HUAWEI MatePad Air เบาและแรง ยกระดับหน้าจอคมชัดตอบสนองไว เปลี่ยนชีวิตการทำงานให้ง่ายกว่าเก่า พร้อมฟีเจอร์ HUAWEI Notes รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมทั้งแป้นพิมพ์และปากกา M-Pencil
การมีแท็บเล็ตประสิทธิภาพดีติดกระเป๋าเอาไว้ นอกจากใช้ทำงานแบบรวดเร็วหรือเซ็นเอกสารยิ่งต้องพึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้เลย ซึ่ง HUAWEI MatePad Air แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดจากแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องอุปกรณ์ไอทีเช่นนี้อยู่แล้วยิ่งน่าสนใจ แม้จะมีชื่อตามท้ายว่า Air ก็จริง แต่สเปคและฟีเจอร์คือรุ่นเรือธงโดยไม่ต้องสงสัย ได้หน้าจอขนาดยอดนิยม 11.5 นิ้วพร้อมค่า Refresh Rate 144Hz ให้แสดงผลภาพได้ไหลลื่นขึ้น ติดตั้งชิป Qualcomm Snapdragon 888 มาให้ ซึ่งยังทรงพลังพอใช้รันแอพฯ ในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดีและเล่นเกมได้ไหลลื่นอีกด้วย เสริมความบันเทิงด้วยลำโพง HUAWEI Histen 8.0 จำนวน 4 ดอก ให้มิติเสียงลุ่มลึกสนุกทุกความบันเทิงและรองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE และ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax ในตัว ให้เชื่อมต่อสู่อินเตอร์เน็ตได้อย่างไม่ขาดตอน
นอกจากความบันเทิง ด้านการทำงานก็ดีไม่แพ้กันซึ่งทางบริษัทเน้นพัฒนาแอพฯ HUAWEI Notes ให้รองรับการทำงานหลากหลายคล้ายกับคอมพิวเตอร์ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเขียนด้วยปากกกา M-Pencil ให้คัดลอกข้อความ, ใส่ภาพและค้นหาข้อมูลมาเสริมในการจดโน้ตเพิ่มได้สะดวกขึ้น เวลาต้องการพิมพ์ข้อความหรือเปิดเว็บไซต์ใดๆ ก็มีเคสคีย์บอร์ดให้ใช้พิมพ์งานได้สะดวกแถมปกป้องตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ต่อเนื่องไม่ว่าจะใส่ SIM 4G LTE ก็ได้หรือเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax ก็ได้ ทำให้รับส่งข้อมูลอินเตอร์เน็ตได้ต่อเนื่องไม่ขาดตอน หากใครมองหาแท็บเล็ตดีๆ เอาไว้ใช้ก็นับเป็นแท็บเล็ตคุณภาพอีกรุ่นซึ่งไม่ควรมองข้ามเลย
NBS Verdicts
HUAWEI MatePad Air เป็นแท็บเล็ตอีกรุ่นซึ่งตอบโจทย์ความบันเทิงได้ดีด้วยลำโพง HUAWEI Histen 8.0 ซึ่งมิติเสียงมีรายละเอียดน่าประทับใจไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลงก็ถือว่ายอดเยี่ยมมีมิติแถมยังดูสตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์มชั้นนำได้ความคมชัดระดับ HD เพราะรองรับ Widevine DRM L1 ในตัว และถ้าเล่นเกมก็ได้ชิป Qualcomm Snapdragon 888 ได้ แม้จะตกรุ่นไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังเล่นเกมในปัจจุบันได้ดีไหลลื่นแน่นอน ซึ่งผู้เขียนได้ทดลองโหลดเกมใน HUAWEI App Gallery เช่น Reverse: 1999 มาทดลองก็เล่นได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้สมาร์ทโฟนเรือธงหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน
มิติการทำงานต้องยกให้ HUAWEI Notes ซึ่งทางบริษัทดีไซน์ให้ตัวแอพฯ รองรับการเขียนด้วยสไตลัส M-Pencil ได้เป็นอย่างดี ตอบสนองเร็วเหมือนใช้ปากกาเขียนลงบนหน้ากระดาษตามปกติและยัง Mark up ลงในภาพก่อนเอามาใส่ในโน้ตได้ง่ายเป็นธรรมชาติ และถ้าสั่งซื้อในช่วง Pre-order จะได้รับสไตลัสและคีย์บอร์ดไปใช้งานฟรีๆ ซึ่งคีย์บอร์ดของแท็บเล็ตนี้ก็น่าสนใจ เพราะทางบริษัทดีไซน์ให้ต่อใช้งานกับเคสฝาหลังใน Laptop Form หรือถอดออกมาเป็นคีย์บอร์ด Bluetooth ก็ได้ ปรับโหมดการใช้งานตามความถนัดและพื้นที่วางเครื่องได้ดีสะดวกสบาย
แม้จะน่าใช้มากก็จริง แต่การเปลี่ยนมาใช้ MatePad Air เป็นแท็บเล็ตเครื่องหลักพึ่งการปรับตัวระดับหนึ่ง แม้ตัว HarmonyOS จะยังมีความคล้ายกับ Android อยู่พอสมควร แต่ก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานไปพอสมควร หันมาใช้ HUAWEI App Gallery ผสมกับ APKPure แทน ซึ่งปัจจุบันก็มีให้ใช้งานมากพอตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ ถ้าจำเป็นต้องใช้แอพฯ ของทาง Google จริงๆ จะต้องหันไปพึ่ง GBox ซึ่งเป็นอีมูเลเตอร์จำลองให้โหลดแอพฯ จาก Play Store มาใช้งานได้ แต่ก็ไม่ครอบคลุม ต้องเปลี่ยนไปใช้แอพฯ ที่มีทั้งสองฝั่งแทน
รายละเอียดเล็กน้อยซึ่งส่งผลต่อการใช้งานพอควร คือ แป้นคีย์บอร์ดตรงปุ่ม ข, ช, บ, ล ซึ่งภาษาไทยต้องพิมพ์บ่อยกลายเป็นปุ่มขนาดเล็กเพียงครึ่งเดียวจากปุ่มปกติทำให้พิมพ์งานไม่ถนัด สันนิษฐานว่าทั้ง 4 ปุ่มก็ไม่ได้ใช้งานบ่อยจึงย่อลงให้ปุ่มอื่นๆ ยังคงมีขนาดเท่าเดิมอยู่ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าทางบริษัทจะปรับแต่งขนาดปุ่มสำหรับขายในประเทศไทยโดยเฉพาะให้กดปุ่มดังกล่าวได้ถนัดขึ้นจะดีมาก
ข้อดีของ HUAWEI MatePad Air
- ติดตั้งชิป Qualcomm Snapdragon 888 มาให้ แม้จะตกรุ่นแล้วแต่ประสิทธิภาพยังดีมาก
- ปากกา M-Pencil เขียนตอบสนองได้เป็นอย่างดี ดูดติดและชาร์จกับแท็บเล็ตได้สะดวก
- คีย์บอร์ดสามารถใช้งานแบบเคสแท็บเล็ตตามปกติหรือถอดใช้งานไร้สายก็ได้
- เคสของตัวเครื่องสามารถกางได้มากราว 140 องศา ปรับองศาหน้าจอได้สะดวกมาก
- เสียงลำโพงดังและมีมิติค่อนข้างดี ดูหนังฟังเพลงได้อรรถรสน่าประทับใจพอสมควร
- รองรับการเล่นสื่อบันเทิงความคมชัดระดับ HD เป็น Widevine DRM L1
- ใส่ SIM ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว
- น้ำหนักของตัวเครื่องรวมเคสและปากกาหนักเพียง 911 กรัม พกพาไม่ลำบากมาก
- ขาตั้งบานพับหน้าจอพับได้มากสุดถึง 160 องศา ปรับองศาสายตาได้ยอดเยี่ยม
ข้อสังเกตของ HUAWEI MatePad Air
- ปุ่ม ข, ช, บ, ล ถูกย่อให้มีขนาดเล็กเพียงครึ่งเดียวจากปุ่มปกติ ใช้งานไม่สะดวกนัก
- หากสลับจากระบบปฏิบัติการ Android มาใช้ อาจจะต้องเปลี่ยนถ่ายเป็นอีกแอพฯ แทน
รีวิว HUAWEI MatePad Air
Specification
แท็บเล็ตน่าใช้รับปี 2024 อย่าง HUAWEI MatePad Air จัดเป็นตัวเลือกน่าสนใจเพราะสเปคแรงลงตัว ใช้ทำงานได้เยี่ยมด้วยชิปเซ็ต Qualcomm รุ่นอดีตเรือธง ประกอบกับ HarmonyOS 3.1 แล้ว ก็ใช้ทำงานกับแอพฯ ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี สเปคมีรายละเอียดดังนี้
Display | HUAWEI FullView Display 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2800*1840) พาเนล IPS Adaptive Refresh Rate 30-144Hz |
CPU & GPU | Qualcomm Snapdragon 888 Adreno 660 |
Operating system | HarmonyOS 3.1 |
Memory | ROM 256GB RAM 8GB |
Camera | กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล |
Battery & Charging | 8,300mAh รองรับชาร์จเร็ว 10V 4A (40 วัตต์) |
Connectivity | USB-C 3.2 Gen 1 4G LTE Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax Bluetooth 5.2 |
Speaker & Microphone | ลำโพง HUAWEI Histen 8.0 ติดตั้งมา 4 ดอก ไมโครโฟน 4 ตัว |
Weight | 508 กรัม (เฉพาะตัวแท็บเล็ต) |
Price | วางจำหน่ายในราคา 22,990 บาท โดยลูกค้าสามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 12 มกราคม 2567 ลูกค้าจะได้รับของสมนาคุณดังนี้ 1. HUAWEI Smart Keyboard มูลค่า 4,990 บาท 2. HUAWEI M-Pencil (รุ่นที่ 2) มูลค่า 4,490 บาท 3. HUAWEI Bluetooth Mouse มูลค่า 1,490 บาท 4. HUAWEI FreeBuds Pro 2 มูลค่า 6,499 บาท 5. WeTV VIP 3 เดือน มูลค่า 429 บาท (100 สิทธิ์แรก) ช่องทางการสั่งซื้อ Shopee: https://bitly.ws/37brJ |
Design
HUAWEI MatePad Air เป็นแท็บเล็ตดีไซน์มาตรฐาน เป็นบอดี้กรอบสี่เหลี่ยมสีดำหนาราว 1 เซนติเมตรล้อมหน้าจอ FullView Display ขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2800*1840) พิกเซล พาเนล IPS ค่า Refresh Reate 30-144Hz เอาไว้ ติดกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลไว้ตรงขอบเครื่อง เวลาตั้งในแนวนอนจะอยู่ขอบบนเหมือนจอโน๊ตบุ๊คหรือฝั่งขวามือเวลาจับแนวตั้ง มีฟีเจอร์ FollowCam ตัวกล้องจะกวาดภาพให้เจ้าของเครื่องอยู่ตรงกลางของหน้าจอตลอดเวลา ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ตาม ทำให้ผู้ร่วมประชุมออนไลน์โฟกัสอยู่กับผู้พูดและดูเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้นและตัวกล้องทำงานได้ดีและต่อเนื่องพอควร
ฝาหลังเป็นเนื้อยิงทรายเน้นความเรียบหรูติดโลโก้ HUAWEI ไว้ตรงกลางพอดีพร้อมกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลอยู่มุมบนขวากับแฟลชสำหรับถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนพกแท็บเล็ตเข้าประชุมและเลคเชอร์จัดว่าได้ภาพสวยคมชัดพอควร
เคสและฝาหลังของ MatePad Air ดีไซน์มาได้ฉลาดมาก นอกจากจะถอดแยกชิ้นส่วนใช้งานแบบ Studio Form พับขาตั้งฝาหลังปรับองศาหน้าจอให้เข้ากับสายตาของเราหรือจะถอดเป็น Split Form ก็กลายเป็นคีย์บอร์ด Bluetooth หรือเชื่อมเป็น Laptop Form ใช้งานเหมือนโน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่งก็ทำงานได้ดีมาก วัสดุของเคสเป็นหนังปั๊มโลโก้ HUAWEI เอาไว้ด้านนอก พอพลิกเข้ามาข้างในจะเห็นคำว่า Designed by Huawei เขียนเอาไว้ด้านใน
เคสฝาหลังของ MatePad Air เมื่อถอดคีย์บอร์ดออกแล้วใช้งานใน Studio Form จะพับได้มากสุด 160 องศา จึงปรับองศาการมองเห็นให้เข้ากับมุมสายตาของผู้ใช้ได้ง่ายไม่ว่าจะวางบนโต๊ะทำงานหรือพกไปใช้งานนอกสถานที่ก็ใช้งานได้สะดวก
น้ำหนักของ HUAWEI MatePad Air เคลมเอาไว้หน้าสเปคว่าหนักประมาณ 508 กรัม แต่เมื่อชั่งดูแล้วพบว่าน้ำหนักอยู่ที่ 673 กรัม เมื่อรวมเคสคีย์บอร์ดเข้าไปจะหนักขึ้นเป็น 895 กรัม ปากกาอีก 15 กรัมเป็น 911 กรัม แม้จะต่างจากหน้าสเปคอยู่พอควร แต่จากการพกพาใช้งานจริงถือว่ายังพกพาได้สะดวกพอควร ใส่กระเป๋าคู่กับโน๊ตบุ๊คไปทำงานได้สบายๆ
Keyboard & M-Pencil
คีย์บอร์ดของ HUAWEI MatePad Air ดีไซน์มามีขนาดเล็กพอดีกับแท็บเล็ต 11.5 นิ้ว พร้อมปุ่มคีย์ลัดสำหรับใช้งานติดตั้งมาตรงปุ่มต่างๆ เวลาใช้งานให้กดคู่กับปุ่ม Fn จะเรียกใช้ฟังก์ชั่นนั้นได้เหมือนกดแป้นพิมพ์โน๊ตบุ๊คตามปกติ ได้ปุ่ม Home, End, Page Up, Page Down และรวมปุ่ม Delete ไว้กับ Backspace ซึ่งทำงานคล้ายกันจึงใช้งานได้สะดวกมาก ส่วนปุ่มกรอบสี่เหลี่ยมระหว่าง Fn กับ Alt เมื่อกดคู่กับปุ่ม Spacebar จะเปลี่ยนภาษาพิมพ์ของคีย์บอร์ดได้ ส่วนเหนือคีย์บอร์ดจะมีแถบ Smart Connector สำหรับเชื่อมต่อกับด้านใต้ของแท็บเล็ตเพื่อใช้งานในโหมด Laptop Form ได้
สังเกตว่าบางปุ่มบนคีย์บอร์ดจะถูกย่อให้กว้างเพียงครึ่งหรือเท่ากับปุ่มพิมพ์ใช้งานตามปกติ เช่นปุ่ม Grave Accent มุมบนซ้ายของคีย์บอร์ดจะมีความกว้างแค่ครึ่งเดียว โดยปกติแล้วปุ่มนี้ได้ใช้งานน้อยจะย่อให้เล็กลงเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ปุ่มอื่นๆ บนคีย์บอร์ดมีไซซ์เท่ากับปกติ แต่สังเกตว่าปุ่ม ข, ช, บ, ล จะโดนย่อให้เล็กลงเหลือเพียงครึ่งเดียวเหมือนกัน ซึ่งทั้ง 4 ปุ่มเป็นตัวอักษรสำคัญในภาษาไทยอยู่แล้วจึงต้องปรับตัวเวลาใช้งานอยู่พอสมควรถึงจะพิมพ์ใช้งานได้สะดวกขึ้น และคาดหวังว่าทาง HUAWEI จะมีเวอร์ชั่นดีไซน์ให้ปุ่มกลุ่มนี้กว้างเท่าขนาดตามปกติจะได้ใช้งานได้สะดวก
เนื่องจากไม่มีปุ่ม F1-F12 ตามปกติ ดังนั้น Function Key ต่างๆ จึงถูกเซ็ตเอาไว้ตรงบรรทัดตัวเลข 1-7 เสริมด้วยปุ่ม “ข” อีกหนึ่งคำสั่ง โดยมีรายละเอียดดังนี้
- 1-2 : ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
- 4-6 : ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
- 7 : ล็อคหน้าจอแท็บเล็ต
- ข : ปุ่มบันทึกภาพหน้าจอ
อาจจะดูน้อยแต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ซึ่งปกติก็เน้นควบคุมผ่านทางแท็บ Control Center ของตัวเครื่องได้ และจากตอนใช้งานจริงดูแล้วก็ถือว่าดีเพียงพอไม่ต้องเสริมอะไรมาก แต่ให้ดีถ้าทางบริษัทเติมฟังก์ชั่น Search เข้ามาอีกคำสั่งน่าจะใช้งานได้สะดวกขึ้น
สไตลัส HUAWEI M-Pencil ดีไซน์มาให้ดูดติดเอาไว้กับขอบบนเหนือกล้องเว็บแคมพร้อมชาร์จแบตเตอรี่ไปในตัว ชี้ปลายไปยังปุ่ม Volume ซึ่งถ้าติดไม่ถูก ตัวเครื่องจะขึ้นภาพแนะนำการติดให้กับผู้ใช้ด้วย ปลายแบบใสทำให้มองเห็นหัวโลหะภายในตัวด้ามชัดเจน เวลาเขียนก็ได้สัมผัสดีตอบสนองไม่แพ้กับการเขียนด้วยปากกาจริงๆ หรือจะใช้ต่างนิ้วปัดหน้าจอและแตะเปิดแอพฯ ก็ได้
ถ้ากังขาอยู่ว่าแรงดูดของแม่เหล็กปากกาเป็นอย่างไร ต้องยอมรับว่าทาง HUAWEI ใส่แม่เหล็กแรงดูดสูงมาให้ เพียงหยิบไปถืออยู่ใกล้ๆ ราว 1 เซนติเมตร แม่เหล็กก็ดึงปากกาไปติดกับขอบแท็บเล็ตแทบในทันทีแถมดูดแรง พกใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนก็ไม่หลุดจากตัวเครื่องเลย
Connectivity
พอร์ตและการเชื่อมต่อของ HUAWEI MatePad Air จะมีเพียงพอร์ต USB-C 3.2 Gen 1 เพียงช่องเดียวติดไว้ขอบล่างของเครื่องระหว่างลำโพงคู่ล่างสำหรับแบ็คอัพและโอนถ่ายข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ด้านใต้ติด Smart Connector เอาไว้เชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดเฉพาะรุ่น ถัดมาเป็นช่องใส่ SIM 4G LTE ไว้ใช้ต่อเน็ตได้โดยไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi ขอบบนใกล้กับกล้อง 13 ล้านพิกเซลด้านหนึ่งเป็นปุ่มปรับ Volume และ Power สำหรับล็อคหน้าจอได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายรองรับ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2
ความเร็วของการรับส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตเมื่อทดสอบกับ Wi-Fi AX เครือข่าย AIS แพ็คเกจความเร็ว 500/500 Mbps ได้เพิ่มความเร็วชั่วคราวเป็น 1000/500 Mbps พอทดสอบด้วย Ookla Speed Test แล้วได้ความเร็ว 687/464 Mbps ถือว่ารับส่งข้อมูลได้เร็วลื่นไหล ไม่ว่าจะโหลดแอพฯ มาใช้งานหรือเปิดหน้าเว็บไซต์ก็รวดเร็วทันใจไปหมด
การรับส่งข้อมูลผ่านทาง Bluetooth 5.2 ก็ง่ายกว่าที่คิด ซึ่งผู้เขียนทดลองส่งข้อมูลจาก MatePad Air ไปยังสมาร์ทโฟน Android เพื่อใช้งานหรือส่งกลับมายังแท็บเล็ตก็รวดเร็ว เพียงไม่กี่วินาทีก็พร้อมโหลดใส่แอพฯ HUAWEI Notes ใช้งานได้ทันที หรือจะใช้กล้องหลังของแท็บเล็ตถ่ายภาพประกอบเลคเชอร์ก็ได้ ซึ่งภาพจากกล้อง 13 ล้านพิกเซลจะเก่งในสภาวะมีแสงมาก ในอาคารกับหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ก็ถือว่าใช้งานได้ดี ถ้าได้ภาพมืดไปก็ปรับเร่งความสว่างในแอพฯ ภาพถ่ายก็ได้เช่นกัน
Performance
ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 อดีตชิปเซ็ตเรือธงจำนวน 8 คอร์ใน HUAWEI MatePad Air เป็นชิปขนาด 5 นาโนเมตร จับคู่กับจีพียู Adreno 660 มาให้ดีไซน์แยกเป็น 3 Clusters มีความเร็วสูงสุด 2.84GHz ภายในตัวเครื่องขนาด 11.5 นิ้ว หน้าจอความละเอียด 2800*1840 พิกเซล มีหน่วยความจำในเครื่องแบ่งเป็น ROM 256GB กับ RAM 8GB ซึ่งถือว่ามีความจุมากพอใช้งานกับแอพฯ ในปัจจุบันได้ดี
เมื่อเช็ค Widevine CDM ผ่านทางแอพฯ DRM Info จะเห็นว่าตัวเครื่องมี Security Level ระดับ L1 ดังนั้นไม่ว่าจะเปิดคลิปของสตรีมมิ่งไหนก็สามารถดูความละเอียดสูงระดับ HD ได้แน่นอน เมื่อทดสอบเปิดในแอพฯ Netflix ผ่านทาง GBox แล้ว ภาพยนตร์ต่างๆ ก็ขึ้นความละเอียดระดับ HD และได้ภาพสวยคมชัด
ซึ่งนอกจาก HarmonyOS 3.1 ซึ่งรันเป็นระบบปฏิบัติการหลักของ HUAWEI MatePad Air โดยพื้นฐานเมื่อต้องการโหลดแอพฯ มาใช้งานต้องโหลดผ่าน HUAWEI App Gallery เป็นหลักควบคู่กับ APKPure หรือบางตัวก็ข้ามไปโหลดใช้ใน GBox ซึ่งเป็นอีมูเลเตอร์จำลองระบบปฏิบัติการ Android เมื่อเปิดเข้ามาหน้าแรกจะมีแอพฯ แนะนำใช้งานบ่อยให้แตะโหลดใช้งานได้ทันทีหรือจะพิมพ์หาผ่านไอคอนแว่นขยายหาเพิ่มก็ได้โดยตัวเครื่องจะ Redirect เข้าไปให้โหลดโดยอัตโนมัติ
ผลการทดสอบด้วยแอพฯ 3DMark Wild Life เมื่อรันแล้วได้ Overall 5,830 คะแนน เฟรมเรทได้ 25-43 Fps เฉลี่ย 34.90 Fps ซึ่งถือว่าใช้เล่นเกมในสมาร์ทโฟนได้ลื่นไหลดีพอควรและแบตเตอรี่ลดลง 1% จากการทดสอบ อุณหภูมิในเครื่องอยู่ระดับ 29-31 องศาเซลเซียสเท่านั้น ทำให้เห็นว่าทาง HUAWEI ปรับแต่งส่วนต่างๆ ของ HUAWEI MatePad Air ออกมาได้ดี ตัวชิป Qualcomm Snapdragon 888 ยังรันได้รวดเร็วแต่ก็ไม่ร้อนเกินไป
User Experience
ในฐานะผู้ใช้อุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android มาตลอด พอสลับมาใช้ HUAWEI MatePad Air ซึ่งรันระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ในครั้งแรกแม้หน้าตาระบบจะดูคล้ายแต่ก็ต้องเปลี่ยนรายละเอียดการใช้งานอยู่พอควร ต้องหันไปโหลดแอพฯ จาก HUAWEI App Gallery ผสมกับการใช้ GBox เมื่อไม่มีแอพฯ ดังกล่าวให้โหลดใช้งาน แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมอย่างที่คิดเท่าไหร่ ซึ่งช่วง 1-2 วันแรกถือว่าต้องปรับตัวกันพอควรเหมือนเพิ่งเริ่มใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก เมื่อเริ่มเข้าที่ก็ใช้งานได้ดีตามปกติและต้องยอมรับว่าทาง HUAWEI ปรับแต่ง HarmonyOS 3.1 ได้ดี ทำงานต่อเนื่องไม่มีปัญหาอะไรมากวนใจจนไม่แปลกใจว่าทางบริษัทจะมีแฟนคลับให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเช่นนี้
การปรับตัวเข้ากับแอพฯ ในระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1 นั้นถือว่าไม่ยากนักและทาง HUAWEI เองก็พยายามดึงดูดนักพัฒนาชั้นนำเจ้าต่างๆ ให้พอร์ตแอพฯ ของตัวเองเข้ามาใน App Gallery อย่างต่อเนื่องและพัฒนาแอพฯ พื้นฐานของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น HUAWEI Book สำหรับอ่าน Ebook นอกจากใช้อ่านหนังสือควบคู่กับแอพฯ ใช้งานประจำ ยังมีหนังสือแนะนำให้โหลดไปทดลองอ่านและซื้อเพิ่มได้ เช่นเดียวกับ HUAWEI Video ก็เป็นระบบ Streaming ภายในตัวและมีซีรี่ส์ยอดนิยมพร้อมแปลภาษาไทยให้ชมโดยเน้นทางซีรี่ส์จีนเป็นหลัก มีทั้งดูได้ฟรีจนจบหรือต้องเข้าเป็นสมาชิกระดับ VIP ก่อน
นอกจากความบันเทิง ด้านการทำงานตามปกติถือว่า HUAWEI MatePad Air ก็ทำงานได้ดี จะสไตลัสก็ตอบสนองได้ดีเหมือนใช้ปากกาเขียนวาดลงบนหน้าจอไม่ต่างจากการเขียนด้วยดินสอลงบนกระดาษ ตอบสนองเร็วทันใจ เวลาพกไปเข้าประชุมหรือเรียนก็จดโน้ตลงไปในแอพฯ สำหรับจดหรือวาดลงไปในภาพได้เป็นอย่างดี คีย์บอร์ดของตัวเครื่องก็เปลี่ยนโหมดใช้งานได้สะดวกไม่ว่าจะต่อกับแท็บเล็ตหรือถอดแยกออกมาเป็นโหมด Bluetooth แล้วตั้งเครื่องเป็น Studio Form ใช้งานได้สะดวกขึ้นไม่ต้องยึดเป็นชิ้นเดียวกันเสมอก็ได้ ช่วยให้ทำงานได้สะดวกกว่าเดิมมาก แต่อย่างไรก็ตามคาดหวังว่าทาง HUAWEI จะจัดการกับปุ่ม ข, ช, บ, ล ให้เป็นปุ่มขนาดปกติให้พิมพ์ได้สะดวกขึ้นสักนิดจะเป็นคีย์บอร์ดที่ยอดเยี่ยมมาก
Conclusion
ถึงจะต้องปรับเปลี่ยนการใช้งานในช่วงต้นให้เข้ากับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1 ของ HUAWEI MatePad Air อยู่บ้าง แต่การทดลองใช้ครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าเพราะนอกจากตอบคำถามได้ว่าถ้าย้ายมาใช้ระบบปฏิบัติการนี้จะต้องปรับตัวเยอะไหม? แล้วมีแอพฯ ประจำวันให้ใช้งานหรือเปล่า? ก็ลงเอยว่ามีค่อนข้างครบเครื่องพอตอบโจทย์ในชีวิตประจำวันได้ ยิ่งใครชื่นชอบหรือใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS อยู่แล้วก็มีแท็บเล็ตมาเติมเต็มให้ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นอีก
นอกจากนี้หากใครรอเป็นเจ้าของ HUAWEI MatePad Air อยู่แล้ว ก็สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1-12 มกราคม พ.ศ. 2567 แถมยังได้รับของสมนาคุณครบเครื่อง ได้แก่ HUAWEI Smart Keyboard, HUAWEI M-Pencil, HUAWEI Bluetooth Mouse, HUAWEI FreeBuds Pro 2 และ WeTV VIP ระยะเวลา 3 เดือน (WeTV VIP จำกัด 100 สิทธิ์แรก) โดยสั่งซื้อผ่านทาง Shopee: https://bitly.ws/37brJ ได้เลย