ตลาดโน้ตบุ๊กสายคุ้มที่ช่วงราคาหมื่นต้น ๆ แม้อาจจะดูเหมือนชนกับแท็บเล็ต แต่ก็ยังเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมอยู่ ด้วยราคาที่จัดว่าไม่สูงมากสำหรับโน้ตบุ๊ก แต่สามารถใช้ทำงานพื้นฐานได้ มีหน้าจอ คีย์บอร์ด ทัชแพดแบบครบในตัว ทำให้สามารถพกไปใช้ทำงานที่ไหนก็ได้สะดวกกว่าแท็บเล็ตที่อาจจำเป็นต้องมีคีย์บอร์ดแยกไปอีกชิ้น เพื่อให้สามารถพิมพ์งานได้คล่องตัวกว่าการพิมพ์บนหน้าจอ ส่วนเรื่องประสิทธิภาพก็อยู่ในระดับที่เพียงพออยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ยุคที่ AMD Ryzen กลับมาในโน้ตบุ๊กแบบเต็มตัว เพราะด้วยสมรรถนะ จำนวนคอร์ และความประหยัดพลังงาน ทำให้มีโน้ตบุ๊ก AMD เป็นตัวเลือกในช่วงราคาหมื่นต้น ๆ ที่น่าสนใจหลายรุ่นทีเดียว
สำหรับในบทความนี้เราจะคัดโน้ตบุ๊กสายคุ้มที่ใช้ซีพียู AMD มา 5 รุ่น เพื่อนำมาใช้ทำงานได้แบบลื่น ๆ เผื่อใครกำลังมองหาเครื่องในลักษณะนี้อยู่
HP 15-fc0055AU
สเปค
- AMD Ryzen™ 3 7320U processor มี 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็วพื้นฐาน 2.4 GHz บูสต์ได้สูงสุด 4.1 GHz
- AMD Radeon™ Graphics (AMD Radeon™ 610M) มี 2CU ความเร็ว 1900 MHz
- แรม 8GB LPDDR5-5500 แบบออนบอร์ด (เพิ่มแรมไม่ได้)
- SSD 256GB M.2 PCIe NVMe
- หน้าจอ 15.6” FHD
- Windows 11 Home
- Wi-Fi 6 (802.11ax) + Bluetooth 5.3 + เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- 1x USB-C (5 Gbps) ใช้เฉพาะถ่ายโอนข้อมูลอย่างเดียว ไม่สามารถต่อจอนอกได้
- 2x USB-A (5 Gbps)
- HDMI 1.4b
- กล้องเว็บแคม 720p
- แบตเตอรี่ 3 เซลล์ 41 Wh
- น้ำหนัก 1.59 กิโลกรัม
- ราคาประมาณ 11,000 บาท รับประกัน Onsite 2 ปี
เริ่มต้นกันด้วย HP 15-fc0055AU โน้ตบุ๊กสายคุ้มที่มากับราคาหมื่นนิด ๆ จนถึงเกือบ 12,000 ที่ราคาแต่ละร้านอาจจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย จุดเด่นเลยคือได้พลังประมวลผลของ AMD Ryzen™ 3 7320U ที่จัดเป็น CPU AMD รุ่นเริ่มต้นที่น่าใช้งานมากกว่ากลุ่มเครื่องราคาเกือบหมิ่น เรียกว่ายอมบวกขึ้นมาอีกนิดก็ได้ชิปรุ่นที่ใหม่ขึ้นมาพอสมควรทีเดียว แม้ตัวของ Ryzen 3 7320U จะใช้สถาปัตยกรรม Zen 2 อยู่ก็ตาม แต่ก็ยังเหลือเฟือสำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป ใช้พิมพ์งาน ใช้เล่นเน็ตแบบไม่หนักหน่วงได้สบาย ทำงานร่วมกับแรม DDR5 ที่บัสสูงพอตัวและ SSD ความเร็วสูง ก็จะทำให้เครื่องมีความลื่นไหลแน่นอนบนหน้าจอความละเอียดระดับ Full HD 1080p ขนาด 15.6” ที่กลายเป็นไซซ์มาตรฐานของโน้ตบุ๊กในปัจจุบันไปแล้ว
ที่สำคัญคือมาพร้อม Windows 11 ตัวเต็มให้ใช้งานได้ฟรี ซึ่งทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องลิขสิทธิ์ของ Windows เลย เรียกว่าเปิดเครื่องขึ้นมาก็แทบจะพร้อมใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ใช้ด้วย ทำให้ในอีกทางหนึ่ง โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ก็สามารถนำไปใช้งานในองค์กรขนาดเล็กหรือสาย SME ที่ต้องการโน้ตบุ๊กราคาย่อมเยาเพื่อการใช้งานพื้นฐานได้เช่นกัน เพราะสเปคโดยรวมก็ค่อนข้างครบครันดี มีแผงปุ่มตัวเลขแบบ numpad แถมมีระบบสแกนลายนิ้วมือช่วยเสริมความปลอดภัยให้อีกด้วย
แต่เรื่องพอร์ตเชื่อมต่ออาจจะมีจำกัดนิดนึง เพราะให้มาเป็น USB-A 2 ช่อง USB-C 1 ช่องแบบที่รองรับเฉพาะการถ่ายโอนข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถใช้จ่ายไฟเข้าเครื่องและต่อภาพออกจอนอกได้เลย ถ้าจะต่อจอนอกต้องทำผ่านพอร์ต HDMI เท่านั้น ส่วนการต่อเสียงก็จะมีช่อง 3.5 มม. มาให้ตามปกติ ส่วนช่องอ่าน SD card อันนี้จะไม่มีมาให้นะครับ ยังดีที่ในภาคการเชื่อมต่อไร้สายนั้นถือว่าให้มาดีเลย เพราะเป็น Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.3 ซึ่งน่าจะเป็นมาตรฐานหลักเริ่มต้นของโน้ตบุ๊กในปี 2024 ได้เต็มตัวซักที
Lenovo V15 G4 ABP-82YY0004TA
สเปค
- AMD Ryzen™ 5 7530U processor มี 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็วพื้นฐาน 2.0 GHz บูสต์ได้สูงสุด 4.5 GHz
- AMD Radeon™ Graphics มี 7 CU ความเร็ว 2000 MHz
- แรม 8GB DDR4-3200 แบบออนบอร์ด และมีช่องให้ใส่แรมเพิ่มได้อีก 1 แผง
- SSD 512GB M.2 PCIe 4.0 NVMe
- หน้าจอ 15.6” FHD IPS
- DOS
- Wi-Fi 6 (802.11ax) + Bluetooth 5.2 + LAN 100/1000
- 1x USB-C (USB 3.2 Gen 1) รองรับการถ่ายโอนข้อมูล, PD 3.0 และต่อจอนอกผ่าน DisplayPort 1.2
- 1x USB-A (USB 2.0) + 1x USB-A (3.2 Gen 1)
- HDMI 1.4b
- กล้องเว็บแคม 720p + แผ่นปิด Privacy Shutter
- แบตเตอรี่ 38 Wh
- น้ำหนัก 1.65 กิโลกรัม
- ราคาประมาณ 12,000 บาท รับประกัน Onsite 1 ปี
แบรนด์เลอโนโวก็จะมีโน้ตบุ๊กสายคุ้มที่ใช้ซีพียู AMD ในช่วงราคาหมื่นต้น ๆ เช่นกัน ซึ่งรุ่นที่มองว่าคุ้มราคาก็จะเป็น Lenovo V15 G4 ในรหัสย่อย 82YY0004TA ตัวนี้ครับ เพราะได้พลังประมวลผลที่ขยับขึ้นมาเป็น AMD Ryzen™ 5 7530U ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 3 โดยได้จำนวนคอร์และเธรดเพิ่มขึ้นมาจาก Ryzen 3 อีกเป็น 6 คอร์ 12 เธรด จึงทำให้ตอบสนองกับการใช้งานหลาย ๆ แอปสลับไปมาได้ไหลลื่นกว่า โดยมีค่า TDP เพียง 15W เท่านั้น จึงทำให้แทบไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนและการกินไฟเลยตามสไตล์ของ CPU AMD ที่ลงท้ายด้วยรหัส U ส่วนแรมแม้ว่าจะยังเป็น DDR4 อยู่ แต่ก็จะเป็นแบบออนบอร์ด 8GB และยังซื้อแรม DDR4 มาใส่เพิ่มอีกแผงนึงได้ด้วย ต่างจากโน้ตบุ๊กในซีรีส์ IdeaPad Slim 3 ในช่วงราคาใกล้เคียงกันที่ไม่สามารถใส่แรมเพิ่มได้ จึงทำให้ Lenovo V15 รุ่นนี้มีข้อได้เปรียบตรงที่สามารถเพิ่มแรมได้ ซึ่งก็แนะนำว่าควรเพิ่มเป็นซัก 16GB น่าจะกำลังดีสำหรับการใช้งานพื้นฐานในปัจจุบัน เพราะแรมเป็นของที่มีเหลือไว้ดีกว่าขาดครับ เนื่องจากถ้าแรมไม่พอ ระบบก็อาจจะไปดึงพื้นที่ SSD บางส่วนมาใช้เสมือนเป็นแรมชั่วคราว ส่งผลถึงอายุการใช้งาน SSD ในระยะยาวอีก
แล้วเมื่อพูดถึง SSD เครื่องนี้ก็จัดว่าให้มาเยอะเลยสำหรับโน้ตบุ๊กราคาหมื่นต้น ๆ เพราะได้มา 512GB แถมยังเป็น PCIe 4.0 ความเร็วสูงด้วย เรียกว่าตรงจุดนี้แทบไม่ต้องอัปเกรดเพิ่มแล้ว สามารถใช้งานทั่ว ๆ ไปได้เลย ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็ให้มาตามมาตรฐานคือ USB-A, USB-C ที่ใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงยังมี HDMI และพอร์ตแลนด้วย จึงเหมาะสำหรับเป็นเครื่องใช้ทำงานในราคาย่อมเยาได้เลย ที่สำคัญคือมาพร้อมจอ 15.6” FHD พาเนล IPS ด้วย อันนี้ตอนซื้อก็อาจจะต้องเช็ครหัสกันดี ๆ นะครับ รุ่นนี้จะลงท้ายด้วย 04TA เพราะจะมีอีกรุ่นที่ใช้รหัสลงท้าย 03TA ซึ่งมีสเปคเหมือนกันแทบทุกจุด ต่างกันที่ 03TA จะใช้พาเนลจอแบบ TN
แต่เครื่องนี้ก็จะมีข้อสังเกตนิดนึงคือจะไม่มี Windows 11 มาด้วย ให้มาแต่ FreeDOS เท่านั้น ทำให้ถ้าหากต้องการนำไปใช้ทำงานทั่วไป ก็อาจจะต้องซื้อ Windows ไปลงเพิ่มเองอีกที ทำให้ Lenovo V15 เครื่องนี้อาจจะเหมาะกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กสายคุ้มราคาหมื่นต้น ๆ ไปติดตั้ง OS อื่นเช่น Linux หรือเป็นการซื้อเข้าองค์กรที่มีการเช่าสิทธิ์ License ของ Windows แบบองค์กรอยู่แล้ว ส่วนกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปก็สามารถซื้อไปใช้ได้เหมือนกัน แค่ต้องหา Windows มาติดตั้งเพิ่มเอง ซึ่งราคา Windows 11 Home OEM แท้แบบย้ายเครื่องไม่ได้ ก็ตีไปกลม ๆ ว่าเริ่มต้นที่ประมาณ 3,500 – 4,000 บาทแล้วแต่โปรโมชัน
Acer Aspire 3 A315-24P-R70F
สเปค
- AMD Ryzen™ 3 7320U processor มี 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็วพื้นฐาน 2.4 GHz บูสต์ได้สูงสุด 4.1 GHz
- AMD Radeon™ Graphics (AMD Radeon™ 610M) มี 2CU ความเร็ว 1900 MHz
- แรม 16GB LPDDR5 แบบออนบอร์ด (เพิ่มแรมไม่ได้)
- SSD 512GB M.2 PCIe 4.0 NVMe
- หน้าจอ 15.6” FHD IPS
- Windows 11 Home + MS Office Home & Student 2021
- Wi-Fi 6 (802.11ax) + Bluetooth 5.0
- 1x USB-C (USB 3.2 Gen 2) รองรับการถ่ายโอนข้อมูล, จ่ายไฟ และต่อจอนอกผ่าน DisplayPort
- 2x USB-A (USB 3.2 Gen 1)
- HDMI 2.1
- กล้องเว็บแคม 720p
- แบตเตอรี่ 3 เซลล์ 50 Wh
- น้ำหนัก 1.78 กิโลกรัม
- ราคาประมาณ 13,990 บาท รับประกัน 2 ปี
โน้ตบุ๊กสายคุ้มรุ่นที่ 3 ที่น่าสนใจก็คือ Acer Aspire 3 ตัวนี้ในราคาเกือบ 14,000 บาท แม้ว่าจะเลือกใช้เป็น AMD Ryzen™ 3 7320U ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นของ Ryzen 3 ในตอนนี้ก็จริง แต่ส่วนอื่นคือให้มาครบจบในเครื่องเดียวสุด ๆ ไล่ตั้งแต่แรมที่ให้แบบฝังบอร์ดมาเลย 16GB และ SSD PCIe 4.0 NVMe แบบ M.2 ที่ให้มา 512GB ซึ่งจัดว่าให้มาพร้อมใช้งานตอนนี้ทันที และยังรองรับการใช้งานในอนาคตต่อไปได้อีกไม่น้อยกว่า 3 ปีแน่ ๆ จะติดนิดนึงตรงที่ไม่สามารถเพิ่มแรมได้อีกแล้ว จึงเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ใช้โปรแกรมพื้นฐาน ทำงานเอกสาร เปิดเว็บเบราเซอร์ จะใช้สลับโปรแกรมไปมาก็ทำได้ หากไม่ได้เป็นโปรแกรมที่ใช้พลังประมวลผลมากนัก ส่วนหน้าจอก็ให้มาเป็นพาเนล IPS ขนาด 15.6” ความละเอียดระดับ Full HD 1920×1080 ซึ่งเป็นสเปคจอพื้นฐานของโน้ตบุ๊กในปี 2024 โดยจะมาพร้อมเทคโนโลยี Acer ComfyView ที่ช่วยลดแสงสะท้อนจากจอด้วย เพื่อให้ใช้งานได้สบายตายิ่งขึ้น
อีกหนึ่งจุดขายของเครื่องนี้ถ้าเทียบกับโน้ตบุ๊กซีพียู AMD ราคาหมื่นต้น ๆ ด้วยกันก็คือการที่ตัวเครื่องมาพร้อม Windows 11 Home และโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2021 ตัวเต็มให้ใช้งานได้ฟรีเลย ซึ่งในชุดก็จะมีโปรแกรมยอดนิยมอย่าง MS Word, PowerPoint และ Excel มาให้ใช้งานได้แบบเต็มที่ 100% เรียกว่าถ้าต้องการซื้อโน้ตบุ๊กสายคุ้ม ๆ ซักเครื่องมาใช้ทำงานเอกสาร ใช้ประกอบการเรียน เครื่องนี้คือลงตัวทีเดียว ด้วยสเปคที่จัดมาให้แบบพร้อมใช้งาน ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการให้มาครบ และยังมีแผงปุ่ม numpad ด้านข้างในสไตล์ของโน้ตบุ๊กจอ 15.6” อีกด้วย
ASUS Vivobook Go 15 (M1504FA-NJ516W)
สเปค
- AMD Ryzen™ 5 7520U processor มี 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็วพื้นฐาน 2.8 GHz บูสต์ได้สูงสุด 4.3 GHz
- AMD Radeon™ Graphics (AMD Radeon™ 610M) มี 2CU ความเร็ว 1900 MHz
- แรม 8GB LPDDR5 แบบออนบอร์ด
- SSD 512GB M.2 PCIe 3.0 NVMe
- หน้าจอ 15.6” FHD
- Windows 11 Home
- Wi-Fi 6E (802.11ax) + Bluetooth 5.3
- 1x USB-C (USB 3.2 Gen 1)
- 1x USB-A (USB 2.0) + 1x USB-A (3.2 Gen 1)
- HDMI 1.4
- กล้องเว็บแคม 720p + แผ่นปิด Privacy Shutter
- แบตเตอรี่ 42 Wh
- น้ำหนัก 1.63 กิโลกรัม
- ราคาประมาณ 13,990 บาท รับประกัน Onsite 2 ปี
ฝั่งของ ASUS เองก็มีโน้ตบุ๊กสายคุ้มที่ใช้ AMD ในช่วงราคาหมื่นต้น ๆ ด้วยเช่นกัน นั่นคือ ASUS Vivobook Go 15 รุ่นนี้ ที่สเปคโดยรวมก็จะคล้าย ๆ กับทั้งสามรุ่นในข้างต้นคือหน้าจอ 15.6” FHD 60Hz แรม 8GB LPDDR5 แบบฝังบอร์ดโดยไม่สามารถเพิ่มแรมได้ ในขณะที่ SSD ก็จะได้มาที่ความจุ 512GB เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ชิปประมวลผลจะได้เป็น AMD Ryzen™ 5 7520U ซึ่งเป็นชิปสถาปัตยกรรม Zen 2 รุ่นที่รองรับแรม DDR5 โดยมีคอร์ประมวลผลทั้งหมด 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับแบ่งกันทำงาน มีค่า TDP อยู่ที่ 15W จึงทำให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างยาวนาน ส่วนพลังกราฟิกก็จะได้มาจาก AMD Radeon™ 610M ที่สามารถใช้งานพื้นฐานได้สบาย ใช้เล่นเกมที่ไม่กินสเปคก็ยังไหว
ด้านการเชื่อมต่อก็จะให้เป็นพอร์ตพื้นฐานมาครบถ้วนทั้ง USB-C และ USB-A รวมถึงยังมีพอร์ต HDMI สำหรับต่อจอนอกมาให้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายจะเด่นกว่าเพื่อนตรงที่ให้เป็น Wi-Fi 6E มาเลย ทำให้ถ้าใครติดตั้งเน็ตความเร็วสูงและเราเตอร์หรือ AP เป็นแบบที่รองรับ Wi-Fi 6E ก็จะสามารถใช้งานกับโน้ตบุ๊กเครื่องนี้ได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะสามารถตั้งค่าไปใช้งานที่คลื่น 6GHz ที่ตอนนี้ยังไม่ค่อยเจอปัญหาสัญญาณตีกันมากนักได้
ส่วนระบบปฏิบัติการในเครื่องก็จะมี Windows 11 Home ตัวเต็มมาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน แต่รุ่นนี้จะไม่มี MS Office H&S มาให้นะครับ ถ้าจำเป็นต้องใช้งานพวกโปรแกรม Word, PowerPoint, Excel ก็อาจจะต้องไปหาซื้อ MS Office มาใช้งาน หรือจะซื้อ/สมัครบริการ Microsoft 365 แบบรายเดือนหรือรายปีก็ได้ อีกจุดหนึ่งที่ทำให้โน้ตบุ๊กรุ่นนี้น่าสนใจก็คือกล้องเว็บแคมที่มีแผ่นปิด privacy shutter แบบเลื่อนปิดด้วยมือมาให้เหมือนกับใน Lenovo V15 เลย ทำให้ไม่ต้องกลัวเรื่องจะโดนแฮคกล้องมาแอบถ่ายใด ๆ เพราะผู้ใช้สามารถเลื่อนแผ่นไปปิดหน้ากล้องไว้ได้เลย จึงเหมาะสำหรับเป็นโน้ตบุ๊กใช้งานทั่วไป ใช้ในการทำงาน ใช้ประกอบการเรียน ใช้เป็นคอมพิวเตอร์ประจำบ้านก็ได้ มาพร้อมการรับประกันแบบ onsite 2 ปี
HP ProBook 255 G10-A0NQ4PA
สเปค
- AMD Ryzen™ 5 7530U processor มี 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็วพื้นฐาน 2.0 GHz บูสต์ได้สูงสุด 4.5 GHz
- AMD Radeon™ Graphics มี 7 CU ความเร็ว 2000 MHz
- แรม 16GB DDR4-3200 (เป็นแบบแผง 8GB มาสองแผง)
- SSD 512GB M.2 PCIe NVMe
- หน้าจอ 15.6” FHD IPS
- Windows 11 Home
- Wi-Fi 6 (802.11ax) + Bluetooth 5.3
- 1x USB-C (5 Gbps) ใช้เฉพาะถ่ายโอนข้อมูลอย่างเดียว ไม่สามารถต่อจอนอกได้
- 2x USB-A (5 Gbps)
- HDMI 1.4b
- กล้องเว็บแคม 720p
- แบตเตอรี่ 41 Wh
- น้ำหนัก 1.52 กิโลกรัม
- ราคาประมาณ 15,000 บาท รับประกัน Onsite 3 ปี
ปิดท้ายด้วย HP แต่คราวนี้จะเป็นซีรีส์ ProBook ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในองค์กร ในภาคธุรกิจเป็นหลัก แต่จริง ๆ แล้วก็สามารถซื้อมาใช้งานทั่วไปได้เช่นกัน แถมยังมีจุดเด่นบางอย่างที่น่าสนใจมากเมื่อมองจากราคาไม่เกิน 15,000 บาท เพราะจะได้การรับประกันแบบ Onsite ซ่อมถึงที่เป็นเวลา 3 ปีเต็ม ในขณะที่โน้ตบุ๊กรุ่นอื่นในช่วงราคาใกล้เคียงกันจะให้มาอย่างมากก็ 2 ปีเท่านั้น ถ้าอยากได้เพิ่มก็ต้องซื้อประกันเสริม ทำให้สามารถใช้งานเครื่องได้แบบสบายใจตลอดช่วงเวลาการรับประกัน นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันความเสียหายจากหยดน้ำที่กระเซ็นใส่คีย์บอร์ดได้อีกด้วย
อีกจุดเด่นที่หาได้ค่อนข้างยากแล้วสำหรับกลุ่มโน้ตบุ๊กใช้งานทั่วไปคือความสามารถในการเปลี่ยนและอัปเกรดแรมได้ โดย HP ProBook เครื่องนี้จะให้มาเป็นแบบช่องใส่แรม SODIMM ทั้งสองแผง ทำให้สามารถหาซื้อแรม DDR4 สำหรับโน้ตบุ๊กมาใส่ได้ทันทีในกรณีที่ต้องการเปลี่ยน หรือต้องการเพิ่มแรมในตัว แต่สำหรับสเปคที่เครื่องให้มานั้น จริง ๆ ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่เพียงพอกับการใช้งานในปัจจุบันแบบยังไม่ต้องอัปเกรดตอนนี้ก็ได้ เพราะจะได้มาเป็นแรม 16GB DDR4-3200 ที่ติดตั้งมาเป็นแบบ 8GB สองแผง dual-channel กัน แต่ถ้าต้องการจะเพิ่มแรมจริง ๆ ก็ถอดสองแผงเดิมออก แล้วซื้อแรม 32GB (16GBx2) มาใส่แทนได้เลย ราคาในตอนนี้จะเริ่มต้นอยู่ที่สองพันนิด ๆ ในกรณีที่เป็นรุ่นบัส 3200 ตามสเปคเดิมของเครื่อง
ส่วน CPU ก็จะให้มาเป็น AMD Ryzen™ 5 7530U ซึ่งมี 6 คอร์ 12 เธรด ใช้สถาปัตยกรรม Zen 3 มาพร้อมกับกราฟิกในตัว AMD Radeon™ Graphics ที่เป็น AMD Radeon RX Vega 7 สามารถใช้ดูหนัง ฟังเพลงได้สบาย เรื่องการทำงานนั้นก็สบายหายห่วงจากพลังของคอร์ Zen 3 ที่มีประสิทธิภาพควบคู่กับการจัดการพลังงานที่ดี แม้จะต้องเปิดหลายโปรแกรมแล้วสลับหน้าต่างไปมาก็ไม่มีสะดุด ส่วนถ้าจะใช้เล่นเกมก็แนะนำว่าเป็นเกมที่ไม่กินสเปคมากนักและปรับกราฟิกให้เหมาะสม ก็น่าจะสามารถใช้เล่นเกมแบบเพลิน ๆ ยามว่างได้อยู่บ้างเหมือนกัน เรื่องการเชื่อมต่อ HP ProBook 255 G10 เครื่องนี้ก็ให้มาในระดับพื้นฐานไม่แตกต่างจากรุ่นอื่นมากนัก แต่ตรงพอร์ต USB-C จะมีข้อจำกัดในการใช้งานเหมือน ๆ กับใน HP 15 ที่แนะนำไปเป็นรุ่นแรกของบทความ คือจะรองรับเฉพาะการถ่ายโอนข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถใช้ชาร์จไฟเข้าเครื่องหรือต่อจอนอกได้ ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ครับ เพราะสามารถต่อจอผ่านพอร์ต HDMI ตามปกติได้ ส่วนการชาร์จไฟก็ใช้ช่องเสียบสาย DC พื้นฐานได้อยู่แล้ว
สรุปโน้ตบุ๊กสายคุ้ม ซีพียู AMD น่าซื้อในราคาหมื่นต้น ๆ
ทั้ง 5 รุ่นนี้ก็คือโน้ตบุ๊กสายคุ้ม ซีพียู AMD ในช่วงราคาหมื่นต้น ๆ ถึง 15,000 บาทที่น่าสนใจสำหรับช่วงกลางปี 2024 ตอบโจทย์การใช้ทำงานพื้นฐาน งานออฟฟิศ ทำงานผ่านเน็ต ดูหนังฟังเพลงได้อย่างไหลลื่นด้วยพลังของ AMD Ryzen™ processor ซีรีส์ 7000 ซึ่งโดดเด่นในด้านของประสิทธิภาพต่อพลังงานที่ใช้ และจำนวนคอร์ที่มีทั้ง 4 และ 6 คอร์ให้เลือก ทำให้สามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับงานที่ต้องเปิดหลายโปรแกรมขึ้นมาทำงานพร้อมกัน เช่นอาจต้องเขียนงานใน MS Word โดยที่เปิดเว็บเบราเซอร์ค้างไว้หลายแท็บ ในขณะเดียวกันก็ฟังเพลงจาก YouTube ไปด้วย แบบนี้บอกเลยว่าซีพียู AMD รองรับได้สบาย และเป็นจุดเด่นของ AMD Ryzen เสมอมา
ส่วนจุดอื่น ๆ ที่แต่ละเครื่องมักจะให้มาใกล้เคียงกันก็คือหน้าจอขนาด 15.6” FHD พอร์ตเชื่อมต่อที่มีทั้ง USB-C / USB-A / HDMI เป็นหลัก การรองรับ Wi-Fi 6 เป็นพื้นฐาน จะมีจุดที่แตกต่างกันซึ่งส่งผลกับการกำหนดราคา การวางตำแหน่งเพื่อต่อสู้กับคู่แข่งก็คือเรื่องแรมที่มีทั้ง 8 และ 16GB ไม่ว่าจะแบบฝังบอร์ดล้วน แบบผสมหรือแบบที่ยังมีช่องใส่แรมมา 2 ช่องอยู่ รวมถึงความจุ SSD ที่มีให้เลือกระหว่าง 256 และ 512GB สุดท้ายคือเรื่องนโยบายการรับประกันที่ส่วนใหญ่ก็จะมีบริการแบบ Onsite ซ่อมถึงที่ให้กันเกือบทั้งหมด แตกต่างกันที่ระยะเวลาการรับประกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คงต้องมาคำนวณแล้วชั่งใจเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยครับ เพราะเชื่อว่าแต่ละท่านคงมีโจทย์การเลือกซื้อโน้ตบุ๊กที่แตกต่างกันในรายละเอียดแน่ ๆ แต่ถ้ากำลังมองหาโน้ตบุ๊กราคาหมื่นต้น ๆ สเปคคุ้ม ใช้งานได้ลื่น บอกเลยว่าโน้ตบุ๊ก AMD Ryzen นั้นน่าสนใจมากทีเดียว สำหรับรุ่นของ CPU AMD ที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับโน้ตบุ๊ก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่นี่