AMD Ryzen 8040 series ซีพียูรุ่นใหม่ เอาใจคอเกม เล่นเกมไหลลื่น พร้อมมี AI ในตัว
AMD Ryzen 8040 series เป็นซีพียูโน๊ตบุ๊คในซีรีส์ล่าสุดของทาง AMD ออกแบบมาเพื่อการทำงาน สร้างงานครีเอทีฟ ไปจนถึงการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเล่นเกม โดยจุดเด่นอยู่ที่การใช้พลังงานน้อย ความร้อนน้อย จึงเหมาะกับผู้ใช้โน๊ตบุ๊ค ที่ต้องการทั้งศักยภาพในการทำงาน ควบคู่ไปกับการประหยัดพลังงาน โดยมี AI มาในตัว จึงช่วยให้ทั้งความสามารถในการทำงาน และการเรียนรู้ เข้าสู่ยุคของ AI ที่มีมาในทุกด้าน ตั้งแต่การออกแบบสร้างสรรค์ ไปจนถึงการเล่นเกมอีกด้วย โดยเฉพาะในแง่ของเกม ด้วยการมาของกราฟิกยุคใหม่ RDNA3 บนซีพียูรุ่นนี้ ที่มีความแรงสำหรับการเล่นเกมระดับ Full-HD แม้บางครั้งจะไม่ได้อยู่บนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คโดยตรง ก็ยังส่งผลให้ผู้ใช้สามารถสนุกสนานไปกับการเล่นเกมได้ดีขึ้นอีกด้วย
เพิ่มพลังให้กับการเล่นเกมบน AMD Ryzen 8040
- Radeon 7x0M พลังกราฟิกใหม่เพื่อคอเกมบนโน๊ตบุ๊ค
- ตัวอย่างผลทดสอบบน Radeon 7x0M
- 5 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมขุมพลัง AMD Radeon 8040 series
Radeon 70xM พลังกราฟิกใหม่เพื่อคอเกมบนโน๊ตบุ๊ค
ก่อนที่เราจะไปสู่เรื่องของหัวใจความแรงในการเล่นเกมของซีพียู AMD Ryzen 8040 series รุ่นใหม่นี้ มาทำความรู้จักกับซีพียูในแต่ละรุ่น และความพิเศษของเทคโนโลยีภายในซีพียูซีรีส์นี้กันก่อน ว่ามีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใด
การมาพร้อมหน่วยประมวลผล 3 ส่วนหลักด้วยกัน ประกอบด้วย
NPU – รับหน้าที่จัดการงานในด้าน Neural Network ที่ส่งผลต่อการประมวลผลด้าน AI เป็นหลัก โดยใช้พลังจากชิปบนสถาปัตยกรรม XDNA ที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าใน AMDRyzen 7040 series อีกด้วย
CPU – รับหน้าที่ในการประมวลผลหลักกับงานด้านต่างๆ งานคำนวณไปจนถึงชุดคำสั่งต่างๆ โดยเป็นซีพียูที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 4 แบบเต็มตัวแล้วทุกรุ่นในซีรีส์นี้ ต่างจาก Ryzen 7040 series ที่บางโมเดลจะยังเป็น Zen 3 หรือ Zen 3+ อยู่
GPU – เป็นหัวใจสำคัญในการทำงานกราฟิก และการเล่นเกม ซึ่งจะใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3 ทุกรุ่น โดยใช้ชื่อรุ่น Radeon 7x0M จะมีรายละเอียดของกราฟิกที่ต่างกันออกไป ทั้งแกนหลักและความเร็วสัญญาณนาฬิกา ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ต่างกันออกไป
เรามาทำความรู้จักกับ Radeon ที่เป็น RDNA 3 ซึ่งอยู่บนซีพียู AMD Ryzen 8040 series เหล่านี้ ซึ่งสถาปัตยกรรม RDNA 3 นั้น จัดเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง ให้ประสิทธิภาพต่อวัตต์หรือการใช้พลังงานได้ดีกว่าแบบเดิม รวมถึงการมี AMD Ifinity Cache และที่สำคัญคือ การใช้ทรัพยากรร่วมกันในการเรนเดอร์ AI และการใช้ Ray-tracing ที่มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังทำงานร่วมกับหน่วยความจำรุ่นใหม่ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการแชร์จากแรมระบบ หรือการเป็นกราฟิกแยก ที่มีหน่วยความจำอย่าง GDDR6 เป็นต้น อย่างเช่น การ์ดจอโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ที่เป็น Radeon RX6000 หรือ RX7000 series ก็ตาม และยังเป็นพื้นฐานของการ์ดจอพีซีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้องเล็กอย่าง Radeon 740M, รุ่นกลาง Radeon 760M และรุ่นใหญ่ Radeon 780M ที่อยู่บนซีพียู Ryzen 7 และ Ryzen 9 กัน ว่ามีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใด
Radeon 740M
Radeon 740M เป็นกราฟิกน้องเล็กบน AMD Ryzen 8040 series นี้ ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3 บนกระบวนการผลิต 4 นาโนเมตร เปิดตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 แม้จะเป็นรุ่นเล็กแต่ก็ให้ชุดประมวลผล 12CUs ด้วยกัน ชุด Shader 256 ชุด และสัญญาณนาฬิกาเริ่มต้น 1.5GHz บูสท์สูงสุด 3.0GHz จะมีข้อจำกัดตรงที่ แชร์หน่วยความจำกับแรมระบบ จึงทำให้แบนด์วิทธิ์ที่ได้ไม่สูงมากนัก แต่ด้วยการทำงานร่วมกับแรม DDR5 ก็ถือว่าช่วยเพิ่มศักยภาพขึ้่นมาไม่น้อย ซึ่งหากเทียบกับรุ่นพี่ที่เป็นกราฟิกแยกอย่าง Radeon RX6300Mก็ถือว่ายังห่างชั้นกันพอสมควร เพราะมี Shader ที่มากกว่า รวมถึงมีเมมโมรีกราฟิกแยกมาให้ถึง 2GB แต่ถ้ามองถึงความสดใหม่ Radeon 740Mรองรับ Ray-Tracing เพราะมี RT core มาในตัว จึงสอดคล้องกับเกมในปัจจุบันได้ดีทีเดียว ถ้ามองในแง่ของการเล่นเกม เหมาะกับเกมเบาๆ บนความละเอียด Full-HD ปรับ Medium Detail จะได้เฟรมเรตเฉลี่ยราวๆ 25-35fps. เป็นกราฟิกเริ่มต้นที่ดี เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คราคาเบาๆ ตอบโจทย์การใช้งานและเล่นเกมพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้
Radeon 760M
Radeon 760M มาในพื้นฐานของ RDNA 3 เช่นกัน จะเป็นกราฟิกบนซีพียูรุ่นกลาง มีมาในซีพียูตั้งแต่ AMD Ryzen 5 8040U ไปจนถึง Ryzen 5 8040HS และเพิ่มเติมทั้งในส่วนของชุด Shader เข้ามาเป็น 512 ชุด รวมถึง RT core เพิ่มเป็น 8 ชุด โดยมีสัญญาณนาฬิกาเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย เมื่อเทียบกับ Radeon 740M ในแง่ของการเล่นเกม จะเน้นไปที่เกมพื้นฐาน ไม่ใช้ทรัพยากรที่หนักมากนัก บนโหมดความละเอียด Full-HD 1080p ปรับกลางๆ จะได้เฟรมเรตระดับ 30fps. ขึ้นไป
Radeon 780M
Radeon 780M กราฟิกที่มากับซีพียู AMD ในกลุ่มของ Ryzen 7 และ Ryzen 9 ให้ประสิทธิภาพที่สูง โดยจะมีทั้งในซีพียู U และ HS series โดยใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3 บนกระบวนการผลิต 4 นาโนเมตร เช่นเดียวกัน พร้อมกับการเพิ่มเติมคุณสมบัติมาให้สูงกว่า Radeon 740M และ 760M ไม่ว่าจะเป็น Shader 768 ชุด และสัญญาณนาฬิกาที่พุ่งไปถึง 3GHz พร้อมกับการมี RT core 12 ชุดด้วยกัน กับค่า TDP สูงสุด 45W ดังนั้นจึงเป็นขุมพลังที่ทำให้การเล่นเกมบนกราฟิกรุ่นนี้ไหลลื่นมากขึ้่น โดยกราฟิกที่อยู่บนซีพียู Ryzen 7 และ Ryzen 9 8040HS สามารถตอบโจทย์ในการใช้กราฟิกพื้นฐานได้ดี และการเล่นเกมที่บางครั้ง ยังไม่ต้องพึ่งพากราฟิกแยก ที่มักจะติดตั้งมาบนโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Ryzen 9 อีกด้วย การเล่นเกมยังคงเหมาะกับความละเอียด Full-HD แต่ในบางเกมสามารถปรับเป็น High ได้ โดเฟรมเรตจะอยู่ที่ราวๆ 30-40fps. แต่ถ้าเล่นเกมทั่วไป ที่ไม่ได้ใช้สเปคที่สูงมากนัก ก็จะเพิ่มเฟรมเรตได้มากขึ้น นับว่าเป็นกราฟิกที่เหมาะทั้งบนโน๊ตบุ๊คจอใหญ่สำหรับทำงาน เล่นเกมและโน๊ตบุ๊คขนาดกระทัดรัด ที่ต้องการศักยภาพในด้านภาพและกราฟิกที่ดีขึ้น
ตัวอย่างผลทดสอบบน Radeon 7x0M
เพื่อให้เห็นศักยภาพของกราฟิก Radeon 7x0M จึงได้นำตัวอย่างผลทดสอบที่ได้บนซีพียู Ryzen 5 7540 ซึ่งใช้กราฟิก Radeon 740M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3 เช่นเดียวกัน โดยซีพียูถือว่ามีความใกล้เคียงกับ AMD Ryzen 8040 อยู่ไม่น้อยทีเดียว มาชมกันว่าสามารถให้ประสิทธิภาพ ทั้งในแง่ของงานกราฟิก และการเล่นเกมได้มากน้อยเพียงใด โน๊ตบุ๊คที่ใช้ในการทดสอบจาก HP Pavilion Plus 14 มาพร้อมซีพียู AMD Ryzen 5 7540U แรม DDR5 16GB และกราฟิก Radeon 740M
Corona Bench กับการทดสอบในด้านงานเรนเดอร์กราฟิก ซึ่งใช้พลังทั้งจากซีพียูและกราฟิกร่วมกัน ทำได้ที่ 2,807,801 rays/s
Geekbench กับการทดสอบในแง่ Graphic OpenCL score สามารถทำได้ที่ 10803 คะแนน
3Dmark Fire Strike และ Time Spy เป็นการทดสอบบนโหมดความละเอียด 1920×1200 pixels ให้ผลทดสอบได้ที่ 4370 คะแนน โดยที่ Graphic score ทำได้ 4729 คะแนน เรียกว่าคะแนนทำคะแนนได้ค่อนข้างน่าพอใจ แม้ว่าจะทิ้งห่างจากกราฟิกรุ่นพี่อย่าง Radeon 780M อยู่บ้างก็ตาม
สำหรับเกม PUBG ในการทดสอบบน Radeon 740M ยังไหลลื่นได้ดี บนความละเอียด Full-HD กับการตั้งค่า Medium หรือ High ก็ยังไหล ไปได้มากกว่า 60fps. บวกลบ ใครที่เป็นคอเกมแนวนี้ เล่นได้สบาย จะต่อจอใหญ่ๆ ให้เห็นภาพเต็มๆ ตาก็ทำได้
อีกเกมทดสอบอย่าง Spider-Man Remastered อาจจะเป็นเกมที่ใช้สเปคหนักอยู่บ้าง แต่การปรับให้เหมาะสม ก็ช่วยให้เล่นเกมได้ลื่นๆ เช่นกัน ตัวอย่างที่เราได้ทดสอบด้วยการปรับ Low settings เฟรมเรตขยับไปได้มากกว่า 50fps. ซึ่งหากเป็นตัวเกมที่มีภาพสวย เรนเดอร์ออกมาได้ดีอยู่แล้ว การตั้งค่า View Distance หรือระยะการเรนเดอร์ภาพไกลๆ ให้ลดลงบ้าง ก็ช่วยลดภาระของกราฟิกไปได้เยอะ ทำให้เฟรมเรตเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
ส่วนเกมอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นแนว Action, Adventure หรือแนว FPS อย่าง MOBA หรือ Casual อย่างเกม DOTA2 สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นกับการปรับโหมด Medium หรือ High บนความละเอียด Full-HD ได้ไม่ยาก
5 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมขุมพลัง AMD Radeon 8040 series
1.Asus ROG Zephyrus G14 GA403UU
- Display: 14″ 2.8K, OLED, 120Hz
- CPU: AMD Ryzen 9 8945HS
- RAM: LPDDR5x 16GB
- SSD: M.2 PCIe 4.0 1TB
- Graphic: AMD Radeon™ 780M
- RTX4050
- Battery: 4 cell Li-Ion 73Wh
- Weight: 1.50Kg
มาถึงเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ใช้ขุมพลัง Ryzen 8040 series ที่ให้ประสิทธิภาพตอบโจทย์คอเกมได้เป็นอย่างดี ด้วยบอดี้กระทัดรัด ในสไตล์ของโน๊ตบุ๊ค 14″ แต่ก็ให้พลังการทำงานที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู Ryzen 98945HS ทำงานในแบบ 8 core/ 16 thread ความเร็วสูงสุด 5.20GHz มาพร้อม AMD Ryzen AI โดยมีแรม LPDDR5x 16GB ในแบบออนบอร์ดมาให้ โดยมีกราฟิก 2 ส่วนด้วยกันคือ กราฟิกแยก และกราฟิก Radeon 780M ที่มาบนซีพียู หน้าจอความละเอียด 2.8K 1800p รีเฟรชเรต 120Hz จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับคอเกม หรือคนทำงาน สายครีเอเตอร์ ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คพกพา ในการเดินทางและสร้างสรรค์งาน รวมถึงการเล่นเกมได้ในทุกที่
ราคา: 57,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS
2.Acer Nitro V 16 ANV16
- Display: 16″ 1200p, IPS, 165Hz
- CPU: AMD Ryzen 7 8745HS
- RAM: DDR5 16GB
- SSD: M.2 PCIe 4.0 512GB
- Graphic: AMD Radeon™ 780M
- RTX4050
- Battery: 3 cell Li-Ion 57Wh
- Weight: 2.50Kg
อีกหนึ่งเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมขุมพลัง AMD Ryzen 7 8845HS ตัวแรง แต่ราคาเป็นมิตร จับต้องได้ง่าย เปิดที่ 3 หมื่นกว่าบาท แต่ในสเปคที่แรงเอาใจคอเกมเน้นเล่นเป็นหลัก จอใหญ่ระดับ 16″ 1920×1200 รีเฟรชเรตสูง 165Hz กับบอดี้ที่ดูสะดุดตา คีย์บอร์ดไฟ Backlit และพลังเสียงเร้าใจ ได้แรม DDR5 16GB และ SSD 512GB เป็นแบบ M.2 PCIe มีสล็อตอัพเกรดเพิ่มได้ โดยมีทั้งการ์ดจอ Integrate Radeon 780M และการ์ดจอแยก เพื่อคอเกมได้อิ่มเอมกับการเล่นได้มากขึ้น พอร์ตต่อพ่วงให้มาแบบครบครัน น้ำหนัก 2.5Kg ให้การรับประกัน 3 ปี
ราคา: 37,900
ข้อมูลเพิ่มเติม: Acer
3.MSI Katana A17 AI B8VG
- Display: 17.3″ 1080p, IPS, 144Hz
- CPU: AMD Ryzen 9 8945HS
- RAM: DDR5 16GB
- SSD: M.2 PCIe 4.0 512GB
- Graphic: AMD Radeon™ 780M
- RTX4070
- Battery: 3 cell Li-Ion 53.5Wh
- Weight: 2.70Kg
อีกหนึ่งเกมมิ่งจอใหญ่สายโหด ที่มากับขุมพลัง Ryzen 9 8945HS ตัวท็อป จัดหนักทั้ง Core/ Thread จำนวนมาก เพื่อการเล่นเกมและการทำงานแบบเต็มกำลัง เช่นเดียวกับกราฟิก ที่มีทั้ง Radeon 780M และการ์ดจอแยกมาในตัว ดีไซน์ในสไตล์ที่ดุดัน ทั้ง Cover ที่บางเฉียบ และบานพับที่แข็งแกร่ง เน้นความโดดเด่นที่คีย์บอร์ด Full-size เพิ่มแสงไฟ RGB แบ่งเป็นโซน ให้ดูสะใจ หน้าจอใหญ่ 17.3″ FHD รีเฟรชเรต 144Hz เติมความลื่นไหลให้กับการเล่น กับการระบายความร้อน ที่ออกแบบมาเพื่อคอเกมเล่นกันยาวๆ เช่นเดียวกับระบบเสียง อันเป็นเอกลักษณ์ ให้แรมมาแล้ว 16GB DDR5 ส่วนพอร์ตต่อพ่วงจัดมาอย่างครบครัน น้ำหนักอาจจะเยอะไปบ้าง ตามขนาดของบอดี้และจอ จึงน่าจะเหมาะกับการใช้แทนคอมตัวเก่า ประหยัดพื้นที่ แต่ได้ความแรงสะใจ ราคาเปิดมา 59,990 บาท
ราคา: 59,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI
4.Asus TUF Gaming A15 FA507UI
- Display: 15.6″ 1080p, 144Hz
- CPU: AMD Ryzen 9 8945HS
- RAM: DDR5 16GB
- SSD: M.2 PCIe 4.0 1TB
- Graphic: AMD Radeon™ 780M
- RTX4070
- Battery: 4 cell Li-Ion 90Wh
- Weight: 2.20Kg
มากันอีกรุ่นสำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสุดโหดอีกรุ่นที่จับเอาซีพียู AMD Ryzen 9 8945HS ตัวท็อปกับแรม DDR5 16GB รวมถึง SSD PCIe 4.0 1TB เข้ามาไว้ในตัว พร้อมกราฟิก Radeon 780M และมีการ์ดจอแยกมาเร่งสปีดความแรง ให้เฟรมเรตพุ่งทะยาน บนบอดี้ที่ยังคงสไตล์ความเป็นเกมมิ่งไว้อย่างชัดเจน บนหน้าจอ 15.6″ Full-HD 144Hz ให้คุณสามารถเล่นเกมได้แบบลื่นๆ ภาพไหลสบายตากับคีย์บอร์ดไฟ RGB แบบโซนเดียว ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้อีกทางหนึ่ง การปรับแต่งโหมดสำหรับการเล่นเกม ผ่านทางซอฟต์แวร์ ทำให้ ASUS รุ่นนี้น่าใช้มากขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ที่ต้องการจัดเต็มกับระบบในราคา 5 หมื่นปลายๆ
ราคา: 59,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS
5.Asus Zenbook 14 OLED UM3406HA
- Display: 14″ 1800p, OLED, 120Hz
- CPU: AMD Ryzen 7 8740HS
- RAM: LPDDR5x 16GB
- SSD: M.2 PCIe 4.0 1TB
- Graphic: AMD Radeon™ 780M
- Battery: 4 cell Li-Ion 75Wh
- Weight: 1.22Kg
ออกแบบมาสำหรับคนทำงาน และครีเอเตอร์ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คให้พลังตอบโจทย์ด้านงานกราฟิก และการเรนเดอร์ได้ดีมากขึ้น ภายใต้บอดี้กระทัดรัด พกพาสะดวก เนื่องจากมาในไซส์ของโน๊ตบุ๊คจอ 14″ แต่ให้ขุมพลังระดับ AMD Ryzen 7 8840HS เลยทีเดียว ได้ทั้งการประมวลผลขั้นสูง กับซีพียูตัวแรง ยังมีกราฟิก Radeon 780M มาในตัว และแรม LPDDR5x 16GB มาแล้ว ที่สำคัญยังเป็นจอ OLED ที่สามารถกางได้ 180 องศา สีสันสดใส ให้ความคมชัดสูง เพราะให้มาเป็น 1800p ความสว่างระดับ 600-nits แต่น้ำหนักเพียง 1.2Kg เท่านั้น แม้จะบาง แต่ก็ยังมีพอร์ตสำคัญจัดมาให้ครบ เช่นเดียวกับ AI จาก AMD Ryzen AI ในตัว กับแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้แบบยาวๆ อีกด้วย กับราคา 39,990 บาท
ราคา: 39,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS
ซื้อโน๊ตบุ๊ค 2024 ให้ตรงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ต้องมี AI ด้วย AMD Ryzen AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ
เลือกโน๊ตบุ๊ค 2024 มี AI ดีอย่างไร ใช้ประโยชน์แบบใดได้บ้างกับ AMD Ryzen 8040 series
