โน้ตบุ๊ก AMD Ryzen AI 300 จากค่ายต่างๆ เตรียมลงตลาด แรงจัด มี AI
หลังจากที่มีการเปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่สำหรับโน้ตบุ๊กอย่าง AMD Ryzen AI 300 Series ไปเมื่องาน Computex 2024 ที่ผ่านมา โดยเน้นเรื่องของประสิทธิภาพ พลังกราฟิกที่สูงขึ้น และการรองรับระบบ AI ได้แบบเต็มศักยภาพกว่าที่เคย พร้อมกันนี้ก็มีการเปิดเผยตัวอย่างของโน้ตบุ๊กที่จะมาพร้อมกับชิปประมวลผลซีรีส์ใหม่นี้ออกมาด้วย ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าจากข้อมูลที่มีออกมาในขณะนี้ จะมีโน้ตบุ๊ก AMD Ryzen รุ่นไหนน่าสนใจ น่าจับตามองบ้าง
โน้ตบุ๊ก AMD Ryzen AI 300 จากค่ายต่างๆ
ASUS
เริ่มกันกับแบรนด์ที่มีการส่งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เป็นแบรนด์แรก ๆ อยู่เสมออย่าง ASUS ที่ได้เปิดเผยว่าจะมีโน้ตบุ๊ก AMD Ryzen AI 300 ออกมาด้วยกัน 5 ซีรีส์แบบลงรายละเอียดสเปคทั้งในงานและบนหน้าเว็บไซต์ ได้แก่ ซีรีส์ ZenBook และ Vivobook สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ProArt สำหรับสายครีเอเตอร์ รวมถึงซีรีส์ ROG Zephyrus และ TUF Gaming สำหรับเกมเมอร์ เรียกได้ว่าออกมาครบกับตลาดผู้ใช้งานโน้ตบุ๊กในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าจุดชูโรงของทุกรุ่นก็คือความพร้อมในการเข้าสู่ยุค AI PC และการรองรับตามมาตรฐาน Copilot+PC ของ Microsoft ด้วยพลังประสิทธิภาพด้าน AI ของชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด AMD Ryzen AI 300 Series นั่นเอง ทีนี้เรามาเจาะสเปคของโน้ตบุ๊ก ASUS แต่ละซีรีส์เท่าที่มีข้อมูลออกมา ณ ขณะนี้
ASUS ZenBook
จะมีรุ่นชูโรงคือ ASUS Zenbook S 16 ที่เน้นในแง่ความพรีเมียม สเปคระดับสูงสำหรับสายทำงาน โดยที่ยังเน้นความบางเบาอยู่เช่นเคย ซึ่ง ASUS ระบุว่า Zenbook S 16 (UM5606) เป็นโน้ตบุ๊กบางเบาขนาดหน้าจอ 16” ที่เป็น AI PC รุ่นแรกของตน สำหรับสเปครายละเอียดที่น่าสนใจมีดังนี้
- ชิปประมวลผลมีทั้ง AMD Ryzen AI 9 HX 370 และ AMD Ryzen AI 9 365
- พลังประมวลผล AI สูงสุด 73 TOPS และ 81 TOPS ตามลำดับ
- GPU เป็น AMD Radeon 880M และ 890M ตามลำดับ
- แรมมีทั้ง 24GB และ 32GB LPDDR5X
- หน้าจอ 16” ความละเอียดระดับ 3K พาเนล ASUS Lumina OLED อัตราส่วน 16:10 120Hz 100% DCI-P3
- SSD PCIe 4.0 NVMe สูงสุด 2TB
- Wi-Fi 7 (802.11be) + Bluetooth 5.4
- แบตเตอรี่ 78 WHr
- น้ำหนักเครื่อง 5 กิโลกรัม ความบางสุดเพียง 1.19 ซม.
- บอดี้ทำมาจากเซราลูมนัม ที่มาจากการผสมของเซรามิกและอลูมินัม
- ข้อมูลสเปคจากหน้าเว็บไซต์
จากสเปคก็จัดว่าน่าสนใจทีเดียว สำหรับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กบางเบา ใช้งานแบตได้นาน โดยที่ก็ได้พลังประมวลผลที่สูง รองรับทั้งการใช้งานทั่วไป การใช้งานที่ต้องอาศัยพลัง AI โดยเฉพาะสาย Generative AI รวมถึงการใช้งานที่ต้องการพลังกราฟิกที่สูง เพราะ AMD Radeon 880M และ 890M นั้นเป็น iGPU ที่ประสิทธิภาพสูงจนแทบจะชนกับกราฟิกชิปแยกในปัจจุบันได้เลย
ASUS Vivobook
สำหรับซีรีส์ Vivobook นี้ก็จะได้รับการจัดให้เน้นทำตลาดในส่วนของกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป ที่ต้องการโน้ตบุ๊กสำหรับใช้งานซักเครื่อง ด้วยสเปคโดยรวมที่ค่อนจ้างคุ้ม โดยในปี 2024 นี้ก็จะมีรุ่นรีเฟรชที่เป็นโน้ตบุ๊ก AMD Ryzen AI 300 Series ออกมาให้เลือกด้วยเช่นกัน ไล่ตั้งแต่
- ASUS Vivobook S 14 (M5406)
- ASUS Vivobook S 15 (M5506)
- ASUS Vivobook S 16 (M5606)
ทุกรุ่นยังคงเน้นความบางเบาของตัวเครื่อง โดยที่ยังมาพร้อมความแจ็งแกร่งด้วยเช่นเดิม น้ำหนักเบาสุดเริ่มต้นที่ 1.3 กิโลกรัม ส่วนสเปคคร่าว ๆ เท่าที่มีออกมามีดังนี้
ASUS Vivobook S 14 (M5406WA)
- ชิปประมวลผลมีทั้ง AMD Ryzen AI 9 HX 370 และ AMD Ryzen AI 9 365
- แรม 24 และ 32GB LPDDR5X
- SSD PCIe 4.0 NVMe 512GB และ 1TB
- หน้าจอ 14” OLED 100% DCI-P3 มีทั้งความละเอียด 3K 120Hz และ WUXGA 60Hz
- Wi-Fi 6E
- แบตเตอรี่ 75 WHr
- น้ำหนัก 3 กิโลกรัม
- ข้อมูลสเปคจากหน้าเว็บไซต์
ASUS Vivobook S 15 (M5506WA)
- ชิปประมวลผลมีทั้ง AMD Ryzen AI 9 HX 370 และ AMD Ryzen AI 9 365
- แรม 24 และ 32GB LPDDR5X
- SSD PCIe 4.0 NVMe 512GB และ 1TB
- หน้าจอ 6” OLED 100% DCI-P3 ความละเอียด 3K 120Hz
- Wi-Fi 6E
- แบตเตอรี่ 75 WHr
- น้ำหนัก 5 กิโลกรัม
- ข้อมูลสเปคจากหน้าเว็บไซต์
ASUS Vivobook S 16 (M5606WA)
- ชิปประมวลผลมีทั้ง AMD Ryzen AI 9 HX 370 และ AMD Ryzen AI 9 365
- แรม 24 และ 32GB LPDDR5X
- SSD PCIe 4.0 NVMe 512GB และ 1TB
- หน้าจอ 16” OLED 100% DCI-P3 ความละเอียด 2K 120Hz
- Wi-Fi 6E
- แบตเตอรี่ 75 WHr
- น้ำหนัก 5 กิโลกรัม
- ข้อมูลสเปคจากหน้าเว็บไซต์
ASUS ProArt Series
ด้านของสายครีเอเตอร์ก็จะมีโน้ตบุ๊ก AMD Ryzen AI 300 Series มาให้เลือกด้วยเช่นกัน นั่นคือ ASUS ProArt ที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานสายครีเอทีฟ โดยที่ได้ความบางเบา ช่วยให้พกพาสะดวก และได้พลังในการประมวลผลด้าน AI ที่สูงขึ้นกว่าที่เคยมีมา ซึ่งจะตอบโจทย์การใช้งานในกลุ่มนี้เป็นอย่างดี เพราะหลาย ๆ แอปพลิเคชันก็มีการใส่ระบบ AI เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกและใช้ประมวลผลกันเยอะแล้ว
ASUS ProArt P16 (H7606)
เป็นโน้ตบุ๊กรุ่นที่เน้นประสิทธิภาพสูงจากพลังของ AMD Ryzen AI 300 Series ผสานกับพลังของกราฟิกแยกที่ทำให้มีค่าประสิทธิภาพการประมวลผลด้าน AI รวมที่สูงมาก สำหรับสเปครวม ๆ ของ ASUS ProArt P16 มีดังนี้
- ชิปประมวลผลมีทั้ง AMD Ryzen AI 9 HX 370 และ AMD Ryzen AI 9 365
- กราฟิกการ์ดแยก เริ่มต้นที่ RTX 4050
- แรม LPDDR5X เริ่มตั้งแต่ 24, 32 และสูงสุด 64GB
- SSD PCIe 4.0 NVMe เริ่มต้นที่ 1TB มีช่องใส่ 2 2280 PCIe 4.0×2 เพิ่มได้อีก 1 ตัว
- หน้าจอ 16” ความละเอียดระดับ 4K OLED 60Hz 100% DCI-P3 ผ่านการรับรองสีจาก PANTONE
- Wi-Fi 7
- แบตเตอรี่ 90 WHr
- น้ำหนัก 85 กิโลกรัม
- ข้อมูลสเปคจากหน้าเว็บไซต์
รุ่นต่อมาก็จะเป็นโน้ตบุ๊กแบบ convertible นั่นคือ ASUS ProArt PX13 (HN7306) ที่สามารถพลิกจอกลับได้สูงสุด 360 องศา ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ส่วนสเปคหลัก ๆ ก็มีตามนี้
- ชิปประมวลผลมีทั้ง AMD Ryzen AI 9 HX 370 และ AMD Ryzen AI 9 365
- กราฟิกการ์ดแยก เริ่มต้นที่ RTX 4050
- แรม LPDDR5X เริ่มตั้งแต่ 24, และ 32GB
- SSD PCIe 4.0 NVMe เริ่มต้นที่ 512GB
- หน้าจอสัมผัส 3” ความละเอียดระดับ 3K OLED 60Hz 100% DCI-P3 ผ่านการรับรองสีจาก PANTONE
- Wi-Fi 7
- แบตเตอรี่ 73 WHr
- น้ำหนัก 38 กิโลกรัม
- ข้อมูลสเปคจากหน้าเว็บไซต์
ต่อมาก็เป็นสายเกมมิ่งอย่าง ASUS TUF ที่ขณะนี้มีออกมาด้วยกันสองซีรีส์ เน้นการนำ AI มาช่วยในการทำงาน เช่น ช่วยเบลอภาพพื้นหลังขณะใช้กล้อง ใช้ช่วยในงาน image generation รวมถึงใช้ประกอบการประมวลผลในเกมด้วย สำหรับสเปคของโน้ตบุ๊ก AMD Ryzen AI 300 แต่ละซีรีส์ก็จะมีออกมาประมาณนี้
ASUS TUF Gaming A14 และ A16 (2024)
- ชิปประมวลผล AMD Ryzen AI 9 HX 370
- กราฟิกการ์ดแยกสูงสุดระดับ RTX 4070
- แรม LPDDR5X เริ่มต้น 16GB
- SSD PCIe 4.0 NVMe เริ่มต้น 1TB
- หน้าจอ
- A14 – 14” 5K IPS 100% sRGB 165Hz G-Sync
- A16 – 16” 2.5K IPS 100% sRGB 165Hz G-Sync
- Wi-Fi 6E
- แบตเตอรี่ 73 WHr
- น้ำหนัก 46 กก. (A14) และ 2.2 กก. (A16)
- ข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์
ASUS ROG Zephyrus G16 (2024) GA605
- ชิปประมวลผล AMD Ryzen AI 9 HX 370
- กราฟิกการ์ดแยกสูงสุดระดับ RTX 4070
- แรม LPDDR5X 32GB
- SSD PCIe 4.0 NVMe 2TB
- หน้าจอ ROG Nebula Display 16” 5K IPS 100% DCI-P3 240Hz G-Sync, MUX Switch
- Wi-Fi 7
- แบตเตอรี่ 90 WHr
- น้ำหนัก 85 กก.
- ข้อมูลสเปคจากหน้าเว็บไซต์
MSI
อีกแบรนด์ที่มีการเปิดเผยรายละเอียดของโน้ตบุ๊ก AMD Ryzen AI 300 Series ในงาน Computex 2024 ที่ผ่านมาก็คือ MSI ที่นำเครื่องจริงมาโชว์ในงานด้วย ซึ่งก็จะมีธีมเน้นไปที่การเป็นโน้ตบุ๊ก AI เพื่อช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิม ควบคู่กับดีไซน์ที่มีความบางเบา ทำให้สามารถพกพาได้สะดวกและยังได้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมอยู่ โดยมีออกมาหลายซีรีส์ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายดังนี้
MSI Stealth A16 AI+ และ Creator A16 AI+
เป็นโน้ตบุ๊กสายครีเอเตอร์ที่เน้นในด้านประสิทธิภาพสำหรับการทำงานสายสร้างสรรค์ งานตัดต่อสื่อบนจอคุณภาพสูง แต่ก็สามารถใช้เล่นเกมได้ด้วยความเร็วแรงของ CPU กับ GPU โดยในรอบนี้ก็จะเสริมพลังด้าน AI จาก NPU สถาปัตยกรรม XDNA 2 เข้ามาอีก ทำให้ Stealth A16 AI+ รวมถึงรุ่น Creator A16 AI+ กลายเป็นโน้ตบุ๊กหน้าจอ 16” สายบางเบาที่เน้นในด้านเกมมิ่ง และงานสายครีเอทีฟรุ่นแรกของโลก
สเปคคร่าว ๆ ของ MSI Stealth A16 AI+ มีดังนี้
- ชิปประมวลผล รองรับสูงสุดที่ AMD Ryzen AI 9 HX 370
- กราฟิกการ์ดแยกสูงสุดระดับ RTX 4070
- แรม LPDDR5X สูงสุด 32GB
- SSD PCIe 4.0 NVMe สูงสุด 2TB
- หน้าจอ 16” QHD IPS 100% DCI-P3 240Hz
- Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4
- แบตเตอรี่ 99 WHr
- บอดี้ทำจากแมกนีเซียม-อะลูมินัมอัลลอย
ส่วนอีกรุ่นที่เกริ่นไปแล้วในข้างต้นคือ MSI Creator A16 AI+ ที่จะเป็นโน้ตบุ๊กสายครีเตอร์เช่นกัน แต่จะเป็นรุ่นที่ใช้จอสัมผัส รองรับปากกา MSI Pen 2 เพื่อใช้ในการวาดเขียน จดบันทึกในแบบคล้ายกับแท็บเล็ต จึงเหมาะกับการใช้งานที่ต้องมีการขีดเขียนบนจอบ่อย ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังให้สเปคที่รองรับงานตัดต่อ การเล่นเกมได้เช่นกัน คือมาพร้อม CPU ในตระกูล AMD Ryzen AI 300 series และกราฟิกการ์ดแยกในกลุ่ม RTX 40 series โดยที่มี iGPU ประสิทธิภาพสูงอย่าง AMD Radeon 800M series มาให้ใช้ด้วยเช่นกัน จะมีส่วนของหน้าจอที่ปรับไปใช้หน้าจอสัมผัสขนาด 16” รีเฟรชเรต 165Hz แทน อีกจุดที่ทั้งสองรุ่นมีเหมือนกันก็คือระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ที่จะช่วยถ่ายเทความร้อนออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
MSI Prestige A16 AI+ และ Summit A16 AI+
กลุ่มถัดมาจาก MSI ก็จะเป็นของโน้ตบุ๊กสายงานธุรกิจในซีรีส์ Prestige และ Summit ที่ก็จะมีโครงสร้างการแบ่งรุ่นคล้ายกับกลุ่มแรก คือความแตกต่างด้านหน้าจอและรูปแบบการใช้งานดังนี้
- MSI Prestige A16 AI+ โน้ตบุ๊กธุรกิจรูปทรงปกติ เน้นความบางเบา ดีไซน์เรียบง่าย ใช้ทำงานได้สบาย
- MSI Summit A16 AI+ โน้ตบุ๊กธุรกิจหน้าจอสัมผัส พลิกจอได้ 360 องศา
ส่วนสเปคหลักในจุดอื่น ๆ จากเครื่องโชว์ในงานก็มีออกมาเล็กน้อยครับ อาจจะต้องรอหลังเปิดวางขายในช่วงตั้งแต่ Q3 ของปีนี้เป็นต้นไปอีกที
- ชิปประมวลผล AMD Ryzen AI 9 365
- กราฟิก AMD Radeon 880M
- แรม 32GB
- SSD 1TB
- หน้าจอ
- Prestige – 16” UHD+ OLED
- Summit – 16” QHD+ 165Hz IPS จอสัมผัส พลิกกลับได้ 360 องศา
- แบตเตอรี่ 82 WHr
โน้ตบุ๊กแบรนด์อื่นๆ
นอกจากสองแบรนด์หลักที่มีการเปิดเผยหน้าตา ข้อมูลและสเปคของโน้ตบุ๊ก AMD Ryzen AI 300 series ไปแล้ว ก็จะมีชื่อของแบรนด์อื่นด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมามากนัก ตัวอย่างก็อาทิ
- HP Omnibook
- โน้ตบุ๊กจาก Lenovo ในซีรีส์ ThinkBook, ThinkPad และ Yoga
- โน้ตบุ๊กจาก Acer ในซีรีส์ Swift เน้นความบางเบา
แต่ทั้งนี้คงต้องรอติดตามข่าวกันต่อไป คาดว่าพอเข้าช่วงไตรมาส 3 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ก็น่าจะเห็นการเปิดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จุดเด่นของโน้ตบุ๊ก AMD Ryzen AI 300 Series
สิ่งที่ทำให้โน้ตบุ๊ก AMD รุ่นใหม่ ๆ กลุ่มนี้มีความโดดเด่นก็คือพลังประมวลผลด้าน AI ของ NPU ในสถาปัตยกรรมใหม่ XDNA 2 ที่มีความสามารถในการคำนวณเชิง AI และ ML ที่สูงขึ้นกว่าเดิม เฉพาะตัว NPU เองก็มีประสิทธิภาพสูงสุด 50 TOPS เข้าไปแล้ว และถ้ารวมทั้งหมดในแพ็คเกจ CPU ก็จะมีพลังประมวลผลสูงสุดถึง 80 TOPS เลยทีเดียว ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับแอปพลิเคชันที่มีระบบ AI ช่วยคำนวณในตัวได้อย่างรวดเร็วกว่าในปัจจุบัน รวมถึงยังจะรองรับมาตรฐาน Copilot+ PC ในอนาคตอีกด้วย
ต่อมาก็คือพลัง GPU ในตัวของ AMD Radeon 800 Series ที่ขยับไปใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3.5 ซึ่งประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้พลังงานได้คุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม โดยถ้าเทียบเรื่องความแรงจากผลการ benchmark เท่าที่มีออกมาในขณะนี้ สามารถขึ้นไปเทียบกับกราฟิกชิปแยกสำหรับโน้ตบุ๊กในระดับกลาง ๆ ได้เลย ทำให้เหมาะมากกับการนำมาใช้กับโน้ตบุ๊กสายครีเอเตอร์ ในกรณีที่คุณอาจจะไม่ได้ต้องการใช้เล่นเกม เพราะจะได้พลังประมวลผลที่สูง พลังกราฟิกที่ก็เหลือเฟือสำหรับการใช้งาน แถมถ้าเบื่อ ๆ หรือต้องการเล่นเกมในเวลาว่างก็ยังทำได้ด้วย
และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ CPU ที่ในรอบนี้ตัว AMD Ryzen AI 9 ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมคอร์ประมวลผลสองแบบคือ Zen 5 ที่ประสิทธิภาพสูงและ Zen 5c ที่เน้นสำหรับประมวลผลงานทั่วไป โดยที่ยังมีฟีเจอร์เทียบเทียบกับคอร์ Zen 5 เลย ส่งผลให้โน้ตบุ๊ก AMD Ryzen AI 300 Series มีทั้งความสามารถที่สูงและยังใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าเดิมเข้าไปอีก ตอบโจทย์กับการนำมาใช้ในโน้ตบุ๊กที่ผู้ผลิตต้องการให้มีระยะเวลาการใช้งานแบตที่ยาวนานยิ่งขึ้น และตัวเครื่องมีความบางเบา เพราะสามารถลดขนาดของชุดระบายความร้อนลงได้นั่นเอง
ทั้งนี้ โน้ตบุ๊กที่ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดจาก AMD จะเริ่มเปิดตัวและวางขายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ไตรมาสสามของปีนี้เป็นต้นไป คาดว่าอย่างเร็วสุดก็น่าจะเป็นช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ยังไงก็รอติตตามชมรีวิวจาก NotebookSPEC กันได้เช่นเคย