Connect with us

Hi, what are you looking for?

REVIEW

SanDisk Desk Drive Desktop SSD 8TB เก็บไฟล์ได้เยอะ โอนถ่ายได้ไว ข้อมูลแบบไหนก็เอาอยู่

SanDisk Desk Drive SSD 8TB เก็บข้อมูลเร็ว ความจุเยอะสะใจ จะไฟล์ใหญ่หรือจำนวนมาก ก็จบได้ในตัว

SanDisk Desk Drive

Sandisk Desk Drive SSD 8TB เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลความเร็วสูงในแบบ SSD ระดับมืออาชีพ ให้ความจุมากถึง 8TB มากกว่า SSD หรือ HDD ในแบบต่อภายนอก ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปเกือบ 10 เท่า เพื่อรองรับไฟล์งานขนาดใหญ่ หรือต้องโอนถ่ายไฟล์จำนวนมากพร้อมกัน และให้ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลได้ถึง 1000MB/s (Read) และ 900MB/s (Write) ตามลำดับ ให้การเชื่อมต่อบนอินเทอร์เฟส USB-C 3.2 Gen2 ให้แบนด์วิทธิ์ได้สูงถึง 10Gbps ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 เป็นต้นไป รวมถึง Windows 11 และผู้ใช้ MacOS เวอร์ชั่น 11 เป็นต้นไป มาพร้อมสายต่อ USB-C และหัวแปลงแบบ USB-A เพื่อความคล่องตัวและเข้ากับแพลตฟอร์มต่างๆ พร้อมอแดปเตอร์จ่ายไฟ ที่มีหัวแปลงมาให้เลือกใช้ การรับประกัน 3 ปี ราคาประมาณ 29,900 บาท


จุดเด่น

Advertisement
  • ให้ความจุมากถึง 8TB รองรับปริมาณไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้ดี
  • ขนาดกระทัดรัดพกพาสะดวก
  • ให้การโอนถ่ายข้อมูลที่รวดเร็ว
  • ความร้อนน้อย ใช้งานได้ต่อเนื่อง
  • รองรับการเชื่อมต่อทั้ง USB-C และ Type-A มีตัวแปลงมาให้
  • ให้สายต่อ USB-C to USB-C มาด้วย
  • การรับประกัน 3 ปี

ข้อสังเกต

  • ต้องใช้ร่วมกับอแดปเตอร์จ่ายไฟเลี้ยง

Sandisk Desk Drive SSD 8TB


Specification

รายละเอียด
ความจุ: 4TB, 8TB, 16TB
มิติ: 99.2มม x 99.2มม x 40.2มม
น้ำหนัก: 268 กรัม
วัสดุภายนอก: Plastic
พอร์ตการเชื่อมต่อ: USB-C
เทคโนโลยี: SSD
การรับประกัน: 3-Year Limited Warranty
ความเร็วอ่าน/เขียน (MB/s): Up to 1000MB/s / 900MB/s
ซอฟต์แวร์: Acronis True Image for Western Digital backup software

Unbox

SanDisk Desk Drive

แพ๊คเกจของ SanDisk Desk Drive SSD รุ่นนี้ มาในโทนสีขาว ตัดด้วยเส้นสายสีแดง โลโก้โดดเด่นบนหน้ากล่อง เช่นเดียวกับกราฟิกของผลิตภัณฑ์เห็นได้ชัดเจน และรายละเอียดสำคัญเช่น รองรับการเชื่อมต่อ USB-C, รับประกัน 3 ปี และมีซอฟต์แวร์ในการสำรองข้อมูลมาให้ โดยซอฟต์แวร์นั้นจะเป็นการดาวน์โหลดมาติดตั้ง และมีฟังก์ชั่นให้เลือกใช้เพิ่มเติมอีกด้วย

SanDisk Desk Drive

ด้านหลังกล่องค่อนข้างเรียบง่าย นั่นคือ มีเพียงชื่อรุ่น และข้อมูลแนะนำผลิตภัณฑ์เท่านั้น

SanDisk Desk Drive

เมื่อแกะกล่องออก ก็จะเห็นตัวอุปกรณ์จัดวางในกล่องกระดาษสีขาว ทำหน้าที่เป็นกันกระแทกไปในตัว จึงค่อนข้างจะมั่นใจได้ เวลาที่หิ้วสินค้ากลับบ้าน เผลอทำหล่นไม่แรงมาก ก็ยังพอเซฟได้ดี

SanDisk Desk Drive

โดยบอดี้ของ SanDisk Desk Drive 8TB นี้ มาในโทนสีดำ ขนาดเล็กประมาณอุ้งมือผู้ใช้ จับถือได้ถนัด เหมาะกับการพกพา เราจะไปลงรายละเอียดในเรื่องของ Design กันอีกครั้ง

SanDisk Desk Drive

ส่วนอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องมีให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สายสัญญาณ USB, อแดปเตอร์แปลงไฟ, หัวแปลงสำหรับปลั๊กในแบบต่างๆ

SanDisk Desk Drive

รูปแบบของหัวปลั๊กจะประกอบด้วย Type-A, Type-C, Type-G และ Type-I ซึ่งดูแล้วก็สามารถรองรับการใช้งานในหลายๆ ประเทศได้ดี โดยเฉพาะแถบอาเซียนบ้านเรา ซึ่งรวมถึงใน จีน ถ้าพูดถึงรูปแบบของปลั๊กและแรงดันไฟ

SanDisk Desk Drive

โดยอแดปเตอร์ที่ให้มาก็มีขนาดเล็กกระทัดรัดทีเดียว จุดเด่นคือ สามารถนำหัวปลั๊กที่ให้มาทั้ง 4 แบบสลับการใช้งานได้ตามปลั๊กของแต่ละประเทศได้ตามสะดวก

วิธีการก็คือ หัวปลั๊กแต่ละแบบจะมีสลักที่สามารถกดเข้าล๊อคของตัวหัวแปลงได้พอดี และยังให้สายมายาวกว่า 1.5ม. อีกด้วย เรียกว่าแม้จะอยู่ห่างจากปลั๊กแหล่งจ่ายไฟอยู่บ้าง ก็ยังใช้งานได้

SanDisk Desk Drive

และสายสัญญาณ USB-C ที่ให้มา จะเป็นแบบ USB-C to USB-C แต่ก็เพิ่มหัวแปลงที่เป็น USB-C to USB-A มาให้อีกด้วย ในกรณีที่โน๊ตบุ๊คหรือพีซีของคุณไม่ได้มี USB-C หรือมีมาให้ไม่พอ เพราะหลายรุ่นก็มีให้เพียงพอร์ตเดียวเท่านั้น


Design

SanDisk Desk Drive

ในด้านการออกแบบวัสดุที่เป็นโครงสร้างหลักเป็นแบบพลาสติกแข็ง พื้นผิวเรียบและงานประกอบค่อนข้างแน่นหนา มาในโทนสีดำเกือบทั้งบอดี้ มีโลโก้สีขาวตัดกับพื้นหลัง และขอบเส้นสายสีแดงดูสะดุดตา แต่ไม่ได้มีแสงไฟมาให้แต่อย่างใด

SanDisk Desk Drive

มิติของตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดแค่ประมาณอุ้งมือเท่านั้น น้ำหนักประมาณ 200-300 กรัม การพกพาจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ แต่จะต่างจากค่ายอื่นๆ ตรงที่มิติจะเล็ก แต่มีความหนา คาดว่าด้านในน่าจะมีเรื่องของการระบายความร้อนเพิ่มเติมเข้าไปด้วย

SanDisk Desk Drive

การวางจะวางแนวใด แบบใดก็ได้ เนื่องจากเป็นโมดูลแบบ SSD และยังต่อแบบภายนอก และสิ่งที่น่าสนใจคือ แทบไม่ต้องกังวลเรื่องริ้วรอยมากนัก เนื่องจากวัสดุทำมาเพื่อให้รองรับสิ่งเหล่านี้ได้ดีพอสมควร แต่ก็มีโอกาสเป็นรอยจากการขูดขีดได้ หากถูกกระแทกอย่างแรง ก็ต้องระวังหากไม่อยากให้เกิดรอย

SanDisk Desk Drive

ด้านบนของบอดี้ SanDisk Desk Drive จะเป็นโลโก้ SanDisk สีขาวตัดกับพื้นหลังสีดำ ซึ่งดูเรียบง่าย เหมาะกับสายทำงาน ที่ไม่ได้เน้นความหวือหวาสะดุดตามากนัก

SanDisk Desk Drive

ด้านใต้หรือด้านหลังจะระบุควาวมจุ 8TB มาให้เห็นชัดเจน พร้อมกับโลโก้มาตรฐานอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

SanDisk Desk Drive

มิติของ SanDisk Desk Drive SSD 8TB นั้น ความหนาจะอยู่ที่ประมาณ 3.8cm ซึ่งก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอสมควร แต่การออกแบบนั้น SanDisk น่าจะเล็งเห็นถึงความสะดวกในการพกพาเป็นหลัก เพราะทำด้านกว้างxยาว ให้กระชับลง และเพิ่มความสูง เพื่อจะได้สมดุล และเพื่อให้ผู้ใช้จัดวางได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงด้านใต้ที่เป็นลาเบล จะทำมาเป็นวัสดุคล้ายยาง เพื่อให้ยึดเกาะกับพื้นผิวของโต๊ะและอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น

SanDisk Desk Drive

พอร์ตในการเชื่อมต่อจะมี 2 ส่วนด้วยกัน ประกอบด้วยหัวต่อ USB-C ที่ใช้ในการเชื่อมต่อสัญญาณเข้ากับพีซี โน๊ตบุ๊ค โดยสนับสนุนมาตรฐาน USB-C 3.2 Gen2 ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นจึงสามารถใช้ร่วมกับพอร์ตที่โอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูงได้ดี

SanDisk Desk Drive

ใกล้กันกับบริเวณด้านล่างของบอดี้เป็นช่องสำหรับล็อค เพิ่มความปลอดภัย ให้คุณต่อเข้ากับคอมหรือโต๊ะคอมด้วยสายล็อคแบบ Kensington ได้อีกด้วย ค่อนข้างสำคัญในกรณีที่คุณไม่ค่อยอยู่โต๊ะ ราคาของผลิตภัณฑ์ก็ส่วนหนึ่ง แต่ข้อมูลภายในยิ่งสำคัญกว่า


Install

SanDisk Desk Drive

SanDisk Desk Drive SSD 8TB ให้การติดตั้งค่อนข้างง่าย เช่นเดียวกับบรรดา External Storage ที่มีอยู่ทั่วไป ซึ่งผู้ใช้สามารถต่อผ่านพอร์ต USB บนพีซีหรือโน๊ตบุ๊ค แต่ถ้าอยากจะให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ก็ควรเลือกเชื่อมต่อกับพอร์ต USB Type-C 3.2 Gen2 ซึ่งโน๊ตบุ๊คหรือพีซีส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีมาให้ใช้งานแล้ว โดยรองรับแบนด์วิทธิ์ 10Gbps ซึ่งจะทำให้การช่องทางในการถ่ายโอนข้อมูลรวดเร็วมากขึ้น

SanDisk Desk Drive

แต่สิ่งที่จะต้องเพิ่มเติมเข้ามา นอกเหนือจากการเชื่อมต่อสายสัญญาณนั่นก็คือ การต่อไฟเลี้ยงเข้ากับไดรฟ์ SanDisk นี้

SanDisk Desk Drive

อแดปเตอร์ที่มาพร้อมกับ SanDisk Desk Drive SSD 8TB นี้ ขนาดค่อนข้างกระทัดรัด แม้จะต้องต่อไฟเลี้ยงเพิ่ม แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด เพราะส่วนใหญ่ผู้ใช้จะเน้นการทำงานที่โต๊ะทำงานเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้ใช้พีซี แต่ถ้าจะใช้นอกสถานที่ ก็อาจจะต้องมองหาพื้นที่ที่มีปลั๊กไฟให้ต่อพ่วงด้วยเช่นกัน


Performance

SanDisk Desk Drive

ในการทดสอบ SanDisk Desk Drive SSD 8TB เริ่มจากการรีเช็คตั้งแต่ที่เราได้รับมาทกสอบ โดยความจุที่แสดงหลังจากฟอร์แมตอยู่ที่ 7.27TB ซึ่งแสดงเป็นจำนวน bytes เอาไว้อย่างชัดเจน รวมถึง Use space คือพื้นที่ที่ระบบจับจองเอาไว้ หลังจากจัดการไดรฟ์แล้วอีกประมาณ 13MB ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน

รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Windows และ Mac OS แต่ผู้ใช้ควรจะเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เพราะจะต้องเลือกฟอร์แมตใช้ร่วมกับระบบที่เข้ากัน ไม่ว่าจะเป็น NTFC หรือ exFAT รวมถึง APFS (Apple File System) ที่ใช้กับระบบ MacOS เป็นต้น

การทดสอบประสิทธิภาพพื้นฐาน ระดับการอ่าน/เขียนด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ได้ตัวเลขที่ออกมาเหนือกว่าที่คาดไว้ Read ได้ที่ 1063MB/s และ Write ได้ถึง 1037MB/s เหนือกว่าตัวเลขที่เคลมเอาไว้ในข้อมูลผลิตภัณฑ์อีกด้วย และผลที่ได้จากการเชื่อมต่อพอร์ต USB-C และ USB-A ซึ่งทีมงานต่อพ่วงกับเมนบอร์ดชิปเซ็ต Intel B760 ด้วยพอร์ต USB 3.2 Gen2 ทั้งคู่ทำคะแนนออกมาได้สูสีกันทีเดียว ดังนั้นเลือกได้เลยว่าสะดวกใช้พอร์ตแบบใด

SanDisk Desk Drive

มาที่การทดสอบ PerdormanceTest ในส่วนของ Disk Mark ตัวเลขได้อยู่ที่ 7321 คะแนน ซึ่งสูงกว่าการทดสอบในกลุ่มของ External SSD ที่เราเคยได้ทดสอบมาอยู่พอสมควรทีเดียว โดยเฉพาะแบนด์วิทธิ์นั้นจัดว่าทำได้ค่อนข้างสูง จึงทำให้คะแนนในหลายส่วนมีความโดดเด่น

SanDisk Desk Drive

และการทดสอบ Disk Performance ตัวเลข SEQ1M ทั้งในส่วนของ Read และ Write ก็ไปในทิศทางเดียวกันกับ CrystalDiskMark นั่นก็คือ ตัวเลขประสิทธิภาพออกมาใกล้เคียงกัน 1013MB/s และ 988MB/s สำหรับการอ่าน/เขียน ใกล้เคียงกับสเปคที่ระบุเอาไว้

กับการทดสอบด้วย ATTO Disk Benchmark ก็เช่นเดียวกัน ในส่วนของการทดสอบระดับ File Size 512MB/s และ 1GB ให้ผลแทบไม่ต่างกันทั้งค่า Read และ Write ดังนั้นมั่นใจได้ว่าจะจัดการกับไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มที่

SanDisk Desk Drive

ในแง่ของอุณหภูมิในการทำงาน ถ้ามองถึงแง่การใช้งานของเหล่า Creator การลากไฟล์ขนาดใหญ่ระหว่างไดร์ หรือการใช้ไฟล์ฟุตเทจที่มีอยู่ใน SSD ต่อภายนอกมาเรนเดอร์ ก็เป็นเรื่องปกติที่ใช้กันอยู่ทั่วไป เพราะสะดวกกว่าการดึงข้อมูลมาไว้ในไดร์หลักโดยตรง และเมื่อมีโหลดหนัก ก็ย่อมส่งผลต่ออุณหภูมิในการทำงานด้วยเช่นกัน ในเบื้องต้นที่เราตรวจเช็คนั้น สถานะ idle หรือเป็นเพียงการเชื่อมต่อไม่ได้ทำสิ่งใด อุณหภูมิจะอยู่ที่ 35-38 องศาเซลเซียส แต่เมื่อเริ่มมีการโอนถ่ายข้อมูลทั่วไป ไม่ได้โหลดหนัก จะเพิ่มมาเล็กน้อยเป็น 40 องศาเซลเซียส แต่เมื่อเราลองโหลดไฟล์ขนาดใหญ่จำนวนมากต่อเนื่อง ระหว่างการทดสอบ จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 50-56 องศาเซลเซียส แม้จะเพิ่มจากสถานะปกติอยู่บ้าง แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่สบายๆ และยังใช้งานได้แบบยาวๆ ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด

SanDisk Desk Drive

นอกจากนี้กับการทดสอบ Copy file ข้อมูล หลายไฟล์พร้อมกัน 35GB จาก SSD ในเครื่องไป SanDisk ผ่าน USB-C ใช้เวลา 50 วินาทีเท่านั้น หากเทียบกับไดร์ต่อภายนอกอื่นๆ จัดว่าทำได้เร็วกว่าหลายเท่าทีเดียว


Software

SanDisk Desk Drive

นอกจากในเรื่องของความเร็วและความจุที่สูงระดับ 8TB ของ SSD SanDisk แบบต่อภายนอกรุ่นนี้แล้ว เมื่อคุณต่อไดร์เข้ากับพีซี หรือโน๊ตบุ๊ค ก็ยังมีซอฟต์แวร์มาให้กับผู้ใช้ได้เลือกใช้งานกันอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำงานเป็นอย่างยิ่ง

SanDisk Desk Drive

จะมีทั้งระบบความปลอดภัยอย่าง SanDisk Security ใช้ตั้งรหัสล็อคไดร์ ไม่ให้ผู้อื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้โดยง่าย รวมถึงโปรแกรมอย่าง Acronis True Image ซึ่งใช้ในการ Back up หรือสำรองข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการกู้คืนไฟล์และการ Clone ไดร์ภายในเครื่องได้อีกด้วย แนะนำให้ติดตั้ง เพราะสะดวกต่อการใช้งาน

SanDisk Desk Drive

นอกจากนี้ก็ยังมีซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานเพิ่มเติมได้ ที่สำคัญไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย


Conclusion

SanDisk Desk Drive

SanDisk Desk Drive SSD 8TB จัดเป็น SSD ที่ใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลและจัดเก็บไฟล์ทำงานที่จำเป็น และต้องการนำมาใช้ได้อย่างรวดเร็วในแต่ละวัน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเหล่าครีเอเตอร์ คนทำงานด้านข้อมูล และการออกไซต์งานข้างนอก เนื่องจากเปิดข้อมูลดูไฟล์ได้รวดเร็ว สามารถเชื่อมโยงเข้ากับ Project ที่ต้องทำเร่งด่วน การแก้ไขงาน รวมถึงการค้นหาไฟล์ก็สะดวกกว่าการใช้เป็น External HDD หลายเท่า สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานในอาชีพต่างๆ ที่ต้องการทั้งความเร็ว และความจุ รวมถึงความเชื่อมั่นของข้อมูล มาพร้อมการรับประกัน 3 ปี และราคา 29,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: SanDisk Desk Drive

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

หลังจาก Intel เปิดตัวซีรี่ส์ Core Ultra เมื่อปลายปี 2023 แล้ว ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คก็นำชิปเซ็ตเหล่านี้มาใส่โน๊ตบุ๊คหลายรุ่นรวมถึงโน๊ตบุ๊คเล่นเกม Core Ultra 50000 บาทให้เลือกซื้อ ซึ่ง Intel Core Ultra นอกจากได้คอร์ประมวลผล 3 ชุด ได้แก่ P-Core ไว้รันโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ เสริมด้วย...

Accessories review

Razer Kishi V2 USB-C เพียงต่อก็เปลี่ยนมือถือให้เป็นเครื่องเกมคอนโซลได้ง่ายๆ ! เล่นเกมมือถือก็ถนัดกว่าใคร ถูกใจฮาร์ดคอร์เกมเมอร์!! ความสุขของเกมเมอร์ คือมีเวลานั่งเล่นเกมโปรดในคลัง Steam ของตัวเอง แต่จะนั่งเล่นลืมเวลาก็ไม่ได้เพราะแต่ละคนก็มีภาระหน้าที่ต้องทำ แต่ถ้ามี Razer Kishi V2 USB-C เมื่อไหร่ นอกจากจะเล่นเกมมือถือได้ง่ายเหมือนจับจอยเกมอยู่ไม่พอ ขอแค่เปิดคอมและ Steam เอาไว้ก็เชื่อมต่อ Steam...

Buyer's Guide

คนมีโน๊ตบุ๊คและสมาร์ทโฟนติดตัวเสมอรู้กันดีว่าสายชาร์จเป็นของจำเป็นต้องมีติดกระเป๋าไว้ 1~2 เส้นเสมอ เวลาแบตเตอรี่น้อยแล้วยังใช้งานไม่เสร็จก็ยังไม่ต้องลุ้นระทึกเกินไป แถมสายในปัจจุบันก็เอาจุดเจ็บปวด (Pain Point) ร้อยแปดจากการใช้งานจริงมาพัฒนาต่อให้มีฟีเจอร์และหน้าตาแปลกกว่าเดิมแถมใช้งานได้ดีกว่าสายทั่วไปมาก จะหักพับสายกลับไปมาหรือเปลี่ยนแบบหัวชาร์จก็ต่อกับอุปกรณ์ได้ทุกแบบไม่ต้องพกสายหลายเส้นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เรื่องน่ารู้ของสายชาร์จยุคใหม่ ดูอย่าไรเลือกแบบไหนดี? สายชาร์จแต่ละเส้นจะรองรับกำลังไฟไม่เท่ากัน มีตั้งแต่ 30, 60 ไปจน 240 วัตต์ สายในปัจจุบันจะใช้ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็ว 480 Mbps เทียบเท่ากับ USB 2.0...

PR-News

ADATA นำเสนอนวัตกรรมใหม่ในปี 2024 ภายใต้แนวคิด “Innovate Today, Embrace Tomorrow” บริษัท เอดาต้า เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำด้านแบรนด์โมดูลหน่วยความจำ และความจำแฟลชระดับโลก ได้ร่วมทีมกับแบรนด์เกมมิ่ง XPG และแบรนด์หน่วยความจำสำหรับงานอุตสาหกรรม ADATA Industrial ในงาน Computex Taipei 2024 ระหว่างวันที่...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก