MSI Claw A1M เกมมิ่งพีซี Handheld ที่ใช้ทำงานก็ได้ เล่นเกมสบายด้วยพลัง Intel Core Ultra!!
ความสุขของใครหลายคน คือได้นั่งเล่นเกมโปรดอยู่หน้าคอมนานๆ แต่บางคนที่ต้องออกไปธุระให้คนในครอบครัวเป็นระยะๆ ก็คงจะยากอยู่ แต่ถ้ามี MSI Claw A1M Gaming Handheld อยู่ก็บอกลาข้อจำกัดนั้นได้เลยแถมยังไม่ถูกผูกมัดเอาไว้กับร้านค้าเกมไหนโดยเฉพาะ จะติดตั้ง Steam, Ubisoft Connect ฯลฯ หรือจะใช้ Xbox Game Pass ก็ไม่เกี่ยงเพราะตัวมันคือโน๊ตบุ๊ค Windows 11 ในรูปร่างเครื่องเกมคอนโซลฝังคอนโทรลเลอร์ Xbox Controller มาให้เท่านั้น เวลาจะทำงานก็ต่อหน้าจอแยกผ่านพอร์ต Thunderbolt 4 เติมด้วยเมาส์และคีย์บอร์ด Bluetooth อีกคู่ก็ทำงานได้เหมือนกับโน๊ตบุ๊คแล้ว
หัวใจของ MSI Claw A1M ได้พลังของซีพียู Intel Core Ultra กับจีพียู Intel Arc Graphics ซึ่งยกเครื่องวิศวกรรมภายในใหม่ให้ทรงพลังขึ้น เพิ่มชุดคำสั่ง Intel Xe Super Sampling (Intel XeSS) ประสานกับ NPU (Neural Processing Unit) เสริมให้เล่นเกมชั้นนำบนจอ Full HD ปรับกราฟิคระดับ Medium ได้ต่อเนื่อง ประกบชุดระบายความร้อน Cooler Boost HyperFlow ซึ่ง MSI ดีไซน์มาใหม่เติมฮีตไปป์กับพัดลมโบลวเวอร์อย่างละ 2 ตัว ระบายความร้อนได้ดีกว่า Handheld ทุกเครื่องควงคู่แบตเตอรี่ 53Whr จุสุดในปัจจุบัน ดีไซน์โครงเครื่องให้โค้งให้รับมือตามหลักสรีรศาสตร์ลดอาการเมื่อยล้าจับถนัดมือยิ่งขึ้นและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be รองรับ Bluetooth 5.4 ในตัว
จุดแข็งของ MSI Claw A1M คือการดีไซน์ให้ก้านอนาล็อคและปุ่มทริกเกอร์บนตัวเครื่องเป็นแบบ Hall Effect ตัดปัญหาจอยดริฟท์ทำตัวละครเบี่ยงซ้ายขวาหรือปุ่มลั่นเองได้อย่างหมดจด เคลมความแข็งแรงทนทานกว่าปุ่มทั่วไป 4 เท่า เสริมด้วยปุ่มมาโคร M1, M2 ให้ใส่คีย์ลัดเวลาเล่นเกมเข้าไปได้ตามต้องการ สั่งงานได้เร็วทันใจทุกจังหวะเกมมิ่ง
NBS Verdict
ที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตเมื่อจะซื้อเครื่องเกมคอนโซลพกพามาเล่น หลายคนก็มักจะเช็คว่าเจ้าเครื่องนั้นมีเกมอยากเล่นหรือเปล่าเพราะจะโดนผูกมัดกับระบบร้านค้าเกมของแพลตฟอร์มนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เจอกับราคาแผ่นเกมหลักพันบาทจนทำใจซื้อยากแล้วจะเล่นคุ้มค่าแผ่นไหมก็ไม่รู้ สารพันเรื่องต้องคิดจนกระทั่ง MSI Claw A1M เข้ามาฉีกกฏเหล่านั้นทิ้งไปด้วยการทำตัวมันเองเป็นเครื่อง Gaming Handheld ระบบปฏิบัติการ Windows 11 พร้อมหน้าเมนูเลือกแพลตฟอร์มร้านค้าเกมชั้นนำในปัจจุบันเอาไว้หมดไม่ว่าจะ Steam, EA Play, Ubisoft Connect, Epic Game Store, Battle.net รวมถึง Xbox Game Pass เอาไว้ครบถ้วนกระบวนความ อยากหยิบเอาเกมเก่าก้นคลังออกมาเล่นตอนไหนก็ได้หากสถานการณ์เอื้ออำนวย
ถึงจะเรียกว่า Gaming Handheld แต่เนื้อในมันเป็นโน๊ตบุ๊คซีพียู Intel Core Ultra รุ่นล่าสุดไม่ต่างจากทรงฝาพับตามร้านคอมพิวเตอร์ทั่วไปเลย เพียงแค่มันตัดคีย์บอร์ดกับทัชแพดออก ต่อแป้นคอนโทรลเลอร์ Xbox เข้ามาแทนเท่านั้น ถ้าต่อจอ USB-C หรือ USB-C Hub เพิ่มเมาส์คีย์บอร์ดเข้าไปก็คือโน๊ตบุ๊คไม่มีผิด จะหยิบมันติดตัวไปนั่งเล่นเกมตอนพาสมาชิกในครอบครัวไปทำธุระแล้วกินเวลานานก็เปิดเกมเล่นได้สบายๆ มีงานด่วนก็แก้ได้ ซื้อมาก็เข้าสำนวนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย แล้วหลังจากใช้มันมาสักพักก็พลอยชวนให้คิดว่าถ้าเรามี Gaming Handheld แบบนี้ ก็ไม่ต้องทุ่มเงิน 3~4 หมื่นบาทซื้อมือถือเกมมิ่งราคาแรงให้เปลืองเงินก็ได้เพราะย้ายเกมทั้งหมดมาอยู่ในเครื่องนี้แล้ว ยกเว้นมือถือเครื่องนั้นมีกรณีพิเศษอะไรก็ค่อยว่ากันไปเรื่อง
ถ้ามีอะไรต้องคำนึงก่อนซื้อ MSI Claw มาใช้ อย่างแรก คือ เสียงพัดลมระบายความร้อน Cooler Boost HyperFlow เวลาใช้งานทั่วไปจะเสียงเบาผิดกับตอนเล่นเกมแล้ว เสียงจะดังขึ้นจนได้ยินชัดเจนจนเรียกสายตาคนรอบตัวมาหาแม้จะเปิดโหมด AI Engine ก็ยังได้ยิน แถมถ้าใครคิดว่าซื้อมาจะเพิ่มความจุจาก 1 เป็น 2TB ก็ไม่แนะนำนักเพราะ M.2 NVMe SSD โดนพัดลมโบลวเวอร์ฝั่งขวามือปิดไว้มิดชิด จะเปลี่ยนก็ต้องรื้อแบตเตอรี่, พัดลมระบายความร้อนและฮีตไปป์ออกทั้งระบบแทน ดังนั้นจึงควรซื้อ MicroSD Card มาใส่เพิ่มความจุติดตั้งเกมแทนมากกว่า
ข้อดีของ MSI Claw A1M
- เป็น Gaming Handheld ระบบปฏิบัติการ Windows 11 จะใช้ทำงานและเล่นเกมได้
- เลือกสเปคได้ว่าจะใช้ Intel Core Ultra 5 135H หรือ Core Ultra 7 155H ก็ใช้งานดีทั้งคู่
- จีพียู Intel Arc Graphics มี Intel XeSS Upscalling เพิ่มเฟรมเรทเฉลี่ยเวลาเล่นเกมให้สูงขึ้น
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรมากด้วย Wi-Fi 7 รองรับ Bluetooth 5.4
- ได้พอร์ต Thunderbolt 4 ต่อหน้าจอแยกหรือเพิ่มพอร์ตด้วย USB-C Multiport Adapter ได้
- จอยอนาล็อคและปุ่มทริกเกอร์เป็น Hall Effect ลดอาการจอยดริฟท์และทนทานกว่าปกติ 4 เท่า
- มีปุ่มมาโคร M1, M2 ติดตั้งมาให้ สามารถตั้งค่าคีย์ลัดมาโครได้ตามต้องการ
- แบตเตอรี่เวลาทดลองเล่นเกมอยู่ได้นานร่วม 1 ชั่วโมง 30 นาที อยู่ได้นานพอควร
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost HyperFlow ระบายความร้อนได้ดีประสิทธิภาพไม่ลด
- ปุ่ม Power เป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สามารถทาบนิ้วปลดล็อคเครื่องได้รวดเร็ว
- โปรแกรม MSI Center M รวบเกมทั้งหมดเอาไว้ในที่เดียว เลือกเกมเล่นได้ง่าย
- ปุ่ม Quick Settings รวมคำสั่งใช้งานบ่อยเอาไว้ครบถ้วน กดเรียกใช้งานได้ทันที
- มีคำสั่ง Real-time monitoring กดเปิดเพื่อดูประสิทธิภาพตัวเครื่องและเฟรมเรทได้
- หน้าจอปรับค่า Refresh Rate ได้แบบ Dynamic ตามคอนเทนต์บนหน้าจอ
ข้อสังเกตของ MSI Claw A1M
- อัปเกรด M.2 NVMe SSD ได้ยาก เพราะต้องถอดพัดลมและฮีตซิ้งค์ออกถึงจะเปลี่ยนได้
- เสียงพัดลม Cooler Boost HyperFlow มีเสียงค่อนข้างดังและแหลมเวลาเล่นเกม
- หน้าต่าง Real-time monitoring ติดอยู่มุมบนซ้ายทับหน้า UI ในเกม ควรทำให้ย้ายตำแหน่งได้
รีวิว MSI Claw A1M
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Gamepad & Control
- Connector, Thin & Weight
- Performance & Software
- Battery, Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion & Award
Specification
MSI Claw A1M เป็น Gaming Handheld ระบบปฏิบัติการ Windows 11 ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งด้วยพลังของซีพียู Intel Core Ultra Series พร้อมจีพียู Intel Arc Graphics รุ่นล่าสุด ประสิทธิภาพพึ่งพาได้ทั้งใช้ทำงานหาเงินและเล่นเกมเพื่อความสุข เปิดตัวมา 2 รุ่น แชร์สเปคร่วมกันแทบทั้งหมดยกเว้นซีพียูจะต่างกันตามระดับราคา โดยมีรายละเอียดดังนี้
สเปคและรุ่น | MSI Claw A1M-007TH (เครื่องรีวิว) | MSI Claw A1M-008TH |
CPU | Intel Core Ultra 5 135H แบบ 14 คอร์ 18 เธรด (4P+8E+2LPE) ความเร็วสูงสุด 4.6GHz | Intel Core Ultra 7 155H แบบ 16 คอร์ 22 เธรด (6P+8E+2LPE) ความเร็วสูงสุด 4.8GHz |
GPU | Intel Arc Graphics | Intel Arc Graphics |
SSD | M.2 NVMe SSD 1TB | M.2 NVMe SSD 1TB |
RAM | 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz | 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz |
Software | Windows 11 Home | Windows 11 Home |
Display | ทัชสกรีน 7 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสี 100% sRGB | ทัชสกรีน 7 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสี 100% sRGB |
Connectivity | Thunderbolt 4*1 MicroSD Card Reader*1 Audio combo*1 Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be Bluetooth 5.4 | Thunderbolt 4*1 MicroSD Card Reader*1 Audio combo*1 Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be Bluetooth 5.4 |
Gamepad | RGB ABXY buttons RGB L & R Hall Effect analog sticks D-pad L & R Hall Effect analog triggers L & R bumpers View button Menu button MSI Center M button Quick Settings button Macro button (M1/M2) HD haptics | RGB ABXY buttons RGB L & R Hall Effect analog sticks D-pad L & R Hall Effect analog triggers L & R bumpers View button Menu button MSI Center M button Quick Settings button Macro button (M1/M2) HD haptics |
Battery capacity | 53Whr | 53Whr |
Weight | 675 กรัม | 675 กรัม |
Price | 27,990 | 29,990 |
Hardware & Design
ตัว MSI Claw A1M แม้จะเป็นโน๊ตบุ๊ค Windows 11 แต่ผิดจากภาพจำมาตรฐาน เพราะไม่มีคีย์บอร์ดและทัชแพด ขนาดตัวเครื่อง 7 นิ้วเล็กกะทัดรัดไม่ได้เป็นจอ 13.3 นิ้วแบบโน๊ตบุ๊คทั่วไป มองเผินๆ เหมือนกับเครื่องเกมพกพาสีดำพร้อมคอนโทรลเลอร์ทรง Xbox มีไฟ RGB “Mystic Light” ไว้ตรงฐานก้านอนาล็อคสองอัน เปลี่ยนเอฟเฟคแสงได้เพียงตั้งค่าผ่านโปรแกรม MSI Center M แล้วปุ่ม A, B, X, Y จะเปลี่ยนตามด้วย สังเกตมุมขวาล่างเหนือขีดช่องลำโพงจะมีสติกเกอร์ Intel Core Ultra ขนาดเล็กพิเศษติดมาให้ ซึ่งใจจริงอยากให้ย้ายมันไปติดไว้ด้านหลังถัดจากสติกเกอร์บาร์โค้ดจะดูสวยเรียบหรูกว่านี้มาก
มองจากด้านข้างจะเห็นว่าตัวกริพจับเครื่องจะมีส่วนสันโค้งเว้าให้จับได้ถนัดมือยิ่งขึ้นตามหลักสรีรศาสตร์ เล่นเกมต่อเนื่องเป็นชั่วโมงก็ไม่เมื่อย ซึ่งตอนถือเครื่องแล้วร่องสันจะเข้านิ้วชี้ ส่วนนิ้วกลาง, นางและก้อยจะคอยประคองน้ำหนักแทน สันขอบบนสลักคำขวัญ “TRUE GAMING” เอาไว้เป็นรายละเอียดเล็กๆ เพื่อบอกว่านี่เป็นเครื่องเล่นเกมตัวเล็กจากทางค่าย
ปุ่ม Trigger LB กับ RB เป็นทรงจั่วสามเหลี่ยมฝนสันด้านบนให้มนลงเล็กน้อยไม่บาดมือ กดแล้วมีแรงต้านเล็กน้อยเหมือนกดลงโฟม EVA แล้วถึงจะทำงาน ช่วยลดโอกาสกดผิดปุ่มลั่นโดยไม่ตั้งใจ เมื่อลูบแล้วชวนให้คิดถึงกรงเล็บของมังกรล้อไปกับชื่อรุ่นไม่มีผิด ถัดลงมา Trigger LT กับ RT จะเป็นก้านหนาโค้งพอกับนิ้วชี้ มีฟังก์ชั่นตั้งระยะ Trigger การทำงานในตัวและทั้ง 4 ปุ่มนี้จะเป็นแบบ Hall Effect ซึ่งเสริมความแข็งแรงมาให้แล้วโดยทางบริษัทเคลมว่าทนทานกว่าคอนโทรลเลอร์ทั่วไป 4 เท่า เทียบแล้วแรงกดจะต้านนิ้วกว่าปุ่มของคอนโทรลเลอร์ Xbox อยู่เป็นเท่าตัว ทำให้กดพลาดยากมาก
ฝาหลังของ MSI Claw จะฉลุช่องระบายความร้อนเอาไว้สองส่วน แยกเป็นช่องใหญ่ด้านซ้ายและเล็กด้านขวาซ้อนตะแกรงกันฝุ่นหยาบเอาไว้ด้านในมองเห็นชัดเจน ใส่ลูกเล่นแถบสีแดงเหมือนกรงเล็บมังกรไว้บนตะแกรงครึ่งซ้ายสามแถบรับกับโลโก้ MSI Dragon ตรงกลางพอดี ส่วนที่เหลือเป็นบอดี้เนื้อทึบสกรีนการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเทาเอาไว้พร้อมปิดสติกเกอร์บาร์โค้ดสีดำไว้อีกแผ่น หากย้ายสติกเกอร์ Intel มาไว้ตรงนี้แทน ด้านหน้าจะดูสวยงามขึ้นชัดเจน ตรงกลางส่วนริมซ้ายขวาจะเป็นปุ่ม M1, M2 ไว้ตั้งค่ามาโครหรือคีย์ลัดเรียกคำสั่งต่างๆ ติดมาให้ เป็นปุ่มคลิกปกติเหมือนปุ่มเมาส์ทั่วไป
แผ่นฝาหลังยึดไว้ด้วยน็อต 6 ตัว หัว Philips Head ซึ่งตัวสุดท้ายจะปิดสติกเกอร์ Factory Seal เอาไว้ สามารถใช้ไขควงธรรมดาขันออกแล้วเอาก้านพลาสติกแข็งงัดตรงใต้ปุ่ม Trigger LT หรือ RT จะเปิดฝาได้ แต่ไม่แนะนำให้อัปเกรด SSD นัก เพราะชุดฮีตไปป์ Cooler Boost HyperFlow พาดทับเมนบอร์ดแทบทั้งหมดรวมถึงหัวอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 ด้วย ถ้าอยากอัปเกรดก็ต้องถอดแบตเตอรี่, พัดลมทั้งสองด้านและถอดฮีตไปป์ออกถึงจะเปลี่ยนได้ ผู้ใช้ทั่วไปไม่คุ้มลงแรงทำนักเพราะถ้าพลาดอาจเสียหายแล้วแก้ไขไม่ได้ เช่นนี้สู้ซื้อ MicroSD Card ความจุ 1TB ความเร็ว 190 MB/s ราคา 3,XXX~4,XXX บาทมาใส่เพิ่มจะดีกว่า ทั้งง่ายแล้วสะดวกปลอดภัยและราคาก็ไล่เลี่ยกับ M.2 NVMe SSD ด้วย
Screen & Speaker
หน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ของ MSI Claw A1M ให้สีสันสวยงามสดใสและตอบสนองเร็วพอควร แต่สังเกตจะเห็นว่าไม่มีกล้องเว็บแคมติดมาเพราะพื้นที่ค่อนข้างจำกัดไม่พอใส่โมดูลกล้องเข้ามา ขอบจอบนและล่างจะหนาเกือบสองเท่าแต่ก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างพอดี มีโลโก้ MSI สกรีนติดไว้ขอบล่างตรงกลางจอด้วย
เมื่อเช็คในหน้า Advanced display จะเห็นว่าพาเนล IPS บานนี้จะรองรับการแสดงผลแบบ Dynamic Refresh Rate ปรับความไหลลื่นของหน้าจอตามคอนเทนต์โดยอัตโนมัติหรือจะบังคับเอาไว้ที่ 60Hz / 120Hz ก็ได้เช่นกัน ส่วนตัวแนะนำให้เลือกแบบ Dynamic จะช่วยปรับอัตราการแสดงผลให้เหมาะสมแล้วประหยัดพลังงานแบตเตอรี่มากกว่า
ด้านข้างหน้าจอจะมีขีดช่องลำโพงกำลังขับ 2W*2 ดอก การันตีคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio มาให้ใช้เสพย์คอนเทนต์และเล่นเกมได้มีอรรถรสยิ่งขึ้น ติดตั้งโปรแกรมปรับจูนเสียง Nahimic by SteelSeries มาให้เช่นเดียวกับเกมมิ่งและพรีเมี่ยมโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นจาก MSI สามารกดตั้งค่าในหน้าโปรแกรมได้ง่ายๆ
เนื้อเสียงจากลำโพง Hi-Res ถือว่าน่าประทับใจระดับหนึ่ง แม้จะมีขนาดและพื้นที่จำกัดแต่เนื้อเสียงได้โทนค่อนข้างใสฟังชัดเจนและมีเสียงเบสเสริมมาระดับหนึ่งพอเพิ่มมิติให้เนื้อเสียงมีมิติขึ้นมา พอใช้ฟังเพลงและ Podcast ต่างๆ ได้ระดับหนึ่ง แต่เวลาเล่นเกมแล้วเสียงจะมีน้ำหนักโทนเสียงหนักแน่นได้อารมณ์โดยเฉพาะคนชอบเล่นเกมแนว RPG แล้วต้องปะทะศัตรูผสานกับแรงสั่นสะเทือนจากตัวเครื่องยิ่งดึงอารมณ์ร่วมให้ชัดเจน เวลาเปิดเสียงดัง 100% แล้ววัดด้วยเครื่องวัดเสียงจะดัง 80dB พอดี มีขยับไป 81~82dB บ้างตามจังหวะ ดังนั้นตอนถือเล่นตามปกติแนะนำให้ปรับเสียงไว้ 60% ก็พอได้ยินชัดเจนแล้ว
Gamepad & Control
ปุ่มแป้นควบคุมการเล่นเกมของ MSI Claw ใช้เลย์เอาท์แบบจอย Xbox ซึ่งเป็นมาตรฐานของ Microsoft มีไฟ RGB “Mystic Light” ล้อมฐานก้านอนาล็อคและอยู่ใต้ปุ่ม A, B, X, Y สามารถตั้งสีและเอฟเฟคแสงได้ใน Settings > Mystic Light เลือกเอฟเฟคแสง 4 แบบ ปรับความเร็วและเซ็ตโปรไฟล์ได้ 3 แบบ
นอกจากปุ่มพื้นฐานของคอนโทรลเลอร์ สังเกตว่าใต้ปุ่ม View (รูปกรอบสี่เหลี่ยมสองอันซ้อนกัน) และปุ่ม Menu ตามมาตรฐาน จะมีปุ่มเสริมจาก MSI อีก 2 ปุ่ม ฝั่งซ้ายจะใช้เรียกโปรแกรม MSI Center M ขึ้นมาเรียกดูเกมทั้งหมดส่วนฝั่งขวาเป็น Quick Settings สำหรับตั้งค่าตัวเครื่องแบบเร่งด่วนและเรียกคำสั่งลัดต่างๆ เช่นการแคปภาพหน้าจอ, มอนิเตอร์ประสิทธิภาพการทำงานและเลือกเปลี่ยนคำสั่งลัดในคลังคำสั่งเพิ่มได้ในหัวข้อ Quick Settings Editor ได้
เวลาจะเปลี่ยนโหมด MSI Claw ก็กดเปลี่ยนในหัวข้อ Quick Settings ได้เช่นกัน เพราะหัวข้อโหมดการทำงานของตัวเครื่องถูกรวมเอาไว้ในนี้แล้ว ทั้งโหมด Manual, Balanced, Performance, Super Battery หรือจะใช้ง่ายๆ ก็กด AI Engine ปล่อยให้ระบบภายในเลือกปรับโหมดตามแต่ละโปรแกรมได้ทันที เวลาเปิดเกมขึ้นมาจะมีหน้าต่าง Pop up ติดขึ้นมามุมล่างซ้ายบอกว่า AI ภายในเครื่องตั้งค่าเครื่องอย่างไร หากเป็นผู้ใช้ทั่วไปกดใช้โหมดนี้แล้วใช้งานตามปกติได้เลย
ระดับ 1 ระดับ 2
ฟังก์ชั่น Real-time Monitor สำหรับมอนิเตอร์ตัวเครื่องได้แบบ Real-Time ว่าตอนนี้ Claw A1M ใช้กำลังเครื่องเท่าไหร่ เมื่อเปิดจะเป็นหน้าต่างลอย Overlay ค้างอยู่มุมบนซ้ายหน้าจอแล้วกดเปลี่ยนได้ 3 ระดับ เริ่มจากแสดงค่าการทำงานของ CPU, GPU แล้วเพิ่ม CPU PWR มาในระดับ 2 แล้วสูงสุดจะมีรอบพัดลม, ปริมาณแบตเตอรี่, กำลังองค์รวมของตัวเครื่องและดูเฟรมเรทภายในเกมได้โดยไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม กินทรัพยากรตัวเครื่องน้อยไม่กระทบลดเฟรมเรทระหว่างเล่นอย่างแน่นอน
แม้จะดีแต่กลับกัน การเอาหน้าต่าง Overlay มาค้างไว้มุมบนซ้ายหน้าจอซึ่งเป็นโซนสำคัญเวลาเล่นเกมกลับทำให้เล่นเกมลำบากขึ้น โดยเฉพาะคนเล่นเกมแนว RPG ตรงนี้จะเป็นมุมหลอดเลือดและค่ามานาและขนาดของมันก็บังจนมิดชิดพอดี หากเป็นไปได้อยากให้ MSI อัปเดตเพิ่มฟังก์ชั่นเปลี่ยนตำแหน่งของหน้าต่างนี้หรือเลือกได้เลยว่าอยากดูค่าอะไรบ้างจะสมบูรณ์แบบ
ปุ่มมาโคร M1, M2 ด้านหลังจะเป็นปุ่มกดเหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป สามารถเซ็ตค่าได้ในหน้าต่าง Control Mode ของ MSI Center M โดยตรง ซึ่งหน้าคำสั่งนี้จะมีหมวดคำสั่งเซ็ตปุ่มเอาไว้ละเอียดเทียบชั้นจอยคอนโทรลเลอร์จากแบรนด์ชั้นนำ ซึ่งตั้งค่าได้ตามหมวดหมู่ดังนี้
- Stick : ตั้งค่าก้านอนาล็อคว่าอยากเซ็ต Dead Zone และ Outer Threshold เอาไว้กี่เปอร์เซ็นต์ ตั้งค่าแยกแต่ละก้านอนาล็อคได้ตามต้องการว่าอยากได้ค่าเท่าไหร่
- Trigger : ตั้งค่าการทำงานของปุ่ม LT, RT ได้ว่าต้องการให้ทำงานเร็วแค่ไหน ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 100%
- Vibration : เพิ่มลดความแรงมอเตอร์สั่นภายในเครื่อง เพิ่มแล้วจะสั่นแรงขึ้นและลดเพื่อสั่นเบาลง ตั้งค่าแยกฝั่งได้โดยมีค่ามาตรฐานอยู่ 50%
- Macro : เพิ่มคำสั่งให้ปุ่มมาโคร M1, M2 ว่าถ้ากดแล้วจะให้ทำอะไร มีคำสั่ง Combination Keys ให้ตั้งค่าเวลากดหลายปุ่มเพื่อเรียกคำสั่งเฉพาะได้ เพียงกด Add ตรงฝั่งขวาและเลือกลบทิ้งทีละคำสั่งได้
- Combination Keys : หน้ารวมคำสั่งพื้นฐานว่าถ้ากดปุ่ม M1, M2 ร่วมกับปุ่มต่างๆ บนตัวเครื่อง
Connector, Thin & Weight
พอร์ตของ MSI Claw A1M ทั้งหมดจะรวมอยู่ขอบบนเหนือหน้าจอ ไล่จากฝั่งซ้ายมือจะเป็นปุ่ม Volume +/-, Audio combo, Thunderbolt 4, MicroSD Card Reader และปุ่ม Power รวมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคเครื่องได้ ถ้า M.2 NVMe SSD ตัวหลักความจุเริ่มน้อยไม่พอติดตั้งเกมก็ใส่ MicroSD Card เข้าไปอีกตัวเพื่อติดตั้งเกมหรือเซฟงานเป็นอีกไดรฟ์ได้
ในเมื่อมีพอร์ต Thunderbolt 4 ติดมานอกจากชาร์จแบบ Power Delivery ได้ ยังต่อหน้าจอแยก USB-C ทำงานได้ไม่ต่างกับโน๊ตบุ๊คแม้แต่น้อย แค่มีเมาส์และคีย์บอร์ดบลูทูธใช้คู่กันก็ทำงานได้แล้ว ถ้าออฟฟิศใครมีหน้าจอ USB-C แบบเป็น Port Hub ยิ่งดีเพราะต่อสายเส้นเดียวเปลี่ยน Gaming Handheld เป็นคอมทำงานต่อได้ แต่ถ้าอยากต่อพาวเวอร์แบงค์ชาร์จ MSI Claw A1M ไปเล่นไป ต้องใช้รุ่นที่มีกำลังชาร์จ 65 วัตต์ขึ้นไปถึงจะชาร์จเข้า ใช้รุ่น 30 วัตต์ซึ่งเป็นขั้นต่ำของ Power Delivery จะชาร์จไม่ได้เลย
น้ำหนักเฉพาะตัวเครื่อง MSI Claw เมื่อชั่งแล้วหนัก 669 กรัม เบากว่าน้ำหนักเคลม 675 กรัมอยู่ 6 กรัม นับรวมอแดปเตอร์ AC กำลังไฟ 65 วัตต์ อีก 356 กรัม เท่ากับว่าเซ็ต MSI Claw มีน้ำหนัก 1.02 กิโลกรัมเท่ากับโน๊ตบุ๊คบางเบาระดับพรีเมี่ยมในปัจจุบัน ถ้าพกติดตัวไปเล่นเกมในวันหยุดก็น่าเอาอแดปเตอร์ทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานแล้วพกอแดปเตอร์ GaN 65 วัตต์แทน แค่นี้ก็ชาร์จเจ้า Gaming Handheld นี้ได้แล้ว
Performance & Software
MSI Claw A1M จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สเปค คือ สเปคสูงสุดซีพียู Intel Core Ultra 7 155H หรือรุ่นเริ่มต้นตัวนี้ ซึ่งติดตั้งซีพียู Intel Core Ultra 5 135H แบบ 14 อร์ 18 เธรด แยกเป็น 4 P-Core, 8 E-Core เสริมด้วย 2 LPE-Core ซึ่งติดตั้งมาในรุ่นสถาปัตยกรรม Meteor Lake ขนาด 7 นาโนเมตรเป็นครั้งแรก เน้นการจัดการพลังงานให้เปิดเครื่องใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ความเร็วสูงสุด 4.6GHz รองรับชุดคำสั่งพื้นฐานสำหรับทำงานครบถ้วน ตัวชิปมีค่า TDP 28 วัตต์ ส่วน RAM ฝังบนเมนบอร์ดมีความจุ 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz ค่า CL64-60-60-136 ซึ่งมากพอใช้เล่นเกมทั่วไปและทำงานได้แล้ว
จีพียูของ Intel Core Ultra Series เป็น Intel Arc Graphics ซึ่งยกเครื่องสถาปัตยกรรม iGPU ใหม่ทั้งหมด มีประสิทธิภาพดีขึ้นพร้อมใช้งานร่วมกับ AI ด้วยเฟรมเวิร์ค OpenVINO ในตัว เร่งความเร็วสูงสุดได้ 2.2GHz และรองรับชุดคำสั่งใช้งานครบถ้วนทั้ง OpenCL, OpenGL 4.6, DirectCompute, DirectML, Vulkan และใช้ Ray Tracing ไว้จำลองทิศทางแสงได้สมจริงยิ่งขึ้นทั้งตอนทำงานและเล่นเกม
ชิ้นส่วนภายใน MSI Claw เมื่อเช็คด้วย Device Manager จะเห็นว่าทางบริษัทติดตั้งอุปกรณ์สำคัญมาให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะชิป TPM 2.0 สำหรับรักษาความปลอดภัยร่วมกับระบบ Windows Hello และสแกนลายนิ้วมือได้ด้วยเซนเซอร์จาก Goodix MOC ซึ่งติดตั้งมากับโน๊ตบุ๊คชั้นนำหลายรุ่นและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ด้วย Intel Killer BE1750x รองรับ Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be มีแบรนด์วิธกว้าง 320MHz
ซึ่งความเร็วหลังจากทดสอบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของ AIS แพ็คเกจความเร็ว 750/750 Mbps ตั้งเครื่องห่างจากตัวเราเตอร์ราว 10 เมตรและมีประตูไม้กั้นอยู่ 1 บาน แล้วทดสอบด้วยเว็บไซต์ Ookla Speed Test ได้ความเร็ว Download 647 Mbps และ Upload 626 Mbps ดังนั้นจะใช้เล่นเกมหรือทำงานก็รับส่งข้อมูลได้รวดเร็วทันใจ มาก มีค่า Ping ต่ำเพียง 8ms เท่านั้น
M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ของ MSI Claw A1M เป็นรุ่น OEM จากทาง KIOXIA เป็นบริษัทผลิตหน่วยความจำ NAND Flash ภายในเครือ Toshiba ตามรหัสใน Device Manager เป็นรุ่น KIOXIA BG5 ตามสเปคเป็นอินเทอร์เฟส PCIe 4.0 ติดตั้งชิปแบบ 3D TLC NAND แบบ 112-layer BiCS FLASH เน้นความแข็งแรงทนทาน รองรับการเขียนไฟล์ได้ 600 TBW พอทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 แล้วมีความเร็วดังนี้
สเปค | Sequential Read | Sequential Write |
สเปคจากโรงงาน | 3,500 MB/s | 2,900 MB/s |
CrystalDiskMark 8 | 3,228.66 MB/s | 2,947.52 MB/s |
RND4K | 516.79 MB/s | 370.96 MB/s |
ถึงความเร็วจะไม่สูงขึ้นไประดับ 4,XXX~5,XXX MB/s ตามแบบฉบับ PCIe 4.0 ทำได้ก็จริง แต่ KIOXIA BG5 ในตัวก็ยังอยู่ในเกณฑ์เทียบเท่า M.2 NVMe SSD อินเทอร์เฟส PCIe 3.0 ชั้นนำอยู่ ซึ่งเร็วพอโหลดเกมและไฟล์งานขึ้นมาได้ทันใจจนแทบไม่ส่งผลต่อความรู้สึกตอนใช้งานอย่างแน่นอน
พลังการประมวลผลเวลาเล่นเกมเมื่อทดสอบด้วย 3DMark Time Spy เพื่อวัดว่าเล่นเกมชั้นนำในปัจจุบันได้ลื่นไหลหรือไม่ ซึ่งหลังทดสอบเสร็จตัวเครื่องโชว์ผลคะแนนเฉลี่ย 3,694 คะแนน และแยกเป็นคะแนนซีพียู 8,448 คะแนน ส่วนจีพียูได้ 3,361 คะแนน นับว่าดีในระดับใช้เล่นเกมชั้นนำได้บนหน้าจอ 1080p ปรับกราฟิคเอาไว้ระดับ Low~Medium จะเล่นได้อย่างแน่นอน
ทาง Intel เคลมว่าจีพียู Intel Arc Graphics ของ Intel Core Ultra 5 135H สามารถเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอ 1080p ปรับกราฟิคระดับ Medium แล้วเล่นได้ดีแน่นอน แต่เมื่อทดสอบแบบปิด Intel XeSS Upscalling ทิ้งไปเพื่อดูกำลังของตัวจีพียูตรงๆ จะเห็นว่าเฟรมเรทเฉลี่ยของเกมทั่วไปจะได้เฟรมเรทสูงสุดยังไม่แตะ 60 Fps แต่ข้อดีคือทำเฟรมเรทเฉลี่ยได้ค่อนข้างดี เล่นได้แน่นอน โดยประสบการณ์ระหว่างทดลองเล่นแต่ละเกมจะเป็นดังนี้
- Forza Horizon 5 (Forza Tech ปรับ Graphic Medium) : เล่นได้ลื่นไหลต่อเนื่อง ภาพไม่มีอาการกระตุกและปรับกราฟิคระดับ Medium เล่นได้ แต่บางครั้งภาพอาจกระตุกเสี้ยววินาทีได้บ้างแต่น้อย
- Call of Duty: Modern Warfare II (IW Engine ปรับ Graphic Low) : ได้ภาพลื่นไหลควบคุมตัวละครได้ตามปกติ แต่เฟรมเรทเวลาเรนเดอร์ฉากมีบางพื้นที่เริ่มเรนเดอร์เป็นก้อนก่อนแล้วค่อยเติมรายละเอียดลงไปในภายหลัง เฟรมเรทจะลดลงไปแตะระดับ 25~27 Fps บ้างเวลาต้องเรนเดอร์ฉากใหญ่หรือฝุ่นจำนวนมาก
- Red Dead Redemption II (RAGE Engine ปรับ Graphic Balanced) : ภาพหน่วงบ้างเวลาเจอฉากขนาดใหญ่เช่นหุบเขาหรือเมืองที่มีรายละเอียดอาคาร จะเรนเดอร์ภาพเป็นก้อนใหญ่ก่อนค่อยใส่รายละเอียดตามในภายหลังแบบเดียวกับ COD: MW II เวลายิงปะทะศัตรูอาจหน่วงเล็กน้อย
- Cyberpunk 2077 (REDengine 4 ปรับ Graphic Medium) : เฟรมเรทอาจดูน้อยแต่เล่นได้ตามปกติ ตอบสนองเวลายิงปะทะศัตรูได้รวดเร็วต่อเนื่องและแทบไม่เจออาการภาพกระตุกระหว่างเล่นเลย ยกเว้นตอนรถระเบิดหรือเจอศัตรูยิงปะทะเยอะหลัก 10~15 ตัว เฟรมอาจตกได้
- Honkai: Star Rail (Unity Engine ปรับ Graphic Very High 60 Fps) : เล่นได้ลื่นไหลต่อเนื่อง มั่นใจว่าเกมที่ใช้เอนจิ้น Unity จะเล่นได้ดีทุกเกมแน่นอน อาจจะมีอาการเฟรมเรทลดเวลาโหลดเกมใหม่ๆ เล็กน้อย แต่เวลาเล่นจริงจัดว่าลื่นไหลมาก ส่วนเฟรมเรทที่ลดเป็น 0 Fps เกิดจากตอนวาร์ปไปพื้นที่ต่างๆ ในตัวเกมเป็นหลัก
- Elden Ring (FromEngine ปรับ Graphic Low) : ค่อนข้างกินทรัพยากรและหน่วง แต่คงเฟรมเรทได้ช่วง 35~43 Fps อย่างต่อเนื่อง ควบคุมตัวละครปะทะศัตรูได้โดยไม่มีปัญหา แต่บางครั้งตอนโหลดฉากมีรายละเอียดเยอะๆ อาจจะหน่วงจนภาพกระตุกเล็กน้อยแล้วเล่นต่อได้ตามปกติ
หากเปิด Intel XeSS Upscalling เพิ่มแล้ว สังเกตว่าเฟรมเรทเฉลี่ยของแต่ละเกมจะสูงขึ้นใช้งานได้ดีขึ้นพอควร สังเกตว่า Cyberpunk 2077 กับ COD: MW II จะได้เฟรมเรทดีขึ้นอย่างชัดเจนและภาพจะลื่นไหลต่อเนื่องกว่าอย่างรู้สึกได้ ดังนั้นสรุปได้ทันทีว่าถ้าเกมไหนมีหัวข้อนี้ให้เปิดใช้งานก็ควรเปิดเอาไว้เลยจะเป็นแบบ Quality เน้นภาพสวยคมชัดก็ได้หรือไปทาง Performance เน้นภาพลื่นไหลจะทำให้ MSI Claw A1M เล่นเกมได้ดีขึ้นมาก
นอกจากเล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลา MSI Claw A1M ก็ทำงานได้ดีเช่นกัน เมื่อทดสอบด้วย PCMark 10 สำหรับทดสอบประสิทธิภาพเวลาทำงานแล้วจะทำคะแนนเฉลี่ยได้ 6,243 คะแนน พูดได้ว่านอกจากเล่นเกมแล้วก็ทำงานได้ดีมาก หากแยกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ จะเป็นดังนี้
- Essential (ทดสอบเปิดโปรแกรม, เว็บไซต์และประชุมออนไลน์) – ได้ 9,616 คะแนน ใช้ทำงานเอกสารทั่วไปและเปิดโปรแกรมต่างๆ ขึ้นมาใช้งานได้รวดเร็ว ประชุมออนไลน์ได้ไม่มีปัญหา
- Productivity (ทดสอบโปรแกรมประเภท Word, Excel) – ได้ 8,242 คะแนน ใช้ทำงานเอกสารทั่วไปและแก้ไฟล์ Excel ที่ผูกสูตรซับซ้อนได้ไม่เกิดอาการหน่วงระหว่างทำงาน
- Digital Content Creation (ทดสอบแต่งภาพ, เรนเดอร์งาน 3D, ตัดต่อวิดีโอ) – ได้ 8,332 คะแนน ใช้ตัดต่อคลิปความละเอียด 4K และ Encode ได้รวดเร็วด้วยชุดคำสั่งภายในตัวชิปเซ็ต หากใช้ตัดต่อคลิปสั้นขึ้น TikTok ได้แน่นอน
ถ้าจะใช้ MSI Claw A1M เรนเดอร์โมเดล 3D และงานกราฟิคโมเดลต่างๆ ก็ใช้งานได้ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะตัว CINEBENCH 2024 จะใช้ Redshift, Cinema 4D เป็นเอนจิ้นสำหรับเรนเดอร์หลักซึ่งกินพลังของซีพียูมากกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ ซึ่งผลคะแนนของแต่ละการทดสอบเป็นดังนี้
- 2024 – ใช้ทดสอบประสิทธิภาพของซีพียูกับจีพียูอย่างหนักพร้อมกัน ได้ CPU (Multi Core) 663 pts และ CPU (Single Core) 93 pts
- R23 – ใช้ทดสอบพลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก มีความละเอียดและแม่นยำสูง ได้คะแนน Multi Core 11,749 pts และ Single Core อีก 1,583 pts
- R20 – ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก ได้คะแนน CPU 4,633 pts
จากผลคะแนนของโปรแกรมตระกูล CINEBENCH จะเห็นว่า Claw A1M ทำคะแนนได้ระดับพอใช้เรนเดอร์และพรีวิวโมเดล 3D ได้ไหลลื่นระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่ถึงระดับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คพร้อมจีพียูแยกแต่ก็ใช้ทำงานได้ระดับหนึ่งเลย
นอกจาก CINEBENCH แล้ว การทดลองเรนเดอร์โมเดล 3D ด้วย Blender Benchmark เพื่อดูว่าซีพียู Intel Core Ultra สามารถเรนเดอร์โมเดลได้กี่ตัวใน 1 นาที ยิ่งเรนเดอร์ได้เยอะยิ่งดีและแสดงผลได้ลื่นไหลขึ้น โดยผลคะแนนแต่ละการทดสอบได้ดังนี้
- monster เรนเดอร์ได้ 73 sample/นาที
- junkshop เรนเดอร์ได้ 44 sample/นาที
- classroom เรนเดอร์ได้ 36 sample/นาที
ระดับคะแนนและปริมาณการเรนเดอร์ได้หลักสิบ sample/นาที อยู่ในระดับทั่วไปเท่ากับซีพียูระดับเดียวกันหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้ หากต้องใช้เปิดพรีวิวตัวอย่างงานให้ลูกค้าดูในยามจำเป็นก็เปิดดูได้
ในหน้า MSI Center M เวอร์ชั่นพิเศษเพื่อ MSI Claw A1M โดยเฉพาะจะดีไซน์มาให้เกมเมอร์เปิดเกมเล่นได้ทันที โดยแยกเป็นบรรทัดบนจะรวม Gaming Platform ต่างๆ เอาไว้ทั้งหมดไม่ว่าจะ Steam, Ubisoft, Xbox, Epic, EA, Battel.net ส่วน MSI App จะเป็นโปรแกรมเล่นเกมในแอปฯ Android แล้วใช้คอนโทรลเลอร์ Xbox ควบคุมและ Mapping ปุ่มได้ในตัว เมื่อเลือก Platform เกมแล้วระบบจะเรียก Launcher ของเกมนั้นๆ ขึ้นมา
Battery, Heat & Noise
แบตเตอรี่ความจุ 53Whr ภายใน MSI Claw นับว่ามีความจุมากสุดในกลุ่ม Gaming Handheld ปัจจุบัน จึงเปิดใช้งานและเล่นเกมได้นานกว่าเครื่องอื่นอยู่ระดับหนึ่ง พอทดสอบตามมาตรฐานโดยเปิดความสว่างหน้าจอ 50% ลดเสียงลำโพงเหลือ 10% แล้วกดโหมด Super Battery ผ่านหน้า Quick Settings แล้วใช้ Microsoft Edge ดูคลิป YouTube นาน 30 นาที จะใช้งานได้นานสุด 4 ชั่วโมง 38 นาที ถือว่าานานพอใช้เปิดดูคอนเทนต์และเว็บไซต์ต่างๆ ได้นานพอควร
เมื่อหยิบมานั่งเล่นเกมก็อยู่ได้นานกว่าแบรนด์คู่แข่งพอควร ในการทดสอบจะตั้งค่าตัวเครื่องเป็นโหมด AI Engine แล้วเล่น Elden Ring ต่อเนื่องให้แบตเตอรี่เหลือ 1% จึงหยุด พบว่า Claw A1M สามารถเล่นเกมได้นานราว 1 ชั่วโมง 20 นาที ถือว่านานกว่าแบรนด์คู่แข่งอย่างชัดเจน เหมาะกับคนพกเครื่องไปเล่นนอกสถานที่เป็นอย่างมาก ถ้าแบตเตอรี่จะหมดก็ต่อพาวเวอร์แบงค์หรืออแดปเตอร์ GaN กำลังชาร์จ 65 วัตต์ ต่อเวลาเล่นให้นานขึ้นได้ตามต้องการ
วัดส่วนหน้าจอ วัดส่วนฝาหลัง วัดส่วนเหนือช่องระบายความร้อน
ช่องระบายความร้อนของชุด Cooler Boost HyperFlow จะมีช่องนำลมเข้าด้านหลังเครื่องแล้วเป่าออกส่วนขอบบนถัดจากส่วนของพอร์ตออกไปด้านหลัง เวลาเล่นเกมแล้วทดสอบใช้ปืนยิงเช็คอุณหภูมิวัดตามส่วนต่างๆ จะเห็นว่าตอนเล่นเกม เครื่องจะมีอุณหภูมิราว 30~35 องศาเซลเซียสเท่านั้น จับถือเล่นเกมได้ตลอดจนแบตเตอรี่หมดแล้วไม่ร้อนมือแน่นอน
ภายใน MSI Claw A1M เมื่อเปิดเกมแล้วรัน CPUID HWMonitor เพื่อมอนิเตอร์อุณภูมิภายในเครื่องไปด้วย แม้จะเห็นว่าชุดระบายความร้อน Cooler Boost HyperFlow ทำงานได้ดีทีเดียว แม้อุณหภูมิสูงสุดจะดีดขึ้นไปหลักร้อยองศาเซลเซียสก็จริงแต่ก็อยู่ไม่เกิน 2 วินาที ส่วนอุณหภูมิจริงเวลาเล่นเกมกลับตรงกันข้าม เพราะตัวชิปเซ็ตจะอยู่หลัก 50~70 องศาเท่านั้น ถือว่าจัดการอุณหภูมิได้ดีทีเดียว โดยแต่ละส่วนจะมีอุณหภูมิดังนี้
ชิ้นส่วน/อุณหภูมิ | อุณหภูมิต่ำสุด (เซลเซียส) | อุณหภูมิสูงสุด (เซลเซียส) |
เมนบอร์ด | 43 | 101 |
ซีพียู (องค์รวม) | 42 | 102 |
ซีพียู (P-Core) | 38 | 103 |
ซีพียู (E-Core) | 41 | 88 |
อย่างไรก็ตาม เรื่องเสียงพัดลมระบายความร้อนตอนทำงานเต็มกำลังก็ถือว่าค่อนข้างดังได้ยินชัดเจน จากด้านหน้าเครื่องจะมีเสียงดังราว 57dB เทียบเท่าเสียงเพลงในร้านกาแฟ นับว่าได้ยินระดับพอรู้ว่าพัดลมทำงานอยู่ ส่วนด้านหลังเครื่องฝั่งเพื่อนร่วมโต๊ะทำงานจะอยู่ระดับ 65dB และถ้าวัดจากช่องระบายความร้อนเหนือเครื่องจะดังราว 68dB เทียบแล้วเท่ากับเสียงบรรยากาศการพูดคุยและทำงานภายในออฟฟิศหรือห้องเรียน หากไม่เกิน 70dB ยังถือว่าอยู่ในระดับปลอดภัยต่อหูและการได้ยินเสียงอยู่ แต่ก็เรียกความสนใจจากคนรอบตัวได้อย่างแน่นอน
User Experience
ผู้เขียนในฐานะเกมเมอร์ก็มีเกมซื้อทิ้งขว้างเอาไว้ในแพลตฟอร์มร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะ Steam เองจะเยอะเป็นพิเศษ แต่ก็มีเวลาเล่นน้อยจะเล่นได้ก็เพียงแค่ตอนนั่งอยู่หน้าเกมมิ่งพีซีส่วนตัวเฉพาะหลังเลิกงาน จะมีเวลาอยู่กับสิ่งที่รักต่อวันก็ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นทำให้เกมจากเมื่อ 2~3 ปีก่อนก็ยังไม่ได้ติดตั้งหรือเล่นเลยอยู่หลายต่อหลายเกม ส่วนวันหยุดก็แทบจะไม่ได้อยู่กับเจ้าเครื่องนี้นานอย่างที่ควรเพราะต้องออกไปทำธุระทั้งเรื่องส่วนตัวและคนในบ้านเป็นประจำ แล้วจะซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คก็ไม่อยากแบกให้หนักและจะหยิบมานั่งเล่นระหว่างรอทำธุระก็ใช่ที่ และหลายๆ แห่งก็มีแต่เก้าอี้หรือโต๊ะกลมขนาดพอวางแก้วกาแฟได้ไม่เกิน 4 แก้วเท่านั้น ดังนั้น MSI Claw A1M ก็เลยเข้ามาอุดช่องว่างตรงนี้ได้พอเหมาะพอดี
ภาพแรกหลังจากหยิบ Claw A1M มานั่งเล่นเกมก็พลอยให้เห็นภาพซ้อนของเครื่องคอนโซลพกพาขึ้นมา แต่ดีกว่าตรงไม่ต้องถูกผูกติดอยู่กับร้านค้าของผู้พัฒนาเครื่องนั้น แต่สามารถติดตั้งเกมจาก Steam, Xbox Game Pass, Ubisoft Connect ฯลฯ ที่ต้องการได้ตามต้องการเท่าที่ M.2 NVMe SSD จะอำนวยหรือจะเติมด้วย MicroSD Card Reader ก็ว่าไป ทำให้ช่วงเวลาที่ใช้เจ้า MSI Claw แทนโน๊ตบุ๊คก็ได้เล่นเกมโปรดนานขึ้น ทำให้ผู้เขียนพลอยยิ้มออกจนคิดว่าต่อไปอาจจะไม่ได้ซื้อโน๊ตบุ๊คทั่วไปอีกแล้วก็ได้
เวลาเล่นเกม หลายคนอาจจะกังขาว่า Intel Arc Graphics ใน MSI Claw A1M จะพอเล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้จริงหรือ? ก็ตอบว่าเล่นได้ แต่ควรปรับกราฟิคเอาไว้ระดับ Low~Medium จะเล่นได้ระดับ 30~50 Fps ถ้ามี Intel XeSS Upscalling ให้ก็ควรใช้ จะได้เฟรมเรทเฉลี่ยเพิ่มขึ้นแล้วไม่ทำให้คุณภาพของภาพลดลง นั่นเพราะหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ก็มีพื้นที่แสดงผลไม่กว้างมากและเม็ดพิกเซลก็อัดแน่นอยู่จนแทบไม่สังเกตเห็นภาพแตกหรือรอยหยักจากการทำ Upscalling แม้แต่น้อย
เรื่องน่าคิดหลังจากได้ใช้ MSI Claw A1M แบบจริงจัง ติดตั้งเกมออนไลน์ที่เล่นเป็นประจำอย่าง Honkai: Star Rail ไว้แล้วเล่นได้ไหลลื่นต่อเนื่องเช่นนี้ ก็ชวนให้คิดว่าถ้ามีเครื่องเกมพกพาระดับนี้ก็ไม่ต้องเผื่อเงินเอาไว้ซื้อสมาร์ทโฟนเรือธงหลัก 3~4 หมื่นบาทไว้เล่นเกมก็ได้ ยกเว้นจะอยากได้สไตล์ภาพจากกล้องมือถือรุ่นนี้จริงๆ ก็ยกไปอีกประเด็น ชวนให้คิดว่าถ้าไม่ต้องคำนึงว่าต้องซื้อมือถือแรงเผื่อเล่นเกมนั้นนี้แล้วไปซื้อรุ่นราคา 1~2 หมื่นเอาไว้ใช้ติดต่อและเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คแทน ก็เอาเงินไปทำอย่างอื่นได้อีกมาก
นอกจากเล่นเกม หากคิดถึงอุปกรณ์เสริมน่าซื้อไว้คู่กับ MSI Claw A1M แล้วช่วยให้ทำงานนอกสถานได้พอกับโน๊ตบุ๊ค นอกจากหน้าจอพกพาเช่น MSI PRO MP161 ก็ควรมีคีย์บอร์ดและเมาส์บลูทูธอีกคู่ ถ้ามีงานต้องปรับแก้ด่วนหรือต้องตอบงานลูกค้าก็ทำงานได้ทันที แม้จะได้ชื่อว่าซื้อ Gaming Handheld มาก็ไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อยเพราะมันแปลงร่างเป็นโน๊ตบุ๊คใช้ทำงานหาเงินได้ในตัวนั่นเอง ให้ดีแนะนำควรหาขาตั้งมือถือแบบพับได้สักอันมาติดกระเป๋าไว้ด้วยจะได้ตั้งเครื่องได้รวมถึงกระเป๋าสำหรับเครื่องนี้อีกสักใบจะดีกว่าใส่เครื่องไว้ในกระเป๋าตรงๆ โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ Intel Core Ultra 5 135H กับจีพียู Intel Arc Graphics จะมีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่ายุค Intel Iris Xe Graphics อย่างก้าวกระโดด แต่ยังมีจุดให้พัฒนาต่ออีกไม่ว่าจะไดรเวอร์ซึ่งน่าจะเสถียรและรีดเฟรมเรทได้ดีกว่านี้แล้วลดอาการเฟรมกระตุก, หน่วงหรือหยุดในบางครั้งให้น้อยจนไม่มีจะดีมาก ซึ่งคาดหวังว่า Intel จะรีบปรับแต่งไดรเวอร์ให้ดียิ่งขึ้นให้น่าใช้มากขึ้นในเร็วๆ นี้แน่นอน จนพลอยคิดว่า Intel Core Ultra รุ่นถัดไปน่าจะทรงพลังกว่านี้ทั้งส่วนของคอร์ประมวลผลและจีพียูในตัว
จุดสังเกตอีกอย่างซึ่งเลี่ยงไม่ได้ คือ เสียงพัดลม Cooler Boost HyperFlow แม้จะระบายความร้อนได้ดีมากแต่เสียงเวลาทำงานก็ดังชัดเจนจนเรียกสายตาคนรอบข้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเสียงหวีดจากพัดลมความดัง 68dB ก็ดังพอกับเสียงคนพูดตามปกติ และตอนพกไปเล่นเกมที่ร้านกาแฟของคนรู้จักที่สนิทกันก็ชวนให้เข้าใจผิดว่าเป็นเสียงเครื่องชงกาแฟทำงานอยู่โดยปริยาย
Conclusion & Award
ถึงภาพจำของใครหลายคนจะเห็นว่า MSI Claw A1M เป็นเครื่อง Gaming Handheld เน้นพกติดตัวไปเล่นเกมชั้นนำที่ชอบได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยพลังของจีพียู Intel Arc Graphics พร้อมชุดคำสั่ง Upscalling อย่าง Intel XeSS ช่วยเพิ่มเฟรมเรทให้สูงขึ้นแล้วเล่นเกมได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องผูกพันกับสโตร์ของผู้พัฒนาเครื่องคอนโซลแต่อย่างใด สามารถโหลดเกมมาติดตั้งแล้วดึงเซฟจาก Cloud มาเล่นต่อได้แล้วค่อยไปเล่นต่อในเกมมิ่งพีซีต่อได้ทันที
ถึงจะเรียกว่าเป็น Gaming Handheld แต่ซื้อมาก็ไม่ได้จำกัดไว้ว่าใช้เล่นเกมได้อย่างเดียว ด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 11 ในตัวจึงต่อหน้าจอแยก, เมาส์และคีย์บอร์ดใช้ทำงานได้เป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่ง จะหยิบมาทำงานที่ออฟฟิศหรือติดตัวไว้เผื่อทำงานในยามจำเป็นนอกสถานที่ก็ได้ไม่จำกัด ไม่แน่มันอาจจะเป็นคำตอบของปัญหาของใครหลายคนในตอนนี้ที่อยากเล่นเกมแต่ก็ต้องทำงานได้เป็นอย่างดี
Award
Best Mobility
ขนาดและน้ำหนักของ MSI Claw A1M เป็น Gaming Handheld ไซซ์กะทัดรัดแถมน้ำหนักเพียงครึ่งกิโลฯ นอกจากเบา ยังไม่จำกัดว่าต้องใช้กระเป๋าโน๊ตบุ๊คเสมอไป พอรวมกับอุปกรณ์เสริมไม่ว่าจะพาวเวอร์แบงค์, สายชาร์จหรือหน้าจอแยกก็ไม่หนักมากใส่กระเป๋าสะพายข้างติดไปไหนก็สะดวกสบาย คู่ควรกับรางวัล Best Mobility อย่างไม่ต้องสงสัย
Best Gaming
เพียงหยิบ MSI Claw ขึ้นมาก็นั่งเล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องผูกมัดตัวเองไว้กับหน้าคอมเสมอไปก็ถือว่าดีต่อการเล่นเกมทั้งนั้น หากใครรู้ว่าต้องไปไหนมาไหนเป็นประจำขอแค่มีเจ้า Gaming Handheld นี้เอาไว้ก็ทำให้เรามีความสุขได้เสมอแน่นอน