โปรแกรม Super PI ใช้วิธีการคำนวณค่า PI จากเส้นรอบวง/เส้นผ่านศูนย์กลาง ซึ่งจะได้เป็นค่า 3.14? โดยที่ทศนิยมนั้นเป็นเลขที่ไม่ลงตัวที่มีค่าอนันต์ ดังนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถหยุดการคำนวณได้ ถ้าไม่สั่งให้หยุด โปรแกรม Super PI จะทำการกำหนดเอาไว้ว่า ให้คำนวณที่จุดสิ้นสุดตรงไหน เช่น 1M คือ คำนวณที่ทศนิยม 1 ล้านตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นช่วง Loop อย่าง PI 1M ใช้ 19 Loop เท่ากับคำนวณ Loop ละ 52632 ตำแหน่ง ต่อ 1 Loop ยิ่งซีพียูมีประสิทธิภาพเท่าไร ยิ่งใช้เวลาคำนวณได้น้อยลง
ใช้เวลาในการคำนวณไป 14 วินาที เพราะเป็นซีพียูสเปกเต็ม ไม่ได้เป็นแบบประหยัดพลังงานและมี Turbo Boost ด้วย
โปรแกรม Hyper PI ใช้หลักการคำนวณเหมือนกับ Super PI แต่สามารถสั่งให้ทุก Thread ของ CPU คำนวณได้พร้อมกัน
ผลของโปรแกรม HyperPI สำหรับ CPU ตัวนี้ใช้เวลาในการคำนวณไป 21.248 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วมาก
เฟรมออกมาอยู่ในระดับกลาง ๆ ตามสเปกซีพียู
โปรแกรม PCMark05 ใช้สำหรับการทดสอบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ในหลาย ๆ รูปแบบ เช่น การคำนวณทางฟิสิกส์ การเข้ารหัสไฟล์ภาพยนตร์เพื่อสร้างคะแนนเปรียบเทียบประสิทธิภาพออกมา
คะแนนรวมและคะแนนกราฟิกไม่ออกทั้งคู่ จะว่าไปก็ไม่แปลกครับ เพราะการ์ด Intel HD Graphic ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องความสามารถเวลาทดสอบอยู่แล้ว รวมถึงเครื่องนี้ใช้ NVIDIA Optimus ด้วย โอกาสสูงมากที่เครื่องจะไม่ยอมสลับไปใช้ NVIDIA GeForce 310M ให้อย่างที่ควรจะเป็น
?
PCMarkVantage
Nvidia GT 520M
Intel HD 3000
คะแนนจาก 2 การ์ดจอไม่ค่อยต่างเท่าไร แต่ต้องยอมรับเลยว่าแม้จะบางเบาแต่ก็มีประสิทธิภาพสูงจริง ๆ
โปรแกรม 3DMark06 ใช้สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU โดยทดสอบทั้ง High Dynamic Range, Shader Model 3.0 รองรับ CPU ทั้ง Single Core และ Multi Core
Nvidia GT 520M
Intel HD 3000
ด้วยไดรเวอร์ตัวใหม่ช่วยให้สามารถสลับการ์ดจอได้ตามต้องการ โดยคะแนนที่ออกมาอยู่ในระดับค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับสเปกการ์ดจอที่ไม่สูงมาก
…
Heaven Benchmark 2.1
ตามสเปกการ์ดจอที่ไม่แรงมาก
?