ด้วยความที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอยู่เสมอ ทำให้สามารถออกแบบและผลิตฮาร์ดแวร์ให้มีขนาดเล็กลงได้ โดยยังคงประสิทธิภาพที่ดีอยู่ ดังจะเห็นได้จากคอมพิวเตอร์ที่ทุกวันนี้สามารถทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมมาก แต่ยังสามารถนำมาใช้ทำงาน ใช้เล่นเกมเบา ๆ แทนเครื่องที่มีขนาดใหญ่ได้สบาย เช่นกลุ่มของ Mini PC ที่เป็นคอมพิวเตอร์ในดีไซน์กล่องเล็ก ๆ แต่ภายในมาพร้อมกับสมรรถนะที่แทบไม่แตกต่างจากคอมเครื่องใหญ่เลย โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำ Mini PC AMD ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อคอมเครื่องเล็ก ๆ มาใช้ทำงานรวมถึงใช้พกพาแทนโน้ตบุ๊กกัน
ซึ่งในปัจจุบันนี้กลุ่มของ Mini PC ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ โดยเฉพาะกับสายงานออฟฟิศที่ต้องการประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่นอาจจะเปลี่ยนเอาเคสเดิมที่ประสิทธิภาพไม่เพียงพอกับการใช้งานออก แล้วจัดซื้อ Mini PC มาใช้กับจอที่มีอยู่ ทำให้ได้ทั้งประหยัดงบและประหยัดพื้นที่ไปพร้อมกัน ส่วนกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปก็อาจจะมีบางท่านที่อยากจัดโต๊ะคอมแบบเน้นความโปร่งโล่งตา การใช้งานเครื่องก็ไม่ได้กินพลังกราฟิกหนักหน่วงมากนัก ใช้เป็น HTPC สำหรับต่อทีวีเพื่อใช้ดูหนัง ฟังเพลง หรืออาจต้องพกเครื่องไปต่อใช้งานกับมอนิเตอร์ที่อื่นบ่อย ๆ แบบที่ไม่ต้องการพกโน้ตบุ๊ก เช่นซื้อ Mini PC เครื่องเดียวเพื่อใช้ทั้งกับที่ทำงาน และกลับมาใช้ที่บ้านต่อ เป็นต้น ทำให้แบรนด์ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ยังคงส่ง Mini PC รุ่นใหม่ออกมาเป็นระยะ ๆ ยังไม่รวมถึงแบรนด์อื่นที่อาจไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตาในบ้านเรามากนักก็ยังมีอยู่ แถมเป็นชิปรุ่นใหม่ ๆ ก็มีเยอะทีเดียว
ASUS ExpertCenter PN52 (PN52-S5037AD)
สเปคเครื่อง
- AMD Ryzen™ 5 5600H Processor มี 6 คอร์ 12 เธรด TDP 35W
- RAM 8GB DDR4-3200 SODIMM มีสองสล็อต รองรับได้สูงสุด 32GB
- SSD 256GB M.2 NVMe PCIe 3.0 มีช่อง 2 และ 2.5” ให้ใส่เพิ่มได้
- Windows 11 Home
- Wi-Fi 6 + Bluetooth 5.2 + LAN
- USB ด้านหลัง = 1x USB-C (3.2 Gen 2) + 1x USB-A (3.2 Gen 2) + 2x USB-A (3.2 Gen 1)
- USB ด้านหน้า = 1x USB-C (3.2 Gen 1) + 2x USB-A (3.2 Gen 1)
- 2x HDMI 2.1
- ขนาดเครื่อง 120 x 130 x 58 มม. น้ำหนัก 1 กก. รองรับการติดตั้งกับ VESA mount
- ไม่มีลำโพงในตัว
- อะแดปเตอร์จ่ายไฟ 19V 6.32A 120W
- ราคาประมาณ 15,000 บาท
ASUS เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์กลุ่มมินิพีซีอยู่ในตลาดมานานหลายปี ซึ่งสำหรับ Mini PC AMD ที่น่าสนใจในช่วงนี้ก็จะเป็น ExportCenter PN52 ที่มาพร้อมพลังของ AMD Ryzen™ 5 5600H ซึ่งเป็นชิปของผลิตภัณฑ์กลุ่มโมบายล์ที่ได้รับความนิยมในการนำไปใส่กับโน้ตบุ๊กรุ่นที่เน้นประสิทธิภาพต่อความคุ้มค่าสูง ไปจนถึงกลุ่มเกมมิ่งโน้ตบุ๊กช่วงราคาตั้งแต่ 25,000 ถึง 40,000 บาท จึงทำให้มั่นใจได้ในเรื่องสมรรถนะ ว่าสามารถรองรับงานประมวลผล งานคำนวณจากการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนสะสมมากนักด้วย เพราะในหน้าข้อมูลเชิงเทคนิคบนหน้าเว็บไซต์ ASUS เองก็จะระบุไว้ว่าใช้ค่า TDP หลักแค่ 35W เท่านั้น
ส่วนด้านของหน่วยความจำทั้งหลาย อันนี้ก็จัดว่าให้มาเพียงพอสำหรับการใช้งานเบื้องต้นในปัจจุบันอยู่ เริ่มจากหน่วยความจำหลักอย่างแรมที่ให้เป็น DDR4 8GB ที่ถ้าต้องการนำไปใช้งานได้แบบสบาย ๆ หน่อย ก็แนะนำว่าควรซื้อมาเปลี่ยนหรือใส่เพิ่มให้เป็นซัก 16GB ยืนพื้นไว้ก่อนก็ดีครับ โดยสามารถซื้อแรมโน้ตบุ๊กแบบ DDR4 มาใช้ได้เลย เพราะคอมพิวเตอร์แบบ Mini PC ในปัจจุบันจะใช้แรมโน้ตบุ๊กกันทั้งหมด ซึ่งแรมโน้ตบุ๊ก 8GB DDR4-3200 มือหนึ่งตอนนี้ก็มีราคาอยู่ที่เกือบ ๆ 800 บาทเท่านั้นเอง พอใส่รวมกับของเดิมเป็น 16GB บอกเลยว่าเป็นการอัปเกรดที่คุ้มค่าแน่นอน ส่วนของ SSD ที่จริงแล้วความจุ 256GB สำหรับการทำงานทั่วไป ทำงานผ่านเน็ต ทำงานเอกสาร ส่วนใหญ่ก็จัดว่าพอได้อยู่ แต่ถ้าอยากเพิ่มความจุแบบราคาย่อมเยาก็อาจจะไปซื้อ SSD SATA 2.5” มาใส่เพิ่มในช่องที่ว่างอยู่ในเครื่องก็ได้ ความจุ 500 หรือ 512GB ตอนนี้ก็ราคามือหนึ่งอยู่ที่พันต้น ๆ ยิ่งถ้ากดออนไลน์แล้วใส่โค้ดก็น่าจะได้ราคาไม่ถึงพันด้วยซ้ำไป เท่านี้สเปคเครื่องก็ตอบโจทย์การใช้งานได้สบาย ๆ แล้ว
เรื่องการเชื่อมต่อ Mini PC จาก ASUS รุ่นนี้ก็ให้ช่อง USB มาแบบเหลือ ๆ ทั้ง USB-C และ USB-A รวมรอบตัวทั้งหมด 7 ช่อง การต่อจอก็จะใช้ HDMI เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีอีกช่องหนึ่งที่เป็นแบบ Configurable Port ที่จริง ๆ แล้วเราสามารถเลือกตอนซื้อได้ว่าจะให้เป็นพอร์ตอะไร เช่น ให้เป็น HDMI เพิ่มมาอีกช่อง หรือจะเป็น DisplayPort, VGA, 2.5GbE LAN ก็ได้ แต่เครื่องที่ขายปลีกในไทยเหมือนจะให้มาเป็น DisplayPort 1.4 ทำให้เรื่องการต่อจอนั้นครอบคลุมพอร์ตในปัจจุบันได้อย่างครบถ้วน จะต่อเน็ต ต่ออุปกรณ์ไร้สายก็ทำได้ทันที ติดนิดนึงก็ตรงที่ในเครื่องจะไม่มีลำโพงมาให้ ถ้าอยากต่อเสียงออกลำโพงนอกให้พอฟังเสียงนิดหน่อยได้เลย ต้องอาศัยต่อจากช่อง 3.5 มม. ด้านหน้า หรือ USB ออก DAC หรือต่อผ่านไปออกทางจอด้วยพอร์ต HDMI/DP
HP ProDesk 405 G6 (3J458AV#32249)
สเปคเครื่อง
- AMD Ryzen™ 5 PRO 4650GE Processor มี 6 คอร์ 12 เธรด TDP 35W
- RAM 8GB DDR4-3200 SODIMM มีสองสล็อต
- SSD 256GB M.2 NVMe มีช่อง 2 และ 2.5” ให้ใส่เพิ่มได้
- Windows 10 Pro
- Wi-Fi 6 + Bluetooth 5 + LAN
- USB ด้านหลัง = 2x USB-A (3.2 Gen 2) + 2x USB-A (3.2 Gen 1)
- USB ด้านหน้า = 1x USB-C (3.2 Gen 2) + 2x USB-A (3.2 Gen 2)
- 1x HDMI 1.4 + 1x DisplayPort 1.4
- ขนาดเครื่อง 177 x 170.5 x 34.3 มม. น้ำหนัก 25 กก.
- มีลำโพง 2W mono ในตัว
- อะแดปเตอร์จ่ายไฟ 65W
- ราคาประมาณ 17,000 บาท
HP ProDesk 405 G6 จะเป็น Mini PC AMD ที่เน้นขายกับระดับองค์กรเป็นหลักมากกว่า ซึ่งก็ตรงตามวัตถุประสงค์ของเครื่องกลุ่มนี้ที่เน้นขายแบบวอลุ่มเข้าหน่วยงานเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว ส่วนถ้าว่ากันด้วยสเปค ภายในจะใช้เป็น AMD Ryzen™ 5 PRO 4650GE ที่ออกแบบมาเพื่องานเชิงธุรกิจเป็นหลัก รองรับการทำงานทั่วไปได้สบาย แต่ก็จะมีฟังก์ชันด้านความปลอดภัยและระบบการจัดการฮาร์ดแวร์ระดับองค์กรเพิ่มเข้ามา ส่วนสเปคอื่นอย่างแรมและ SSD ก็ให้มาในระดับมาตรฐานเริ่มต้นสำหรับการใช้งานในปี 2024 คือแรม 8GB DDR4 และ SSD 256GB ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ก็สามารถอัปเกรดเพิ่มได้เหมือนกับรุ่นแรกในบทความเลย ทั้งยังสามารถค้นหาคู่มือการบำรุงรักษาตัวเครื่องเพื่อดูวิธีการเปิด การอัปเกรดแรมและ SSD ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
ความสามารถในการเชื่อมต่อก็จะให้มาทั้งแบบมีสายและไร้สาย ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB-C กับ USB-A รวมกันทั้งหมด 7 ช่อง การต่อจอก็ทำได้ผ่านพอร์ต HDMI และ DisplayPort ที่ให้มาอย่างละช่อง ส่วนการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและเครือข่ายต่าง ๆ ก็จะมีให้มาทั้งพอร์ตแลน, Wi-Fi และ Bluetooth ทำให้สามารถนำมาใช้งานได้แบบสบาย ๆ นอกจากนี้ยังมีลำโพงเล็ก ๆ มาในเครื่องอีกด้วย แต่ก็จะเป็นระดับที่สามารถใช้แก้ขัด เช็คว่าเนื้อหามีเสียงออกมาได้หรือไม่
ขนาดตัวเครื่องของ Mini PC AMD เครื่องนี้ก็จะใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย รูปร่างหน้าตาคือจะเหมาะกับการวางสวย ๆ บนโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นวางตามแนวนอนหรือจะตั้งเครื่องขึ้นมาก็ทำได้สะดวก เพราะตัวเครื่องมีขนาดที่ค่อนข้างบาง ที่สำคัญคือกินไฟน้อย ทั้งระบบสามารถใช้กับอะแดปเตอร์จ่ายไฟ 65W ได้สบาย จึงเหมาะกับการใช้เป็นเครื่องคอมสำนักงาน ใช้เป็น HTPC ต่อหน้าจอทีวีมาก ๆ
Lenovo ThinkCentre M75q Gen 5 Tiny
สเปคเครื่อง
- AMD Ryzen™ 5 8500GE Processor มี 6 คอร์ 12 เธรด TDP 35W
- RAM 8GB DDR5-5200 SODIMM มีสองสล็อต รองรับได้สูงสุด 32GB
- SSD 256GB M.2 NVMe PCIe 4.0 มีช่อง 2 ให้ใส่เพิ่มได้
- Windows 11 Home
- Wi-Fi 6 + Bluetooth 5.1 ขึ้นไป + LAN
- USB ด้านหลัง = 3x USB-A + 1x USB-A (10 Gbps)
- USB ด้านหน้า = 1x USB-C (10 Gbps) + 2x USB-A (10 Gbps)
- 1x HDMI 2.1 + 1x DisplayPort 1.4
- ขนาดเครื่อง 179 x 182.9 x 36.5 มม. น้ำหนัก 25 กก. รองรับการติดตั้งกับ VESA mount
- มีลำโพงในตัว
- อะแดปเตอร์จ่ายไฟเริ่มที่ 65W
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 18,400 บาท
และอีกรุ่นที่น่าสนใจก็คือ Lenovo ThinkCentre M75q Gen 5 Tiny ซึ่งสามารถสั่งซื้อและปรับแต่งสเปคหลาย ๆ จุดได้เองจากหน้าเว็บเลอโนโวประเทศไทย ซึ่งสเปคพื้นฐานก็จะตามรายการด้านบนนี้เลย ส่วนการปรับแต่งเพิ่มเติมก็สามารถทำได้ตั้งแต่เปลี่ยนไปใช้ CPU รุ่นสูงกว่า เช่น AMD Ryzen™ 5 PRO 8500GE, Ryzen 7 PRO 8700GE เป็นต้น จะเพิ่มแรม เพิ่มความจุ SSD เพิ่ม SSD M.2 ตัวที่สอง เปลี่ยนเวอร์ชัน Windows 11 เป็นรุ่นโปร ปรับแต่งการ์ด Wi-Fi ใส่พอร์ต USB-C เพิ่ม ไปจนถึงสามารถเลือกซอฟต์แวร์แบบพรีโหลด ซื้อแพ็คเกจการรับประกันเพิ่มก็ยังได้ ซึ่งก็จะมีการคำนวณราคาล่าสุดตามการปรับแต่งให้ดูได้ชัดเจนก่อนกดสั่งซื้อเลย
ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องประสิทธิภาพนั้นหายห่วง เพราะมากับ APU AMD Ryzen 8000 series อย่างรุ่นเริ่มต้นที่ใช้ AMD Ryzen™ 5 8500GE ก็จะให้มาด้วยกัน 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็วพื้นฐาน 3.4GHz บูสต์ได้สูงสุด 5.0GHz ด้านกราฟิกก็ให้มาเป็น AMD Radeon 740M ซึ่งเป็น iGPU ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้ดี ใช้เล่นเกมเบา ๆ ก็ไหว ส่วนถ้าเลือกเปลี่ยน CPU ตอนซื้อเป็น AMD Ryzen 5 PRO 8600GE หรือ Ryzen 7 PRO 8700GE ก็จะมีเทคโนโลยี AMD Ryzen AI ให้ใช้งานได้อีกด้วย ตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบันที่ AI เข้ามามีส่วนสำคัญได้เป็นอย่างดี จับคู่กับแรม DDR5 8GB ที่อันนี้แนะนำว่าควรอัปเกรดเป็นขั้นต่ำ 16GB จะดีกว่า ซึ่งดูจะคุ้มกว่าถ้ากดเลือกแรม 16GB ตั้งแต่ตอนสั่งเลย เพราะจะบวกเพิ่มอีก 1,700 บาท (16GB x1) หรือ 1,900 บาท (8GB x2) เท่านั้นเอง ในขณะที่ถ้ามาซื้อแรมใส่เอง ตอนนี้ในตลาด DDR5-5200 SODIMM จะมีแค่แผง 16GB x1 ขายในราคาสองพันกลาง ๆ อย่างเดียวเลย แถมไม่ต้องกังวลเรื่องประกันด้วย เพราะเป็นการอัปเกรดจากโรงงาน เช่นเดียวกับ SSD ที่มีตัวเลือกจ่ายเพิ่ม 700 บาท เพื่อเปลี่ยนเป็นความจุ 512GB ได้ด้วย ซึ่งถ้ารวมค่าใช้จ่ายเข้าไปกับตัวเครื่องหลักก็จะอยู่ที่ประมาณ 21,000 บาท
ด้านการติดตั้ง ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็ก ทำให้ไม่ว่าจะวางบนโต๊ะ วางแอบในแนวตั้งไว้ตรงช่องเล็ก ๆ ติดตั้งเข้ากับใต้โต๊ะ หรือจะติดกับหลังหน้าจอผ่านอุปกรณ์ Tiny-in-One ที่จะยึดตัวเครื่องเข้ากับแท่น VESA mount ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ตัวเครื่องยังผ่านการทดสอบความทนทานตามมาตรฐาน MIL-STD-810H ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จึงมั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานเครื่องได้เต็มประสิทธิภาพในแทบทุกสภาวะการใช้งานและการพกพาแน่นอน ส่วนด้านระบบความปลอดภัยนอกจากจะมีอยู่ใน AMD Ryzen PRO processors แล้ว ก็ยังรองรับระบบและเทคโนโลยีสาย Think ของเลอโนโวเองอีกด้วย จึงทำให้ Mini PC AMD รุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานในองค์กรมาก ๆ รุ่นหนึ่งเลย
สรุป – Mini PC AMD น่าใช้งาน ควรมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
หากคุณต้องการ Mini PC มาใช้งานซักเครื่องหนึ่ง โดยเฉพาะกับการใช้ทำงานพื้นฐาน ใช้งานด้านเอกสาร ทำงานออนไลน์ ดูหนังฟังเพลงแบบที่ต้องการคอมพิวเตอร์เครื่องเล็ก ตัวเครื่องในลักษณะนี้จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีทีเดียว ด้วยคุณสมบัติเด่นหลาย ๆ อย่างที่มีร่วมกัน อาทิ
- ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก หลายรุ่นคือเล็กกว่าแท็บเล็ตหน้าจอ 10 นิ้ว และมีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัมนิด ๆ
- มีพอร์ตเชื่อมต่อหลัก ๆ ครบครัน ทั้งพอร์ตสำหรับต่อจอ พอร์ต USB-A/USB-C และพอร์ต LAN
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และ Bluetooth
- มาพร้อม Windows แท้ในตัว
- สามารถอัปเกรดสเปคบางส่วนภายหลังได้ เช่นแรมและ SSD
- ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับคอมเดสก์ท็อปทั่วไป ใช้งานได้ลื่นไหล
ในข้อสุดท้าย อันนี้ก็ต้องบอกเลยว่าพลังประมวลผลที่อยู่ในเครื่อง Mini PC คือส่วนสำคัญ ซึ่งชิปประมวลผล AMD Ryzen ก็มีคุณสมบัติที่ครบครันทั้งเรื่องสมรรถนะต่อพลังงานที่ใช้ การปลดปล่อยความร้อนที่ต่ำซึ่งสอดคล้องกับค่า TDP เพียง 35W เท่านั้น พลังกราฟิกก็เพียงพอสำหรับการใช้ทำงาน ไปจนถึงการเล่นเกมเบา ๆ ระหว่างพักจากการทำงานก็ยังได้ ทำให้การเลือกใช้ Mini PC AMD คือหนึ่งในทางเลือกที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับการหาคอมพิวเตอร์เครื่องเล็กที่ตอบโจทย์ทั้งการทำงานและความบันเทิง
สำหรับคอมพิวเตอร์กลุ่ม Mini PC นี้ หลาย ๆ รุ่นจากแบรนด์ชื่อดังจะเน้นวางจำหน่ายกับภาคธุรกิจเป็นหลัก แต่ก็จะพอสามารถสั่งซื้อโดยตรงจากเว็บไซต์ผู้ผลิตเองได้อยู่บ้างเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องจากแบรนด์อื่นที่พอมีให้หาซื้อผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่องทางออนไลน์ได้บ้างเหมือนกันเช่น Beelink เป็นต้น