เลือกโน๊ตบุ๊ค AMD ที่มี AI ตอบโจทย์ครีเอเตอร์ เพื่อการสร้างสรรค์งานยุคใหม่ ได้ทั้งการทำงานและการเล่นเกม
โน๊ตบุ๊ค AMD ที่มี AI ให้ประโยชน์กับการใช้งานทั้งในปัจจุบัน และอนาคต เพราะนอกจากช่วยในการสร้างสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ สร้างรูปในแบบที่คุณจินตนาการได้ ยังช่วยแต่งเพลง เขียนโปรแกรม ไปจนถึงสร้างพรีเซนเทชั่น หรือทำวีดีโอตามแต่การพัฒนาของ AI Generator แต่ละที่จัดทำเอาไว้ ซึ่งนั่นก็ทำให้ลดเวลาในการทำงานของคุณลง รวมถึงอุดช่องว่างของปัญหาในเรื่องที่คุณไม่ถนัด AI จะเข้ามาช่วยออกแบบ และสร้างงาน ให้คำปรึกษากับคุณได้ เพียงแค่คุณเรียนรู้และทำความเข้าใจในกระบวนการทำงานของ AI Generator เหล่านั้น ซึ่งในปัจจุบัน
ประโยชน์ของการเลือกโน๊ตบุ๊คมี AI
AMD Ryzen 8040 series ซีพียูมาพร้อม AI ในตัว
ซีพียู AMD Ryzen 8040 series นับเป็นก้าวใหม่ของตลาดซีพียูโน๊ตบุ๊คในช่วงที่การพัฒนาของ AI รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว และเริ่มแพร่หลายในการทำงานด้านต่างๆ ดังนั้นการที่ซีพียูมาพร้อม AI ในตัวอย่าง AMD Ryzen AI ที่กลายเป็นแรงผลักดันให้การทำงานร่วมกับ AI Generator และการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของการทำงาน ซอฟต์แวร์ และการเล่นเกมเป็นไปอย่างราบลื่น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว อย่าง Windows Studio Effects ในการร่วมกับกล้องเว็บแคม ปรับภาพและการโฟกัสหน้าผู้พูดได้ชัดเจน, Topaz Labs หรือที่ใกล้ตัวของหลายๆ คน เช่นงานตัดต่อวีดีโอและแต่งภาพผ่านทางซอฟต์แวร์ค่าย Adobe ก็ยังมี AI มาให้ใช้ คุณแทบจะไม่ต้องไปออกแบบหรือคติดเองให้ซับซ้อน ซอฟต์แวร์สามารถปรับปรุงภาพหรือวีดีโอได้ตามต้องการ เช่นเดียวกับ Davinci Resolve ก็เช่นกัน
เป็นซีพียูในกลุ่มโมบายที่ทาง AMD เปิดตัวใหม่ ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ Notebook โดยเฉพาะ โดยที่ AMD Ryzen 8040 series นี้ เป็นการเพื่อไลน์ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องของกระบวนการผลิต ก้าวสู่สถาปัตยกรรม Zen 4 ที่ 4nm FinFET เป็นที่เรียบร้อยบนโน๊ตบุ๊ค โดยจุดที่เห็นเด่นชัดที่สุด เป็นเรื่องหน่วย NPU สำหรับงานด้าน AI ที่ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพขึ้นมา ซึ่งก็สอดคล้องกับในการเปิดตัว ที่เน้นพูดถึงงานด้าน AI และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับเมื่อใช้ชิปในซีรีส์นี้เป็นหลัก หากดูตามสเปคของซีพียู Ryzen 8040 series ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน
- AMD Ryzen 3: ที่มี AMD Ryzen 3 8440U ที่เป็นรุ่นรีเฟรชจาก Ryzen 3 7440U ซึ่งเป็นชิปที่มีค่า TDP เท่ากัน มี 4 คอร์ แบบ Zen 4 ผสมกับ Zen 4c เหมือนกัน และก็ยังคงใช้ GPU เป็น Radeon 740M เหมือนเดิม
- AMD Ryzen 5: ในซีพียู 8040 series มีด้วยกัน 4 รุ่น แบ่งเป็นรหัส HS สองรุ่นและรหัส U อีกสองรุ่น ทุกตัวมาพร้อมกับ 6 คอร์ 12 เธรดเท่ากัน จะมีแค่ Ryzen 5 8540U เท่านั้นที่ใช้คอร์แบบผสมเป็น Zen 4 กับ Zen 4c ซึ่งคอร์ Zen 4c จะเน้นเรื่องการใช้พลังงานที่ต่ำ เหมาะสำหรับใช้ประมวลผลงานเบา โหลดน้อย แต่ยังมีความสามารถและฟีเจอร์ต่าง ๆ เทียบเท่ากับคอร์ Zen 4 พื้นฐาน เหมาะกับกลุ่มโน๊ตบุ๊คขนาดเล็ก ความบางเบา พกพาสะดวก
- AMD Ryzen 7: มีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่นย่อย แบ่งเป็นกลุ่มที่ลงท้ายด้วยรหัส HS มุ่งเน้นประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานด้านครีเอทีฟ การเล่นเกม หรืองานที่ต้องใช้เครื่องสมรรถนะสูงขึ้นมา กับรุ่นที่ลงท้ายด้วยรหัส U ซึ่งเน้นเรื่องการประหยัดพลังงานกว่า สังเกตได้จากค่า TDP ในช่อง cTDP (AMD Configurable TDP) ที่ระบบสามารถปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ จะเริ่มที่ต่ำสุดเพียง 15W เท่านั้น
ส่วนรหัส HS จะเริ่มสอดคล้องกับ AMD Ryzen 9 แม้ชิปรหัส 8x40HS จะมีค่า TDP เท่ากับ 8x40U แต่สเปคในภาพรวม ยังถือว่าทำได้เหนือกว่า โดยเฉพาะเรื่องของการมีฟังก์ชั่น PBO ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นการโอเวอร์คล็อก ซึ่งชิปในซีรีส์ Ryzen 8040 ที่เปิดตัวมาทั้งหมดในขณะนี้
และที่เพิ่มเติมเข้ามาบนซีพียู AMD Ryzen 8040 series ใหม่นี้ ก็คือ แพลตฟอร์ม AMD Ryzen AI Software ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่จะให้นักพัฒนาสามารถสร้างและปรับจูนแอปพลิเคชันด้าน AI ของตนเองให้ใช้งานร่วมกับระบบ AI ภายในชิป AMD Ryzen ซีรีส์ 8040 และ 7040 ทำได้ง่ายขึ้น รีดใช้งานประสิทธิภาพได้เต็มที่ โดยในเวลานี้ก็รองรับโมเดลยอดนิยมอย่าง PyTorch, TensorFlow และ ONNX เรียบร้อยแล้ว
ในขณะเดียวกันรายชื่อพาร์ทเนอร์ที่ทำงานร่วมกับ AMD แล้ว ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ ๆ คุ้นหูคุ้นตากันหน่อยก็เช่น Adobe, Microsoft, OBS Studio, Zoom, ByteDance, iQIYI เป็นต้น สอดคล้องกับการออกฟีเจอร์ใหม่ของซอฟต์แวร์จากบริษัทเหล่านี้ ที่เรามักเห็นการนำ AI มาใช้ประโยชน์มากขึ้นเรื่อย
ข้อดีของการมี AI บน Notebook
บนโน๊ตบุ๊คที่มี AI นั้น จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลที่เรียกว่า NPU หรือ Neural Processing Unit หรือที่รู้จักกันในส่วนของการประมวลผลที่จำลองการรับข้อมูลในหลายๆ ทางแบบเดียวกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ของมนุษย์ แม้ว่าจะคล้ายกับการทำงานของซีพียู หรือ GPU แต่มีความละเอียดและทำงานในเชิงลึกร่วมกับอัลกอริทึมของ AI ได้ดีกว่า อาจกล่าวได้ว่าถ้าเป็นกลุ่มของซีพียู จะโดดเด่นในเรื่องของการประมวลผลที่ซับซ้อน ป้อนเข้ามาก็แปลออกไปได้รวดเร็ว แต่ NPU จะเน้นไปที่การเก็บข้อมูล เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ คล้ายกับการจำลองของตัวมนุษย์ที่ได้สัมผัส เข้าใจ และประมวลผลในสิ่งที่ค้นหา หรือเกิดขึ้น เพื่อเกิดเป็นประสบการณ์นั่นเอง จึงจะเห็นได้ว่า เวลาที่มีการใช้สิ่งที่เป็น AI Generator ระบบจะจัดหาข้อมูลที่เคยได้เรียนรู้จากสิ่งต่างๆ แล้วนำมาประมวลให้เกิดเป็นผล ตามที่ผู้ใช้ต้องการให้ได้มากที่สุด รวมถึงเงื่อนไข ที่เราจะต้องใส่เข้าไป เพื่อบอกกับ AI ถึงสิ่งที่คุณต้องการ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Prompt นั่นเอง
AI กับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ในการใช้งานทั่วไป สิ่งที่ดูเหมือนจะใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของหลายๆ คนก็คือ การค้นหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นสินค้า บริการ หรือการศึกษา ไปจนถึงการหาข้อมูลในการพิจารณา อย่างเช่น นักเรียน นักศึกษาต้องการข้อมูลอ้างอิง วิเคราะห์ในการทำการบ้าน ค้นหาสิ่งที่กำลังสนใจ การใช้ AI มาช่วยในการสรุปสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ด้วย AI Chat อย่าง ChatGPT, MS Copilot หรือจะเป็น Google Gemini, Jasper เหล่านี้เป็นตัวช่วยอย่างดี กับการใช้งานที่ง่าย และสามารถรวบรวมข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และยังมีที่มาให้เราเข้าไปค้นหาข้อมูลเชิงลึกต่อได้อีกด้วย หรือจะใช้ในการตอบ Chat หรือตอบเมล์ รวมถึงเขียน email ภาษาอังกฤษตอบแบบมืออาชีพในงานธุรกิจ AI Chat ก็ยังทำได้ ด้วย ChatGPT ให้อัตโนมัติ ด้วยการใช้ผ่าน และที่เห็นได้ชัดเจนในส่วนของการประชุมหรือ Video call คุณสามารถใช้ AI มาเป็นตัวช่วยในการปรับภาพ การโฟกัสและเบลอฉากหลัง ผ่านทาง Microsoft Studio Effect ได้อีกด้วย
การทำงานสำนักงานและซอฟต์แวร์
นอกจากเรื่องของการประชุมออนไลน์ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในด้านของภาพและวีดีโอ ให้มีความคมชัด ตัดเสียงรบกวนได้บนแพลตฟอร์มต่างๆ แล้ว AI ยังมีส่วนช่วยให้คุณสร้างเอกสาร หรือทำพรีเซนเทชั่นได้ง่ายกว่าเดิม อย่างเช่นการใช้ Copilot บน MS Office 365 เป็นต้น
ใครที่ใช้ MS Office 365 สามารถใช้งาน Copilot ในซอฟต์แวร์สำนักงานเหล่านี้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel หรือ Powerpoint ก็ตาม เช่น หากคุณมีไฟล์เอกสาร ที่ต้องการนำเสนอ อย่างเช่น Word ก็สามารถแนบไฟล์นี้ เข้าไปใน Copilot จากนั้นใส่ Prompt ที่บอกถึงแนวทางการนำเสนอ ระบบก็จะสร้างพรีเซนเทชั่นด้วย PowerPoint ให้ทันที แต่ทั้งนี้การทำสไลด์ก็จะมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนหน้าอยู่บ้าง และถ้าข้อมูลมากเกินไป เราจะต้องมาปรับแต่งในภายหลัง เพื่อความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ส่วนถ้าเป็น Excel นั้น เราสามารถเลือกข้อมูลที่สนใจ ให้ Copilot สร้างกราฟให้ หรือจะให้วิเคราะห์ข้อมูล ช่วงเวลา ตัวเลขหรือสร้างตารางสรุปมาให้ สิ่งนี้นำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายกว่าการเช็คข้อมูลด้วยตัวเอง แต่การกำหนด Prompt ก็ต้องสอดคล้องกับที่ต้องการด้วย
ส่วนอื่นๆ เช่น MS Word นอกจากใช้ Copilot ในการสร้างบทความให้แล้ว คุณยังให้ AI ช่วยคิดรูปแบบประโยคและหาข้อมูลมาเตรียมไว้ สำหรับการสร้างเนื้อหาได้ ประหยัดเวลาไปได้เยอะ เช่นเดียวกับ Outlook ที่ช่วยเคลียร์อีเมล์ และคัดมาเฉพาะเมล์ที่สำคัญๆ หรือระบุเป็นรายบุคคลได้ รวมถึงการตอบเมล์ในบางการสนทนาได้เช่นกัน
หรือถ้าไม่สะดวก หรือไม่ได้ใช้ MS Office อย่างเป็นทางการ แต่คุณอยากจะได้ผู้ช่วยที่เป็น AI ในการสร้างพรีเซนเทชั่นให้ดูโดดเด่น เรียกความเชื่อมั่นให้กับผู้ชมได้ ยังมี Canva AI มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น Magic Presentation สำหรับสร้างไฟล์นำเสนอที่ดูเป็นมืออาชีพ จะเพิ่มภาพเข้าไป สามารถใช้ Canva ในการสร้างภาพจาก AI ด้วยการป้อน Prompt เข้าไปได้ รวมถึงการทำหน้าปก ใน Canva เองก็รองรับด้วยเช่นกัน จัดว่าครบครันในหนึ่งเดียว เพียงแต่บางฟีเจอร์จะต้องสมัครเป็นพรีเมียมที่มีค่าใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่ก็คุ้มค่าถ้าคุณใช้งานแบบจริงจัง
การสร้างสรรค์งาน ภาพกราฟิกและ วีดีโอ
หากคุณเป็นสายงานด้านการสร้างสรรค์ งานครีเอเตอร์ AI เป็นเปลี่ยนกรอบความคิดเดิมๆ ของคุณไป ด้วยหลักการง่ายๆ หากคุณไม่ได้เป็นศิลปินที่วาดภาพเก่ง แต่จินตนาการภาพในหัวได้ นึกเป็นคำอธิบาย (Prompt) ออกมาได้ AI จะช่วยคุณสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาให้ บางครั้งอาจจะใกล้เคียงกับที่ต้องการ แต่บางทีก็เหนือความคาดหมายได้เช่นกัน และคุณสามารถสร้างสิ่งเหล่านั้น ผ่านทาง AI Generator ที่มีให้เลือกใช้มากมาย อาทิ Canva ที่จัดว่าเป็น AI ยอดฮิตใช้งานง่าย และมีฟีเจอร์ให้เลือกหลากหลาย สามารถนำงานไปใช้ได้ทันที หรือจะเป็น Midjourney ที่เป็นตัวจริงด้านการสร้างภาพ มีสตอรี่และรายละเอียดสูง เหมาะกับการทำงานจริงจัง starryai ก็เป็นสายทำงาน มีความชำนาญ เรียนรู้คำสั่งได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมี Freepik หรือ Stable Diffusion ที่ใช้วาดรูปได้ฟรี แค่เตรียม Prompt ให้ละเอียด และ AI สามารถเข้าใจได้ คุณก็จะออกแบบสิ่งที่จินตนาการไว้ได้อย่างสวยงาม
อย่างเช่น การวาดภาพบน Freepik คุณสามารถใช้ Prompot มาเป็นคำสั่งแบบง่ายๆ เช่น ต้องการวาดภาพอะไร เป็นแนวไหน มีองค์ประกอบใดอยู่ในภาพบ้าง รวมถึงสิ่งไหนสีอะไร คาแรกเตอร์ แอ็คชั่น บอกไว้ให้ครบ เช่นตัวอย่าง เราอยากให้ AI วาดภาพผีเสื้อ ที่บินเกาะอยู่บนดอกกุหลาบสีขาว ในมุมมองแบบกว้าง และภาพที่ได้ก็จะปรากฏบนตัวอย่างที่เห็นนี้
หรือจะเป็นการแก้ไขปรับแต่งภาพภาพ โปรแกรม AI อย่าง Adobe Photoshop ก็ช่วยแก้ไของค์ประกอบของภาพในแบบต่างๆ ได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นภาพที่เสียหาย มุมมองขาดหายไป อยากได้ภาพมุมกว้าง หรือการแก้ไขรูปภาพเก่าๆ ให้ดูมีสีสัน มีความคมชัดมากขึ้น ตัวอย่างเช่น รูปอาหาร หรือรูปที่คุณไปเที่ยว แล้วมีการ Crop ภาพ หรือภาพที่ถ่ายมาแคบเกินไป ใน Photoshop ให้คุณนำภาพนั้นมาใส่ Promot เพื่อให้ AI Generative ระบบจะสร้างมุมมองที่ขาดหายไป หรือสิ่งที่ควรจะเป็นโดยรอบวัตถุนั้นๆ แล้วเพิ่มขึ้นมาให้ หรือจะเป็นการแก้ไขภาพ เช่น ลบผู้คนในสถานที่ท่องเที่ยว ที่เดินกันขวั่กไขว่ให้เหลือแค่คุณคนเดียว ก็สามารถใช้พลังจาก AI ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมี AI ที่สร้างวีดีโอจาก Text ให้เป็นวีดีโอต่อเนื่องให้ใช้งานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น SORA, Colossyan, Canva, InVideo และอื่นๆ อีกเพียบ โดยหากคุณมีพื้นฐานในด้านการทำ สตอรีบอร์ด เมื่อมาผนวกกับการเขียน Prompt ได้อย่างเข้าใจแล้ว คุณจะสนุกไปกับการสร้างวีดีโอที่ง่ายดายมากขึ้น อีกทั้งในช่วงแรก ข้อจำกัดก็ยังมีน้อย ทำให้การสร้างวีดีโอค่อนข้างไหลลื่น บางค่ายรองรับภาษาไทย แต่การออกเสียงอาจจะไม่ได้ดูเป็นธรรมชาติมากนัก แต่ก็ดีพอสำหรับคนที่จะนำไปใช้ในโอกาสต่างๆ เช่น พรีเซนเทชั่น สร้างวีดีโอขาย หรือเอาไปใช้ร่วมกับวีดีโอหลักได้อีกด้วย
การเล่นเกม
AI กับการเล่นเกม อาจจะยังเป็นเรื่องที่สุดจินตนาการในเวลานี้ และอาจจะไม่ได้อิงในฝั่งผู้เล่นหรือเกมเมอร์มากนัก เพราะจะมุ่งไปสู่นักพัฒนาเกมมากกว่า ไม่ว่าจะใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เล่น เพื่อปรับให้เข้ากับรูปแบบการเล่นได้มากขึ้น สไตล์ รวมถึงความชอบของเกมเมอร์แต่ละคนได้ หรือบาง AI เข้ามามีบทบาทในการสร้างความสมจริงในด้านภาพได้มากขึ้น เช่น การสร้างเลเยอร์ สิ่งแวดล้อม และความสมจริง หรือบางค่ายออกแบบมาให้ AI สร้างความซับซ้อนของเนื้อหาภายในเกม เพื่อสร้างมิติใหม่ และความสมจริงให้กับการเล่นมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ต้องอาศัยการทำงานของซีพียูและการประมวลผล AI ร่วมกับบรรดาค่ายพัฒนาต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตเราจะได้เห็นเกมแนวใหม่ๆ ที่จะลงสู่ตลาดให้สัมผัสกันมากขึ้น
ประโยชน์จากการใช้ AI บนโน๊ตบุ๊ค
ด้วยความสามารถของโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ในปัจจุบัน ทำให้การใช้งานในด้านต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว แต่สิ่งหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปในเวลานี้ นั่นคือเรื่องของ AI ที่เข้าถึงการทำงานในเกือบทุกด้าน และเป็นตัวช่วยที่ทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกมากขึ้น ตั้งแต่เรื่องของการค้นหาข้อมูล นัดหมาย ตอบเมล์ หรือจะวาดภาพ แต่งเพลง ไปจนถึงสร้างงานกราฟิกและทำวีดีโอ การใช้โน๊ตบุ๊คที่มี AI ในตัว ก็มีส่วนช่วยให้การสื่อสารและใช้งานร่วมกับบรรดา AI Generator ทำได้คล่องตัวมากขึ้น อีกทั้งทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไปอีก เพราะสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ ทำงานแบบเข้ากับสไตล์ Digital Nomad ในปัจจุบัน
