Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว Samsung

รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ จอใหญ่มี 5G ใช้ Samsung DeX ได้ แค่ 10,990 บาท!

Samsung Galaxy Tab A9+ ถึงจะเป็นรุ่นเริ่มต้นแต่ก็น่าใช้ไม่แพ้รุ่นใหญ่!

ReviewSamsungViewFinityS9 copy

การมีแท็บเล็ตดีๆ อย่าง Samsung Galaxy Tab A9+ ติดตัวไว้สักเครื่อง ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นมาก ไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลงก็สะดวกด้วยหน้าจอใหญ่ 11 นิ้ว ความละเอียด WUXGA ค่า Refresh Rate 90Hz ทำให้เวลาใช้งานตามปกติได้ภาพลื่นไหลต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเปิดโซเชียลเน็ตเวิร์คหรือดูหนังฟังเพลงก็เพลิดเพลินแถมได้ลำโพง 4 ตัว รองรับ Dolby Atmos อีกด้วย นอกจากคอหนังก็ต้องยกผลประโยชน์ให้หนอนหนังสือที่หันมาเก็บหนังสือแบบ E-book แทนเพื่อลดปัญหาร้อยแปดไม่ว่าจะต้องจัดพื้นที่วางหรือคอยระวังไม่ให้มดปลวกมารบกวนจนเล่มโปรดต้องเสียหาย จะเก็บเอาไว้ในเครื่องหรือโอนเข้า MicroSD Card ก็เพิ่มความจุไปได้มากถึง 1TB ไม่ต้องคอยกังวลไล่ลบเคลียร์ข้อมูลเข้าออกให้เสียเวลา

ข้อดีของแท็บเล็ตจอใหญ่อย่าง Samsung Galaxy Tab A9+ ซึ่งรัน One UI เวอร์ชั่นใหม่ คือ การแบ่งพื้นที่หน้าจอได้มากถึง 3 ส่วนไว้เปิดแอปฯ ใช้งานได้ง่าย จะประชุมงานประกอบสไลด์ไปพร้อมกันก็ได้ แถม Galaxy Tab A9+ เพิ่มโหมด Samsung DeX เปลี่ยน UI ให้เหมือนคอมพิวเตอร์แล้วต่อคีย์บอร์ด Bluetooth ใช้ทำงานในยามจำเป็นได้อีก จะใช้ทำงานในเวลาจำเป็นก็ได้หรือใครเน้นทำงานผ่านทางเบราว์เซอร์ก็ได้ไม่ต้องพกโน๊ตบุ๊กให้หนักเกินไป

Advertisement
Samsung Galaxy Tab A9+

NBS Verdict

DSC09725 Medium

ข้อดีของ Samsung Galaxy Tab A9+ นอกจาก Samsung จะการันตีว่าทางบริษัทซัพพอร์ตการอัปเดตเฟิร์มแวร์ยาวนานหลายปีแล้ว แท็บเล็ตไซซ์ 11 นิ้วก็เป็นขนาดยอดนิยมซึ่งดีต่อผู้ใช้ชอบจอใหญ่ อยากดูคอนเทนต์บนหน้าจอให้ชัดเต็มตาและแสดงผลได้ไหลลื่นด้วยค่า Refresh Rate 90Hz แล้ว ยังต่อหูฟัง 3.5 มม. ตัวโปรดใช้งานได้ง่ายๆ ไม่ต้องคอยกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดเหมือนหูฟัง True Wireless ที่แม้จะสะดวกแต่ก็มีเวลาจำกัด หรือจะเปิดลำโพงดูหนังก็ได้เสียงแบบ Dolby Atmos จากลำโพงถึง 4 ตัว ช่วยเพิ่มอรรถรสไปอีกระดับ

นอกจากความบันเทิงยังใช้ทำงานได้สะดวก เพราะเปิด Samsung DeX เปลี่ยน UI ของแท็บเล็ตเป็นคอมพิวเตอร์ ต่อคีย์บอร์ดใช้งานได้ง่ายๆ ไม่ต้องปรับตัวมาก ก็ต่อเมาส์คีย์บอร์ดบลูทูธทำงานตอนจำเป็นได้สบายๆ โดยเฉพาะตอนไปธุระแล้วไม่ได้ติดโน๊ตบุ๊กไปด้วย ก็ใช้แท็บเล็ตประชุมและทำงานได้สบายๆ แถมยังเซฟเก็บงานเอาไว้ในเครื่องหรือ MicroSD Card ก็ได้เช่นกัน แถมยังเลือกรุ่นใช้งานได้ว่าจะต่อแต่ Wi-Fi อย่างเดียวหรือเพิ่มเงินไปรุ่น 5G ให้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลาก็มีให้เลือก

อย่างไรก็ตาม จุดสังเกตของ Galaxy Tab A9+ มีเรื่องชิปเซ็ตซึ่งเป็น Qualcomm Snapdragon 695 5G ซึ่งถึงจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้รวดเร็วผ่านเครือข่ายไร้สายล่าสุดและใช้งานได้โดยไม่มีปัญหาและพอร์ตยังเป็น USB-C 2.0 เท่านั้น หากเป็นเวอร์ชั่น 3.0 จะได้ต่อหน้าจอแยกเพิ่มแล้วใช้งานได้สะดวกขึ้น

ข้อดีของ Samsung Galaxy Tab A9+

  1. มีโหมด Samsung DeX กดเพื่อเปลี่ยนจากโหมดแท็บเล็ตเป็นโน๊ตบุ๊กได้
  2. มีช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. ติดมาให้เผื่อใช้ประชุมงานออนไลน์ ดูวิดีโอ หรือฟังเพลง
  3. มีรุ่น Wi-Fi กับ 5G ให้เลือกซื้อใช้ได้ตามรูปแบบการใช้งาน
  4. รุ่น 5G มีช่องสำหรับใส่ SIM ใช้รับสาย โทรออก รับ SMS และ OTP ได้
  5. ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ 11 นิ้ว ความละเอียด WUXGA แสดงภาพได้คมชัด
  6. ค่า Refresh Rate หน้าจอสูงถึง 90Hz แสดงผลภาพได้ลื่นไหลต่อเนื่อง
  7. ใส่ MicroSD Card เพิ่มความจุสำหรับเก็บข้อมูลในเครื่องได้มากสุด 1TB
  8. ติดตั้งลำโพงมา 4 ตัว รองรับเสียงแบบ Dolby Atmos ให้เสียงกังวาลมีมิติ

ข้อสังเกตของ Samsung Galaxy Tab A9+

  1. ชิปเซ็ต Snapdragon 695 5G แม้จะทำงานได้ดี แต่ถ้าได้ Snapdragon 720G จะดีกว่า
  2. พอร์ต USB-C ยังเป็นเวอร์ชั่น 2.0 ถ้าได้เป็นเวอร์ชั่น 3.0 จะรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น

รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+

Specification

DSC09728 Medium

Samsung Galaxy Tab A9+ เป็นแท็บเล็ตจอใหญ่ราคาประหยัดพร้อมฟีเจอร์อย่าง Samsung DeX เปลี่ยนแท็บเล็ตเป็นโน๊ตบุ๊กใช้ทำงานได้สะดวกหรือจะใช้เพื่อความบันเทิงก็ได้ สำหรับรายละเอียดสเปกมีดังนี้

Display11″ WUXGA (1920*1200) TFT LCD

Refresh Rate 90Hz
ChipsetQualcomm Snapdragon 695 5G
MemoryRAM 8GB

ROM 128GB

เพิ่ม MicroSD Card ได้มากสุด 1TB
Operating SystemOne UI 5.1.1 พัฒนาจาก Android 13

Knox version 3.9
CameraFront : 5 ล้านพิกเซล

Rear : 8 ล้านพิกเซล
ConnectivityUSB-C 2.0

Audio combo

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac

Bluetooth 5.1

GPS Supportation : GPS, Glonass, Beidou, Galileo, QZSS
Battery7,040mAh
Speakerลำโพง 4 ดอก กำลังขับดอกละ 1.2 วัตต์ รองรับ Dolby Atmos
Weight480 กรัม
PriceWi-Fi : 8,990 บาท ลิงก์สั่งซื้อ

5G : 10,990 บาท ลิงก์สั่งซื้อ

Design

DSC09724 Medium

ปกติแล้วแท็บเล็ตส่วนใหญ่จะดีไซน์เน้นใช้งานแนวตั้ง แต่ Samsung Galaxy Tab A9+ จะเน้นแนวนอนเป็นหลัก ซึ่งถ้าวางเครื่องในแนวนอนเอาปุ่ม Volume หันขึ้นข้างบนแล้วกล้องหน้าจะอยู่ตรงกลางขอบบนเครื่องพอดี ขอบเครื่องสีดำทุกด้านจะหนาเท่ากันหมดโดยมีขอบหนาราว 1 เซนติเมตรเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เอาไว้รอบตัวทั้งพอร์ต USB-C, ลำโพงและช่องใส่ MicroSD Card และ SIM ติดอยู่ตามขอบส่วนต่างๆ

DSC09755 Medium

สีของ Galaxy Tab A9+ จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ น้ำเงิน (ในภาพ) และสีเงินให้เลือก ทำบอดี้เป็นแบบทูโทนแบ่งเป็นสีโทนเข้มตัดด้วยโทนสว่างตรงขอบเครื่องแถบเดียวกับกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ฝั่งตรงข้ามกันจะสกรีนโลโก้บริษัทเอาไว้เป็นตัวอักษรโทนสีเทา เนื้อสัมผัสฝาหลังเป็นแบบด้าน จับถนัดมือไม่ลื่นหลุดง่าย

DSC09721 Medium

ด้านน้ำหนัก 484 กรัม ต่างจากตัวเลขเคลมสเปคเอาไว้ 4 กรัมเท่านั้น แถมทางบริษัทยังดีไซน์กระจายน้ำหนักมาได้ค่อนข้างดี จับถือใช้งานได้สะดวกไม่เมื่อยง่าย ทำให้อ่านหนังสือได้นานพอควรซึ่งถ้าใครเดินทางด้วยรถไฟฟ้าไปกลับระหว่างบ้านและบริษัทก็ใช้ได้ไม่มีปัญหา แถมทาง Samsung ยังมี Galaxy Tab A9+ Book Cover ราคา 1,390 บาทเพื่อป้องกันรอยและอุบัติเหตุได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ปกเคสยังพับเป็นขาตั้งไว้วางเครื่องในแนวตั้งหรือนอนได้สะดวกยิ่งกว่าเดิม

Connectivity

พอร์ตและการเชื่อมต่อของตัวเครื่องจะติดอยู่ 2 ฝั่งด้วยกัน ได้แก่ พอร์ต USB-C และ Audio combo ตรงขอบล่างของตัวเครื่อง ฝั่งซ้ายมือมีช่องใส่ MicroSD Card และ SIM ในรุ่น 5G กับ Smart Connector ไว้เชื่อมต่อกับเคสเฉพาะตัวได้ ฝั่งขวาจะมีช่องไมค์ตัดเสียงรบกวน, ปุ่ม Volume และ Power ไว้ล็อคหน้าจอติดมาให้ใช้งาน

ลำโพงของ Galaxy Tab A9+ จะติดเอาไว้ขอบเครื่องสองฝั่งเป็น Quad Speaker กำลังขับดอกละ 1.2 วัตต์ รองรับ Dolby Atmos ซึ่งถ้าเป็นรุ่น Galaxy Tab A9 ธรรมดาจะเป็นลำโพง Dual Speaker เท่านั้น หากใครเน้นใช้แท็บเล็ตดูหนังฟังเพลงแนะนำให้เลือกซื้อ Galaxy Tab A9+ จะได้ลำโพงเสียงดีกว่าอย่างแน่นอน

เสียงจากลำโพง Dolby Atmos ถือว่ามีมิติค่อนข้างดี โทนเสียงก้องกังวาลและเนื้อเสียงของเบสถือว่าฟังเพราะพอสมควร จะเด่นเป็นพิเศษเวลาใช้ดูคลิปและสตรีมมิ่งต่างๆ ถ้าเอาไว้ฟังเพลงก็เสียงดีไม่เลว สเตจเสียงกว้างและเบสแน่นฟังเพลงสนุก แต่เสียงเครื่องดนตรีจะไม่ถึงกับใสและแยกเสียงได้ว่ามาจากเครื่องไหน ดังนั้นจึงเหมาะกับเพลงยุคใหม่ๆ อย่าง EDM หรือร็อคเป็นหลัก

DSC09772 Medium

จุดที่ชื่นชอบเป็นพิเศษของ Samsung Galaxy Tab A9+ คือทางบริษัทใส่โหมด Samsung DeX มาให้ใช้งานเช่นเดียวกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นในเครือ เมื่อเปิดโหมดนี้แล้วหน้า UI จะเปลี่ยนจากแบบแท็บเล็ตเป็นหน้า Desktop แบบคอมพิวเตอร์ในทันที ไม่ว่าจะเรียงแอปฯ ไว้มุมบนซ้ายของหน้าจอ, มีปุ่มรวมแอปฯ ตรงมุมซ้ายล่าง ถัดมาเป็นแถบ System Navigations แบบ 3 Buttons ทั้ง Recent apps, Home, Back และยังเรียกแอปฯ ที่ปักหมุดเอาไว้ตรงแถบด้านล่างขึ้นมาใช้งานได้โดยง่าย ฝั่งขวาจะเป็น Taskbar เหมือนคอมพิวเตอร์ไม่มีผิด

การแสดงผลแอปฯ ต่างๆ จะเปลี่ยนไปจากปกติจาก Full Screen จะเปลี่ยนเป็น Window mode แทน ทำให้เราเปิดเบราว์เซอร์เข้าเว็บที่ต้องการหลายแท็บแล้วกดสลับไปมาหรือจะเปิดโปรแกรมไหนควบคู่กันก็ทำได้ และบางโปรแกรมอย่าง Google Chrome เมื่อปิดโหมด Samsung DeX ทิ้งไปก็จะคงหน้าเว็บไซต์เอาไว้มาใช้ในโหมดแท็บเล็ตต่อได้ทันที จึงใช้งานได้ต่อเนื่องมาก

Performance

Screenshot 20240104 100342 Settings

ระบบปฏิบัติการของ Samsung Galaxy Tab A9+ จะรันด้วย One UI 5.1.1 ซึ่งพัฒนาจาก Android 13 และยังได้อัปเดตแอนดรอยด์เป็นเวอร์ชั่นใหม่พร้อมแพทช์รักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องอีกหลายปี ใช้งานได้อย่างสบายใจแน่นอน

สำหรับชิปเซ็ตในเครื่องติดตั้ง Qualcomm Snapdragon 695 5G เป็นชิปเซ็ตแบบ 8 คอร์ (Octa-core) แบ่งเป็น 2 Clusters คือเป็นคอร์ประสิทธิภาพสูง ARM Cortex-A78 แบบ Dual-core กับคอร์ประหยัดพลังงาน ARM Cortex-A55 แบบ Hexa-core จึงใช้งานทั่วไปได้ดีระดับหนึ่ง จีพียูเป็น Adreno 619 ไว้ใช้ประมวลผลกราฟิกและเล่นเกมทั่วไปอย่าง RoV ได้แน่นอน

เมื่อรันทดสอบด้วยโปรแกรม 3DMark Wild Life จะได้คะแนนรวม 1,216 คะแนน เทียบจากกราฟจะเห็นว่าชิป Snapdragon 695 5G จะทำคะแนนได้ไล่เลี่ยกับชิปเซ็ตของสมาร์ทโฟนราคาคุ้มค่าทั่วไปในท้องตลาด ณ ตอนนี้ กล่าวคือมีประสิทธิภาพดีพอใช้เล่นเกมทั่วไปอย่างแนว Tower Defense รวมถึงใช้งานทั่วไปอย่างดูหนังฟังเพลง, เปิดเว็บไซต์ได้ดี แถมจัดการอุณหภูมิภายในเครื่องได้น่าประทับใจ ถือใช้ต่อเนื่องได้นานไม่ร้อนมือแน่นอน

คะแนนจาก Geekbench 6 จะได้คะแนน Single-Core 916 คะแนน ส่วน Multi-Core ขึ้นไปถึง 1,957 คะแนน เทียบแล้วก็ไล่เลี่ยกับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงราว 3 ปีก่อนซึ่งไม่ถือว่าแย่ แต่ต้องยอมรับว่าแอปฯ ต่างๆ ในปัจจุบันก็กินทรัพยากรเครื่องมากขึ้นหลายเท่า จึงทำให้ชิปเซ็ตตัวนี้อยู่ในระดับพอใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้เท่านั้น

User Experience

DSC09784 Medium

แม้ Samsung Galaxy Tab A9+ วางตัวเป็นแท็บเล็ตราคาประหยัดสำหรับการใช้งานทั่วไปอย่างดูหนังฟังเพลง, เปิดเว็บไซต์อ่านข่าวหรือบทความได้ยังใช้โทรศัพท์เวลาจำเป็นได้ด้วย เพราะแบตเตอรี่ตอนใช้งานจริงถือว่าทนทานใช้ได้ทั้งวันไม่ว่าวันนั้นจะใช้งานหนัก ดูซีรีส์หลายตอนผสมกับการเปิดเบราว์เซอร์ดูข้อมูล อ่านหนังสือไปพลางๆ ก็ไม่มีปัญหา ซึ่งแบตเตอรี่จะเหลือไม่ต่ำกว่า 20% เลย

สิ่งที่ชอบ คือขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว ความละเอียด WUXGA ค่า Refresh Rate 90Hz ทำงานได้เป็นอย่างดี โดยหน้าจอจะตั้งค่าจากโรงงานมาเป็นแบบ Adaptive ปรับค่า Refresh Rate ให้เหมาะกับแต่ละแอปฯ แต่ก็เปลี่ยนเป็น 60Hz ตามปกติใน Settings ก็ได้ และขนาดของ Galaxy Tab A9+ เองก็ใหญ่ไล่เลี่ยกับกระดาษ A4 ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานในชีวิตประจำวัน ทำให้ขนาดตัวอักษรของนิยายหรือภาพตอนอ่านการ์ตูนเห็นได้เต็มตา แถมทาง Samsung ก็จัดเรียงบาลานซ์น้ำหนักของชิ้นส่วนภายในได้ดีแถมหนักแค่ 484 กรัม เวลาถือใช้งานนานๆ ก็ไม่เมื่อยมือเลย แต่ให้ดีแนะนำให้ซื้อเคส Galaxy Tab A9+ Book Cover มาใส่เครื่องอีกหน่อยจะช่วยป้องกันตัวเครื่องได้ดีขึ้น

DSC09772 Medium
Samsung DeX

การเพิ่มโหมด Samsung DeX เข้ามาใน Samsung Galaxy Tab A9+ ถือเป็นเรื่องดี เพราะตอนใช้งานในโหมดแท็บเล็ตตามปกติแม้จะสะดวก แต่ตัวแอปฯ มักชิงหน้าจอทั้งหมดของแท็บเล็ตไปใช้งานเลย กลับกันโหมด DeX จะทำให้แต่ละแอปฯ แยกเปิดเป็นหน้าต่างของใครของมันแล้วสามารถกดสลับใช้งานไปมาได้ง่าย ตัวแอปฯ ที่ปักหมุดเอาไว้ก็จะมาอยู่ตรงแถบ Taskbar ด้านล่างทั้งหมดและแถบตั้งค่าจะอยู่มุมขวาเหมือนคอมพิวเตอร์ไม่มีผิด เสริมด้วยปุ่ม Screen Capture โดยเฉพาะอีกปุ่มด้วย ส่วน System Navigation หรือปุ่ม Recent, Home, Back จะย้ายมาอยู่ฝั่งซ้ายติดกับ App Drawer แทน เรียกว่าเห็นหน้าก็ใช้งานเป็นแทบจะในทันที แนะนำว่าหาคีย์บอร์ด Bluetooth ติดกระเป๋าเอาไว้สักตัวจะทำงานได้อย่างมีความสุขขึ้นหลายเท่า

กลับกันหน้าจอของ Galaxy Tab A9+ แบบ TFT LCD จะมีอาการจอระยับเกิดเงาเล็กน้อยตามสไตล์พาเนลจอประเภทนี้ เวลาเหลือบมองหรือติดแขนจับแท็บเล็ตนอนดูหนังบนเตียง ถ้าหันไม่ได้มุมจะดูไม่ค่อยสบายตาอย่างที่ควร ถึงจะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่แต่ก็สร้างความรำคาญอยู่บ้าง ซึ่งเลี่ยงไม่ได้แต่ก็แก้ปัญหาไม่ยากนัก

และถึงจะใช้งานทั่วไปได้ดี แต่ Samsung Galaxy Tab A9+ จะเล่นเกมกินกราฟิกหนัก เช่น Honkai: Star Rail ได้ไม่ลื่นไหลนัก ตอนโหลดเกมมาทดลองเล่นแล้วตัวแท็บเล็ตจะปรับกราฟิกได้เพียงระดับต่ำสุดและควรล็อคเอาไว้ 30 Fps เท่านั้นถึงจะเล่นได้ลื่นไหล เมื่อตอนปรับไป 60 Fps นอกจากภาพจะไม่ลื่นไหลตัวเครื่องจะหน่วงจนเล่นเกมไม่สนุกแน่นอน กลับกันถ้าหยิบมาเล่น RoV หรือเกมทั่วไปอื่นถือว่าเล่นได้สบายๆ ไม่มีปัญหา

Conclusion

DSC09781 Medium

Samsung Galaxy Tab A9+ เป็นแท็บเล็ตกลุ่มราคาประหยัดแต่คุณภาพและลูกเล่นจัดว่าดีไม่น้อยหน้ารุ่นราคาหมื่นกลางเลย จะหาเอาไว้ใช้คู่กับโน๊ตบุ๊กเป็นตัวเสริมสำหรับอ่านเอกสารและเผื่อหยิบออกมาประชุมออนไลน์ได้ง่ายๆ ในวันหยุดแล้วเปลี่ยนโหมดเป็นพีซีด้วย Samsung DeX ทำงานแบบเร่งด่วนได้ง่ายๆ แถมเจ้าแท็บเล็ตตัวนี้ยังรองรับ 5G เอาไว้รับ SMS และ OTP รวมถึงใช้ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านแอปฯ ธนาคารต่างๆ ใช้โทรศัพท์ในยามจำเป็นได้ ดังนั้นถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนคิดว่าสมาร์ทโฟนจอเล็กมองไม่ถนัดแล้ว จะใช้แท็บเล็ตเป็นมือถือในเครื่องเดียว เจ้า Galaxy Tab A9+ ตอบโจทย์แน่นอน


ReviewHUAWEIMatePadAir 1
Share image Edit Name 1expert 1
Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

Accessories review

VOLTME Revo 140 กับ VOLTME RUGG CTC 100W คอมโบสายและอะแดปเตอร์สุดเจ๋ง ชาร์จได้หมดทั้งโน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ตและมือถือ!! ถ้าเปิดกระเป๋ามานอกจากโน๊ตบุ๊คแล้ว หลายคนก็มีแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนติดกระเป๋ากันแน่ๆ ดังนั้นอะแดปเตอร์อย่าง VOLTME Revo 140 กับสายชาร์จ VOLTME RUGG CTC 100W เลยเป็นไอเท็มคู่สำคัญควรมีติดกระเป๋าเอาไว้ให้อุ่นใจ ยิ่งใครใช้โน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงหรือ MacBook...

รีวิว Lenovo

Lenovo LOQ 15APH8 รุ่นคุ้มราคาประหยัด แต่ใส่สเปคมาจัดจ้านในราคาคุ้มเกินตัว!! Lenovo LOQ 15APH8 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นเล็กราคาประหยัดซึ่งแฟนคลับ Lenovo ก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นมาโดยตลอด เพราะรวมองค์ประกอบน่าใช้เอาไว้มากมายทั้งบอดี้สวยเรียบร้อยคล้ายกับพี่ใหญ่อย่าง Legion Series อยู่พอควร แถมยังให้สเปคต่อราคามาคุ้มค่าทั้งซีพียู AMD Ryzen กับจีพียู NVIDIA GeForce RTX 30 series...

รีวิว Asus

ASUS Vivobook S 15 S5507QA ความหวังใหม่ของคนทำงานด้วยพลัง Snapdragon X Elite และฟีเจอร์ครบเครื่อง! ถ้าพูดถึง Qualcomm ทุกคนย่อมคิดถึงชิปเซ็ตในสมาร์ทโฟนก่อน จนกระทั่งยักษ์แห่งวงการสมาร์ทโฟนจับมือกับเหล่ายักษ์แห่งวงการคอม ก็ได้เป็น ASUS Vivobook S 15 S5507QA โน๊ตบุ๊ค Copilot+ PC รุ่นแรกรับยุคแห่ง...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก