แนะนำวิธีเช็คเบอร์มิจฉาชีพ เช็คให้ชัวร์ก่อนรับสายเบอร์แปลกๆ อัพเดท 2024
ปัจจุบันการฉ้อโกง หลอกโอนเงิน 2024 ผ่านการปลอมแปลงตัวตนเป็นหน่วยงานต่างๆ แล้วโทรเข้ามาหรือส่งข้อความหาเรา หลอกให้เราโอนเงินให้ พบได้บ่อยและหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ทำให้มีคนที่ตกเป็นเหยื่อมากขึ้นทุกวัน แถมการตามจับตัวก็ทำได้ยากอีกด้วย ยิ่งสถานการณ์เป็นแบบนี้ การรับสายเบอร์แปลกจึงกลายเป็นเรื่องที่คนจำนวนมากระแวดระวัง ทีมงาน NotebookSPEC ก็ได้รวบรวมวิธีการเช็คเบอร์มิจฉาชีพ ตรรวจสอบเบอร์แปลกที่โทรเข้ามาหาเรา เช็คให้ชัวร์ก่อนรับสายหรือติดต่อทำธุรกรรมด้วย เพิ่มความปลอดภัยให้กับเรามากยิ่งขึ้น
- วิธีเช็คเบอร์มิจฉาชีพ ปลอดภัย ไม่โดนหลอกโอน ด้วยแอพพลิเคชัน
- วิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของเครือข่ายอะไร
- ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์แปลกปลอมผ่านอินเทอร์เน็ต
- FAQ / คำถามที่พบบ่อย
วิธีเช็คเบอร์มิจฉาชีพ ปลอดภัย ไม่โดนหลอกโอน ด้วยแอพพลิเคชัน
1. เช็คเบอร์มิจฉาชีพ Whoscall
แอพพลิเคชันอย่าง Whoscall ถือเป็นแอพพลิเคชันอันดับต้นๆ ที่ได้รับความนิยมและต้องมีติดเครื่อง เพราะตัวแอพนั้นจะช่วยคัดกรองเบอร์โทรแปลกๆ ที่จะโทรเข้าเครื่องของเราได้ ว่าเป็นเบอร์โทรจาก Grab, LINE Man, Lalamove, ประกัน, บัตรเครดิต ฯลฯ รวมถึงเบอร์ที่เราได้บันทึกเอาไว้ด้วย นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าไปค้นหาเบอร์โทรที่ต้องการผ่านแอพพลิเคชันได้ด้วย
แอพพลิเคชัน Whoscall มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- การระบุสายโทรเข้า: แอพฯ จะสามารถระบุข้อมูลข้อสายโทรเข้าได้ทันที จากข้อมูลที่ผู้ใช้อื่นๆ ได้ทำการรายงาน, ผลการค้นหาจากอินเทอร์เน็ต, และฐานข้อมูลที่ตัวแอพเข้าถึง
- การบล็อกเบอร์โทรเข้า: ตัวแอพสามารถบล็อคสายเรียกเข้าหรือ SMS ได้ เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าจะได้รับความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย จากเบอร์แปลกๆ ที่อาจเป็นมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามา อีกทั้ง ยังเลือกบล็อคจากคำได้ด้วย เช่น บล็อคหมายเลขที่มีคำว่า “ประกัน” เป็นต้น
- สามารถจัดกลุ่มเบอร์โทรศัพท์ได้: ฟังก์ชันการจัดกลุ่มเบอร์โทรศัพท์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถจัดหมวดหมู่ของเบอร์โทรศัพท์ที่แตกต่างจากเบอร์ที่มีในมือถือ แยกออกมาได้ตามความต้องการ เพื่อบันทึกเบอร์ที่ไม่ต้องการให้อยู่ในรายชื่อสมุดโทรศัพท์
- ฐานข้อมูลแบบออฟไลน์: เราสามารถค้นหาเบอร์โทรศัพท์และเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งตอนออฟไลน์ ผ่านการดาวน์โหลดและอัพเดทฐานข้อมูล
- ShowCard: รองรับการใส่ข้อมูลและรูปภาพส่วนตัว ที่จะปรากฏเป็นหน้าจอผู้รับสายเมื่อโทรออกได้ คล้ายๆ กับนามบัตรส่วนตัว
วิธีการใช้งานแอพพลิเคชันเบื้องต้น
- เมื่อเราดาวน์โหลดแอพพลิเคชันและทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ให้เรากดเข้าไปในแอพ เริ่มต้นเลย ตัวแอพจะขออนุญาตการเข้าถึงการโทรของเรา ให้เรากดอนุญาตและอัพเดทรายชื่อของเราเพื่อให้แอพทำการเข้าถึงได้เลย
- สำหรับในหน้าแรกของแอพพลิเคชัน ที่ปรากฏหลักๆ ก็จะมีเมนู “ค้นหาหมายเลข” ใช้สำหรับค้นหาสายที่เราไม่รู้จัก และ “บล็อกเบอร์” สำหรับการบล็อกสายที่เป็นสแปม นั่นเอง
- การใช้งานก็ง่ายมากๆ โดยใครที่มีสายที่ไม่รู้จักโทรเข้ามาก่อนที่จะติดตั้งแอพ เราสามารถเข้าไปกดค้นหาผ่านเมนู “ค้นหาหมายเลข” ได้เลย ข้อมูลที่ปรากฏ ก็จะเป็นเครือข่ายของเบอร์โทรดังกล่าว และข้อมูลว่าเคยมีผู้ที่ใช้งานแอพพลิเคชันเดียวกันนี้ เคยรายงานสแปมหรือไม่ และยังสามารถดูผลการค้นหาเบอร์นี้บนอินเทอร์เน็ตได้ด้วย
- ส่วนใครที่ต้องการบล็อกเบอร์ ก็สามารถเลือกเมนู “บล็อกเบอร์” แล้วทำการใส่เบอร์โทรที่ต้องการบล็อกลงไป จากนั้นก็บล็อกเบอร์ได้เลย
- และในส่วนของภายหลังการติดตั้งและอนุญาตการเข้าถึงเบอร์โทรศัพท์แล้ว เวลาที่มีเบอร์แปลกโทรเข้ามานั้น ตัวแอพก็จะโชว์รายละเอียดเบื้องต้นของเบอร์นั้น ๆ ที่โทรเข้ามา และหากเราไม่ต้องการรับสายต้องการปิดกั้นก็สามารถทำได้เลย
- กรณีที่เราไม่ได้อัพเดทเป็นเวอร์ชันพรีเมียมนั้น การอัพเดทฐานข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ของเรา สามารถทำได้ง่ายๆ เลย โดยในหน้าแรก ให้เรากดที่ “ตรวจสอบเพื่ออัปเดต” จากนั้น ระบบก็จะทำการอัพเดทฐานข้อมูลให้เรา เมื่ออัพเดทเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลของเวลาที่ทำการอัพเดทล่าสุด ก็จะปรากฏอยู่ในหน้าแรกของแอพพลิเคชันเลย (ในส่วนของการอัพเดทฐานข้อมูลอัตโนมัตินั้น เราต้องอัพเกรดเป็นเวอร์ชันพรีเมียมเสียก่อน จึงจะสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้)
2. ตรวจสอบเบอร์ด้วย Call Blocker
แอพ Call Blocker เป็นแอพพลิเคชันที่จะช่วยแจ้งเตือนให้เราว่า เบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามานั้น ปลอดภัยที่จะรับสาย หรืออันตาย เรายังสามารถบล็อคหรือปิดกั้นเบอร์นั้นๆ ได้ด้วย โดยตัวแอพจะใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีการอัพเดทจากผู้ใช้งานทั่วโลก ในเบื้องต้นสามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรี ในการค้นหาเบอร์โทรศัพท์หรือตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์นั้น ตัวแอพจะมีเครดิตให้เราใช้งานประมาณสัปดาห์ละ 75 เครดิต โดยที่การค้นหาหมายเลขโทรศัพท์หรือการอัพเดทรายยงานสแปมนั้น จะใช้เครดิตอยู่ที่ครั้งละ 5 เครดิต ถ้าหากต้องการใช้งานเต็มประสิทธิภาพก็จะต้องอัพเดทเป็นพรีเมียม
นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าไปค้นหาเบอร์โทรผ่านฐานข้อมูลบนเว็บไซต์อย่าง Who Called Me? – Free Reverse Phone Lookup – Unknownphone ได้อีกด้วย
3. ตรวจสอบเบอร์ด้วย Truecaller
Truecaller เป็นแอพพลิเคชันที่จะช่วยให้เราสามารถตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ ที่โทรเข้ามาหาเราได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องบันทึกเบอร์โทรศัพท์ไว้ในเครื่อง โดยตัวแอพจะใช้ฐานข้อมูลจากเบอร์โทรจากทั่วโลกที่ผู้ใช้ร่วมกันแชร์เข้ามา ทั้งยังสามารถบล็อคเบอร์โทรศัพท์ที่เราต้องการได้ด้วย
นอกจากการระบุเบอร์ที่โทรเข้ามาแลัการบล็อคเบอร์แปลกหรือเบอร์ที่เราไม่ต้องการรับสายแล้ว แอพนี้ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่
- รองรับการรายงานเบอร์น่าสงสัย, สแปม หรือเบอร์หลอกลวง
- รองรับการบันทึกการโทร
- รองรับการค้นหาหมายเลขโทรศัพท์
- รองรับการค้นหาชื่อและที่อยู่
4. ตรวจสอบเบอร์ด้วย Mr. Number
แอพพลิเคชัน Mr. Number เป็นแอพที่ช่วยให้เราสามารถคัดกรองเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ ที่โทรเข้ามาหาเราได้ ทั้งยังสามารถบล็อคเบอร์ได้ด้วย โดยตัวแอพจะใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อระบุเบอร์โทรศัพท์ที่เป็นสแปมหรือที่เราไม่รู้จัก รวมถึงระบุรายละเอียดของผู้โทรจากรายชื่อที่เรามีได้เช่นเดียวกัน
5. ตรวจสอบเบอร์ด้วย Hiya
Hiya แอพพลิเคชัน ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบและป้องกันผู้ใช้งานจากสแปมต่างๆ รวมถึงการโทรอัตโนมัติและเบอร์โทรมิจฉาชีพด้วย โดยตัวแอพจะใช้งานฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ได้รับการรายงานจากผู้ใช้งานทั่วโลกเบื่อระบุเบอร์โทรศัพท์ที่อาจอันตราย ตัวแอพจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับเบอร์โทรนั้นๆ ที่โทรเข้ามาหาเรา ทั้งยังมีฟีเจอร์ที่สามารถบล็อคเบอร์ที่เราไม่ต้องการได้ด้วย
นอกจากนี้ตัวแอพยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่
- การบล็อคเบอร์โทรสแปมโดยอัตโนมัติ
- การค้นหาเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ หรือที่เราไม่รู้จัก
- การบล็อคข้อความจากหมายเลขที่เราไม่รู้จัก
- การรายงานหมายเลขโทรศัพท์ที่เราไม่รู้จัก
6. ตรวจสอบเบอร์ด้วย Call Control
Call Control อีกหนึ่งแอพพลิเคชัน ที่น่าสนใจ สำหรับการช่วยคัดกรองเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ ที่โทรเข้ามาหาเราได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยที่ตัวแอพมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราบล็อคเบอร์โทรศัพท์แปลกปลอมต่างๆ หรือหมายเลขที่เราไม่ต้องการได้ด้วย ทั้งยังสามารถบันทึกการโทร หรือ ตั้งค่าการแจ้งเตือนสำหรับการโทรที่สำคัญของเราได้
Call Control ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็น
- รองรับการบล็อคเบอร์โทรศัพท์ โดยสามารถบล็อคได้ทั้งหมายเลขหรือกลุ่มหมายเลขโทรศัพท์
- รองรับการบันทึกการโทร เพื่อใช้ในการอ้างอิงเพื่อความปลอดภัย
- รองรับการแจ้งเตือนต่างๆ เช่น แจ้งเตือนการโทรที่สำคัญๆ อย่าง หมายเลขฉุกเฉิน เป็นต้น
- รองรับการช่วยวิเคราะห์การโทร เพื่อช่วยในการระบุรูปแบบหรือแนวโน้มในการโทร
วิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของเครือข่ายอะไร
การเช็คเครือข่ายมือถือปลายทางว่าเป็นเครือข่ายอะไรนั้น เราสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านการกดรหัสตามเครือข่ายมือถือ แล้วโทรออก แต่ละเครือข่ายจะมีรหัสเบอร์โทรออกที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ผู้ใช้งาน AIS
- กด *727* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นใช้เครือข่ายอะไร
- ผู้ใช้งาน TrueMove H
- กด *933* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นใช้เครือข่ายอะไร
- ผู้ใช้งาน DTAC
- กด *102* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์ในเครือข่าย DTAC หรือไม่
- กด *812* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นใช้เครือข่ายอะไร
- ผู้ใช้งาน NT Mobile
- กด *153* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นใช้เครือข่ายอะไร
เมื่อเรากดรหัสดังกล่าวและกดโทรออกแล้ว ระบบของเครือข่ายจะแสดงข้อความตอบกลับมาที่เครื่องของเรา ว่าเบอร์โทรศัพท์ที่เราเช็คนั้น เป็นเบอร์ในเครือข่ายอะไร นอกจากนี้ในบางเครือข่าย ก็อาจมีการแสดงข้อมูลเพิ่มด้วยให้เราด้วย ว่าเบอร์นั้นลงทะเบียนใช้งานในพื้นที่ใดของประเทศไทย
ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์แปลกปลอมผ่านอินเทอร์เน็ต
การเช็คหรือตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่น่าสงสัย นอกจากการใช้ตัวช่วยผ่านแอพพลิเคชันแล้วนั้น เรายังสามารถใช้อินเทอร์เน็ตในการช่วยให้เราสามารถตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาได้อีกด้วย ไม่่ว่าจะเป็นการเสิร์ชหรือค้นหาผ่าน Google, การค้นหาผ่าน Social Media ต่างๆ ไปจนถึงการสังเกตเบอร์แปลกๆ ที่โทรเข้ามา
ค้นหาเบอร์โทรศัพท์ผ่าน Google หรือ Social Media ต่างๆ
ทุกวันนี้การใช้งาน Google ในการค้นหาข้อมูลต่างๆ นั้น กลายเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับใครหลายคนไปแล้ว ทั้งนี้การค้นหาเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ หรือตรวจสอบเบอร์มิจฉาชีพก็เช่นเดียวกัน เราสามารถค้นหาได้ผ่านทาง Google โดยถ้าหากมีคนที่เคยตั้งข้อสงสัย, บอกเล่าประสบการณ์ หรือมีข้อมูลของเบอร์โทรดังกล่าวในอินเตอร์เน็ตนั้น ระบบการค้นหาของ Google ก็จะค้นเจอ ทำให้การค้นหาเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ ผ่าน Google ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้เราสามารถตรวจสอบเบอร์ของมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเบอร์ที่น่าสงสัยได้
การใช้สื่อ Social Media ในการค้นหาเบอร์แปลกๆ เองก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลผ่านทาง Facebook, X (Twitter), LINE ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Facebook ที่มักจะมีคนที่แชร์ประสบการณ์การโดนหลอก หรือ บอกเล่า เตือนภัย คนอื่นๆ ให้ระวังเบอร์ของมิจฉาชีพ เราก็นำเบอร์แปลกๆ ที่เราสงสัยว่าจะเป็นเบอร์ของมิจฉาชีพไปค้นหาผ่านทางแอพพลิเคชันโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้
นอกจากนี้ใครที่ใช้งานสมาร์ทโฟน Android โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Google Pixel นั้น ก็มีข่าวออกมาจาก ทาง Google ได้เพิ่มฟีเจอร์ “Lookup” ในแอพ Phone ที่จะเป็นการรวบรวมข้อมูลใน Google Search เข้ามาทำให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้ว่าเบอร์ต้นทางที่โทรเข้ามานั้นเป็นใคร มาจากไหน รวมถึงการป้องกันมิจฉาชีพ บรรดาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มักจะโทรมาหลอกลวงเราด้วย
ค้นหาเบอร์โทรแปลกๆ ผ่าน JUNKCALL
JUNKCALL ถือเป็นเว็บไซต์หนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ในการใช้ตรวจสอบหรือเช็คเบอร์แปลกๆ ที่โทรเข้ามาหาเรา โดยการใช้งานเว็บไซต์นั้นก็ง่ายมากๆ เพียงแค่เราเข้าไปในเว็บไซต์ จากนั้น ใส่เบอร์โทรศัพท์ที่เราต้องการตรวจสอบลงไป จากนั้นกด ค้นหา ระบบก็จะแสดงข้อมูลผ่านข้อมูลที่อ้างอิงจาก Whoscall ที่แสดงว่าเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวมีการรายงาน หรือ เป็นเบอร์ที่มีความเสี่ยงสูงหรือไม่ มีประวัติการรายงานอย่างไรบ้าง เป็นต้น
นอกจากนี้เรายังสามารถรายงานเบอร์โทรเข้าไปเพื่อเป็นฐานข้อมูลในเว็บไซต์ได้ด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพไปหลอกลวงผู้อื่นได้ด้วย เว็บไซต์ JUNKCALL จึงถือเป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่น่าสนใจ และน่าใช้งานมากๆ ในการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ของมิจฉาชีพ แถมยังสามารถเข้าใช้งานได้ฟรี ค้นหาได้อย่างรวดเร็ว และทันทีเลยด้วย แต่ข้อสังเกตของตัวเว็บไซต์เองก็มีเช่นกัน นั่นก็คือ ข้อมูลที่ปรากฏนั้น อาจจะยังไม่มีครบถ้วนสมบูรณ์แบบ 100% และต้องมีการอัพเดทข้อมูลของเบอร์โทรศัพท์ที่มีความเสี่ยงอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ใครที่ต้องการหลีกเลี่ยงเบอร์โทรแปลกๆ ก็สามารถลองเข้าไปใช้งานเว็บไซต์นี้กันได้เลย
สังเกตเบอร์แปลกปลอมหรือเบอร์มิจฉาชีพ
การสังเกตเบอร์แปลกปลอม หรือ เบอร์โทรศัพท์ของมิจฉาชีพนั้น ยังมีวิธีการสังเกตเบอร์อีกด้วย เพราะหลายๆ ครั้ง เบอร์ที่โทรเข้ามานั้นจะเป็นตัวเลขแปลกๆ ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์ทั่วไป เช่น
- โดยปกติแล้ว รหัสเบอร์โทรศัพท์ของประเทศไทย จะขึ้นต้นด้วย +66 ตามรหัสเบอร์สากล แต่ถ้าหาก ขึ้นต้นด้วย +68, +69 หรือรหัสอื่นๆ ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเบอร์แปลกปลอมจากต่างประเทศ หรือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์
- นอกจากการค้นหาข้อมูลของเบอร์โทรศัพท์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว เราสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์แปลกๆ ดังกล่าว ในการค้นหาผ่าน Facebook หรือ LINE เพื่อตรวจสอบบัญชีที่ผูกไว้กับเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งถ้าหากเป็นเบอร์ที่มีผู้ใช้งานทั่วไป ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะพบบัญชีโซเชียลมีเดียที่ผูกกับเบอร์โทรศัพท์นั่นเอง
ที่สำคัญ เวลาที่มี SMS จากแหล่งหรือเบอร์โทรที่ไม่น่าเชื่อถือ ส่งข้อความมาแจ้งเตือนต่างๆ พร้อมทั้งแนบลิงก์เว็บไซต์มาด้วยนั้น เราไม่ควรกดเข้าลิงก์ดังกล่าว หรือถ้าลิงก์นั้นมีการลงท้ายด้วย .cc ก็ไม่ควรกดลิงก์เช่นกัน เพราะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมิจฉาชีพที่แอบอ้างมาได้นั่นเอง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในการทำงาน หรือการติดต่อสื่อสารระหว่างกันนั้น จำเเป็นจะต้องอาศัยการโทรเพื่อพูดคุยติดต่อ จึงไม่แปลกที่จะมีเบอร์แปลกหรือเบอร์ที่เราไม่ได้บันทึกไว้โทรเข้ามา แต่ในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมิจฉาชีพ เราจึงต้องคอยระมัดระวังและตรวจสอบเบอร์โทรให้ดีเสียก่อน เพื่อที่จะไม่ตกเป็นเป้าหรือเสียรู้ให้กับมิจฉาชีพที่มักมีการพัฒนาสกิลการหลอกหลวงอยู่เสมอ
FAQ / คำถามที่พบบ่อย
1. เช็คเบอร์ดีแทคกดอะไร ?
การตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์สำหรับผู้ใช้งานเครือข่าย DTAC นั้น สามารถตรวจสอบได้โดย
- กด *102* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วกดโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์ที่ใช้งานเครือข่าย DTAC หรือไม่
- กด *812* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วกดโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นใช้งานเครือข่ายอะไร
2. เช็คเบอร์ว่าค่ายไหน ?
การเช็คหรือตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ต่างๆ ว่าเป็นของค่ายไหน เราสามารถเช็คได้จากหมายเลขตามเครือข่ายของเราเลย โดย
- เช็คเบอร์ AIS
- กด *727* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นใช้เครือข่ายอะไร
- เช็คเบอร์ทรู
- กด *933* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นใช้เครือข่ายอะไร
- เช็คเบอร์ดีแทค
- กด *102* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์ในเครือข่าย DTAC หรือไม่
- กด *812* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นใช้เครือข่ายอะไร
- เช็คหมายเลข NT Mobile
- กด *153* ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเช็ค # แล้วโทรออก >> เพื่อเช็คว่าเบอร์นั้นใช้เครือข่ายอะไร
3. เราจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นมิจฉาชีพ ?
สามารถสังเกตได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น เบอร์โทรศัพท์แปลกๆ ทั้งหมายเลขรหัสแปลกตา, เบอร์โทรที่ไม่คุ้นเคย, พฤติกรรมในการโทรที่ไม่ปกติ เช่น โทรมาตอนดึกๆ, พูดจาเร่งรีบ กดดัน, ออกตัวอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ, การข่มขู่ กดดัน เป็นต้น หรือจะเป็นวิธีที่ใช้ในการหลอกลวงก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เราสามารถสังเกตได้ เช่น การส่ง SMS ที่มีข้อความเชิญชวนให้เราคลิกลิงก์ที่แนบมา, การอ้างตัวเป็นธนาคาร เงินกู้ บัตรเครดิต พร้อมแนบลิงก์, การอ้างตัวเป็นหน่วยงานรัฐพร้อมแนบลิงก์ ไปจนถึงการอ้างตัวเป็นองค์กรกาลกุศล เพื่อการบริจาคเงิน เป็นต้น
4. เบอร์โทรมิจฉาชีพขึ้นต้นด้วยอะไร ?
ก่อนหน้านี้ เบอร์โทรศัพท์ของมิจฉาชีพจะเป็นเบอร์ที่ขึ้นตัวด้วยรหัสเบอร์โทรศัพแปลกๆ เช่น +697, +698 เป็นต้น แต่ในปัจจุบันนั้นกลุ่มมิจฉาชีพก็ได้มีการปรับรูปแบบการหลอกลวง ไม่ว่าจะเป้นการใช้งานเบอร์โทรศัพท์ทั่วไป หรือ ส่ง SMS ปลอมเป็นหน่วยงานต่างๆ การดาวน์โหลดแอพพลิเคชันที่ช่วยตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ หรือ การนำเบอร์โทรศัพท์ไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต ก็เป็นทางเลือกที่จะช่วยป้องกันการโดนหลอกจากมิจฉาชีพได้
5. โหลดแอพ Whoscall เสียเงินไหม ?
แอพพลิเคชันตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์อย่าง Whoscall นั้น เราสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android เพียงแต่จะมีข้อจำกัดในเรื่องของฟีเจอร์การทำงานบ้างอย่าง และมีโฆษณาภายในแอพ ถ้าหากต้องการใช้งานเต็มประสิทธิภาพก็จะต้องเสียค่าใช้จ่าย
อ่านบทความเพิ่มเติม / เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
