การโฆษณาฮาร์ดแวร์ AI กำลังมาแรงเต็มที่ในตอนนี้ และตลาด AI PC ตอนนี้ก็ล้วนคึกคักไปด้วยการแข่งขัน การเปิดตัว Copilot+ PC ล่าที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนี้ ได้ผสาน Copilot เป็นผู้ช่วย AI ส่วนตัวในแพลตฟอร์ม Windows ได้อย่างไร้รอยต่อ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้กิจกรรมประจำวันง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สำหรับทาง Intel ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เปิดตัวชิปประมวลผล Meteor Lake และ Lunar Lake ที่มีสถาปัตยกรรมรวม CPU, GPU และ NPU ช่วยเร่งประสิทธิภาพงาน AI อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับการประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะ Lunar Lake ที่มีประสิทธิภาพเกิน 100 TOPS AMD ก็ไม่แพ้กันด้วย Strix Point APU หรือ Ryzen AI 300 series ที่ชูความสามารถ AI ที่น่าทึ่ง ส่วน Qualcomm นำเสนอ Snapdragon X Elite ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM ให้ประสิทธิภาพ NPU ถึง 45 TOPS การแข่งขันระหว่าง Intel, AMD และ Qualcomm ในตลาด AI PC กำลังดุเดือด
ผู้ผลิต OEM หลายรายเข้าร่วมกระแส AI PC อย่างกระตือรือร้น เพื่อให้แน่ใจว่าฮาร์ดแวร์ของพวกเขาเป็นไปตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลายๆ โน้ตบุ๊กจะมีการชู Lunar Lake CPUs หรือ Strix Point APU เป็น AI PCs แต่ด้านซอฟต์แวร์ยังตามไม่ทัน นอกจากนี้ Intel และ AMD ยังได้ให้คำมั่นที่จะร่วมมือกับ ISVs เช่น Adobe เพื่อให้ซอฟต์แวร์อื่นๆ สามารถใช้ประโยชน์จาก NPU ได้มากขึ้น แม้จะมีกระแสเหล่านี้ออกมาเรื่อยๆ แต่ว่าในผู้บริโภคส่วนใหญ่นั้น ก็ยังคงมองเห็นภาพการใช้งานจริงได้ไม่ชัดเท่าไรนัก และโซลูชัน AI ส่วนใหญ่ยังคงทำงานในคลาวด์ สื่อหลายแห่งจึงตั้งคำถามว่า AI PCs เป็นเพียงเรื่องสมมติหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แบรนด์โน้ตบุ๊กชั้นนำอย่าง MSI ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งใช้ทรัพยากรภายในเครื่องเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งาน AI ที่แท้จริง ทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงประโยชน์และมีส่วนร่วมในการปฏิวัติ AI ได้อย่างเต็มที่
นอกจากการมีโรงงานผลิตสินค้าที่หลากหลายและมาพร้อมสเปกฮาร์ดแวร์ที่สอดคล้องกับ Copilot+ PC ล่าสุดของ Microsoft แล้ว ทาง MSI ยังมีโซลูชันซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI อยู่สามตัวหลัก ๆ ด้วยกันดังนี้
MSI AI Engine
อันดับแรก MSI AI Engine เป็นซอฟต์แวร์ที่อยู่หน้าแรกของการปรับแต่งการตั้งค่าระบบโน้ตบุ๊กเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด มอบความสามารถในการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์ภาพและเสียงที่เหนือกว่าให้กับผู้ใช้ โดย MSI AI Engine มีโหมดอัจฉริยะสี่โหมด ได้แก่ Work, Meeting, Gaming, และ Entertainment ซึ่งแต่ละโหมดออกแบบมาเพื่อตอบสนองกิจกรรมเฉพาะ ตัวอย่างเช่น ในโหมด Gaming จะเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการปรับแต่งไฟคีย์บอร์ดและเปิดการตั้งค่าจอแสดงผลและเสียงสำหรับเกม ในขณะที่โหมด Work จะเปิดแอปพลิเคชันที่เน้นประสิทธิภาพเช่น Microsoft Word โดยอัตโนมัติและปรับการตั้งค่าระบบเพื่อสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
AI Artist
ต่อมา AI Artist เป็นโซลูชัน AI เชิงสร้างสรรค์ที่ใช้ในการสร้างสรรค์ภาพจากข้อความหรือภาพจากภาพได้อย่างรวดเร็วในเครื่องโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัวและต้องการลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามออนไลน์และการรั่วไหลของข้อมูล
Noise Cancellation Pro
สุดท้าย Noise Cancellation Pro ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่ทำงาน เข้าชั้นเรียน หรือเข้าร่วมการประชุมเสียงในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อระบุทิศทางของเสียง กำจัดเสียงรบกวนที่น่ารำคาญ เพิ่มความชัดเจนของเสียงมนุษย์ และมอบการสื่อสารคุณภาพระดับสตูดิโอแม้ในขณะที่มีเสียงรบกวนมาก
สรุปแล้ว MSI นั้น นับว่าเป็นผู้นำตลาดที่มีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ AI โดยวางแผนที่จะผนวกแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับ LLM อย่างค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการใช้การคำนวณ AI และ MSI ยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไม่กี่รายที่มุ่งมั่นในการพัฒนา AI อย่างแท้จริง เพื่อมอบประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าแก่ผู้บริโภคในระดับสูงสุดอีกด้วย