Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว Samsung

Samsung ViewFinity S9 ความละเอียดสูง 5K เพื่องานกราฟิกดีไซน์ สีตรงคมชัด ปรับหมุนได้ สบายตา

Samsung ViewFinity S9 คมชัดระดับ 5K สีตรง ปรับหมุนได้ มีรีโมท กล้อง 4K เชื่อมต่อไว เพื่องานมืออาชีพ

Samsung ViewFinity S9

Samsung ViewFinity S9 เป็นจอมอนิเตอร์ทำงานด้านกราฟิก วีดีโอ และงานออกแบบ รวมถึงการถ่ายภาพ ที่ให้ความละเอียดสูงระดับ 5K คมชัดทุกมุมมอง ด้วยพาแนล IPS คุณภาพสีที่คมชัด ขอบเขตสีกว้าง และแม่นยำ เพื่องานที่ต้องการคุณภาพและความถูกต้องของภาพ เช่นเดียวกับระดับความสว่างที่สูงถึง 620cd/m2 จึงให้ภาพที่ชัดเจน แม้อยู่ในสภาวะแสงรบกวนภายนอกเยอะ มาพร้อมฟีเจอร์อีกมากมาย เช่น Game Mode, Game bar เป็นต้น ควบคุมการทำงานผ่านรีโมทคอนโทรล ใช้งานง่าย เป็นได้ทั้งจอภาพ จอทีวีและมอนิเตอร์ รองรับการเชื่อมต่อ WiFi ในตัว มาพร้อมโหมดถนอมสายตากับความเป็น Smart Monitor ด้วย OS Tizen ในตัวกับความสมาร์ทที่เข้ากับสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ ไม่ว่าจะเป็น SmartThings, Bixby ตัวจอปรับเลื่อนได้หลายทิศทาง และมีพอร์ตรุ่นใหม่ อย่างเช่น Thunderbolt 4. USB และรองรับการเชื่อมต่อ WiFi 5 และ Bluetooth อีกด้วย การรับประกัน 3 ปี ซ่อมฟรีถึงที่ในแบบ On-site ราคาอยู่ที่ 45,990 บาท


Samsung ViewFinity S9


Specification

Description
Display27″
Aspect Ratio: 16:9
Panel Type: IPS
Brightness (Min,Typical): 480 cd/㎡, 600 cd/㎡
Contrast Ratio Static: 1000:1
HDR (High Dynamic Range): Yes
Resolution: 5,120 x 2,880
Response Time: 5ms (GTG)
Viewing Angle (H/V): 178°(H)/178°(V)
Color Support: Max 1B
Color Gamut (DCI Coverage): 99% (Typ)
sRGB Coverage: 100% (Typ.)
Refresh Rate: Max 60Hz
General Feature
Eye Saver Mode
Flicker Free
Game Mode
Image Size
Game Bar 2.0
Virtual AIM Point
Adaptive Picture
Smart Service
OS: Tizen™
Bixby
Alexa Built-in
Google Meet
Microsoft 365
SmartThings Hub
Multi View
Smart Calibration
NFT
Interface
Wireless Display
1x Mini-Display Port, HDCP 2.2
3x USB 3.0
1x Thunderbolt 3 Charging Power 90W
WiFi 5 Built-in
Bluetooth 4.2
Speaker Output: 5W x 2
Design
Height Adjustable Stand: 120mm(±5.0mm)
Tilt: -2.0˚(±2.0˚)~15˚(±2.0˚)
Pivot: -92.0˚(±2.0˚)~92.0˚(±2.0˚)
Wall Mount: 100 x 100mm
Dimension with Stand (WxHxD): 611.4 x 530.7 x 135.3 mm
Weight: 7.4 kg
Warrantyบริการซ่อมฟรีถึงสำนักงานหรือที่พัก เป็นเวลา 3 ปี
ติดต่อผ่านศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1282 ตลอด 24 ชั่วโมง
Price45,990 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: Samsung

Advertisement

Unbox

Samsung ViewFinity S9

ในเบื้องต้นสำหรับจอคอม Samsung ViewFinity S9 ที่เราได้รับมาทดสอบนี้ เป็นเวอร์ชั่นของ Sample Release บรรดาอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีให้ภายในกล่องจึงอาจไม่ได้มาครบครัน ซึ่งในส่วนที่จำหน่ายจริงอาจจะมีอะไรที่ต่างออกไปครับ เอาสิ่งที่มีมาให้ในแพ๊คเกจของรุ่นที่ได้รับมานี้ก่อน

สายสัญญาณสำหรับการแสดงผลทั่วไป มีด้วยกัน 2 แบบคือ HDMI และ DP หรือ DisplayPort จะมีหัวด้านหนึ่งเป็น Mini-DP และอีกด้านหนึ่งจะเป็น DP ปกติ ซึ่งคุณจะต้องใช้ Mini-DP ต่อจากด้านหลังจอ และหัวต่อ DP ปกติ ต่อจากการ์ดจอบนคอมพิวเตอร์ ซึ่งหากจะแสดงผล 5K แนะนำให้ใช้ DP นี้ครับ

Samsung ViewFinity S9

ส่วนสายอีกเส้นที่มีมาให้ด้วยคือ USB-C สำหรับต่อเข้ากับ USB-C หรือ Thunderbolt บนตัวจอกับโน๊ตบุ๊คหรือพีซี ที่มีพอร์ตดังกล่าวนี้ แต่ถ้าจะใช้ในการแสดงผลให้ต่อเข้ากับ Thunderbolt4 ที่รองรับ DP ด้วยกัน เพื่อให้ใช้งานและแสดงผลร่วมกันได้

Samsung ViewFinity S9

ตัวแปลงไฟหรืออแดปเตอร์ของจอรุ่นนี้ เป็นแบบ 220W/ 20V จึงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของจอคอมรุ่นนี้ ซึ่งทำงานทั้งเป็นจอภาพและ Smart Monitor ไปพร้อมกัน ถึงน้ำหนักก็จะเยอะ แต่ถ้าหาที่จัดวางให้ดี ก็จะไม่รบกวนต่อการใช้งานบนโต๊ะทำงานมากนัก เพราะให้สายไฟที่ยาวมาด้วย นำมาวางใต้โต๊ะก็ยังได้

Samsung ViewFinity S9
Samsung ViewFinity S9

และที่น่าสนใจคือ ยังมีกล้องเว็บแคม SlimFit ความละเอียดสูงระดับ 4K มาให้ คุณภาพของภาพที่ได้จัดว่าคมชัดมาก นำไปใช้กับโอกาสต่างๆ ได้มากมาย ตั้งแต่ประชุมออนไลน์ ไปจนถึงขายสินค้าก็ยังได้ ภาพแทบจะมาแทนกล้อง Live ได้เลย โดยต่อผ่านขั้วต่อแบบพิเศษเรียกว่า Pogo Pin แค่แปะโมดูลกล้องเอาไว้ด้านหลังของจอภาพก็ใช้ได้งานแล้ว ไม่ต้องไปต่อสาย USB ให้ยุ่งยาก ใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น Google Meet, Discord และอื่นๆ

Samsung ViewFinity S9

รีโมทคอนโทลของจอขนาดเล็กกระทัดรัดมาก จับกระชับมือ มาในโทนสีขาว พร้อมปุ่มควบคุม และเปิดใช้งานเมนูต่างๆ ได้สะดวก มีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB ด้านใต้รีโมทได้อย่างรวดเร็ว


Design

Samsung ViewFinity S9

การออกแบบของจอคอม Samsung ViewFinity S9 ค่อนข้างต่างจากซีรีส์ของ ViewFinity ด้วยกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงขาตั้ง และฐาน เช่นเดียวกับสเปคต่างๆ พอร์ตต่อพ่วงอุปกรณ์ ซึ่งถูกปรับให้เข้ากับการใช้งานที่จริงจังมากขึ้น

Samsung ViewFinity S9

พื้นที่แสดงผลของจอภาพ 27″ มีความยาวประมาณ 61cm และความกว้าง 36cm ซึ่งจัดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน สำหรับจอในระดับเดียวกัน และจัดวางบนโต๊ะทำงานระดับ 100cm – 120cm ได้สะดวก กรณีที่วางคอมพิวเตอร์ลงใต้โต๊ะ แต่ถ้ามีคอมหรือโน๊ตบุ๊คบนโต๊ะ แนะนำความยาวโต๊ะ 140cm เพื่อให้มีพื้นที่ทำงานมากขึ้น

Samsung ViewFinity S9

ขอบจอด้านล่าง ถือว่าบางกระชับทีเดียว เพราะมิติแค่ 1cm เท่านั้น โดยขอบล่างของจอนี้ ติดตั้งตัวรับสัญญาณรีโมทเอาไว้ด้วย

ขอบจอทั้ง 4 ด้านออกแบบมาในแบบไร้ขอบ เรียกว่าขอบจอบางมาก ส่วนขอบด้านในจอแสดงผลจะอยู่ที่ประมาณ 6-7mm เท่านั้น ซึ่งทำให้ได้ภาพที่ดูเต็มตามากขึ้น

Samsung ViewFinity S9

ด้านหลังจอภาพมีโลโก้แบรนด์ Samsung สีเทา ด้านข้างจะเป็นลำโพง 5W ติดตั้งอยู่ทั้งด้านซ้ายและขวา

Samsung ViewFinity S9

ขาตั้งจอขนาดใหญ่ เพื่อให้รองรับน้ำหนักของตัวจอได้ดียิ่งขึ้นกับความกว้าง 18.5cm และความสูงได้มากถึง 40cm โดยขาตั้งนี้ ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับความสูง และหมุนจอในแบบ Pivot 90 องศาได้ง่ายขึ้น

การปรับจอภาพในมุมต่างๆ ทำได้ง่าย เพราะพื้นฐานของตัวขาตั้งและฐานของจอที่ทำให้เกิดความสมดุล และแข็งแรง จึงรับน้ำหนักในแบบต่างๆ ได้ดี ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของจอที่ทาง Samsung ออกแบบมาได้อย่างลงตัว

Samsung ViewFinity S9

ตัวฐานเป็นแบบสี่เหลี่ยมยื่นมาด้านหน้า รองรับตัวจอ และขาตั้งด้านหลังมิติของฐานอยู่ที่ประมาณ 18cm x 18.5cm

Samsung ViewFinity S9

ขาตั้งออกแบบช่องเล็กๆ ออกมาให้สามารถลอดสายสัญญาณและสายไฟ ในการเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตด้านหลังได้ง่ายขึ้น และทำออกมาค่อนข้างใหญ่ ส่งผลให้เวลาที่คุณปรับเลื่อนหน้าจอ ก็ไม่ติดขัดและไม่เกิดการรั้งสาย เนื่องจากจอรุ่นนี้ให้พอร์ตการเชื่อมต่อมาค่อนข้างมาก ในส่วนนี้จึงสำคัญเป็นพิเศษ

Samsung ViewFinity S9

พอร์ตที่ให้มาด้านหลังจอภาพมีตั้งแต่ Thinderbolt4 ที่รองรับทั้งการชาร์จเร็ว และโอนถ่ายข้อมูล 40Gbps โดยมีพอร์ต USB-C จำนวน 3 พอร์ต ที่ต่อเข้ากับ Storage ต่อภายนอกรุ่นใหม่ หรือ NAS เป็นต้น และพอร์ต Mini-DisplayPort รวมถึง DC-In เพื่อจ่ายไฟเลี้ยงให้ตัวจอภาพ โดยมีปุ่มปรับ OSD settings แบบจอยสติ๊กให้มาด้วย


Control

Samsung ViewFinity S9

Samsung ViewFinity S9 ให้การควบคุมการทำงานหลักๆ จะมีด้วยกัน 2 ส่วนคือ ในการใช้งานทั่วไป สามารถควบคุมผ่านรีโมทในการเปิดเมนูต่างๆ รวมถึงใช้งานแอพพลิเคชั่นและการตั้งค่าจอได้ ส่วนถ้าต้องการปรับตั้งค่า OSD ของจอโดยตรง ก็ใช้จอยสติ๊กด้านหลัง ที่เป็นปุ่มกดและ Navigation ในการเลือกเมนูเพื่อใช้งานได้

Samsung ViewFinity S9

เริ่มจากการตั้งค่าของจอ Samsung ViewFinity S9 ผ่านทางรีโมท กับปุ่มกดและตัวเลือกที่ใช้ง่ายครับ โดยเฉพาะอินเทอร์เฟสที่ดูเป็นกันเองกับผู้ใช้ แทบจะเป็นแบบเดียวกันกับจอ Samsung หลายๆ รุ่นที่เคยได้สัมผัสมา ซึ่งเมนูหลักๆ ประกอบด้วย All settings, Multi View, My Contents, Smart Monitor รวมไปถึง Picture mode, Sleep time และ Picture setup, WiFi, Sound mode และอื่นๆ อีกเพียบ กดปุ่มวงกลมบนรีโมท แล้วเลื่อนซ้าย-ขวา กดตรงกลางเมื่อต้องการเลือกเมนูนั้นๆ

Samsung ViewFinity S9

Picture mode มีให้เลือกมากมาย เพื่อการใช้งานในโอกาสต่างๆ และยังปรับให้เห็นในแบบเรียลไทม์ แบบเดียวกับที่คุณเคยใช้บนสมาร์ททีวี ไม่ว่าจะเป็น Game การเล่นเกมที่มีสีสันและความสว่าง, Graphic ด้านการทำงาน ที่มีเรื่องของสีสันและภาพ, Entertain เน้นโทนให้ดูสว่าง มีมิติ, DCI-P3 ความถูกต้องของแสงและความแม่นยำสี หรือ sRGB เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบคุณสามารถเลือกได้จากโหมดนี้

Samsung ViewFinity S9

ส่วน Picture setup จะเป็นการปรับความสว่าง, Contrast, Sharpness, Color และ Tints เป็นต้น ซึ่งปรับเพิ่มเติมจากการใช้ Picture mode ได้ทันที

นอกจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของการตั้งค่า Sound, Bluetooth, WiFi และ Eye Saver ซึ่งในแต่ละแบบนั้น คุณสามารถเลือกปรับไปตามความเหมาะสมได้ เช่น มีลำโพงต่อภายนอก ผ่านทาง USB หรือต่อ Bluetooth รวมถึงการตั้งค่า Intelligent sound เพิ่มมิติของเสียง หรือการต่อ WiFi ในกรณีที่ไม่ได้ต่อพ่วงกับโน๊ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ ก็สามารถใช้งาน ต่ออินเทอร์เน็ตหรือเชื่อมโยงเครือข่าย เช่น การประชุมออนไลน์ หรือดูซีรีส์เรื่องโปรดก็ได้เช่นกัน

Samsung ViewFinity S9

สำหรับเมนูเริ่มต้นที่อยู่แถบด้านข้างซ้าย Samsung ViewFinity S9 จะมีให้เลือกทั้งค้นหา Search เนื้อหาที่คุณเคยดู หรือดูบ่อยจะจัดเป็น Favorite เอาไว้ ถัดมาเป็น Workspace จะเป็นการเชื่อมต่อกับแอพหรืองานที่คุณใช้ รวมถึงการใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ

Samsung ViewFinity S9

สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องเล่นเกมคอนโซลเหล่านี้ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นหัวต่อจอแสดงผลแบบ HDMI อาจจะต้องมองหาตัวแปลงที่เป็น DP to HDMI มาใช้ร่วมกัน เพื่อให้สามารถต่อสัญญาณเพื่อเข้าจอภาพได้ตามปกติ เนื่องจากด้านหลังจอจะมีเพียง Mini-DP เท่านั้น

Samsung ViewFinity S9

Media ถือว่าจัดเต็มมาให้สำหรับสายบันเทิง เพราะคุณสามารถใช้งานแอพที่คุณชื่นชอบมาใช้งานได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Netflix หรือ Prime แถมยังจำแนกรูปแบบของวีดีโอให้ได้ชมอีกด้วย ทำให้การค้นหาง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Rate, Popular, Drama, Action ในแบบไทย จีน เกาหลีหรืออื่นๆ


Adjustable

Samsung ViewFinity S9

ส่วนหนึ่งของการเป็นจอคอมที่ตอบโจทย์ได้หลากหลาย การปรับเลื่อนได้มากขึ้น ย่อมเป็นผลดีต่อผู้ใช้ Samsung ViewFinity S9 รุ่นนี้ รองรับการปรับได้ 3 รูปแบบคือ เพิ่มความสูง, มุม Tilt หรือก้ม-เงย และสุดท้ายคึอไฮไลต์ด้วยการ Pivot หรือหมุนจอเป็นแนวตั้ง 90 องศาได้อีกด้วย แต่ไม่รองรับการปรับหันซ้าย-ขวาเท่านั้น

โดยการปรับมุมก้ม-เงยนี้ สามารถทำได้ที่ -2 จนถึง 15 องศา เพื่อให้การใช้งาน ในการนั่งหรือยืนทำได้สะดวก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนทำงาน ที่ต้องการพรีเซนต์งานให้กับคนด้านหลังมองภาพได้อย่างชัดเจน การปรับเลื่อนค่อนข้างนิ่มนวลทีเดียว

Samsung ViewFinity S9

ส่วนการปรับระดับความสูง Samsung ViewFinity S9 เมื่อกดหน้าจอลงมาให้สุด ขอบจอด้านล่าง จะห่างจากพื้นโต๊ะเพียง 5cm โดยประมาณ กรณีที่คุณต้องการยืนทำงาน หรือวางบนโต๊ะที่สูง ก็ค่อนข้างสะดวก และหากโต๊ะที่วางค่อนข้างเตี้ย ก็ปรับระดับความสูงของจอขึ้นได้ เมื่อดันขึ้นมาแล้วขอบจอด้านล่าง จะสูงกว่าพื้นโต๊ะถึง 17cm เลยทีเดียว จากภาพเป็นมุมที่มองจากด้านข้างและด้านหน้าของจอ Samsung ViewFinity S9 จะเห็นได้ว่าความสูงค่อนข้างต่างกันอย่างมาก

Samsung ViewFinity S9

Samsung ViewFinity S9 รองรับการปรับหมุนจอแบบ Pivot 90 องศา ซึ่งคุณจะสามารถหมุนได้ทั้งจากทางด้านซ้ายและขวา กรณีที่ต้องการใช้งานจอภาพในแนวตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโปรแกรม การพรีวิววีดีโอฟุตเทจ ไปจึงถึงการอ่านหน้าเว็บแนวตั้งแบบยาวๆ ก็ทำได้ง่าย ข้อดีคือตัวฐานและขาตั้งทำได้แข็งแรง การหมุนจึงไม่ต้องใช้แรงมาก แต่ข้อสังเกตคือ ต้องดึงให้จอขึ้นสูงที่สุด และปรับมุมให้เงย จากนั้นจึงค่อยหมุนจอให้ได้ในระดับที่ต้องการ

Samsung ViewFinity S9

และสิ่งสำคัญอย่างช่องลอดสายสัญญาณ ที่อยู่ด้านหลังบริเวณขาตั้งจอเป็นจุดที่ทำให้ใช้ปรับเลื่อน และการหมุนจอทำได้ง่ายขึ้น ข้อดีคือ ออกแบบมาให้มีพื้นที่เพื่อให้สายเลื่อนไปมาได้ยืดหยุ่น ไม่ดึงรั้งจนเกินไป และยังเป็นการต่อสายแบบ 90 องศา ทำให้สอดคล้องกับการหมุนจอที่ง่ายกว่านั่นเอง


Experience

Samsung ViewFinity S9

สำหรับประสบการณ์ในการใช้งาน Samsung ViewFinity S9 เรื่องแรกมาที่ความสะดวกสบาย เรียกว่าเป็นสมาร์ทมอนิเตอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในหลายๆ ด้านได้ดีทีเดียว กับความเป็นจอที่มีพื้นที่แสดงผลที่กว้างระดับ 27″ ให้ความละเอียดสูงถึง 5K จึงใช้งานได้หลากหลาย การควบคุมทำได้ง่าย ตั้งแต่การใช้รีโมทในการเลือกฟังก์ชั่น เข้าสู่โหมดและการตั้งค่าที่รวดเร็ว งานนี้ผมยกความดีให้กับรีโมทคอนโทรลที่ Samsung ให้มาด้วยนี้ ที่นอกจากตอบสนองได้ไว เลื่อนเพื่อเลือกเมนูได้รวดเร็ว และการกดปุ่มที่นุ่มนวลแล้ว ยังมีไมโครโฟนสำหรับการสั่งงานได้ หรือใช้ร่วมกับ Bixby ของ Samsung ในการสั่งงาน กับการเป็นผู้ช่วย รวมถึงการรับสาย และยังเลื่อนแทนเมาส์ เพื่อเลื่อนไปเลือกฟังก์ชั่นบนหน้าจอได้สะดวกมากกว่าการกดเลื่อนทีละหัวข้อ

Samsung ViewFinity S9

โหมดการตั้งค่าก็ทำได้ง่ายบน OS Tizen นี้ ความซับซ้อนมีอยู่บ้างในช่วงแรกๆ สำหรับคนที่ไม่คุ้นกับการใช้งาน แต่เมื่อปรับตัวใช้ไปสักระยะ ก็จะคุ้นตามากขึ้น รวมถึงบรรดาแอพต่างๆ ที่คุณใช้งานบ่อย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ หรือการดูวีดีโอสตรีมมิ่งผ่าน Youtube รวมถึงถ้าคุณเป็นแฟนซีรีส์ ระบบก็จะเก็บเอาไว้เป็น Recent หรือ Favorite ซึ่งจะอยู่ในหน้าแรกๆ สามารถเปิดและดูต่อเนื่องได้ทันที แทบไม่ต้องไปค้นหาให้วุ่นวาย

Samsung ViewFinity S9

Samsung ViewFinity S9 ให้สีสันของภาพจัดว่าสดใสได้อรรถรส โดยเฉพาะเรื่องของการแสดงสีสัน นอกจากจะรองรับ HDR และใช้ร่วมกับ HDR บน Windows ได้อัตโนมัติแล้ว ยังให้การแสดงผลสีในระดับ 10-bit ตรงนี้หลายคนที่ทำงานด้านภาพและวีดีโอ น่าจะให้ความสำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะจอภาพนี้สามารถให้เฉดที่ละเอียดมากขึ้น ส่งผลต่อภาพที่สร้างขึ้น หรือการแสดงผลได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ทำงานภาพ อย่างเช่น ช่างภาพที่แต่งภาพ และงานถ่ายสินค้า วิวสถานที่ ไปจนถึงงานแต่ง จอภาพนี้สามารถ่ายทอดสีสันออกมาให้กับผู้ชม หรือลูกค้าที่มีความคาดหวังได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงงานวีดีโอ Vlog, Youtuber ที่เน้นเรื่องคุณภาพงาน ให้ตอบโจทย์ลูกค้า และงานกราฟิก 3 มิติ ที่สร้างชิ้นงานหรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงงาน Landscape, Interior ที่เป็นการออกแบบตกแต่ง ทำให้การเกลี่ยสีดูเนียนตาสุดๆ

Samsung ViewFinity S9

และที่สำคัญในยุคปัจจุบันโลกของภาพยนตร์ก็ก้าวหน้าไปมาก และโปรดักชั่นต่างๆ ก็สร้างงานคุณภาพและวีดีโอที่เป็นแบบ 10-bit กันแล้ว ซึ่งเราจะได้เห็นการสตรีมมิ่งวีดีโอในยุคหน้าที่เป็นแนวนี้กันมากขึ้น เนื่องจากในเวลานี้ เริ่มมีรูปแบบของ 10-bit+ และ 12-bit ออกมาให้ได้เห็นกันแล้วอีกด้วย แต่โดยส่วนตัวมองว่ายังคงเหมาะกับการสร้างสรรค์งาน และการทำคอนเทนต์วีดีโอ รวมถึงงานภาพที่ต้องการคุณภาพงาน และรายละเอียดการเกลี่ยสีที่ดูกลมกลืนเป็นหลัก ส่วนในแง่ของความบันเทิงอาจจะเป็นเรื่องรอง จนกว่าคอนเทนต์ในกลุ่มนี้จะออกมาให้ใช้งานกันมากขึ้น จนกว่าจะแทนที 8-bit ที่แพร่หลายในปัจจุบัน

Samsung ViewFinity S9
5K resolution
Samsung ViewFinity S9
1080p resolution

ในแง่ของการเป็นจอภาพสำหรับทำงานเป็นหลัก พื้นที่แสดงผลนับเป็นเรื่องสำคัญ Samsung ViewFinity S9 นี้ มาพร้อมความละเอียดที่สูงถึง 5K (5,120 x 2,880) ทำให้ใช้งานได้จุใจมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ต้องการพื้นที่ทำงานที่มากกว่า 27″ แบบเดิมๆ เพราะจอภาพพื้นฐานที่เราพบกันในท้องตลาดจะเป็นแบบ Full-HD และบางส่วนจะเป็น 2K หรือ 4K ซึ่งสนนราคาจะเริ่มที่หมื่นกว่าบาท ไปจนถึง 3-4 หมื่นบาท ขึ้นอยู่กับพาแนล ฟีเจอร์ และอัตรารีเฟรชเรต อย่างไรก็ดีที่เป็น 5K จะอยู่ในกลุ่มของจอทำงานจริงจัง เน้นที่ประสิทธิภาพและความแม่นยำของภาพและสี สิ่งที่หลายคนโฟกัสจะอยู่ที่พื้นที่แสดงผล เพราะเมื่อใช้งานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ จะเห็นได้ชัดว่า พื้นที่กว้างกับความละเอียดมีผลต่อการใช้งานอย่างมาก

อย่างเช่นภาพด้านบน เปรียบเทียบกันระหว่างจอ 27″ 5K และ Full-HD 1080p โดยที่ Resolution ที่ต่างกัน 4-5 เท่านี้ (5,120×2,880 vs 1920×1080) พื้นที่พรีวิวภาพ ก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อย่างเช่น ในงานวีดีโอ งานตกแต่งภาพ สามารถวางวีดีโอฟุตเทจให้เห็นได้ชัดเจน และจำนวนที่มากกว่า ซึ่งหลายครั้งก็จะช่วยให้การจัดวางได้สะดวกและแม่นยำมากกว่าการดูจากจอที่มีความละเอียดน้อยกว่า และบางครั้งต้องเลื่อนสกอลล์บาร์ที่เมาส์กันบ่อยๆ นั่นเอง ยิ่งการใช้จอนี้มาเป็นแนวตั้ง จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่า สามารถเรียงลงมาได้เยอะทีเดียว และมองได้ชัดกว่าอีกด้วย

Samsung ViewFinity S9

นอกจากนี้คนที่ทำงานตัดต่อ ตกแต่งภาพ สร้างโมเดล 3 มิติ หลายครั้งจะมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่จัดวาง Tools หรือเครื่องมือต่างๆ บนหน้าโปรแกรม หากเป็น Full-HD ส่วนใหญ่มีข้อจำกัด ทำให้ต้องย้ายที่วางเครื่องมือที่ใช้บ่อย หรือต้องหันมาใช้การเลือกจากเมนู หรือใช้คีย์ลัดแทน แต่ถ้าเป็นจอระดับ 5K อย่าง Samsung ViewFinity S9 นี้ ทำให้เห็นว่ามีพื้นที่เหลือเฟือในการใช้งาน และจะสังเกตว่าข้อดีอีกอย่างก็คือ Panel Timeline Monitor จะช่องใหญ่เป็นพิเศษ ให้คุณสามารถเลื่อนดูไทม์ไลน์ของวีดีโอทั้งหมด ที่จัดวางเอาไว้ได้ชัดเจนกว่าจอที่เป็นความละเอียด Full-HD หรือ 2K และอีกส่วนหนึ่งก็คือ การวางไทม์ไลน์ของวีดีโอ สามารถขยายช่องให้กับ Footage, Insert, Video, Voice และ Effect ได้มากยิ่งขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีกว่าจอแบบเดิมๆ

Samsung ViewFinity S9

และที่มากไปกว่านั้นคือ จอภาพ Samsung ViewFinity S9 รุ่นนี้ ยังให้ค่าขอบเขตสี และความแม่นยำสีที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพและความเชื่อมั่นของลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะคุณภาพสีของงานที่ออกไป จะมีความแม่นยำ นั่นหมายความว่างานที่ออกมาจะได้สีแบบเดียวกันที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก สีที่ระบุไว้จะแสดงผลออกมาได้ตรงไม่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะการสร้างงานออกแบบ หรือสิ่งพิมพ์ก็จะออกมาในรูปแบบของสีเดียวกันอีกด้วย ในการทดสอบผลที่ออกมาถือว่าใกล้เคียงกับที่ทาง Samsung ระบุเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น DCI-P3 99% หรือ sRGB 100% อีกด้วย

Samsung ViewFinity S9

แต่สำหรับผู้ใช้ที่เขียนโปรแกรมหรือว่าท่องเว็บ เล่นเน็ต ดูข้อมูลจำนวนมากๆ แนะนำให้ลองปรับ Pivot 90 องศาดูครับ เพราะนอกจากจะให้ตั้งที่ดูตามแนวลงมาได้แบบยาวๆ แล้ว ยังมีความคมชัดสูงอีกด้วย ทำให้การอ่านข้อมูล หรือดูกราฟ หรือไฟล์งาน Google Sheet ได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องสกอลล์เมาส์บ่อยๆ และยังมีโหมด Eye Saver อีกด้วย คนที่เขียนโปรแกรม หรือจะต้องแก้ไขงานเอกสาร จะได้ประโยชน์ค่อนข้างมาก รวมถึงสิ่งที่ผมชื่นชอบเลยก็คือ สามารถ Snap หรือแบ่งหน้าจอได้แบบสะใจ แบ่ง 4 ส่วนดูทั้งเอกสาร ท่องเว็บ ดูหุ้นและยูทูปไปพร้อมๆ กันได้เลย พื้นที่แสดงผลจัดว่าเหลือเฟือ

Samsung ViewFinity S9

ตรงนี้ถ้าใครใช้งานเปิดขึ้นมา แล้วทุกสิ่งเป็นตัวเล็ก ไม่ว่าจะเป็นฟอนต์ หน้าต่างโปรแกรม และอื่นๆ คุณสามารถเข้าไปปรับ Scale ใน Scale & Layout ของหัวข้อ Display ให้อยู่ในระดับที่คุณชื่นชอบได้ แนะนำว่าถ้าเน้นท่องเว็บ ดูหนัง หรือใช้งานทั่วไป 200% จะเห็นได้ชัดใหญ่กำลังดี แต่ถ้าทำงานจริงจัง ใช้โปรแกรมเฉพาะทาง ตัดต่อ แต่งภาพทำโมเดล แนะนำ 200% – 220% กำลังสวย เพราะจัด Tools เครื่องมือต่างๆ ได้เยอะ พรีวิวภาพ วีดีโอฟุตเทจลงตัวพอเหมาะได้มากกว่า

Samsung ViewFinity S9

Adaptive Sound และ Eye Care ผมว่า 2 สิ่งนี้ ทำออกมาได้กลมกลืน และเป็นฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง Samsung ในจอหลายรุ่น เอาใจคนที่ใช้งานจอในช่วงเวลาต่างๆ ได้ดี กับระบบปรับเสียงและแสงบนจอภาพให้เหมาะสมได้อัตโนมัติ ให้เข้ากับสภาวะแสงในเวลานั้นๆ และยังทำได้นุ่มนวล ดูแล้วไม่ทำให้ดูแตกต่างเกินไปนัก เช่น ขณะที่ใช้งานอยู่ แล้วมีแสงจากหน้าต่างเข้ามามาก หรือแสงรอบข้างลดลงไปเยอะ ระบบจะปรับให้ทันที ตรงนี้เปิดใช้งานได้บนเมนูของจอได้ ส่วน Adaptive Sound ก็จะทำให้ในลักษณะที่คล้ายๆ กัน คือ ปรับเสียงจากลำโพงไม่ให้ดังเกินไป และหากมีเสียงรบกวน ก็จะเพิ่มระดับให้สูงขึ้น เพื่อความชัดเจนในการรับฟัง

Samsung ViewFinity S9

อีกโหมดของจอคอม Samsung รุ่นนี้ที่น่าประทับใจก็คือ Multi View ที่ทำให้การเล่นวีดีโอ เช่นดูซีรีส์จากแอพหนึ่งคู่ไปกับการเปิดดูข้อมูลจากเว็บไซต์หรือนั่งตรวจงานได้พร้อมกัน หรือคุณจะเปิด Meet เพื่อนำเสนองาน ไปพร้อมๆ กับการโชว์สินค้าของคุณให้กับลูกค้าได้ชมแบบชัดๆ ชนิดที่เห็นการใช้งาน เพื่อความเข้าใจได้แบบง่ายๆ ได้อีกด้วย ด้วยการควบคุมจากรีโมทคอนโทรลนั่นเอง

SmartThings

Samsung ViewFinity S9

สิ่งหนึ่งที่เรียกว่า Samsung ออกแบบมาให้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ภายในบ้านและสำนักงานได้ดี ที่เรียกว่า SmartThings จัดว่าช่วยให้เราใช้งานร่วมกันกับอุปกรณ์ที่เป็น Smart Home อย่างเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น หรือหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ได้ง่ายขึ้น ด้วยการควบคุม ตรวจเช็คและตั้งค่าผ่านทางแอพบนมือถือ หรือบนจอภาพนี้ได้เลย กับการตั้งค่าง่ายๆ เท่านั้น และยังเลือกได้ว่า จะกำหนดให้แต่ละห้องมีสภาพแวดล้อมแบบใด สิ่งใดจะเปิดให้พร้อมใช้งานหรือสั่งปิดขณะที่ไม่ได้ใช้ได้อีกด้วย เช่น ในห้องนั่งเล่น มีคนดูทีวี แล้วหลับคาโซฟา ก็สั่งปิดจากมือถือได้ หรือการสั่งปิดไฟ ให้โรบอทออกมาดูดฝุ่นในช่วง 3-4 โมงเย็นก่อนกลับบ้าน หรือจะเป็นการให้เครื่องซักผ้า เริ่มทำงาน ระหว่างที่คุณอยู่ข้างนอก กลับไปก็หยิบออกมาตากได้ทันที เพียงแต่ว่าสิ่งเหล่านี้ต้องเชื่อมโยงกับ Samsung SmartThings ได้เท่านั้น

Samsung ViewFinity S9
Samsung ViewFinity S9

และอีกสิ่งหนึ่งตัวอย่างก็คือ ถ้าคุณมีข้อมูลอยากจะนำเสนอ หรือพรีเซนท์งานแบบด่วนๆ หรือออกไอเดียจากมือถือ สามารถใช้ SmartThings ในการเชื่อมต่อเข้ากับจอ Samsung ViewFinity S9 รุ่นนี้ได้ทันที และภาพจากมือถือจะไปปรากฏอยู่บนจอภาพ และคุณยังควบคุมการเลื่อน แตะ เปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นหรือนำเสนองานโปรเจกท์ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ส่วนตัวผมว่าค่อนข้างจะสะดวก ไม่ต้องส่งเมล์ ให้กับทีม หรือต่อแฟลชไดรฟ์ โยนไฟล์เข้า Cloud ก็พร้อมโชว์งาน หรือไอเดียของคุณได้ทันที ส่วนตัวผมว่าสะดวกมากครับ ใช้งานง่ายอีกด้วย แถมจอรุ่นนี้ ยังปรับแนวตั้งได้ เข้ากับสเกลจอภาพแบบยาวๆ หรือถ้าเป็นภาพแนวนอน Portrait ก็สามารถดูได้เช่นกัน

Samsung ViewFinity S9

การใช้งานร่วมกันกับอุปกรณ์อื่นๆ จะนำจอมาเสริมใช้งานเป็นแบบมัลติมอนิเตอร์ก็ทำได้ ไม่ใช่แค่เชื่อมต่อกับโน๊ตบุ๊ค พีซี หรือมือถือเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นได้ทั้งจอทำงานหลัก หรือใช้ในด้านความบันเทิง รวมถึงเป็นจอที่ทำงานในแบบมัลติมอนิเตอร์ได้สะดวกอีกด้วย จะแบ่งหน้าจอ Windows หรือการ Snap และการปรับเพิ่มลดพื้นที่หน้าต่างโปรแกรมต่างๆ ก็สะดวกรวดเร็วอีกด้วย


Conclusion

Samsung ViewFinity S9

ในภาพรวมของจอคอม Samsung ViewFinity S9 จัดว่าครบเครื่องในเรื่องของการทำงานที่แท้จริง เพราะถ้ามองจากองค์ประกอบต่างๆ ดูจะตอบโจทย์ในงานได้อย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องของพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ 27″ ซึ่งดูเป็นมาตรฐานที่แทนที่จอ 24″ ในเวลานี้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งความละเอียด 5K นี้ จะเป็นการเพิ่มพื้นที่ทำงานได้มากขึ้นกว่าจอทั่วไปหลายเท่า การจัดวางเครื่องมือ หรือพรีวิวภาพก็ชัดเจนกว่า เช่นเดียวกับความแม่นยำและขอบเขตสี เรียกว่ามั่นใจได้กับ DCI-P3 และ sRGB 100% เพื่อให้มั่นใจได้ในการทำงานด้านภาพและวีดีโอ ซึ่งถือเป็นคีย์หลักของจอภาพรุ่นนี้ เรื่องคุณภาพงานได้สีตรงมาตรฐาน ในแง่ของการดีไซน์อาจจะไม่ได้เน้นเส้นสายแบบล้ำๆ แต่ก็ทำออกมาให้ใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็น ตัวขาตั้งและฐาน แน่นหนา รักษาสมดุลได้ดี ไม่มีสั่น จะปรับเอียงหรือ Pivot 90 องศา ก็ยังง่าย จะมีตรงการปรับหมุน ที่อาจจะต้องออกแรงขยับมากหน่อย เพราะเป็นจอใหญ่ ใช้พื้นที่ในการหมุนพอสมควร เช่นเดียวกับจอที่ไม่รองรับการหันซ้าย-ขวา

อย่างไรก็ดีเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งนั่นคือ Tizen ที่ใช้เป็นตัวควบคุมระบบจอภาพ ใช้งานค่อนข้างง่ายและตอบสนองได้ไว จะเลื่อนหรือเลือก เปิดใช้แอพ รวมถึงการเปลี่ยนโหมดก็ยังเร็ว และยังให้การปรับใช้ที่สอดคล้อง มีการเก็บสิ่งที่ใช้บ่อย หรือเลือกติดตั้งแอพเพิ่มก็ได้ เรียกว่าใช้งานแบบ Stand alone แค่ต่อ WiFi ก็ใช้งานได้ทันที หรือจะต่อผ่านอุปกรณ์อื่น เช่น สมาร์ทโฟนที่ใช้ ผ่านทาง SmartThings ก็สะดวกต่อการทำงาน และยังรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เป็นแบบ Smart Home ได้อีกมากมาย รวมไปถึงกล้องที่ให้มาความละเอียด 4K เห็นทุกรายละเอียด ไม่ใช่แค่การ Video Conference ทั่วไปเท่านั้น แต่ยังทำให้เห็นถึงมิติและความคมชัดของสิ่งที่คุณจะนำเสนอได้ เอาไว้ใช้สำหรับ Live หรือ Presentation สินค้าแบบเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจนทีเดียว หลายสิ่งในจอคอมรุ่นนี้ จัดมาให้แบบล้ำๆ เรียกว่าถ้าใช้หมดทุกอันก็จะตอบโจทย์งานในชีวิตประจำวันของคุณได้แบบสบายๆ

ส่วนสนนราคาของ Samsung ViewFinity S9 C900 รุ่นนี้ จากหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการอยู่ที่ 45,990 บาท การรับประกัน 3 ปี ซ่อมฟรีถึงที่อีกด้วย สนใจไปดูข้อมูลและเลือกมาใช้งานกันได้ที่ Samsung

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

รีวิว Lenovo

Lenovo L22i-40 สีสดใส ดีไซน์สวย ตอบโจทย์ทั้งงานและความบันเทิง เพื่อการสร้างไอเดียใหม่ๆ ในชีวิตประจำวัน Lenovo L22i-40  จอดีไซน์ล้ำ ขนาดกระทัดรัด ขอบจอบางเป็นพิเศษ พื้นที่แสดงผล 22″ ความละเอียด Full-HD คมชัดและค่าความสว่างสูง เหมาะกับการใช้งานของทุกคนภายในบ้านและสำนักงาน เพิ่มความต่อเนื่องให้กับการแสดงผลบนอัตรารีเฟรชเรต 75Hz รวมถึงรองรับ AMD FreeSync อีกด้วย...

Buyer's Guide

ถ้าประกอบคอมหรือซื้อโน๊ตบุ๊คมาสักเครื่อง นาทีนี้เป็นใครก็อยากได้ SSD 1TB มาใส่ในเครื่องสัก 1~2 ชิ้นแน่นอน จะได้ติดตั้งโปรแกรมทำงาน, เกมและเก็บไฟล์งานเรียกใช้บ่อยได้สะดวก เพราะตอนนี้จะเกมหรือโปรแกรมไหนก็กินพื้นที่กันหลัก 50~100GB กันทั้งนั้น ยังไม่รวมส่วนเสริมอีกร้อยแปดสำหรับเพิ่มลูกเล่นให้งานเสร็จเร็วหรือน่าสนใจยิ่งขึ้นซึ่งอาจใช้พื้นที่เพิ่มอีกพอควร ยิ่งตอนนี้โน๊ตบุ๊คทำงานขนาดปกติกับเกมมิ่งส่วนใหญ่ก็ติดตั้ง SSD ตัวเสริมเข้าไปได้แทบทุกรุ่นอยู่แล้ว ดังนั้นจะซื้อมาใส่ในเครื่องตั้งแต่ก่อนเริ่มใช้งานก็ดี เปิดเครื่องมาตั้งค่าอีกหน่อยก็ใช้งานได้เลย อย่างไรก็ตาม SSD ในปัจจุบันจะมีอินเทอร์เฟสให้เลือกหลายเวอร์ชั่น ตั้งแต่ PCIe 3.0...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

Accessories review

VOLTME Revo 140 กับ VOLTME RUGG CTC 100W คอมโบสายและอะแดปเตอร์สุดเจ๋ง ชาร์จได้หมดทั้งโน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ตและมือถือ!! ถ้าเปิดกระเป๋ามานอกจากโน๊ตบุ๊คแล้ว หลายคนก็มีแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนติดกระเป๋ากันแน่ๆ ดังนั้นอะแดปเตอร์อย่าง VOLTME Revo 140 กับสายชาร์จ VOLTME RUGG CTC 100W เลยเป็นไอเท็มคู่สำคัญควรมีติดกระเป๋าเอาไว้ให้อุ่นใจ ยิ่งใครใช้โน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงหรือ MacBook...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก