เปรียบเทียบ 3 สุดยอด AI ที่คุณสามารถใช้งานได้แบบฟรีๆ (และเสียเงินเพิ่มความสามารถ) ในโลกปัจจุบัน จะเป็นเช่นไรนั้นไปติดตามกันได้เลย
ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมานั้นหลายๆ ท่านคงทราบดีว่าเราได้เข้าใกล้และใช้งาน AI หรือปัญญาประดิษฐ์กันมากขึ้นจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ ChatGPT ที่เป็น AI ซึ่งเราๆ ท่านๆ สามารถที่จะคุยกับมันเพื่อที่จะให้มันช่วยหาคำตอบต่างๆ ให้กับเราได้(หรือแม้กระทั่งคุยเล่นกับเราได้) ซึ่งหากจะว่าไปจริงๆ แล้วเราได้อยู่กับ AI มาก่อนหน้านั้นไม่ว่าจะเป็นน้อง Siri ของทาง Apple หรือเป็น Bixby ของทาง Samsung ซึ่งเราๆ ท่านๆ สามารถเข้าถึงผ่านทางสมาร์ทโฟนของ Apple และ Samsung ได้โดยตรง
อย่างไรก็ตามหลังจากการเปิดตัวของ ChatGPT เมื่อ 2 – 3 ปีที่ผ่านมาและเกิดกระแสของ AI มากขึ้น นั่นทำให้เราได้เห็นการพัฒนาอย่างรวดเร็วของ AI ที่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับเราๆ ท่านๆ ได้จากทางฝั่งผู้พัฒนาชื่อดังอย่าง Microsoft ที่ล่าสุดได้ทำการเปิดตัว Microsoft Copilot และ Google ที่ได้ทำการเปิดตัว Google Gemini ในช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมาและเริ่มเปิดให้ใช้งานอย่างจริงจังในปี 2024 นี้จนทำให้เกิดกระแสของ AI กลับมาอีกครั้งกับ 3 AI หลักชื่อดังอย่าง ChatGPT, Microsoft Copilot และ Google Gemini ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกระแสของโมเดล AI เจนเนอเรชั่นใหม่ที่เข้ามาในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถรับข้อความแจ้งของคุณและให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนใคร
AI ทั้ง 3 เหล่านี้มาพร้อมกับความสามารถหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นช่วยคุณสร้างอีเมล, ประมวลผลข้อมูลหรือค้นคว้าข้อมูลออนไลน์และพวกมันยังมีประโยชน์มหาศาลแม้ในบริบทของการเข้าถึง นอกไปจากนั้นเนื่องจากระบบ AI ทั้งหมดนี้คล้ายกันเป็นอย่างมากจึงเป็นเรื่องที่ยากมากว่าจะเลือกว่าระบบใดดีที่สุด ดังนั้น เรามาวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่าง AI ทั้ง 3 ตัวนี้กันว่าตัวไหนจะเหมาะกับการใช้งานแบบใดดีกว่า จะเป็นเช่นไรนั้นไปติดตามกันได้เลย
- สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ AI
- GPTs คืออะไร
- ChatGPT
- Microsoft Copilot
- Google Gemini
- คุณควรใช้ AI อันไหน
สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ AI
สิ่งสำคัญที่ต้องทราบก่อนอื่นคือในปัจจุบันนี้ยังไม่มี AI อะไรรวมถึง 3 AI เหล่านี้ที่สามารถคิดได้เอง พวกมันเป็นเพียงอัลกอริธึมที่ถูกฝึกให้เชื่อมโยงคำและประโยคเข้าด้วยกันตามสิ่งที่พวกมันได้ถูกทำการเรียนรู้จากผู้พัฒนามา(โดยขึ้นอยู่กับว่าจะเอาข้อมูลใดมาเป็นตัวหลักในการทำการเรียนรู้) AI ต่างๆ เหล่านี้ไม่มีการดำเนินการใดๆ กับโมเดลที่เป็นต้นกำเนิดซึ่งนั่นทำให้ AI เหล่านี้พูดคุยกับคุณโดยการสร้างเอาต์พุตตามอินพุตที่คุณใส่เข้าไปเพื่อประมวลผล(หรือเอาง่ายๆ ก็คือคุณถามอะไรไปมันก็จะตอบคำถามคุณในสิ่งที่คุณถามจากสิ่งที่มันได้ทำการเรียนรู้มาไว้เท่านั้น)
AI ไม่ได้น่ากลัวเหมือนในภาพยนตร์
ในทำนองเดียวกัน เมื่อ AI เกิดอาการคล้ายตอบแบบหลุดลอยไปและเริ่มดูถูกผู้ใช้ นั่นไม่ใช่เพราะว่ามันมีความรู้สึกไม่พอใจอย่างแท้จริง อินเทอร์เน็ตเป็นสถานที่ที่กว้างใหญ่และแม้กระทั่งเมื่อนึกถึง Tay จาก Microsoft เมื่อหลายปีก่อน การฝึกอบรม AI เกี่ยวกับเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นทางออนไลน์จะพาพวกเขาค้นพบมุมลบของอินเทอร์เน็ตและเรียนรู้จากข้อมูลเหล่านั้นเข้าไปด้วย ผลก็คือ AI สามารถที่จะอยู่ๆ ก็กลายเป็น AI ใจร้ายจอมร้ายกาจที่ด่าคุณได้ เพราะมันก็เรียนรู้มาจากคำตอบของมนุษย์ที่สามารถใจร้ายตอบคำถามในเชิงประชดประชันดูหมิ่น ฯลฯ ได้เช่นกัน ดังนั้น Bing Chat (ก่อนหน้านี้เรียกว่า Copilot) ไม่ใช่การกลับมาครั้งที่สองของ Skynet เมื่อมันถูกดูถูกผู้ใช้บ่อยครั้งเพราะมันไม่ได้คิดเองแต่คุณแค่ดันโชคไม่ดีที่ถามไปจนมันไปค้นเอาคำตอบแย่ๆ ที่เราๆ ท่านๆ เองอาจจะเคยกระทำเอาไว้ในโลกของอินเทอร์เน็ตที่ซึ่ง AI ส่วนใหญ่ใช้ในการเรียนรู้ข้อมูลเพื่อเอามาตอบเราๆ ท่านๆ
GPTs คืออะไร
ก่อนที่จะพูดคุยเกี่ยวกับแชทบอทต่างๆ ทั้งหมดนั้นสิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า Generative Pre-trained Transformers (หรือ GPT) คืออะไร AI ประเภทนี้นี้เป็นตระกูลโมเดลภาษาที่พัฒนาโดย OpenAI ซึ่งได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับข้อมูลข้อความจำนวนมหาศาลและได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดสำหรับงานการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP หรือภาษาที่มนุษย์ใช้กันตามธรรมชาติของมนุษย์)
GPT เวอร์ชันล่าสุดที่มีชื่อว่า GPT-4 ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อน Microsoft Copilot และสามารถเข้าถึงได้ด้วย ChatGPT Plus OpenAI ทั้งนี้มันยังคงค่อนข้างลำบากเมื่อพูดถึงการแบ่งปันรายละเอียดทางเทคนิคเกี่ยวกับ GPT-4 แต่ GPT-3.5 ซึ่งจุดชนวนความคลั่งไคล้ในการสร้างข้อความ AI และพลังของ ChatGPT ได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับข้อความธรรมดาขนาด 570GB ที่รวบรวมจากวิกิพีเดียภาษาอังกฤษ, หนังสือและการรวบรวมข้อมูลเว็บจากหลายๆ แหล่ง
สำหรับ Gemini นั้นจะใช้โมเดลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Google ที่เรียกว่า Gemini ที่แบ่งออกเป็นสามส่วน ได้แก่ Gemini Nano, Gemini Pro และ Gemini Ultra ทั้งนี้ Gemini ปกติใช้รุ่น Gemini Pro และ Gemini Advanced ใช้รุ่น Gemini Ultra
ChatGPT
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรู้จักคือ ChatGPT เป็นสิ่งที่ทำให้การสร้างข้อความโต้ตอบจาก AI น่าสนใจ การทำซ้ำครั้งล่าสุดนั้นใช้ ChatGPT-3.5 ซึ่งสามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวางและฟรีสำหรับทุกคนบนเว็บไซต์ของ OpenAI แม้ว่าบางครั้งคุณอาจต้องรอให้เซิร์ฟเวอร์ว่างเพื่อสร้างการตอบกลับหากคุณใช้แบบฟรี ส่วน ChatGPT Plus เป็นระดับที่ต้องชำระเงินซึ่งให้คุณเข้าถึง GPT-4 ได้ แม้ว่าเราจะพูดถึงในภายหลัง แต่คุณก็ยังสามารถเข้าถึง GPT-4 ผ่าน Microsoft Copilot ได้เช่นกัน
ข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดของ ChatGPT คือการไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในวงกว้างได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม Google Bard และ Microsoft Copilot จึงเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลมากกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการค้นคว้าข้อมูล อย่างไรก็ตาม OpenAI ได้ประกาศปลั๊กอินเพื่อช่วย ChatGPT เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตที่กว้างขึ้น มันขยายขีดความสามารถอย่างมากเพื่อให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้นในพื้นที่นี้และสามารถวิจัยกับ Bing เป็นค่าเริ่มต้นและเข้าถึง URL ได้
จากการใช้งานของเราพบว่า ChatGPT เวอร์ชันฟรียังค่อนข้างดีอยู่ แต่ว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว ChatGPT ยังคงมีข้อได้เปรียบตรงที่ใช้งานง่าย, เปิดสำหรับทุกคน, เหมาะสำหรับการสร้างข้อความและมีข้อได้เปรียบจากผู้เสนอญัตติโดยธรรมชาติแต่มันไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการหารข้อมูลชั้นสูงที่จะนำไปใช้เพื่อการศึกษาวิจัยอย่างจริงจัง เนื่องจากข้อมูลการฝึกอบรม ChatGPT นั้นจะไม่รวมข้อมูลใดๆ หลังจากเดือนเมษายน 2023 ทว่าแต่กระนั้นมันก็ยังเป็นรากฐานที่มั่นคงเพื่อใช้เมื่อคุณต้องการทำงานให้เสร็จอย่างรวดเร็ว
Microsoft Copilot
Microsoft Copilot เป็นหนึ่งในวิธีเข้าถึง GPT-4 ฟรีในขณะนี้และใครๆ ก็สามารถใช้งานได้ มันสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตส่วนที่เหลือได้และจะค้นหาแหล่งที่มาของสิ่งที่พบเพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ให้มาได้ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะตรวจสอบการอ้างอิง แต่มันก็ยังดีกว่า ChatGPT ที่จะพ่นข้อมูลใส่คุณโดยไม่มีทางรู้ว่ามันมาจากไหน คุณยังสามารถเลือกรูปแบบการสนทนาโดยขอให้มันสร้างสรรค์มากขึ้น, สมดุลมากขึ้นหรือแม่นยำยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคือ Microsoft มีการสร้างอิมเมจ ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสำหรับการใช้งานทั่วไปแบบ Midjourney หรือตั้งค่าอินสแตนซ์ในเครื่องของ Stable Diffusion ปัจจุบันนี้ Microsoft Copilot เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเข้าถึงโมเดลการสร้างภาพ DALL-E 3 ล่าสุดได้ฟรี
อย่างไรก็ตาม Microsoft Copilot ยังไม่สมบูรณ์แบบและมีข้อจำกัดมากมายที่คุณต้องระวัง เนื่องจากปัญหาหลายประการที่ Bing Chat รุ่นก่อนจะดูถูกผู้ใช้หรือทำให้คำตอบที่คุณจะได้รับนั้นทำให้คุณรู้เกิดความรู้สึกแปลกไปเล็กน้อยได้บ้าง ดังนั้น Microsoft จึงกำหนดขีดจำกัดการแชทรายวันโดยได้มีการจำกัดจำนวนข้อความทั้งหมดในการสนทนา ซึ่งจำกัดว่า Microsoft Copilot สามารถทำงานผิดปกติได้มากเพียงใด(ขีดจำกัดนี้อาจเป็นเพราะเหตุผลบางประการในการประหยัดต้นทุนในตอนท้ายของ Microsoft)
Microsoft ได้ขยาย Copilot ให้ทำงานบนเบราว์เซอร์อื่นๆ เช่น Chrome และ Safari และได้เปิดตัวแอปมือถือโดยเฉพาะซึ่งทำงานได้ค่อนข้างดี ด้วย Copilot Pro ที่เพิ่งเปิดตัว คุณจะสามารถรวมเข้ากับการสมัครใช้งาน Microsoft 365 ของคุณเพื่อสร้างสไลด์, เอกสารและอื่นๆ อีกมากมาย หากคุณมีความคิดสร้างสรรค์ มันอาจจะคุ้มค่าที่จะลองใช้งาน
Microsoft Copilot for Android
Microsoft Copilot for iOS
จุดแข็งของ Microsoft Copilot คือโมเดลภาษาขั้นสูงกว่าเล็กน้อยและคุณยังสามารถเลือก “สไตล์” การสนทนาให้แม่นยำยิ่งขึ้น, สร้างสรรค์ยิ่งขึ้นหรือสมดุลระหว่างทั้งสองได้ อย่างไรก็ตาม มันล้าหลังเล็กน้อยเนื่องจากมีข้อจำกัด Microsoft Copilot เป็นส่วนเสริมของเครื่องมือค้นหา Bing ดังนั้นจึงเหมาะที่สุดสำหรับการวิจัย แบรนด์ “Copilot” มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก Microsoft ใช้งานมันโดยการอ้างอิงจากฐานข้อมูลใหญ่ๆ ทั้งบน Windows และ GitHub รวมถึงผู้ช่วย AI หลายๆ ตัวที่ถูกนำมาประกอบเข้าด้วยกันด้วย
Google Gemini
Google Gemini เติบโตขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัว มันไม่ได้จำกัดอยู่เพียงไม่กี่ภูมิภาคอีกต่อไปและสามารถเข้าถึงได้ทั่วโลกส่วนใหญ่ รวมถึงในเมืองไทยของเราๆ ท่านๆ ด้วย เจ้า Google Gemini ไม่เพียงแต่ปรับปรุงความพร้อมใช้งานเท่านั้นแต่โดยรวมแล้วเจ้า Google Gemini ยังดีขึ้นในส่วนของการใช้งานแบบทั่วไปอีกด้วยต่างหาก
ความแตกต่างระหว่าง Google Gemini และคู่แข่งคือ Google ใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเพื่อขับเคลื่อนแชทบอท Google Gemini เนื่องจากเทคโนโลยีเริ่มแรกที่ใช้นั้นขึ้นอยู่กับ Transformer ของบริษัทที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2560 ซึ่งมีชื่อว่า LaMDA ที่ทาง Google พัฒนาเองนั้นได้สร้างขึ้นบนฐานของ Transformer และ Bard มารวมกันจนมันถูกทำให้กลายเป็นส่วนขยายของ LaMDA ที่บริษัทตั้งใจทำขึ้นมาเล่นๆ ทั้งนี้เมื่อสองสามปีที่แล้วที่งาน Google I/O จากสิ่งที่ผู้ใช้บางคนเห็นตั้งแต่เริ่มต้น ดูเหมือนว่าจะเจ้า LaMDA นั้นจะล้าหลังเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่คนอื่นกำลังทำอยู่ในปัจจุบัน บริษัท Google ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อพูดถึงข้อมูลที่ผิดและการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่สถานการณ์ก็ดีขึ้นอย่างมากหลังจากการมาของ Google Gemini
Google ตกต่ำอย่างน่าประหลาดใจในช่วงแรกๆ แต่ก็ไม่ได้ต้องการให้สถานะมันคงอยู่เป็นผู้ตามอย่างนั้น ดงันั้น Bard จึงได้รับการโฆษณาว่าเป็น “ส่วนเสริม” ของ Search แต่ต่อมาได้รับการประกาศว่าจะรวมเข้ากับ Google Assistant บนสมาร์ทโฟนบางรุ่น ดูเหมือนว่าบริษัทจะไม่มั่นใจใน Bard ในตอนแรก แต่ดูเหมือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงด้วยการเปิดตัวโมเดลภาษา Gemini ซึ่งขณะนี้มีให้บริการในสหรัฐอเมริกาและภูมิภาคอื่นๆ บางส่วน(รวมถึงเมืองไทยของเราด้วยเช่นเดียวกัน)
Gemini ได้ถูกปล่อยให้ใช้ในวงกว้างแล้วหลังจากการรีแบรนด์ครั้งใหญ่จาก Google และมาพร้อมกับ Google ที่มีความมั่นใจมากขึ้น ขณะนี้ Google One มีระดับ “AI Premium” ซึ่งมาพร้อมกับ Gemini Advanced และพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ขนาด 2TB ซึ่งจะรวม Gemini เข้ากับชุดแอปพลิเคชันของ Google เช่น Word, Slides และ Sheets เมื่อเปิดตัว Gemini เป็นเพียง Bard ในชุดที่แตกต่างกัน ดังนั้นมันจะค่อนข้างคล้ายกับสิ่งที่คุณคาดหวังในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ Gemini Advanced เป็นโมเดลใหม่ทั้งหมดที่บริษัทเพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ซึ่งแน่นอนว่ามันดีกว่าและเจ๋งกว่า Gemini ตัวธรรมดาเป็นอย่างมาก(ก็แน่นอนล่ะเพราะคุณต้องเสียเงินเพื่อที่จะใช้งานมัน)
คุณควรใช้ AI อันไหน
หากคุณคิดที่กำลังจะใช้โมเดล AI เจนเนอเรชั่นใหม่ Google Gemini นั้นดีที่สุดสำหรับ AI ที่โต้ตอบได้แบบต้องเสียเงินสำหรับผู้ใช้ที่มีกำลังทรัพย์ทุกๆ คน จริงๆ แล้วนั้นหากเป็นสมัยก่อนแล้วล่ะก็เราคงแนะนำ ChatGPT หรือ Microsoft Copilot มากกว่า แต่ทว่าขีดจำกัดการเทิร์นของ Microsoft Copilot ยังคงทำให้มันดูยังไม่น่าที่จะเหมาะเท่าไรนักหากคุณต้องการทำการใช้งานแบบนานๆ ทั้งวัน ส่วน Bard หรือ Gemini นั้นไม่มีการจำกัดเทิร์นและด้วยการอัปเดตเป็น Gemini นั่นเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในการสร้างความน่าเชื่อถือและเกิดกระแสต่อความโปรดปรานในการใช้งานของมัน
สิ่งที่น่าแปลกใจคือครั้งหนึ่ง Google Bard อยู่ไกลเกินไปที่จะได้รับการพิจารณาเป็นทางเลือกแต่ทว่าในตอนนี้เหตุผลที่ Bard ชนะใจเราได้ก็คือในเรื่องของการเขียนโค้ด แม้ว่าการวิจัย, การเขียนและการพิสูจน์อักษรจะดีเยี่ยม แต่ก็ช่วยได้มากเมื่อทางต้องการการตรวจการตรวจสอบหรือให้ AI เขียนโค๊ดโปรแกรมภาษา Python ให้ การอัพเกรด Google Gemini นั้นได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นในทุกด้านเช่นกัน
แต่หากคุณมีกำลังทรัพย์มากแบบไม่ติดอะไรและต้องการใช้จ่ายเงินเหล่านั้นเพื่อเข้าถึง AI ที่ดีกว่า การแนะนำของเรานั้นมันก็พลิกหัวกลับไปทาง Copilot Pro แทนซึ่งมันนั้นยอดเยี่ยมสำหรับนักสร้างสรรค์ที่ต้องการรวม AI เข้ากับขั้นตอนการทำงานของคุณและ ChatGPT Plus นั้นยอดเยี่ยมสำหรับนักพัฒนาและนักวิเคราะห์ข้อมูลที่ต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับแผนภูมิ, ตารางและสถิติ Gemini Advanced อาจให้คำตอบที่ดีในรูปแบบข้อความ แต่หากคุณจ่ายเงินให้กับ AI อาจมีสิ่งที่คุณต้องการมากกว่าแค่เครื่องมือโต้ตอบข้อความ การผสานรวมเข้ากับชุดแอปของ Google จะดีมากซึ่ีงคุณสามารถที่จะเลือกซื้อได้ตามกำลังทรัพย์และความต้องการของคุณผ่านทาง Google On(อย่างไรก็ตามเวอร์ชันฟรีก็ยังดูน่าสนใจและน่าจะเพียงพอดีอยู่แล้วสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป)
สำหรับ AI ที่ปลอดภัยที่สุดในปัจจุบันนั้นคงต้องยกให้ ChatGPT เป็นผู้นำ การค้นคว้าหัวข้อใหม่ๆ ด้วยเครื่องมือ AI เช่น Gemini และ Microsoft Copilot เป็นสูตรสำเร็จของหายนะดังที่เราได้เห็นมาแล้ว ในขณะที่ ChatGPT นั้นยอดเยี่ยมในการช่วยคุณเขียนอีเมลหรือพัฒนาแนวคิด Microsoft Copilot และ Bard(หรือ Google Gemini ในปัจจุบัน) ต่างก็มีประโยชน์ในการแสดงแหล่งที่มาให้คุณเห็นเป็นอย่างน้อย แต่ปริมาณการค้นหาที่จำกัดของ Microsoft Copilot นั้นส่งผลเสียอย่างมาก และ Gemini ยังสามารถดึงแหล่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออกมาได้ ทั้งสองไม่ได้แย่เหมือนเมื่อก่อน แต่ ChatGPT เป็นตัวช่วยที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้ ซึ่งหากคุณใช้ AI ฟรีสำหรับการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ