MSI Titan 18 HX A14V สุดยอดเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแห่งปี 2024
ถ้าใครติดตามเรื่องคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คมาย่อมคุ้นหูรู้จักชื่อชั้นของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเรือธงซีรี่ส์ MSI Titan ซึ่งปัจจุบันเป็นรหัส MSI Titan 18 HX A14V แน่นอนว่านี่คือสุดยอดเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่เป็นความภาคภูมิใจของทางบริษัท คงมาตรฐานฟีเจอร์เยอะครบเครื่องแล้วเติมของเล่นใหม่ๆ มาให้เจ้าของได้ใช้หลากหลายอย่าง เริ่มจากตอบรับปี 2024 ด้วย Generative AI อย่าง MSI AI Artist สั่งวาดภาพได้เพียงพิมพ์บอกในโปรแกรมแล้วรอเอาภาพมาใช้งานได้ เสริมด้วย MSI AI Engine ปรับแต่งโหมดของตัวเครื่องโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเปลี่ยนโหมดเองอย่างในอดีตแล้ว แค่กดโปรแกรมแล้วตัวเครื่องจะตรวจจับเองว่าต้องใช้โหมดไหนถึงจะเหมาะสมสุด ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว โฟกัสกับสิ่งตรงหน้าได้มากขึ้น
ด้านฟีเจอร์ที่ควรพูดถึง คือ แป้นทัชแพด Taptic ปิดฝาบนด้วยกระจกเสริมไฟ RGB บอกพื้นที่ใช้งานด้วยไฟ RGB สวยถูกใจเกมเมอร์ เวลาคลิกซ้ายขวาก็เปลี่ยนจากอาการแป้นโน้มลงตามกำลังนิ้วเป็นมอเตอร์สั่นแทนและยังลดอาการ “ทัชแพดลั่น” ที่หลายคนแขยงได้อยู่หมัด ได้แป้นคีย์บอร์ด CHERRY MX Ultra-Low Profile แบบจัดขนาดปุ่มใหม่ให้ชุด Numpad มีขนาดใหญ่ขึ้นเท่าปุ่มอื่น กดใช้งานง่ายกว่าเดิมไม่ต้องปรับตัวอีกต่อไป
สเปคซึ่งเป็นใจความของ MSI Titan 18 HX A14V ยังคงขุมพลัง Intel 14th Generation จับคู่ NVIDIA GeForce RTX 4090 ติดชุดระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber แทน Cooler Boost Titan ในรุ่นก่อน เสริมครีบ 3D Cooling stands ยกตัวเครื่องขึ้นเล็กน้อยให้มีช่องนำลมเข้าไประบายความร้อนได้ดีขึ้น ทาง MSI จึงปรับกำลังของ MSI OverBoost Ultra เพิ่มจาก 250 เป็น 270 วัตต์ได้ แชร์ระหว่าง GPU 175 วัตต์ กับ CPU 95 วัตต์ แล้วยังไม่เจอปัญหาว่าร้อนจนกำลังประมวลผลลดลงเลย นอกจากนี้ Titan 18 HX A14V ยังใส่ใจคนรักการอัปเกรดโน๊ตบุ๊คมาก โดยทำฝาหลังให้เปิดได้ง่ายเหลือเชื่อเพียงขันน็อตออกให้หมดแล้วเอามือดึงออกได้ทันที ไม่ต้องพึ่งปิ๊กกีตาร์หรือการ์ดแข็งแม้แต่ชิ้นเดียว เพิ่ม RAM DDR5 ได้ 4 ช่อง ไปได้สุดจน 192GB ติด M.2 NVMe SSD 2TB ตั้งต้นมาให้จากโรงงานตรงพอร์ต PCIe 5.0 และยังเติมได้อีก 2 ช่องตรง PCIe 4.0 อีกด้วย
NBS Verdicts
ไม่มีคำจำกัดความใดจะเหมาะกับ MSI Titan 18 HX A14V ไปมากกว่า “ไฮเปอร์คาร์ในคราบเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค” อีกแล้ว เพราะนอกจากอัดสเปค เสริมช่องอัปเกรดมาให้เต็มอิ่มแถมยังถอดฝาใส่เพิ่มได้ง่ายเหลือเชื่อซึ่งผู้เขียนรอคอยผู้ผลิตสักเจ้าจะใส่ใจเรื่องนี้มานานแล้ว ยังได้ฟีเจอร์ล้ำสมัยเติมมาให้ครบเครื่อง ทั้งคีย์บอร์ด Mechanical ปรับไฟได้แบบ Per-Key RGB กับทัชแพดแบบ Taptic ซึ่งตอบสนองได้ดีเหมือนทัชแพดทั่วไป แต่ไม่เจออาการลั่นให้กวนใจแม้แต่น้อย ติดพอร์ตใช้งานมาครบเครื่องทั้ง Thunderbolt 4 ถึง 2 ช่อง, HDMI 2.1, SD Card Reader และ USB-A 3.2 ให้แบบเหลือใช้และเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 ได้ด้วย
สเปคก็ไม่ต้องกังวล สามารถคาดหวังกับความแรงของรุ่นเรือธงระดับ Desktop Replacement เครื่องนี้ได้เพราะทางแบรนด์ใส่ซีพียู Intel 14th Generation กับจีพียู NVIDIA GeForce RTX 40 Series รุ่นดีสุดในปัจจุบันมาคู่กับชุดระบายความร้อน Vapor Chamber ซึ่งมันช่วยระบายความร้อนได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะวัดอุณหภูมิภายในออกมาสูงก็จริงแต่พลังการทำงานไม่ลดลงแม้แต่นิดเดียว นับว่าน่าประทับใจแม้เสียงพัดลมระบายความร้อนจะดังอยู่บ้างก็ถือว่าเข้าใจได้
นอกจากเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คได้เยี่ยมยอดแล้ว MSI Titan 18 HX A14V ก็ได้หน้าจอขนาด 18 นิ้ว ความละเอียด 4K Mini-LED พร้อม K-Zone Local dimming ให้สีสันสมจริงและดูได้สบายตาไม่พอ ยังแสดงขอบเขตสีหน้าจอได้กว้าง 100% DCI-P3 แถมยังถูก Calibrate มาพร้อมใช้ตั้งแต่เปิดกล่อง เหมาะกับครีเอเตอร์หรือวิศวกรที่ต้องขึ้นงาน 3D รายละเอียดเยอะหรือตัดต่อคลิปความละเอียด 4K ใส่เลเยอร์กับเอฟเฟคเยอะๆ แล้วยังไม่เกิดปัญหาแม้แต่น้อย แถมยังพกไปพบลูกค้าได้ไม่เหมือนพีซีที่ต้องวางประจำโต๊ะอยู่อย่างนั้น
ส่วนจุดสังเกต มีแบตเตอรี่ซึ่งใช้งานได้ไม่นานเพียง 3 ชั่วโมงต้นๆ ก็ต้องชาร์จแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโน๊ตบุ๊คระดับนี้ซึ่งมีแบตเตอรี่เผื่อเอาไว้ใช้ยามจำเป็น ไหนจะน้ำหนักเครื่องอย่างเดียว 3.6 กิโลกรัม ถ้ารวมอแดปเตอร์ก็เฉียด 5 กิโลกรัมแล้ว จึงควรลงทุนซื้อกระเป๋าเป้ความจุเยอะมีช่องใส่โน๊ตบุ๊คขนาดใหญ่เพื่อมันโดยเฉพาะหรือตัดปัญหาใส่กระเป๋าล้อลากแทนจะดีต่อสรีระเจ้าของมากกว่าหรือไม่ก็ประกอบทิ้งไว้แทนเกมมิ่งพีซีก็ได้
ข้อดีของ MSI Titan 18 HX A14V
- สเปคจากโรงงานแรงทรงพลังด้วย Intel 14th Generation กับ GeForce RTX 4090
- ชุดระบายความร้อนอัปเกรดเป็น Vapor Chamber ระบายความร้อนได้ดีมาก
- ฝาด้านใต้เครื่องแบบ 3D Cooling stands ยกตัวเครื่องนำอากาศเย็นเข้าได้ดีทีเดียว
- MSI OverBoost Ultra รองรับค่า TDP ได้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนจาก 250 เป็น 270 วัตต์
- ติดตั้งกล้องสแกนใบหน้า IR Camera มาให้ มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- ได้หน้าจอ 18 นิ้ว ความละเอียด 4K Mini-LED IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
- หน้าจอแสดงขอบเขตสีได้กว้าง 100% DCI-P3 และ Calibrate มาให้จากโรงงาน
- คีย์บอร์ด CHERRY MX Ultra-Low Profile ให้สัมผัสการพิมพ์ดีมาก ตอบสนองเร็ว
- ทัชแพด Taptic พร้อมไฟ RGB ผสานเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ไม่มีอาการลั่นเลย
- ติดตั้งพอร์ตมาครบครันทั้ง Thunderbolt 4*2, USB-A 3.2, HDMI 2.1, LAN
- มี SD Card Reader ติดตั้งมาให้ โอนไฟล์ภาพและวิดีโอจากกล้องเข้าเครื่องได้ทันที
- เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be ใช้เล่นเกมและทำงานดีมาก
- ระบบ MSI AI Engine ปรับโหมดตัวเครื่องให้เข้ากับการใช้งานได้อย่างชาญฉลาด
- ดาวน์โหลด MSI AI Artist มาใช้วาดภาพด้วย AI ได้ในโน๊ตบุ๊คด้วยการ์ดจอ NVIDIA
- เปิดฝาอัปเกรดได้ง่ายเหลือเชื่อ เพียงขันน็อตออกแล้วเอามือดึงฝาใต้เครื่องออกได้เลย
- อัปเกรดเพิ่ม SSD ได้ 3 ช่อง รองรับ RAM DDR5 อีก 4 ช่อง เพิ่มหน่วยความจำได้มาก
- Numpad ถูกแก้ไขให้เป็นขนาดมาตรฐานเท่าปุ่มอื่นบนคีย์บอร์ดแล้ว พิมพ์ตัวเลขสะดวก
- ราคาถูกลงกว่ารุ่นก่อน 20,000 บาท จาก 209,990 เหลือ 189,990 บาท
ข้อสังเกตของ MSI Titan 18 HX A14V
- น้ำหนักมากถึง 3.6 กิโลกรัมไม่รวมอแดปเตอร์ ต้องใช้กระเป๋าเป้ขนาดใหญ่พิเศษเพื่อพกพา
- ถ้าจะใช้อแดปเตอร์ GaN ต้องหาตัวกำลังชาร์จสูงราว 100~140 วัตต์ กับสาย 240 วัตต์
- แบตเตอรี่ 99.9Whr ใช้งานได้นานสุดเพียง 3 ชั่วโมง 16 นาที พอผ่านประชุมใหญ่เท่านั้น
- พัดลมโบลว์เวอร์เวลาทำงานเต็มกำลังจะมีเสียงดัง ราว 65dB จัดว่าค่อนข้างดัง
- ไม่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดมาให้เหมือนรุ่นก่อน น่าติดตั้งมารวมกับปุ่ม Power จะดีมาก
รีวิว MSI Titan 18 HX A14V
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Keyboard & Touchpad
- Connector / Thin & Weight
- Inside&Upgrade
- Performance & Software
- Battery & Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion & Award
Specification
MSI Titan 18 HX A14V ยังคงความทรงพลังเอาไว้เช่นเดิม ทั้งใส่ซีพียูกับจีพียูรุ่นดีสุดประกบด้วย Vapor Chamber ระบายความร้อนให้ดีสุด เสริมด้วยลูกเล่นต่างๆ ครบเครื่อง โดยสเปคมีรายละเอียดดังนี้
สเปคของ MSI Titan 18 HX A14V
| CPU | Intel Core i9-14900HX แบบ 16 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็วสูงสุด 5.8GHz |
| GPU | NVIDIA GeForce RTX 4090 VRAM 16GB GDDR6 ค่า TGP 175W |
| SSD | M.2 NVMe SSD 2TB อินเตอร์เฟส PCIe 5.0 มีอินเตอร์เฟสรองเป็น PCIe 4.0*2 ช่อง |
| RAM | 64GB DDR5 บัส 5600MHz อัปเกรดได้มากสุด 4 ช่อง 192GB |
| Software | Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021 |
| Display | 18 นิ้ว ความละเอียด 4K (3840*2400) พาเนล Mini-LED IPS Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสี 100% DCI-P3, K-Zone Local Dimming, VESA DisplayHDR 1000 |
| Connectivity | Thunderbolt 4*2 USB-A 3.2*3 SD Card Reader*1 HDMI 2.1*1 รองรับจอ 8K 60Hz / 4K 120Hz LAN*1 Audio combo*1 Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be Bluetooth 5.4 |
| Weight | 3.6 กิโลกรัม |
| Price | 189,990 บาท |
Hardware & Design
รูปลักษณ์ของ MSI Titan 18 HX A14V หากเทียบกับ Titan GT77 HX 13V รุ่นก่อนหน้า ถ้ามองเผินๆ จะไม่แตกต่างอะไรกันมาก แต่ในรายละเอียดจะเห็นว่าช่องครีบใต้กรอบหน้าจอจะหายไปแล้วขอบล่างหน้าจอจะเลื่อนลงมาติดกับฐานตัวเครื่อง มีก้านล็อคบานพับหน้าจอสองฝั่งยื่นขึ้นมาเพื่อล็อคหน้าจอเอาไว้ ส่วนกล้อง Webcam จะเห็นว่าตัวกรอบทำมุมยื่นออกมาเล็กน้อยให้กางหน้าจอได้ง่ายขึ้น
สติ๊กเกอร์สามัญประจำคอมจาก Intel, NVIDIA และโลโก้ HDMI ถูกย้ายไปอยู่ขอบบนเหนือคีย์บอร์ดตรงปุ่ม Esc ใกล้สติกเกอร์ 4K 120Hz Mini-LED ให้เป็นกลุ่มยิ่งขึ้น บริเวณแถบที่วางข้อมือจึงมีแต่โลโก้ SteelSeries, CHERRY ซึ่งเป็นผู้ผลิตสวิตช์และบริษัทคู่พัฒนาช่วยปรับแต่งคีย์บอร์ดเกมมิ่งของ MSI มาอย่างยาวนานยิงเลเซอร์ติดเอาไว้เท่านั้น
ตัวบานพับหน้าจอแบบติดเข้าฐานเหนือตัวเครื่องเช่นนี้ทำให้กางหน้าจอได้กว้างราว 130 องศา จะวางบนพื้นโต๊ะตามปกติหรือแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็ปรับมุมหน้าจอให้เข้ากับมุมสายตาได้ง่ายมาก นอกจากนี้ถ้ามองจากด้านข้างจะเห็นว่าตัวเครื่อง MSI Titan ยกขึ้นเล็กน้อยให้คีย์บอร์ดทำมุมเข้ามือผู้ใช้ยิ่งขึ้น เพราะดีไซน์ 3D Cooling stands ด้านใต้เครื่องซึ่งยกด้านใต้ขึ้นเพื่อนำลมเย็นเข้าไประบายอากาศนั่นเอง
ฝาหลังของ MSI Titan 18 HX A14V จะไม่มีลวดลายอะไรสกรีนติดมาให้เลย ยกเว้นแต่โลโก้ MSI Dragon พร้อมไฟ RGB เท่านั้น เน้นความเรียบง่ายแต่ไปใส่รายละเอียดลูกเล่นเอาไว้กับช่องระบายความร้อนด้านหลังมากกว่า มีทั้งกรอบแบบรีดริมลงสกรีนคำว่า True Gaming ซึ่งเป็นคำขวัญของซีรี่ส์เกมมิ่ง ใช้กรอบประกบสีเงินตัดเส้นสีน้ำเงินเป็นเส้นตีเฉียงบนช่องระบายความร้อนสีดำ ทำให้ดูเผินๆ จะเรียบร้อย แต่ก็ยังเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเต็มตัว
ฝาด้านใต้ MSI Titan 18 HX A14V จะแบ่งพื้นที่ 70/30 ระหว่างครึ่งบนซึ่งมีชุดระบายความร้อน Vapor Chamber เจาะรูระบายความร้อนรังผึ้งเอาไว้ทั่วตัวและสลักคำว่า “TITAN” ไว้ตรงกลางเครื่อง เน้นด้วยเส้นกากบาทเฉียงสีฟ้า สังเกตว่ามุมบนซ้ายขวาจะเป็นครีบยกสูงเป็นฐานกันลื่นสีดำเพื่อเว้นช่องว่างระหว่างตัวเครื่องกับพื้นโต๊ะ โดยทาง MSI ตั้งชื่อว่า 3D Cooling stands ติดน็อตล็อคกันฝาใต้เครื่องหลุดแบบ Philips Head 12 ตัวเอาไว้ ใช้ไขควงขันออกแล้วใช้มือเปิดฝาได้ทันที
Screen & Speaker
หน้าจอขนาด 18 นิ้ว ความละเอียด 4K (3840*2400) พาเนล IPS Mini-LED ค่า Refresh Rate 120Hz ถูกคาลิเบรตมาให้จากโรงงานให้ค่าสีแม่นยำ ได้ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 1000 ปรับความสว่างได้สูงสุด 1,000 nits พร้อม K-Zone Local Dimming ปรับความสว่างโซนต่างๆ ของหน้าจอให้อัตโนมัติ นอกจากเล่นเกมแล้วก็ทำงานได้เยี่ยม
ตัวหน้าจอถูกรีดกรอบ 3 ด้าน ให้บางลงเพิ่มพื้นที่แสดงผล ติดกล้อง Webcam กับ IR Camera ไว้เพื่อสแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ง่าย มีช่องไมค์ติดไว้ประชุมงานออนไลน์ได้สะดวก ขอบล่างแม้จะหนากว่าด้านอื่นแต่ก็ไม่มากนัก
ลำโพงของ MSI Titan 18 HX A14V มีทั้งหมด 6 ตัว แยกเป็นลำโพง 4 ดอก และ Subwoofer 2 ดอก แยกเป็นชุดล่างด้านใต้เครื่องและข้างคีย์บอร์ด กำลังขับดอกละ 2 วัตต์ รวม 12 วัตต์ นอกจากเล่นเกมได้ดี แยกแชนแนลเสียงได้ชัดเจนว่าศัตรูจะมาจากทางไหนแล้วยังดูหนังได้เพลิดเพลินมาก
คาร์แรคเตอร์ตอนฟังเพลงจะได้สเตจเสียงกว้างพอควรและเน้นเสียงเครื่องดนตรีควบกับนักร้องแถมแยกทิศทางเสียงได้ชัดเจน เสียงเบสมีระดับหนึ่งพอซัพพอร์ตเสียงเครื่องดนตรีกับนักร้องได้ชัดเจนแต่ไม่กลืนหรือทับไลน์เสียงกัน ถ้าใครหวังแรงปะทะจากเบสจะพอมีอยู่ระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงกับกระแทกกระทั้นมาก
กรณีเสียงลำโพงของ Titan 18 HX A14V ยังไม่ถูกใจนักก็สามารถปรับจูน EQ ได้ตามชอบในโปรแกรม Nahimic ภายในเครื่องได้ แนะนำให้เลือกเข้าโหมด Smart แล้วปล่อยให้ระบบปรับเสียงตามแต่ละคอนเทนต์ได้เลย
Keyboard & Touchpad
จุดน่าประทับใจของ MSI Titan 18 HX A14V ต้องยกให้คีย์บอร์ด Full size พร้อมไฟ Per-Key RGB พร้อมสวิตช์ Ultra-Low Profile ของ CHERRY MX เหมือนรุ่นก่อนก็จริง แต่ประเด็นอยู่ตรงการปรับเลย์เอ้าท์ของมันให้ดีขึ้น โดยขยายขนาดปุ่ม Numpad ให้ทุกปุ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเท่ากับปุ่มอื่นบนคีย์บอร์ด ไม่ได้ย่อขนาดแบบรุ่นก่อนแล้วจึงกดง่ายใช้ความคุ้นเคยจากคีย์บอร์ดปกติมากดใช้งานได้เลย แค่สังเกตเลข 0 ซึ่งมีขนาดเท่าปุ่มอื่นสักหน่อยก็พอ
จุดน่าประทับใจต่างๆ ของคีย์บอร์ดนี้ก็ยังได้มาครบถ้วนทั้งปุ่ม Crosshair, เร่งรอบพัดลม, Play/Pause และดับภาพหน้าจอตรงปุ่มลูกศรและยังทำปุ่ม Ctrl ซ้ายให้ยาวเท่าปุ่ม Shift เช่นเดิมทำให้เกมเมอร์กดควบคุมตัวละครได้ง่ายมากๆ และยังให้ปุ่ม Function Key เหนือปุ่ม Backspace เช่นเดิม จึงใช้ทำงานได้ง่าย แต่การ Mapping ยังแปลกอยู่ เพราะใส่ปุ่ม Scroll Lock, Insert มาให้ แต่เอา Home, End, Delete ไปไว้กับปุ่ม Numpad แทน ซึ่งทั้ง 3 ปุ่มนี้จะได้ใช้งานบ่อยกว่า
จุดน่าเสียดายเล็กน้อยของคีย์บอร์ดนี้ก็ยังเป็นปุ่ม Power ตรงมุมบนขวาซึ่งอยู่รวมกับปุ่มอื่นแถมยังใช้วัสดุแบบเดียวกัน ซึ่งบางครั้งอาจจะกดผิดเผลอปิดเครื่องได้ หวังว่าทาง MSI จะแยกมันเป็นเอกเทศในรุ่นต่อไป อาจจะหยิบโลโก้ MSI Dragon หลังเครื่องมาใช้แล้วทำเอฟเฟคสวยๆ ให้ก็ยิ่งเสริมมูลค่าให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้สูงยิ่งขึ้น
บรรทัด F1~F12 ของ MSI Titan 18 HX A14V จะมี Function Hotkey ติดตั้งมาให้แต่เป็นคำสั่งใช้งานทั่วไปไม่ได้เป็นแบบเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค โดยมีคำสั่งดังนี้
- F1~F3 : ปิด, ลดและเพิ่มเสียงลำโพง
- F4 : ปิดการทำงานทัชแพด
- F5 : ปิด/เปิดไมโครโฟน
- F6 : ปิด/เปิดบลูทูธ
- F7 : ปุ่ม MSI Center ใช้ปรับโหมดตัวเครื่อง
- F8 : ปรับความสว่างของไฟ RGB คีย์บอร์ด
- F9~F10 : ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
- F11 : ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและเสริม
สังเกตว่า Titan 18 HX ก็ไม่มี Hotkey ตรงปุ่ม F12 ติดมาให้เช่นกัน ซึ่งปุ่มนี้สามารถเพิ่มคำสั่งน่าใช้อื่นๆ เข้าไปได้ไม่ว่าจะ Windows Lock ไม่ให้ปุ่ม Windows ทำงานเวลาเล่นเกมก็ได้ ส่วนปุ่ม F6 เปิดปิด Bluetooth อาจจะเปลี่ยนเป็น Airplane mode ปิดการเชื่อมต่อไร้สายทั้งหมดเลยน่าจะครอบคลุมกว่า
เนื่องจากคีย์บอร์ดได้ทาง SteelSeries มาปรับแต่งให้จึงมีโปรแกรม SteelSeries GG ติดตั้งมาให้ตั้งแต่เริ่ม นอกจากปรับเอฟเฟคแสงไฟ RGB ได้แล้วยังเซฟคำสั่ง Marco ได้ตามชอบเหมือนเกมมิ่งคีย์บอร์ดต่อแยกตัวหนึ่ง เซ็ตคำสั่งใช้งานบ่อยในเกมและโปรแกรมทำงานเก็บเอาไว้ใช้ได้ตามสะดวกแถมยังรองรับเกมมิ่งเกียร์ชิ้นอื่นอย่างเมาส์หรือหูฟังจากแบรนด์นี้ได้ด้วย
ไฮไลต์ใหม่ของ MSI Titan 18 HX A14V เป็นทัชแพดแบบ Taptic โดยแถบวางข้อมือทั้งแถบจะปิดด้วยกระจกขุ่นผิวด้านเอาไว้ เวลาดับเครื่องแล้วทัชแพดจะหายไปเป็นพื้นผิวตัวเครื่องอย่างเดียว เวลากดเปิดเครื่องจะมีไฟ RGB ติดขึ้นมาเป็นกรอบสี่เหลี่ยมแสดงพื้นที่ชัแพด ซึ่งมันจะอยู่ตรงกลางเครื่องค่อนไปทางขวาเกือบติดกับปุ่มลูกศร ทำให้มือแทบไม่พาดบนตัวแป้นเลยและยังตอบสนองได้ดีเหมือนปกติ
เวลาใช้งานแล้วออกแรงกดเพียงเล็กน้อย ทัชแพดจะสั่นกึกเหมือนเรากดคลิกซ้ายขวาตามปกติแถมยังกดได้ทั่วพื้นผิวแถมแบ่งครึ่งซ้ายขวากดเป็นคลิกซ้ายขวาได้ ใครติดนิสัยใช้นิ้วข้างหนึ่งเลื่อนเคอร์เซอร์แล้วกดด้วยมืออีกข้างก็ใช้งานได้และรองรับ Gesture Control ของ Windows 11 ด้วย นอกจากสวยงามแล้ว ยังใช้งานได้ดีไม่แพ้แบบทั่วไปอีกด้วย
Connector / Thin & Weight
พอร์ตเชื่อมต่อของ MSI Titan 18 HX A14V จะกระจายเอาไว้ตามส่วนต่างๆ และจัดกลุ่มได้ค่อนข้างดี ให้พอร์ตแบบต่อค้างไว้ด้านหลังเครื่องและแยกพอร์ตถอดบ่อยเอาไว้ด้านข้าง โดยมีพอร์ตดังนี้
- ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ : Kensington Lock, USB-A 3.2 Gen 2*2, SD Card Reader
- ฝั่งขวาจากซ้ายมือ : Audio combo, USB-A 3.2 Gen 2, Thunderbolt 4, Thunderbolt 4 with PD 3.1
- ด้านหลังจากซ้ายมือ : ช่องอแดปเตอร์ชาร์จ, HDMI 2.1, LAN
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be, Bluetooth 5.4
สังเกตว่า Titan 18 HX A14V จัดให้ USB Type A และ C ที่ต้องถอดเข้าออกบ่อยไว้ด้านข้างและมี SD Card Reader ติดมาให้ด้านข้างให้ถอดเข้าออกได้ง่าย แต่ถ้าใช้ฟีเจอร์ Matrix Display ต่อหน้าจอแยกผ่าน Thunderbolt 4 อาจต้องวางโน๊ตบุ๊คไว้ฝั่งซ้ายมือให้ลากสายได้สะดวกขึ้น
น้ำหนักของ MSI Titan 18 HX A14V จากหน้าสเปคเคลมน้ำหนักตัวเครื่องอย่างเดียวไว้ 3.6 กิโลกรัมและตรงตามน้ำหนักบนต่างชั่ง ถ้ารวมอแดปเตอร์เฉพาะตัวเข้าไปอีก 1.11 กิโลกรัมจะมีน้ำหนักรวม 4.7 กิโลกรัมทีเดียว ดังนั้นตอนพกเครื่องไปไหนนอกจากต้องใช้กระเป๋าเป้ขนาดใหญ่เพื่อโน๊ตบุ๊ค 17.3 นิ้วหรือไม่ก็ใส่กระเป๋าล้อลากจะดีต่อตัวเจ้าของมากกว่า
Inside&Upgrade
การอัปเกรดเพิ่ม SSD, RAM ของ MSI Titan 18 HX A14V ถือว่าเปิดอัปเกรดได้ง่ายสุดเท่าที่ได้รีวิวมา เพียงขันน็อต Philips Head ทั้ง 12 ดอกออกแล้วตัวฝาจะเผยอออกมาเล็กน้อยให้เอามือดึงเบาๆ แล้วเปิดฝาอัปเกรดได้ทันที ไม่ต้องพึ่งการ์ดแข็งหรืออุปกรณ์เสริมใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งดีมากและอยากให้ทางบริษัทพิจารณาเรื่องดีไซน์ส่วนนี้เอาไปใช้กับโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นในเครือด้วยจะวิเศษมาก
อินเตอร์เฟสสำหรับอัปเกรดภายในตัวจะมี M.2 NVMe SSD ทั้งหมด 3 ช่อง เป็น PCIe 5.0 ติดตั้ง SSD 2TB ตัวหลักไว้แล้วเว้น PCIe 4.0 อีก 2 ช่องไว้ให้เจ้าของใส่เพิ่มได้ตามชอบ ส่วน RAM ปิดกรอบอลูมิเนียมเอาไว้ เมื่อแกะออกมาจะมีช่องให้ใส่ RAM ทั้งหมด 4 ตัว เป็น Dual stack หันหน้าเข้าหากัน 2 ฝั่งให้เพิ่ม RAM ได้ตามชอบ รองรับความจุมากสุด 192GB DDR5 หากอยากเพิ่มความจุจาก 64GB ไปอีกก็เพิ่มได้ตามชอบ หากเล่นเกมอย่างเดียวไม่ต้องเพิ่มก็ได้
Performance & Software
ซีพียูของ MSI Titan 18 HX A14V ติดตั้ง Intel Core i9-14900HX แบบ 16 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็วสูงสุด 5.8GHz มาให้ใช้ทำงานและเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล รหัสพัฒนา Raptor Lake-Refresh สถาปัตยกรรมขนาด 10 นาโนเมตร ค่า TDP 55 วัตต์ มีฟังก์ชั่น MSI OverBoost Ultra เร่งไฟได้มากสุด 95 วัตต์ รองรับชุดคำสั่งพื้นฐานครบถ้วน
RAM ตั้งต้นจากโรงงานมีความจุ 64GB DDR5 บัส 5600MHz เป็นแบบ 32GB*2 ชิ้น ตัวชิปผลิตโดย SK Hynix มีค่า CL32-32-32-63-95 ถือว่าทำงานได้ค่อนข้างเร็วและพอเล่นเกมได้สบายๆ จะทำงานก็ดี
การ์ดจอของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงเป็น NVIDIA GeForce RTX 4090 มี VRAM 16GB GDDR6 จากโรงงาน Samsung มาช่วยให้ทำงานได้เร็วยิ่งขึ้น ค่า TDP 175 วัตต์ มี CUDA 9,728 Unified ไว้ใช้คำนวนทางฟิสิกส์ ได้ฟีเจอร์ Dynamic Boost ให้ AI คอยจัดสรรพลังงานระหว่างซีพียูและจีพียูได้อย่างเหมาะสม รองรับ DirectX 12, OpenCL, OpenGL 4.6, CUDA, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing, PhysX ครบถ้วน ด้วยพลังของมันสามารถเล่นเกมจอ 4K ได้เป็นอย่างดี
เช็คใน Device Manager จะเห็นว่า MSI Titan 18 HX A14V ติดตั้งเซนเซอร์สแกนใบหน้าและชิป TPM 2.0 เอาไว้รักษาความปลอดภัยร่วมกันด้วยระบบ Windows Hello เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สายผ่าน Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be ด้วยชิป Intel Killer BE1750x รองรับคลื่น 2.4 / 5 / 6GHz รองรับเทคโนโลยี MU-MIMO, OFDMA, Intel Smart Technology และ Intel vPro ในตัวและได้ Bluetooth 5.4 พอร์ต LAN นับว่าน่าสนใจเช่นกันเพราะเป็น Intel Killer E3100G ได้ความเร็วรับส่งข้อมูลสูงมากและเหมาะกับการเล่นเกมโดยเฉพาะ
M.2 NVMe SSD ความจุ 2TB ในช่อง PCIe 5.0 เป็นรุ่นยอดนิยมอย่าง Samsung PM9A1 ตัวมันรับส่งข้อมูลผ่านทาง PCIe 4.0 เมื่อทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark 8 แล้วได้ผลทดสอบดังนี้
| สเปค/ผลทดสอบ | Sequential Read (MB/s) | Sequential Write (MB/s) |
| สเปคโรงงาน | 7,000 | 5,200 |
| ผลการทดสอบ | 7,078.05 | 5,190.45 |
ถึงจะเป็นรุ่น OEM ยอดนิยมของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเรือธงหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน แต่ประสิทธิภาพถือว่าดีมากแถมใส่มาในอินเตอร์เฟส PCIe 5.0 แล้ว ถ้าพื้นที่ในเครื่องน้อยไม่พอใช้ติดตั้งเกมเพิ่มก็หา WD Black SN850X, Solidigm P44 Pro ฯลฯ มาติดตั้งเพิ่มก็ได้
ผลการทดสอบเล่นเกมด้วย MSI Titan 18 HX A14V ก็น่าประทับใจเทียบชั้นเกมมิ่งพีซีสเปคหลักแสนบาทได้อย่างสวยงาม จากโปรแกรม 3DMark Time Spy ได้คะแนนรวม 20,826 คะแนน แยกเป็น CPU Score 14,332 คะแนน Graphics score 22,636 คะแนน ซึ่งคะแนนระดับนี้สามารถเปิดเกมชั้นนำบนจอ 4K ปรับกราฟิคสูงสุดเล่นได้อย่างแน่นอน
เฟรมเรทตอนเล่นเกมถือว่าได้ตามคาดหวังเอาไว้ สังเกตว่าทุกเกมในกราฟการทดสอบจะได้เฟรมเรทเฉลี่ยหรือแตะ 60 Fps อย่างแน่นอน แถมบางเกมเฟรมเรทสูงสุดยังทะลุไปหลัก 100 Fps+ ได้ง่ายๆ ประสบการณ์ตอนเล่นเกมจะเป็นดังนี้
- Forza Horizon 5 (Forza Tech) : ภาพลื่นไหลต่อเนื่อง เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ต้องกังวลเรื่องเฟรมเรทตกจนเล่นไม่ได้แม้แต่น้อย ได้ภาพสวยคมต่อเนื่องและให้แสงเงาดีมากแนะนำให้เปิด Ray Tracing เพิ่มเข้าไปจะยิ่งสวยงามขึ้นและเฟรมเรทลดลงไม่เกิน 10 Fps
- Call of Duty: Modern Warfare II (IW Engine พัฒนาจาก id Tech 3) : ภาพตอนเล่นมีความต่อเนื่องไหลลื่น ไม่เจอปัญหาเฟรมเรทตกตอนเจอ Particle object แม้แต่นิดเดียว ได้แสงเงาสวยสมจริง อาการหน่วงหรือเฟรมเรทตกแทบไม่มีหรือเจอเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
- Death Stranding (Decima Engine) : สามารถเรนเดอร์ฉาก Open world ได้รวดเร็วและทอดฉากออกไปได้ไกลจากหุบเขาฝั่งหนึ่งสู่อีกฝั่ง เรนเดอร์ Object ต่างๆ ในเกมได้รวดเร็วดีมาก
- Horizon Zero Dawn (Decima Engine) : เล่นได้ไหลลื่นไม่มีปัญหา แต่บางจังหวะตอนฉากมีความซับซ้อนอาจจะหน่วงเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นแล้วกลับมาเล่นได้ดีมากตามเดิม
- God of War (Proprietary Engine) : ภาพและฉากตอนเล่นเกมเล่นได้ต่อเนื่อง เรนเดอร์ฉากได้สวยรวดเร็วแถมควบคุมได้ง่าย ไม่เจออาการเฟรมเรทตกหรือสะบัดเลย
- Hogwarts Legacy (Unreal Engine 4) : การเรนเดอร์เปลี่ยนฉากทำได้รวดเร็วต่อเนื่องและควบคุมตัวละครได้ดี โดยเฉพาะฉากภายในอาคารแล้วมีตัวละคร NPC เยอะก็เรนเดอร์ไหว แต่เฟรมเรทตอนวิ่งผ่านอาคารบางช่วงอาจลดลงเล็กน้อยเพราะต้องเรนเดอร์อาคารกับต้นไม้จะกินกำลังการ์ดจอนิดหน่อย แต่ไม่มีผลต่อการเล่นแน่นอน
ถ้าเปิด NVIDIA DLSS ปรับไว้แบบ Quality ไม่ต้องเปิด Frame Generation ก็เร่งเฟรมเรทของทุกเกมขึ้นไปได้สูงระดับ 100 Fps+ ได้สบายๆ ทำให้เล่นเกมชั้นนำทุกเกมได้ลื่นไหลและรายละเอียดภาพก็ดีมาก ไม่เกิดอาการ Frame Ghosting เป็นภาพเฟรมซ้อนหรือภาพเสียรายละเอียดแม้แต่นิดเดียว ถ้าใครต่อหน้าจอแยก 4K เพื่อเล่นเกม ก็เปิดฟังก์ชั่นนี้เสริมได้เลย
ถ้าตั้งใจซื้อ MSI Titan 18 HX A14V มาทำงานก็ไม่ผิดหวังแน่นอน สำหรับผลคะแนนจากโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งใช้ทดสอบการทำงานทำคะแนนเฉลี่ยได้ 8,114 คะแนน ได้คะแนนระดับหัวแถวและถ้าดูผลคะแนนแยกตามหมวดจะเป็นดังนี้
- Essential (ทดสอบเปิดโปรแกรม, เว็บไซต์และประชุมออนไลน์) – ได้ 10,591 คะแนน ใช้งานได้ดีมาก ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจแม้แต่นิดเดียวแถมรันโปรแกรมต่างๆ ขึ้นมาใช้งานได้ไวทันใจ
- Productivity (ทดสอบโปรแกรมประเภท Word, Excel) – ได้ 8,849 คะแนน เปิดไฟล์เอกสารขนาดใหญ่หรือไฟล์ Excel ผูกสูตรซับซ้อนมีข้อมูลเยอะได้ยอดเยี่ยม
- Digital Content Creation (ทดสอบแต่งภาพ, เรนเดอร์งาน 3D, ตัดต่อวิดีโอ) – ได้ 15,468 คะแนน เหมาะกับครีเอเตอร์ทุกแบบไม่ว่าจะแต่งภาพตัดคลิป 4K ก็จัดการได้อย่างรวดเร็วและเด่นเรื่องการปั้นโมเดลกับงานภาพนิ่งเป็นพิเศษ
งานกราฟิคและโมเดล 3D พอทดสอบด้วยโปรแกรมตระกูล CINEBENCH แล้วทำคะแนนได้ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะ CINEBENCH 2024 ซึ่งใช้ Redshift, Cinema 4D เป็นเรนเดอร์เอนจิ้นหลักและกินพลังของคอมพิวเตอร์มาก แต่ MSI Titan 18 HX A14V สามารถทำคะแนน GPU (Multi Core) ได้เกิน 20,000 คะแนนได้สบายๆ ซึ่งยังไม่มีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องไหนทำได้เลย โดยคะแนนแต่ละหมวดการทดสอบจะเป็นดังนี้
- 2024 – ใช้ทดสอบประสิทธิภาพของซีพียูกับจีพียูอย่างหนักพร้อมกัน ได้ GPU (Multi Core) 22,361 pts ส่วน CPU (Multi Core) อยู่ที่ 1,450 pts และ CPU (Single Core) 118 pts
- R23 – ใช้ทดสอบพลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก มีความละเอียดและแม่นยำสูง ได้คะแนน Multi Core 25,105 pts และ Single Core อีก 2,032 pts
- R20 – ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก ได้คะแนน CPU 10,306 pts
Blender CPU
Blender GPU
งานปั้นโมเดล 3D เมื่อทดสอบด้วย Blender Benchmark ซึ่งจะจำลองตัวอย่างงานให้เรนเดอร์ 3 อย่าง แล้วจับเวลา 1 นาที ว่าซีพียูและจีพียูสามารถรันได้กี่ Sample ยิ่งทำได้มากยิ่งดี ซึ่ง NVIDIA GeForce RTX 4090 ก็ทำผลงานได้ดี สามารถเรนเดอร์โมเดลงานออกมาได้หลักพันชิ้นภายในนาทีเดียว โดยผลคะแนนเป็นดังนี้
| การทดสอบและคะแนน | Intel Core i9-14900HX | NVIDIA GeForce RTX 4090 (175W) |
| monster | 147.8 | 3,761 |
| junkshop | 110 | 1,796.4 |
| classroom | 78 | 1,858.5 |
สามารถสรุปได้ทันทีว่า MSI Titan 18 HX A14V นอกจากใช้เล่นเกมชั้นนำในปัจจุบันได้ทุกเกมแล้ว ยังดีกับวิศวกรหรือครีเอเตอร์ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงไว้ใช้กับโปรแกรมอย่าง SolidWORKS, AutoCAD ฯลฯ ให้ทำงานได้อย่างไหลลื่น จากผลการทดสอบทั้งหมดนับว่ามันคุ้มค่าตัว 189,990 บาทอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากโปรแกรมทำงานและเกม MSI Center ก็สำคัญและติดตั้งมาให้ใช้มอนิเตอร์, ปรับแต่งโหมดการทำงานของตัวเครื่องได้ ว่าจะใช้การ์ดจอแยกอย่างเดียว (Discrete Graphics Mode), ให้ตัวเครื่องจัดสรรเองตามเหมาะสมเอาสะดวกผู้ใช้ (MSHybrid Graphics Mode) หรือเน้นประหยัดพลังงานก็กดเข้า Integrated Graphics Mode ก็ได้ ซึ่งแต่ละโหมดก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป และขอแนะนำให้เข้าโปรแกรมนี้มาเช็คอัปเดตไดรเวอร์เดือนละครั้งให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดจะดีมาก
Battery & Heat & Noise
แบตเตอรี่ภายใน MSI Titan 18 HX A14V เป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลีเมอร์ (Li-Polymer) ความจุ 99.9Wh วัดเป็น Typical Capacity ได้ 6,578mAh (99.99Wh) และ Rated Capacity อยู่ที่ 6,250mAh (95Wh) นับว่าจุมากสุดเท่าที่จะพกขึ้นเครื่องบินได้แล้ว
ถึงจะให้ความจุมามากก็จริงแต่ในฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คก็จะใช้งานได้ไม่นานมากนัก จากการทดสอบตามมาตรฐานปกติ ลดความสว่างหน้าจอเหลือ 50% ลดเสียงลำโพงเหลือ 10% ใช้โหมด Super Battery และบังคับใช้เฉพาะ iGPU ดูคลิปความยาว 30 นาที ผ่าน Microsoft Edge จะใช้งานได้นานสุดเพียง 3 ชั่วโมง 16 นาทีเท่านั้น ซึ่งไม่เกินความคาดหมาย เพราะซีพียูเองก็เป็น Intel HX-Series ใช้พลังงานเยอะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ระยะเวลาใช้งานช่วง 3 ชั่วโมงอาจจะไม่พออยู่จบวัน แต่ก็พออยู่ได้จนจบประชุมหรือเลคเชอร์สักคลาสได้อย่างแน่นอน
ชุดระบายความร้อนของ MSI Titan 18 HX A14V เปลี่ยนจากชุดระบายความร้อน Cooler Boost Titan ในโมเดลก่อนเป็น Vapor Chamber แล้ว ให้สอดคล้องกับระบบ MSI OverBoost Ultra เพื่อรองรับอุณหภูมิจากซีพียู 95 วัตต์ และจีพียู 175 วัตต์ รวม 270 วัตต์ให้ได้โดยไม่เกิดปัญหา ตัวระบบเป็นเพลตโลหะขนาดใหญ่ครอบจุดก่อความร้อนทั้งหมดพร้อมพัดลมโบลว์เวอร์ 2 ตัว เป่าระบายอากาศร้อนออก 4 ทิศทาง แยกเป็นด้านข้างสองฝั่งและช่องคู่หลังเครื่อง
การเลือกใช้ระบบระบายความร้อนแบบนี้เหมือนกับเรือธงรุ่นอื่น จะช่วยให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้นไม่ร้อนขึ้นตัวเครื่องและป้องกันอาการ Throttle down จากอุณหภูมิสูงจนต้องลดกำลังการประมวลผลลง กลับกันหากโน๊ตบุ๊คมีปัญหาเมื่อไหร่ต้องนำกลับไปศูนย์และใช้เครื่องมือเฉพาะเพื่อซ่อมแซมเท่านั้น Onsite service แบบระบบฮีตไปป์ไม่ได้
ภายใน MSI Titan 18 HX A14V เมื่อทดสอบรันโปรแกรม Benchmark แล้วเช็คอุณหภูมิด้วย CPUID HWMonitor แล้ว จะเห็นว่าหลายส่วนจะมีอุณหภูมิค่อนข้างสูง โดยแยกแต่ละส่วนจะได้ผลดังนี้
| ชิ้นส่วน/อุณหภูมิ | อุณหภูมิต่ำสุด (เซลเซียส) | อุณหภูมิสูงสุด (เซลเซียส) |
| เมนบอร์ด | 62 | 97 |
| ซีพียู (องค์รวม) | 58 | 100 |
| ซีพียู (P-Core) | 52 | 100 |
| ซีพียู (E-Core) | 54 | 96 |
| NVIDIA GeForce RTX 4090 (GPU) | 42 | 50 |
| NVIDIA GeForce RTX 4090 (Memory) | 50 | 64 |
แม้โปรแกรมจะขึ้นอุณหภูมิสูงจนน่ากังวลก็จริง แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้นเลยเพราะระบบ Vapor Chamber ที่ปิดคลุมทั้งซีพียูและจีพียูจนหมดสามารถระบายความร้อนได้รวดเร็วมากและความร้อนไม่แผ่ขึ้นมาส่วนบนเครื่องหรือคีย์บอร์ดเลย ยิ่งใช้งานในห้องแอร์ก็ตัดความกังวลนี้ทิ้งได้ กลับกันจุดสังเกตคือเสียงพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว จะมีเสียงดังจนได้ยินชัดเวลาใช้เล่นเกม พอวัดเสียงแล้วมีความดังราว 65~70dB ได้ยินชัดเจนทั้งเจ้าของเครื่องและเพื่อนร่วมงาน
User Experience
ในฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงซึ่งแรงจนจัดเป็นกลุ่ม Desktop Replacement อย่าง MSI Titan 18 HX A14V กล่าวได้เต็มปากว่า นี่คือที่สุดของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแห่งปี 2024 แล้วจริง ด้วยสเปคตั้งต้นจากโรงงานไม่ว่าจะ CPU, GPU, SSD และ RAM นับว่าเหลือเฟือเหลือใช้สำหรับเกมเมอร์ทุกคน สามารถต่อจอเกมมิ่ง 4K ปรับกราฟิคสูงสุดรวมถึง Ray Tracing ไม่ง้อ NVIDIA DLSS หรือ Frame Generation ก็ได้ หรือจะเปิดก็ได้ภาพลื่นไหลมาก แถมคีย์บอร์ด Ultra-Low Profile กับทัชแพด RGB Taptic ของมันก็น่าจะถูกใจเกมเมอร์อย่างแน่นอน
จุดประทับใจ คือ MSI ให้พอร์ตเชื่อมต่อหน้าจอมา 3 ช่อง จะต่อผ่าน HDMI 2.1 ออกจอเกมมิ่งแล้วมีจอเสริมอีก 1-2 ตัว ผ่านพอร์ต Thunderbolt 4 ด้านข้างเครื่องอีกคู่ก็สะดวก จะสตรีมเมอร์หรือ Vtuber ที่ต้องการหน้าจอไว้ใช้มอนิเตอร์ส่วนต่างๆ ยิ่งถูกใจ สามารถจัดสรรให้จอหลักมีเอาไว้เล่นเกม อีกสองจอก็ดูช่องแชต, โปรแกรมไลฟ์สตรีม, โปรแกรมโมเดล Vtuber ฯลฯ ได้ง่ายๆ
จุดแข็งซึ่งกลายเป็นจุดสังเกตในเวลาเดียวกันอย่างน้ำหนักตัวเครื่อง 3.6 กิโลกรัม กับอแดปเตอร์อีก 1.1 กิโลกรัม ทำให้คนอยากพกเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหนต้องเลือกหากระเป๋าโน๊ตบุ๊คขนาด 17.3 หรือใหญ่กว่านั้นพร้อมซับไหล่หนาเป็นพิเศษเพื่อรองรับน้ำหนักของมัน ถ้าไม่ตั้งใจเลือกกระเป๋าให้ดีอาจส่งผลต่อสรีระไม่ว่าจะหนักจนบาดและทำไหล่ทรุดได้ หรือไม่ก็ต้องใช้กระเป๋าล้อลากเพื่อตัดปัญหาเหล่านั้นทิ้งไปก็ได้ ถ้าครีเอเตอร์คนไหนต้องพกเจ้า MSI Titan 18 HX A14V ไปพบลูกค้า ก็แนะนำให้ใส่ใจเรื่องกระเป๋าเป็นพิเศษด้วย
Conclusion & Award
MSI Titan 18 HX A14V ยังคงสืบทอดตำแหน่งเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสุดทรงพลังจนหาคู่เทียบยากจากรุ่นก่อนมาอย่างสวยงามสมศักดิ์ศรีเรือธง ต่อยอดความแรงและระบบระบายความร้อนให้ดีกว่ารุ่นก่อนมากทำให้เจ้าของใช้ทำงานหรือเล่นเกมได้ตามต้องการแล้วยังใส่ลูกเล่นอื่นๆ ไม่ว่าจะ Matrix Display ต่อหน้าจอแยกได้ 3 จอ, ทัชแพดแบบ Taptic พร้อมไฟ RGB สวยงามโดดเด่นแถมอัปเกรดให้รองรับ Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be เวอร์ชั่นล่าสุดแถมรักษาความปลอดภัยให้คนอื่นขโมยใช้งานไม่ได้ด้วยกล้อง IR Camera ไว้ใช้สแกนใบหน้าได้อีก
เห็นสเปคระดับนี้ราคากลับถูกกว่าปีก่อนถึง 20,000 บาท ลดจาก 209,990 บาทเหลือ 189,990 บาท ให้สะดวกใจจะจับจองเป็นเจ้าของยิ่งขึ้น เป็นตัวเลือกเพื่อครีเอเตอร์, วิศวกร, สตรีมเมอร์และเกมเมอร์ที่จะเอามันติดตัวไปทำงานหรือพบลูกค้าก็สะดวกกว่าพีซีแน่นอน แม้ค่าตัวจะสูงแต่ก็ทรงพลังพอรับงานหนักได้อย่างน้อยอีก 5-6 ปีแน่นอน
Award
Best Upgradable
MSI Titan 18 HX A14V เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงที่อัปเกรดได้ง่ายเหลือเชื่อ เพียงขันน็อตออกก็ใช้มือดึงเบาๆ เท่านั้น แถมรองรับ RAM, SSD มหาศาลจนไม่มีคู่เทียบเลยในปี 2024 นี้
Best For Streamer
Titan 18 HX A14V ได้พอร์ตต่อหน้าจอแยกถึง 3 ช่อง คือ HDMI 2.1 กับ Thunderbolt 4*2 ทำให้ต่อจอหลักเล่นเกมแล้วมีจอเสริมไว้มอนิเตอร์การสตรีมมิ่งและดูช่องแชตได้อีก 2 จอ ทำให้สตรีมเมอร์ทำงานได้สะดวกมาก
Best For Creator
ประสิทธิภาพของ Intel Core i9-14900HX กับ NVIDIA GeForce RTX 4090 พร้อม RAM 64GB DDR5 จากโรงงาน ทำให้ครีเอเตอร์ทุกคนใช้มันทำงานได้สบายๆ แถมได้จอ 100% DCI-P3 จึงใช้ทำงานได้ทุกแบบ
Best Gaming
ในฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธง สเปคทรงพลังพร้อมระบบ MSI OverBoost Ultra ทำให้เล่นเกมบนหน้าจอ 4K ได้ไหลลื่นแล้วยังเปิด NVIDIA DLSS เสริมได้ ทำให้ Titan 18 HX A14V ใช้แทนเกมมิ่งพีซีได้สบายๆ
