้านล่างทำออกมาได้เข้ารูปสวยงาม เรียกว่าบานพับและขอบจอดูมีเสน่ห์มากกว่าการเป็นบานพับ 2 ข้างที่ทำให้ดูแข็งกระด้างไปในโมเดลก่อนหน้านี้ โดยที่บน Yoga 9i ทั้งสีและพื้นผิวที่ทำขึ้นมา ดูกลมกลืนกันอย่างลงตัว
ด้านบนของจอภาพเป็นกล้องเว็บแคม ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และยังเป็น IR camera ซึ่งรองรับการทำงานร่วมกับ Windows Hello ในการสแกนใบหน้าเข้าเครื่องได้อีกด้วย โดยให้ภาพที่ค่อนข้างคมชัด และดีพอสำหรับการประชุมออนไลน์ รวมถึงการโฟกัสรายละเอียดของคนที่อยู่หน้ากล้องได้ดี ที่สำคัญสามารถเบลอพื้นหลัง ระบบตัดเสียงรบกวน รวมถึงการติดตามใบหน้าได้ โดยมี privacy shutter หรือม่านชัตเตอร์แบบ Manual เลื่อนปิด-เปิดได้ เพื่อความเป็นส่วนตัว จุดเด่นอยู่ที่ไมโครโฟนที่ติดตั้งมาให้ ทำให้คู่สนทนาได้ยินเสียงชัดเจน ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีทีเดียว
หน้าจอแสดงผลบน Lenovo Yoga 9i รุ่นนี้เป็นพาแนล OLED พื้นที่แสดงผล 14″ ให้ความละเอียด 2.8K สัดส่วนเป็นแบบ 16:10 รองรับการทัชสกรีนหรือเป็นหน้าจอสัมผัสได้ 10 นิ้วพร้อมกัน และมีปากกาสไตลัส Lenovo Pen slim ที่กระทัดรัดและจับกระชับมือ รับแรงกดได้ถึง 4096 ระดับ แบบเดียวกับที่ใช้ในงานออกแบบต่างๆ กับค่าความแม่นยำของสี มีความเที่ยงตรงระดับ DCI-P3 100% เช่นเดียวกับ Delta-E น้อยกว่า 1 อีกด้วย พร้อม Certified DisplayHDR™ 500 กับการเกลี่ยสีและแสดงผลได้สดใสสมจริง โดยมีเทคโนโลยีถนอมสายตา Eyesafe มาอีกด้วย สำหรับคนที่ต้องจ้องจอ และใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
จากภาพด้านบนผลทดสอบด้วย DisplayCAL คู่กับอุปกรณ์คาลิเบรตในการเช็คความแม่นยำของสี และการแสดงสีค่า Gamut Coverage ทั้งในส่วนของ sRGB และ DCI-P3 ต่างระบุไว้ชัดเจนว่า ให้การแสดงค่าสีได้ระดับ 100% ครอบคลุมพื้นที่แสดงผลบนหน้าจอ และค่า Delta-E ที่มีค่าเฉลี่ยน้อยกว่า 2 ก็เป็นสิ่งยืนยันว่าจอบนโน๊ตบุ๊ค Lenovo รุ่นนี้ยังเหมาะกับการใช้งานด้านภาพและวีดีโอในชีวิตประจำวันได้เต็มที่ เรื่องความแม่นยำของสีวางใจได้ ยิ่งถ้าได้รับการ Calibrate เพื่อปรับจูนเพิ่มเติม ก็จะช่วยให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับค่าความสว่าง จากที่เราทดสอบปรับ Brightness 100% ก็ให้ความสว่างจากผลการทดสอบได้ถึง 371cd/m2 อีกด้วย ซึ่งก็หมายความว่าสามารถนำ Lenovo Yoga 9i นี้ไปใช้งานนอกสถานที่ได้ดี นั่นก็เพราะสามารถสู้กับแสงรบกวนภายนอกได้มาก โดยเฉพาะกับการต้องไปทำงานในไซต์งาน หรือในสำนักงานที่เปิดโล่งกว้างและมีแสงที่ตกกระทบบนหน้าจอเยอะ แต่ถ้าอยู่ในห้องทั่วไป ปรับความสว่างระดับ 40-60% ก็เรียกว่าเจิดจ้าชัดเจนมากพอแล้ว
อีกทั้งความรู้สึกเมื่อใช้งานด้วยการเปิด HDR ไม่ว่าจะเป็นการชมภาพยนตร์หรือการเล่นเกม ให้ความสดใสและความอิ่มของสีได้ดียิ่งขึ้น การได้ Certified DisplayHDR 500 เป็นผลดีทั้งคนที่ชอบความบันเทิง รวมถึงคนที่ใช้งานจริงจัง แม้ว่าในบางครั้งจะดูสีออกแนวฉ่ำ และบางคนอาจจะเพิ่งจะเคยมาใช้จอ OLED ที่เป็น DisplayHDR แบบนี้ อาจต้องปรับตัวเล็กน้อย แต่เชื่อเลยว่าคุณจะต้องชอบกับความสวยงามและมีชีวิตชีวาของจอแนวนี้มากขึ้น เมื่อใช้งานจริงจัง ทั้งภาพ สีและความสว่างดีต่อใจครับ
Lenovo ให้ปากกา Lenovo Slim Pen ซึ่งเป็นสไตลัสที่น่าใช้งานมากับโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าสามารถนำมาใช้แบบด่วนๆ ในหลายโอกาส เป็นสไตลัสในแบบพรีเมียม ออกแบบมาให้จัดเก็บ พกพาได้สะดวกทีเดียว กับแรงกด 4096 ระดับ เมื่อเข้ากับแอพที่ใช้ในการวาดภาพ ออกแบบหลายๆ ครั้งสามารถทำได้ดี การลากเส้นที่สมูทมากๆ ส่วนตัวคิดว่าตอบสนองได้แบบเดียวกับงานระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะการใช้งานแบบเร่งด่วน การจดงาน หรือการลากเส้น เมื่อปิ๊งไอเดียการออกแบบ ทันใจดีทีเดียว แต่ในแง่ของการกดปุ่ม ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนครับ เพราะด้วยการออกแบบเป็นทรงสี่เหลี่ยมแบน แทนที่จะกลม บางครั้งก็ทำให้การพลิกหรือหมุนปากกาแล้วลากเส้นของแต่ะคนอาจออกมาไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมทั้งระยะการใช้งานของแบต การพกพาและการแปะติดกับตัวเครื่อง Lenovo Yoga 9i ได้แบบแน่นๆ แล้ว ดูน่าใช้ไม่เบาเลย
จะเป็นเส้นบาง ลากหนักหรือลากเบาเป็นลายเส้น หรือการลงสี ก็จัดว่าทำออกมาได้โดนใจ จะเป็นมือใหม่เริ่มหัดวาดหรือจะเทิร์นโปร จะนำไปใช้ในการเรียน หรือเอาไปพรีเซนท์งานลูกค้า รวมถึงคนที่เป็นครีเอเตอร์ทำงานออกแบบอิสระ ก็น่าจะได้รับความสะดวกสบายในการใช้งานร่วมกับ Lenovo Slim Pen ที่บันเดิลให้มาด้วยนี้ และไม่ต้องไปเสียเงินซื้อเพิ่ม เพราะถ้าซื้อแยกราคา 3 พันบาทเลยทีเดียว
Lenovo Yoga 9i รุ่นนี้ยังคงใช้เป็นลำโพงคุณภาพเสียงระดับ HiFi ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศในชื่อของ B&W มีตั้งแต่ที่เป็นอคูสติกฟังสบายๆ ไปจนถึง Audiophile สำหรับคนที่ชอบความอวบอิ่มของเนื้อเสียง สำหรับที่ติดตั้งมาบนโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ ต้องถือว่ามีความเต็มอิ่มจัดจ้านพอควร
ตำแหน่งของลำโพงที่อยู่ด้านใต้โน๊ตบุ๊ค เอียงออกทางด้านข้างเล็กน้อย เพื่อให้เสียงรีดออกมาได้ชัดขึ้น เมื่อต้องวางโน๊ตบุ๊คแนบกับพื้นโต๊ะ
เนื้อเสียงที่เร้าใจ ได้สนุกทั้งการดูหนัง และเล่นเกม เรื่องของมิติมาในแนวที่แน่น และคมชัด กับการแยกมิติของเสียงได้ดีพอสมควร การชมภาพยนตร์มาในโทนที่หนักแน่น กลางอิ่ม แม้จะไม่ได้ตุ๊บตั๊บ แต่ก็มีเบสหนักๆ มาให้ได้ฟังกันบ้าง สเตจเสียงกว้าง เสียงแหลมพอใช้ได้ เสียงดนตรีมาได้ชัด เสียงนักร้องแนวร๊อคหรือเสียงสูง ก็ให้อารมณ์ไม่ธรรมดา แต่ก็ต้องแลกมากับรายละเอียดที่บางครั้งเก็บได้ไม่เต็มที่ แต่โดยภาพรวมถือเป็นลำโพงบนโน๊ตบุ๊คที่ทำออกมาได้ดี ทั้งกลุ่มที่ชอบเพลง ดูหนัง ฟังสบายๆ และได้ยินเสียงผู้สนทนาแบบใสๆ ได้อีกด้วย
Keyboard & Touchpad
คีย์บอร์ดที่มีมาบน Lenovo Yoga 9i รุ่นนี้ ค่อนข้างจะแปลกตา และมีเลย์เอาท์ปุ่มต่างไปจากหลายๆ รุ่นของค่าย แต่ก็เป็นไปในทางที่ดี เพราะเสริมเอาปุ่มที่น่าใช้และควรมีใส่เข้ามาเพิ่ม ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ว่ากันที่ปุ่มหลักกันก่อน เรื่องของมิติ ขนาดของปุ่ม แทบไม่ต่างไปจากเดิม เสน่ห์ยังคงอยู่ที่การกดง่าย มีเว้าปุ่มเล็กน้อย เพื่อให้สัมผัสได้แม่นยำกว่า และฟอนต์ภาษาทั้งไทยและอังกฤษ ที่จัดมาให้เด่นชัดสวยงาม ระยะการกดค่อนข้างสั้น เอาใจคนพิมพ์สัมผัส เพราะจะพิมพ์ได้เร็วกว่าเดิม
โดยปุ่มที่เพิ่มเติมเข้ามาด้านขวาสุดของคีย์บอร์ด เป็นฮอตคีย์ที่เสริมมาให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น จำนวน 5 ปุ่มด้วยกันคือ
- ปุ่มบนสุดที่เป็นรูปเกจรถยนต์ จะใช้ปรับโหมดการทำงานของระบบ
- ปุ่มรูปลำโพง ใช้ในการปรับรูปแบบโพรไฟล์เสียง ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมหรือสนทนา
- รูปตา จะเป็นโหมดภาพ ที่จะปรับแสง สีให้เหมาะสมกับการใช้งาน รวมถึงโหมดถนอมสายตา
- ปุ่มรูปดาว
- ปุ่มรูปลายนิ้วมือ จะใช้สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าสู่ระบบ
และที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบันคือ ปุ่ม Copilot ในการเรียกใช้งาน Microsoft Copilot กับการใช้งานร่วมกับ AI Generative ซึ่งใช้งานได้อย่างหลากหลาย ปุ่มนี้ก็ช่วยให้การเรียกใช้ได้เร็วยิ่งขึ้น
ปุ่มคีย์ลัดหรือ fn ที่อยู่ด้านบนสุดของคีย์บอร์ด ประกอบไปด้วย
- F1 เปิด-ปิดเสียงลำโพง
- F2 ลดเสียง
- F3 เพิ่มเสียง
- F4 เปิด-ปิดไมโครโฟน
- F5 ลดความสว่างหน้าจอ
- F6 เพิ่มความสว่างหน้าจอ
- F7 ต่อสัญญาณจอ
- F8 Flight mode
- F9 Setting
- F10 ล็อคหน้าจอ
- F11 Clipboard
- F12 เครื่องคิดเลข
เรียกว่ามีมาให้เกือบครบ ซึ่งรวมถึงปุ่มที่ใช้จับภาพหน้าจอ ส่วนปุ่ม Delete ก็ถูกจับมาไว้บนแถบฮอตคีย์นี้ด้วยเช่นกัน แต่ปุ่มก็จะเล็กลง ส่วนปุ่มลูกศรขึ้น-ลง ก็ยังคงเป็นแบบครึ่งปุ่มเช่นเคย ซึ่งเป็นไปตามข้อจำกัดของโน๊ตบุ๊คไซส์ระดับ 13.3″-14″ เช่นนี้
แสงไฟ Backlit มีมาให้เช่นเคย และยังคงสว่างสดใส ใช้งานได้สบายตา เป็นตัวช่วยในเวลาที่ต้องใช้งานกับพื้นที่แสงน้อยได้ดีมากๆ โดยเฉพาะคนที่อยากจะใช้งาน พิมพ์งานแบบไม่รบกวนคนร่วมห้อง เพราะไม่ต้องเปิดไฟ โดยเป็นไฟสีขาวทะลุผ่านฟอนต์บนปุ่มให้เห็นอย่างชัดเจน ปรับได้ถึง 3 ระดับ เลือกปรับ ตั้งแต่แสงสว่างเริ่มต้นเบาๆ ไปจนถึงแสงเข้มคมชัด กับการควบคุมผ่านปุ่ม fn+spacebar จะมีสัญลักษณ์ไฟปุ่มที่สว่าง แต่ถ้าคุณอยู่นอกสถานที่ แสงสว่างโดยรอบชัดเจน และไม่ได้ต่อสายชาร์จอยู่แนะนำว่าให้ปิดแสงไฟจากคีย์บอร์ดนี้ เพื่อถนอมแบตให้ใช้ได้ยาวนานมากขึ้น
ทัชแพดให้มาใหญ่มากในรุ่นนี้ เมื่อเทียบกับมิติของโน๊ตบุ๊คระดับ 14″ ให้พื้นที่ในการใช้งานได้คล่องตัวมากขึ้น เมื่อเทียบกับ Yoga 7i รุ่นที่ทดสอบไปก่อนหน้านี้ พื้นผิวกลมกลืนไปกับบอดี้ และมีปุ่มคลิ๊กซ้าย-ขวาอยู่ภายในเป็นชุดเดียวกัน สนับสนุน Multi-Gesture touchscreen ให้ความลื่นไหล เลือกแตะ ปาด เลื่อนกับฟังก์ชั่นบน Windows ได้อย่างสนุก แต่ต้องระวังไม่เลื่อนไปสูงมาก เพราะจะไปโดนกับ Spacebar ได้ง่าย
ที่วางมือด้านข้างซ้าย-ขวาก็กว้างขวาง วางได้สบาย พอให้พักวางข้อมือหลังจากใช้งานนานๆ ไม่ค่อยมีอาการเมื่อยล้า โดยด้านซ้ายมีสติกเกอร์ Intel evo และรายละเอียดของฟังก์ชั่นบนโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 รุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นจอภาพ OLED, ปุ่มคีย์บอร์ดที่มีระยะตอบสนองสั้น 1.5mm เท่านั้น โดยมีระบบ SMP ที่ใช้ในการสแกนใบหน้าเข้าสู่ระบบเป็นต้น
Connector, Thin & Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อแม้จะมีค่อนข้างจำกัด แต่ถ้ามองในแง่ความคล่องตัวและศักยภาพ ต้องถือว่าให้ความสะดวกรวดเร็วไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็น ทางด้านซ้ายมือมี Thunderbolt 4 ให้ถึง 2 พอร์ต รองรับการชาร์จไฟ PD 3.0 ซึ่งใช้เป็นพอร์ตสำหรับ และโอนถายข้อมูลความเร็วสูง 40Gbps รวมถึงการต่อจอแสดงผล DP 1.4 รองรับความละเอียดระดับ 4K
ใกล้กันจะเป็น USB-A 10Gbps ซึ่งเป็น USB 3.2 Gen 2 เน้นไปที่การถ่ายโอนข้อมูลเป็นหลัก
ฝั่งทางขวามือ ประกอบด้วย Jack 3.5mm สำหรับ Headphone / microphone ที่เป็นคอมโบ และพอร์ต USB-C® 10Gbps ในแบบ USB 3.2 Gen 2, รองรับ USB PD 3.0 และการแสดงผล DisplayPort™ 1.4 ใกล้กันจะเป็นปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิดเครื่อง
นอกจากนี้ Lenovo ยังให้ตัวแปลง USB Type-C มาเพิ่มเติม เพื่อแปลงพอร์ตให้ขยายการสนับสนุนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น รองรับ USB-A, HDMI-out และ VGA หรือ D-Sub
ก็เรียกว่าเป็นอุปกรณ์เสริมที่น่าจะถูกใจใครหลายคน ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมต่อุปกรณ์ได้มากขึ้น อย่างน้อยคนที่มีอุปกรณ์เสริมแบบ USB-A เยอะๆ จะได้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้ว่าจะมีให้เบื้องต้น 1 พอร์ตทางด้านซ้ายของเครื่องแล้วก็ตาม
น้ำหนักของตัวเครื่องโน๊ตบุ๊คเท่าที่ชั่งได้ค่อนข้างจะเท่ากับที่เคลมเอาไว้บนหน้าเว็บไซต์ที่ 1.32Kg ต้องถือว่าทำน้ำหนักได้ดีในโน๊ตบุ๊คระดับเดียวกัน ซึ่งเวลาจับถือน้ำหนักประมาณนี้ ยังพอให้ใช้ในโหมด Tablet ได้ยาวนานกว่า ซึ่งถ้ามองในแง่ของการเป็นจอขนาดใหญ่ 14″ แบบนี้ และยังเป็นพาแนล OLED การคุมให้น้ำหนักอยู่ในพิกัดเกือบจะเป็น Thin & Light แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทาง Lenovo สามารถจัดการได้ดีตรงนี้น่าชมเชย
และเมื่อชั่งน้ำหนักของตัวเครื่อง รวมกับอแดปเตอร์ก็ยังอยู่ที่ราว 1.6Kg. เท่านั้น ซึ่งถือว่าเหมาะกับการพกพาและนำไปใช้ยังสถานที่ต่างๆ ได้ แม้คุณอยากจะพกอุปกรณ์ทุกอย่างไปด้วย เช่น เมาส์ไร้สายหรือ Lenovo Pen และอแดปเตอร์แปลง USB-C ที่บันเดิลมากับโน๊ตบุ๊ค รวมกันแล้วก็ยังไม่เกิน 1.8Kg. ยังเบากว่าโน๊ตบุ๊คทำงานทั่วไปที่มีอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย
Performance & Software
มาเริ่มต้นกับซีพียูที่ติดตั้งมาบน Lenovo Yoga 9i รุ่นนี้ Intel® Core™ Ultra 7 155H มาพร้อมแกนหลัก 6 P-core และ 8 E-core โดยมีคอร์พิเศษ LP E-core 2 รวมแล้วเป็น 16 core และมีถึง 22 Thread กับ
Intel® Turbo Boost Max 3.0 4.8GHz และมี ความถี่พื้นฐานของ E-core ที่ 900MHz เท่านั้น แต่มีแคชขนาดใหญ่ 24MB ในขณะที่บูสท์สูงสุดใช้แค่ 115W โดยมีกราฟิก Intel® Arc™ graphics ที่มีประสิทธิภาพจัดว่าน่าสนใจในงานวีดีโอและกราฟิก เช่นเดียวกับความบันเทิง เพราะมี X-core 8 ชุดและรองรับ Ray Tracing มาอีกด้วย
จุดที่น่าสนใจ Lenovo Yoga 9i อยู่ที่การมาของ Intel® AI Boost ที่รองรับการทำงานด้าน AI ทั้งหลาย รวมถึงการใช้ร่วมกับ เฟรมเวิร์กซอฟต์แวร์อย่าง OpenVINO™, WindowsML, DirectML, ONNX RT ที่เป็นพื้นฐานของ AI Generative อยู่มากมายในปัจจุบัน
กราฟิก Intel Arc graphic บนซีพียูนี้ ทำงานร่วมกับบัฟเฟอร์บนเมมโมรีหลักของระบบที่เป็น LPDDR5 แชร์ช่องทางในการส่งข้อมูลประมวลผล 256-bit สนับสนุน API ต่างๆ เกือบครบ ไม่ว่าจะเป็น DirectX, Vulkan, Ray Tracing หรือจะเป็น OpenGL 4.6 ก็ตาม
หน่วยความจำเป็นแบบ Soldered LPDDR5x-7467 หรือออนบอร์ด ความจุสูงถึง 32GB เพื่อให้การใช้งานคล่องตัวมากขึ้น รองรับงานในกลุ่มกราฟิก การถ่ายโอนข้อมูลหรือการวาดภาพ ปั้นโมเดลงานเริ่มต้นได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ไม่รองรับการอัพเกรดเพิ่มแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังสนับสนุนเครือข่าย Wi-Fi 6E, 11ax 2×2 และ Bluetooth 5.3 ซึ่งใช้งานได้คล่องตัวในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายภายในบ้าน หรือใช้งานนอกสถานที่ รองรับงานด้านสตรีมมิ่้งและ การแชร์ไฟล์ได้คล่องตัว เมื่อใช้ร่วมกับเราเตอร์ดีๆ สักตัวภายในบ้าน ไม่ว่าจะแชร์ไฟล์ขนาดใหญ่ หรือใช้ร่วมกับ NAS หรือจะเล่นวีดีโอสตรีมมิ่ง ก็ดูลื่นไหลได้ดี และที่มากับโน๊ตบุ๊ค Lenovo นี้เป็น WiFi 6E (Gig+) ซึ่งให้ความเร็วสูงสุด 3.0Gbps รองรับการสตรีม 2×2 ด้วยเทคโนโลยี Intel® Double Connect Technology อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมชิป TPM 2.0 กับระบบความปลอดภัยของข้อมูล ให้ใช้ร่วมกับฟังก์ชั่นต่างๆ รวมถึงระบบปฏิบัติการมาให้ รวมถึงการยืนยันตัวตนผ่านอุปกรณ์สแกนใบหน้า ลายนิ้วมือเป็นต้น
ประสิทธิภาพของระบบ Storage ที่ทาง Lenovo เตรียมมาให้นั้น เป็น M.2 NVME PCIe 4.0 x4 ความเร็วที่ได้ก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะอัตราการ Read/ Write นั้นสูงถึง 6189MB/s และ 4739MB/s ตามลำดับ ซึ่งเป็นความเร็วอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เหมาะสำหรับการเขียนข้อมูล ลงโปรแกรม และการเปิดไฟล์ใช้งานด้านต่างๆ กำลังพอเหมาะกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มนี้ ที่ได้ทั้งความเร็ว แบบที่ไม่เปลืองพลังงานมากเกินไป และการเขียนข้อมูลทำได้รวดเร็วอีกด้วย ความจุก็ให้มาแล้ว 1TB จะลงโปรแกรม เกมหรือการเก็บข้อมูลครบจบในตัวเดียวได้
Passmark PerformanceTest 11.0 โปรแกรมนี้ทดสอบประสิทธิภาพของระบบทั้งหมดโดยตรง ซึ่งมีการตรวจเช็คฮาร์ดแวร์ได้ครบถ้วน ผลที่ได้คะแนน CPU Mark วิ่งไปได้แบบทะลุทะลวง เช่นเดียวกับกราฟิกที่ยังคงดูโดดเด่นเมื่อเทียบกับในกลุ่มของกราฟิกแบบ Integrate ด้วยกัน ซึ่งหากเจาะลึกลงไปดูในรายละเอียด จะเห็นได้ว่าคะแนนในหลายส่วนสูงขึ้นแบบยกระดับ เมื่อเทียบกับซีพียูโมบายในกลุ่ม Intel Gen 12 และ Gen13 อีกด้วย
การทดสอบแรกกับ PCMark10 คะแนนค่อนข้างโดดเด่นในเกือบทุกด้านโดยเฉพาะงานในส่วน Essential ที่เกี่ยวกับ Web browsing การค้นหาข้อมูล ประชุมออนไลน์และเอกสารออนไลน์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน และที่น่าสนใจคือ ยังทำคะแนนหลายด้านแซงหน้าระบบที่เป็นพีซีที่ใช้ซีพียู Intel Core Gen13 ได้อีกด้วย จัดว่า Intel® Core™ Ultra 7 และ Intel Arc กราฟิกในตัวรองรับการสร้างสรรค์งานได้ดีทีเดียว
มาลองดูงานหนักในการเรนเดอร์กราฟิกกันบ้างอย่าง Corona 10 ผลที่ได้ก็เป็นไปตามคาด กับตัวเลขได้มาถึง 4.1M Rays/sec ยิ่งตัวเลขเยอะ ก็ยิ่งดี เพราะนั่นหมายถึงการสร้างภาพได้เร็วขึ้น งานเสร็จไว ให้คุณภาพงานได้สูง และยังแซงหน้าระบบที่ใช้ Intel Core i5-13400F ที่เป็นพีซีได้อีกด้วย
มาที่งานโมชั่นกราฟิกที่โหดขึ้น แม้โน๊ตบุ๊คจะไม่ได้ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยตรง แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงาน Creator ในการเรนเดอร์กราฟิกส่วนนี้อย่างน้อยให้อยู่ในเกณฑ์ที่สร้างได้ ไม่ใช่แค่เพียงพรีวิวอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งผลที่ได้ก็นับว่าจัดว่าน่าทึ่ง กับคะแนนทดสอบที่แซงหน้าระบบที่เรานำมาเปรียบเทียบกัน งานนี้เน้นซีพียูเพียงอย่างเดียว ทั้งการเรนเดอร์แบบ Single และ Multi thread ก็แทบจะไม่เป็นรองใคร
กับการทดสอบในด้านงานกราฟิกด้วย Blender ที่ประกอบด้วยการเรนเดอร์ 3 ส่วนด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะพึ่งพาพลังของซีพียูเป็นหลัก และผลการทดสอบยังคงออกมาชัดเจน นั่นคือซีพียู Intel Core Ultra 7 บนโน๊ตบุ๊ค Lenovo Yoga 9i รุ่นนี้ ยังคงเร่งประสิทธิภาพในงานเฉพาะทางนี้ได้อย่างเต็มที่
การเล่นเกมบน Lenovo Yoga 9i มาเริ่มกันที่โปรแกรมทดสอบอย่าง 3DMark ซึ่งโน๊ตบุ๊ค Yoga 9i รุ่นนี้มาพร้อมกับกราฟิก Intel Arc graphic ซึ่งเป็น Integrate graphic ที่มากับซีพียู Intel® Core™ Ultra 7 แต่ก็ให้ผลทดสอบออกมาได้ดี เมื่อเทียบกับพีซีที่ใช้กราฟิก Intel Arc A380 ที่เป็นกราฟิกแยก และมี VRAM ในตัว ในการทดสอบบนความละเอียด Full-HD คะแนนที่ได้แทบไม่ต่างกัน
มาที่การทดสอบเกมเริ่มต้นกับเกมแนว FPS ที่เป็นแนว Action ยอดนิยมอย่าง PUBG เกมนี้ก็ต้องอาศัยสเปคกราฟิกที่ดีในระดับหนึ่ง ถึงจะพอขับเคลื่อนให้ไหลลื่น ดูสบายตาได้ โดยจากการเล่นของเราตั้งค่าเป็น Medium บนความละเอียด Full-HD และมี Render scale 100 เพื่อให้มองเห็นศัตรูในระยะต่างๆ ได้ชัดขึ้น ได้เฟรมเรตราวๆ 40fps. โดยเฉลี่ย และถ้าปรับ Low ก็จะได้มากขึ้น เล่นได้ลื่นมากกว่า แต่ส่วนตัวมองว่าปรับ Medium กำลังสวย
สำหรับเกมยอดนิยมอย่าง DOTA2 เกมนี้จะมีแค่ฉากที่เกิดเอฟเฟกต์จากเวทย์มนต์เท่านั้น ที่อาจทำให้เฟรมเรตดรอปลงได้ จากการทดสอบการเล่นในโหมด Best performance เน้นลื่น จะได้เฟรมเรตที่แตะ 100++ fps. แต่ถ้าขยับมาเป็น Medium จะได้ภาพที่กำลังสวย แม้จะมีฉากที่กำลังโดนรุมกินโต๊ะ และระเบิดเวทย์กันอย่างสนุกสนาน ก็ได้ไม่น้อยกว่า 45fps. เรียกว่าเล่นได้ ไม่โดนตี้บ่น
เกมนี้ถือว่าเป็น Action Adventure ที่ไม่ค่อยดึงสเปคหนักมากนัก และยังได้ภาพที่ดูสวยงามอีกด้วย ซึ่งการปรับระดับ High อาจจะดูหนักไปบ้าง กับการเคลื่อนไหวในช่วงที่มีการโจมตีเยอะๆ ยิ่งมีฉากระเบิดอาจจะลดไปต่ำกว่า 20fps. เลยทีเดียว ถ้าเล่นกันแบบพื้นฐานเปิดการใช้งาน XeSS และตั้งเป็น Medium ภาพได้มากกว่า 50fps. เลยทีเดียว
ถ้าเป็นการทำงานแบบดั้งเดิมที่มากับตัวเครื่อง Lenovo Yoga 9i สามารถใช้งานร่วมกับ Windows Studio Effects ในการทำงานด้านภาพและเสียง เช่น การใช้กล้องประชุมออนไลน์ ระบบจะทำการเบลอพื้นหลัง ตัดเสียงรบกวน รวมถึงการทำ Eye contact และติดตามใบหน้าของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา ซึ่งจะเหมือนเป็นการให้กล้องโฟกัสที่ตัวผู้พูดอยู่เสมอ ก็เป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการอัพเดตการประมวลผล ร่วมกับซอฟต์แวร์ และ AI Generative เพิ่มเติมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ระดับมืออาชีพ อย่างเช่น Adobe, Filmora, Skylum หรือจะเป็น XSplit ที่เข้ามามีส่วนช่วยสร้างภาพ ตัดต่อ และการทำสคริปต์ รวมถึงการใช้พลังงาน ที่มี AI รับหน้าที่ได้มากขึ้น เช่นเดียวกับการเล่นเกม และระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่ได้รับการยกระดับให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย หรืออย่างน้อยๆ ผู้ใช้จะเริ่มต้นใช้ Intel AI Boost ได้จาก Microsoft Copilot ที่เรียกใช้ได้จากปุ่มบนคีย์บอร์ดได้ทันที
Battery & Heat & Noise
ระบบการใช้พลังงานบนโน๊ตบุ๊ค Lenovo Yoga 9i รุ่นนี้ เป็นแบตลิเธียมโพลิเมอร์ระดับ 75Wh ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ สำหรับโน๊ตบุ๊คในระดับ 14″ นี้ แต่ด้วยความเป็นจอ OLED ที่เป็นแบบ Touchscreen จึงน่าจะทำให้ต้องขยับแบตให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการทำงานได้ยาวนาน และผลทดสอบที่ได้จากการทำงานของโปรแกรม BatteryMon กับการรันวีดีโอสตรีมมิ่งระดับ 4K ต่อเนื่อง ปรับระดับเสียงและความสว่างหน้าจอให้เบาลง จำลองการใช้งานในการดูหนัง ฟังเพลงแบบส่วนตัว ระยะการทำงานของแบตเตอรี่ รายงานว่าจะใช้ได้อยู่ราวๆ 8 ถึง 8 ชั่วโมงครึ่ง เป็นตัวเลขที่น่าจะช่วยให้ใครหลายคนใช้งานแบบที่ต้องไปข้างนอกบ่อยได้พออุ่นใจ กับโน๊ตบุ๊คที่มีคุณสมบัติมากมายแบบนี้ ก็ยังใช้ได้ยาวๆ
อุณหภูมิในการทำงานของระบบ เบื้องต้นอย่างที่ได้นำเสนอกันไปคือ Lenovo Yoga 9i รุ่นนี้ใช้ระบบดูดลมเย็นจากภายนอกทางด้านใต้ของเครื่องตามมาตรฐาน แล้วเข้าไปหมุนเวียนยังอุปกรณ์ต่างๆ ภายใน จากนั้นดันลมร้อนออกไปจากตัวเครื่องผ่านทางช่องระบายอากาศที่อยู่ด้านใต้ของจอทั้งซ้ายและขวา ซึ่งถือว่าค่อนข้างจะมีระยะจำกัด ด้วยพื้นที่ของบอดี้ที่เล็กและบาง อย่างไรก็ดีในการทดสอบ Full load 100% ด้วย CPU Burner อุณหภูมิในช่วงที่พีคสุดจะค่อนข้างสูง แต่ก็ลดลงมาทันทีด้วย Intel® Adaptive Boost ทำให้อุณหภูมินิ่งๆ อยู่ที่ราว 80 องศาเซลเซียส กับเสียงพัดลมในการทำงานแบบเบาๆ นับว่า Lenovo ยังคงจัดเตรียมเรื่องจัดการอุณหภูมิไว้ได้ดี แต่ถ้ามีตัวช่วยอย่าง Cooling Pad หรืออุปกรณ์ที่ช่วยยกตัวโน๊ตบุ๊คให้สูงขึ้น ก็จะช่วยลดอุณหภูมิได้รวดเร็วกว่าเดิม
User Experience
มีหลากหลายอารมณ์ที่ถูกผสมผสานมาบน Lenovo Yoga 9i รุ่นนี้ โดยเฉพาะการเป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่สามารถพับปรับโหมดการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Tent, Stand หรือ Tablet นอกเหนือจากการเป็นโน๊ตบุ๊คทั่วไป แต่จุดเด่นที่ทำให้ดูน่าสนใจอีกสิ่งหนึ่งก็คือ การมาพร้อมจอ OLED ความละเอียดสูงถึง 4K ทำให้การใช้งานด้านออกแบบ กราฟิก และครีเอเตอร์มีมีติมากขึ้น เนื่องจากรายละเอียดที่ดีกว่า และยังมีค่า Gamut coverage รวมถึงความแม่นยำสีที่สูงอีกด้วย เมื่อบวกกับการให้ Lenovo Pen มาใช้ร่วมกับจอสัมผัส จึงทำให้การใช้งานด้านการออกแบบลงตัวมากขึ้น
เช่นเดียวกับประสิทธิภาพในการทำงาน Intel® Core™ Ultra 7 155H รองรับงานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้ข้อกังขา งานเอกสารทั่วไป แต่งภาพ หรือการจัดการไฟล์ลื่นไหล ส่วนงานกราฟิก วีดีโอและงานปั้นโมเดล 3D แม้จะไม่ได้ออกแบบมาโดยตรง แต่ถ้าไม่ได้เป็นงานสเกลใหญ่มาก หรือเป็นเพียงงานพรีวิว ส่งงานพรีเซนท์ทั่วไป ก็ตอบโจทย์ได้สบาย
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ การให้ตัวแปลง USB Type-C เพื่อขยายพอร์ตให้ใช้งานได้มากขึ้น จากที่มี TB4 และ USB-C รวม 3 พอร์ต และมี USB-A 1 พอร์ต ได้อุปกรณ์นี้มาก็เพิ่มช่องทางต่อ HDMI, D-Sub และ USB ได้มากขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกต่อกับจอทั่วไปหรือจะต่อกับ HDMI รวมกับ USB-C ที่รองรับ DP ได้อีกด้วย เพิ่มความสะดวกได้มากกว่าเดิม
การใช้งานส่วนใหญ่ให้ความคล่องตัว ไม่ค่อยติดขัด กับการใช้งานในโหมดต่างๆ แต่การใช้เป็น Tablet mode บางครั้งก็จะตึงมือนิดๆ เพราะเมื่อพับแล้วจะหนาขึ้น และด้วยการออกแบบที่เน้นความแข็งแรงเป็นหลัก ก็ทำให้น้ำหนักสูงขึ้นบ้าง ดังนั้นการจับถือก็อาจจะใช้ความระวัง ทำให้คนที่ไม่คุ้นเคยมีอาการเกร็งอยู่บ้าง และเมื่อยล้าได้เช่นกัน
แต่ที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวก็คือ กล้องเว็บแคมชัดมาก และยังปรับความละเอียดได้แบบเห็นรายละเอียดสุดๆ เรียกว่านำมาใช้ไลฟ์ขายของยังได้ แต่อาจจะไม่ได้มิติมากนัก แต่โดยรวมทำออกมาได้ดี นอกจากนี้ปุ่มฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาด้านข้าง ยังทำให้เรียกใช้งานหรือการตั้งค่าได้ไวกว่าการเข้าไปคลิ๊กเลือกในซอฟต์แวร์หรือแต่ละฟังก์ชั่นอีกด้วย
ระบบเสียงที่ จัดมาให้บน Lenovo Yoga 9i นี้ เสียงไม่ธรรมดา ลำโพงก็น่าชื่นชม เรียกว่าเอาใจสายบันเทิงกันแบบสุดๆ จะฟังแบบส่วนตัวหรือนั่งฟังเสียงการประชุมในกลุ่มเพื่อนร่วมงานก็ยังได้ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็จบได้ในตัว ความจัดจ้านเสียงที่เต็มอิ่ม ถ้ามองกันในกลุ่มของโน๊ตบุ๊ค แทบไม่ได้เป็นรองใครในงบที่ใกล้เคียงกัน และเกินกว่าที่เป็นโน๊ตบุ๊คกลุ่มทำงานอีกด้วย
Conclusion & Award
ครบเครื่องทั้งเรื่องประสิทธิภาพ ที่มีทั้งซีพียูแรงอย่าง Intel® Core™ Ultra 7 มาพร้อมกราฟิก Integrate แต่ก็แรงน่าใช้ Intel Arc graphic ทำงานก็ได้ เล่นเกมก็ยังไหว ได้จอระดับ 4K เป็นแบบ OLED มาอีกด้วย พับจอได้ 360 องศาปรับพับได้ตามใจชอบ ที่สำคัญเป็นจอสัมผัส มีสไตลัสมาให้ จด วาดเขียน ก็พร้อมทุกเมื่อ คีย์บอร์ดกดได้ไว ตอบสนองเร็ว มีไฟ Backlit ปรับได้ แถมยังให้ปุ่มฮอตคีย์มาอีกเพียบ เรียกใช้ฟังก์ชั่นเมื่อไรก็สะดวก ครบเครื่องได้ทั้งทำงานและความบันเทิงกับระบบเสียงที่เต็มอิ่ม กับสนนราคาประมาณ 5 หมื่นกว่าบาทเท่านั้น ใช้ได้ทันทีเพราะมี Windows 11 Home และ MS Office Home & Student มาอีกด้วยกับการรับประกัน 3 ปี Premium Care อุ่นใจใช้กันยาวๆ
ด้วยการออกแบบไม่ว่าจะเป็นการประมวลผล ความละเอียดสูง สีสันคมชัด สีตรง และให้จอสัมผัสและปากกาสไตลัส เช่นเดียวกับการมี AI มาในตัว สิ่งเหล่านี้ช่วยให้การสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น แบตที่ใช้ได้นาน สิ่งเหล่านี้ทำให้ Lenovo Yoga 9i สามารถตอบโจทย์กลุ่มคนในสายออกแบบและครีเอเตอร์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ Lenovo ยังออกแบบให้มีฟีเจอร์อีกมากมาย มาให้กับผู้ใช้โดยเฉพาะ ทั้งในแง่ของฮาร์ดแวร์ เช่น กล้องความละเอียดสูง, ปากกา Lenovo Pen, ตัวแปลง USB Type-C สำหรับเพิ่มพอร์ตต่อพ่วง การต่อจอพร้อมกันหลายจอ และปุ่มฟังก์ชั่นเสริม ที่มีให้มากกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานในแบบเดิมๆ สิ่งเหล่านี้บอกได้ถึงการใช้งานที่ครบครัน