การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 40 Series ใหม่ มี SUPER Boost ได้แรงขึ้น!
ขึ้นชื่อว่าเป็นการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 40 Series ไม่ว่าจะเกมเมอร์หรือครีเอเตอร์ก็ชื่นชอบอยากได้เป็นเจ้าของ ด้วยประสิทธิภาพและเทคโนโลยี AI ต่างๆ ในตัวจีพียู ทั้งช่วยเร่งเฟรมเรท, จำลองแสงเงาได้สมจริง, เร่งอัตราการตอบสนองตอนเล่นเกมให้เร็วขึ้น ส่วนครีเอเตอร์ก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ตามต้องการด้วยพลังของ NVIDIA Studio ให้สร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างรวดเร็วตามต้องการตั้งแต่ภาพนิ่ง, วิดีโอไปจนงาน 3D ขนาดใหญ่รายละเอียดเยอะก็ทำได้
นอกจากฟีเจอร์จะครบเครื่องพร้อมทำงานได้สบายๆ แล้ว หัวใจสำคัญอย่างไดรเวอร์ก็มีให้ดาวน์โหลดได้ทั้ง Game Ready Driver (GRD) ที่เกมเมอร์คุ้นเคย ช่วยรีดพลังของจีพียูให้เล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น มีอัปเดทต่อเนื่องเพื่อ Optimized ให้เข้ากับเกมใหม่ได้ทันที หากซื้อมาทำงานก็สามารถโหลด NVIDIA Studio Driver (NSD) ที่เน้นความเสถียรและเพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานมาให้หลายอย่าง แม้มีรอบการอัปเดทน้อยกว่า GRD เพราะต้อง Optimized ให้เข้ากับโปรแกรมทำงานชั้นนำต่างๆ ก่อนเพื่อลดปัญหาไม่คาดฝันแล้วทำให้งานที่ตั้งใจอยู่เสียโดยไม่จำเป็นแถมยังอัปเดทง่ายผ่านโปรแกรม GeForce Experience ได้ด้วย ช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนทั้งหมดไปได้ทันที
ทำไมต้องอัปเกรดมาใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 40 Series?
ต้องเริ่มทำความเข้าใจจากพื้นฐานก่อนว่าการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 40 Series สถาปัตยกรรม Ada Lovelace ดีไซน์มาให้ใช้งานได้รอบด้านทั้งทำงานและเล่นเกมและรองรับ AI ได้ในตัว ซึ่งภายในตัวชิปจะมีส่วนประกอบสำคัญหลายอย่างรวมอยู่ ได้แก่
- Ray Tracing Cores (RT Cores) – คอร์คำนวนฟิสิกส์แสงเงาตกกระทบบนวัตถุแบบ Real-time ปัจจุบันถูกพัฒนามาถึงรุ่นที่ 3 แล้วและเสริมฟังก์ชั่น Opacity Micromap (OMM) Engine และ Displaced Micro-Mesh (DMM) Engine เข้ามาเพื่อให้เรนเดอร์รายละเอียดเล็กๆ ต่างๆ ให้ดีขึ้น เทียบกับเวอร์ชั่นก่อนแล้วประสิทธิภาพดีขึ้น 2 เท่า
- Shader Execution Reordering – เทคโนโลยีเบื้องหลัง Ray Tracing สำหรับคำนวนปริมาณแสง, ความมืด, สีสันที่เหมาะสมกับฉากสามมิติในเกมโดยอัตโนมัติ ทำให้แสงเงาตกกระทบดูสมจริงขึ้นช่วยเพิ่มเฟรมเรทตอนเปิด Ray Tracing ให้มากขึ้นถึง 25%
- Tensor Cores (AI) – คอร์สำหรับคำนวนและใช้งานกับ AI, Machine Learning และงานคำนวนทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ โดยเฉพาะ สามารถคำนวนผลลัพธ์ออกมาได้อย่างรวดเร็วทั้งแบบ FP64, FP32, FP16, INT8 มีความเกี่ยวข้องกับเกมเมอร์โดยตรงเพราะมันอยู่เบื้องหลังฟีเจอร์เร่งเฟรมเรทอย่าง NVIDIA DLSS, Frame Generation ปัจจุบัน Tensor Cores ถูกพัฒนามาเป็นรุ่นที่ 4 แล้วและทรงพลังใช้เทรน AI ให้ทำงานกับโปรแกรมต่างๆ ได้ดีกว่าเดิม มีพลังประมวลผล AI ดีกว่าเดิม 2 เท่า
- DLSS 3 – เทคโนโลยีการนำ AI เข้ามาช่วยคำนวนและสร้างเฟรมเรทเติมเข้าไประหว่างเล่น ช่วยให้ภาพในเกมไหลลื่นกว่าเดิมโดยใช้ Tensor Cores กับ Optical Flow Accelerator ทำงานผสานกันโดย AI จะคาดเดาเฟรมภาพต่อไปล่วงหน้าว่าจะเป็นอย่างไรแล้วสร้างภาพใหม่แทรกเข้ามาเพิ่มความไหลลื่นให้ดียิ่งขึ้น เป็นเอกสิทธิ์สำหรับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 40 Series เท่านั้นและล่าสุดอัปเดทเป็นเวอร์ชั่น DLSS 3.5 เพิ่มฟีเจอร์อย่าง Path Tracing ซึ่งจำลองแสงเงาให้ดีและสมจริงยิ่งขึ้นกว่า Ray Tracing แต่ก็กินพลังของจีพียูมากขึ้น
- AV1 Encoders – การ์ดจอสถาปัตยกรรม Ada Lovelace จะมี NVIDIA Encoders (NVENC) แบบใหม่ รองรับการเข้ารหัสแบบ AV1 ในตัว เทียบแล้วจะดีกว่า H.264 ถึง 40% ช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพตอนไลฟ์สตรีมให้ดีขึ้น, เพิ่ม Bitrate และคุณภาพภาพให้ดีกว่าเดิมอย่างชัดเจน แถมยังทำงานเวลา Video Call ได้ด้วย
เมื่อใส่เทคโนโลยีมาหลายอย่างแล้วก็มีเกมชั้นนำหลายร้อยเกมในปัจจุบันรองรับฟีเจอร์เหล่านี้แล้วและเกมใหม่ๆ ก็ใช้ได้อย่างแน่นอน ทำให้ภาพในเกมสมจริงและเล่นได้ลื่นไหลขึ้นมาก ตัวอย่างเกมชื่อดังที่รองรับฟีเจอร์ของการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 40 Series ได้แก่
- Cyberpunk 2077: Ultimate Edition – Ray Tracing เต็มรูปแบบ, DLSS 3.5 และเวอร์ชั่นก่อนทั้งหมด, NVIDIA Reflex
- Diablo IV – DLSS 3, DLSS 2, Reflex, Ray Tracing หลังเปิดตัวเกมอย่างเป็นทางการ
- Alan Wake 2 – Ray Tracing เต็มรูปแบบ, DLSS 3.5 และเวอร์ชั่นก่อนทั้งหมด, NVIDIA Reflex
- The Witcher 3: Wild Hunt – Complete Edition – Ray Tracing, DLSS 3, DLSS 2, NVIDIA Reflex
- Minecraft for Windows Bedrock Edition – Ray Tracing เต็มรูปแบบ, DLSS 2
- Forza Horizon 5 – Ray Tracing, DLSS 3, DLSS 2, NVIDIA Reflex
- Marvel’s Spider-Man: Miles Morales และ Marvel’s Spider-Man Remastered – Ray Tracing, DLSS 3, DLSS 2, NVIDIA Reflex, DLAA
ซึ่งเกมชั้นนำในตัวอย่างเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หากใครอยากรู้ว่าเกมในใจและเกมใหม่ใกล้เปิดตัวในอนาคตจะรองรับเทคโนโลยีอะไรในการ์ดจอ NVIDIA บ้าง ก็สามารถเช็คเพิ่มเติมบนหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการได้ที่นี่
นอกจากเล่นเกมแล้วการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 40 Series ก็เหมาะกับครีเอเตอร์ไม่แพ้กัน แต่ต้องติดตั้งไดรเวอร์ NVIDIA Studio Drivers ผ่าน GeForce Experience เพิ่มเล็กน้อยก็ใช้ได้ทันทีและมีเครื่องมือให้ครีเอเตอร์เสริมมาด้วย ได้แก่
- NVIDIA Studio – ไดรเวอร์ปรับแต่งพิเศษสำหรับใช้ทำงานโดยเฉพาะ มีรอบอัปเดทไม่บ่อยแต่เน้นปรับจูนให้เรนเดอร์งานได้เสร็จเร็วยิ่งขึ้นทั้งงาน 3D, งานตัดต่อภาพนิ่งและวิดีโอ, ทำงานกราฟิคและออกแบบงานสถาปัตย์ได้อย่างลื่นไหล ในตัวไดรเวอร์จะมีโปรแกรมเสริมการทำงานเพิ่มเข้ามาด้วย คือ
- NVIDIA Omniverse – ใช้ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานแบบออนไลน์ได้ทุกที่ รองรับโปรแกรมตระกูล Autodesk, Adobe และ Epic รวมไปถึงงานตัดต่อภาพยนตร์กับแอนิเมชั่น
- NVIDIA Canvas – โปรแกรมวาดภาพด้วย AI ใช้งานได้ง่ายมากเพียงแค่เลือกสไตล์ภาพแล้วลากเมาส์ขีดเส้นไปเรื่อยๆ แล้ว AI จะสร้างภาพวาดออกมาให้แบบ Real-time ตอนนี้ยังเป็นเวอร์ชั่น Beta อยู่แต่ก็ทำงานได้ดีทีเดียว
- NVIDIA Broadcast – ฟีเจอร์เอาใจสายไลฟ์สตรีม เพราะตัวการ์ดจอจะใช้ AI ในตัวจีพียูผสานกับ NVIDIA NVENC ช่วยปรับภาพจากกล้องเว็บแคมกับไมโครโฟนของเราให้คมชัดขึ้นเวลายิงภาพขึ้นไลฟ์สตรีม ช่วยลดโหลดงานเกินจำเป็นจากซีพียูมาลงจีพียูแทน ทำให้เล่นเกมได้เยี่ยมแถมผู้ชมก็ได้ดูไลฟ์สตรีมอย่างลื่นไหล
การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4080 SUPER
เริ่มต้นกับ NVIDIA GeForce RTX 4080 SUPER รุ่นขวัญใจของเกมเมอร์อยากประกอบคอมแรงไว้เล่นเกมบนจอ 4K 144Hz ได้อย่างไหลลื่น ซึ่งเวอร์ชั่นตั้งต้นก็สามารถเล่นได้สบายๆ แล้ว พอเป็นรุ่น SUPER ก็ได้อัปเกรดเพิ่มคอร์ภายในหลายอย่างให้มากขึ้นอีก โดยมีรายละเอียดดังนี้
รุ่นและสเปค | GeForce RTX 4080 SUPER | GeForce RTX 4080 |
DLSS | DLSS 3 | DLSS 3 |
Shader Cores | สถาปัตยกรรม Ada Lovelace 52 TFLOPS | สถาปัตยกรรม Ada Lovelace 49 TFLOPS |
Ray Tracing Cores | รุ่นที่ 3 121 TFLOPS | รุ่นที่ 3 113 TFLOPS |
Tensor Cores (AI) | รุ่นที่ 4 836 AI TOPS | รุ่นที่ 4 780 AI TOPS |
NVENC | รุ่นที่ 8 แบบ 2 ทิศทาง รองรับ AV1 | รุ่นที่ 8 แบบ 2 ทิศทาง รองรับ AV1 |
VRAM | 16GB GDDR6X | 16GB GDDR6X |
Wattage | 320 วัตต์ | 320 วัตต์ |
จากตารางจะเห็นว่ารุ่น GeForce RTX 4080 SUPER คือการนำ RTX 4080 มาอัปเกรดเพิ่มคอร์ของส่วนต่างๆ ให้มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านการทำงานและเล่นเกมให้ดีขึ้น โดยเฉพาะซื้อมาทำงานจะยิ่งเห็นผลชัดเจนเพราะได้ Ray Tracing Cores กับ Tensor Cores (AI) เพิ่มขึ้นมาก สามารถรันงานกราฟิคปั้นโมเดล 3D รวมถึงใช้เทรน AI จะเห็นผลดีกว่าเดิม เวลาเล่นเกมก็จำลองแสงเงาได้ดีเปิด DLSS เมื่อไหร่ก็ได้เฟรมเรทเพิ่มโดยกินไฟเท่าเดิม ถ้าใครยังไม่ได้อัปเกรดการ์ดจอมาสักพักแล้วจะรับรุ่น SUPER ไปประจำเครื่องก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก
ณ ตอนนี้ NVIDIA GeForce RTX 4080 SUPER วางขายอย่างเป็นทางการแล้ว โดยราคาแนะนำขาย (MSRP – Manufacturer’s Suggested Retail Price) อยู่ที่ 42,900 บาท แต่ในกรณีของการ์ดจากแบรนด์อื่นอาจมีราคาต่างจากนี้อยู่บ้าง แนะนำให้เช็คราคาหน้าร้านก่อนตัดสินใจซื้อด้วย ส่วนโปรโมชั่นจะขึ้นอยู่กับผู้จัดจำหน่ายแต่ละเจ้า สามารถสอบถามกับตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติมได้
การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 Ti SUPER และ NVIDIA GeForce RTX 4070 SUPER
ขยับรุ่นลงมาเล็กน้อยเป็น GeForce RTX 4070 SUPER, RTX 4070 Ti SUPER ให้ราคาเข้าถึงง่ายขึ้นแต่ก็ยังเล่นเกมบนจอ QHD ได้ดีและเปิด NVIDIA DLSS 3 เสริมก็เล่นเกมบนจอ 4K ได้สบายๆ นับเป็นซีรี่ส์ขวัญใจมหาชนได้อย่างเต็มปาก ด้านสเปคจะเป็นดังนี้
รุ่นและสเปค | GeForce RTX 4070 Ti SUPER | GeForce RTX 4070 Ti | GeForce RTX 4070 SUPER | GeForce RTX 4070 |
DLSS | DLSS 3 | DLSS 3 | DLSS 3 | DLSS 3 |
Shader Cores | สถาปัตยกรรม Ada Lovelace 44 TFLOPS | สถาปัตยกรรม Ada Lovelace 40 TFLOPS | สถาปัตยกรรม Ada Lovelace 36 TFLOPS | สถาปัตยกรรม Ada Lovelace 29 TFLOPS |
Ray Tracing Cores | รุ่นที่ 3 102 TFLOPS | รุ่นที่ 3 93 TFLOPS | รุ่นที่ 3 82 TFLOPS | รุ่นที่ 3 67 TFLOPS |
Tensor Cores (AI) | รุ่นที่ 4 706 AI TOPS | รุ่นที่ 4 641 AI TOPS | รุ่นที่ 4 568 AI TOPS | รุ่นที่ 4 466 AI TOPS |
NVENC | รุ่นที่ 8 แบบ 2 ทิศทาง รองรับ AV1 | รุ่นที่ 8 แบบ 2 ทิศทาง รองรับ AV1 | รุ่นที่ 8 แบบ 2 ทิศทาง รองรับ AV1 | รุ่นที่ 8 แบบ 2 ทิศทาง รองรับ AV1 |
VRAM | 16GB GDDR6X | 12GB GDDR6X | 12GB GDDR6X | 12GB GDDR6X |
Wattage | 285 วัตต์ | 285 วัตต์ | 220 วัตต์ | 200 วัตต์ |
จากสเปคของบรรดา GeForce RTX 4070 Series จะเห็นว่า GeForce RTX 4070 Ti SUPER ได้อัปเกรดเพิ่มขึ้นเยอะมากทั้ง Shader Cores, Ray Tracing Cores และ Tensor Cores (AI) แถมเพิ่ม VRAM จาก 12GB เป็น 16GB GDDR6X ทำให้มีหน่วยความจำในตัวสำหรับใช้งานมากขึ้น ทั้งโหลด Texture ในเกมได้เยอะกว่าเดิมหรือจะใช้เทรน AI ก็ทำได้ดีขึ้นแน่นอน
ขยับลงมารุ่นราคาเข้าถึงง่ายขึ้นอีกนิดอย่าง GeForce RTX 4070 SUPER รุ่นใหม่นอกจากอัปเกรดคอร์ประมวลผลต่างๆ ในตัวให้มากขึ้นและใช้พลังงานเพิ่มเพียง 20 วัตต์จาก GeForce RTX 4070 เท่านั้น เป็นตัวเลือกเพื่อคนอัปเกรดการ์ดจอจาก GeForce RTX 20 Series หรือ GeForce GTX Series ก็คุ้มทั้งคู่ และยังมี GeForce RTX 4070 ให้หาซื้อเช่นเดิม แถมการ์ดจอทั้งสองรุ่นก็ใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เยอะมาก สามารถใช้พาวเวอร์ซัพพลายระดับ 700 วัตต์ขึ้นไปและได้การการันตี 80+ Gold ก็จ่ายไฟให้พีซีทั้งเครื่องได้สบายๆ
ณ ตอนนี้บนหน้าเว็บไซต์ของ NVIDIA ขึ้นราคา MSRP ของการ์ดจอรุ่นที่ยังวางจำหน่ายต่อไปทั้งหมด 3 รุ่น เริ่มต้นด้วยการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 Ti SUPER เริ่มต้น 34,300 บาท ถัดมาเป็น GeForce RTX 4070 SUPER ราคา 25,740 บาท และ GeForce RTX 4070 SUPER ที่ 23,590 บาท พอสรุปได้ว่าตอนนี้ GeForce RTX 4070 Ti ถูกยกเลิกการจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วเพื่อเปิดทางให้รุ่นใหม่ทำตลาดแทน
จะเห็นว่าการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 40 Series รหัส SUPER ได้รับการอัปเกรดคอร์ภายในให้ดีขึ้นกว่ารุ่นธรรมดามาก แต่ยังใช้พลังงานไฟฟ้าเท่าเดิมเพิ่มราคาอีกเพียงไม่กี่พันบาท ถือเป็นโอกาสดีสำหรับคนอยากอัปเกรดการ์ดจอให้เล่นเกมได้ไหลลื่นทำงานได้เร็วกว่าเดิม แถมตอนนี้ก็สามารถหาซื้อตามร้านค้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วประเทศได้แล้ว ใครเล็งรุ่นไหนเอาไว้แล้วร้านไหนให้โปรโมชั่นคุ้มค่าหรือเข้าร่วม Easy e-Receipt ด้วย ก็ถือเป็นโอกาสดีมาก ไหนจะได้การ์ดจอรุ่นใหม่ทรงพลังมาใช้แถมลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย